HDCD ย่อมาจาก High Definition Compatible Digital หรือ แผ่น CD รายละเอียดสูงนั่นเอง
โดยปกติแผ่น CD Audio ทั่วๆ ไปจะมีมาตรฐานอยู่ที่ 16 Bit / 44.1 kHz แต่เนื่องจากอุปกรณ์บันทึกเสียงส่วนใหญ่ (ในห้องอัด รวมถึงตัวแปลงจาก Analog To Digital - A/D converter) ใช้มาตรฐาน 24 bit / 96 kHz ซึ่งจะเห็นว่าไม่เท่ากัน การนำไฟล์ Master มาตัดลงแผ่น CD จึงต้องมีการลดทอนความละเอียดลง จาก 24 Bit / 96 kHz ไปเป็น 16 Bit / 44.1 kHz
- แล้วทำไมไม่ทำเป็นแผ่น 24 Bit / 96 KHz ไปเลยล่ะ?
ตอบ เพราะว่าถ้าทำเป็นแผ่น 24 Bit เครื่องเล่น CD ธรรมดาจะอ่านไม่ออก จะอ่านได้เฉพาะพวกเครื่องเล่น DVD เท่านั้น ซึ่งคนโดยส่วนใหญ่จะใช้เครื่องเล่น DVD ในการดูหนัง และเครื่องเล่น CD ในการฟังเพลง มีช่วงหนึ่งที่มีแผ่น DVD-Audio 24 Bit / 192 KHz มาขาย แต่ในที่สุดก็ขายไม่ออกเพราะคนไม่นิยม ยังนิยมแผ่น CD Audio ธรรมดา (16 Bit) อยู่
แต่เทคโนโลยีก็ไม่หยุดยั้ง มีความคิดที่จะทำ CD ที่ให้คุณภาพสูงออกมาโดยที่ยังสามารถเล่นกับเครื่องเล่น CD ธรรมดาได้ด้วย (ประมาณ 2 in 1) ในส่วนนี้มีผู้ทำอยู่สามเจ้าก็คือ SACD , XRCD และ HDCD (รายละเอียดอ่านได้จาก link ด้านบน)
ในวันนี้ที่ผมจะขอกล่าวถึงแผ่น HDCD เพราะว่าช่วงหลังรู้สึกว่าแผ่นส่วนใหญ่จะทำมาในแบบ HDCD กันมากขึ้น และถ้าดูจากเทคโนโลยีจะเห็นว่า
SACD ใช้เทคโนโลยี Double Layer ชั้นหนึ่งเป็น 16 Bit ส่วนอีกชั้นเป็น 24 Bit จะอ่านชั้น 24 Bit ได้ต้องมีเครื่องเฉพาะ
XRCD ใช้เทคโนโลยี พยายามบีบข้อมูล 24 Bit ไปเป็น 16 Bit โดยที่สูญเสียน้อยที่สุด (K2 Encoding)
HDCD ใช้เทคโนโลยี แฝงข้อมูลไว้ใน Bit สุดท้าย (Bit ที่ 16) โดยถ้ามีเครื่องถอดรหัสได้ก็จะได้ข้อมูล 24 Bit จริง
ฉะนั้นหมายความว่า HDCD สามารถนำมาถอดรหัสให้เป็นไฟล์ 24 Bit แท้ๆ ได้แน่นอน
ปล. บางท่านอาจจะเคย Rip HDCD เป็นไฟล์ 24 Bit โดยตรงเลย ซึ่ง Program พวกนั้นไม่ได้ทำการถอดรหัส Code ตัวสุดท้าย แต่ใช้การ Up Bit และ Up Sampling เอา (จาก 16 Bit ไปเป็น 24 Bit) เหมือนกับเอาไฟล์ 128 kbps ไปแปลงเป็น 320 kbps (แม้ไม่เป็นแผ่น HDCD ก็ทำได้ทั้งนั้น) นั่นทำให้ไม่ได้ไฟล์ 24 Bit ที่แท้จริง หากต้องการไฟล์ 24 Bit จริงๆ ต้องใช้โปรแกรม HDCD decoding เท่านั้น
