เมื่อวานไปจับกบมา ได้ของเล่นยี่ปุ่นมาสองอย่างครับ อิคึอิคึ...ทั้งคืนเลยครับ
คือหูฟัง ATH Made in JAPAN สภาพสวย และ Sony MDR-E868 Made in JAPAN สภาพดังข้างเดียวมาราคาไม่แรง(อิอิ เสร็จโก๋สายขาดใน) เสียงหวานละมุนทั้งสองตัว ชวนเคลิบเคลิ้มให้เสียตัวจริงๆ 55+
เมื่อวานไปจับกบมา ได้ของเล่นยี่ปุ่นมาสองอย่างครับ อิคึอิคึ...ทั้งคืนเลยครับ
คือหูฟัง ATH Made in JAPAN สภาพสวย และ Sony MDR-E868 Made in JAPAN สภาพดังข้างเดียวมาราคาไม่แรง(อิอิ เสร็จโก๋สายขาดใน) เสียงหวานละมุนทั้งสองตัว ชวนเคลิบเคลิ้มให้เสียตัวจริงๆ 55+
analog record มันแก้เสียงได้เยอะครับ
แต่ว่า...การที่จะอัดได้เต็มประสิทธิภาพ ต้องตรวจสอบเพลงแทบทุกเพลง
เพื่อไม่ให้สัญญาณ over หรือ drop ก็เลยไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่
เพราะราคา ต่อ เสียงนี่....จ่ายเยอะพอสมควรเลย
แต่ สาย digital นี่ การลงทุนกับการอัดจะน้อยกว่าก็เลยมักจะแนะนำทางด้านนี้มากกว่า
แต่มีใครเล่นสาย digital แต่เป็น coaxial แบบผมบ้างไหมครับ ^^
ปรับแต่งได้มากพอๆๆกับ analog น้า ....
อิอิ.. ตามไปดูห้องใหม่คุณแอ้แล้ว... ^^
analog record มันแก้เสียงได้เยอะครับ
แต่ว่า...การที่จะอัดได้เต็มประสิทธิภาพ ต้องตรวจสอบเพลงแทบทุกเพลง
เพื่อไม่ให้สัญญาณ over หรือ drop ก็เลยไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่
เพราะราคา ต่อ เสียงนี่....จ่ายเยอะพอสมควรเลย
แต่ สาย digital นี่ การลงทุนกับการอัดจะน้อยกว่าก็เลยมักจะแนะนำทางด้านนี้มากกว่า
แต่มีใครเล่นสาย digital แต่เป็น coaxial แบบผมบ้างไหมครับ ^^
ปรับแต่งได้มากพอๆๆกับ analog น้า ....
วันนี้อยากแนะนำอัลบั้มปี 2010 ที่นาฟังอัลบั้มหนึ่งครับ
Santana - Guitar Heaven: The Greatest Guitar Classics Of All Time
ที่นาสนใจเพราะ เฮีย Carlos Santana หยิบเอาเพลงเด็ดๆ ของบรรดาเหล่ากีต้าร์เทพ มา Cover แน่นอน ซึ่ง Santana ก็เอามาทำได้ดีในแนวของตัวเองด้วย
ดู Tracklist ครับ
1. Whole Lotta Love (featuring Chris Cornell of Soundgarden) [03:51]
2. Can’t You Hear Me Knocking (featuring Scott Weiland of Stone Temple Pilots) [05:38]
3. Sunshine Of Your Love (featuring Rob Thomas of Matchbox Twenty) [04:43]
4. While My Guitar Gently Weeps (featuring India.Arie & Yo-Yo Ma) [06:02]
5. Photograph (featuring Chris Daughtry of Daughtry) [04:03]
6. Back In Black (featuring Nas & Janelle Monáe) [04:20]
7. Riders On The Storm (featuring Chester Bennington of Linkin Park & Ray Manzarek) [05:23]
