มีโอกาศครับ

ขอตอบในฐานะข้าราชการกระทรวงมหาดไทย

หากยังใช้ มาตราการประชานิยม

เอาเงิน ลดแลกแจกแถม ต่อไป

โดยไม่สามารถ หาเงินรายได้มากกว่ารายจ่าย

อีกไม่นาน รัฐคงต้องจ่ายเงินเดือนข้าราชการ

เป็นข้าวสาร และนํ้าตาล คับ

พูดเรื่องนี้แล้วเศร้า
พวกแถวบ้านผม ทำไมมันชอบอยู่ใต้น้ำกันนัก
ไม่รู้จักโผล่พ้นน้ำเสียที

คนเราชอบอะไรสำเร็จรูปครับ ถ้าไม่เปลี่ยนนิสัย ตายแน่นอน

ผมเริ่มปลูกผักไว้กินแล้วครับ
กำลังมองๆว่ามัน-เผือกอะไรเอาปรุงมากินแทนข้าวได้บ้าง
เผื่อวันนึงหนึ่งดอลล่าจะขึ้นไปถึงสามพันบาท

ชีวิตช่างน่าเศร้าคับ เราอยู่ในประเทศที่แทบจะเรียกได้ว่าสุดยอดประเทศนึงของโลก อุดมสมบูรณ์ทุกอย่าง ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มีพ่อหลวงที่ดีที่สุดของโลก

แต่บุญมีแต่กรรมบังคับ ได้คน !@#$%^&*()_+|+_)(*&^%$#@! มาบริหารประเทศ
ก็จบกันละสิคับคราวนี้ ตายๆๆๆอย่างเดียวเท่านั้น TT

ตอนนี้อาจะยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ใกล้แล้วครับ ยังไม่สายถ้าปรับเปลี่ยนนโยบาย นิสัย และค่านิยม ต้องเริ่มตอนนี้เลยครับ

ส่วนตัวผมกังวลเรื่องหนี้สาธารณะ (Public Debt) ที่สูงมากขึ้นๆ ยิ่งแต่ละโครงการที่ออกมาช่วงนี้ รู้สึกเสี่ยงจริงๆกับวิกฤตที่จะเกิดในอนาคตอันใกล้นี้ ผมเห็นด้วยกับความคิเห็นที่ 5 นะ ปลูกพืชผักสวนครัว อะไรที่พอจะปลูกได้เอง ไม่ต้องพึ่งพาจากข้างนอก ก็ช่วยเหลือตัวเองกันไปก่อน อยู่บนความพอเพียงของตัวเรา เวลาเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาก็จะได้แก้ได้ด้วยตัวเอง จะรอหวังพึ่งจากคนอื่นคงจะยากอยู่

รอการเลี่ยนแปลงครับ จะได้ตาสว่างสักที
ว่านักการเมืองที่เห็นร้ายกาจชั่วช้านี่ มันแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็ง

เหรียญเหมือนกำลังจะกลับหน้าครับ
อนาคตพอ AEC มา เราคงได้ตกงานกันอีกขนานใหญ่ๆ บวกกับสถานการณ์ตอนนี้
ก็เตรียมตัวกันไป...
สังหรณ์มาตั้งแต่บางคนบอกประชาธิปไตย=รากหญ้า 555
ผมนึกว่าตอนเด็กๆเรียนมาผิดเสียอีก ว่าประชาธิปไตยมันต้องมีจิตสำนึก ปัญญา รับผิดชอบ เสียสละ... เฮ้อ

มีโอกาสสูงครับ ที่ประเทศเราจะเป็นแบบกรีซ

ผมก็ไม่เข้าใจ ว่าพวกผู้นำ จะทู่ซี้ใช้นโยบาย ที่สร้างหนี้ให้ประเทศทำไมกันนัก
เหมือนเขารู้อยู่แก่ใจ แต่ยังทำกันได้ลง

หากใครยังไม่ค่อยรู้เรื่องหนี้ของประเทศเรา ลองนั่งดูรายการเจาะข่าวตื้นดูนะครับ
ตั้งแต่นาทีที่ 5 เป็นต้นไป

ถ้ายังเลือกกันแต่คนเดิมๆ ประเทศก็เป็นแบบเดิมๆแหละครับ

คนในประเทศเรา เข้าใจคำว่า ประชาธิปไตย แค่ไหนครับ

http://www.youtube.com/watch?v=TFNkaZ6dyXk

ประเทศที่มีความเจริญมากกว่าเรา มีระดับการศึกษาสูงกว่าเรา ยังฉิบหายได้
เพราะของได้มาเปล่าๆ ใ่ครก็อยากได้ครับ เ่อาเงินของประเทศ มาแจกผ่านนโยบายประชานิยม
เหมือนยาเสพติดครับ ยิ่งเสพยิ่งติด ยิ่งใช้ยิ่งเยอะ ผลสุดท้าย ....มันคงไม่ใ่ช่การอยู่ดีกินดีแน่ๆครับ

ผมว่าประเทศเรายังหลายๆอย่างด้อยกว่าเพื่อนบ้านหลายๆประเทศนะครับมีแต่พวกคำพูดที่ชอบพูดปลอบใจไปวันๆว่าประเทศกำลังพัฒนา(คำนี้ได้ยินแต่เด็กๆ)มันจะใช้เวลาพัฒนาไปข้างหน้าหรือข้างหลังกันแน่ไม่รู้.....เค้าไปจะ4Gกับรถไฟความเร็วสูงของเรายังทะเลาะกันเรื่อง3Gเน่าๆกะรถไฟก็ยังจอดเก่าๆอยู่ที่หัวลำโพง เฮ่ออ...!!!!

อะไรที่ขึ้นสูง ย่อมตกลงมาต่ำ

กรีซ อาจจะไม่เกี่ยวอะไรกับ กรีก ที่เจริญสุดๆ จนส่งผลให้โรมเจริญรุ่งเรืองตามมา
นั้นพูดถึงในสมัยที่พระพุทธเจ้ายังไม่ออกบวช หรือเยซูยังไม่เกิด สมัยนั้นเขาทำนาฬิกาใช้ ดูการโคจรของดวงดาวกันได้แล้ว

เจริญขนาดนั้น ยังล่มสลายได้ กลายเป็นแผ่นดินร้างอยู่หลายร้อยปี กว่าจะมีคนแห่กันอพยพเข้าไปอยู่อีก
เทียบกับของเรา เจ็ดแปดร้อยปีที่ผ่านมามีแต่คนอพยพเข้ามาอยู่ มาแล้วก็ไม่ค่อยจะออกกัน ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรสักอย่าง
สมัยนั้นทำอะไรผิดมาโทษเบาๆ ก็หัวหลุดจากบ่า หนักหน่อยก็หัวหลุดจากบ่ากันเจ็ดชั่วโคตร ขนาดนั้นก็ยังไม่หยุดคนให้แห่กันอยยพมาอยู่ได้
มาอยู่ดีๆ ก็ดีไป ไม่ว่าอะไรกัน แต่มาแล้วทำตัวกินบนเรือนขี้รดหลังคานี่ซิ มันน่านัก

มาที่นักเลือกตั้ง การที่จะได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน ถ้าไม่ทำอะไรเด่นดังให้คนเขารู้จัก สนใจ หรือชื่นชม ก็ต้องสัญญากันให้วุ่นวาย ว่าจะให้ไอ้โน่นไอ้นี่
ถ้าดันได้รับการเลือกตั้งก็ต้องทำทุกวิถีทางไม่งั้นโดนม๊อบมาทวงสัญญาแน่
ก็จ่ายกันไป เอาเงินภาษีนั่นแหล่ะจ่ายไป จ่ายไปก็พยายามยักยอกมาเข้ากระเป๋าตัวเองและพวกพ้องให้ได้มากที่สุด
สมดุลของอำนาจ ระบบตรวจสอบก็ซื้อมาให้หมด จะทำอะไรก็ทำไป ใครมันจะกล้ามายุ่ง อย่างไรแล้วก็กินด้วยกันหมดหล่ะหว่า

จากสยามประเทศที่ยิ่งใหญ่ ค่อยๆ โดนตอดไป จนขวานทองนามว่าสยามกลายเป็นขวานจิ๋วมีนามว่าไทย
โคตรเหง้า ลาว พม่า มอญ ขอม ที่มารวมกันเป็นชาวสยามกลายเป็นคนอยพยมาจากเทือกเขาอัลไตหน้าตาเฉย
ถึงวันนี้วันที่หลายๆ คนยังไม่รู้ตัวว่าเราดิ่งลงเหวไปลึกเท่าไหร่แล้ว มัวแต่คิดไปว่าไม่มีอะไรหรอก หุ้นยังไม่ตกเลย
GDP ก็ยังเป็นบวก ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงหรอก
ก็ขอบอกไว้เลย ว่า ไอ้การให้เขามาใช้แผ่นดินตั้งโรงงานนะ การได้มีงานทำแลกค่าแรกนิดหน่อย
มันไม่คุ้มหรอกกับการเสียที่ดินดีๆ ที่ควรเอาไว้ทำสวน ทำไร่ ไหนจะยังขยะอุตสาหกรรมที่ต้องกำจัดทิ้ง
ไหนจะน้ำเสียที่โรงงานมันปล่อยออกมาให้แม่น้ำลำคองเราเน่าอีก

แถมไอ้สินค้ามากมายมหาศาลที่เราผลิตเนี่ย มันตีตราของเขา กำไรมันกลับไปที่เขา เทคโนโลยี่เขาก็ไม่ให้เรา
ดูเอาว่าทำมากี่ปีมันก็ยังเป็นของเขา เรายังไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย

ไอ้สินค้ารอบตัวแต่ละคนดูเอาสิว่ามันของที่ไหนบ้าง ยี่ห้อฝรั่งทำในจีน ยี่ห้อญี่ปุ่นทำในไต้หวัน ยี่ห้อยุโรปทำในเวียนนาม จะประมาณนี้ แต่รับรองจะหาไม่เจอหรอกว่ามียี่ห้อไทย ทำในไทย รับรอง หาไม่เจอแน่


ทางออกเดียวคือสำนึกผิดครับ
ไปขอโทษพระมหากษัตริย์ท่านเสีย ขอโทษที่ดันไปปลดท่านออกจากอำนาจ
ขอโทษที่เสร่ออยากจะเป็นประชาธิปไตย ขอโทษที่ยกหางตัวเองว่าจะปกครองกันเองแล้วจะดีกว่าที่ท่านปกครอง
แล้วก็ทำตัวเป็นประชากรที่ดีทำตามที่ท่านแนะนำ ทำหน้่าที่ประชาชนตามที่ควรจะทำ

ถ้าใช้นโยบายรัดเข็มขัด ก็อยู่ไม่ครบสมัยสิครับ ใครอยากเสี่ยง ถึงขนาดหมดอนาคตทางการเมืองได้เลย พออยู่ไม่ครบสมัยนโยบายก็ไม่ต่อเนื่อง ฆ๋าตัวตาย แถมไร้ประโยชน์อีก

เรื่องเศรษฐกิจต้องพูดถึง เสถียรภาพทางการเมืองด้วย เป็นไปได้ยากถ้าการเมืองไม่นิ่งแล้วจะ มีเศรษฐกิจดี ถ้ายังมีรัฐประหาร ยังมีกฏหมายละเมิดสิทธิ์ ยังมีองค์กรที่ทำผิดกกหมายอย่างถูกกฏหมาย แถมยังตัดสินคนอื่นได้อย่างหน้าตาเฉย

พวกรัฐบาลเขาไม่ได้ลงมาทุกข์กับพวกเราด้วยหนิครับ เขาจะมาสนใจอะไร ผมว่าตอนนี้พวกเราเอง ต้องเตรียมตัวให้พร้อม อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด พึ่งรัฐบาลไม่ได้หรอกครับ ตอนนี้คล้่ายๆกับพากันมาถอนทุนคืน แบ่งประเทศไทยเหมือนแบ่งขนมเค้ก ไม่ต้องพูดถึงการเปลี่ยนแปลงหรอกครับ ขนาดตัวเองยังจะเอาไม่รอด

อาจจะตั้งใจทำให้พังแบบเนียนๆ ล้มกระดานกันไปเลย

แล้วคนที่มีเงินมากที่สุดจะได้มาเป็นตั้งกระดานใหม่???

