ประมาณซัก 100 ชั่วโมงขึ้นไปล่ะครับ

ไม่นับเฉพาะ PK2 หรอกครับ หูฟังตัวไหนๆๆ ก็ต้องเบิร์นชั่วโมงยาวซักนิดนึง ประมาณการว่าขั้นต่ำควรจะ 100 ชั่วโมง แล้วหลังจากนั้นต้องเก็บเล็มประสมน้อยไปเรื้อยๆๆ ครับ การเบิร์นผมว่ายิ่งนานยิ่งดี แต่มีข้อแม้ว่า ตอนเบิร์นต้องไม่สร้างภาระให้กับหูฟัง คือต้องไม่เปิดดังจนเกินระดับพอดี...และไม่ควาใช้ไฟล์เพลงที่มีคลื่นความถี่ประเภทแช่นานๆๆๆ ด้วยนะครับ....555

คลื่นความถี่ประเภทแช่นานๆๆๆนี้คีออะไรครับเฮียช่วยขายความให้ผมที่ฃดิยังไม่เข้าใจ เเละไฟล์ Flacใช้เบรินจะเวอคไหมครับ

คือพวกไฟลืเบิร์นทั้งหลายที่เรามักจะชอบเอามาเบิร์นกัน มักจะทำเป็น Track ไปเรื่อยๆๆ เช่น Track 1 อาจจะเป็นการเปิดความถี่ต่ำมากๆๆๆ แช่ทิ้งไว้ 1 นาที เวลาเปิดอาจจะได้ยินเสียง ตึ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

หรือ Track ที่ 2 เค้าอาจจะทำให้เสียงแหลมแช่ไว้ 1 นาที ซีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส ประมาณนั้นล่ะครับ

ผมมองว่าไม่ค่อยได้ประโยชน์นัก และเสี่ยงอันตรายซะด้วยซิ เพราะคลื่นพวกนี้ ถ้าเผลอเรอเปิดแช่ไว้ มีหวังเจ๊งแน่ๆๆๆๆ คนแจกชอบแจก แต่ตัวคนแจกนั่นแหละ ไม่ค่อยยอมใช้ 5555 มักจะให้คนอื่นเอาไปทดลองยากันก่อน


พวกแผ่นเบิร์นยังมีมากกว่านั้นอีกครับ บางทีก็อาจจะเป็นการทดสอบสัญญาณที่กลับเฟสมา บางทีก็เป็นสัญญาณผสมหรือโชว์ไดนามิคขึ้นลง บางทีก็ทำความถี่ที่สำหรับเอาไว้ผลักวูฟเฟอร์ลำโพง แต่เราดันเอามาเบิร์นกับหูฟังเล็กๆๆ โอกาสเจ๊งมีมากเหลือเกิน 5555


ไฟล์ Flac นั้นใช้ได้ แต่ขอให้เลือกเป็นไฟล์เพลงเลยจะมีกว่าครับ เอาเพลงนั่นแหละมาเปิดเบิร์น ยังไงน่าจะดีกว่าการใช้ไฟล์เบิร์นครับ ผมว่าไฟล์เบิร์นนั้นปล่อยให้คนที่รู้วิธีการใช้มันอย่างจริงๆๆ และใช้เป็นดีกว่า อย่างเราๆๆ เผลอเรอเอามาใช้ ผมว่ามีแต่ผลเสียล่ะครับ 555

ผมว่าเปิดเพลงที่เราฟังไปเรื่อยๆ ครับ เบิร์นทั้งหูฟังทั้งหูคนไปด้วยกันเลย

(ผมขอถามต่อครับ (พอดีผมใช้e100+mx760เลยอยากขอคำเเนะนำเอียหน่อยว่าผมยังไม่ชำนาญในการปรับเสียงรุนนี้ครับ
ควรจะปรับความดังที่เท่าไหร่เสียงถีงจะออกมาดี ตัวผมไม่ทราบจะอุปทานปะคีอว่าผมรุ้สึกต้องเปิดอยุ่ที่วอลลุ่มที่30กว่าเสียงจะออกมาดี ถ้าปรับอย่างนี้จะทำให้หูฟังเสียป่าว เเละฟังชั่น
SRS WOW HDเราควรจะปรับมันไหมครับ เเละถ้าปรับควรจะอยู่ในรดับไหนครับ

pk2 ของผม ใช้วิธี เบิร์นไปฟังไป บางทีเบิร์นทิ้งไว้ตอนนอนบ้าง ใช้ไฟล์ loseless + 320 เป็นปกติ

ประมาณ 80 ชั่วโมง กลางแหลมถึงแหลม อาการสากหายไป แต่ปลายแหลมสุดยังบาดหู เบสเริ่มกระชับขึ้น
120-150 ชั่วโมง เบสคมชัดขึ้น มีออกมาเป็นลูกๆ แต่ลูกไม่ใหญ่นะ ปลายแหลมลดอาการบาดลงแต่ยังมีอยู่บ้าง
ปัจจุบันกว่า200 เบสลึกๆรีดออกมาได้ แหลมจัดๆบาดหูยังมีบ้างนิดๆ ถ้าไม่จับผิดแทบไม่รู้สึก

โวลุ่มที่เท่าไหร่ บอกยาก ลองเสียบหูฟังไว้แล้วเปิดในระดับที่ฟังปกตินั่นแหละครับ
eq หรือ ฟังค์ชั่นเสริมอื่นๆเกี่ยวกับการปรุงแต่งเสียง ควรปิดให้หมดครับ

เรื่องการปรับดังค่อย ยังไม่เป็นปัญหาเท่ากับปรับ EQ ครับ คือถ้าเป็นใจผมแนะนำ ผมอยากให้ปิดฟังก์ชั่นที่แต่งเสียงทุกอย่างให้หมดครับ แล้วฟังทั้งๆๆ แบบนั้นเลยล่ะ...555

การปรับ EQ เหมือนกับการเติมน้ำปลา พริก มะนาว คือถามว่าทำให้อร่อยขึ้นไม๊ แน่นอนล่ะ คนที่ชอบปรุงเครื่อง มักจะชอบการปรับ EQ แต่ต้องไม่ลืมว่า การปรับ EQ มันสร้างความเพี้ยนมาก และทำให้เราไม่รู้ว่ารสชาติของอาหารก่อนปรุงเป็นยังไงน่ะครับ 555

ฉันใดก็ฉันนั้นล่ะโยมเอ๋ย....การปรับ EQ ทำให้ไม่สามารถรู้ว่าต้นฉบับนั้นดีขนาดไหน ทำให้ไม่รู้ว่าสำเนียงเพลงที่เค้าตั้งไว้เดิมๆๆ เป็นไง บางทีอาการหนัก เล่นเอาเสียงร้องเพี้ยนๆๆ ไปเลยก็มี

แต่ท่านใดถ้าติด EQ หนักๆๆๆ ก็ยังอนุโลมให้ปรับแต่งกันได้ล่ะเน้อ...คนเราบางทีชอบหนักเบาไม่เหมือนกันล่ะ 555 เอาแบบที่ตัวเองชอบก็น่าจะดีสุดครับ


เอ้า มาปิด EQ กันดีกว่า....55555

มีคำถามครับ
แล้วการเปิด EQ มันต่างกับการเสียบ AMP ยังไงครับ
เพราะว่า AMP แต่ละตัวก็ให้เสียงที่ต่างกันเหมือนใช่ไหมครับ

ความเห็นส่วนตัว อย่าไปซ๊เรียสกับการเบรินให้มากนัก ใช้งานไปเรื่อย ๆ มันก็เข้าที่เอง ไม่ช้าก็เร็ว