เจิมครับ คิดถึงมากมาย 555

^
^
คคห.1 ใครหว่า ...จำไม่ได้แหล่ว


^
^
^
๕๕๕

รางวัล คำสรรเสริญ เหรียญรางวัล เป็นสิ่งสมมติ
พ้นผ่านยุคสมัย คนก็ลืมกันไป

ผลงานแท้จริง+ฝีไม้ลายมือ ของนักกีฬา คุณค่าที่แท้จริง คงประทับใจแฟนานุแฟนทั่วโลกแน่นอนจร้า

จำ___ไม่ได้หรอ 55

ห้องคงอีก 1-2 อาทิตย์ละครับ ย้ายจากรูหนูไปรูหนูที่ใหญ่กว่าอีกนิด T_T!

เอารูปลำโพงที่ได้มาไปดูก่อนครับ แทบไม่ต้องเลือกเลย เสียงกลางแนวเดียวกับ LCD-3 55555 แต่เบสไม่ลึกและก็ไม่กระชับเท่า ออกนุ่นนวลกว่าอาจจะเป็น amp กำลังไม่ถึงก็ได้

ช่วงนี้หา Power amp อยู่ มีใครแนะนำให้ไปฟังตัวไหนไหมครับ ^^

หากไม่รวมเรื่องการริบแผ่นเองแล้วเก็บลงในสื่อบันทึก ราคาต่อหน่วยความจุถูกสุดน่าจะเป็นHDDกระมัง

ต้นทางของการเพย์แบ็ค Computer audiophile สำหรับข้าน้อย(และก๊วนดูหนัง/ฟังเพลงกลุ่มเล็กๆที่เจียงใหม่)
คืออันนี้จร้า

ขอโทษคับ อ่านแล้วไม่รู้เรื่องเลย เปนเ้ยไรกันคับ

เค้ามารายงานตัวทุกภาคเลยนะ จำไม่ได้ ได้ไง ใจร้ายอะ 555

S1 ไงครับพี่ดา เข้ากั๊น เข้ากัน อิอิ

ปล. ไม่รู้ทิ้งน้อง DP1 ไปยัง >_<

ฮาเบ็ดคู่นี้ รถถัง gm70 ของ พอจ.บอยน่าจะเอาอยู่กระมัง

DP-1 ยังอยู่ครับน้องป๊อก แต่อยากลองเล่น Class A ดูบ้าง ใหญ่ดี เจ้า S1 class Dไปลองฟังที่ KS sons แล้วครับ ตัวเท่ากับ DP-1 เลย แถมกล้ามโตอีกด้วย ขับลำโพงตัวใหญ่สบายๆ

มารายงานตัวด้วยคนครับ... จากก๊วนจิ๋วจี๊ด!!แดนภารตะ

leben สวย เสียงดี เข้ากับลำโพงเลยครับ
http://lebenhifi.com/products/cs300xs.html

ช่วงนี้เป็นไรไม่รู้ดูรูปตัวนี้ทุกวันเลย 555

มันจะขับลำโพงพี่อู๊ดได้เหรอครับ แรงขับน้อยจริง ^^!

เจ้านี่ เป็นตัวโปรดของ Skylab เลยเชียวนะ...

น้องป๊อกอ่านใจพี่ดาขาดอีกแล้ว

ดูอาการคุณอู๊ด...มีแววจะไปซบอกน้องเลเบน

^

^

^

ผมขอคิว 0 Soloist เลยครับ...ฮุ ๆ

พี่อู๊ดซื้อแล้วขอมายืมฟังหน่อยสิครับ อยากรู้เหมือนกันว่าจะขับเจ้าเป็ดได้เพราะแค่ไหน ^^

ตอนนี้ผมมี PSB alpha B1 อยู่คู่เดียวจ้า วางไว้เฉยๆ 555

Leben งบขาดอีกบานเลยครับ ยุคนอื่นได้อย่างเดียว เอิ๊กๆ

สีไม้ข้างๆ แอมป์ มันเข้ากั๊นเข้ากันกับลำโพงคุณดาม๊ากมากๆๆ 555

ตามมาด้วยคน ^ ^

เอาปลั๊กรางที่ผมให้เฮียฉ่าง Tombo audio ทำ มาให้ดูครับ

ตัวใหญ่ทีเดียวครับ ดูแล้วมันสวยดีเหมือนกัน ^^

ตัวจริงหนักพอสมควรครับ รับรองสายใหญ่แค่ไหนก็เอาอยู่ ไม่เอียงล้มแน่นอน ก็เล่นใส่แผ่นเหล็กหนาเกือบ 2 cm. มาด้วย แต่ผมชอบขาตั้งตัวเล็กๆ ที่ติดมากับแผ่นเหล็กนะ สวยดี ^^

สวยดีครับพี่ดา ด้านในมีอย่างอื่นนอกจากสายไฟรึปล่าวครับ ทำไมตัวใหญ่ + อ้วนๆ เชียว 555

อยากเห็นสภาพอะคูสติกภายในด้วยอะ..ได้ถ่ายรูปไว้?

เสียงจาก R1, 381 gold ต่างไปจากเดิมยังไงบ้าง พอฟังออกปล่าว?

ปล. ลายไม้เข้ากับ Zebra wood ของน้องสามสุดๆเลย

ภายในไม่ได้ถ่ายรูปครับ รู้แต่ว่าเอาไม้เป็นแผ่นๆ ค่อยๆประกบกันขึ้นมาเป็นตัวกล่องปลั๊กรางครับ ส่วนข้างในผนังจะไม่เรียบ จะมีไม้ยื่นๆหดๆ คล้ายกับเป็นแผง diffuser เพื่อนช่วยกระจายความถี่เสียง

เสียงจากที่ได้ฟังมาอาทิตย์กว่าแล้ว บอกได้เลยว่ามันไม่ใช่ R1, 381 gold ตัวเดิม เสียงมันออกมากลางๆ ไม่คัลเลอร์เหมือนเดิม กำลัง ไดนามิคดี ฟังแรกๆ รู้สึกจืด แต่ฟังไปนานก็เริ่มชอบความเป็นกลางของมันครับ จากที่เคยฟังเพลงเดียวกันเบสลงลูกใหญ่มาก แต่ตอนนี้ได้เบสลึกขึ้นแต่เสียงไม่ได้มีปริมาณมากเหมือนเดิม เปิดกับลำโพงเสียงที่ได้ก็คล้ายกัน ไปบ้านพี่อีกคนที่เซ็ตห้องฟังเพลงแล้ว ก็เลยรู้เลยที่เค้าบันทึกมาจริงๆแล้วมันเป็นแบบนี้ ฟังแล้วได้อารมณ์มากกว่าเยอะเลย ยอมรับเลยครับว่าพี่แกจูนเสียงเก่งจริงๆ สงสัยต้องโดนอีกสักกล่อง 55555

เสียงไม่คัลเลอร์ ออกกลางๆ ฟังแรกๆแล้วจืด

จากที่บรรยาย ผมคิดเอาเองว่าเสียงที่ได้จะแนวเหมือน ปลั๊กทองแดงล้วน? คิดถูกปล่าวเนี่ย?