8. Smoke On The Water (featuring Jacoby Shaddix of Papa Roach) [05:06]
9. Dance The Night Away (featuring Pat Monahan of Train) [03:23]
10. Bang A Gong (featuring Gavin Rossdale of Bush) [03:41]
11. Little Wing (featuring Joe Cocker) [04:52]
12. I Ain’t Superstitious (featuring Jonny Lang) [03:58]
13. Fortunate Son (featuring Scott Stapp) [03:45]
14. Under The Bridge (featuring Andy Vargas of RHCP) [05:09]
วันนี้อยากแนะนำอัลบั้มปี 2010 ที่นาฟังอัลบั้มหนึ่งครับ
Santana - Guitar Heaven: The Greatest Guitar Classics Of All Time
ที่นาสนใจเพราะ เฮีย Carlos Santana หยิบเอาเพลงเด็ดๆ ของบรรดาเหล่ากีต้าร์เทพ มา Cover แน่นอน ซึ่ง Santana ก็เอามาทำได้ดีในแนวของตัวเองด้วย
ดู Tracklist ครับ
1. Whole Lotta Love (featuring Chris Cornell of Soundgarden) [03:51]
2. Can’t You Hear Me Knocking (featuring Scott Weiland of Stone Temple Pilots) [05:38]
3. Sunshine Of Your Love (featuring Rob Thomas of Matchbox Twenty) [04:43]
4. While My Guitar Gently Weeps (featuring India.Arie & Yo-Yo Ma) [06:02]
5. Photograph (featuring Chris Daughtry of Daughtry) [04:03]
6. Back In Black (featuring Nas & Janelle Monáe) [04:20]
7. Riders On The Storm (featuring Chester Bennington of Linkin Park & Ray Manzarek) [05:23]
8. Smoke On The Water (featuring Jacoby Shaddix of Papa Roach) [05:06]
9. Dance The Night Away (featuring Pat Monahan of Train) [03:23]
10. Bang A Gong (featuring Gavin Rossdale of Bush) [03:41]
11. Little Wing (featuring Joe Cocker) [04:52]
12. I Ain’t Superstitious (featuring Jonny Lang) [03:58]
13. Fortunate Son (featuring Scott Stapp) [03:45]
14. Under The Bridge (featuring Andy Vargas of RHCP) [05:09]
แอ้...อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มช่วงก่อนนี้ฟังบ่อยมาก โดยเฉพาะแทรคที่ 4 While My Guitar Gently Weeps สำเนียงกีตาร์แบบ Carlos Santana ได้ใจจริงๆ/////ส่วนเรื่อง Deck Sony ถ้ามันหัวสูงมากนักเดี๋ยวต้องจับส่งไปอยู่บ้านนอกซะให้เข็ด จะได้ไม่หัวสูงเลือกแต่แผ่นเกรดดีๆ 555++
แอ้...อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มช่วงก่อนนี้ฟังบ่อยมาก โดยเฉพาะแทรคที่ 4 While My Guitar Gently Weeps สำเนียงกีตาร์แบบ Carlos Santana ได้ใจจริงๆ/////ส่วนเรื่อง Deck Sony ถ้ามันหัวสูงมากนักเดี๋ยวต้องจับส่งไปอยู่บ้านนอกซะให้เข็ด จะได้ไม่หัวสูงเลือกแต่แผ่นเกรดดีๆ 555++
