Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

ทดลองฟังสายไฟเอซี 3 เส้นของพี่เกียรติชัย

นายมั่นคง

04/07/2012 20:38:26
4,294
ผมได้รับความเอื้อเฟื้อจากพี่เกียรติชัย ด้วยการนำสายไฟและสายสัญญาณมาให้ทดลองฟังเล่นๆ และให้ช่วยเขียนคอมเม้นท์ให้อ่านกันคร่าวๆด้วย เพราะพี่เกียรติชัยจะได้ใช้เป็นแนวทางพิจารณาในการเก็บเอาเส้นใดเส้นหนึ่งเอาไว้ใช้นั่นเอง ซึ่งผมได้รับสายไฟมา 3 เส้น 3 ยี่ห้อ ด้วยกัน ราคานั้นผมไม่ทราบ เพราะว่าผมไม่ได้เสริ์ชดูว่างั้นล่ะ แต่เข้าใจว่าคงสูงเหมือนกัน

ต้องออกตัวบอกก่อนว่าชุดที่ผมใช้นั้นเป็นชุดหูฟังเท่านั้น ไม่ได้เป็นชุดเครื่องเสียงบ้านไฮเอนด์ และเป็นเพียงชุดธรรมดาราคากลางๆ ไม่ได้แพงมากมายเท่าไหร่ ซึ่งประกอบด้วย iMac เล่นผ่าน Pure Music กับเพลง Hi-Res ต่างๆ และมี DAC Ayre QB9 และไปเข้าที่แอมป์ของ Audio GD รุ่น Master 8 และฟังด้วยหูฟัง Hifiman HE-6 ร่วมกับหูฟัง Grado HF-2

โดยผมใช้เวลาฟังเส้นละ 2 คืนเท่าๆกัน เรียกว่าแบ่งเวลาฟังราวกับมีเมียหลวงเมียน้อยจำนวน 3 คนพร้อมๆกัน ซึ่งผมสังเกตุว่าสายไฟบางเส้นที่มาที่ผม เป็นของใหม่ๆ และท่าทางจะเพิ่งแกะกล่องจริงๆๆ และผมก็ไม่มีเวลาเบิร์นแต่อย่างใด เรียกว่าอ่านความเห็นคร่าวๆจากผมละกันนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

นายมั่นคง

04/07/2012 20:47:51
4,294



เส้นแรก Elrod statement

น่าจะเป็นรุ่นเล็กของซีรียส์ คือเป็น Statement Silver สายใหญ่เบิ้มเป็นงูเหลือมตามที่เห็นในรูป น้ำหนักมากเอาเรื่อง การเสียบสายเข้าหลังเครื่องไม่ใช่ของง่าย ต้องหาของอะไรมารองให้มันได้ศูนย์ ใครบ้านเล็ก หรือที่ทางแคบ คาดว่าไม่น่าจะใช้เจ้าสายเส้นนี้ได้ แต่ถ้าใครมีที่ทางขยับได้ อาจจะมีโอกาสได้ใช้สายเส้นนี้ครับ

น้ำเสียงเท่าที่ฟังในจังหวะแรกเลย ให้เนื้อเสียงที่ออกไปทางโทนอุ่น หรือฟังกับ Hifiman จากที่เคยเสียงสดๆ คมนิดๆ ปรากฏว่ามันลดอาการคมปลายลงมา ทำให้ปลายแหลมที่สว่าง หลุบลงเล็กน้อย เสียงกลางไม่เปิดพุ่งมากนัก รักษาตำแหน่งอยู่แถวกลางๆ ไดนามิกไม่แรงมากจนเป็นสายบ้าพลัง แต่ผมว่ากับเพลงทั่วไปที่ฟังทั้งหมด ไดนามิกได้ครบๆ ไม่มีอาการอ่อนแรง