นั่นเห็นอ้วนๆ ไม่ธรรมดาจริงๆด้วย diffuser 555

อาทิตย์หน้าว่าจะไปบุกบ้านพี่คณิต มีใครสนใจไปขนของด้วยกันเปล่าครับ ^^

จากที่คุยกันมา

ใครจะไปบ้านพี่คณิตต้องใจแข็งพอด้วยนะ...

ถ้าใจอ่อนละก็....ได้ของเล่นใหม่เยอะกว่าที่ตั้งใจไว้แน่ๆ

ขนาดผมแค่โทรคุยก็อ่วมแล้ว

ถ้าไปฟังกับหูละก็....

มาช้าไปนิดส์นึง ขอเจิมด้วยคนนะค๊าบ...

เฮโหลๆๆ มีใครอยู่บ้างค้าบ...

ขอถามพี่ๆเรื่องฟิวนิดนึงครับ ถ้าเน้นเรื่องเสียงดีผมควรจะใช้ฟิวจำนวนแอมเท่ากับที่เครื่องหรือมากกว่าดีครับ เช่นเครื่องระบุว่า 1A ผมควรใช้ 1A หรือ 1.25A ดีครับ

ผมว่าใช้ 1A เท่ากับที่ติดเครื่องมาน่าจะดีที่สุดครับ อิอิ(ปลอดภัยดี) แต่เผื่อไว้เป็น 1.25A, 1.5A ก้อไม่น่าจะเสี่ยงมากมาย เพราะฟิวส์ดีๆก้อราคาไม่เบา แต๊บแล้วมันเศร้า 555

ปล. เรื่องเสียงผมไม่แน่ใจครับ แต่คิดว่า 1A กับ 1.25A ไม่น่าจะต่างกันมากมายเน้อ

ปุจฉา
ถ้าเน้นเรื่องเสียงดีผมควรจะใช้ฟิวจำนวนแอมเท่ากับที่เครื่องหรือมากกว่าดีครับ เช่นเครื่องระบุว่า 1A ผมควรใช้ 1A หรือ 1.25A ดีครับ

วิสัจชนา แอ่นด์ถามกลับนิดนึง เฮ่ๆ
ขอกระชับๆ อีกนิด เครื่องอะไรเอ่ยวานบอก

ผมกะเอาไว้ใช้สองที่ครับ อันนึงใส่ที่ IEC socket ของ Calyx Dac ส่วนที่เหลือเอาไว้ใส่ที่ตัว board ของแอมครับ แต่ผมยังไม่เคยแกะแอมมาดูว่ามีฟิวกี่ขนาดกี่ตัวครับ ว่าจะหาฟิว hifi tuning supreme มาใส่ให้น่ะครับ

มาช้ายังดีกว่าไม่มา ๕๕๕

เข้ามาก็เจอที่เสียบปลั๊กคุณดา แม้แต่ที่เสียบยังดูสวยขนาดนี้

มาช้าเพราะมัวปล่อยเมพ นะสิท่า..พี่หมอปุ๊ย

ข้าน้อยก็มี ปล่อยของดีๆออก เสริมสภาพคล่องหน่อยจร้า(แบบทาฟๆ)

อยากครอบครอง HD800 เหมือนกันนะเนี่ย แต่...ไม่ทันแหล่ว!

หมอเอฟก็ ก็คิวสองไง ฮ่าๆๆ

ปล่อยของรักส่วนตัวที่ทาฟกับนอติลุสนะครับ

ถึงเวลาต้องไปต่ออีกแล้วครับ

ก้าวแรกก็ต้อง"เอาถ่าน"ประเดิมก่อนเลย

dac ก้อปล่อย amp ก้อปล่อย น่าสงสัยๆๆๆจริงๆ อิอิ

ตอนนี้ผมมีอย่างในรูป คคห.5 ตัวซ้ายแล้วครับน้องป๊อก

He6 ก็เพิ่งปล่อยไปได้แล้ว

เลยอยากลอง balance amp แบบป๊อกบ้าง

จริงๆแล้วเสียงจาก minute el34PP + He6 นี่ก็เทพแล้วนะ ป๊อกเองก็เคยฟังกับหูมาแล้ว แต่ความอยากรู้อยากเห็นมันผลักดันอยู่ ถ้าไม่ลองให้รู้มันก็...คาใจ

comment 8 รึปล่าวครับพี่เอฟ กิโลละหลายหมื่นเลยนะนั่น อิอิ

Balance Amp นี่สงสัยจะเป็น SS ใช่มั้ยครับ 555

ปล. ไทย จีน ฝรั่ง หวยออกที่ไหนละเนี่ย ^^

ใช่แล้วหล่ะป๊อก เพราะน้องสามน่าจะเหมาะกับ Solid มากกว่า

ถ้าใช้กับหลอดเดาว่าจะทำให้เสียงออกมานุ่มนิ่มเกินไป...ว่ามั๊ย

เปลืองค่าไฟก็บอกมาเถอะพี่เอฟ 55555

ก็จริงของน้องดาเพราะ ตอนฟังต้องเปิดแอร์ตลอด

แต่เจ้า BHA-1 ก็เป็น Solid CLASS A
ที่ head-fi ก็คุยกันว่ามันร้อนเอาเรื่องเหมือนกันนะ

ยังไงก็ต้องเปิดแอร์ฟังด้วยอยู่ดีแหละ

ป๊อกว่าน้องสามไม่ว่าจะจิ้มกับแอมป์ตัวไหน เสียงก้อคงนิ่มไปหมดแหละครับพี่เอฟ นุ่มละมุนจริงๆ 555

ว่าแต่ได้สาย balance ยังครับ ถ้ายังด๋อยของพี่ดานี่แหละ อิอิ

ของจะมาถึงเมื่อไรครับพี่เอฟ

ปล. ดูขนาดหม้อแปลงของ BHA-1 ท่าทางกำลังเหลือเฟือ น่าสนใจมาก แต่มะมีตังแล้ว T-T

ช่วงนี้คิวยาวหน่อย รอ 3-4 อาทิตย์

ถ้าสนใจรีบตัดสินใจเลยนะ เพราะ 1ตค.จะขึ้นราคาอีก 10 เปอร์เซ็นต์

น้องมิกน่าจะสนใจอ่านตรงนี้นะ

http://www.head-fi.org/t/493214/hifiman-he-6-planar-magnetic-headphone/6120

(อ่านที่ คคห.6123)

เอาสมาชิกใหม่ในชุด มาแนะนำตัวครับ

ตามกลิ่นฮาเป็ดมานี่ อยากได้...