เราจะไม่เป็นเหมือนครับ แต่เราจะเป็นยิ่งกว่า

เก็บทองไว้ดีกว่าเก็บเงินครับ

รัฐไม่ได้ทู่ซี้ในนโยบายของพวกเขาหรอกครับ เพียงแต่เขาไม่สนใจประเทศชาติจะล่มจมหรือป่าว เกิด้ป็นจริงพวกมันก็หนีไปต่าง ประเทศ โกยเงินไปเยอะแล้วล่ะครับ บ้านผมขายข้าวสาร มีคนมาซื้อแล้ว บ่น"บ้านก็ทำนา ขายแล้วก็ต้องมาซื้อข้าวแพงกิน" "เอาเงินมา500 ซื้อได้แต่ข้าวไม่พอค่ากับข้าว" แล้วนโยบายช่วยชาวนาตรงไหนว่ะ

น่าจะลดระยะเวลาเลือกตั้งลงนะครับ
คนจะได้ไม่ลืม ว่านักการเมืองเฮียๆ(เฮียๆแปลว่า พี่ๆ)สัญญาอะไรไว้บ้าง
4ปีนานไป คนลืมกันหมดว่าสัญาอะไรไว้

ผมมีคำถามนิดนึง ครับ

ตอนนี้หนี้สาธารณะต่อgdpเท่าไหรหรอครับ

แล้วภาคการเงินตอนนี้ฐานะมั่นคงเป็นอย่างไร

แล้วภาคเอกชนหนี้สินต่อทุนเท่าไหร

กระทู้มีสาระ ติดตามๆ :)

ข้อมูลหนี้สาธารณะคงค้าง ข้อมูลล่าสุดถึงเดือนสิงหาคม 2555 รายละเอียดตาม link นี้ครับ

http://www.pdmo.go.th/popup_money_data.php?m=money&ts2_id=1

ถ้าตามกรอบความยั่งยืนทางการคลังของรัฐบาล สัดส่วนหนี้สาธารณะคงค้างต่อ GDP ต้องไม่เกินร้อยละ 60 ครับ เดือนสิงหาคม 2555 สัดส่วนหนี้สาธารณะคงค้างต่อ GDP อยู่ที่ ร้อยละ 44.89 ครับ link ด้านล่างเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารหนี้สาธารณะและบทเรียนจากวิกฤตการทางการเงินของกรีซครับ

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1340432989&grpid=03&catid=&subcatid=

ถ้าจากข้อมูลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2555 ถึงสิงหาคม 2555 สัดส่วนหนี้สาธารณะคงค้างต่อ GDP มีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆครับ แต่ก็ยังห่างเพดานที่ร้อยละ 60 อีกไกลอยู่ แต่ปัญหาก็คือว่ามันมีแนวโน้มที่สูงขึ้นเรื่อยๆ และถ้าหากยังใช้นโยบายประชานิยมอยู่อย่างนี้ ไม่ยอมรับด้านกลไกราคา ไม่แก้ไขปัญหาพื้นฐานเศรษฐกิจที่แท้จริง ไม่เข้าไปสอน ไม่เข้าไปส่งเสริมและให้ความรู้ประชาชนในการทำมาหากิน

อีกทั้งไม่สอนให้ประชาชนพึ่งพิงตัวเองได้ มีแต่เอาเงินเข้าไปแจก ถึงเวลาเงินหมด ทำมาหากินไม่พอใช้ ก็รออีกว่าเมื่อไหร่จะได้รับเงินจากรัฐบาลอีก ประชาชนทำมาหากินไม่เป็น จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายภาษี รัฐก็ต้องเอางบประมาณที่มีไปช่วยเหลือ แถมไปลดภาษีให้กับพวกบริษัทใหญ่ๆอีก เงินไม่พอจะเอามาจากไหน จะทำ QE พิมพ์เงินเองเหมือนสหรัฐก็ไม่ได้ ความน่าเชื่อถือไม่ได้มีเท่ากับเค้า ก็ต้องกู้สิครับ จะจากในประเทศหรือจากต่างประเทศ (รายละเอียดเงินกู้ดูตาม link แรกครับ) หนี้สินของประเทศเพิ่มมากขึ้นก็เสี่ยงล้มละลาย

ป.ล. ถ้าผมอธิบายผิดพลาดอย่างไร ก็ต้องขออภัยด้วยครับ

ดูๆแล้วไม่น่าจะเหมือนกรีซนะ น่าจะเหมือนซีเรียมากกว่า

ทำอย่างไรกันดี ละครับ

ผมว่านักการเมืองพรรคไหน ๆ มันก้อโกงทุกคน ทุกพรรค
แต่สำคัญอยู่ที่เค้าโกงแล้วเค้าแบ่งให้ประชาชนได้ผลประโยชน์แค่ไหน
ไม่ใช่โกงแล้วแบ่งแต่พวกพ้องตัวเอง
อย่างจำนำข้าว โอเค เค้าโกงกันฉิบหาย เราก้อรู้ แต่ชาวนาได้ประโยชน์ มันก้อเป็นผลดีกับประชาชน
ค่าแรง 300 บาท นายทุนเจ้าของบริษัท อาจจะฉิบหาย ขาดทุนบ้าง แต่ลูกจ้างอย่างเราก็ได้ประโยชน์
อย่างนี้เรียกว่าผลประโยชน์ลงตัว นักการเมืองได้ประโยชน์ ประชาชนได้ประโยชน์

กลับมาที่เบสิคคับ พื้นฐานการศึกษาเราต่ำเกินไป T.T

ผมว่ายากมากครับ ประเทศเราอยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา มีการลงทุนจากต่างชาติ ในปริมาณที่สูง ซึ่งทำให้คนมีงาน รัฐก็มีรายได้จากภาษี

และประเทศเรายังเป็นประเทศเกษตรกรรม ปลูกพืชได้หลายชนิด เป็นอู่ข้าว อู่น้ำ ของโลก ยังไงก็มีรายได้จากการส่งออกสินค้าเกษตร

ต้องขอบคุณจุดยุทธศาสตร์ของเรา ที่ตั้งอยู่ในดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของโลก ยากที่เราจะอดตาย หรือล้มละลายครับ

กรีซเค้าทำมาหากินเองไม่ได้ มีแต่ใช้ + โกงกิน เลยต้องอยู่ในสภาพนี้

ประเทศเรายังทำมาหากินได้เอง พวกนักการเมือง ยังโกงกินได้อีกเยอะ ยังไงก็ล้มละลายยาก กินกันให้อิ่มหนำได้เลย ^^

บวกสิบให้คุณ เกิด แ่ก่ เจ็บ ตายครับ ^ ^

Parabola 27/10/2012 08:42:41
กลับมาที่เบสิคคับ พื้นฐานการศึกษาเราต่ำเกินไป T.T
เห็นด้วยครับ

ใครไม่เคยอ่าน ลองไปดูความเห็นพี่ตู้ดูนะครับ
และขออภัยล่วงหน้าหากไม่ถูำกใจใครเข้าครับ

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=602872

ข้อ แย้งเรื่อง ค่าแรง300ที่ว่าประชาชนส่วนไหญ่ ได้ประโยชน์ละกัน มันก็จะมีประชากรอีกกลุ่ม ที่ทำธุรกิจกันเองในครัวเรือน ที่จะมีปัญหาเพราะของแพง แต่ขึ้นราคาไม่ได้ เพราะเงินก็จะเฟ้อ ตามเงินได้

หาเงินเข้าประเทศเป็นละกัน ดีกว่ากู้มาแจก เหมือนพรรคบางพรรค(ดีแต่พูด)

ชอบความเห็น 32
ใครละกู้แสนๆล้านทิ้งทวนก่อนเลือกตั้ง

แต่เว็บนี้สมกับเป็นเว็บเหลืองจริงๆ

เข้าไปอ่านตามลิงค์ของท่าน เหน่งบา แล้วก็มาคิดถึงว่าตอนที่ จรัสพงษ์ สุรัสวดี เขาให้สัมภาษณ์ ตอนนั้น ปลอดประสพ สุรัสวดี เขามาเข้าพวกกับพวกนั้นหรือยัง
อาหลานคู่นี้เท่าที่ทราบมาก็สนิทสนมกันดี เกื้อกูลกันมาตลอด ไม่น่าที่จะฉีกแนวกันได้ขนาดนี้ หรือว่าคำที่โบรานท่านว่าไว้จะจริง แข็งเท่าแข้งเงินง้าง อ่อนได้ดังถวิล
เลยต้องเชื่อคำของคนโบรานท่านที่ว่าไว้อีกว่า เจองูเจอแขกต้องตีแขกก่อน ไว้ก่อนหล่ะ


การศึกษาบ้านเรามันเละมาตั้งแต่แรกหล่ะครับ ตั้งแต่จอมพล ป ควบคุม "กะซวงสึกสาธิการ"
หลังจากเปลี่ยนชื่อ สยาม เป็น ไทย ทั้งๆ ที่ตัวเองแยกแยะคำว่า ไทย และ ไท สองคำนี้ไม่ออกด้วยซ้ำ
มหาวิทยาลัยเดียวที่เป็นความหวัง มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ที่โดนยึดแบบหน้าด้านๆ และเปลี่ยนมาสอนตามที่ "กะซวงสึกสาธิการ" เขาอยากจะให้สอน

นับแต่วันนั้นเราก็ผลิต "ทาส" ออกมารองรับตลาดแรงงาน โดยลืมไปแล้วว่า รัชกาลที่ 5 ท่านสู้อุตส่าห์เลิกทาสให้แล้ว ให้กันง่ายๆ กระมัง เลยไม่รู้คุณค่ากัน
แถมที่ทางที่ท่านให้ไปจับจองทำมาหากินก็ขายกินกันเสียสิ้น ลูกหลานต้องมาหางานทำตามโรงงาน เช่าห้องรูหนูอยู่กัน
นี่ไม่ใช่แค่พวกจบ ป4 หรือ ม3 หรอกนะ บัณฑิตจบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำก็ด้วย มหาวิทยาลัยชั้นรองก็ด้วยอยู่ดี
ก็สอนกันมาแบบนั้น ผลมันก็ออกมาเช่นนี้ จะไปว่าอะไรใครเขาได้ องค์ความรู้นอกตำราที่ควรจะท่านทอดจากรุ่นสู่รุ่นก็หายไป
ชาวนาเองทุกวันนี้ทำนากันไม่เป็น จะปลูกข้าวอะไรยังไม่รู้ รอให้นายทุนเขามาบอก ปุ๋ยก็ทำเองไม่เป็นต้องไปซื้อเขา ส่วนใหญ่ก็เชื่อกันไว้ก่อน นานๆ เข้าดินพอกหางหมูไอ้ที่นาที่ทำมาตั้งแต่สมัยโคตรพ่อโคตรแม่กลายเป็นที่นาของคนขายปุ๋ย
ตัวเองต้องมาจ่ายค่าเช่านาในที่ๆ เคยเป็นของตัวเองเสียอย่างนั้น

พวกต้นทุนชีวิตสูง จบชั้นมหาบัณฑิต ก็หาวิธีจะเอาข้าวของที่คนจนๆ ผลิตมา กดราคาให้ต่ำสุดกู่เอาไปขายฝรั่งรวยๆ แต่ไม่ชอบจ่ายแพง เพื่อให้ตัวเองไอ้รับความดีความชอบได้รับรางวัลที่เรียกกันว่าโบนัส
ซึ่งพูดก็พูดเถอะ มันแค่เศษเสี้ยวของกำไรที่พวกมันมาปอกลอกจากแผ่นดินนี้ไป

เคยอ่านหลายๆ กระทู้ที่มานั่งเถียงกันเป็นบ้าเป็นหลัง อย่าง iPhone หรือ Android ดีกว่ากัน
อ่านไปก็ขำไป แต่ละคนก็หาอะไรมาเถียงกันสีข้างแทบแหก ทั้งๆ ที่ไม่ว่าจะ iPhone หรือ Android
มัน็ของที่เขาทำมาขาย เรามันแค่คนซื้อมาใช้ ไม่ว่าจะซื้ออะไร อย่างไรแล้วก็คือทำให้คนอื่นเขารวยขึ้น
แถมพระนเรศวรท่านก็ไม่มีโทรศัพท์ใช้ พระเจ้าตากสินท่านก็ไม่มีใช้ ทั้งสองท่านยังสามารถกู้เมืองคืนจากพม่าได้
ทุกวันนี้มีทุกอย่าง แต่ยอมให้เขมรมันมายึดเขาพระวิหารกันหน้าตาเฉย สงสัยจะเพระมีโทรศัพท์ใช้กันหล่ะเนี่ย

แปลกก็ที่ว่า ทำไม มหาวิทยาลัย ภายใต้ "กะซวงสึกสาธิการ" ไม่สามารถสร้างบัณฑิตมาทำโทรศัพท์ให้คนแผ่นดินเดียวกันใช้ได้
รถที่ติดกันเต็มถนน ทำเมืองไทยก็จริง แต่ไม่มีสักคันที่จะทำโดยคนไทย คิดโดยคนไทย โดยที่กำไรไม่กระเด็นหลุดออกไปให้ต่างชาติ

ท่านผู้รู้หลายๆ ท่านเคยพูดไว้ว่า เงินที่ไหลเข้าประเทศจากข้าวหอมมะลิชั้นดีเลิศ ไม่ใช่ข้าวนอกฤดูที่ดีก็แค่เอาไปเป็นอาหารสัตว์หรือป่นทำแป้งข้าวเจ้า
เทียบไม่ได้เลยกับเงินจากนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาใช้บริการโสเภนี กับยาเสพติดที่หาง่ายพอๆ กับเซเว่นอีเลฟเว่น
ผมเคยพยายามหลอกตัวเองไม่เชื่ออยุ่หลายปี แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้ต่อความเป็นจริง

เห็นเหลืองเห็นแดงกัดกันแล้วก็ได้แต่ถอนใจ พวกมันมาทำห่าอะไรกันบนแผ่นดินที่โคตรเหง้าของฉันปกป้องเอาไว้วะ
มาอยู่แล้วอยู่ดีกันดีๆ ไม่ได้ ก็น่าจะไปตามหาต้นตระกูลดูว่าอพยพมาจากที่ไหนกัน แล้วก็เชิญกลับไปกันเสีย อย่ามาอยู่ให้หนักแผ่นดินสยามเลยนะจ้ะ