สวัสดียามบ่ายๆๆๆ ชวนเพื่อนร่วมสนุก เผื่อโชคดีรับแผ่น MD Santana - Guitar Heaven: The Greatest Guitar Classics Of All Time (อัดแผ่น Used ให้) เพียง 1 ท่าน (เพราะตอนนี้แผ่นเปล่าที่มีก็หมดสต็อกแล้ว ต้องไปจับกบวันเสาร์กะพี่มาริโอก่อน)
สวัสดียามบ่ายๆๆๆ ชวนเพื่อนร่วมสนุก เผื่อโชคดีรับแผ่น MD Santana - Guitar Heaven: The Greatest Guitar Classics Of All Time (อัดแผ่น Used ให้) เพียง 1 ท่าน (เพราะตอนนี้แผ่นเปล่าที่มีก็หมดสต็อกแล้ว ต้องไปจับกบวันเสาร์กะพี่มาริโอก่อน)
01 -=- 01.Rolling In The Deep.flac
02 -=- 02.I'll Be Waiting.flac
03 -=- 03.Chasing Pavements.flac
04 -=- 04.Someone Like You.flac
05 -=- 05.Many Shades Of Black.flac
06 -=- 06.Set Fire To The Rain.flac
07 -=- 07.Make You Feel My Love.flac
08 -=- 08.Love Song.flac
09 -=- 09.Hometown Glory.flac
10 -=- 10.Rumour Has It.flac
11 -=- 11.Right As Rain.flac
12 -=- 12.Turning Tables.flac
13 -=- 13.Melt My Heart To Stone.flac
14 -=- 14.One And Only.flac
15 -=- 15.Cold Shoulder.flac
16 -=- 16.He Won't Go.flac
17 -=- 17.My Same.flac
18 -=- 18.Don't You Remember.flac
19 -=- 19.If It Hadn't Been For Love (Live At The Royal Albert Hall).flac
20 -=- 20.I Can't Make You Love Me (Live At The Royal Albert Hall).flac
เอาอัลบั้มมาแนะนำบ้าง ^_^
Adele - Greatest Hits (2012)
01 -=- 01.Rolling In The Deep.flac
02 -=- 02.I'll Be Waiting.flac
03 -=- 03.Chasing Pavements.flac
04 -=- 04.Someone Like You.flac
05 -=- 05.Many Shades Of Black.flac
06 -=- 06.Set Fire To The Rain.flac
07 -=- 07.Make You Feel My Love.flac
08 -=- 08.Love Song.flac
09 -=- 09.Hometown Glory.flac
10 -=- 10.Rumour Has It.flac
11 -=- 11.Right As Rain.flac
12 -=- 12.Turning Tables.flac
13 -=- 13.Melt My Heart To Stone.flac
14 -=- 14.One And Only.flac
15 -=- 15.Cold Shoulder.flac
16 -=- 16.He Won't Go.flac
17 -=- 17.My Same.flac
18 -=- 18.Don't You Remember.flac
19 -=- 19.If It Hadn't Been For Love (Live At The Royal Albert Hall).flac
20 -=- 20.I Can't Make You Love Me (Live At The Royal Albert Hall).flac
CDฟังเพลง ปกติมีความเร็ว 1 X
แต่ CD คอมสามารถเร่งสปีดถึง 32X ได้โดยสามารถอ่านและเขียนข้อมูลโดยไม่ผิดเพี้ยน....
ถ้าใครเคยอ่าน DIY เครื่องเสียงบางประเภทยังเอา CD คอมไปทำ CD player ที่ดีกว่าที่เค้าขายจริงๆๆ เลย
CDฟังเพลง ปกติมีความเร็ว 1 X
แต่ CD คอมสามารถเร่งสปีดถึง 32X ได้โดยสามารถอ่านและเขียนข้อมูลโดยไม่ผิดเพี้ยน....