ความโปร่งโล่งระดับกลางๆ คือเป็นสายไฟที่โชว์เนื้อเสียงกลางซะมากกว่าครับ สายที่โปร่งและ Transparent นั้นจะให้เสียงกลางแหลมอีกแบบนึง ส่วนความเป็น 3 มิติถือว่าโอเค สายไฟ Elrod นั้นให้ผมเปรียบเป็นหูฟัง มันน่าจะเป็นสายไฟที่ให้เสียงมาทาง Audeze LCD3 คือนุ่ม หนา อุ่น ละมุน ไม่เร่งเร้าหรือออกไปทาง Live มากนัก ฟังกับหูฟังที่โทนสว่างมากๆ น่าจะโอเคมากกว่าแมทชชิงกับหูฟังที่โทนอุ่น มืด หรือ dark ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

นายมั่นคง

04/07/2012 20:59:12
4,294



เส้นที่สอง JPS Aluminata

อันนี้น่าจะเป็นสายที่ผ่านการเบิร์นมาบ้างแล้ว ตัวสายหนักเช่นกัน ความอ่อนตัวหรือการดัดโค้งงอ พอทำได้ครับ ใช้งานง่ายกว่า Elrod ขึ้นมาหน่อยนึง แต่เสียบสายแล้วต้องหาของมารองให้ดีๆ อีกเช่นกัน ใครเล่น Headphone amp เล็กๆๆ หรือแอมป์ตัวเล็ก น่าจะถ่วงน้ำหนักท้ายเครื่องๆ เหมือนๆๆกับ Elrod แต่ผมว่าอย่าแปลกใจครับ สายไฟเส้นโตๆเหล่านี้จริงๆเค้าออกแบบมาสำหรับเพาเวอร์แอมป์ หรือเครื่องเสียงบ้านตัวใหญ่บักเอ้บ ซึ่งไม่มีผลนักเมื่อเทียบกับขนาดและน้ำหนัก

สายไฟ JPS เส้นนี้ผมไม่ได้ดูราคาในตอนแรก แต่พอมาดูหลังจากฟังแล้วก็ไม่แปลกใจนัก ราคามือหนึ่งน่าจะแสนกว่า เสียงที่ได้วูบแรกเลย แทบไม่ต้องพูดมาก สายไฟเส้นนี้เป็นสายไฟที่ให้เสียงสด ความ Lively สูงมากๆๆๆ คมชัด กระชับ และเป็นสายที่เค้นรายละเอียดออกมาให้แบบสูงมากๆ จุดเด่นที่ผมเห็นว่าน่าจะเป็นจุดแข็งสุดคือ ความโปร่งโล่ง หรือ Transparent นั้นเยี่ยมยอดมาก คือมันโปร่งจนฟังชิ้นดนตรีนั้นแยกออกจากกันอย่างเด็ดขาดทุกๆชิ้น

ไดนามิกดีตามสไตล์ของสายที่ให้เสียงสด สายที่ให้เสียงสด กระจ่าง มักจะให้ไดนามิกที่ดี ความลื่นไหลหรือไดนามิกคอนทราสอยู่ในขั้นดี เมื่อเอามาฟังกับ Grado HF2 ผมว่าอาจจะให้เสียงที่สดและชัดเกินไปสำหรับบางคน แต่สำหรับผมกำลังใช้ได้ เพราะผมเป็นคนฟังเสียงแหลมและเน้น detail เสียเป็นส่วนใหญ่ แต่สลับไปฟังกับ HE6 ก็ไม่ทำให้ HE6 จัดจ้านขึ้นแต่อย่างใด

อีกข้อนึงที่เป็นสิ่งที่ต้องชมเชยคือความเป็น 3 มิตินี่ล่ะครับ สาย Aluminata ให้ความรู้สึกว่าดนตรีชิ้นหน้ากับหลังอยู่ห่างกัน ความรับรู้ในความเป็น 3 มิตินั้นค่อนข้างสมบูรณ์มาก คือฟังแล้วสนุก ตื่นเต้นอยากค้นหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ในแทร็คต่อไปเรื่อยๆ ข้อที่อยากทักไว้คือ ใครที่ไม่ชอบเสียงสด หรือคนที่ฟังโทน Dark เส้นนี้อาจจะไม่เหมาะ แต่ถ้าใครชอบสายที่เพิ่ม detail หรือ ambient ให้กับการฟังชุดหูฟัง เส้นนี้ให้ได้แน่นอน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