เมื่อคืนไปยกเค้าบ้านพี่คณิตมา เดี๋ยวว่างๆ เอารูปให้ดูครับ อิ..อิ

กระทู้เงียบเชียว 55555

ฟังก่อนครับแล้วค่อยบอกว่าขโมยอะไรมา

สายลำโพงใหม่ๆ ยังไม่เคยใช้งานค่าตัว 2K + สายไฟเสียบแอมป์ตามมีตามเกิด + CDP หลักพัน

อัดจาก tab เสียงมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่พอฟังเป็นแนวดูครับ

[youtubehttp://www.youtube.com/watch?v=DzLjNnVQDpU&feature=youtu.be[/youtube]

http://youtu.be/DzLjNnVQDpU

เสียงร้องหวาน..น...น ทอดยาว..ว..ว..ว มาก..ก...ก

เอาเพลงโชว์เสียงเบสบ้างเน้อน้องดา

Bryston BHA-1 นี่ดีกว่า Burson HA-160 series มากไหมครับ ค่าตัวก็เอาเรื่องอยู่ สั่งนานกี่อาทิตย์ครับพี่ chirawatf

แอบไปจิ๊ก ปรี-แอมป์ บวกกับสาย RCA สายไฟ มานิดหน่อยละครับ แต่น้ำหนักรวมกัน 100 Kg กว่าๆ เอง ^^!

ดูชัดๆ อีกที

เอาเบสมันส์ๆ เอาจริงเปล่า ^^

@ น้องดา

แอมป์โมโนบล็อคกล้ามมัดใหญ่ขนาดนี้ ไม่โชว์เบสไม่ได้หร๊อก

@ TMY168

ผมเคยใช้ Burson HA160D ภาคแอมป์ถือว่ายังไม่ดีเลยครับ
ส่วน Burson soloist ไม่เคยฟังแต่อ่านรีวิวแล้ว ดีกว่าเดิมชัดในด้านมิติเสียงด้านลึก กระจ่างขึ้น เพราะแรงขับมากกว่าเดิมประมาณ 3เท่า แต่แนวเสียงโดยรวมก็ยังเหมือนเดิม

ส่วน BHA-1 นี่เป็น fully balance amp ซึ่ง"คาดว่า"เสียงจะไม่น้อยหน้าใคร แต่จะดีจริงปล่าวเนี่ย...วัดดวงเอาล้วนๆเลยครับ
คิดว่าเป็นแอมป์ออกใหม่ ถ้าฟังแล้วไม่โดนก็น่าจะปล่อยไม่ยากครับ
ส่วนระยะเวลารอไม่ต่ำกว่า 1เดือน

อาทิตย์ที่ผ่านมาสมาชิก Head-fi ได้รับ BHA-1 หลังจากสั่งไป 4เดือนครึ่งครับ

Wow! คุณดา มาลงชุดบ้านเต็มตัวแล้ว จะรอติดตามนะครับ...^ ^

@หมอเอฟ : ผมจะรอรีวิวเจ้าBHA-1ด้วยอีกคน 555

ผมจะเขียนรีวิวให้ฟังแน่นอนครับ เจ้า BHA-1 นี่

แต่ช่วงรอการมาถึงของมัน

พอจะมีรีวิว B22 ให้อ่านไปก่อนไหมครับ

มีความเห็นที่คิดว่าน่าสนใจมาก อยากให้ทุกคนได้อ่านดู คนเขียนใช้ชื่อว่า Zanth ซึ่งคร่ำหวอดในวงการหูฟัง+ลำโพง
หูฟังตัวโปรดของเขาคือ PS1000, ลำโพงตัวโปรดคือ Harbeth SHL5

จาก http://www.head-fi.org/t/615000/grado-ps1000-very-mixed-and-not-review-like-impressions

*******************************************************
I like my PS-1000s. I haven't listened to a recent pair but I have

experience with the very first pair (I own it) and a pair in the 600s.
I currently own (in order of acquiring):

SR60s
RS-1 (very first batch)
PS-1
GS-1000
iGrado
PS-1000
HF-2

In the last few years, I have had or had on long-term loan: HD800s, T1000s,

LCD2, Omega II, III and on shorter terms: Omega I and LCD3. I still own the

EAR and the lone Melos SHA-X (there is another lesser twin, mine is Arnie,

the other is a Danny, but could be an Arnie with some Joe love. Saul has

since passed on though, so not sure how that would work out). I have used 2

Woo Audio amps including their stellar 300B-based amp, a prototype Wyetech

Labs amp, 300b-based, a prototype Burmeister solid state with the Grados,

the Senns and the Audeze LCD2s. The 3s were with the Woo amp.

I've played around with various front-ends including a sickly tricked out

Lenco with a Triplanar Arm, another with a Graham Phantom II and yet

another with a Dyanvector. All with various carts using either a Wyetech

Labs Phono, the EAR 88BP or the EAR solid state phono. Digital has included

my tricked out Shanling, an AMR CD-77, a dCS stack, a really really awesome

Reimyo prototype that sadly never made it out the door due to parts

availability. I've also had some fun with speakers and have either swapped

in or out various great models and I've settled on Harbeth for my own home,

but have enjoyed Tannoys, Audionotes, Wilsons, Zu and Coincidents. Despite

my time with all this gear, in and out - listening, scrutinizing, choosing

- the most valuable experience for me, in the past 15 years of this hobby,

came from partaking in the Montreal Audio Show this past March. I heard

three systems that cost 1 million. I heard plenty from 100k-250k and plenty

more in the 50-100k zone. What floored me, despite some very very well set

up rooms with treatments etc, was that there are some systems that are well

put together and some that are not. Some have components that exude life,

and others do not. Money is not a guaranteed determining factor in

performance and one man's best is another man's worst. I walked into a

Bolder/Sanus Faber room, the second most expensive room, with a stack of

gear and cables and power condition and treatments... it looked impressive

and those speakers are GORGEOUS! I had my heart set on experiencing aural

perfection and walking away with a feeling of elation mixed with sadness

knowing that the opportunity to recreate/own such a system would be

incredibly rare, and likely never to happen.