ถ้าใครเคยอ่าน DIY เครื่องเสียงบางประเภทยังเอา CD คอมไปทำ CD player ที่ดีกว่าที่เค้าขายจริงๆๆ เลย
อาจารย์ยิ่ง ผมเห็นด้วยนะครับ Drive CD คอม รุ่นเก่าๆ หลายตัวก็เสียงดีครับ ใส่แผ่น CD แท้ฟังนี้เสียงสู้ CD Player ราคาเฉียดๆ หมื่นได้สบายเลยครับ เสียอย่างเดียว แถวบ้านผมไม่ค่อยมีใครเก็บไว้ครับ ที่มีก็พังหมดแล้ว 55
อาจารย์ยิ่ง ผมเห็นด้วยนะครับ Drive CD คอม รุ่นเก่าๆ หลายตัวก็เสียงดีครับ ใส่แผ่น CD แท้ฟังนี้เสียงสู้ CD Player ราคาเฉียดๆ หมื่นได้สบายเลยครับ เสียอย่างเดียว แถวบ้านผมไม่ค่อยมีใครเก็บไว้ครับ ที่มีก็พังหมดแล้ว 55
ยังรวมสนุกลุ้น ลุ้นรับแผ่น MD - Guitar Heaven: The Greatest Guitar Classics Of All Time (อัดแผ่น Used ให้)กันอยู่น่ะ ผมอัดแผ่นให้เรียบร้อยแล้วรอเจ้าของเท่านั้นครับ
ลงชื่อถึงแค่ 12:00 วันนี้น่ะ
1. oxzone
2. arizes
3. wit66
สวัสดีเพื่อน retro จ๊ะ
ยังรวมสนุกลุ้น ลุ้นรับแผ่น MD - Guitar Heaven: The Greatest Guitar Classics Of All Time (อัดแผ่น Used ให้)กันอยู่น่ะ ผมอัดแผ่นให้เรียบร้อยแล้วรอเจ้าของเท่านั้นครับ
ลงชื่อถึงแค่ 12:00 วันนี้น่ะ
ยังรวมสนุกลุ้น ลุ้นรับแผ่น MD - Guitar Heaven: The Greatest Guitar Classics Of All Time (อัดแผ่น Used ให้)กันอยู่น่ะ ผมอัดแผ่นให้เรียบร้อยแล้วรอเจ้าของเท่านั้นครับ
ลงชื่อถึงแค่ 12:00 วันนี้น่ะ
ยังรวมสนุกลุ้น ลุ้นรับแผ่น MD - Guitar Heaven: The Greatest Guitar Classics Of All Time (อัดแผ่น Used ให้)กันอยู่น่ะ ผมอัดแผ่นให้เรียบร้อยแล้วรอเจ้าของเท่านั้นครับ
ลงชื่อถึงแค่ 12:00 วันนี้น่ะ
ตัว "D"ไม่ได้ย่อมาจากคำว่า DIGITAL อินพุทถูกแปลงเป็นออดิโอ เวฟฟอร์ม ไบนารี 2 สเตท ความแตกต่างเป็นเรื่องสำคัญ เพราะ CLASS D ออกแบบให้ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ แทนที่จะต้องเสียกำลังไปในทรานซิสเตอร์ เอาท์พุทก็จะถูกไม่เปิดตลอด ไม่มีโวลเทจเสีย ก็ปิดตลอด ส่งผลให้ประสิทธิภาพเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ดังนั้นอินพุทออดิโอถูกแปลงเป็น PWM (PULSE WIDULATED) ร่องสีเหลืองที่อยู่ขางใต้คือ เอาท์พุทของแอมพ์ ร่องสีฟ้าคือ เวฟฟอร์ม PWM เวฟฟอร์มสีฟ้าจะถูกป้อนให้กับฟิลเตอร์เอาท์พุท ซึ่งให้ผลเป็นเวฟฟอร์มเอาท์พุทสีเหลือง สังเกตว่า