นายมั่นคง

04/07/2012 21:03:42
4,294



เส้นที่สาม NBS Black Label II

แบรนด์ NBS เคยทำตลาดในไทยมาเมื่อสิบกว่าปีก่อนเห็นจะได้ และผมเคยมีในครอบครองเส่นนึง เป็นสายรุ่นเล็ก Mini serpent นั่นเอง แต่วันนี้ผมได้สาย NBS จากพี่เกียรติชัยมา ซึ่งผมไม่ทราบว่ามันเป็นรุ่นท็อปสุดหรือเปล่า แต่ถือว่าฟังโดยไม่มีปัจจัยเรื่องราคามารบกวนจิตใจดีกว่า สายรุ่นนี้เป็นสายที่แข็งเอาเรื่อง ตัวสายแยกออกเป็นสองส่วนคือส่วนที่จะเข้าปลั๊กไฟทั้งตัวผู้และตัวเมีย เป็นสายขนาดเล็ก โดยที่ลำตัวเป็นสายขนาดใหญ่ ผมคาดว่าสายข้างในคงเป็นแกนเดี่ยวและเป็นแบบ solid เอามากๆๆ เลยทำให้การขดงอค่อนข้างยาก ใครจะใช้ต้องระมัดระวังตรงจุดนี้ด้วย

จากการลองฟังแบบที่เรียกว่าน่าจะเปิดซิง ผมสังเกตุดู สาย black label II ให้ฉากหลังที่มืดสนิทกว่าสายสองเส้นแรกแบบไม่มีข้อกังขา คือฟังปุ๊บจะรู้ปั๊บว่ามันมืดกว่าจริงๆ โทนเสียงโดยรวมไม่ได้ออกแนวคึกคัก และไม่ใช่สายแนวโชว์รายละเอียดหรือแจกแจง และไม่ใช่สายที่เสียงสดจัดแต่อย่างใด เสียงกลางออกไปทางหนาๆ นุ่มเนียน ลื่นไหลดี เกรนเสียงแหลมละเอียด แต่ไม่มากสำหรับคนที่ติดแหลม แต่เหมาะสำหรับคนที่ฟังกลางแหลมแบบสบายๆ

เสน่ห์ของสายเส้นนี้ผมว่าอยู่ที่ความต่อเนื่องลื่นไหล คือไดนามิกคอนทราสทำได้ดีมาก เสียงสีซอจีนแบบดึงคันชักในไม้เดียว ฟังแล้วไหลลื่นระทวยเอาเหมือนกัน แต่สำหรับคนที่ชอบอะไรที่มันหวือหวาตื่นเต้น สาย NBS อาจจะไม่ใช่แนวนั้นเท่าไหร่ครับ แต่ถ้าใครชอบความกลมกลืน ลื่นไหล ผมว่ามันทำได้ดีพอสมควร ซาวด์เสตทขนาดกลางๆ ถ้าเทียบกับ JPS ผมว่าอันนั้นกว้างขวางกว่ามาก ความเป็น 3 มิติของ NBS อยู่ในเกณห์ดี แต่กับการฟังด้วยหูฟังและด้วยความชอบส่วนตัวของผม อาจจะไม่ให้ความหวือหวาเท่าไหร่


-----------------------------------------
555 ผมเขียนความเห็นแบบที่ได้ยินมานะครับ ซึ่งอันนี้มีองค์ประกอบอื่นมากมายที่ต้องใช้พิจารณาด้วยนะครับ เป็นต้นว่าอุปกรณ์ที่ผมใช้ การแมทชชิ่งของสายกับระบบรวมทั้งหมด และแม้แต่ความชอบส่วนตัวของผมอีก ซึ่งมีโอกาสแปรเปลี่ยนได้ เมื่อสายเหล่านี้ไปอยู่ในซิสเต็มอื่นๆ หรือฟังกับระบบเครื่องเสียงบ้านอื่นๆๆ อ่านแล้วถือว่าเป็นความเห็นที่ใช้ประกอบส่วนหนึ่งก็แล้วกัน

