แรกๆ ที่ผมเห็นแอมป์ตัวนี้ ผมคิดในใจว่า มันนึกยังไงของมัน ถึงได้ออกแบบแอมป์หน้าตาพิกลแบบนี้ คือมันไม่เป็นสี่เหลี่ยมเหมือนแอมป์ที่เคยเห็นๆ มา แต่พอคิดไปอีกที การจะทำอะไรให้มันเหมือนคนอื่นมีหวังจะขายไม่ได้เอา

ก็เลยมีการรีดีไซน์แอมป์กันใหม่ และมาออกหวยที่รุ่นนี้ล่ะครับ คือดีไซน์นั้นน่าจะคิดซนว่า ทำให้มันคล้ายๆ เรือ แต่จะทำอย่างไรถึงจะไม่วุ่นวายจนถึงขั้นมีใบเรือ หรือมีหางเสือ ความคิดเลยตกผลึกว่า ทำให้มันดูแล้วลู่ลม ไปกันได้บนผิวน้ำ

มองไปมองมา เออเว้ย กลายเป็นสวยไปได้ไงๆๆๆๆๆ ลองดูซิครับ เหมือนการมองสาวๆ ที่ดูแปลกๆ ในตอนแรก แต่มองนานๆ อ้าว เร้าใจเป็นบ้าเลย 555

คนแรก

...
เห็นสเป็คนอกแ้ล้ว...น้ำลายหกเลยครับเฮีย...80 ชม.เมื่อชาร์ตไฟเต็ม...ฟังกันยันหลานบวชเลย....

รบกวนเฮียช่วยเปรียบกับ ซีโร่ว์ จะได้ไหมครับ...

เรื่องที่สอง...ราคาเท่าไหร่ครับ...แหะ ๆ ...(เผื่อเอื้อมถึง)

ขออภัยที่ปาดก่อนรีวิวจบนะครับเฮีย...

เอ้า ทำรีวิวไปก็นั่งดูโทรทัศน์เสนอข่าวน้ำท่วมไป แล้วดันมาทำรีวิวแอมป์หน้าตาคล้ายเรือเข้าไปอีก ผมว่ามันได้อารมณ์ไปอีกแบบนึงล่ะครับ

สิ่งหนึ่งที่แปลกตา ไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องเค้าก็คือแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ที่พันมารอบตัวแอมป์ล่ะครับ เจ้าแผ่นพลาสติกที่สานเป็นตารางคล้ายๆ ผ้า มันคือแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์ ว่ากันว่ามันก็อยุ่ในตระกูลพลาสติก แต่ถูกคนหัวใส (หัวใสไม่ใช่หัวโล้น) เอามันมาแปลงโมเลกุลในเนื้อพลาสติก

เรียกว่าคิดวิธีทำให้มันแกร่ง และเท่าที่อ่านข้อมูลมา ว่ากันว่ามันแกร่งกว่าเหล็กถึง 5 เท่า และเหนียว ทนทานต่อความร้อน และแรงกระชาก ผมว่าเจ้าพวกเคฟลาร์หรือคาร์บอนไฟเบอร์เหล่านี้ มันคงใช้อยู่ในวงการทหาร สำหรับทำเป็นชุดเก็บกู้ระเบิดเลยด้วยซ้ำไป

และแม้แต่วงการแต่งรถก็นิยมมาก รถยนค์ราคาแพงๆ นิยมใช้คาร์บอนในการแต่งรถ ส่วนรถยนต์ราคาถูกๆ ก็อุตส่าห์ไปหาแผ่นคาร์บอนไฟเบอร์เหล่านี้มาติดบ้าง เพื่อจะให้แลดูแพงและกล้อมแกล้มเหมือนรถยนต์ราคาแพงได้

