
สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องมิตรรักนักเพลงทั้งหลาย วันนี้รีวิวติงต๊องมาท่ามกลางสายฝนโปรยปรายครับ ฝนฟ้าเล่นตกเอาจนไม่หายใจหายคอ ผมว่าขืนตกแบบนี้ไปอีกซักสามเดือน ผมคงต้องไปรองน้ำฝนกินรองท้องแทนน้ำประปากันแล้วล่ะ 555
ช่วงนี้วงการหูฟังออกจะซบเซาหน่อย สินค้าตัวใหม่ๆ ไม่ค่อยขยันออก ทางเมืองนอกยังจรดๆจ้องๆ ประมาณว่าฝรั่งอาจจะรอดูว่าเมืองไทยยังอยู่ในช่วงเข้าพรรษา ฝนฟ้าตก เดินทางไปมาลำบาก ก็เลยไม่เข็นหูฟังรุ่นใหม่ๆ มา
วันนี้ผมมีหูฟังตัวใหม่จาก Sennheiser มาแนะนำครับ ความจริงมันประกาศมาหลายเดือนแล้ว แต่ไม่มีมาถึงเมืองไทย เนื่องจากคงขายดีที่เมืองนอกจนทำไม่ทัน หรือว่าฝรั่งขี้เกียจทำ ผมก็สุดจะคาดเดา เอาเป็นว่าตอนนี้มาแล้ว
Sennheiser MX-880 จ้า 555

วันนี้เดาะใช้ชื่อตอนว่า Sennheiser MX-880 เดอะเยอรมันคลาสสิค ก็เพราะว่าตอนแรกผมตั้งใจจะเอาหูฟังตัวนี้ไปถ่ายนอกบ้าน กะจะไปหาโลเกชั่นแจ่มๆ ถ่ายซะหน่อย หนอย พอขยับตั้งใจจะออกไป เมฆดำมาแต่ไกล ฟ้าร้องครืนๆๆ
ผมเลยต้องเปลี่ยนคอนเซปท์ใหม่ โดยนึกไม่ออกว่าจะถ่ายกับอะไรดี ด้วยความที่ต้องถ่ายภายในบ้านเหมือนๆๆ เดิม หันไปหันมา ผมมีเครื่องฉายสไลด์เก่าๆ ของ Leica อยู่ 1 ตัว อย่ากระนั้นเลย จับมาปัดขี้ฝุ่นแล้วเอามาถ่ายงานเพื่อเลี้ยงปากท้องซะเลย
Leica นั้นเป็นสุดยอดกล้องของเยอรมัน ตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุับัน มันเป็นความคลาสสิคอันหนึ่งที่เป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาชาวเยอรมัน แล้วหูฟัง Sennheiser ก็คือแบรนด์หูฟังสัญชาติเยอรมัน ซึ่งเป็นความคลาสสิคอย่างหนึ่งที่อุบัติในโลก
เฮียบ้าแล้ว เฮียเอามารวมกันได้ไง ??? เออน่า รวมกันได้ก็แล้วกัน 555

นี่คือที่มาของการถ่ายรีวิวหูฟัง ซึ่งเอาของอะไรที่มันเป็นคนละอย่างกัน จับมาดองเป็นญาติกัน จับมาผสมพันธุ์เยอรมันกับเยอรมัน จนได้ลูกครอกแรกเป็นสุนัขพันธุ์เยอรมันอัลเซเชี่ยล จ๊ากๆๆ ไม่ใช่ครับ จนออกมาเป็นรีวิวบ้าบออย่างที่เห็นล่ะ