Yet, when the music played, everyone silent, looking and listening, I was

left unmoved. The sound was incredible. Give me a check list of items or

aspects many declare are necessary and it would have likely been a simple

hit in the "has" category all the way down. What it didn't have, no matter

the music was "life!" The emotion (for myself and a few others I was

speaking with afterwards) was unmoving. It lacked any bit of real

excitement that titilates the senses. I was left rather cold when moved

from unmoved to other. Having never heard any of the components on their

own before, I couldn't reliably identify the exact loci of the problems. I

could easily indicate that there was an abhorrent LACK of synergy and

emotion and life. In fact, only a few systems spoke to my soul it seemed

and the two that did so the most were the Audionote room and a room with

some Harbeth Monitor 30s. The Audionote room was all Audionote gear with

these large corner loaded speakers. They sounded divine and REAL from rock

to grunge, from chamber to symphony and small ensemble jazz to female vocal

+ a solo cello, no matter what there was energy that made the room sound

ALIVE. Not just LIVE but actually a creature in and of itself. The Harbeths

were partnered with two amps, neither of which really worked well with the

speaker given my previous experience with them but it had me convinced: for

me, for what I demand from my system, only the Harbeths and Audionotes did

this justice.

It was after this weekend that I went home read up on both companies along

with Spendors and I planned a purchase. The Audionotes, by their design,

were too limiting (they have to be placed in a corner) so I looked to

Harbeth. Tom Hankins owned the Harbeth SHL5s, then the 40.1s and having

read his many posts here and elsewhere, I knew I could reliably gauge my

likely experiences given plenty of unknowns. Thankfully, there is a dealer

for Audionote and another for Harbeth in my city. I listened and listened

and swapped gear for hours on end in a private well set up room at each

shoppe. In the end, as I had determined previously, the Audionotes simply

didn't make sense given the need to place them in corners. So they were

bumped from the list and I kept at the Harbeths, going through the models,

planning the amps and figuring out room size vs. model vs. efficiency vs.

short term and long term use. In the end I went with the SHL5s, a unique

design in the line given the dimensions. They use a super tweeter that is

rolled off around 25kHz and their easy load (rated 86-87 db at 6 ohm, never

dropping below 6 and tested to show a rating of 93-94 db) allows a larger

variety of amp topologies and power ratings. Even at a hypothetical 94 db,

matching amps will be critical. It has forced me to reevaluate a few

choices I had made, adding others in their place. The journey has been

frustrating but enjoyable too. In the end, when I get the sound just right,

I will know it at that exact moment and I will (or hope to) feel a sense of

peace and accomplishment. Perhaps so much so that I will get off the

merry-go-round for a more years.

My speaker search was not unlike my headphone experiments. I had a need

initially (grumpy housemate) that prompted me to search out headphones. I

wanted something I could use on the go, at home, laying down on a bed,

sitting relaxed in a chair, all these needs were trumped by "good sound."

That was back in 1997. I ordered the SR60s after Headroom and Good Cans

(the only sites online at the time that were exclusive to headphones and

had ample exposure to the top dogs of the time) declared them king for

under $100 ($150 CAD at the time) and perhaps the best under $300. In fact

Good Cans likened them to the RS-1s at a fraction of the cost. Hmmm, will I

suffer confirmation bias once they arrive? Can the RS-1s really only be

slightly better? I began to obsess. I already had a pair of headphones that

were better than 95%+ of what was available. That didn't matter to me. Too

bad too. I could have saved a lot of money right there and then biggrin.gif

In the end I schemed to buy the RS-1s. And I found a way by 2001. I had

previously purchased the RA-1 so I was at least marginally ready to bring

the RS-1s into the home. My player sucked. No denying that. So within six

months I had purchased the Shanling.Within 12 I had the first modification

done. That 12 month period also saw HP-2s enter my home, shortly thereafter

I modified the player again and picked up 5 other HP-1000s. The RA-1 was't

enough: enter the Melos SHA-X so named by Jude during a fun contest to name

the first Melos ever, a prototype. How good was this thing? I had to know,

so more HP-1000s came my way. Between Vka, yidimsum and myself, gosh we had

30 pairs at one time. Vka had an incredible ability to find them and sell

them. That Orpheus was a direct result of savvy sales.

Getting back to the phones, as I changed my system, supposedly upgrading

each time, I continued to second guess myself. I liked the RS-1s more than

the HP-1000s no matter which model (and I not just owned them all, I owned

them all at a single time along with SR200s and SR300s). Were folks spoking

some serious crack for liking the HP-1000s more? If I preferred the RS-1s,

maybe the sickly rare Grado Freestyles may be better still! These were the

precursor to the PS-1s and John's all out assault in the metal alloy realm.

The Freestyles never made it into my hands, not as a wireless system

anyway. I did acquire one of the very first PS-1s, with the Freestyle

lettering not entirely rubbed out by the PS-1 stencils. The PS-1s took my

lisetning to a whole new level in many ways, mainly with the super liquid

midrange. Was the Melos good enough? The best possible for the PS-1s? I

preferred the RA-1 quite often to the Melos depending on the tubes I used

when listening with the RS-1s. Perhaps the Melos was the best for HP-1000s

but something else was best for John's phones. At the time (and I think

still true to this day) the Cary 300SEI and the EAR HP4 were considered the

best with RS-1s and PS-1s. Having heard the Cary and eventually the EAR, I

chose the EAR and still use it to this day. In fact, I have yet to find an

amp I prefer with any headphone over the EAR. Yet, that all took time. It

took experience listening to various gear, various topologies, at different

times with different people in different settings but most of all over

significant time frames. All of this helped me stay firm in the camp I'm in

which is dominated by Grados. I've had the R10s, the Omega IIs, the HE60s,

the HD800s, the T1s, the LCD2s, all available to me to buy if I could swing

it. The LCD3s and the ATs I never had the opportunity to own, but given

that LCD3s are current, I could own them. But I don't.

Like my decision to go with Harbeths, known for a distinct but

exceptionally musical and "REAL" sound, Grados offer me the elements I

crave more often in greater degrees than models from other companies. It

means I can limit my self-doubt, my festering to perhaps own THE BEST

(whatever that might be) and my need to continually sample. In the end I

should have trusted the words of the wise, those who are much older, have

put in far more years than I had or have even still in this hobby.