ประเทศนี้จะล้มละลายแบบกรีซคงยาก

เพราะขนาดคนธรรมดาในบอร์ดนี้ยังบริหารประเทศเก่งขนาดนี้

หึหึ
ฉลาดจริงไรจริง

เป็นอย่างที่ทุกท่านว่าไว้
ถ้าใช้เงื่อนไข win-win คนนั้นได้คนนี้ได้ ประเทศไม่ป่นปี้หรอครับ หอมแดงยังเอา จะเอาอะไรอีก
คนในชาติอิ่มปากอิ่มท้อง แล้วจุดสมดุลย์ของประเทศเสีย = ล่มจมกันครับ ประเทศปิด
300 ขึ้นมาแล้วแน่ใจว่า 300 ในมือของคุณมีค่า มองไปรอบตัวว่าทุกอย่างมันขึ้นไม่เคยลง ข้าวแกง 30-45 บาท ทั้งๆที่วัตถุดิบมันขึ้นๆลง
จักรยานเอาขึ้น bts ได้ทุกแบบ พอลงใต้ดิน ดันต้องพับได้ แค่เรื่องที่ควรทำยังขัดกันเอง ไม่เป็นเอกภาพเลย
รถคันแรกถ้าทำกัน ทำไมไม่ทำรถยี่ห้อแห่งชาติไปเลย ขนาดเขมรยังทำรถแฮนด์เมดขายคนเขาเองเลย ไทยมีแต่ให้เขามาตั้งโรงงานตั้งบริษัทอยู่นานสองนาน
เงินใครได้ เจ้าของ...ผลผลิตใครได้ เจ้าของ...ทรัพยากรใคร เรา...ทิ้งขยะเคมีมลพิษ บ้านเราอีก...สรุปใครฉลาดกันแน่ครับ
คอยดูเถอะครับ ตอนนี้มันกัดกินระบบอยู่ เจ้าพวกโรงงานเนี่ย อาจจะช้า แต่จะมีวันที่เราไม่สามารถพูดได้ว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว อีกต่อไป...ไม่ใช่รุ่นเรา แต่ลูกหลานครับ
จิตสำนึก ปัญญา หน้าที่ รับผิดชอบ เสียสละ คิดว่าขาดไปเท่าไหร่ครับ (ง่ายๆว่าขึ้นรถไฟฟ้า ยังไงก็จะมีคนพยายามแซงคิวเสมอ เรื่องง่ายๆ)

"คือประเทศเรามาไลน์เดียวกับกรีซเลย
หนีสินล้นแล้ว
ถ้าประเทศเราล้มละลาย เงินที่เรามีก็ไม่ต่างจากกระดาษ"
1) ตอบคำถามเจ้าของกระทู้ละกันนะครับ
-ในเคสนี้เจ้าของกระทู้ดูจะเข้าใจผิดในเรื่องที่ว่าเรามาไลน์เดียวกับกรีซนะครับ ประเด็นที่ส่วนตัวผมมองว่าเราแตกต่างจากกรีซมีดังนี้

- ความสามารถในการผลิตครับ ประเทศเรามีศักยภาพในการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อส่งออก นำรายได้เข้าประเทศได้ ทั้งที่เป็นภาค auto หรือเครื่องจักร ชิ้นส่วนอิเล็กโทรนิคส์ ในฐานะที่เป็น 1 ใน Hub OEM ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ (ส่วนภาคการเกษตรอันนี้ ผมขอไม่พูดนะครับ เพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว ภาคการเกษตรที่เราบอกว่าส่งออกได้มหาศาลขนาดไหน contribute ต่อรายได้ประเทศน้อยมาก) ซึ่งจุดนี้จะผิดจากกรีซที่รายได้หลักมาจากการท้องเที่ยวอย่างเดียว (น่าจะประมาณ 15% ของ GDP)
- ระดับการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะต่อGDP เรายังไม่ได้หนักเท่ากรีซครับ อีกอย่างอาจจะเป็นข้อดี(มั้ง) ที่เราเคยผ่าน วิกฤต 40 มาแล้ว ทำให้หน่วยงานกำกับของเราเช่น ธปท. มีนโยบายที่ ค่อนข้าง conservative ทำให้น่าจะบรรเทาความเสี่ยงอันเกิดจากการใช้เงินของภาคการเมืองได้ในระดับนึง

2) อย่างไรก็ดี ที่ผมกล่าวมาข้างต้น นี่ก็ยังบอกไม่ได้ว่า ในอนาคตประเทศเราจะมีโอกาสเกิด economic crisis หรือไม่นะครับ เพราะว่ามันมีหลายปัจจัยที่เกิดจากทั้งโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ผสมนโยบายภาครัฐ ที่ส่วนตัวคิดว่าในอนาคตอันใกล้มันจะเป็นความเสี่ยง
- เรื่องแรกก็เรื่องการศึกษาที่หลายๆความเห็นด้านบนพูดมา ทั้งๆที่ทุกคนมองว่าการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ แต่งบประมาณด้านนี้กลับน้อยมาก หรือบางทีไปลงงบผิดจุด เช่น tablet etc. ส่วนตัวคิดว่าถ้าจะลงงบกับ tablet อยากให้ไปขึ้นเงินเดือนครูมากกว่า ให้ได้ระดับเดียวกับเงินเดือนหมอจบใหม่ (ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะประมาณ 5 หมื่นครับ) เพราะถ้าตั้ง assumption ว่าผลตอบแทนของอาชีพมี correlation กับคนที่ทำอาชีพนั้น เราก็น่าจะได้บุคลากรที่ดีขึ้นมาเป็นครู
-เรื่องที่ 2 เรื่องนโยบายของภาครัฐ ผมยกมา 2 ตัวอย่างละกันครับ
a)โครงการแทรกแซงราคาข้าว รับจำนำข้าว(ของ พท) หรือ ประกันราคาข้าว (ของปชป) คิดว่าเป็นนโยบายที่ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจในอนาคตครับ
เหตุผล คือ ทำให้ต้นทุนในการขายข้าวของประเทศสูงขึ้น-->สูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่งรายอื่นๆ --> ชาวนาพยายามเร่งผลิตข้าวมากขึ้น(ผลิตถี่ขึ้น --> คุณภาพข้าวตกลง)--> รัฐรับข้าวมา แต่ปล่อยของยาก เลยต้องเก็บข้าวไว้ในโกดัง แต่ข้าวไม่เหมือน หุ้น เพราะมันมีอายุ มี time value of money (อันนี้เหมือน warrant)
สรุป 1)ใช้เงินสูญเปล่า 2)สูญเสีย mkt share 3) คุณภาพผลิตภัณฑ์ลดลง 4)ช่องโหว่ในการโกงมีมากไป
b)นโยบายรถคันแรก กระตุ้นการใช้จ่าย ทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น ฟื้นฟูภาค auto ก็จริง แต่ใน long run ผมว่าเอางบตัวนี้ไปพัฒนาโครงสร้าง logistics ประเทศน่าจะดีกว่า เพราะว่าลงครั้งเดียวอยู่ยาว อีกทั้งต้นทุนในด้านการขนส่งประเทศเราถือว่าสูงมาก ทำให้ความสามารถในการแข่งขันเสียเปรียบ (ต้นทุนการขนส่งของไทยเฉลี่ยประมาณ 17.9% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) สูงกว่าประเทศสิงคโปร์ที่อยู่ประมาณ 7% ประเทศในแถบ ยุโรปประมาณ 9% และอเมริกา ประมาณ 10%) ซึ่งหากเอางบที่จะไปทำรถคันแรกมาลงตรงนี้แทน น่าจะกระตุ้น gdp + ลด unemployment rate ได้มากกว่า (ตาม concept ของ Keynesian Economics นะครับ)
- ความสามารถในการแข่งขันระยะยาวของประเทศที่สู้ประเทศอื่นๆไม่ได้ เพราะด้านการศึกษาที่กล่าวมาข้างต้น ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นอันมาจากค่าแรง 300 บาท (ไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีนะครับ แต่ผมว่ามันยังไม่ถึงเวลา เพราะแรงงานเราโดยเฉลี่ยยังไม่ใช่แรงงานฝีมือขนาดนั้น) การขาดความเป็นเจ้าของเทคโนโลยี หรือ knowhow จะเห็นได้ว่า ประเทศเราจริงๆถึงแม้จะเป็น hub การผลิตที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง แต่กลับไม่มี product ที่เป็นของเราจริงๆ มีแต่รับจ้างเขาผลิต ซึ่งค่อนข้างน่าเสียดาย เพราะหากต้นทุนเราสูงขึ้นๆเรื่อย บรรดาบริษัทที่จ้างเราผลิต เขาก็สามารถย้ายไปอยู่ที่อื่นได้ ดังนั้นใน long run เราควรจะมีproduct ที่เป็นของไทยจริงๆในด้านนี้มากกว่า

โอ้ ไม่เครียดกันบ้างเหรอ เว็บมั่นคงเค้ามีไว้ relax นะครับ

อย่ามัวคิดแทนคนอื่นเลยครับ พวกคุณมีหน้าที่ทำอะไรก็ใช้ความรู้ความสามารถให้ดีที่สุดก็พอ ไม่ต้องถึงกับขนาดอยากไปบริหารประเทศหรืออวดรู้อะไรขนาดนั้นก็ได้

มีหน้าที่เรียนก็เรียนไปเถอะ ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ใครทำงานเป็นยังไงผลงานมันจะบอกเอง

ไม่ต้องห่วงว่าใครจะโง่กว่าใคร ทางที่ดีอย่ามัวแต่คิดว่าตัวเองฉลาดล้ำเลิศอะไรขนาดนั้น ไปวัดไอคิวดูก่อน เดี๋ยวจะกลายเป็นหลงตัวเอง กบในกะลาน่ะ

ไอคิวเฉลี่ยมันต่างกันไม่มากหรอก คนฉลาดก็ต้องคิดวิเคราะห์แยกแยะด้วย ไม่ใช่จะหลับหูหลับตาใช้ความเชื่อว่าตัวเอง พวกตัวเองฉลาดล้ำเลิศ

เห็นคล้ายๆ กันว่าเรายังไม่ได้มาแนวทางเดียวกับกรีซครับซะทีเดียว
สำหรับใครที่สงสัยลองดูสยามวาระ ยาวหน่อย แต่ครบถ้วน
ดูให้จบแล้วจะเข้าใจปัญหาความเป็นไปของกรีซที่เกิดขึ้นตอนนี้

youtube.คอม/watch?v=QmaU-CTpMLk

ก็ดีที่ปัญหาเรื่องนี้มาจากรัฐสวัสดิการที่ใช้จ่ายเกินตัว ทำให้หลายคนเริ่มตระหนักแล้วว่ารัฐสวัสดิการต้องทำอย่างรอบคอบ และไม่ควรนำเงินในอนาคตมาละลายกับสวัสดิการแบบไร้สาระ (ไม่ได้ห้ามทำรัฐสวัสดิการนะ ผมก็ชอบถ้ารัฐจะคอยดูแลเราในเรื่องที่สำคัญ เช่นอุดหนุนการศึกษา, ช่วยค่ารักษาพยาบาล) ไร้สาระของผมในที่นี้คือนโยบายที่ประกาศเพื่อเรียกคะแนนเสียงโดยไม่ผ่านตกผลึกให้ดี เช่นขึ้นค่าแรง 300 บาท หรือเงินเดือนป.ตรี 15000 สุดท้ายก็ต้องอ้อมแอ้มประกาศใช้แค่บางพื้นที่ในช่วงแรกเป็นต้น เพราะไม่ใช่ผู้ประกอบการทุกรายจะมีศักยภาพในการจ่าย


ของเราตอนนี้มันจะออกแนวเป็นรัฐที่ - พยายามจะเป็นรัฐสวัสดิการ- และเริ่มใช้จ่ายเกินตัวไปกับนโยบายประชานิยมโดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมา

เพียงแค่โชคดีหน่อยตรงที่เทียบตัวเลขกับกรีซแล้วยังห่างกันอยู่เยอะ
และประเทศเรานอกจากท่องเที่ยวแล้วยังมีภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรมที่ยังสามารถแข่งขันและทำรายได้เข้าไประเทศได้อยู่ อย่างน้อยก็ในช่วงนี้

ปัญหากรีซเขารุนแรงกว่าเพราะมีเรื่องเงิน Euro หนี้สินต่างๆ มิติด้านการเมือง และประชากรที่ประท้วงจะเอาอย่างเดียวโดยไม่สนว่าประเทศกำลังแย่ขนาดไหน มันเลยพันกันยุ่งไปหมด

ผมชอบตรระกะของคุณ vitsanu_p มากเลยครับ สรุปคือปล่อยให้รัฐบาลทำงานไปอย่างที่เห็นทุกวันนี้ใช่มั้ยครับ ไม่ใช่ผมไม่ชอบรัฐบาลนะออกตัวก่อน ผมแค่ไม่ชอบในหลายๆนโยบาย แต่ทำไงได้ แพ้เลือกตั้งก็ต้องยอมๆไป อย่างนั้นเหรอครับ

ขอบคุณเพื่อนสมาชิกหลายท่าน ที่ได้เข้ามาร่วมให้ข้อมูลและความรู้นะครับ

ต้องขอบอกว่า ไม่เห็นด้วยที่คุณวิษณุมา่่ว่าสมาชิกท่านอื่นว่า อวดฉลาดนะครับ..ขออภัยด้วย
ผมก็เห็นว่า เขามาแสดงความเห็น และข้อมูลเฉยๆอ้ะครับ

ผมว่าใครจะออกความเห็นอย่างไร ไม่ว่าจะดีหรือไม่ เราเองเป็นบุคคลที่สาม ไม่ควร เข้าไป วิจารณ์ชว่าดีหรือไม่นะครับ

เค้าเรียกสิทธิครับ

ผมว้าที่เค้ามีปัญหาทางเว็ปบอร์ดบ่อยๆ เพราะ มีคนนึง ด่าคนนึง แล้วคนที่ไม่ได้ด่า หรือดดนด่า ต่าง

หาว่าใครผิดใครถูก จริงมั้ยครับ อย่างยุ่งกับคนอื่นไม่ว่าเค้าจะด่ากัน หรือคุยกันดีดี แค่นี้จะไม่มีเรื่องวดาชราม่าแล้วครับ เงียบๆไว้ครับ ไม่ต้องแสดงออก

อย่ามาดราม่าแถวนี้ครับ นี่เว็บหูฟัง

สงสัยจะพิมพ์ไม่ชัด

ผมแค่จะบอกว่าถ้ารัฐบาลเขาทำงานไม่ดี คนแต่ละคนเขาก็มีวิจารณญาณ เขาก็ดูออกว่าใครทำงานดีไม่ดี