เอาท์พุทจะดูเหมือนอะไรบางอย่างที่เสียไปสัญญาณที่เสีย และเสียงสวิทชิงทั้งหมดไม่สามารถเอาออกไปได้ และจะเห็นผลได้ที่นี่ เพราะขั้นตอนการแปลงสัญญาณอินพุทไปเป็น pwn และแปลงกลับไปเป็นแอนาลอก ทำให้เกิดการเสียของสัญญาณไป ฟีดแบคทั่วไปก็เหมือนกับที่ใช้ในการออกแบบแอมพ์ CLASS "AB" เพื่อลดการเสียของสัญญาณ มอสเฟทเป็นทางเลือกเดียวสำหรับการออกแบบ CLASS "D" ซึ่งการออกแบบส่วนใหญ่จะมีประโยชน์แต่กับเพียงเบสส์แอมพ์ เมื่อมันไม่สามารถสวิทช์ได้เร็วเพียงพอ กับการผลิตความถี่สูงอีกครั้ง การออกแบบ CLASS "D" ฟลูล์เรนจ์คุณภาพสูงยังคงหาได้ ในเครื่องเสียงระดับมืออาชีพ แต่มันจะซับซ้อนกับเอาท์พุทมัลทิเฟล
CLASS T
CLASS T (TRIPATH) เหมือนกับ CLASS D แต่ไม่ใช้ฟีดแบค แอนาลอก เหมือนกับ CLASS D ฟีดแบคจะเป็นสัญญาณดิจิทอล และเกิดกับส่วนบนของฟิลเตอร์เอาท์พุท เพื่อหลีกเลี่ยงการยกเฟสของฟิลเตอร์นี้เพราะการเสียของสัญญาณในแอมพ์ CLASS D และ CLASS T เกิดขึ้นจากไทมิงทำงานผิดจังหวะ แอมพ์ CLASS T จะป้อนข้อมูลในเรื่องจังหวะกลับไป ส่วนการเสียของสัญญาณ ยังเกิดจากที่เเอมพ์ใช้ตัวประมวลผลสัญญาณดิจิทอล เพื่อแปลงอินพุท แอนาลอกไปเป็นสัญญาณ PWM และประมวลผลข้อมูลก่อนจะส่งกลับ
การประมวลผล จะดูที่ข้อมูลฟีดแบค และทำการปรับแต่งจังหวะ เพราะลูพฟีดแบคไม่ได้รวมฟิลเตอร์เอาท์พุทเอาไว้ด้วย ในแอมพ์ CLASS T มั่นคงมาก และสามารถทำงานได้เต็มช่องสัญญาณเสียง ซึ่งผู้ฟังส่วนใหญ่ไม่สามารถได้ยินความแตกต่างระหว่าง CLASS T และ CLASS AB ที่ออกแบบดีๆได้
การออกแบบทั้ง CLASS Dและ CLASS T ต่างก็มีปัญหากันคนละอย่าง มันเกินกำลังมาก ที่รอบต่ำเพราะเวฟฟอร์มความถี่สูงๆ จะเกิดขึ้นตลอดเวลาแม้ในช่วงที่ไม่มีสัญญาณเสียงแอมพ์ก็ยีงมีความร้อนตกค้างหลงเหลืออยู่แอมพ์บางรุ่นจะมีการตัดการทำงานของเครื่องเมื่อหยุดพักใช้งาน และจะกลับมาทำงานใหม่ เมื่อใช้งานโดยอัตโนมัติ
CLASS G
CLASS G เพิ่มประสิทธิภาพขึ้นมาอีกขั้นธรรมดาแอมพ์ CLASS AB จะขับโดยเพาเวอร์ซัยพลาย MULTI-RAIL แอมพ์ 500 วัตต์ อาจจะมี POSITIVE RAIL 3 และ NEGATIVE RAIL 3 ซึ่ง RAIL VOLTAGES อาจจะเป็น 70,50,25 โวลท์เมื่อเอาท์พุทของแอมพ์ขยับไปใกล้ 25 โวลท์ ซัพพลายก็จะสวิทช์ให้ RAIL 50 โวลท์ และเมื่อเอาท์พุทขยับเข้าไปใกล้ 50 VOLT RAIL ซัพพลายก็จะสวิทช์ไปยัง RAIL 70 โวลท์ บางครั้งเรียกการออกแบบนี้ว่า RAIL SWITCH