ขอบคุณพี่เกียรติชัยมากๆครับ ที่อุ้มสายซิงๆๆมาทั้งถุง ผมหยิบดูในนั้นมีสาย NBS อยู่ 4 เส้น และเป็นสายซิงๆๆ ซึ่งสายที่เป็น XLR นั้น โทนออกไปทางเดียวกับสายไฟ ส่วนสาย Coax นั้นผมไม่มีโอกาสได้ทดรองเรื่องจากผมยกเลิก output ที่เป็น coax ออกจากระบบของผมไป และใช้สาย USB แทนนั่นเอง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

tutu

04/07/2012 21:28:42
0
เหมือนมีคนบอกเส้นที่สองเมตรละแสน [มั้งง]
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

kiertijai

04/07/2012 21:59:32
0
ยกไปให้เฮียฬังชุดนี้ ปวดแขนเลยครับ โดยเฉพาะ Elrod Statement ใหญ่จริงๆ
ภรรยาผมเห็นเข้า ก็ถามว่าอันนี้เป็นอะไร ผมบอกว่าเป็นสายไฬ ก็เลยทำปากขมุบขมิบ
ผมอ่านได้ว่าคุณจะบ้าหรืออย่างไร ก็เลยเก็บเข้ากล่องไปก่อน
ผมได้มานานแล้วแต่ไม่กล้าแกะมาใช้ เพราะแต่ละเส้นใหญ่มาก ๆๆ
พอเห็นเฮียมั่นคงพูดถึงสายไฬว่ามีส่วนสำคัญต่อระบบเสียงเลยลองเอาของเก่า
มาจะทดลองใช้ดู แต่กลัวฬังไม่ออกเลยขอให้เฮียช่วยฬังดูก่อนจะได้ทำ matching
ได้ถูก เพราะถ้าถอดเข้าถอดออกกับแอมป์คงยุ่งน่าดู คงต้องมีอะไรแตกหักกันบ้าง
คงยกให้เฮียฬังคนเดียวละครับ ของคนอื่นถ้าจะฬงก็จะให้คนอื่นยกแล้วครับ

ขอขอบพระคุณมากที่ช่วยทดลองฬังให้ และช่วยเขียนคอมเม้นท์ให้ได้ทราบกันทั่ว ๆ ครับ

ปล เรียงลำดับตามราคาครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

นายมั่นคง

04/07/2012 22:08:24
4,294
เห็นด้วยครับ ว่าใครจะฟังคนนั้นต้องไปยกเอาเองแล้วล่ะครับ 555 ผมรวมสายไฟทั้งหมดใส่ถุงใหญ่เบิ้มไว้ น้ำหนักน่าจะราวๆๆ 20 กิโล(กะๆๆเอา)

สายไฟทั้งหมด ที่ประหลาดที่สุดคือ Elrod เพราะอันนี้ชัดเจนว่า แม้แต่ภรรยาผมเองก็มองด้วยสายตาที่ระแวงและไม่ไว้ใจ และไม่เข้าใจว่าทำไมผมต้องเอาสายเข้ามาฟังในห้องทีนึงมากมายก่ายกองขนาดนั้น

ขอบคุณพี่เกียรติชัยมากๆครับ ที่มอบสายมาให้ฟังฟรีๆๆ ผมเองจะยึดเอาไว้ฟังนานๆๆก็ไม่กล้า ที่ไม่กล้าไม่ได้เป็นเพราะเกรงใจล่ะครับ แต่เป็นเพราะกลัวจะเซ็งอีตรงฟังแล้วไม่มีปัญญาซื้อนี่ล่ะครับ 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

Hi-Fi-Lover

04/07/2012 23:39:05
3
เชียร elrod ครับ ถือว่าเป็นสายเทวดาที่เสียงเทพมากๆครับ
ฟังแล้วขนลุก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