เจ้า Sennheiser MX-880 นั้น เป็นหูฟังอยู่ในตระกูลใหม่ที่ลงท้ายด้วยรหัส 80 ซึ่งรุ่นพี่ของมันโดยตรงก็คือเจ้า Sennheiser MX-980 ซึ่งถือว่าเป็นตั่วเฮียในซีรี่ส์นี้ รุ่นพี่ทำด้วยเหล็กแหนบรถบีเอ็ม (ผมมั่วๆเอา) แต่รุ่นน้่องทำจากพลาสติกเนื้อดี
งานของ Sennheiser MX-880 นั้นมาในกล่องพลาสติกใสทั่วไป ประมาณว่าเซฟค่าแพคเกจเพื่อไปเพิ่มกำไรให้กับประธานบริษัทเซ็นไฮเซอร์ที่เยอนมันว่างั้น แต่เอางบที่เหลือมาเพิ่มเป็นคุณภาพให้กับเนื้องานของเจ้า MX-880 ล่ะจ้า 555

เล่ากันคร่าวๆ ต่อครับ เจ้า Sennheiser MX-880 นั้น เป็นหูฟัง Earbud ที่มีสายหูฟังเป็นยางเนื้อเด้ง นุ่มและยืดหยุ่นสูง ฝรั่งหลังๆ นี้ก็เริ่มหายโง่ เพราะที่ผ่านมาสายหูฟังอาจจะแข็งง่าย กรอบง่าย แต่เที่ยวนี้ฝรั่งแก้ทางมาเรียบร้อย ใช้ยางเนื้อเดียวเกรดเดียวกับหูฟังรุ่นพี่ๆ ของมัน
และจุดเด่นคือตัวปรับลดความดังของโวลุ่ม คนที่ไม่ค่อยฉลาดอย่างผม จะพยายามเลื่อนขึ้นเลื่อนลงเหมือนที่ปรับความดังในตัวรุ่นก่อนๆๆ แต่ขอโทษที งวดนี้ Sennheiser ทำเก๋ด้วยการทำให้มันเป็นแท่งกลมๆ ใช้หมุนแบบการหมุนแท่งลิปติก ซึ่งทันสมัยดีมาก
แต่ผมลองดูแล้ว เที่ยวนี้ฝรั่งพลาดแน่นอน คือการหมุนเจ้าแท่งกลมอันนี้ มันใช้มือเดียวค่อนข้างลำบาก ต้องใช้สองมือครับ คนโง่แบบผมต้องใช้สองมือในการควบคุม แต่งานนี้ใครฉลาด ก็น่าจะใช้มือเดียวในการหมุนได้ ใครหมุนคล่องมาเล่าความแลาดให้ผมฟังด้วยล่ะ 555

มาถึงตรงตัวหนีบสายหูฟังครับ ใครอย่านึกว่าตรงนี้ไม่สำคัญ หูฟังที่ไม่คำนึงถึงความปราณีตตรงนี้มันจะตกม้าตายได้ง่ายๆ การเอาสายหูฟังหนีบเข้าด้วยพลาสติกเล็กๆ ที่ไม่แข็งแรง ส่งผลให้หูฟังอาจจะเสียได้เร็วก่อนวัยอันควร และถ้าตัวหนีบตรงนี้ทำได้ไม่ดี ลวดทองแดงมักจะโผล่ออกมาให้เห็นได้ไม่ยากเย็นนัก
Sennheiser MX-880 ใช้ตัวหนีบที่เป็นพลาสติกค่อนข้างทน คงกระพันชาตรี ฟันแทงไม่เข้า หนีบสายได้แน่นหนา ทำให้สายที่เป็นรูปตัว Y มีตัวย้ำที่แข็งแรง และยังทำเก๋ด้วยการลงชื่อรุ่นไว้อีกด้วยครับ พลิกอีกด้านจะเป็นตัวอักษรยี่ห้อ sennheiser ซึ่งสวยงามดีมาก
หากใครดูไม่สวย ผมก็พยายามแนะนำว่าดูใหม่อีกที จะเห็นว่าเนียนเรียบ ปราณีต คลาสสิค คล้ายๆ ตราสัญลักษณ์ของ Leica ที่มีเอกลัษณ์ เป็น Red Dot ที่เน้นย้ำความเป็นเอกลักษณ์ในโลกของการถ่ายภาพ และ Sennheiser ก็ดีไซน์เฉกเช่นเดียวกันนั่นเอง