ถ้าใครคิดว่าตรงไหนไม่ดีก็เอามาบอก หรือถ้ามีข้อมูลจริงๆก็ส่งฟ้องศาลไปเลย ผมว่าไม่มีใครเขาหลับหูหลับตาเลือกคนที่จะพาประเทศเป็นแบบกรีซแน่ๆ

แต่ที่ประเทศมันถอยหลังลงคลองแบบนี้ ก็เพราะมัวแต่พากันทำอะไรที่ไม่ใช่หน้าที่ตัวเองนี่่ล่ะ

ถ้ารักประเทศจริงก็หันไปทำอะไรที่ตัวเองมีหน้าที่รับผิดชอบให้มันดีเถอะ

แล้วไอ้เรื่องดราม่า หรือวิจารณ์คนอื่นน่ะ ผมเห็นมันล้ำเส้นมาตั้งแต่ คคห.3 แล้ว

เผื่อไม่เห็น "พูดเรื่องนี้แล้วเศร้า
พวกแถวบ้านผม ทำไมมันชอบอยู่ใต้น้ำกันนัก
ไม่รู้จักโผล่พ้นน้ำเสียที"


ไอ้คำพูดแบบนี้เขาเรียกว่าวิจารณ์คนอื่นหรือเปล่า ใช้ความคิดกันหน่อยเร้ว

บ้านเค้าอาจจะน้ำท่วมก็ได้หนิครับ เลยยังไม่พ้นน้ำ

ขำๆครับ อย่าซีเรียส ^_^v

ให้ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเอง แล้วปล่อยให้คนที่ไม่ยอมทำหน้าที่ของตัวเองมาโกงเงินภาษีมาหาแต่ประโยชน์ใส่ตน จากเงินภาษีของคนที่ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองยังงั้นเหรอ

โดยปล่อยให้คนที่ไม่น่าจะเรียกว่าคน ทำให้ชาติย่ำแย่ลงไปเรื่อยๆ โดยเราไม่สนใจคิดจะทำอะไรเลย เพราะคิดว่าไม่ใช่หน้าที่ของตน คนที่วันๆคิดถึงแต่เรื่องของตัวเองประโยชน์ของตัวเอง ยังจะเรียกตัวเองว่าคนไทยอยู่อีกหรือพ่อคุณ


แล้วไอ้เรื่องสีนี่อีก สีมันอยู่ของมันดีๆก็ไปยัดเยียดตราบาปให้มัน อ้างไปเรื่อย

คอยดูเถอะใครทำอะไรไว้บ้าง จะได้ชดใช้กรรมที่ตัวเองทำ
เดี๋ยวกรรมมันก็จะสนองเอง

ไอ้เรื่องแถอีก แถได้ตลอดทุกเรื่องหาเหตุผลปัญญาอ่อนมาแถ ไม่ละอายบ้างเหรอ

ใครให้ผลประโยชน์กับตัวเอง ก็เทิดทูลเค้าคนนั้นว่านี่แหล่ะคนดีที่คิดช่วยเหลือเรา
แต่ก็ไม่สนใจว่าผลประโยชน์ที่เค้าให้มานั้น มันเอามาจากไหน ทำให้ส่วนรวมทำให้ประเทศเดือดร้อนแค่ไหน

ใครจะเป็นยังไง ภาสงภาษีอะไรกรูไม่สน กรูไม่เข้าใจขอให้กรูได้ประโยชน์ก็เป็นพอแล้ว
ใครที่ช่วยกรู กรูก็รักคนนั้น ประเทศไม่ได้ช่วยกรูแล้วกรูจะไปสนใจประเทศทำไม ใครคือประเทศ มันหน้าตาเป็นไงบอกกรูที

ใครเอาเงินมาช่วยที่นากรู นั่นแหล่ะคนดี
ใครเอาเงินมาให้กรูกู้ นั่นแหล่ะคนดี
ใครทำถนนให้หน้าบ้านกรู นั่นแหล่ะคนดี
ใครเอาเงินมาช่วยงานบวชลูกกรู นั่นแหล่ะคนดี
ใครเอาเงินมาช่วยงานแต่งญาติกรู นั่นแหล่ะคนดี

แล้วประเทศทำไมไม่เห็นมาช่วยกรูเลย มาช่วยเหลือกรูตอนไหน ไม่เห็นมี แล้วกรูจะสนใจและรักประเทศทำไม

รู้นะว่าคิดแบบนี้ นี่แหล่ะที่เค้าเรียกว่าเห็นแก่ตัว

^
^ เห็นด้วยกัน คห. 49 ครับ

แต่ผมว่าคุณ vitsanu_p ยังมองความหมายของคำว่า "หน้าที่" แคบไปนะครับ

ผมว่าหน้าที่มันไม่ได้หมายถึงแค่งานที่ทำอย่างเดียว แต่"หน้าที่"มันต้องสอดคล้องกับบทบาทด้วย

คนๆหนึ่งมีหลายบทบาท ดังนั้นจึงมีหลายหน้าที่ด้วย เช่น หน้าที่ของคนไทย หน้าที่ของพลเมืองดี ไม่ใช่งานที่ทำเพียงอย่างเดียว

สิ่งที่พวกเราที่เป็นประชาชนในระบบประชาธิปไตยกำลังทำหน้าที่กันอยู่ตอนนี้นั้นคือการแสดงความคิดเห็นและข้อเท็จ ซึ่งเป็นสิทธิของทุกคนพึงมี

และประเด็นที่พวกเรากำลังแสดงความเห็นกันก็เป็นเรื่องของแนวโน้มในอนาคตของชาติ ซึ่งคนที่จะได้รับผลเต็มๆในอนาคตก็คือประชาชนอย่างเราๆนี้แหละครับ

ผมอยากรู้ว่าเราควรก้มหน้ารอให้ผลลัพธ์ที่เรารู้ว่ามันจะไม่ดีเกิดขึ้นมาก่อน แล้วก้ก้มหน้ายอมรับผล หรือจะหาทางแก้ไข ป้องกัน ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นในอนาคต เหมือนอย่างชาติอื่นๆ ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนให้เราเรียนรู้

ก็นั่นล่ะครับ คำว่าหน้าที่ก็เป็นแบบนั้นล่ะ ผมไม่เคยพูดว่าแค่ให้ทำงาน อันนั้นมันแคบเกิน

ทุกคนมีหน้าที่ก็ทำให้มันดี วันเลือกตั้งก็มีหน้าที่ไปเลือกตั้ง ผมคิดว่าทุกคนมีวิจารณญาณพอครับที่จะตัดสินว่าใครทำงานดีไม่ดี

คนเราถ้าสติปัญญาดีพอ เดี๋ยวก็จะมองเห็นเอง คิดได้เอง แล้วก็จะเข้าใจได้เองว่าทุกอย่างมันมีที่มาที่ไป

ไม่ใช่คิดไม่เหมือนคนอื่นก็คิดเหมาเอาเองเป็นตุเป็นตะว่าคิดที่คิดไม่เหมือนตนนั้นโง่บ้าง เลวบ้าง รับผลประโยชน์บ้าง

ไอ้เรื่องแถนี่ น่าจะตรงที่สุด

กรูหล่ะหน่าย ไปดีกว่า

คนบางคนทัศนะคติแคบครับ เห็นอะไรที่ไม่เหมือนที่ตัวเองคิดก็กลายเป็นไม่ดีไปหมด รับไม่ได้ไปหมด โดยไม่ลืมหูลืมตาเลยว่าตัวเองกลายเป็นคนกลุ่มน้อยไปแล้ว

แค่คิดว่าคนอื่นโง่หรือเลวกว่าตัวเองก็แย่แล้ว แต่นี้อยู่แต่ในโลกแคบๆโดยคิดว่าคนส่วนใหญ่ที่คิดไม่เหมือนตัวเองกลายเป็นคนโง่คนเลวเสียหมด อันนี้น่าจะเข้าข่ายหลับหูหลับตามากกว่า

จริงๆผมเข้าใจว่าที่มาคุยกันในนี้ก็เพราะไม่อยากให้ใครมาขัดคอ แต่การจะพูดอะไรในที่สาธารณะก็ควรจะมีขอบเขตครับ ไม่ใช่นึกอยากจะพูดก็พูด

เจอคนจำพวกนี้ผมก็มักจะใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่งน่ะครับ จะได้มองเห็นตัวเองกันบ้าง

ผมว่ามีหลายคนที่อ่านแล้วอาจจะมีความรู้สึก แต่ก็เงียบเฉยไว้เพราะเป็นคนมีมารยาทในที่สาธารณะดีพอ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นมาตลอด

แต่พอเงียบมันก็มีคนคิดไม่ได้เยอะ ก็ต้องเจอคนทำแบบนี้ล่ะครับ

ส่วนเรื่องที่บอกว่าให้ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองแล้วปล่อยให้ใครเข้ามาโกงภาษีของทุกคน(ชาวนาก็ต้องเสียภาษี) แสดงว่ายังไม่เข้าใจ

ถ้าทุกคนทำหน้าที่ตัวเองให้ดี ทุกอย่างมันมีระบบที่ได้วางเอาไว้ ฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาย หรือถ้าคุณมีข้อมูลว่ามีคนทำผิด คุณก็แจ้งความหรือส่งฟ้องศาลได้

ผมว่าปัญหาทุกวันนี้ของบ้านเราคือ ไอ้หน้าที่ที่เราควรทำไม่ค่อยอยากจะทำ เวลาไปทำงานก็ไม่ตั้งใจทำงาน ไปสาย แต่กับเรื่องที่ตัวเองไม่มีความรู้กลับอยากไปเสนอตัวทั้งๆที่ไอ้เรื่องที่พูดอยู่น่ะบางทีไม่รู้ด้วยซ้ำว่าระบบมันเป็นแบบไหน

นี่ล่ะกรรมแท้ๆของประเทศนี้

มีใครในนี้อวดฉลาดเหรอครับ ผมเห็นว่าสมาชิกในบอร์ดก็มาแสดงทัศนะของตัวเองเฉยๆ พูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนทัศนะ หรือ วิเคราะห์เพื่อแสดงแนวคิดตัวเอง จะเรียกว่าอวดฉลาดได้อย่างไรครับผม อย่างเช่นทัศนะของผม คือ ผมเห็นว่ารัฐบาลไหนๆเข้ามาก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมจึงเสนอแนะของตนว่าให้ทุกคนเตรียมรับมือไว้ด้วยตัวเอง ตนเป็นที่พึ่ีงแห่งตน ผมว่าผมก็ไม่ได้ไปด่าว่าใคร พี่ๆในบอร์ดผมก็ไม่เห็นว่าการแสดงความคิดเห็นของเขาล้ำเส้นตรงไหน ที่ผมเห็นก็มีแต่คุณ Vitsanu_p เองนั่นแหละ ที่เข้ามาก็มาหาว่าสมาชิกในบอร์ดนี้อวดฉลาด คอมเม้นต์ผมทำให้โกรธเคืองอย่างไรขออภัยด้วยล่วงหน้านครับ

ผมขออนุญาตออกตัวนะครับ ว่าผมไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นคุณวิษณุ

จขกท. ตั้งคำถามปลายเปิดมาให้สมาชิกคนอื่นๆได้ร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อเปิดความคิดให้ในแง่ต่างๆให้กว้างขึ้น

ซึ่งแน่นอนครับว่ายิ่งมีสมาชิกมาแสดงความคิดเห็นมากเท่าไหร่ ความเห็นต่างย่อมมีมากขึ้นเท่านั้น

ผมไม่ได้เรียนทางด้านเศรษฐศาสตร์มาโดยตรง แน่นอนว่าความรู้ทางด้านการเงินในระดับมหภาคคงมีไม่มากนัก จึงไม่สามารถให้ความเห็นในด้านนี้ได้

แต่ปริญญาสองใบ จากสามใบที่ผมเรียนจบ (ตอนนี้กำลังต่อใบที่ 4 อยู่) ที่เป็นทางด้านรัฐศาสตร์โดยตรงก็พอทำให้ผมมีความรู้ทางด้านวิชาการ และข้อเท็จจริงมาสนับสนุนความคิดในการวิพากษฺวิจารณ์ของผมอยู่บ้าง

มหาวิทยาลัยที่ผมเรียนจบสอนให้ลูกศิษย์แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้โดยมีข้อมูลและข้อเท็จจริงรองรับ และที่สำคัญต้องไม่ไปละเมิดสิทธิของผู้อื่นครับ

ไอคิวผมอาจจะน้อยกว่าคุณวิษณุก็เป็นได้ แต่ผมก็เห็นด้วยกับความเห็นของสมาชิกหลายๆคนในกระทู้นี้ครับ

ด้วยความเคารพ

รัฐบาลทำงาน มันก็มีกลไกลตรวจสอบการทำงานก็ไปว่ากันตรงนั้น ครบวาระ 4 ปี ถ้าทำไม่ดีคนก็ไม่เลือก

ระหว่างนี้ฝ่ายค้านก็ทำหน้าทีไป ฝ่ายตรวจสอบก็ทำหน้าที่ไป แล้วเอามาตีแผ่ให้สังคมได้รู้ว่าอะไรที่ไม่ดี

กลไกลศาลเขาก็ทำหน้าที่ของเขาอยู่ แล้วก็มีอีกเยอะแยะ ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ทุกอย่างมันก็เดินไปได้ ใครผิดใครโกงก็จับติดคุกตามกฏหมายไป

ครบวาระก็ว่ากันใหม่ เลือกตั้งกันใหม่ แค่นั้นล่ะ ไม่ใช่แพ้แล้วจะพาลคิดเองเออเองว่าแพ้เป็นพระอะไรเทือกนั้น

แล้วอีกอีกอย่างถึงคุณ m7

มันไม่ใช่ ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล = เสื้อเหลือง
เห็นด้วยกับรัฐบาล = เสื้อแดง
นะครับ