1) There is no best
2) The more things change, the more things stay the same
3) It is best to spend money upfront and keep something for a long time,

rather than continually buy and sell in hopes of finding THE BEST
4) There is no best
5) The technology is quite mature in audio save for the digital realm (and

class D amplification), it means a lot of the gibberish we read online or

in the rags are just that, gibberish. Nonsensical hyperbole
without an ancor or familiar base from which outsiders are able to properly

judge the words of the writer
6) This hobby is about having fun, enjoying music and getting one's geek on

in the realm of acquiring and tinkering with toys.

Last but not least (and really only evident, at least to me, after

experimentation and auditioning) everyone has particular tastes with an

emphasis on aspects that may or may not intersect with those tastes or

must-haves of another.

An end goal speaker-wise may be the Harbeth 40.1s. I'm told they are very

big, very tough to match well with amps AND rooms. The 5s offer most of the

40.1s goodies while retaining for themselves something unique and valuable.

The 5s play better in most rooms and can be used with SETs with fine

results, something that is appealing. Harbeths seem to build for a given

room size rather than creating models in different price ranges to suit

one's wallet. In this way, if sonically similar, the larger models would

have more bass, but that can be added with a good fast sub. The smaller

models can be placed closer to walls, are more nimble and again, if tonally

similar, won't give up much to the bigger brothers. This is appealing for

many who are fans of the BBC lineage. Not merely from Harbeth but from

Spendor and Audionote too.

I find Grado headphones are not much different here. Back in 1997, Good

Cans and Headroom were corrent in identifying the SR60s as the best bargain

in all of high-end at the time. In fact, they may well still be able to

make such a claim, at least with headphones. They were also correct in

acknowledging that the SR60s get 80% of the way to the RS-1s. I'd extend

that to the PS-1s, PS500s, PS-1000s, GS-1000s and the Alessandros too. In

fact, this isn't unique with Grado.

As one races up the models towards the priciest offerings, unless the

technology is entirely different, sonically, there will be many

similarities and ideally, the pricier models begin to show their strengths

not in what they do MORE of (though that can be true) but what they do

distinctly from the lower models. Subtelties in music begin to play a

serious role here. Trained ears are able to pick this stuff out with

greater facility than those with untrained ears if only because there is an

active listening FOR something rather than listening for something that is

missing (which, conversly can happen when coming from a better model).

The GS-1000s and PS-1000s are predominantly the same as the other Grados,

even those of old Joe from the early 90s. The main shift was the driver

distance from the ear because of the cushion design change. Tweaks to the

driver and later to the cables play a role too of course, and a not so

subtle role for many, but at the end of the day there is a house sound that

one is cool with or not. Throwing down close to $2k on a pair of

headphones, prumably by someone already admiring what Grados have to offer,

is usually preceded by a desire to augment the good stuff, diminish or

eradicate the not so good stuff and to bring in new goodies that will

titilate the soul.

What is expected, in the realm of the minutia in some cases, to achieve

that last bit of edging out the last 5-10% depends not just on improvements

with the flagship product but also with the associated gear. However, if

one has a tricked out system and one that was carefully matched for

previous Grados in this case, it is completely fair to declare after much

effort: I'm moving on, these are not for me.

This is not unique to Grado, it has happened with HD650s in reference to

the 600s, and even the 600s relating to the 580s. So true too then from

comments in the past going from Omega I to the IIs and even the IIIs. Many

still love the Is over the others.

The PS-1000s still offer me more than any other headphone I own or have

owned or could own. They are still my go-to headphone when I am able to

listen to my main system. There are some albums that perform better with

the PS-1s, or the RS-1s and I have the luxury of swapping them in and out.

Headphones used to be a really awesome low cost entry into this hobby. A

given headphone, dollar for dollar, could trounce speakers in many many

ways, offering people an alternative to forced communal listening. The

lower price points also enabled plenty of people a customizing of systems

for specific genres or albums as the case may be. Speakers are too large,

cumbersome and often expensive to enable the same flexibility. However, as

Uncle Erik has been proclaiming for years and I certainly agree, speakers

in most ways will offer MORE for the dollar than most if not all of the

costly headphones, no matter the company. In fact, I'm taken aback at the

recent price hike in each subsequent flagship AND in the amps. Headphones,

save for electrostats, are relatively easy to drive when compared to

speakers. Yet, we are seeing amps that are $10k, 20k! and more!!!! for

headphones. When one can put together a Quad ESL setup from 40 years ago

with a decently low powered and cheap amp and get a sense of space,

imaging, soundstage and realism that no headphone can provide, all for

under a grand... if one has the space, get off the heapdhone merry-go-

round! Just be sure to keep in mind the reason for going iwth the speakers

and ditching the buying and selling insanity. Doing so with speakers is FAR

more dangerous to the pocketbook (and the WAF is much more dire in these

circumstances).

My system is in my profile. I try to listen to vinyl mostly, as I prefer

the sound. That is parsed through an EAR phono and into the EAR HP4 to my

PS-1000s. It is rare that I am drawn to any faults. The reason is primarily

because I am experiencing music in a way that touches me. If I felt that

every time I put them on I was drawn to imperfections, I'd move on too. The

EAR is simply a super solid design, sonically wonderful and never surpassed

(perhaps equalled but I haven't heard one that does so) with Grados.

Blackmore has historically been a great fan of Grados. He admits it and he

has worked towards constructing a system that would create an ideal

synergy. The EAR HP4!!!! So awesome.

Anyhow, Blackmore, I think what you have written is important and the

detractors are caught in the confirmation bias/deflated ego downward spiral

that plenty are prone to. I hope you find your perfect headphones soon.

