สวัสดีครับ ในโอกาสที่ V-Friend เริ่มขายที่ร้านเฮียมั่นคง ผมจึงขออนุญาตเฮียมั่นเล่าถึงที่มาที่ไปรวมถึงแนวคิดต่างๆ ของ V-Friend ให้ฟังครับ

เมื่อประมาณปลายปี 53 ผมและเพื่อนๆ ที่ชอบเล่นหูฟัง ได้ทำหูฟังออกมาเล่นๆ เพื่อฟังกันในกลุ่ม ต่อมาก็ขยายวงกว้างออกไป มีเพื่อนๆ หลายคนพอฟังแล้วอยากจะขอซื้อ จึงเกิดแนวคิดที่จะทำออกจำหน่ายในราคาประมาณแบ่งๆ กันฟัง

ตอนแรกยังไม่มีชื่อ เพราะพวกเราทำกันเป็นกลุ่ม แม้เรื่องเสียงผมจะเป็นคนกำหนด แต่เวลาทดสอบก็มีคนช่วยกันฟังเป็นสิบทีเดียว จึงไม่สามารถตั้งชื่อโดยใช้ชื่อใครคนใดคนหนึ่งได้ ตั้งชื่อกันประมาณ 2 อาทิตย์ ในที่สุดก็ลงตัวที่ V-Friend คือเป็นหูฟังทำจากกลุ่มเพื่อน ทำขายให้เพื่อนๆ ทุกคนฟังแล้วชอบความหมายจึงจบที่ชื่อนี้

อย่างที่ได้กล่าวมาแล้ว V-Friend มีเป้าหมายที่จะทำหูฟังคุณภาพดีๆ ให้เพื่อนๆ ฟัง ฉะนั้นราคาจำหน่ายจึงเป็นราคาเพื่อนๆ จริงๆ ทุกๆ ตัวจะผ่านการ QC และทดสอบโดยผม ผมเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจทำงานผู้ฟังย่อมรับรู้ได้ถึงความตั้งใจนั้นอย่างแน่นอน

อีกสิ่งหนึ่งที่ V-Friend ไม่เหมือนหูตัวอื่นคือ V-Friend เป็นหูฟังที่เบิร์นให้แล้ว (ราวๆ 100 ชม.) เรียกว่าน่าจะเป็นหูฟังตัวเดียวในท้องตลาดที่ทำเช่นนี้ เพราะเราคำนึงถึงผู้ใช้ ไม่อยากให้เสียเวลา (ให้เราเสียเวลาแทน 555) เรียกว่าซื้อไปแล้วใช้ได้เลย

แม้หูฟัง V-Friend ไม่ได้เสียงดีเด่นมากมายอะไร แต่เมื่อเทียบคุณภาพกับราคาขายแล้ว ช่วงแรกจึงทำกันแทบไม่ทันเลยทีเดียว ผ่านหลักร้อยตัวภายในไม่กี่เดือน แล้วก็เป็นสอง สาม สี่ ห้าร้อยตัวตามลำดับ (ในเวลา 1 - 2 ปี) สิ่งที่พวกเราประทับใจมากๆ ก็คือมีการบอกปากต่อปากไปอย่างรวดเร็ว มีหลายคนที่เคยซื้อไปแล้วมาขอซื้อเพิ่มอีก บางคนเอาไปให้เพื่อนที่ทำงานฟังแล้วก็ตามมาสั่งซื้อพร้อมกัน 4 - 5 ตัวก็มี

ที่ประทับใจอีกอย่างคือ มี comment กลับมาเยอะมาก ทั้งในแง่บวก และแง่ลบ บ้างก็ขอบคุณ บ้างให้กำลังใจให้พวกเราทำกันต่อไป ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแรงใจที่ทำให้พวกเราเดินมาถึงจุดนี้ครับ

สำหรับการมาลงขายที่ร้านเฮียมั่นคงนั้น สิ่งที่ผมและเพื่อนๆ คิดคือ อยากสร้างแบรนด์ให้คนทั่วไปได้รู้จัก ได้รู้ว่า V-Friend เป็นแบรนด์หูฟังของคนไทยนะ เราเห็นแบรนด์ต่างชาติมาเยอะ เราก็อยากมีแบรนด์ของเราเองบ้าง เราเชื่อมั่นในคุณภาพเสียงว่าเราก็ไม่แพ้ใคร (เหมือนโฆษณานิดๆ เนอะ คนไทยทำอะไรไม่แพ้ชาติใดในโลก 555)

ตัว V-Friend นี่เป็นตัวเริ่มต้น ต่อไปจะมี V-Gold , V-Diamond , V-Inear , V-Fullsize ตามมาแน่นอน แต่ตอนนี้หูหลายๆ ตัวยังอยู่ในช่วงค้นคว้าและทดสอบอยู่ หูแต่ละตัวนั้นพวกเราใช้เวลาลองผิดลองถูก ทดสอบกันอยู่นาน อย่าง V-Gold ก็ใช้เวลาราวๆ สามเดือน เสียตัว Demo ไปเป็นสิบๆ ตัวทีเดียว มีคนช่วยทดสอบราวๆ 20 คน ฉะนั้นมั่นใจได้ครับว่าหูฟังที่ออกจากเราทุกตัวจะมีคุณภาพอย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ทีเดียว (เรียกว่ามีเท่าไหร่ใส่ไม่ยั้ง 555)

เราไม่ได้หวังให้ V-Friend สร้างชื่อในเรื่องของยอดขาย แต่เราอยากให้คนคิดถึงเราเมื่อต้องการหูฟังคุณภาพดี ในราคาที่สมเหตุสมผล มีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งแก่นักฟังเพลง

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนในทีมที่ร่วมทั้งแรงกายแรงใจปลุกปั้น V-Friend จนสำเร็จ ขอบคุณเพื่อนๆ อีกเยอะแยะมากมายที่ให้ทั้งคำติชม และให้กำลังใจพวกเรา ขอบคุณเฮียมั่นคง เฮียเบียส และน้องๆ ที่ร้านมั่นคงทุกคนน่ารักมากครับ ขอบคุณ Pantip gadget ที่เปิดพื้นที่ให้ V-Friend ได้แจ้งเกิด ขอบคุณเพื่อนๆ ผู้รักเสียงเพลงทุกคน

ผมมีความสุขกับการได้ทำสิ่งที่ตัวเองรัก แม้อาจจะมีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง แต่ผมก็ไม่ย่อท้อ จะตั้งใจทำอย่างดีที่สุดครับ

ปล. เพราะเป็นหูฟังแบบไทยๆ มีอะไรก็ต้องแบ่งปัน รายได้ส่วนหนึ่งผมจึงร่วมบริจาคไปกับมูลนิธิต่างๆ ตามแต่จะสะดวก (ตอนนี้มีมูลนิธิ CCF ครับ) เพราะฉะนั้นเหมือนกับว่าทุกท่านได้ร่วมทำบุญไปกับพวกเราด้วย

ขอบคุณจากใจจริง

V-Friend Team