คนทุกคนมีสมองเป็นของตัวเอง คิดวิเคราะห์ดูอย่างดีแล้ว จะเลือกรักใครชอบใคร เห็นด้วยกับใครขัดแย้งกับใคร มันก็ไม่แปลกหนิครับ อย่าไปขีดเส้นว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยแล้วเท่ากับเลือกข้างเลยครับ

สวัสดีครับคุณ GopGap09 ยินดีที่ได้คุยครับ

เรื่องการแลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็น มันเป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว อันนี้เห็นด้วยเป็นอย่างมากครับ

อันที่จริงเวบบอร์ดสำหรับพูดคุยเรื่องพวกนี้มันก็มีเยอะนะ อันนั้นคนมีความรู้ก็เยอะโขอยู่

แต่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นมันก็ต้องเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นทั้งสองด้านนะครับ ไม่ใช่อยู่ไปว่าใครจมอยู่ใต้น้ำ หรือวิจารณ์คนที่มีความคิดอีกฝากไว้ก่อนแล้ว

อันนี้แสดงอีกด้านบ้างแล้วกันนะครับ

อันที่จริงทุกประเทศที่เป็นปชต.ก็มีโอกาสเป็นแบบกรีซได้ทั้งนั้น ดูอย่างประเทศสเปนหรืออีกหลายๆประเทศในยุโรปตอนนี้

มันก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แต่สำหรับผม ปัจจัยที่จะทำให้ประเทศเรามีความเสี่ยงที่จะเป็นแบบนั้นคือการทำงานแบบรัฐบาลชุดที่แล้วที่กู้มาใช้จ่ายแต่ไม่มีนโยบายในการหาเงินที่ชัดเจน

ค่าแรง 300 บาทเป็นเรื่องที่ดีครับ

แต่โรงงานที่อําเภอผม จะพยายามเลิกจ้างคนงานไทย

ที่ต้องการค่าแรง 300บาท แล้วมาใช้คนงานพม่าแทนครับ

กินอยู่หลับนอนในโรงงานเบ็ดเสร็จ ค่าแรงถูก

หากออกมาข้างนอกก็เรียกตํารวจจับ

ส่วนคนไทยที่โดนปลดออก ก็ออกมานั่งๆนอนๆ

กินเหส้าบ้าง ค้ายาบ้าง ลักเล็กขโมยน้อย กันไป

ดันร้อนตัวอีก ไปกันใหญ่เลยทีนี้
ยิ่งคุณร้อน มันก็จะยิ่งฟ้องตัวคุณออกมา

คุณลองดูนะว่าตอนนี้เป็นยังไง บ้านเมืองเราน่าจะพัฒนาในหลายๆจุดได้มากกว่านี้
เงินภาษีน่าจะเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่านี้ ไม่ใช่เกิดประโยชน์บ้าง-เข้าประโยชน์กรูด้วยแล้วบอกรับได้ แต่ดันมาทุจริตและโกงทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ คนที่มีอำนาจบริหารสูงสุดกลับทำเป็นไม่เห็นไม่สนใจที่จะแก้ไขเพราะติดตรงที่ว่าเป็นพวกเดียวกัน

เหมือนลูกตัวเองไปขโมยของมาแต่ตัวเองเป็นตำรวจ จะจับลูกตัวเองเข้าคุกก็ยังไงอยู่
บอกว่าที่ลูกตัวเองไปขโมยของมาก็ไม่ได้เอาเองหมดนะ เอาไปแบ่งคนยากจนด้วย
เค้าดีนะที่คิดช่วยเหลือคนอื่น

แล้วคนที่โดนขโมยของหล่ะ คงได้แต่นั่งภมิใจที่ได้ช่วยเหลือคน


ใครแพ้หรือ แม่มก็อ้างแต่เรื่องนี้

จริงอย่างที่ข้างบนเค้าว่า
ถ้าไม่ได้อยู่ฝ่ายกรูก็แสดงว่าเมิงอยู่อีกฝั่งหล่ะสิ ใช่แน่ๆ ไอ้ขี้แพ้แล้วมาพาล
ใครไม่ได้อยู่ฝ่ายตัวเองหรือคิดเหมือนตัวเองก็บอกว่าเค้านั้นอยู่อีกฝั่ง

ผมว่าคุณเริ่มสับสนในตัวคุณเองแล้วหล่ะ ลองอ่านความคิดเห็นที่ตัวคุณเขียนเอาไว้ดูอีกรอบ
แล้วอ่านความคิดเห็นของคุณหลังจากนั้นอีกรอบ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณพยายามที่จะหลอกตัวคุณเอง คุณสับสนของคุณเอง พอได้แล้ว ยอมรับความจริงเถอะ อย่าพยายามไปต่ออีกเลย

ถ้ายังรั้นหรือยังแถไม่เชื่อก็ลองอ่านดู

นั่นแน่เตรียมแถแล้วสิ อิอิอิ

ผมขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนิดนึงนะครับ

ผมจะไม่เจาะไปทีรัฐบาลชุดไหน หรือว่าพรรคใดเป็นหลัก

ผมจะพูดแค่เรื่องนโยบายประชานิยมแบบกว้างๆอย่างเดียวเท่านั้น

นโยบายประชานิยม ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นนโยบายที่ทำให้ประชาชนนิยม

การให้ ให้ ให้ และก็ให้ ซึ่งถ้าใครมีนโยบายลดแลก แจกแถมได้มากกว่า และสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนเห็นว่าเค้าสามารถทำได้ (อาจจะมาจากผลงานในอดีตที่เห็นเป็นรูปธรรมว่าทำจริงมากกว่าพูด)

ประชาชนส่วนใหญ่ก็ต้องเลือกมาเป็นรัฐบาลอยู่แล้ว ถูกต้องไหมครับ (อันนี้เราจะไม่พูดถึงการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ซึ่งมันก็มีของมันอยู่ทุกยุคทุกสมัยอยู่แล้ว)

แต่ผมมองแค่ว่านโยบายลด แลก แจก แถม มันอาจจะขัดกันอยู่ในหลักการ ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นในอนาคตระยะยาว

ลด = เก็บเงินเข้ารัฐได้น้อยลง

แจก แถม = ใช้เงินของรัฐมากขึ้น

ผมจะไม่มองภาพในอดีต เพราะถือว่าผ่านมาแล้ว แต่ผมจะโฟกัสไปที่อนาคตมากกว่าว่าถ้าไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนก็ตามยังบริหารประเทศด้วยนโยบายลักษณะนี้ต่อไป ในอนาคตเราอาจจะได้เป็นแบบประเทศกรีซก็เป็นได้ครับ

ผมขอยกตัวอย่างง่ายๆอันนึงนะครับ

ซื้อปลามาให้คนกิน ง่ายกว่าสอนคนให้จับปลา จริงไหมครับ

แต่ถ้าเงินหมด แล้วคนก็ยังจับปลาไม่เป็น จะเอาปลาที่ไหนมากินจริงไหมครับ

แต่ถ้าเอาเงินที่ซื้อปลา มาลงทุนสอนคนให้จับปลา ถึงจะยากกว่าแต่ก็คุ้มค่า

เพราะวันนึงที่เราไม่อยู่ หรือไม่มีเงิน คนก็ยังคงจับปลาได้อยู่ดี

ด้วยความเคารพครับ คุณวิษุ และสมาชิกทุกท่านครับ ^^

จริงๆเรื่องพวกนี้มันมีที่ๆเราจะไปหาความรู้ได้มากมายหลายที่นะ

เรื่องค่าแรง 300 ก็มีคนพูดถึงกันเยอะ ถ้าอยากได้ความรู้กันจริงๆก็ลองหาดู

ค่าแรง 300 เป็นเรื่องที่เป็นไปได้(มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นอัตราค่าจ้างที่แพงที่สุดในโลก) แต่มันต้องสอดคล้องกับฝีมือแรงงาน

ถึงย้ำตลอดไงว่าให้ทำหน้าที่ของเราให้ดีเถอะ รู้ว่านายจ้างจ่ายเงินเพิ่มขึ้น เราก็ทำงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม ทำตัวเองให้ดีกว่าแรงงานพม่า

แต่ปัญหาก็อยู่ที่แรงงานไทย พอมีค่าแรงเพิ่งขึ้นแทนที่จะขยันทำงานมากขึ้น กลับนอนกินเงินเดือนไปวันวัน ถ้าผลลัพธ์แทนที่จะทำให้คนไทยมีรายได้ มีความเป็นอยู่ดีขึ้นกลับกลายเป็นเปิดช่องทางให้ชาวต่างด้าวค่าแรงถูกมาแย่งงาน ผมว่านโยบายนี้ ถ้าพิจารณาจากผลลัพธ์ก็คือล้มเหลวล่ะครับ ถึงจะมีแนวคิดดีแต่ผลลัพธ์แย่มันก็ยังเป็นความล้มเหลวอยู่ดี

คุณอาสาที่จะเข้ามาบริหารประเทศ มาพัฒนาประเทศ มาแก้ปัญหาต่างๆเอง

ไม่ใช่มาอ้างว่ามันไม่ได้เกิดจากฉัน ฉันไม่รู้ ฉันไม่ได้ทำ มันเกิดจากโน่น นี่ นั่น

กรูไม่ได้อยากรู้ว่าเกิดจากอะไร เกิดตอนไหน เกิดจากใคร เกิดยุคไหน
แต่กรูอยากรู้ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร จะแก้ได้ไหม ในเมื่ออาสาเข้ามาแก้ปัญหา ไม่ใช่อ้างไปเรื่อย

ถ้าคุณบังเอิญได้เข้าไปทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งเพราะคนเก่าเค้าลาออกไป
พอเกิดปัญหา คุณบอกว่ามันเกิดจากคนเก่า มันมีปัญหามาตั้งแต่ตอนนั้นตอนนี้ก่อนที่คุณจะเข้ามาทำงาน ไอ้คนนั้นมันเป็นคนทำ ผมไม่รู้ ผมจะแก้ได้ไง

ในเมื่อคุณอาสาสมัครงานเข้ามาเอง แต่กลับแก้ปัญหา ณ ปัจจุบันไม่ได้ ถึงแม้ว่าปัญหานั้นคุณจะไม่ได้เป็นคนทำก็เถอะ แล้วบริษัทเค้าจะจ้างคุณให้เสียเงินเปล่าๆอยู่ทำไม ลองคิดดู

สวัสดีครับคุณ GopGap09

เห็นด้วยครับว่าประชานิยม ถ้าใช้มากเกินไปก็อาจจะเป็นผลเสียได้(จริงๆก็ทุกเรื่องล่ะ ถ้ามากไปก็ไม่ดี ต้องเดินสายกลาง)

ในความคิดของผมนะ ที่พรรครัฐบาลปัจจุบันเขาได้รับการเลือกตั้งเพราะส่วนหนึ่งคือเขาตอบโจทย์ปัญหาเก่าๆของระบบการเมืองไทยได้

ถ้าเป็นสมัยก่อน ป้ายหาเสียง นโยบายต่างๆไม่มีใครสนใจ เพราะพอเลือกเข้าไปนักการเมืองพวกนั้นก็ไม่เคยทำให้เป็นรูปธรรม

เพราะฉนั้นต่อไปใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ต้องบอกให้ได้ว่าจะทำอะไรบ้าง และจะแก้ปัญหาจุดบอดที่เกินขึ้นจากฝ่ายตรงข้ามให้ดีขึ้นยังไง

ไหนๆก็มีคนยกเรื่องค่าแรง 300 มาแล้วผมก็ขอพูดเรื่องนี้ต่อเลยแล้วกัน จะยกตัวอย่างให้เห็นว่าทุกอย่างมันมีที่มาที่ไปในความหมายของผมเป็นยังไง

การขึ้นค่าแรง ก็เป็นส่วนหนึ่งในการพิสูจน์ฝีมือในการบริหารงานของรัฐบาล ถ้าขึ้นค่าแรงแล้วทำให้บริษัทต่างๆย้านฐานการผลิต ปิดกิจการ ฯลฯ

ก็จะเป็นการพิสูจน์ว่านโยบายที่ทำมันทำให้ประเทศเสียหาย รัฐฯไม่สามารถรับมือได้

ถ้าผลมันออกมาเป็นแบบนั้น ผมเชื่อว่าเขาจะไม่ได้รับการเลือกตั้งในครั้งหน้า ผมเชื่อในวิจารณญาณของแต่ละคน

แต่ถ้าเขาขึ้นค่าแรงแล้วเศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ ประชาชนกินดีอยู่ดีขึ้น อันนี้ก็จะเป็นเครื่องการันตีว่าเขาได้ทำผลงานไว้อีกชิ้นหนึ่ง

เพราะฉนั้น 4 ปีตามกรอบที่สร้างไว้ สำหรับผมกำลังดีที่จะพิสูจน์การทำงานของรัฐบาลครับ และคิดว่า 4 ปี คงไม่สายเกินแก้หายนโยบายที่สร้างไว้มันจะสร้างความเสียหายให้ประเทศ

"ผมขอยกตัวอย่างง่ายๆอันนึงนะครับ

ซื้อปลามาให้คนกิน ง่ายกว่าสอนคนให้จับปลา จริงไหมครับ

แต่ถ้าเงินหมด แล้วคนก็ยังจับปลาไม่เป็น จะเอาปลาที่ไหนมากินจริงไหมครับ

แต่ถ้าเอาเงินที่ซื้อปลา มาลงทุนสอนคนให้จับปลา ถึงจะยากกว่าแต่ก็คุ้มค่า

เพราะวันนึงที่เราไม่อยู่ หรือไม่มีเงิน คนก็ยังคงจับปลาได้อยู่ดี"


คุณGopGap09 ตรงประเด็นมากๆครับเปรียบเทียบได้ชัดเจน ผมเคยดูโฆษณาในทีวีเหมือนกันแต่จำไม่ได้แล้วว่าโฆษณาอะไร แต่ชอบมาก

"และคิดว่า 4 ปี คงไม่สายเกินแก้หายนโยบายที่สร้างไว้มันจะสร้างความเสียหายให้ประเทศ"

