เมื่อสัปดาห์ก่อนนู้น ผมได้มีโอกาสคุยกับพี่สุเมธ ที่ประจำอยู่ pantip.com (เรียกว่าพี่ละกัน ผมเองจะได้ดูเด็กลงอีกหน่อย 55) เราคุยกันเรื่องหูฟังที่พี่สุเมธแกกำลังประดิษฐ์นี่่ะครับ เริ่มตั้งแต่ความเป็นมาว่า ทำกันเล่นๆ ขำ จนมีหลายคนที่ได้ฟังและสนใจในความพิเศษตรงเรื่องราคาย่อมเยาเมื่อเทียบกับคุณภาพเสียง และก็กลายเป็นมาได้รับความนิยม โดยมียอดการสั่งจองถล่มทลาย ยิ่งกว่าหนัง Avatar เข้าฉายซะอีก 55

ก่อนอื่นต้องบอกว่า หูฟังตัวนี้ไม่มีขายที่ร้านผมเน้อ ผมเพียงอาสาเล่าและถ่ายทอดให้ทุกๆ ท่านได้อ่านกัน เรียกว่า V Friend เป็นหูฟังที่เป็น Talk of the town ตัวหนึ่งในช่วงเวลานี้ ผมถามพี่สุเมธว่ามีข้อมูลหรือสิ่งอื่นๆ ที่อยากจะเล่าหรืออธิบายให้คนที่จองทราบหรือเปล่า พี่สุเมธบอกว่า อยากเล่าเหมือนกัน แต่เนื่องจากกลัวว่าเล่าแล้ว จะกลายเป็นการชม(หรือด่า)ตัวเอง แกก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน 55

ผมเลยถือโอกาสคัดลอกข้อมูลที่พี่สุเมธได้เมล์มาเล่าให้ผม มาให้ทุกท่านได้อ่านกันล่ะครับ เพราะน่าจะมีหลายๆ ท่านสนใจและอยากทราบถึงขั้นตอนของพี่สุเมธล่ะครับ

----------------------------------------------------

วิธีทำหูฟัง V-Friend

V-Friend นั่นคือหู Mod แน่นอนครับ ตัวที่นำมาทำคือ Oker DS-300 หลายๆ ท่านอาจจะงงว่าทำไมต้องเป็นตัวนี้ ผมจงใจเลือกตัวนี้เพราะว่ามีราคาที่ถูกที่สุดในกลุ่มหูฟังด้วยกัน (ไม่นับรวมหูโหลๆ ตัวละสิบยี่สิบบาทนะครับ) ราคาที่ขายทั่วไปอยู่ราวๆ 100 - 150 บาทแล้วแต่ร้าน

เหตุที่ต้องเป็นตัวนี้เพราะ หนึ่งมีเสียงที่พอใช้ได้ มีแววดี สองอยากลองดูว่าหูที่ธรรมดาสุดๆ ถ้า Mod เต็มสูบจะได้แค่ไหน หลายๆ ท่านคงเคยได้ฟัง Oker DS300 เสียงโดยรวมจะมีเบสใหญ่ ขุ่น เนื้อหนา อับ ผมต้องปรับแก้หลายจุดคือ

1. เสียงเบสที่ใหญ่และบวมมาก กวนไปทุกย่านเสียง ทำให้เสียงโดยรวมดูขุ่น ผมจะต้องทำให้เบสเล็กลง นิ่ง กระชับ มีแต่ไม่ไปกวนย่านอื่น และตรงนี้จะทำให้รู้สึกว่า Sound Stage กว้างขึ้นด้วย

2. เสียงที่ทึบ ไม่ใส จะต้องได้เสียงที่ใสสะอาด (เท่าที่จะเป็นไปได้) ชัด ไม่หม่น

3. รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ต้องออกมา แม้ไม่หมด แต่ต้องออกมาให้มากที่สุด

ขั้นตอนการทำมีดังนี้

ขั้นที่ 1 เมื่อได้หูวัตถุดิบมาแล้วผมจะเริ่มเบิร์นด้วย คีย์บอร์ด เพื่อให้เสียงที่ขุ่นนั้นใสสะอาด เป็นเวลาประมาณ 50 - 100 ชม. (2-4 วัน) เบิร์นครั้งละ 5 ชั่วโมง พัก 1 ชั่วโมงเพื่อไม่ให้หูล้า เพราะถ้าเบิร์นนานหูล้าเสียงจะแย่ลง หมายความว่าตอนเช้าเบิร์น เที่ยงพักแล้วเบิร์นต่อ เย็นพักแล้วเบิร์นต่อ ก่อนนอนพักแล้วเบิร์นต่อ (แบ่งวันเป็น 4 ช่วงเวลา)

