สวัสดีทุก ๆ ท่านทีบอร์ดเฮียมั่นคง และกำลังจะอ่านรีวิวเครื่องเล่น HHB ของผมนะครับ
อย่างที่ได้เคยอ่านกันแล้วว่า ผมนั้น ชอบ Minidisc และ Discman เป็นอย่างมาก
ดังนั้น เวลาได้อะไรมา ก็จะนำมารีวิวให้อ่านกัน เพื่อเป็นความรู้เล็ก ๆ น้อยๆ นะครับ
ตอนนี้บอร์ดเฮียมั่น ห้อง Review เข้าไปไม่ได้แฮะ ผมเลยขออนุญาต โพสหน้าหลักนี่ละกันครับ
ไว้เรียบร้อยเมื่อไหร่ เฮียมั่นก็ย้ายกระทู้ไปใส่ห้อง Review ได้เลยนะครับ ^_^
ถ้าเปรียบเทียบเครื่อง MD sony MZ-1 เป็น รถถังแล้วละก็
ผมก็ต้องเปรียบเทียบ HHB MDP 500 ตัวนี้เป็น เรือรบแล้วละครับ
หลาย ๆ ท่าน อาจจะไม่รู้จักยี่ห้อ HHB (ผมเองก็ไม่รู้จัก เอ้าซะงั้น)
นี่เลยครับ จะได้รู้จัก http://www.hhb.co.uk/
มี 3 แหล่งใหญ่ ๆ คือ ที่ UK , USA และ CANADA ครับ
พูดง่าย ๆ ก็คือ ยี่ห้อนี้ ผลิตโดยฝรั่งนั่นเอง
นี่ก็เป็น Brochure ของเครื่องนี้นะครับ
http://www.hhb.co.uk/hhb/global/brochures/Portadisc_Brochure.pdf
ใครสนใจก็โหลดไปดูกันนะครับ
เอาละ มาที่รีวิวของผมดีกว่า ซึ่ง ผมจะรีวิวตามแนวทางของผมนะครับ ดังนั้น
ถ้าไม่ได้สาระใด ๆ ก็อย่าไปซีเรียสนะครับ เน้นดูเพลิน ๆ นะครับ
ทำไม ผมถึงอยากได้เครื่องนี้ ??
ก็ผมมี sony MZ-1 อยู่แล้ว ทั้งบึกถึก มันยังจะมีตัวไหนอีกหว่า ที่ใหญ่กว่านี้แล้วพกพาได้
ก็ search ไปในเว็บ minidisc.org ในส่วนของระดับ Professional ก็ไปเจอสองรุ่น
ก็คือ Marantz 650 กับ HHB 500 ตัวนี้ แน่นอน ผมเพิ่งบริการ ebay ก่อนเลยในการ search
ปรากฎว่า เจอแต่ HHB แต่ราคานะเหรอครับ 415 USD ยังไม่ส่งไทย (มือสองนะครับ)
ผมก็ได้หาไปเรื่อย และก็บ่นให้พี่ chaiza ฟังใน http://www.retro-gadget.com
ซึ่งพี่ชัยก็บอก อ้อ ตัวนี้เคยเห็น มีคนมาลงขายใน TMD สมัยนู้น 16900 บาท
ผมก็เลยโทรไปหาคนคนนั้นเลย เขาบอก เขาขายคนญี่ปุ่นไปแล้ว
จากนั้น พี่ chaiza ก็ search ให้อีก เจอพี่คนนึง ชื่อว่า พี่เป้า เขาก็มีรุ่นนี้ละ เคยลงขายไว้
เมื่อ มกราคมปี 2552 เจี๊ยก!! ปีที่แล้วนี่หว่า แต่ ไม่ลองไม่รู้ ผมก็โทรติดต่อไปครับ และก็ได้มา
พี่เป้า เป็นคนอัธยาศัยดีครับ เขาเป็นคนทำ sound อะไรทำนองเนี้ย ผมไม่ค่อยรู้หรอก -_-"
ผมก็ไปรับถึงบ้านพี่เขาเลย ไกลดีแท้ ๆ ผมอยู่ฝั่งธน พี่เขาอยู่ลาดพร้าว 103 หรือไงเนี่ยละ
ไปแบกกลับมา พร้อมของแถมแผ่น MD ใช้แล้วอีกหลายแผ่นเลย (ขอบคุณมากครับ)
ปุ่มกดต่าง ๆ ที่หน้าเครื่องนั้น ทำออกมารองรับการทำงานได้ครบถ้วนครับ ใช้งานไม่ยากครับ
สังเกตุตรงปุ่ม POWER ครับ เอิ๊กๆ ๆ ผมทำสติ๊กเกอร์ตัวนูนแปะไว้ครับ เพราะผมได้มาตอนแรก
ผมทำความสะอาดรุนแรงไปหน่อย เช็ดทีตัวหนังสือหายเลยครับ T_T
ตรง Phone Level นั่นก็คือ ปุ่มปรับ เพิ่มลด Volume เสียงนั่นเองครับ ปรับแบบอนาล็อคนี่ละครับ
ใช้มือหมุนได้เลย สบาย ๆ ถ้าฟังด้วยหู earbud , inear ก็ปรับที่ 8 - 9 นาฬิกา ก็เหลือเฟือครับ
สำหรับ full size อย่าง Grado ก็เช่นกันครับ 9 - 10 นาฬิกา ก็เหลือเฟือ
แต่ถ้าเป็น sennheiser HD600 ทำนองนี้ ต้องหมุนหมดแม็กเลยครับ ถึงจะเต็มสูบครับ จะบ้า
ทางด้านนี้ ก็จะเป็น ปุ่ม REC. หรือปุ่มบันทึกนั่นเองครับ คือ HHB MDP 500 เนี่ย
เป็นเครื่องที่ นักข่าว ต่างประเทศ สมัยก่อน พกติดตัวไปเพื่อบันทึกเสียงนะครับ