การออกแบบนี้ เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ โดยลดการสูญเสียโวลเทจกับทรานซิลเตอร์เอาท์พุทโวลเทจนี้ เป็นความแตกต่างระหว่างซัพพลายบวก หรือแดง กับเอาท์พุทออดิโอ สีฟ้า CLASS G มีประสิทธิภาพเทียบเท่า CLASS D หรือ CLASS T ในขณะที่การออกแบบ CLASS G มีความสลับซับซ้อนมาก โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานแอมพ์ CLASS AB และมีคุณลักษณะใกล้เคียงกันมาก
CLASS H
CLASS H มีความคล้ายกับ CLASS G ยกเว้น RAIL VOLTAGE ที่โมดูเลทสัญญาณอินพุทเท่านั้น ที่ไม่มีเพาเวอร์ซัพพลาย RAIL จะสูงกว่าสัญญาณเอาท์พุทเล็กน้อย ปล่อยโวลเทจให้กับทรานซิสเตอร์ตัวเล็ก และระบายความร้อนทรานซิสเตอร์เอาท์พุท วงจรที่คล้ายกับที่ใช้ในแอมพ์ CLASS D นี้ก็คือ มีโมดูเลทเพาเวอร์ซัพพลาย RAIL ที่เหมือนกัน ในส่วนของความสลับซับซ้อนแอมพ์แบบนี้ มีความเหมือนกับแอมพ์ CLASS D แต่ทำงานได้เหมือนกับแอมพ์ CLASS AB
ตัว "D"ไม่ได้ย่อมาจากคำว่า DIGITAL อินพุทถูกแปลงเป็นออดิโอ เวฟฟอร์ม ไบนารี 2 สเตท ความแตกต่างเป็นเรื่องสำคัญ เพราะ CLASS D ออกแบบให้ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ แทนที่จะต้องเสียกำลังไปในทรานซิสเตอร์ เอาท์พุทก็จะถูกไม่เปิดตลอด ไม่มีโวลเทจเสีย ก็ปิดตลอด ส่งผลให้ประสิทธิภาพเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ดังนั้นอินพุทออดิโอถูกแปลงเป็น PWM (PULSE WIDULATED) ร่องสีเหลืองที่อยู่ขางใต้คือ เอาท์พุทของแอมพ์ ร่องสีฟ้าคือ เวฟฟอร์ม PWM เวฟฟอร์มสีฟ้าจะถูกป้อนให้กับฟิลเตอร์เอาท์พุท ซึ่งให้ผลเป็นเวฟฟอร์มเอาท์พุทสีเหลือง สังเกตว่า เอาท์พุทจะดูเหมือนอะไรบางอย่างที่เสียไปสัญญาณที่เสีย และเสียงสวิทชิงทั้งหมดไม่สามารถเอาออกไปได้ และจะเห็นผลได้ที่นี่ เพราะขั้นตอนการแปลงสัญญาณอินพุทไปเป็น pwn และแปลงกลับไปเป็นแอนาลอก ทำให้เกิดการเสียของสัญญาณไป ฟีดแบคทั่วไปก็เหมือนกับที่ใช้ในการออกแบบแอมพ์ CLASS "AB" เพื่อลดการเสียของสัญญาณ มอสเฟทเป็นทางเลือกเดียวสำหรับการออกแบบ CLASS "D" ซึ่งการออกแบบส่วนใหญ่จะมีประโยชน์แต่กับเพียงเบสส์แอมพ์ เมื่อมันไม่สามารถสวิทช์ได้เร็วเพียงพอ กับการผลิตความถี่สูงอีกครั้ง การออกแบบ CLASS "D" ฟลูล์เรนจ์คุณภาพสูงยังคงหาได้ ในเครื่องเสียงระดับมืออาชีพ แต่มันจะซับซ้อนกับเอาท์พุทมัลทิเฟล