เอ้า คราวนี้เล่าเรื่องแจ๊คเสียบกันหน่อย Sennheiser นั้นดีไซน์ใหม่ครับ คือออกแบบแจ๊คให้เป็นรูปตัวแอล หักข้อศอก ข้อดีของแจ็คตัวแอลคือ เวลาใช้งานจริง มักจะไม่หลุดออกจากตัว Player ได้ง่ายเหมือนพวกแจ๊คตรง
เพราะเวลากระตุกสาย ด้วยความที่เป็นตัวแอล แรงมันจะไม่กระตุกตรงปลายแจ๊คตรงๆ ทำให้การฟังเพลงของท่านไม่ขาดตอน และจะต่อเนื่องไปตลอดชาติ แต่ถ้าท่านโดนนักเลงดีวิ่งราวกระชากเพลย์เยอร์ ระวังใบหูของท่านจะหลุดตามไปด้วย เพราะว่าแจ๊คของท่านคือตัวแอล 555
เท่าที่ผมสังเกตุดู แจ๊ครุ่นใหม่ีนี้ไม่สามารถหมุน หรือขยับส่วนพลาสติกได้เลย เรียกว่าล็อคตายกับตัวปลายแจ๊คจริงๆ ใครที่เคยห่วงว่าเจ้ายางหุ้มอาจจะลื่นไถลรูดหลุดออกมา ขอให้มั่นใจได้ว่า ท่านใช้หูฟังจนพัง เจ้ายางรัดแจ๊คตรงนี้ยังแข็งแรงดีแน่นอนจ้า

สุดเก๋ไก๋ก็คือเหล็กหนีบอันนี้ล่ะครับ ผมว่าสวยงามและหรูพอที่ประดับตรงปกคอเสื้อ หรือหนีบไว้ตรงสาบเสื้อของท่าน เคยสังเกตุไม๊ครับ หูฟังตัวเป็นหมื่นๆ แต่ให้ตัวหนีบเป็นพลาสติกรูปร่างลักษณ์เหมือนพลาสติกหนีบของสมอลทอล์คมือถือ
ซึ่งสร้างความเด๋อด๋าให้กับท่านนั่นเอง แต่ปัญหานี้จะหมดไป เมื่อท่านใช้ตัวหนีบของ sennheiser MX-880 หนีบแล้วจะทำให้ท่านดูดีขึ้นกว่าตัวจริง และที่สำคัญเวลาท่านหนีบตัวหนีบอันนี้เดินไปเดินมาบนถนน หรือบนรถไฟฟ้า
เวลาท่านเหลือบเห็นตัวหนีบอันนี้บนคอเสื้อคนอื่น ท่านจะรู้สึกถึงความเป็นมิตร ปลอดภัยและสัมผัสได้ถึงความเป็นสถาบันเดียวกัน ท่านจะไม่มีวันถูกไล่ฟันด้วยอีดาบ ไม้ที หรือลูกซองไทยประดิษฐ์ คนที่ติดสัญลักษณ์แบบเดียวกับท่านย่อมไม่มีวันทำแบบนั้นแน่นอน
เชื่อเฮียเต๊อะ 555

ในชุดของ Sennheiser นั้น ไม่ได้ให้อะไรมามากนักครับ มีแค่ตัวหนีบ กับฟองน้ำสำรองอีก 1 คู่เท่านั้น นอกนั้นท่านต้องไปตายเอาดาบหน้าเอง คือไปหากันเอาเองในภายหน้าล่ะครับ เนื่องจากอย่างที่ผมบอก sennheiser พยายามตั้งใจเน้นตัวนี้ โดยไม่ให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ เรียกว่าเอางบมาทุ่มในส่วนที่เป็นสาระหลักก่อนว่างั้น