มี Harbeth sHL-5. ของผมด้วย ^^

@คุณดา : Harbeth sHL-5 เนี่ย ผมมีโอกาสฟังทีไร เคลิ้มทุกที ชอบเสียงร้องจากลำโพงตัวนี้มาก ^ ^

ฝากด้วย

http://www.taf.in.th/showthread.php?t=58510

ต้นทาง สพหรับการเล่นไฟล์เพลง จากจิ๋วจี๊ดส์ หรือแด็ค/แอ็มป์ทั้งหลาย หรือไฟล์หนังกับhd box ,htpc
หากเราเน้นให้มีภาคจ่ายไฟดีๆจ่ายไฟดีๆให้กับ hdd docking อาจมีการปรับปรุงสิ่งแวดล้อมรอบตัว HDD Storageด้วยบ้างยิ่งดี

สิ่งเหล่านี้คงเปรียบเสมือน 1st. ทรานสปอร์ทก็ว่าได้

จิ๋วจี๊ดส์ ตัวแรก อายุครบปีเดือนกค.
อันนี้ตัวล่าสุด ตูดสะอาด ไลน์เอ้าท์(เสียงสู้ hf outไม่ๆด้)กลายเป็นไลน์อิน เหลือรูยึดspdif digital outไว้เผื่อต้องการสายไลน์เอ้ท์แบบมินิ ฮ่าๆๆ

ด้านหน้าเปลี่ยนสวิทช์เปิดปิด(ยกเลิก ไม่ใช้) เป็นสวิทช์เลือกเป็น dac/hf amp (down) or line in>hf amp(up) แทน
ส่วน ddc 24/96 spdif out from usbยังคงทำงานตลอดเวลาตราบที่เราเล่นจากคอมพ์

พักนี้สงบเสงี่ยมมาก หูฟังของข้าน้อยที่หยิบใช้บ่อยคงมีเพียง he5 ,sony mdr cd2000
ก็ยังคงใช้งานกัยเจ้าจิ๋วฯเช่นเดิมจร้า

เอาตัวเล็กมาโชว์ตัวครับ ตอนนี้ได้ 2 เดือนแล้วจ้า

กำลังฝึกกล้ามเนื้อคออยู่ครับ

เอ้า..อึ๊บ ^^

แก้มยุ้ยเหมือนพ่อเลย (รูป Avatar)

usb ถ่านของหมอเอฟ ผ่าตัดเสร็จแล้วเน่อ
วานนี้มาถึงมือข้าน้อยแล้ว เย็นนี้แวะส่งให้จร้า (ปอลอร์เจ้าเก่า)

๕๕๕ กำลังนึกอยากใช้สายถ่านขึ้นมาพอดีเลยครับ ๕๕๕

จิ๋วจี๊ดส์ จัดล้น แบบครบสูตร

สวทช์ใกล้โวลลุ่ม
บน = usb > dac > hf amp
กลาง = mute
ล่าง = Line in > hf amp

สวิทช์ใกล้รูแจ็ค6.3mmเสียบหูฟัง
บน = High gain hf amp
กลาง = normal
ล่าง = Medium gain hf amp

front

rear
3.5mm line out ของเดิม เรื่องเสียง เป็นรอง hf amp / pre out มากมาย
จึงยกเลิก/ปรับเปลี่ยนให้กลายเป็น Line in แทนจร้า

รองรับการใช้สาย ใดๆ > mini 3.5 stereo เพื่อต่อเข้ามาให้ภาคแอ็มป์ขยายออกไปขับหูฟัง หรือใช้เป็น pre amp out ก็ได้
กรณีหลังต้องการ สายต่อพ่วง เช่น 6.3mm > RCA สำหรับแอ็มป์บ้านเป็นต้น

๕๕๕ กำลังนึกอยากใช้สายถ่านขึ้นมาพอดีเลยครับ ๕๕๕

...................................................

อันนี้ใช้สำหรับ เล่น โยน โหลด เน่อ ยังไม่ใช่แบบ ส่ง ดึง 555

ได้รับสายถ่านเรียบร้อยแล้วครับ

เอามาต่อ Computer-->Carbon USB--> EximusDP1 --> Burson Soloist --> LCD3

เสียงที่ได้เมื่อเทียบกับสาย USB ที่แถมมากับ Eximus DP1 คือ ความเร็วเสียงฉับไว เสียงเลยไม่ตีกัน กลาง-แหลม-เบสก็สมดุลดี หางเสียงหยุมหยิมได้ยินได้ดีขึ้นชัดเลย และเสียงกลองสแนร์มีแรงปะทะดีขึ้น ฟังได้โจ๊ะๆ ลองฟังเพลง Metal เร็วๆอย่าง Cigaro ช่วงรัวกลอง...มันส์ได้ใจดี

สายถ่านทำให้โทนเสียงออกอุ่นนิดๆ เสียงอ่อนโยนลงบ้าง แต่ก็ยังฟังได้สนุก

ขอขอบคุณพี่วัฒน์ด้วยครับ ที่เป็นธุระหาสายดีๆแบบนี้ให้

เท่าที่พี่วัฒน์ใช้สายถ่านนี้มา เบิร์นประมาณกี่ชม.ครับถึงจะได้ประสิทธิภาพสูงสุด

อย่างสายนาคราชหัว silver เส้นที่สองที่เพิ่งเอาไปเดือนกว่าๆ ผมนึกว่าพ้นเบิร์นแล้ว แต่พอผมลองมาเทียบดูกับสายเส้นแรกแล้ว เสียงจากเส้นแรกเนียนกว่า ไดนามิกดีกว่าเฉยเลย

ไม่รู้ว่าพี่วัฒน์เปลี่ยนสูตรสายนาคราช หรือว่ายังไม่พ้นเบิร์นก็ไม่รู้

อะไรๆที่เป็นเงิน โรเดียม เบิร์นนานมากมายครับผม สี่ร้อยคือจุดเริ่มต้นกระมัง
กว่าจะตามเส้นเก่าทันคงอีกหลายเพลา

อาการสายถ่านหลังผ่าตัดทำเส้นต้นทางสดๆ เส้นของหมอเอฟคือยังอาการเปิดซิงครับ
ต่อไปก็จะยังมีอะไรๆให้ได้ยินอีก

เอ๊ะๆ มีของใหม่อะไรกันด้วย ^ ^

อ้อเป็นสาย USB Audioquest Carbon ครับน้องมิ๊ก

แต่พี่วัฒน์เอาไปทำ contact ภายในให้ดีขึ้นกว่าเดิมๆครับ

แต่ดีกว่าเดิมแค่ไหนต้องถามพี่วัฒน์ เพราะผมไม่เคยฟังแบบเดิมๆ

ขอจัดห้องเสร็จก่อนดีกว่าพี่เอฟ รื้อมาจะเดือนแล้วยังไม่เสร็จเลย ฮ่าๆ

เดี๋ยวผมตามอาจารย์เอฟไปครับ อิอิอิ

ไม่ผิดหวังแน่นอนครับน้องขลุ่ย

สายถ่านนี่ถ่ายทอดรายละเอียดหางเสียงหยุมหยิมได้ดีมาก

ฟังแล้วให้ความสมจริงมากขึ้น

แวะมาทักทายครับ ^_^

ได้สาย USB AQ carbon mod by p Wat ลองฟังแล้วปล่อยไม่ลงจริงๆครับบ

mod by Worthwhile TEAM จร้า เฮ่ๆๆ

แต่ก็ต้องระมัดระวัง เรื่องการใช้งานสายUSB ยี่ห้อ AQ ทุกรุ่น ไม่เว้นแม้แต่ตัวท็อปอย่าง ไดมอนด์