แล้วหนี้หล่ะครับ กว่าจะครบ4ปี ไม่แย่กันไปหมดเหรอครับคุณ นี่ก็ทำท่าจะกู้ไม่หยุด

แค่ตอนนี้ก็เกินจะแก้แล้ว

เรื่องการสนับสนุนให้คนรู้จักทำงาน อันนี้ผมเห็นด้วยเป็นอย่างมากครับ

ผมเลือกคนที่รับจำนำข้าว เพราะถ้าชาวนาไม่ขยันทำผลผลิตเขาก็จะไม่ได้เงิน ผมไม่เลือกประกันราคาเพราะแค่คุณลงทะเบียนไม่ว่าผลผลิตเป็นยังไงคุณก็จะได้เงินเท่ากัน

ผมเลือกขึ้นค่าแรงและพัฒนาฝีมือแรงงานให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผมไม่เลือกแจกเงินพนักงานที่ทำงานฟรีๆ 2000

ผมเลือกกองทุนหมู่บ้านเพื่อเอาไปลงทุนทำมาหากิน ผมไม่เลือกโครงการมิยาซาว่าที่ละลายลงไปเพียงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ผมดูยังไงก็เจอเหตุผลเต็มไปหมดที่ทำให้รัฐบาลชุดนี้ชนะการเลือกตั้ง และเหตุผลก็เพียงพอที่จะทำให้ผมอดทนรอดูผลงานแล้วค่อยตัดสินใจ

รัฐบาลชุดนี้ผมก็เห็นว่าเขากู้เฉพาะเรื่องจำเป็นเร่งด่วนนะ ถ้าเที่ยบกับชุดที่แล้วน่าจะดีกว่าเยอะ

ชุดที่แล้วกู้เพื่อแก้ปัญหาเศษฐกิจ แต่ชุดนี้กู้มาแก้ปัญหาน้ำท่วม ในขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจจากผลกระทบจากยุโรปก็มีอยู่ แต่รัฐฯชุดนี้ก็ยังมีฝีมือพอที่ไม่ต้องกู้มาแก้ปัญหาแบบชุดที่แล้ว

หรือผมพลาดข้อมูลอะไรไปหรือเปล่าครับ

ถ้าพูดถึงผลงานรัฐบาลชุดนี้อย่างเป็นรูปธรรม แบบเป็นกลางไม่เข้าข้างสีใดนะครับ

ผมมองว่ารัฐบาลชุดนี้ประสบความสำเร็จในเรื่องการแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน

ส่วนผลงานอื่นๆ ผมมองว่าธรรมดามากครับ ถ้าเทียบกับเมื่อตอน พ.ศ. 2545

พูดง่ายๆ ตัวสำรองมือสามคงไม่มีทางเก่งกว่าตัวจริงมือหนึ่งแน่นอนครับ

อาจารย์ของผมท่านหนึ่งซึ่งเป็นศาสตราจารย์ระดับ 11 ของราชบัณฑิตยสถาน เคยสอนผมในคลาสเรียนว่า

"ทักกี้ (นามสมมุติ) เป็นนายกรัฐมนตรีที่บริหารจัดการบ้านเมืองเก่งที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีนายกรัฐมนตรี

แต่ขงจื๊อเคยกล่าวไว้ว่า ผู้ปกครองที่ไม่มีคุณธรรม แม้แต่การป็นมนุษย์ก็ยังไม่คู่ควร"

อาจารย์ของผมเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111 และเคยดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย คิดว่าสิ่งที่เค้าได้รู้ ได้ทราบ ได้พบ ได้เห็น ก็คงจะเป็นข้อมูลที่เป็นข้อมูลจริง และค่อนข้างจะอินไซด์พอสมควร

หากความคิดเห็นของผมไม่ถูกต้อง และทำให้ใครรู้สึกไม่สบายใจ ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

ด้วยความเคารพ คุณวิษณุ และสมาชิกทุกท่านในกระทู้นี้ครับ ^^

อ่านมานาน นึกว่าจะไม่มีใครพูดถึง คุณธรรม จริยธรรม แล้ว
ขอบคุณ คุณ GopGap09 มากนะครับ

นี้เป็นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ คนเราสมัยนี้มองข้ามสิ่งนี้ไป
มองการพัฒนาข้างนอกตัว มากกว่าข้างในตัว

เพราะแบบนี้แหละ ถึงมีความคิดขึ้นมาว่า ถ้าเค้าโกงแต่แบ่งให้เราบ้างก็โอเค
ผมว่าก็ได้แต่เศษเดนจาก คนกลุ่มนั้นเท่านั้นแหละ

คนเก่งฝึกได้ครับ แต่ความดีเนี้ยอยู่ที่สันดาร ฝึกยาก

พอดีผมเป็นคนโชคดีที่มีโอกาสได้สัมผัสกับนักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่น และระดับประเทศแบบใกล้ชิดมาบ้างนะครับ

ขอเอาประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนแล้วกันนะครับ จริงๆผมว่าคนส่วนใหญ่พอได้ยินคำว่านักการเมืองเรามักสร้างภาพว่าเป็นยักษ์เป็นมาร ซึ่งไม่เป็นความจริงเลยสักนิดครับ

นักการเมืองก็คนธรรมดาที่มีทั้งด้านดีด้านไม่ดีบ้าง

ส่วนเรื่องคำพูดของอาจารย์ที่พูดถึงสุภาษิตขงจื๊อนั้นผมเห็นด้วยกับภาษิตนั้นครับ

แต่ก็เหมือนเดิมครับอีกนั่นล่ะ อาจารย์ระดับนั้นก็คนครับมีถูกมีผิด มีไบแอสกันทั้งนั้น ไอ้เพื่อนผมก็เป็นอาจารย์กันหลายคน วันก่อนเพิ่งคุยกับคนที่สอนที่จุฬาฯ เขาก็สอนทั้งป.ตรี, โท, เอก ก็คนธรรมดานี่ล่ะครับ มีทั้งความคิดที่ถูกที่ผิด

อ.ระดับนั้นเขาเรียนเยอะก็มีความรู้เยอะสำหรับสอน แต่ก็ต้องใช้เวลาไปกับการเรียนการสอนการวิจัยใจเยอะ ทำให้โอกาสที่จะสัมผัสกับคนที่หลากหลายมีลดลง ก็ไม่ใช่ว่าจะวิเคราะห์อะไรได้ถูกต้องไปเสียทุกเรื่องครับ

ด้วยความเคารพนะครับท่าน vitsanu_p

สมมุติว่าคุณพ่อของผมเป็นคนแจกไพ่ในบ่อน ผมเองเกิดมาก็ได้เงินจากบ่อนเนี่ยมาใช้กินใช้อยู่มาตลอด
ผมคงเห็นว่าบ่อนเป็นสถานที่ๆ ดี ในขณะที่อีกหลายๆ คนเขาก็เห็นว่าบ่อนเป็นสถานที่อโคจร และคนทำงานในบ่อนก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์นรกจริงไหมครับ

นักการเมืองก็เป็นคน มีสองมือสองตีนแบบคนทั่วๆ ไป ที่ไม่พิการทางร่างกาย แต่จิตใจนั้นพิการยิ่ง
เพราะสามารถเข้าไปอยู่รวมกันในพรรคการเมือง และทำทุกอย่างที่มติพรรคว่ามา แม้มันจะขัดต่อศีลธรรมในใจของตัวเองก็ตาม
ก็เหมือนเราๆ ท่านๆ ก็คนเหมือนๆ กัน ไม่มีใครดีพร้อมหรอก
ปากก็บอกว่าเป็นพุทธ อย่าว่าแต่จะถือศีลให้ครบเลย เรียงศีล 5 กันก็ไม่ถูก อะไรมาก่อนมาหลัง
นานๆ ทีก็ตักบาตรสักทีแล้วก็คิดว่านั่นจะส่งผลให้ตัวเองได้ขึ้นสวรรค์
คล้ายๆ กับคนจีนที่กินหูฉลามมาทั้งปี แล้วก็มากินเจอยู่สิบวันแล้วก็คิดว่าจะได้ขึ้นสวรรค์นั่นแหล่ะ

อาจารย์มหาวิทยาลัยนี่ผลงานมีอะไรบ้างครับ แบบอาจารย์จุฬาหรือธรรมศาสตร์ที่พยายามล้มเจ้าหรือปล่าว
ที่บ่นรถติดเพราะเจอขบวนเสด็จหรือพวกนิติราษฎร์ที่พยามลดทอนพระราชอำนาจลง

ผมขอยืนยันว่าประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองที่ห่วยแตกสิ้นดี เอื้อให้นายทุนเท่านั้นที่จะเติบโตเป็นใหญ่ในสังคม
โดยโยนเงินมาให้ขี้ข้าบริวารมาเล่นละครหลอกประชาชนไปวันๆ


ประชาธิปไตยดีๆ แบบที่ท่านปรีดีคิดจะให้เราเป็นนะ มันโดน จอมพล ป เปลี่ยนมาเป็นแบบที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้
และดูไม่มีทางที่จะเปลี่ยนกลับได้เลย เพราะองค์ประกอบมันด้วนกุดไปเสียหมด
ไม่ว่าประชาชน ที่ไม่ใช่ข้ารองพระบาทแล้ว แต่เป็นร้อยพ่อพันแม่ที่จะทำทุกอย่างให้ตัวเองและพวกพ้องอยู่รอด
ข้าราชการที่ก็ไม่ใช่ข้ารองพระบาทมานานแล้ว แต่เป็นขี้ข้าของพวกนายทุนหรือสัตว์เลี้ยงเชื่องๆ ของนักการเมือง
และตัวแสบนักการเมือง ที่อ้างเสียงของประชาชน ใช่ประชาชนที่พร้อมจะไปลงคะแนนเสียงให้ถ้าเอ็งจ่ายดีพอ
เสียงของประชาชนที่ซื้อมา บวกรวมกับประชาชนที่แทบไม่รู้ว่า ร 5 เขาเลิกทาสไปแล้ว
ประชาชนที่ไม่รู้ว่าจะแยกแยะว่าอะไรดีอะไรเลวออกจากกัน รู้แค่ว่าถ้ามีอะไรให้ทำ แล้วมีข้าวแจก มีเหล้าให้กิน นั่นคือสิ่งดี
ต่อให้จะเป็นการขึ้นรถเข้าไปเมืองหลวงและเผาอะไรทิ้งเล่นๆ

ไม่แตกต่างอะไรกับทหารแก่ๆ ที่มาเล่นการเมืองอย่าง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จนได้ดำ​​รงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในสังกัดพรรคพลังธรรม

หรือ สนธิ ลิ้มทองกุล ที่เคยพูดไว้ว่า ทักษิณคือนายกที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมี แต่พอมีการเล่นแร่แปรธาตุแล้วดันตกขบวน
ไม่สามารถแลกเงินทันจนต้องยอมล้มละลายหลังจากโอนทุกอย่างเข้าบัญชีลูกเสร็จแล้ว

อะไรพวกนี้ที่ตั้งขบวนกัดกันสนั่นเมือง จนคนเขาเดือดร้อนไปทั่ว


ไอ้ที่พยายามจะแก้กันมันก็แก้ที่ปลายเหตุ แก้ไปวันๆ แก้แล้วก็แก้อีก ไม่มีวันจบสิ้นหรอก
แถมจะลามเหมือนมะเร็ง ยิ่งรอนานยิ่งลามเร็ว จะแก้มันก็ต้องแก้ที่ต้นตอของปัญหา
ว่าแต่ว่าใครบ้างหนอที่จะรู้ว่าต้นตอมันอยู่ตรงไหนเอ่ย

ใครเอ่ยรวยเอาๆ รวยไม่บันยะบันยัง ไม่ว่าพรรคไหนขึ้นมากูก็จะรวย รวยไม่ต้องเกรงใจใคร
ใครทำมาค้าขายแข่งก็บีบให้มันล้มไปซะให้หมด แล้วก็ซื้อถูกๆ เข้ามาเปลี่ยนชื่อเป็นของตัวเองให้หมด

ใครเอ่ยที่ซื้อสัมปทานมาถูกแสนถูกโดยให้บริษัทร่วมทุนออกหน้า แล้วก็บีบคู่ค้าตัวเองให้ต้องล้มไป แล้วก็ยึดเองสัมปทานมาหากินต่อโดยไม่ต้องลงทุนลงแรง

ใครเอ่ยที่ส่งลูกส่งหลานเข้าไปในทั้งสองขั้วของพรรคการเมืองเอาไว้ถ่งดุลอำนาจของตัวเอง

ใครเอ่ยอพยพมาจากเมืองจีนแล้วมาตั้งโรงเหล้าโรงเบียร์ แล้วก็หลอกคนโง่ๆ ว่าชาวพุทธไม้ต้องถือศีล 5 ทุกวันหรอก

ใครเอ่ยอพยพมาแล้วก็เปิดบ่อนเปิดซ่องเอาข้าราชการไปเลี้ยงดูปูเสื่อจนติดเป็นหนี้เป็นสิน จนต้องมาทรยศแผ่นดิน
หลอกขายเมล็ดพันธุ์พืชห่วยๆ ที่ชาวสวนชาวไร่ซื้อไปปลูกแล้วทำร่างไรก็ไม่รวยสักที

ใครเอ่ยหากินกับกะหรี่สำเพ็งจนร่ำรวยจากการขายทอง เปิดธนาคารรับโอนเงินกลับไปเมืองจีน

ใครเอ่ยสามารถเอาศพคนตายด้วยอุบัติเหตุต่างๆ แปรสภาพเป็นศพไร้ญาติ เพื่อให้คนจากจีนแผ่นดินใหญ่สามารถเดินทางเข้ามาสวมชื่อตามบัตรประชาชน