เอ้า ได้เวลาเล่าถึงเรื่องเสียงซะที ขืนช้ากว่านี้ผมอาจจะโดนเขวี้ยงด้วยขวดคาราบาวแดง หรืออาจจะเป็นขวดช้างไลท์ก็ไม่แน่ล่ะครับ 555 วันนี้ผมจำเป็นต้องทดสอบและเขียนรีวิวในวันนี้ ไม่งั้นคงอีกยาวล่ะครับกว่าจะหาเวลาเขียนได้อีก ก็เลยเป็นการทดสอบแบบแกะกล่องแล้วลุยกันเลยล่ะครับ ผมถือว่าแกะกล่องใหม่ซิงๆ ยังไงหูฟังต้องมีแววดีก่อน เพราะไม่งั้น ต่อให้ขุนยังไงก็ไม่ขึ้นครับ
เจ้า 880 เป็นหูฟังที่เปิดได้ดังปกติ เท่าๆ กับหูฟังตัวอื่นๆ ที่เป็น Earbud ไม่ไ้ด้มีวี่แววว่าจะกินกำลังขับจากเพลย์เยอร์เท่าไหร่ ผมจับทดสอบกับไอ้ม้าแก่ Photo ที่ผมไม่ยอมทิ้ง ความดังถือว่าปกติ คือถ้าเร่งดังๆ ขี้หูท่านมีหวังร่วงได้แน่นอนครับ เจ้า 880 นั้น เป็นหูฟังที่แปลกเล็กน้อยครับ คือหลังจากทดสอบหูฟังหลายๆ วิธี ผมว่าคาแล็คเตอร์มันเปลี่ยนไปตามฟองน้ำที่ใส่ได้อีกหน่อย
ผมใช้ฟองน้ำที่แถมมาแบบไม่มีรู และหาฟองน้ำที่มีรูมาใส่เทียบกัน และอีกเงื่อนไขคือชกแบบไม่สวมนวม คือไม่มีฟองน้ำนั่นเอง เจ้า 880 ตอนที่ใส่ฟองน้ำปกติ เสียงกลางจะสะอาดมาก อันนี้ไม่ต้องเงี่ยหูฟัง กลางแหลมนั้นใส และสะอาด ใครที่เคยรังเกียจปลายแหลมที่มีเสี้ยนมากๆ งวดนี้เจ้า 880 นั้นใส ปลายแหลมไปได้ไกลสุด แต่ไม่สาก ! และไร้เสี้ยน คล้ายๆ ปลาตะเพียนไร้ก้างทอดกรอบนั่นแล........

เบสของเจ้า 880 นั้นมีมวลอิ่ม นุ่ม อิมแพ็คแรง ชัดเจน เบสเป็นลูกทันทีถ้าวางตำแหน่งหูฟังให้ดีๆ และเบสสามารถไล่โทนขึ้นไปต่อเนื่องกับเสียงกลางกับแหลม แต่ไม่ล้ำเส้นไปปนกับเสียงกลางจนฟังแล้วขุ่นหรือเบลอนะครับ ความสะอาดของเสียงกลางนั้นทำได้ดีมาก คือก้องและกังวาน เป็นประกาย ตำแหน่งต่างๆ สัมผัสได้จริงๆ ว่าอยู่ตรงจุดไหนกันบ้าง เสียงเล็กๆน้อย ที่เป็นบรรยากาศของห้องอัด ถ่ายทอดออกมาได้ดีมากครับ
เรื่องซาวด์เสตจ อันนี้ถือว่ากลางๆ ครับ คือเรื่องจะหดแคบมากองอยู่ข้างหูไม่ใช่แน่ๆ แต่ถ้าจะไปเทียบกับ Fullsize ตัวที่เวทีเปิดมากๆ คงไม่ใช่ แต่หากฟังให้ดี จะเห็นว่าเสียงทั้งหมดไม่กองอยู่ตรงหัว หรือแนวหน้าผาก แต่จะกระจายออก และเป็นเสียงที่หลุดพ้นหัวไปพอสมควร ใครที่หงุดหงิดเวลาฟังเพลง ที่เหมือนนักร้องเป็นผีมาเข้าสิงอยู่ในสมอง นั่นคืออาการเสียงที่หุบแคบ ฝังเข้าในศีรษะ แต่สำหรับเจ้า 880 นั้นสร้างสนามเสียงได้ออกพ้นจากหัวแน่นอนครับ