นายมั่นคง

05/07/2012 00:35:00
4,294
แต่ละท่านอ่านแล้วถ้าไม่ตรงกับความเห็น ทักท้วงได้ทันทีนะครับ เพราะผมไล่ฟังในเวลาจำกัด และไม่ได้ฟังจนติดหูหรือจำได้แม่นยำอะไรนัก

แต่โดยคร่าวๆ น่าจะไม่ผิดพลาดครับ

- Elrod นุ่ม อุ่น เสียงอิ่มหนา
- JPS กระชับ สด โปร่ง โล่ง 3 มิติ
- NBS กลมกลืน ลืนไหล ลอยเด่น
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

kiertijai

05/07/2012 04:59:44
0
ก่อนหน้านี้ผมไม่ค่อยเชี่อเรื่องสายไฬมากนัก
เช่นเดียวกับที่ก่อนหน้าไม่ค่อยเชี่อว่าสายดิจิตัลจะมีผลมากต่อเสียง
พอเล่นหูฬังคุณภาพสูงจึงพบว่าการเปลี่ยนสายดิจิตัลมีผลมากพอควร
ตอนนี้กำลังทดลองเรื่องสายไฬ
เดิมใช้สายไฬและระบบไฬดีพอสมควรคือใช้ Wall plug ของ furutech, wattgate
(กำลังจะเดินสายไฬและ breaker ใหม่), Line conditioner : Shunyata hydra, Furutech etp60 Power cable : Crystal , Purist audio, Stefan audioart equinox, Shunyata diamondback (ตามที่มีคนแนะนำสำหรับแอมป์หรือเครื่องเล่นแต่ละชนิด) ก็พบว่าได้คุณภาพระดับหนึ่ง
พอเห็นบทความเรื่องระบบไฬของ munkonggadget เลยลองปรับระบบไฬขึ้น ด้วยสายไฬดังกล่าวและต่อเข้ากับ BPT-LC1 (ตัว Line conditioner อีกตัวหนึ่ง ระดับเดียวกับ Running Springs, Bybee) ที่ได้มาที่เป็น 220V ต่อกับ NBS black label
พบว่าไม่ต้องแอบไปฬังเพลงตอนดึกๆ เพื่อให้สัญญาณรบกวนลดลง เห็นได้ชัดว่าด้านหลังเงียบสงัดขึ้น รายละเอียดดีขึ้น กำลังขับแอมป์ได้เต็มที่ขึ้น แต่ยังฬังไม่ออกถึงแบบที่เฮียมั่นคงว่า
คงต้องฝึกฝนวิทยายุทธอีกนาน ๆ หน่อย คงไม่เสียเงินมากขึ้นนัก
มีเพื่อน taf หลายคนแนะนำ Iego ว่ายอดเยี่ยมมาก ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

arnoldte

05/07/2012 07:25:02
1
ไอ้สาย ALUMINATA นี่ต้องโดนเองจริงๆ ครับ
หูเสียไปหลายเดือนเลย
ผมโดนมาแล้วที่ปิยนัส ตอนไปลองฟังลำโพง
ลำโพงชุดละไม่มีกี่หมื่น
แต่ล่อสาย ALU ทั้งชุด ตั้งแต่สายไฟ สายสัญญาณ สายลำโพง รวมราคาแล้วซื้อรถดีๆ ได้คันนึง
เสียงแบบว่าหลอนติดหู
พอถอดสาย ALU ออก เป็นสายทั่วๆไป
เสียงไม่เพราะเลย 5555
หูเสีย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

kiertijai

05/07/2012 07:50:29
0
ผมก็คงต้องลองเล่นฬิวส์ต่อจากนี้ คิดว่าคงอีกหลายสตางค์เหมือนกัน
เห็นบทความของคุณ Hi-Fi-Lover เรื่องฬิวส์
ไม่ทราบว่าจะลองสรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับฬิวส์ต่าง ๆ ที่ดี ๆ เช่น Hifi tuning, Furutech
รวมทั้งรุ่นต่าง ๆ ด้วยครับ