ปล.2 กระทู้นี้เกิดขึ้น เพราะว่าผมมีแผ่น HDCD 24 bit อยู่พอสมควร และผมก็ได้เครื่องเล่น Roland R-05 มา โดยเจ้า Roland นี้สามารถเล่นไฟล์ได้ถึง 24 bit / 96 KHz เลยทีเดียว เลยอยากลองหาไฟล์มาเล่นเอง (เคยลองหาดาวน์โหลดตามเน็ตแล้วเสียงดีทีเดียว แต่ไม่ค่อยมีเพลงที่ชอบเท่าไร) เพื่อเค้นเอาศักยภาพของเจ้า Roland ออกมาให้มากที่สุด แล้วก็คุ้มค่าจริงๆ 555
แถมเพิ่มเติม เมื่อผมได้ลองฟังไฟล์ 24 bit เทียบกับ 16 bit ดูแล้ว ผมว่าเสียงโดยรวมคล้ายๆ เดิม (เพราะ 16 bit ก็ดีมากๆ อยู่แล้ว) แต่สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ รู้สึกว่าเสียงเพลงมันละเมียดละมัยขึ้น รายละเอียด 16 bit ที่ว่าดีอยู่แล้ว 24 bit ให้รายละเอียดที่ชัดขึ้นทุกๆ จุด พอฟังไฟล์ 24 bit ไปนานๆ กลับมาฟัง 16 bit จะเหมือนกับ 16 bit ให้เสียงที่แข็งกว่าเยอะ อย่างนี้ล่ะมังที่นักเล่นเครื่องเสียงบ้านหลายท่านเคยให้คำนิยามว่า ไฟล์ 24 bit ให้เสียง Analog กว่าไฟล์ 16 bit ลองทำและลองฟังกันดูครับ
ปล. บางท่านอาจจะเคย Rip HDCD เป็นไฟล์ 24 Bit โดยตรงเลย ซึ่ง Program พวกนั้นไม่ได้ทำการถอดรหัส Code ตัวสุดท้าย แต่ใช้การ Up Bit และ Up Sampling เอา (จาก 16 Bit ไปเป็น 24 Bit) เหมือนกับเอาไฟล์ 128 kbps ไปแปลงเป็น 320 kbps (แม้ไม่เป็นแผ่น HDCD ก็ทำได้ทั้งนั้น) นั่นทำให้ไม่ได้ไฟล์ 24 Bit ที่แท้จริง หากต้องการไฟล์ 24 Bit จริงๆ ต้องใช้โปรแกรม HDCD decoding เท่านั้น
ปล.2 กระทู้นี้เกิดขึ้น เพราะว่าผมมีแผ่น HDCD 24 bit อยู่พอสมควร และผมก็ได้เครื่องเล่น Roland R-05 มา โดยเจ้า Roland นี้สามารถเล่นไฟล์ได้ถึง 24 bit / 96 KHz เลยทีเดียว เลยอยากลองหาไฟล์มาเล่นเอง (เคยลองหาดาวน์โหลดตามเน็ตแล้วเสียงดีทีเดียว แต่ไม่ค่อยมีเพลงที่ชอบเท่าไร) เพื่อเค้นเอาศักยภาพของเจ้า Roland ออกมาให้มากที่สุด แล้วก็คุ้มค่าจริงๆ 555
แถมเพิ่มเติม เมื่อผมได้ลองฟังไฟล์ 24 bit เทียบกับ 16 bit ดูแล้ว ผมว่าเสียงโดยรวมคล้ายๆ เดิม (เพราะ 16 bit ก็ดีมากๆ อยู่แล้ว) แต่สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ รู้สึกว่าเสียงเพลงมันละเมียดละมัยขึ้น รายละเอียด 16 bit ที่ว่าดีอยู่แล้ว 24 bit ให้รายละเอียดที่ชัดขึ้นทุกๆ จุด พอฟังไฟล์ 24 bit ไปนานๆ กลับมาฟัง 16 bit จะเหมือนกับ 16 bit ให้เสียงที่แข็งกว่าเยอะ อย่างนี้ล่ะมังที่นักเล่นเครื่องเสียงบ้านหลายท่านเคยให้คำนิยามว่า ไฟล์ 24 bit ให้เสียง Analog กว่าไฟล์ 16 bit ลองทำและลองฟังกันดูครับ