อ้าว แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ DAC-AMP ล่ะ นั่นไง มันเป็นความทันสมัย และถือเป็นวัสดุที่ล้่ำยุค รวมถึงในวงการอิเลคโทรนิค เค้าว่ามันเป็นตัวกันคลืนแม่เหล็กไฟฟ้าของโลกได้เป็นอย่างดี..........ว่าไปนั่น 555

โย่ว

โอ๊ย ถามได้ คุยได้ระหว่างรีวิวครับ ไม่มีกฏระเบียบใดๆๆ ทั้งนั้นล่ะครับ 555 ผมนั่งพิมพ์ไปเรื่อยๆๆ คิดสดๆๆ ไม่มีการเตรียม นึกอะไรได้ก็พิมพ์เลย ผิดถูกช่างมัน จ๊ากๆๆๆๆๆ 555


เอ้า มาต่อกันถึงเรื่องบั้นท้ายครับ ด้านหลังก็เหมือนค่ายอื่นๆ ทั่วไป คือเป็นช่อง USB แบบ Mini B และมีปุ่มให้สลับ ON หรือ USB คือ ถ้าเสียบสายชาร์ตก็ให้เลือกเป็น ON เจ้า ADL Cruise ก็จะทำการชาร์ตไฟให้เข้าไป เท่าที่ผมลองจากไม่มีไฟเกลี้ยงๆ เลย ผมลองชาร์ตไว้แค่ 10 นาที หนอย ฟังได้อีกยาวๆๆ เลยล่ะครับ

ถ้าสลับสวิทช์มาที่ OFF ก็คือปิดฟังก์ชั่นการชาร์ตไฟ แล้วมาเลือกสัญญาณ USB จากคอม หรือจากโน๊ตบุ๊คแทน ซึ่งข้อนี้เหมือนกับ DAC-AMP ทุกตัว ณ ปัจจุบัน ถือว่าไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นแต่อย่างในนัก

สวย ถูกชะตาตั้งแต่แรกเห็นเลยครับเฮียย์

เมือตะกี๊ผมอ่านสเปคไปหน่อยนึง ตัวนี้ใช้เวลาชาร์ตราวๆๆ 5 ชั่วโมงถึงจะเต็มแบบ full charge จริงๆๆ และจากที่เค้าวัดได้ หลังจากชาร์ตจนเต็มแปร้เลย สามารถลากได้ยาวไปถึง 80 ชั่วโมง เรียกว่าโดนเมียตีหัวสลบไป 3 วัน 3 คืน

ฟื้นขึ้นมาสามารถเปิดฟังต่อได้ทันที โดยมี่แบตยังไม่หมด !!!! อู๊วววส์ วิเศษ วิเศษ

เท่าที่ผมมองอุปกรณ์นั้น Furutech นั้นใช้อุปกรณ์ที่โรงงานตัวเองทำอยู่แล้วทุกชิ้นล่ะครับ พวกขั้ว input หรือขั้วช่อง Phone น่าจะทำเองภายในโรงงาน และชุบเคลือบผิวมาตรฐานของ Furutech และนี่คือค่าหัวของแอมป์ตัวนี้นั่นเอง ว่าทำไมมันถึงน่าสนใจล่ะครับ

พวกปุ่ม Volume นั้นออกแนว Retro Look คือใช้หมุนเลื่อนเอา ซึ่งพวกปุ่มเลื่อนพวกนี้ทนทานมากๆ เป็นเทคโนเก่าก็จริง แต่แมคคานิกกลไกแบบนี้ มันข้ามกาลเวลาได้นานกว่าแบบอื่น ข้อนี้วิศวกรของ Furutech เค้าคิดไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว

มันจะคิดหรือเปล่าไม่รู้ แต่ผมคิดว่าเค้าคิดก็แล้วกัน 555

มาดูกันต่อเลยครับ เมื่อกี๊ดูตูด เอ๊ยดูด้านท้าย คราวนี้เราก็เดินอ้อมมาดูด้านหน้ากันต่อมั่ง 55