เรื่องจากสายถูกหุ้มด้วยหนังงู(น่าจะเป็นเทฟล่อน)ตลอดเส้น ไม่เหมือนยี่ห้ออื่นๆที่มักเป็นพลาสติคค่อนข้างนุ่มเพื่อผนึกเป็นเนื้อเดียวกันกับวัสดุที่ใช้หุ้มหัว/ขั้วต่อสาย

การผนึกพลาสติคยึดหัวกับสายของยี่ห้อนี้จึงเป็นจุดอ่อน

ต้องระวังเป็นพิเศษขณะใช้งาน
ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม อย่าให้สายบิดตัว หรือขณะถอดเสียบ หรือจัดสาย หากจำเป็นต้องหมุน/พลิก ต้องทำให้เป็นหนึ่งเดียวคือทั้ง หัวและสายต้องพลิกไปพร้อมกัน และต้องจับที่หัวสายเท่านั้น ไม่เผลอจับที่สายเป็นอันขาด เฮ่ๆๆ

หากหัวและสายถูกรั้งระหว่างกันบ่อยๆ จะเป็นเหตุให้หนังงู่ที่ลื่นมากๆ หลุดจากกาวที่ใช้ยึด (ซึ่งมีพื้นยึดระหว่างกันที่น้อยกว่ายี่ห้ออื่นๆ)

ส่งผลให้สาย / ตัวนำ ที่ถูกบัดกรีกับ คอนเน็คเตอร์ ขนาดเล็กกลายเป็นตัวรับแรงขณะถอกเสียบ แทนที่จะเป็นบริเวณโคนสาย จุดเชื่อมต่อ กับปลอกหุ้มคอนเน็คเตอร์จร้า

ในก๊วนเจียงใหม่ก็เคย มีน้องๆทำถ้วยกาแฟหกเลอะไปอันนึง จึงเปลี่ยนใจมาใช้สายถ่านแทน จากกาแฟ ๑ถ้วย แลกได้ถ่านถึงสามเส้น555

เห็นหมอขลุ่ยชอบสายถ่านก็โล่งอก

(เพราะผมโม้เอาไว้ก่อนหน้านี้)

ส่วนตัวผมๆชอบมันมากตรงที่เสียงคมแข็งน้อยลงมากพอควรเลย (เมื่อเทียบกับขาวอวบที่เคยใช้นะครับ แต่ continental ยังไม่เคย)
ฟังได้นาน..น...น ไม่ล้าหู

ลักษณะนี้ผมเดาว่าน่าจะช่วยให้ฟังหูที่เสียงจัดๆอย่าง HD800, He6 ได้สบายขึ้นนะ

ปล.วันสองวันนี้จะมีรูปของเล่นใหม่มาอวดด้วย

ว่าแต่พี่วัฒน์หรือน้องขลุ่ย เคยลองเทียบสายถ่านโมกับ Cardas Clear USB บ้างปล่าว ขอความเห็นด้วย

พรีเมียร์ลีก กะไทยลีก กระมัง เฮ่ๆๆ

มีรูปของเล่นใหม่มาให้ดูครับ

ตัวขวาสุดเป็นตัวแรกและตัวเดียวของประเทศไทยในตอนนี้ครับ

อ้าวพิมพ์ผิดครับ

ต้องเป็นตัวล่างซ้ายครับ..อุๆ

ส่วนเรื่องเสียง

ถ้าต่อฟังแบบ single end --> soloist ชนะครับ

แต่ถ้าต่อฟังแบบ Balance --> Bryston BHA-1 ชนะครับ

แต่ราคาห่างกันสามช่วงตัวครับ อิอิ

ระบบไฟพี่เอฟดีหรือยัง ถ้ายังเอาตัวนี้ไปลองเปล่า ^^

ด้านหลัง ^^

ที่เวป SAC ไม่เห็นมีข้อมูลเจ้า Blitz นี่เลยน้องดา

เทียบกับต่อตรงกับผนัง หรือกับปลั๊กพ่วง ด้านไหนดีขึ้นบ้าง?

ที่สำคัญมันทำให้ไดนามิกเสียงด้อยลงปล่าว?

PS: ส่วนเสียงเจ้า BHA-1 นี่ต้องรอให้พ้นเบิร์นอีกหน่อยค่อยเทียบกับ Soloist อีกรอบ

สายถ่าน ของใครไม่รู้หลงมาบ้านผม

อณุญาติเอามาฟัดกับขาวอวบให้หายคาใจหน่อยนะครับ

เด้วพรุ่งนี้จะจัดส่งไปให้ครับ ^^

ลืมกระทู้นี้ไปเลย อิ..อิ

ตอนนี้อยากได้หูปิด เสียงดี ใส่สบาย ไม่ได้ตามเลย ช่วยแนะนำหน่อยครับ ^^

Fostex TH-900 คับ พี่ดา^^

ได้ของเล่นชิ้นใหม่ ใช้ได้ทั้งในบ้านและในรถ
ไฟล์ฟูลริบ ไฟล์เพลง 16/44.1 - 24/192 เล่นกับชุดแนวแบบจิ๋วๆ

hd player ตัวจ้อย (ช่วยให้ข้าน้อยประหยัด ไม่ต้องจัด แม็คบุ๊คแอร์ เฮ่ๆๆ)
รับ usb2x2,usb3x1 ,sata cable for ssd,2.5"hdd
ออก โคแอ็กฯดิจิตอล spdif,analog L/R,hdmi
ลองต่อ hdmi out > 9.7" led monitor ภาพชัดใสไม่เลวเลย(ดีกว่าเล่นดีวีดีในรถเยอะแบบไม่ต้องเทียบ)

พอใจกับภาพที่ได้จากจอจ้อยนี้เลยจร้า

คอนเสิร์ทเด็กสิบขวบ

หน้าเมนูจร้า

จอขนาดพอๆกันกับไอแพ็ด หนัก(เรียกว่าเบาดีกว่า เฮ่ๆๆ)สามขีดกว่าๆ
รู้สึกเหมือนเล่นกับจอพลาสม่า,แอลอีดี ในบ้าน