เบาๆ แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวคิดตามกันไม่ทัน

ทุกระบอบการปกครองล้วนแต่มีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนครับ แต่ในเมื่อเราเลือกใช้ระบอบการปกครองแบบสากลแบบนี้ก็ต้องตามโลกให้ทัน

แค่จะเริ่มต้นคิดว่าการปกครองแบบปชต.แบบระบบที่ห่วยแตกสิ้นดี ผมก็ว่ามันก็ขัดกับสากลโลกแล้วล่ะ เอาเป็นว่าเวลาเราคิดไม่เหมือนใคร ถ้าอยากได้คำตอบว่าเพราะอะไร ผมอยากให้ลองเปิดใจศึกษาดู

โลกมันกว้างใหญ่ มีอะไรให้ศึกษาอีกเยอะครับ

ป.ล. เพื่อนผมคนนั้นสอนเกี่ยวกับชีวะวิทยาครับ ส่วนนักการเมืองระดับประเทศที่มีโอกาสได้สัมผัสก็ไม่ได้อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน

อย่าไปตามสากลให้มันมาก เอาตามที่เราเห็นว่าเหมาะสมกับประเทศเราดีกว่า

เราก็คือเรา เราย่อมรู้ดีกว่าสากลว่าอะไรเหมาะกับเรา สากลก็คือสากลอาจจะไม่เหมาะกับเราซะทุกเรื่องทุกอย่าง

สากลคืออะไรครับ

การตื่นแต่เช้ามาหุงข้าว ทำกับข้าว ออกไปตักบาตร นี่สากลหรือปล่าว
การที่จะต้องเตรียมตัวเอาสัตว์ขึ้นโคก ขนของจากใต้ถุนบ้านขึ้นเรือนรอน้ำหลากนี่สากลหรือปล่าว

ถ้าสากลคือทำอะไรที่เขาทำๆ กัน อย่างยอมรับในศาสนาที่ไล่ฆ่าคนในศาสนาอื่นคือหน้าที่
อย่างที่คริสต์ ยิว และมุสลิมทำกันมาพันกว่าจะสองพันปี ผมขอไม่เป็นสากลกับเขาหรอก

ถ้าการเป็นสากลคือการใส่สูท ผูกเนคไท ในขณะที่บ้านเมืองผมอุณหภูมิอยู่แถวๆ 35 องศาเซลเซียส
ผมขอนุ่งโจงกระเบนและอยู่หลังเขาต่อไปไม่เป็นสากลกับเขาหรอก

ถ้าการเป็นสากลคือการสุขสบายนั่งค้าหุ้น ค้าทอง ซื้อขายเงิน หากำไรกับอัตราแลกเปลี่ยน
ผมขอเข้าสวน ทำไร่ ไถนา หาข้าวกินไปสุขสบายตามวิถีชาวสยามเบบดั้งเดิมดีกว่า

เอาแค่ทุกวันนี้ผมก็ปวดกระโหลกมากพอแล้วกันคนรุ่นใหม่ที่แห่กันเข้ามาอาศัยในสยามประเทศของผม
โดยไม่รู้ว่าจะอยู่กันอย่างไรให้มีความสุขตามอัตภาพ และเดือดร้อนจะเป็นจะตายกับอะไรๆ ที่ธรรมดามาๆ อย่างการที่จะต้องเจอน้ำท่วม
รู้ทั้งรู้ว่าบ้านเมืิองนี้ตั้งอนู่ริมแม่น้ำ เป็นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึง ดันโง่พอจะปลูกบ้านติดดิน ไม่ยกพื้นสูง
แล้วก็มาบ่นโอดครวญกันจะเป็นจะตายตอนน้ำมา ประหลาดสิ้นดี

ผมยอมรับโลกสมัยใหม่ ผมมีคอมพิวเตอร์ใช้ ผมมีอินเตอร์เนทใช้ ที่บ้านมีไฟฟ้าและน้ำประปา
แต่ผมไม่คิดว่าโคตรเหง้าของผมที่ไม่มีของพวกนั้นใช้เขาโง่ อย่างไรแล้วเขาเหล่านั้นช่วยกันปกบ้านป้องเมืองให้เราอยู่กันมาถึงวันนี้
วันนี้ที่ว่าคือวันที่คนมีทุกอย่างสุขสบายแต่แทบจะไม่มีปัญญารักษาสิ่งที่โคตรเหง้าชาวสยามทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังได้
และคนรุ่นหลังที่ว่าหลายๆ คนก็แห่กันไปเป็นสากล ลืมเลือนพื้นฐานดั้งเดิมกันไปหมด
ได้ของใหม่แล้วลืมของเก่ามันไม่เลวร้ายอะไรนักหรอกถ้าของใหม่ที่ว่ามันทำกันเองโดยคนแผ่นเดียวกัน
แต่ถ้าของใหม่มันทำจากคนต่างชาติ แล้วยกเอามาทั้งกระบิทั้งสินค้าและวัฒนธรรม อีกไม่นานก็คงต้องขายชาติทิ้ง เพื่อเป็นสากลตามเขาไป

โลกนี้กว้างใหญ่จริง และจุดเริ่มต้นของประชาธิปไตยเมื่อกว่าห้าร้อยปีก่อนที่เยซูจะเกิด ก็น่าจะสมัยเดียวกับที่เจ้าชายสิทธัตถะกลายมาเป็นพระพุทธเจ้า
ก็แสดงให้เห็นมาตลอดว่าประชาธิปไตยคือการและเปลี่ยนอำนาจของพวกนายทุนมาตลอด โดยใช้ประชาชนเป็นเหยื่อ
โดยที่ประชาชนส่วนใหญ่จะโง่เง่าและดักดานเกินกว่าจะรู้ตัวว่าตกหลุมพรางมาตลอด
ในขณะที่ผู้นำที่ดีจะโดนใส่ร้ายป้ายสี ดูเอาว่า ท่านปรีดี โดนอะไรไปบ้าง หลังจากใช้เงินแทบจะทั้งหมดที่มีสร้างมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองขึ้นมา และรับใช้เบื้องพระบาท พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล มา
และ จูเลียส ซีซาร์ โดนอะไร หลังจากใช้ชีวิตทั้งหมดรับใช้โรม ขยายอาณาเขต หาพืชพันธุ์ธัญญาหารส่งเข้ามาให้ประชากรของโรมอยู่สุขสบายกัน

เชื่อว่าถ้าศึกษามาดีพอ และไม่เอาประวัติศาสตร์ที่ถูกบิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีฝ่ายตรงกันข้ามกันหน้าด้านๆ อย่างที่ มารี อ็องตัวแน็ต โดนในยุคการปฏิวัติฝรั่งเศส ที่พระมหากษัตริย์โดนฆ่ากันสิ้นโคตร และเหล่าไพร่เหล่าผู้อพยพก็ขึ้นมามีอำนาจแทน
และสร้างวาทกรรมว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมืองมากลบเกลื่อน

ถ้าเชื่อกันจริงๆ ว่าคนมีสิทธิเท่ากันแล้ว ก็ลองมองดูรอบตัวนะครับ ว่ามันเท่ากันจริงหรือ
ตำรวจยังมียศ สูงต่ำดูเอาง่ายๆ ว่าใครต้องทำความเคารพใครก่อน
ใครจะเป็นคนสั่งให้ใครไปเก็บส่วย และเวลารับสินบนใครได้รับมากกว่ากัน
และนั่นแหล่ะมันมาจากให้นักการเมืองเป็นเจ้านายข้าราชการ
ซึ่งถ้ายังให้พระมหากษัตริย์ทรงมีอำนาจนั้นอยู่ รับรอง ตำรวจที่ว่าหัวหลุดจากบ่าพร้อมเจ็ดชั่วโคตร
ตำรวจคนอื่นเห็นแล้วยังกล้าทำก็เกินไป อย่างน้อยวงศาคณาญาติเขาไม่ยอมให้ทำหรอก
อย่างน้อยๆ การเดินไปสั่นระฆังหน้าวัง แจ้งเรื่องราวความเดือดร้อนให้พระมหากษัตริย์ท่านทราบ
ยังเร็วกว่าการไปศาลหาทนายมาฟ้องร้องกันและคนผิดอาจกลายเป็นถูกได้ถ้ามีสินบนมากพอ

ของเก่าหลายอย่างเป็นของดีครับ ควรเก็บไว้ ของใหม่หลายอย่างก็ใช่ว่าจะดี มีไปก็แค่นั่้น ไม่ช่วยอะไรให้ชีวิตดีขึ้น
แค่ที่ว่าจะรู้จะเห็นกันหรือปล่าว คนส่วนใหญ่ชอบที่จะเห็นกงจักรเป็นดอกบัว

บ่นมากไปแล้ว ที่คิดกันไปก่อนนี่แหละมันจะจริง

ตั้งใจทำมาหากินกันดีกว่า อย่ามาพร่ำพรรณนาเรื่องแบบนี้ดีกว่า

กรีซ มันประเทศทรัพยากรจำกัด ต่างจากไทแลนด์

พื้นฐาน ใจคนก็ดำอยู่แล้ว แก่งแย่งกันเป็นเรื่องปกติ เดินจะชนกันไม่หลบ

คุณเกิด แก่ เจ็บ ตาย ครับ

ขออนุญาตอย่าพาดพิงไปที่ศาสนาอื่นเลยนะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นการเพิ่มประเด็นพิพาทขึ้นไปอีก เรื่องศาสนาเป็นเรื่องของศรัทธาครับ

อย่ายกตนข่มท่านในประเด็นศาสนาเลยนะครับ ผมเชื่อว่าเป้าหมายของทุกศาสนาคือการสอนให้คนเป็นคนดี ละเว้นความชั่ว เพือทำให้การอยู่ร่วมกันในสังคมมีความสงบเรียบร้อย และอยู่กันอย่างมีความสุขครับ

ส่วนเรื่องอื่นผมขออนุญาตไม่แสดงความคิดเห็นนะครับ

ขออนุญาตดึงประเด็นกลับมาเรื่องที่เข้าของกระทู้ต้องการรับทราบดีกว่าครับ

ว่าในอนาคต ประเทศไทยจะมีแนวโน้มเป็นแบบประเทศกรีซไหม

ใครมีความเห็นเรื่องนี้ประการใด แชร์ๆกันได้นะครับ ^^

ประเทศไทยจะเป็นอย่างกรีซมั้ย ค่อยๆดูไป
ตอนนี้ลุ้นอยู่ว่าเฮียจะมาขอล็อคกระทู้ก่อน
หรือ ict จะมาขอล็อคเวบก่อน

ดูอนาคต ประเทศไทยต่อไป คงเหมือน เกาหลีเหนือ มีผู้นำเพียง ตกด.

คุยกันสูงจังครับ งงแท้
กัปตันทั้งหลายอย่ากางไปใบไกล...

ค่าแรงสามร้อยบาทที่แลกมากับ...

- ค่ากับข้าวที่ขึ้นตลอดกาล
- โอกาสตกงานแบบรัสเซี่ยนรูเล็ตต์

ผมไม่เข้าใจนิดหน่อยว่าอย่าเนเธอร์แลนด์มีความก้าวหน้ามากกว่าเรา เข้าใจคุณค่าของศิลปะ ทั้งๆที่กัญชาที่เป็นยาเสพติดถูกกฎหมาย กับบ้านเราที่มานั่งไล่จับยาเสพติดจนบางครั้งกลายเป็นดาบไว้ทำร้ายผู้คน ตำรวจค้ายาเอง ยัดยาให้นักเที่ยว ข่มขู่กรรโชก...

ขึ้นค่าแรงสามร้อยบาท ในขณะที่คนทำงานทักษะก็มีค่าแรงเท่ากับแรงงานปกติ งานทำมือยังต้องรอให้ฝรั่งมากว้านซื้อ จนสินค้าบางตัวที่ดีมากๆไม่เคยวางขายในประเทศแม่ตัวเอง...