ด้านหนังนั้นทำได้หรูสุดใจขาดดิ้นจริงๆ คือมันทำจาก Stainless steel ชั้นดี ที่ปราศจากคลื่นแม่เหล็ก เรียกว่าเพลทหน้าและหลังนี่แพงมากครับ การที่ใช้วัสดุแบบ nonmagnetic แบบนี้ ถ้าไม่รวยจริง และไม่ใช่อาเสี่ยจริงๆๆ ทำไม่ได้หรอกครับ เพราะแอมป์ปกติทั่วไป ใช้เพลททำจากแผ่นอลูมิเนียนอโนไดซ์ ก็ถือว่าหรูแล้ว

แต่อันนี้ไม่กลัวคำครหาหรือคำนินทา จัดหนักด้วยเพลทสเตนเลสทันที มันเงาวับ และหนา รวมถึงประมาณการแล้วน้ำหนักเอาเรื่องครับ ผมลองเอาชายเสื้อเก่าๆๆ แต่สะอาดเพราะเมียซักให้ ลองหยิบขึ้นมาถูเพลทหน้าของมันให้เงาๆๆ

เฮ้ย ใช้แทนกระจกเงาได้เลย ใครที่มีแฟนชอบพกตลับแป้ง วันไหนลืม สามารถเสนอหน้าทำความดีด้วยการเอาแอมป์ตัวนี้ให้แฟนส่องผัดหน้าได้ทันทีครับ 555

เงาแค่ไหน ขอให้มองภาพในเพลท จะเห็นใสแหน๋วเลยว่ามันชัดจริงๆๆ เงาจริงๆๆๆจ้า

รอเฮีย ว่าเรื่องเสียง อิอิ

(หลังน้ำท่วมจะหาแอมป์พอดีเลย อิอิ)

อันนี้ไม่ใช่ของแถมเน้อ แต่เป็น optional คือสามารถซื้อเพิ่มเติมได้ ในกรณีที่อยากจะเล่นแบบเต็มยศด้วยชุดของ Fututech เองซะเลย มันเป็นสาย mini to mini ขนาดยาว 15 ซม. ขนาดของสายโตและอ้วนกว่าพยาธิตัวตืดหน่อยนึง พกพาได้กำลังดี

หัวมินินั้นเป็นหัวชั้นดีทำและผลิตโดย Furutech เอง ไม่ได้ทำจากโรงงานปั๊มเหล็กแถวบุคโลแต่อย่างใดแน่นอนครับ หัวเป็นชุบทอง 24K และตัวนำข้างในเป็นเคลือบเงิน ข้างในมีฉนวนพันไปพันมาหลายชั้น เอาเป็นว่าอย่าไปบริโภคข้อมูลเหล่านี้มาก เอาเป็นว่าอะไรที่เค้าโม้ๆๆ กัน อย่าเพิ่งเชื่อ จนกว่าจะได้ฟังจริงๆ ว่างั้น 555

ทาง fututech แจ้งว่า เพื่อประโยชน์สูงสุดของคนซื้อ DAC-AMP ADL Cruise ไปใช้ ควรซื้อเจ้านี่ไปใช้ด้วย อารมณ์ว่า ถ้าท่านซื้อสุราไปแล้ว กรุณาซื้อโซดาของค่ายเดียวกันไปด้วย เพื่อความเข้ากั๊น เข้ากัน ว่างั้น 555

อ้าวเฮ้ย ลืมไป สีม่วงด้วยๆๆๆๆๆ

ราคาเท่าไหร่อะครับเฮีย

เอ้า เล่ายาวแบบน้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง คราวนี้ถึงเนื้อความ เอาแค่ 2 บันทัดพอ 555