เมื่อครู่คือการฟังแบบใส่ฟองน้ำไม่มีรู ผมเปลี่ยนเงื่อนไขเป็นแบบเจาะรู และแบบไม่มีฟองน้ำเลย อันแรกคือตัดแบบไม่มีฟองน้ำก่อนเพื่อนครับ ผมว่าหูฟังมันเบาและไม่มีฟองน้ำมันจะเลื่อนหลุดได้ง่าย และเสียงกลางแหลมเมื่อไม่มีฟองน้ำกรองไว้ 1 ชั้น มันจะแหลมขึ้นไปได้อีกพอควร ซึ่งอาจจะถูกใจแฟนๆ บางท่านได้ แต่พอมาลองแบบมีฟองน้ำเจาะรู รายละเอียดลงตัวมากขึ้น เบสกระชับขึ้น แหลมใสมากขึ้น ไปได้ไกลขึ้น และกลางเปิดขึ้นได้อีกหน่อย แต่ฟิลลิ่งความนุ่มของเบสอาจน้อยลงนิดๆ
แล้วมันเหมาะกับเพลงแนวอะไรเนี่ย เท่าที่ผมลองๆ ดูแบบช่วงก่อนเบิร์น ผมว่ามันออกแนวละมุน สมจริง ไม่จัดจ้านจนเกินงาม พวกเพลงร้องต่างๆ เจ้า 880 รับแทงไม่อั้น ถือว่าเป็นงานถนัด เพลงแนว jack johnson หรือ Norah Jones ฟังแล้วเพอร์เฟ็กต์มากๆ ครับ คือชัดถ้อย ชัดคำ เสียงที่อยุ่ในย่านกลางคือจุดเด่น และเป็นจุดแข็งของเจ้า 880 กันเลยทีเดียวครับ แต่ใครจะเอาเจ้า 880 ไปขุดดิน หรือทำงานแบกหาม อันนี้คงผิดประเภทอีกเช่นกัน เพราะโทนของ 880 นั้นเหมาะกับฟังเพลงแนว easy listening ซะมากกว่าครับ
เบาใจล่ะครับ เพราะหูฟังช่วงก่อนเบิร์นทำได้ระดับนี้ก่อน ถือว่าตุนแต้มเก็บคะแนนใส่กระเป๋าไว้แล้ว โอกาสช่วงหลังเบิร์นน่าจะไปได้อีกพอควร ซึ่งเรื่องจะพลาดพลั้งเสียมวย โดยจรเข้ฟาดหางพ่ายในปลายยกห้าคงจะยากหน่อยล่ะครับ เจ้า Sennheiser MX-880 คือหูฟังที่ใส่ใจในรายละเอียดปลีกย่อยทุกๆ จุดครับ ตั้งแต่งานการผลิต คุณภาพเสียง วัสดุ อุปกรณ์ ตราสัญลักษณ์ ที่เป็นเครื่องบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ ความคลาสสิิคของแบรนด์กันทีเดียวเชียว
หาก Leica คือแบรนด์ของกล้องถ่ายภาพที่คงความคลาสสิคของเยอรมัน ผมว่าเจ้า Sennheiser นี่ก็คืออีกเชิงหนึ่งที่เป็นความภูมิใจของประเทศเยอรมัน
กราบลาพระเดชพระคุณพ่อแม่พี่น้องเพื่อนๆ ไปกินข้าวเย็นก่อนล่ะเน้อ 5555
มั่นคง