CLASS T
CLASS T (TRIPATH) เหมือนกับ CLASS D แต่ไม่ใช้ฟีดแบค แอนาลอก เหมือนกับ CLASS D ฟีดแบคจะเป็นสัญญาณดิจิทอล และเกิดกับส่วนบนของฟิลเตอร์เอาท์พุท เพื่อหลีกเลี่ยงการยกเฟสของฟิลเตอร์นี้เพราะการเสียของสัญญาณในแอมพ์ CLASS D และ CLASS T เกิดขึ้นจากไทมิงทำงานผิดจังหวะ แอมพ์ CLASS T จะป้อนข้อมูลในเรื่องจังหวะกลับไป ส่วนการเสียของสัญญาณ ยังเกิดจากที่เเอมพ์ใช้ตัวประมวลผลสัญญาณดิจิทอล เพื่อแปลงอินพุท แอนาลอกไปเป็นสัญญาณ PWM และประมวลผลข้อมูลก่อนจะส่งกลับ
การประมวลผล จะดูที่ข้อมูลฟีดแบค และทำการปรับแต่งจังหวะ เพราะลูพฟีดแบคไม่ได้รวมฟิลเตอร์เอาท์พุทเอาไว้ด้วย ในแอมพ์ CLASS T มั่นคงมาก และสามารถทำงานได้เต็มช่องสัญญาณเสียง ซึ่งผู้ฟังส่วนใหญ่ไม่สามารถได้ยินความแตกต่างระหว่าง CLASS T และ CLASS AB ที่ออกแบบดีๆได้
การออกแบบทั้ง CLASS Dและ CLASS T ต่างก็มีปัญหากันคนละอย่าง มันเกินกำลังมาก ที่รอบต่ำเพราะเวฟฟอร์มความถี่สูงๆ จะเกิดขึ้นตลอดเวลาแม้ในช่วงที่ไม่มีสัญญาณเสียงแอมพ์ก็ยีงมีความร้อนตกค้างหลงเหลืออยู่แอมพ์บางรุ่นจะมีการตัดการทำงานของเครื่องเมื่อหยุดพักใช้งาน และจะกลับมาทำงานใหม่ เมื่อใช้งานโดยอัตโนมัติ
CLASS G
CLASS G เพิ่มประสิทธิภาพขึ้นมาอีกขั้นธรรมดาแอมพ์ CLASS AB จะขับโดยเพาเวอร์ซัยพลาย MULTI-RAIL แอมพ์ 500 วัตต์ อาจจะมี POSITIVE RAIL 3 และ NEGATIVE RAIL 3 ซึ่ง RAIL VOLTAGES อาจจะเป็น 70,50,25 โวลท์เมื่อเอาท์พุทของแอมพ์ขยับไปใกล้ 25 โวลท์ ซัพพลายก็จะสวิทช์ให้ RAIL 50 โวลท์ และเมื่อเอาท์พุทขยับเข้าไปใกล้ 50 VOLT RAIL ซัพพลายก็จะสวิทช์ไปยัง RAIL 70 โวลท์ บางครั้งเรียกการออกแบบนี้ว่า RAIL SWITCH
การออกแบบนี้ เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ โดยลดการสูญเสียโวลเทจกับทรานซิลเตอร์เอาท์พุทโวลเทจนี้ เป็นความแตกต่างระหว่างซัพพลายบวก หรือแดง กับเอาท์พุทออดิโอ สีฟ้า CLASS G มีประสิทธิภาพเทียบเท่า CLASS D หรือ CLASS T ในขณะที่การออกแบบ CLASS G มีความสลับซับซ้อนมาก โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานแอมพ์ CLASS AB และมีคุณลักษณะใกล้เคียงกันมาก
CLASS H