ผมลองเจ้า Furutech ADL Cruise หรือเจ้าเรือสำราญตัวนี้กับคอม PC และก็โน๊ตบุ๊ค ThinkPad และก็เจ้า iPod Classic ตัวเก่า โดยใช้สาย mini to mini ของ Fututech โดยไม่ได้ใช้สายอืนให้มันแปลกแยกแตกต่างในเรื่องเผ่าพันธุ์ และใช้ Grado PS-500 ซึ่งขาดตลาดในขณะนี้มาลองด้วยกันซะหน่อย

ประการแรกเลย การใช้งานไม่ยากเย็นเลยครับ แค่เสียบสาย USB แบบ mini B ต่อเข้ากับ DAC แล้วไปเลือกใน Sound Device ว่าจะใช้อะไร แค่นี้ก็เล่นได้แล้วครับ ไม่มีอะไรวุ่นวายแต่อย่างใดทั้งสิ้น ใครที่คิดจะมี DAC เป็นครั้งแรก สงสัยอีกหน่อยผมต้องออกแคมเปญ "DAC ตัวแร" มาทำการแข่งกับรัฐบาลซะหน่อย 555

ก่อนอื่นผมฟังเพลงผ่านจาก PC โดยเสียบต่อตรง ฟังซัก 2-3 รอบ เพื่อให้จำเสียงล่าสุดของคอมให้ได้ก่อน ก่อนที่จะสลับมาฟังจาก Furutech Cruise ล่ะครับ การทำแบบนี้มันเหมาะกับการฟังเทียบแบบ AB test คือเราจะรู้ว่า การมี DAC กับไม่มี DAC นันต่างกันอย่างไร

ผลการเทียบมี DAC กับ ไม่มี DAC อันนี้เอกฉันท์ทันที คือมีแด๊ก ย่อมดีกว่าแน่นอนเห็นๆ ครับ ฟังผ่านซาวด์ออนบอร์ดก็มาตามฟอร์มเดิม คือนัวเนีย เสียงรวนกันมั่วไปหมด จะหาความชัดเจน การแยกแยะนั้นไม่มี น้ำเสียงก็ไม่ได้อีก ซึ่งอย่าแปลกใจ คอมส่วนมากก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นล่ะครับ

แต่พอใช้เจ้า Furutech ADL Cruise แล้ว เสียงแยะแยะออกจากกันทันที ดนตรีมีตำแหน่ง มีที่ทาง ไม่รวมกันจนเป็นกระจุก หรือเป็นก้อนเหมือนแมลงวันตอมอุจจาระอย่างแน่นอนครับ การแจกแจงดีขึ้นทันตาเห็น ดนตรีทุกชิ้นคมชัด

หลังจากลองฟังไปหลายๆ เพลง คาแรคเตอร์ที่เด่นชัดมากๆ และน่าจะเป็นคาแรคเตอร์หลักของ ADL Cruise ก็คือความสด คมชัด จะแจ้ง แรง กระแทกกระทั้น คือน้ำเสียงนั้นโดยรวมเป็นแนวคึกคัก ฟังสนุก มีความเป็น Live สูงมาก

เสียงเล็กเสียงน้อย หยุมหยิมจุกจิก Furutech โชว์ออกมาหมดครับ กลางแหลมเป็นข้อเด่น ปลายแหลมสุกสว่าง เข้มข้น แต่ไม่ถึงกับใช้คำว่ากร้าน จัดจ้านระคายหูครับ แต่อย่างไรต้องเรียกว่าเป็น DAC-AMP ที่ให้เสียงสดใสอยู่ดี

เวทีเสียงกว้างหลุดศีรษะออกแน่นอนชัดเจน ซาวด์เสตทกว้าง ช่องว่าง ช่องไฟของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นต้องถือว่าแยกออกจากกันได้ดี มีความเปิดโปร่งสูง ใครที่ชอบฟังเพลงที่มีจังหวะ เพอร์คัสชั่นดีๆ เครื่องเคาะกริ๊งกร๊าง กังวาน เจ้า Cruise นี่ใช่เลย