@ น้องดา
คงต้องรอ new LCD ละมั๊ง..
ลองตามไปอ่านนี่ดูนะ
http://www.head-fi.org/t/634201/battle-of-the-flagships-50-headphones-compared
เขียนดีที่สุดทั้งแต่มีบทรีวิวใน head-fi เลย DAC amp ที่ใช้ก็ระดับ 150-200K ขึ้นไป
ข้ามไปดูที่ท้ายบทความเลยก็ได้ มีตารางเรียงลำดับคุณภาพเสียงตามความเห็นของเขาด้วย
เขาให้คุณภาพเสียง fostex TH900 ด้อยกว่า He500, Sen HD600, Sen HD650, LCD2 นะ


@ น้องเว่อร์

ขาวอวบ VS สายถ่าน ผลเป็นไงมั่ง

โอ้ว กดตามไปดูใน head-fi แล้วอลังการสุดยอดมากครับพี่เอฟ 555

แต่วันอาทิตย์นี้ไปอลังการแบบชุดในภาพที่อุดรดีกั่ว อิอิ

ป๊อกจะไปอุดรอีกแล้วหรือเนี้ย ระวังโดน Isolate transformer ของพี่คณิตนะครับ ได้ฟังเป็นต้องควักตังค์จ่ายแน่นอน ฟังธง 55555

LCD หูปิดสงสัยจะเป็นปีหน้าละครับพี่เอฟ ตอนนี้อยากได้มาฟังเล่นๆ ก่อน จะส่ง Eximus ไปชุบตัวใหม่ซะหน่อย อิ..อิ

ว่าแล้วคุณดาหยุดไปได้ไม่น่านาน อ้าวอาจารย์เก่งยังงอนอยู่อีกเหรอ ๕๕๕

แวะเข้ามา แต่ไม่ค่อยอยากโพสโต้ตอบ ถือเป็นการหยุดผัสสะ กลัวเกิดกิเลส

เอแต่แอบสนสายถ่านโมอยู่เหมือนกัน ๕๕๕๕๕

ธงพี่ดาน่ากลัวเสมอๆๆๆ(กล่องดำๆที่มีปลั๊ก Wattgate ป่าวครับ) 555

ไปรอบนี้ได้ลองทั้ง Eximus,BHA-1,Soloist น่าลิ้มลองมากๆ อิอิ

สายถ่านให้รายละเอียด แจกแจงทุกอย่างออกมาได้ดีกว่าขาวอวบครับ ไดนามิก ก็ดีกว่ากันแบบชัดเจน เสียงบางเสียงมีที่สายถ่าน แต่พอเปลี่ยนไปที่ขาวอวบก็จะไม่มีครับ เรียกง่ายว่าดีกว่ากันทุกอย่างครับ แต่ข้อเสียคือ มันทำให้เราต้องใช้ไฟล์ดีๆ ไม่งั้นมันจะแสดงถึงความห่วยของไฟล์ออกมาแบบให้ได้ยินชัดเจน จนบางไฟล์ที่ผมฟังแบบพอจะให้ผ่านได้ที่ขาวอวบ แต่สายถ่านทนฟังไม่ไหวครับ

ส่วนขาวอวบ ยังมีความนวล เนียน ตามแนวเสียงของสาย ญป อยุ่ครับ ทำให้ฟังเพลงร้องได้เพลิน เหมือนเดิม แต่ก็ด้อยกว่าสายถ่าน คือ เสียงร้องไปเปิดเท่าสายถ่าน ไดนามิกด้อยกว่า ปลายแหลม กุดกว่า ฟังขาวอวบเหมือนจะมีหมอกบางๆมากั้น แต่สายถ่านเหมือนวันที่ฟ้าใสอะครับ

สำหรับผมซึ่งฟังเพลงร้องเครื่องดนตรีน้อยชิ้นเป็นส่วนใหญ่ไม่เน้นลายละเอียด เลยยังใช้ขาวอวบต่อไปครับ แต่อนาคตคงจัดสายถ่านมาใช้คู่กันครับ

ผมเทสจากชุดลำโพงนะครับไม่ใช่หูฟังครับ ^^

แล้วน้องเว่อร์ก็โดนสายถ่านไปอีกคนแระ ๕๕๕
ถ้าส่งแล้วอย่าลืมแจ้ง tracking number ให้ผมด้วยเน้อๆ

@ น้องดา

เดาว่าจะเอา DP1 ไป upgrade ภาคจ่ายไฟ?

@ น้องป๊อก

Soloist ตอนนี้ไปอยู่กับน้องขลุ่ยได้เกือบเดือนแล้ว
เหลือแต่ BHA-1, DP-1
ถ้ามีสาย single end ของ HD800 ก็เอามาเผื่อจิ้มกับ Eximus ด้วยนะ

เมื่อgrado อยากใช้สายขั้วฮิ

ก็ดูสิสีทองลองจัดให้

ช่วงเกาะยึดน้อยนิดชิดเข้าไว้

ขยับห่างถ่างสวมด้วยถ้วยอลู

ร้อนถึงนางไม้จีนได้กลิ่นข่าว
ควานหาเจ้าขั้วจ้อยค่อยศึกษา
ฝ่าจุดด้อยอั้นเสียงคุณค่ามา
อย่ารอช้าสายแท่งอร่ามทอง

ได้รับสาย hdd docking + น้องเกรท + กล่องไฟ แล้วครับ ^_^

อย่างที่พี่วัตบอกเลยครับ ทำให้ล้มเลิกความคิดที่จะซื้อ mac book air ไปเลย ตอนฟังจาก analog L/R ถึงเสียงจะเบาลงไปพอสมควร แต่เสียงที่ได้ก็ไหลลื่นดีครับ ไม่มีน๊อยซ์มารบกวน พังสบาย เปิดฟังนั่งหลับตานี่มีหลับไม่รู้ตัว ฮ่าๆ

ส่วนกล่องไฟนี่ถ้าเอามาฟังเทียบกับอะแดปเตอร์แถม ที่เห็นชัดๆนี่เรื่องเนื้อหนังครับ รู้สึกได้ชัดเจน ไม่ต้องตั้งใจฟังอะไรมากนัก ทำรวมหม้อแปลงของ จิ๋วจี๋ด + hdd docking + น้องเกรท ประหยัดสายไฟไปได้เยอะเลยครับ แฮ่ๆ

ยังไงมาเล่าให้ฟังกันแค่นี้ก่อนนะครับ ^_^

อิสระสายใดๆใช่ผูกมัด
I don't rush ของดีจริงวิ่งมาสวม
ขั้วrf typeC หมุนพอท้วม
ก็ได้ร่วมทีมน้องทองสุกปลั่ง