ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน
ยังไงเฮียก็ไม่เลี้ยงแมวอยู่แล้ว
ไม่ต้องกลัวเฮียย้อมแมวหรอกจ้า

ผมเคารพในความคิดเห็นของทุกท่านนะครับ เพราะเราคือลูกค้า ความหลากหลายของกลุ่มลูกค้า นำมาซึ่งกลยุทธ์ทางการตลาด และ แนวคิดในการพัฒนาสินค้าครับ สุดท้ายผลที่ได้ก็ผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่ม ละครับ อิอิ

ขออนุญาติ คิดแทนเฮีย เล่นๆ ต่อไปว่า

เป็นการเพิ่ม Value Added ให้กับสินค้า และ เพิ่ม Customer Satisfaction ให้กับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เนื่องจากบางท่านอาจชอบแกะกล่องด้วยตนเอง

ข้อจำกัด
1.รุ่นที่เป็นที่นิยม อาจไม่มีเวลาให้บริการ เพราะจะหมดก่อน
2.ทางร้านจะต้องเสียเวลาสต๊อกของเพิ่มขึ้นอย่างน้อย เท่ากับเวลาที่เบิร์น
3.ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น เนื่องจากข้อ 2

ทางร้านอาจไม่จำเป็นต้องทำกับสินค้าทุกตัวทุกรุ่น โดยอาจเลือกรุ่นที่เป็นที่นิยม และเห็นผลค่อนช้างชัดเมื่อผ่านการเบิร์น และไม่จำเป็นต้องทำทุกตัวในรุ่นที่เลือก เนื่องจาก ยังมีลูกค้าที่ต้องการแบบแกะกล่อง (การตัดสินใจขึ้นกับสถิติการขายของรุ่นนั้นๆ) เช่น
MS1/MS2 ทำสต๊อกไว้ 1 ตัวจาก 3 ตัว
Koss KSC35 ทำ 3 ใน 10 ตัว
The Pig ทำ 1 ใน 3 ตัว เป็นต้น

ทำเป็นขั้นตอนอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ปิดประกาศไว้ในร้านให้ชัดเจน เช่น “ขั้นตอนและอุปกรณ์ในการ Burn-in” ระบุอุปกรณ์ที่ใช้, ระดับเสียงที่เปิด, มีตัวนับเวลาถอยหลัง, รายชื่อเพลงที่ใช้ในการเบิร์น (หลากหลายแนว เลือกชุดเพลงสักประมาณ 50 ชั่วโมง วนซ้ำ) อุปกรณ์ต่อพ่วงเพื่อให้สามารถเบิร์นได้สัก 3-5 ตัวต่อครั้งก็ได้


อย่าโกรธกันนะเฮีย ผมไปละ
อ้อ MS-Pro ที่จะมา ถ้าใครยกเลิกละก็โทรหาผมทันทีเลยนะครับ คุณเบียส

แบบนั้นมันไม่ได้ เปิดซิง ครับ มันไม่สด

ถ้าจะทำ ทำเป็นระบบแบบว่า ให้คนจะเอาแบบเบิร์นแล้ว สั่งจองก่อนล่วงหน้า 1-2อาทิตย์ครับ จะได้มีเวลาเบิร์นทัน(ขั้นนี้ตกลงค่าใช้จ่ายกันเอาเอง)

ผมคิดเหมือนคุณปอนด์ครับ


ยังงั้ยย ยังไง

ซื้อของ

ผมก็อยาก

เปิด


น่ะครับ

ฮาฮาฮาฮา

ไม่งั้นพวก เสี่ยๆ ไม่ยอมจ่ายแพงเป็นหลักหมื่น เวลามีีสินค้า สด มาส่งถึงมือ หรอกคร้่าบบบ


.. ปลาดิบ น่ะครับ ปลาดิบ ตามร้านอาหารญี่ปุ่น น่ะ

แหม่

ฮาฮาฮาฮา

เหม็นคาววุ๊ย อิอิ

มันก็กลายเป็นของมือ 2 สิครับ

ผมก็ชอบเปิดซิงอีกคนครับ เบิรืนเองสะใจดี ไฟล์ก็มีอยู่แล้ว ใครไม่มีไฟล์ค่อยมาขอ เหอๆ