CLASS H มีความคล้ายกับ CLASS G ยกเว้น RAIL VOLTAGE ที่โมดูเลทสัญญาณอินพุทเท่านั้น ที่ไม่มีเพาเวอร์ซัพพลาย RAIL จะสูงกว่าสัญญาณเอาท์พุทเล็กน้อย ปล่อยโวลเทจให้กับทรานซิสเตอร์ตัวเล็ก และระบายความร้อนทรานซิสเตอร์เอาท์พุท วงจรที่คล้ายกับที่ใช้ในแอมพ์ CLASS D นี้ก็คือ มีโมดูเลทเพาเวอร์ซัพพลาย RAIL ที่เหมือนกัน ในส่วนของความสลับซับซ้อนแอมพ์แบบนี้ มีความเหมือนกับแอมพ์ CLASS D แต่ทำงานได้เหมือนกับแอมพ์ CLASS AB
ขอถามเรื่องรวม track แบบใช้ t-mark ครับ
เนื่องจากเครื่องมันดันแบ่งแทรคให้อัตโนมัติในระหว่างเพลง
ผมเลยลองไปรวมแทรคแบบทีมาร์ค รวมยังไงมันก็มีรอยต่อครับ
ตัวอย่าง A B ผมกด mark off ที่ 0.00 ของ B พอรวมเสร็จต้นแทรค B มันหายไปเสี้ยววิ
มันสามารถต่อกันได้แบบเนียนๆ เลยมั๊ยครับ
ขอคำชี้แนะด้วยครับ
สวัสดียามค่ำครับชาว เรโทร-เอ็มดี
ขอถามเรื่องรวม track แบบใช้ t-mark ครับ
เนื่องจากเครื่องมันดันแบ่งแทรคให้อัตโนมัติในระหว่างเพลง
ผมเลยลองไปรวมแทรคแบบทีมาร์ค รวมยังไงมันก็มีรอยต่อครับ
ตัวอย่าง A B ผมกด mark off ที่ 0.00 ของ B พอรวมเสร็จต้นแทรค B มันหายไปเสี้ยววิ
มันสามารถต่อกันได้แบบเนียนๆ เลยมั๊ยครับ
ขอคำชี้แนะด้วยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 492
neng_ja
09/11/2012 22:21:25
48
Wit66: กระป๋องสีฟ้า ตาม คห.300 หน่ะครับ
Wit66: กระป๋องสีฟ้า ตาม คห.300 หน่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 493
happysound08
09/11/2012 22:30:11
0
แผ่นที่จะส่งไปให้กำลังอัดอยู่ครับ คุณโก๊ะ คุณ เหน่ง ผ่านแอมป์ พี่ big class H ด้วยขุมพลัง 3000W RMS น.น.เกือบ 40 กก.ให้ความต่อเนื่องแบบสุดๆ เพราะหม้อแปลงตัวเท่า กาละมัง ประกอบมาเป็นchipแบบ จานบิน อีก 26 ตัว หลังจากแกะกล่องเอาไปใช้งานได้ 50 ชม.ผมถือว่ายังไม่พ้นเบิร์น ตัวนี้ผมเลยเอามาทดสอบกับการอัดmd เป็นการอัดจากnotebookด้วยไฟล์lossless ผ่านสาย mini to rca ไปยัง mixer(ที่ผมปรับเป็นflatทั้งหมด เพราะไม่การให้มีผลต่อไฟล์ต้นฉบับ) ลดทอนความเป็นdijitalได้ดีมาก จากนั้น ส่งเข้า แอมป์ พี่ big ด้วยสาย balance xlr ผ่านเข้าช่อง rec.ที่mixerอีกที่ ส่งสัญญาณline in.ไปที่ cd/md denon ด้วยสายคู่ที่จะส่งไปให้คุณ เหน่งลอง แผ่นที่จะส่งให้ทั้งสองท่านเพลงเหมือนกันนะครับ มีหลากหลายแนว ฟังแล้ว ติ-ชม ได้ตามใจชอบไม่ต้องเกรงใจ..