และสิ่งหนึ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ มันโชว์ความกังวาน หรือสั่นของชิ้นดนตรีได้ดี เรียกว่าเสียงของสายเบส หรือคีย์เปียโน vibration มีความก้องกังวาน สั่นรัว และหางเสียงให้ได้ยินชัดเจน อานิสสงค์น่าจะมาจาก DAC-AMP สามารถเก็บเสียงแหลมจากไฟล์ออกมาได้หมดนั่นเอง

ใครเบ่นกับ nb ผมว่าน่าจัดมากๆเลยครับ
โหงวเฮ้งดูดีมาแต่ไกลเลย แต่ยังไม่เห็นเครื่องเครา
ที่สุโค้ยที่สุดคือแบตใช้ได้นาน 80ชม.

และที่เร้าใจก็คือไดนามิกครับ ภาคแอมป์นี่ต้องบอกว่าถึงขั้นหูแตก คือมันขับได้ตั้งแต่หูฟังตัวเล็กๆ ระดับ 12 โอห็ม ยันไปถึงหูฟังพวก 600 โอห์ม ไดนามิกแรง และไทมมิ่งของแอมป์นั้นเร็วแรง เหมาะกับไอ้หนุ่มวัยรุ่นว่างั้นล่ะครับ

เรื่องอิมแพ็คเบสนั้นหายห่วง เพราะกระแทกกระทั้นดีมากๆ มันให้เบสที่เป็นลิ่ม กระแทก Deep Bass ดี และมีหัวโน๊ตที่คมชัด ใครที่เป็นคนฟังร็อคเป็นส่วนใหญ่ น่าจะติดหูกับ DAC-AMP ตัวนี้ไม่ยากเย็นครับ ส่วนท่านที่ชอบฟังแอมป์เนื้อหนา อิ่ม เนียน ค่อยๆ เยื้องย่าง ติดอุ้ยอ้าย ต้องบอกว่า DAC-AMP ตัวนี้ไม่ใช่แนวของท่านแน่ๆๆ ครับ

การสลับมาใช้กับ iMac ก็ง่ายดายเช่นเดียวกับ PC เหมือนกัน คือต่อปุ๊บ ไปเลือกใน preference > Sound ก็เล่นได้ทันที ผลที่ได้ไม่ต่างจากกันใช้กับ PC แต่อย่างใด สุ้มเสียงยังคงเป็นไปในโทนเดียวกัน

ใครชอบนุ่มเนิบไปตัวอื่น แต่ใครชอบคม ชอบชัด จะแจ้ง รายละเอียดเนี๊ยบ เฉียบขาด ต้องลองฟังกันล่ะครับ 555

แล้วก็ต้องลองกับไฟล์เพลง 24bit ของค่ายเพลงมั่นคงsong ซะหน่อย ผมลอง Add ไฟล์ 24 bit ลงไปใน itune โดยใช้ Plug in อย่าง Pure Music ทำหน้าที่เป็นตัวอ่าน ได้บิทเรท 4608 kbps ไฟล์ใหญ่กว่า Wav ประมาณ 3 เท่า

โดยผมอัพแชมปลิ้งที่ Pure Music เป็น 24/96 สูงสุดเท่าที่เจ้า Cruise รับได้ ผลการรับฟังนั้น นวลเนียน สบายหูเสียจริงๆๆ ซึ่งท่านทีอยากได้ไฟล์ 24 bit แท้ๆๆ ไว้ลองกับ DAC ของท่าน ขอให้รอเวลาอีกซักกะเดี๋ยว รับรองว่ามีให้ทุกๆๆท่านได้เอาไปนอนฟังทดสอบกันเล่นๆๆ แน่นอนครับ

เรื่องการเล่นไฟล์ 24 bit เราจะมาคุยหาความรู้ร่วมกันในอีกกระทู้นึงนะครับ ผิดถูกเราไปถกร่วมกัน เพื่อหาแนวทางที่ดีทีสุดมาเล่นร่วมกันนั่นเอง


สรุป

เจ้า Furutech ADL Cruise หรือเจ้าพระกาฬเรือสำราญลำนี้นั้น เป็น DAC-AMP ที่ออกแนว คึกคัก ร่าเริง สดใส ฟังสนุกมากๆๆ มันให้นิยามของความคมชัด จะแจ้งที่ดี ......วัสดุ รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ใน DAC-AMP ตัวนี้ เราคงไม่ต้องพรรณาถึงมากมายนัก เพราะมันถูกรับประกันโดยค่าย fututech นั่นเอง...............