ไอ้สาย ALUMINATA นี่ต้องโดนเองจริงๆ ครับ
หูเสียไปหลายเดือนเลย
ของเฮียกับคุณหมูหวานคงโดนไปแล้ว เห็นบอกว่าพอเสียบปั้ปเสียงก็เปิดออกเลย
เสียดายที่ NBS น่าจะเบินอินไม่เต็มที่ เลยยังเทียบกันไม่ได้จะ ๆ
ของผมยังไม่ได้ลอง รู้แต่ลองเทียบ jumper cable : Nordost Valhalla vs Van den Hul vs NBS น่าจะรุ่นกลางไม่ใช่ black label II กับหูฬัง takeT H2+ สั้นๆก็คือว่าเก็บ Nordost Valhalla เข้ากล่องไปเรียบร้อย เพราะเสียงเบสที่ฬังได้จากหูฬังตัวนี้ ต้องใช้คำว่ารู้สึกได้ ไม่ใช่ฬังได้ เกือบเหมือนลำโพง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

นายมั่นคง

05/07/2012 10:14:31
4,294
ท่านใดผ่านมาอ่านเจอ ลองเข้าไปอ่านในกระทู้นี้ได้ครับ เป็นการทำสายไฟมาตั้งแต่ต้นทาง ง่ายๆ ชาวบ้านๆๆ ใครก็ทำได้ครับ ลงทุนไม่กี่สตางค์แต่ได้ผลดีมากๆๆครับ

http://www.forum.munkonggadget.com/detail.php?id=36061

พี่เกียรติชัยครับ เจ้าสาย NBS Black Label II นั้น ผมมองดูก็รู้ว่าสายยังซิงๆๆ มาใหม่ๆๆทั้งถุง ซึ่งสายระดับพระกาฬเหล่านี้ การเบิร์นอินสำคัญมาก ผมฟังแล้วทุกอย่างดี แต่ยังไม่เปิดเผยตัวตนออกมาเท่าไหร่ คือแววดีมาก แต่ยังขาดการใช้งานจริงๆๆจังๆๆเท่านั้น

NBS ฉากหลังดีมาก มืดสนิท เด่นลอย โน๊ตแต่ละตัวฟังแล้วไหลลื่น เหมาะกับคนฟังเพลงร้องมากๆๆๆๆๆๆ ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

kiertijai

05/07/2012 17:03:28
0
สายทั้งชุดประกอบด้วย NBS black label II power cable x2, digital RCA, XLR interconnect ตอนนี้อยู่กับคุณบอยแล้วครับ และอาจมีคุณหนุ่มมาร่วมฬังด้วย อันนี้ก็เป็นเจ้าพ่อสายไฬ สายสัญญาณ คงเบินอินต่อครับ และคงให้ความเห็นได้ครับ
ตอนนี้ผมใช้ NBS jumper cable แทน Nordost Valhalla ซึ่งยังไม่ได้เบินอินเหมือนกัน แต่ชัดเจนครับว่าเวทีเสียงเปิดกว้างขึ้น เสียงมีเนื้อมีหนังขึ้น ความเร็วยังเร็วเหมือนกับ Nordost bass , treble extension เท่ากันแต่ impact , slam, resonance ของเสียงเบสดีกว่ารวมทั้งรายละเอียด อันนี้เป็นสาเหตุที่ Nordost Valhalla เข้ากล่องไปเรียบร้อยแล้ว พอเบินอินได้สักระยะหนึ่ง เสียงดีขึ้นอีกระดับหนึ่งตอนนี้ microdetails ชัดเจนขึ้น ทำให้เสียงร้องได้บรรยากาศมากครับเพราะมีเสียงคล้ายกับecho นิดเดียวจริง ๆ ทำให้เสียงของ takeT H2+ มีเสน่ห์ มนต์ขลังเข้าไปใกล้กับ HE90 มาก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"ทดลองฟังสายไฟเอซี 3 เส้นของพี่เกียรติชัย"