ต้องเริ่มที่ตัวเราเอง สิ่งที่เราขาดไม่ใช่ความรู้แต่เป็นจิตสำนึก ปัญญา หน้าที่ รับผิดชอบ เสียสละ ทำเท่าที่ทำได้ก็พอ ไม่ให้โอนเอียงไปทางตัวกู ของกู จนเสียมนุษย์ไปหมด
แต่คงยากมากๆ เชื่อว่าวันไหนที่ผมตื่นไปทำงานแล้วไม่โดนพ่อแม่พี่น้องป้าน้าอาปู่ย่าตายายคนไหนมาแซงคิวขึ้นรถ หรือคนกลางโบกี้ยอมชิดในให้หน้าประตูโล่งก็คงเป็นวันนั้นเอง...ผมเห็นว่าถ้าแก่มากไม่ควรมายืนคิวรอผมก็ให้แซงนะครับ เดี๋ยวจะมาว่าใจดำกันครับ อิอิ

ด้วยความเคารพครับท่าน GopGap09

ศาสนาแยกไม่ออกจากสิ่งที่เรากำลังคุยกันอยู่หรอกครับ
และผมพูดในสิ่งที่เกิดขึ้นจริง มีการบันทึกไว้เป็นที่แน่นอนชัดเจน ใช้ข้อมูลมา "ศรัทธา" ได้
ไม่ใช่หลายๆ ข้อมูลที่เชื่อกันอยู่ และก็เชื่อกันไป โดยที่ไม่น่า "ศรัทธา" เลยแม้แต่นิดเดียว
เพราะสำหรับหลายๆ คน "ศรัทธา" กับ "งมงาย" มันอันเดียวกันแยกกันไม่ออก

คิดดูเอาว่ากว่าที่จะยอมรับว่าโลกกลม ไม่แบน คนโดนฆ่าโดยการถ่วงน้ำ เผาทั้งเป็น แขวนคอ หรือโดนฉีกแขนฉีกขาไปเท่าไหร่
ตอนที่ ชาลส์ ดาร์วิน เขียนหนังสือ The Origin of Species อธิบายทฤษฎีวิวัฒนาการโดนพยายามฆ่ากี่รอบต้องหลบหนีคนของศาสนาอยู่กีปี
ของเราก่อนโน้นก็โดนขอมปกครอง ใช้กฎของฮินดูมาปกครอง จนกระทั่งได้พระพุทธศาสนามาปลดแอก
แต่กลิ่นอายของฮินดูยังไม่จางไปไหนเลย แทบจะทุกบ้านยังมีศาลพระภูมิกันอยู่ คนก็ยังห้อยพระเครื่อง
ตามวัดก็ยังมีพระประธาน
แทบจะทุกหัวถนนมีเหล่าเทพของฮินดูอยู่ให้คนขับรถกราบไหว้ ทั้งๆ ที่ไม่เห็นพระพุทธเจ้าบอกให้ทำไว้ตรงไหนเลย

เราเพิ่งจะหลุดพ้นจากยุคศาสนานำชนชั้นปกครองมานิดเดียวเองครับ ร้อยกว่าปีที่แล้วจะยกทัพยังต้องรอโหรมาโหรดูฤกษ์
กลายมาเป็นคนมีเงินนำชนชั้นปกครองโดยการสนับสนุนของมวลชนที่เงินซื้อได้ แต่ก็ยังใช้โหรดูฤกษ์อยู่ดี
แล้วมันจะไปไหนกันรอด ดักดานและงมงายสิ้นดี

มาดูกรีกอดีตกาลของกรีซก็ล่มสลายพร้องๆ กับการมาของศาสนานั่นแหล่ะ เพเกินทั้งหลายโดนฆ่าเรียบ
มาดูกรีซ ทำไมเขาหล่นลงเหวกัน คนรวยๆ ในยุโรปใช้กรีซเหมือนคนกรุงเทพใช้พัทยาใช้ภูเก็ตใช้เกาะสมุยเป็นแหล่งท่องเที่ยว
ว่างๆ ไม่มีอะไรทำก็ยกพวกกันไป เข้าบ่อนเข้าซ่องเสพยาอะไรกันไป เสร็จแล้วก็กลับบ้าน
คนที่พอมีสมองหน่อยก็เปิดบ่อนเปิดซ่องขายยาเสพติดซะ มองว่ามันเป็นงาน กำไรดี
แต่จะเข้าไปเล่นเอง เสพเอง สมสู่เอง เขาก็ไม่โง่ทำหรอก
แถมบ้านเราคนที่พอจะมีสติรับรู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร ก็หาน้อยเหลือเกิน ถ้าพอจะมีบ้างแบบเนเธอร์แลนด์ก็ดีไป แต่มันไม่มีนี่ซิ
ขนาดผิดกฎหมายก็ยังตะบี้ตะบันเสพมันอยู่นั้น ไม่เกรงกลัวอาญาแผ่นดิน โทษก็อ่อน จับได้คาหนังคาเขาโทษก็นิดเดียว
ถ้าเป็นตาสีตาสาก็ติดคุกสักหน่อย สามเดือนครึ่งบปีก็ว่ากันไป ถ้าเป็นดารา นักร้อง นักแสดง ก็ไปบำบัดสักอาทิตย์เดียวพอ
แต่ที่เหมือนกันหมดก็คือ ออกแล้วกลับไปเสพกันหมด
ก็ดูดีนิ แล้วทำไมหล่ะ ทำไมยูโรเขาถึงจะเฉดหัวออก ก็ยูโรคนอื่นเขาทำมาหากินกันนิ เขาลงทุนลงแรง ทำรถมาขาย คิดเทคโนโลยี่อะไรมากมายมาขาย หาเงินตัวเป็นเกลียว เขาก็คิดแหล่ะว่าไอ้พวกนอนกินนั่งกินมันมาแบ่งความร่ำรวยของฉันไปเฉยๆ ได้ไง
ไอ้ตอนมีสกุลเงินของตัวเองก็ยังพอว่า แต่พอมาใช้ยูโรเหมือนกันแล้วมันฉุดค่าเงินอยู่เยอะเกินทน เลขก็ต้องโวยวายเป็นธรรมดา

งานนี้อังกฤษรอดตัว สบายใจเฉิบสุดๆ เพราะหัวเด็ดตีนขาดแกก็ไม่ลงไปเล่นยุโรด้วย ปอนด์สเตอร์ลิงยังใช้เล่นซื้อค่าเงิน ซื้อทองได้สบายใจยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น

ประเด็นกัญชา เนเธอร์แลนด์เนี่ยมีบาร์ขายโดยเฉพาะเลย แต่ราคาก็โหดใช่เล่น นักท่องเทียวกระเป๋าเบา ได้แต่มองตาปริบๆ แล้วก็ดมๆ เอาที่คนอื่นเขาสูบ
คนเขาก็ไปอวดร่ำอวดรวยกันซื้อไอ้ที่แพงๆ มาสูบอวด แบบที่หลายๆ คนซื้อซิการ์แพงๆ ซื้อไวน์แพงๆ มาสูบมาดื่มนั่นแหล่ะ ไอ้รสมันจะดีหรือไม่ดีกรูไม่สนหรอก กรูรู้แค่ว่าไอ้ที่กรูกินกรูสูบเนี่ยพวกเอ็งไม่มีปัญญาได้แอ้มหรอก
อย่างน้อยๆ ถ้าสูบแล้วเมาปลิ้น เดินออกจากร้านไปทำอะไรห่ามๆ เข้า ตำรวจที่ไม่ยอมรับส่วยที่เนเธอร์แลนด์เขาจับติดคุกแน่นอน
ไอ้เราไม่มีแบบนั้นมาสูบเพราะต้องรีบปลูกรีบเก็บ กลัวโดนขอส่วนแบ่งแบบหน้าด้านๆ จากตำรวจชั่วๆ
แต่ตำรวจดีๆ ที่คอยเผาทิ้งทันทีที่เจอก็มีไม่ใช่น้อยฃ
เลยได้แต่แย่ๆ มาให้สูบกัน ซึี่งก็ไม่รู้จะสูบไปทำสวรรค์วิมารห่าเหวอะไรกัน
รู้จักอยู่คน มันว่ามันไม่ติด แต่เห็นสูบทุกวัน เดินเป๋ไปเป๋มาตลอด สมองน่าจะชำรุดฐาวรไปแล้ว

อีกไม่กี่วันนี้เราจะกู้เงินเพิ่มอีกแล้ว เพราะเงินที่กู้มาคราที่แล้วหมดไปกับการรับซื้อ (แต่ดันเดียวกว่ารับจำนำ) หมดไปแล้ว
และชาวนาที่สู้อุตส่าห์ไปหาซื้อข้าวจากเขมร จากเวียดนาม จากลาว เขาก็อยากจะได้ตันละหมื่นห้าเหมือนกัน
เขาก็รอเข้าคิวอยู่ โรงสีข้าว กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต อะไรต่อมิอะไรก็รอเศษเงินร่วงอยู่
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องไปกู้เพิ่มอีกนะซิ กู้มากเข้าก็เล่นการเมือง ยอมให้ฝ่ายตรงข้ามมาเป็นแทน
รับภาระไปเต็มๆ แล้วจะไปหาเงินที่ไหนมา รัฐวิสาหกิจก็แปรสภาพไปหมดแล้ว
ก็ต้องดูรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในตอนนั้นดูว่าจะเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุหรือนักขายของเก่ากิน

ตอนนี้ที่ผมมองๆ เอาไว้ เราคงจะโดนหนักกว่ากรีซเสียด้วยซ้ำ
ขานั้นเขายังมีความเป็นยูโรมาค้ำคอ มีนักปรัชญาหลายๆ คน อย่าง อริสโตเติล โสคราติส เพลโต สอนอะไรไว้เยอะ
ยังไปกันไม่ค่อยจะรอด
ของเราไม่เจอดีๆ สักคน เจอแต่พวกจะให้เล่นหวยง่ายๆ หาซื้อเหล้ากินง่ายๆ กับลงอ่างง่ายๆ

ซึ่งภูมิคุ้มกันง่ายๆ อย่าง ครอบครัว ศาสนา การศึกษา ดูจะไม่พอให้คนหลีกหนีจากของพวกนี้จริงๆ
เพราะเห็นๆ อยู่ว่าคนที่ไปมัวเมากับของพวกนี้ มีครอบครัวแน่ ไม่เห็นว่าจะเป็นกำพร้า ศาสนาก็มี ห้อยพระกันแทบทุกคน รถที่ขับมาก็มีพระประธานอยู่ที่กระจกหน้ารถ การศึกษาก็มีปริญญาตรีกันหมด (เป็นอย่างต่ำ)
ส่วนใหญ่จะ MBA เพราะยุคนี้ใครไม่มี MBA นี่ถือว่าตกยุคมาก


เรื่องราคาอาหาร พูดไปแล้วครับ ทำไมบ้านเมืองของเราที่อุดมสมบูรณ์สุดๆ ราคาอาหารถึงสูงขึ้นแบบนี้
ก็ไอ้จุดจุดจุด ที่ควบคุมอาหารสัตว์ คุมเมล็ดพันธุ์พืช คุมเล้าไก่ คุมฟาร์มหมู คุมเรือกสวนไร่นามันไม่รู้จักคำว่า "พอ" แค่นั้นแหล่ะ
นี่อีกไม่กี่วันก็คงจะขึ้นอีก เพราะเพิ่งจ่ายค่าสามจีไป อย่างไรแล้วก็ต้องมาการ "ขอคืน" กันไม่ใช่น้อย

ที่ขำจริงๆ ก็คือ กุ้งแช่แข็งที่ทำเอาป่าชายเลยบ้านเราฉิบหายวายป่วง ส่งออกกันจนร่ำรวยกันไปมหาศาล
ไปซศื้อกินที่โน่นมันถูกกว่าซื้อกินบ้านเราแฮะ แปลกแต่จริง ไม่เชื่อแต่ก็ต้องเชื่อเพราะเจอมากับตัว
ยืนข้างตู้แช่ถึงกับอึ้ง คนต้องมาถามว่าเป็นอะไร ตลึงอะไรกับกุ้งแช่แข็ง จะอธิบายให้มันฟังก็กลัวจะน้ำตาแตกก่อน เศร้าใจกับแผ่นดินนี้จริงๆ

ผมยังยืนยันครับ ทางออกเดียวคือคืนพระราชอำนาจให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ท่านแก้ปัญหาให้เรา
เพราะเราแก้กันมาตั้งแต่ พ.ศ. 2475 โดยคณะราษฎร ซี่งก็มีทั้งคนดีคนเลวประปนกันไป และตอนจบคนดีก็แพ้คนเลว
มาถึง พ.ศ. 2516 คนเลวก็ชนะอีก ซ้ำรอยซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มาถึงวันนี้ วันที่เหลืองก่นด่า วันที่วันแดงเผาเมืองแล้วได้ดีเป็นอำมาตย์ คิดว่าคนดีจะชนะหรือ ด้วยความน่าจะเป็น ด้วยสถิติแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้

วันที่ผ่านเรื่องพวกนี้ไปนั่นแหล่ะ คนรุ่นใหม่ถึงจะได้รับการปลูกฝังอะไรดีๆ สังคมจะได้มีวินัย
สังคมที่ดีมันจะขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปเองโดยไม่ต้องบังคับกัน
หวยจะต้องเลิกกันไปเอง จะขายเป็นใบๆ หรือจะตู้ออนไลน์มันก็ขายไม่ออกเพราะไม่มีคนซื้อ
ร้านเหล้า โรงเบียร์ บ่อน ซ่อง พากันหายไปหมด เพราะคนเขามีสติรู้ดีว่าไม่ควรข้องแวะ ดีกว่าออกกฎหมายมาบังคับให้คนมาหากินกับส่วย

ทั้งหมดนี้ผมเชื่อว่าในหลวงท่านทำได้ เพราะเห็นๆ อยู่ว่าท่านพยายามทำมาตลอด
ที่ไม่สำเร็จก็เพราะไอ้ประชาธิปไตยเนี่ยแหล่ะมันคอยขัดแข้งขัดขาท่าน
แต่ก็นะ เศรษฐกิจพอเพียง ที่ท่านเพียรสอนก็ยังไม่ค่อยจะซึมเข้ากระโหลกกันเลย
ยังทำตัวเป็นบาบูนแบมือขอของกินกันไปวันๆ แล้วมันจะไปรอดได้อย่างไร รอดก็ปาฏิหาริย์แล้ว

รีบๆปิดกระทู้เถอะคับเฮีย ชักจะไปกันใหญ่แล้ว ถวายคงถวายคืนกันให้ยุ่งอีกรอบแล้ว รอบที่แล้วก็ถวายคืนไปแล้ว ได้ฤาษง ฤาษีขี่เต่ามาแล้วก็รอบ จะเอาอีกแล้ว เลอะเทอะไปกันใหญ่

@ เกิด แก่ เจ็บ ตาย คอมพิวเตอร์ที่คุณใช้กันเนี่ย มันสินค้าโลกทุนนิยม อยากพอเีพียงนักก็จุดตะเกียงใช้นำมันมะพร้าว ทอเสื้อใส่เอง หูฟังไม่ต้องใช้ สีซอฟังจากมือตัวเองไปเลย สิ้นเรื่อง จบ

ผมว่าที่คุยกันอยู่ตอนนี้ก็ยังอยู่ในกรอบเหตุและผลนะครับ

ขออนุญาตล็อคกระทู้ดีกว่าครับ ผมเข้ามาอ่านในช่วงแรก และเพิ่งเข้าอีกทีเมื่อครู่ หลายประเด็นเป็นเรื่องเปราะบางและละเอียดอ่อนครับ ทุกท่านต่างหาเหตุผลสนับสนุนกันประเด็นเปลี่ยนไปเยอะแล้วครับ ^^

พระเอกมาซะที ปิดเลยเฮีย