ขอลาทุกท่านไปเฝ้าระวังระดับน้ำที่กำลังท่วมต่อ

สวัสดี

มั่นคง

ค่าตัวเท่าไหร่ครับเฮีย

เจี๊ยกๆๆๆ ลืมราคาๆๆๆ

DAC-AMP ตัวนี้ ราคา 14900 บาทครับ ประกันศูนย์ไทยจ้า ส่วนสายมินิ ผมจำไม่ค่อยได้ น่าจะราวๆๆ 1250 บาทหรือไงนี่ล่ะครับ



DAC-AMP ตัวนี้ ถ้าใครเคยใช้สินค้า furutech อย่างปลั๊กผนัง furutech GTX-R (โรเดียม) สุ้มเสียงมาโทนเดียวกันเด๊ะๆๆ เลยครับ คือสด กระชับ ฉับไว ไดนามิกแรง ประมาณนั้นจ้าๆๆๆ

รูปแรก อ่ะ. ไอแผ่นดำๆผมนึกว่ากระดาดนะนั่น -*-

อยากได้สาย มีขายยังครับเฮีย

สายเหรอ ฟิโก้ เดี๋ยวมาๆๆๆ ไม่ต้องห่วง งานเนี๊ยบ เฉียบขาด จริงๆๆๆจ้าๆๆ

CFRP(Carbon Fiber Reinforced Polymer) เป็นวัสดุที่ทนต่อแรงดึงสูงมากกว่าเหล็กเส้นถึง 5 เท่า ซึ่งปัจจุบันมีการเอามาใช้กับงานก่อสร้างด้วยครับ โดยใช้เป็นวัสดุเสริมกำลังเพื่อให้สามารถรับแรงได้มากขึ้น เช่น ลานจอดรถและโครงสร้างสะพานทั่วไปครับ แปลกดีนะครับที่เอามาใช้ทำแอมป์ด้วย ไอเดียดีครับ ^^

เฮียรีวิว Fiio E6 ด้วยดิ ผมเพิ่งไปซื้อมาจากร้านเฮีย

ผมว่ามันโอเคเลยนะ เทียบกับราคา

ตัวหนังสือเปนเจาะร่องลงไปหรือไช้สีเขียนอ่ะคับ

ตัวอักษรเป็นลายสกรีนด้วยหมึกพิมพ์โลหะชนิดทนทานครับ (เพราะถ้าหมึกไม่ดีจริง ป่านนี้พิมพ์วัสดุผิวมันขนาดนี้ไม่อยู่แน่นอนล่ะจ้า) 555


ส่วนรายการอื่นๆ เดี๋ยวจัดให้เน้อๆๆๆ 555


เอ้า พระเอกของงานนี้คือ Carbon fiber ล่ะคร้าบบบ 555

Amp แนว สปอร์ต
คนซื้อ ก็ต้องใจ สปอร์ต ด้วยครับ

ใช้สาย USB a to mini B ของ Furutech เหมือนกัน ของเขาดีจริง (-_-)b เห่อๆ

^
^
สาย USB a to mini B ของ Furutech แพงไหมครับ

Carbon-Fiber เขานิยมเอาไปใช้ในเตรื่องบินสมัยใหม่ด้วยครับ
โดยเฉพาะ Airbus ,Gripen หรือแม้กระทั่ง UAV (อากาศยานไร้คนขับ) เพราะว่ามันเบาแต่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมากกว่าโลหะ รวมๆ แล้วเราเรียกว่าวัสดุ Composite ครับ