** ทำไม่ต้องใช้คีย์บอร์ดเบิร์น ในตอนแรกนั้นผมต้องการอุปกรณ์การเบิร์นที่ใสสะอาด ปกติผมจะใช้เครื่องเสียงบ้าน หรือซีดี Panasonic กับแผ่นทอง 24k ในการเบิร์น แต่ผมว่าเสียงยังไม่ใสพอ มีคนบอกว่าลองเบิร์นกับเครื่องเล่นแผ่นเสียง หรือ Turntable ดูสิ เพราะแผ่นเสียงให้เสียงที่สด ใส สะอาด และมีเร้นจ์เสียงที่กว้างมาก (เพราะเป็นอะนาล็อค) แต่ผมไม่มีเงินซื้อ

จึงหาอยู่พักหนึ่ง ด้วยความที่ผมเล่นดนตรี (ไม่ใช่อาชีพนะครับ แค่ชอบเล่น) ผมจึงคิดว่าทำไมเราไม่เบิร์นกับเครื่องพวกนี้นะ เพราะนี่คือต้นกำเนิดเสียงอยู่แล้ว เจ้าพวก Turntable หรือเครื่องเสียงทุกตัวที่เราใช้อยู่มันก็อัดมาจากพวกนี้อีกทีอยู่แล้ว เมื่อคิดได้ดังนั้นก็เลยลองดู (และที่ทำให้ฉุกคิดอีกอย่างคือปกติผมจะมีหูที่ต่อกับคีย์บอร์ดอยู่แล้ว เอาไว้เล่นตอนกลางคืนเสียงจะได้ไม่รบกวนชาวบ้านเขา ซึ่งหูตัวนี้เสียงคมมาก) เสียงที่ได้ถูกใจมากเลยจบที่ตัวนี้

ขั้นที่ 2 เมื่อได้เสียงที่ใสแล้วจัดส่งไปให้ช่างเอก (xxxpro) จัดการเปลี่ยนตะกั่ว โดยเลือกตะกั่วเงิน เพื่อให้เสียงใส แต่จุดประสงค์หลักคือทำให้เบสเล็กลง นิ่ง แน่น ไม่ไปกวนย่านอื่น ขั้นตอนนี้ใช้การเบิร์นไม่ได้ เพราะเคยลองเบิร์นเป็นเดือนเบสก็ไม่ลด เมื่อเปลี่ยนตะกั่วเสร็จก็ส่งกลับ

ขั้นที่ 3 ทำการเบิร์นอีกครั้งโดย คีย์บอร์ด สลับกับเครื่องเสียงบ้าน หรือ CD Panasonic โดยเครื่องเสียงใช้แทรคที่สะอาดที่สุดในการเบิร์น เวลาประมาณ 50 - 100 ชั่วโมง ตรงนี้จะนานจะช้าขึ้นอยู่กับหูแต่ละตัว บางตัวไม่ถึง 50 ชั่วโมงก็ผ่านแล้ว บางตัวสัปดาห์หนึ่งเลยก็มี บางตัวนานกว่านั้น บางตัวไม่ผ่านเลยต้องคัดเป็นตัวตก QC (ราวๆ 10 %)

แล้ว QC ยังไงถึงจะบอกว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ผมใช้หูฟัง Aiwa D9 (ซึ่งถือเป็นหูฟังที่ให้รายละเอียดดีที่สุดตัวหนึ่งในกลุ่ม Earbud) ในการทดสอบ โดย V-Friend จะต้องได้ 30% ของ Aiwa D9 ซึ่งเวลาฟังเทียบผมจะใช้แจ๊คแยก ข้างหนึ่งเสียบ Aiwa D9 อีกข้างเสียบ V-Friend
หูซ้ายใส่ Aiwa หูขวาใส่ V-Friend เสียงข้าง V-Friend ต้องไม่แย่กว่า Aiwa D9 มากนัก รายละเอียดที่ Aiwa มี V-Friend ต้องมี แต่อาจะไม่ชัดเท่าเท่านั้น ความกว้างต้องพอรับได้ จึงจะให้ผ่าน

จากขั้นตอนทั้งหมดจะเห็นว่าจะมีการเบิร์น 2 ครั้ง พวกผมเรียกกันว่า Double Burn (เหมือน Double Stadard 555) เมื่อรวมระยะเวลาการเบิร์น และเปลี่ยนตะกั่วแล้วหูตัวหนึ่งๆ จะใช้เวลาทำตั้งแต่ต้นจนจบราวๆ 1 สัปดาห์ และทุกตัวจะต้องฟังทดสอบก่อนส่งทุกตัว

ถือเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจที่เราทำเพื่อเพื่อนๆ ครับ

-----------------------------------------------------------