5555

คุณ Lek_Ultra แนะนำได้อร่อยเหาะดีจัง 5555


ไอ้การ Burn-in ผมว่าคือความสุขของคนซื้อครับ


เพราะอารมณ์ตั้งแต่แกะกล่องใหม่ๆ ค่อยๆ ดมกลิ่นของใหม่ กลิ่นกาว กลิ่นพลาสติก กลิ่นกล่องกระดาษ

โอ๊ย.........หอมชื่นใจ 555


ทีนี้ถ้าเราไปเบิร์นอินแทน มันจะทำให้องคาพยพของหูฟังเปลี่ยนไปครับ ซึ่งถ้าหากเปิดบริการเบิร์นจริงๆ ขึ้นมา จะต้องมีการวิพากษ์ถึงวิการเบิร์นอีกต่อมาด้วยครับ 555


บางท่านชอบเบริ์นแบบเบาะๆ บางท่านชอบแบบหัวระเบิด คืออัดให้กระจาย 555


ก็เลยต้องกลายเป็นว่าของใครของมัน ไปเบริ์นเอาเอง 5555 แต่ว่ากันตามจริง ถึงจะให้เบริ์นก็ไม่มีปัญญาจะเบริ์นครับ เพราะมันยุ่งยากเหมือนกัน 555


ส่วนของที่ร้านผมนั้น ไม่มีการย้อมแมวขายครับ ตัวไหนเป็นตัวโชว์ มีคนลองฟังแล้วหลายคน

ผมก็จะบอกว่าไอ้ตัวนี้เป้นตัวโชว์ ซึ่งบางคนรอไม่ไหว ร้องบอก เอาวะ !!!! ตัวโชว์ก็เอา 555


ทุกวันนี้ผมจะสั่งไว้เอลยว่า ตัวโชว์ห้ามขาย เพราะต้องการให้ลูกค้ารู้ว่า หูฟังตัวที่เบิร์นไปแล้วระยะหนึ่งเป็นไง จะได้จินตนาการออก


ส่วนของคุณ lek มาแล้วนะจ๊ะ 5555


มารับไปเบรินเองได้เลย...........5555


ขอกระซิบว่า ล็อนนี้มา สวยโคตรๆ เลยครับ

555

ใครว่าเฮียไม่เลี้ยงแมวคับ

มีแมวอ้วนอืดดดด อยุ่อีกตั้งคนนึงไง อย่าลืม ซิจะ อิอิอิอิ

ขอบคุณครับเฮีย
ผมนัดคุณเบียสไว้วันศุกร์ หลังเลิกงานครับ
ตามสบายนะครับเพื่อนๆ ใครอยากลองเชิยครับ

ในที่สุดก็ได้มา MS-Pro อิอิ
My Stock:
In-ear : Shure-E2G,E3C,E4C,E500 / Westone UM2
Ear-bud : PK1 , E888 (imported fr. Japan)
Clip-on : KSC35
Full size : Alessandro MS-Pro (available to deliver)

Next : UM3 or Triple 10Pro

เงี้ยวววววววววววววววว
แง้วววววววววววววววว
เงี้ยวววววววววววววววว
เดินเพ่นพ่าน

โอ้ว เยอะจริงๆ

ใช้หมดเหรอครับเนี่ย

:162:

เฮียครับ.. เก็บ MS2i ไว้ลองซักตัวสิครับ

ฮาฮาฮา

พลาดทุกกก ทีเลย

ทั้ง โปร ทั้ง 2i

ตั้งแต่ผมมาขายหู Grado ผมถึงรู้ว่ามันช้าโคตรๆ จริง ๆ ไม่ทันใจคนไทยอย่างเราเลยครับ 555

แต่ประมาณก่อนสิ้นเดือนนี้ ผมน่าจะได้ทั้ง Grado Alessandro ครบๆ ทุกรุ่นนะ

ยังไงจะบอกเบียสเก็บไว้ให้ลองให้ได้จ้า 555


ทุกวันนี้ไม่เคยเหลือติดไว้โชว์เลย 555

ลูกค้าบีบคอเอาไปหมดจ้า

ตอนนี้เกบตังอัพคอม เสดแล้วเกบตังรอ RS-1 แน่นอนจ้า

แต่ยังบอกระยะเวลาที่แน่นอนไม่ได้นะครับ เหอๆ

เฮียครับ เรื่องของหูฟัง Grado เฮียไปเร่งมันมากๆ ระวังนะครับเดี๋ยวมันจาใส่ไดร์เวอร์กลับข้างมาให้ มันยิ่งเอามือทำงานอยู่ อิอิอิ