อ้ากกกก !!! รีวิวได้น้ำลายไหลมาก ครับบบ เห็นอยากจะชิม !!??? แต่กระเป๋าแพบบบ TT__TT;

เดี๋ยวผมจะเช็คกับศูนย์ไทยให้ครับ ว่าเค้ามีในสต๊อคอยู่กี่ตัว ใครที่ชอบแอมป์เสียงสด ฟังสนุก โจ๊ะๆ ก็ต้องเจ้า ADL Cruise นี่ล่ะครับ 555

งาม เหลือเกิน

ผมถามศูนย์ไทยไปแล้ว ถ้ามีเข้ามาจะมาแจ้งให้ทราบด่วนๆๆ เลยคร้าบบ

ฟังร็อคพอไปได้ไหมครับ เฮียมั่งคง
แล้วมีสาขาให้ลองบ้างยังครับ ^^

ไอ้เจ้า cruise นี่ร็อคเลยล่ะครับ คือมันเร็ว กระชับ ไดนามิกแรง อิมแพ็คแรง ฟังมันส์ล่ะครับ

ส่วนของตัวอย่าง ผมจะมาแจ้งอีกทีว่าจะมีที่ไหนครับ ขอผมเช็คกับศูนย์ก่อนนิดนึงจ้าๆๆๆ

ฮุฮุ.....เสียงไม่ใช่แนวแต่ชอบ Carbon fibe

เขาเอามาทำเฟรมจักรยานกะโครงหมวกจักรยานด้วยนะ

ถูกใจ คอเกมส์ ละ คับ

ชอบตรง 80 ชม.
ฟังลืมสบายชาร์ตกันเลย อิอิ

ใช่ๆๆ 80 ชั่วโมงนี่ แทบจะไม่ต้องนับหรือจำให้เมื่อยเลยครับ 55

ถ้าเทียบกับ ค่าย audio gd แล้ว
-น้ำเสียงเป็นอย่างไร
-ความคุ้มค่า
-เทียบกะรุ่นไหนดี
-เหมาะสมกับการใช้งานแบบไหน เช่นพกพา ครับ

รบกวนเฮียช่วยเปรียบเทียบกับ xiangsheng ด้วยครับ

เจ้า Cruise ได้เรื่องหรูหรา และกระทัดรัดครับ สุ้มเสียงคนละแนวกับพวก audio GD กับพวก Xiangsheng ครับ

Xiangsheng นั้นถ้าจำไม่ผิดออกไปทางนุ่มหวาน เสียงค่อนข้างคัลเลอร์มาก แต่ฟังสนุก แต่เจ้า Cruise นั้นออกไปทางคมชัด สด กระฉับกระเฉง ถ้านึกไม่ออก มันน่าจะมาคล้ายๆ Grado ตัวบนๆ ล่ะจ้าๆๆ

ดุ audio gd อยู่
พอตัวนี้มา ก็เป็นทางเลือกนึง
ตัดสินใจไม่ถูกเลย

@ oname2

สำหรับผมคิดว่าแพงครับ เป็นรุ่น GT2 ของผมความยาว 0.6m ซื้อในงาน Bangkok Hifi 2011 ลดให้ 30% ตอนนั้นซื้อมาประมาณ 3200 บาท(ประมาณครับจำไม่ค่อยได้)

:-) จริงๆในงานวันนั้นมีงานของ Kimber เหมือนกัน แต่หลงไปกับ Technology ของสาย http://aphroditecu29.com/headphone/FurutechCableScience.aspx << สาย AC แต่ technology น่าจะเหมือนกันๆ แพงหน่อยแต่ซื้อทีเดียวจบก็เลยจัดมา (เปลี่ยน DAC แบ้สไม่ใช่ mini B จับไปใช้กับ External HDD ซะเลย 555+ )