น่าจะเกี่ยวครับ เพราะยิ่งโอมเยอะเสียงยิ่งเบาลง ต้องเร่งให้ดังขึ้นก็น่าจะกินไฟมากขึ้น แต่น่าจะนิดเดียวแหละผมว่าต่างกันไม่น่าเกิน 10%

น่าจะกินมากขึ้นเพราะมันจะใช้กระแสมากขึ้น ภาคขยายของ player น่าจะร้อนกว่าปกติ แต่ก็ใช้ volume น้อยลงเพราะเสียงดังขึ้น

เครื่องเล่นบางตัวระบุว่าห้ามใช้กับหูฟังที่ความต้านทานน้อยกว่า 16 โอห์ม น่าจะกลัวเครื่องพังเวลาเปิดดังๆครับ

โอมน้อยมันใช้กระแสน้อยลงนะครับ อีกอย่างที่กำหนดว่าห้ามต่ำกว่า16โอม หูฟังจะพังก่อนครับ

อีกอย่างภาคขยาย ท่าไม่คิดอะไรมากก็คือ เปิดมากร้อนมาก เปิดน้อยร้อนน้อยครับ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยส่วนมากจะไม่มีการโอเวอร์โหลดท่าระบบปรกติครับ

ตกลงว่า มากกว่าหรือน้อยกว่าอะครับ ผมงงไปหมดละ *-*

ถ้างงลองศึกษาตำราไฟฟ้าพื้นฐานดูก่อนครับ ใช้เวลาสักชั่วโมงน่าจะพอได้ไอเดีย

เริ่มจากสูตร V=IR ก่อนเลยก็ได้ I=V/R ถ้า R เข้าใกล้ 0 ก็เหมือนลัดวงจร กระแส I จะเพิ่มมาก (V คงที่) กระแสที่เพิ่มมากนี่แหละครับตัวอันตรายของแอมป์

ไม่ว่าจะแอมป์บ้าน แอมป์รถหรือแอมป์งานวัด สิ่งที่น่าห่วงที่สุดคืออิมพีแดนซ์ที่จะเอามาต่อ โอห์มสูงเค้าไม่ค่อยกลัวครับ อย่างมากก็ขับไม่ค่อยออก แต่โอห์มต่ำๆอย่าง 2 โอห์มนี่น่าหวาดเสียวมากครับ แอมป์ไหม้ได้เลยนะเพราะมันเกือบๆจะลัดวงจรอยู่แล้ว

ตามสูตรข้างบน การลัดวงจรคือความต้านทาน R เป็นศูนย์ ตัวหารเป็นศูนย์กระแส I ก็จะเป็น infinity คือจัดเต็มไหลพรวด อะไรก็ไหม้ครับ

ท่าเป็นแบบที่ท่านว่า ทำไมเวลาต่อลำโพงเขาต่อขนานไม่ต่ออนุกรมละครับ

เขาต่อขนาน แต่ก็ต้องทำให้อยู่ในอิมพีแดนซ์ตามกำหนดน่ะครับ ถ้าขนานไดรเวอร์แค่สองสามดอกคำนวณแล้วแอมป์รับกระแสได้ก็ไม่ซีเรียส

แต่ถ้างาน PA กำลังสูง ไฟเข้าลำโพง 70V อะไรพวกนั้นก็เป็นอีกเรื่องครับ อันนี้เห็นผลกว่าเยอะ ต้องทำทั้งขนานและอนุกรมให้ได้ impedance ไม่งั้นแอมป์บรรลัยครับ

ลองดูตามรูปละกัน

ความรู้ๆๆๆ ขอดันหน่อยครับ *0*

เขียนจนเห็นภาพเลยครับ :-)