หนักมาก ๆ เลยนะ ประมาณ 1 กิโลครึ่ง ครับ และ เหมาะกับคนที่ทำงานพวกอัดเสียง
อย่างเช่น คนทำ sound คนทำหนัง ที่ต้องการบันทึกเสียงเวลาออกภาคสนามนะครับ
ปุ่มกดการใช้งานเช่น Play , Stop, FF, RW ก็จะอยู่ด้านบนเครื่องครับ
ถ้าสังเกตุดี ๆ ทางด้านขวามือด้านบน จะมีรูพรุน ๆ นั่นละครับ ลำโพงครับ มีลำโพงโมโนด้วย
ซูมให้ดูใกล้ๆ เข้ามาอีกนิดครับ สำหรับปุ่มการทำงานที่ต้องใช้กันบ่อย ๆ
ตรงจุดนี้ เรียกได้ว่า เป็นความเทพ เป็นโปรเฟสชั่นแนล อย่างที่รุ่นนี้มันเป็นเลยครับ
มีช่อง Phones โดยเป็นแจ๊ก 6.5mm นะครับ และก็มี RCA out ซ้ายขวา
มี COAX ทั้ง in และ out , มี Digital in และ out มีช่อง USB
และก็มีช่องไว้ให้เสียบ ไมค์โครโฟน อีก สองช่องครับ เต็มที่เลยครับ ภาค input output
เราไปทัวร์รอบ ๆ เครื่องกันก่อนครับ
ที่ด้านข้างอีกฝั่ง ก็จะมี ช่องไว้ใส่แผ่น MD นั่นเองครับ
เป็นระบบ slot in ครับ ดูดแผ่น และคายแผ่นครับ เหมือนพวก MD Deck เครื่องใหญ่ ๆ
พอจับหันด้านหลังเครื่องก็เจอครับ แหล่งพลังงาน
ผมซื้อก็เพราะเหตุผลนี้ละครับ เครื่องรุ่นนี้สามารถใช้พลังงานแบ็ต AA ได้ครับ 8 ก้อน
โดยสามารถใช้งานได้ถึง 3 ชั่วโมงต่อเนื่องในการฟังแผ่น MD ครับ
เพราะผมเอาไปเทียบกับ sony MZ-1 ว่า ต่อให้แบ็ตเต็ม ๆ ก็ใช้ได้ประมาณ 45 นาที
ฟังไม่หมดแผ่นก็แบ็ตหมดแล้ว ต้องเสียบหม้อแปลงตลอดเลย (ผมไม่ปลื้ม เอิ๊กๆๆ)
ผมถึงจัดให้ HHB MDP 500 เป็นเครื่องเล่น MD พกพา ที่ใหญ่ที่สุด และหนักที่สุดครับ
หลังจากโม้มาพอสมควร มาเปิดเล่นกันดีกว่าครับ กดปุ่ม power ปุ๊บไฟการทำงานขึ้นทันที
บอกชื่อรุ่น และ บอกสถานะพลังงานว่าตอนนี้เหลือ 90% ถ้าชาร์จเต็มๆ จะขึ้นว่า 99% ครับ
อย่ารอช้าใส่แผ่นดีกว่าครับ
ค่อย ๆ ดันเข้าไปครับ เพราะรุ่นนี้ จะมีปัญหาที่พบกันมากคือ ไม่กินแผ่น และไม่คายแผ่น
เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเสมอกับ MD แบบ slot in ครับ แต่ใช่ว่า มันจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ นะครับ
หมายถึงว่า ปัญหาที่จะเจอ นะครับ บอกไว้ก่อน (แต่ผมยังไม่เจอ)
ใส่แผ่นกด Play ฟังเพลง
กด Display ก็จะเลือกไปเรื่อยๆ อย่างอันนี้คือโชว์ในส่วนของ Margin ครับ ว่า
ซ้ายขวา ออกเท่าไหร่
มาดูพวกปุ่มตั้งค่าต่าง ๆ หน้าเครื่องกันดีกว่าครับ
ปุ่ม Light ก็กดปุ๊บ จอก็มีแสงสว่างครับ
ปุ่ม Display ก็ โชว์สถานะหน้าจอการทำงานครับ
ปุ่ม Mark เอาไว้ มาร์กแทร็กครับ ผมไม่เคยใช้ เพราะผมอัดแต่เพลง
ปุ่ม INPUT SETUP และ SYSTEM ก็ตามนี้ครับ
อย่างในภาพบนนั้น ผมสั่งให้ input ในส่วนของ Digital ครับ คือใช้สาย Optical ที่ out มากจาก
เครื่องเล่น CD และมา Optical in ที่เครื่อง HHB ครับ เอาไว้อัดเพลงครับ
ถ้าจะใช้ coax, mic ก็ปรับเลือกได้ครับ ซึ่งมันให้เราเลือกได้เลยครับ ซ้าย ขวา
ดูภาพประกอบไปเลยนะครับ ไม่อธิบายนะครับ
ตั้งค่าต่าง ๆ ได้เยอะดีนะ
ดูกันไป ๆ
ถ้าเราตั้ง Digital Output มันก็จะปล่อยสัญญาณ ทาง Digital out ครับ
เพื่อเราจะได้ไปต่อเข้า amp เพื่อให้เสียงออกลำโพง หรือ อะไรก็แล้วแต่เราครับ
หรือที่เรามักเรียกว่า Optical Out นั่นละครับ
นี่ มีแสงแดง ๆ ออกมาแบบนี้
อ้อ จำไว้นะครับว่า MD แผ่นที่เราอัดเองนั้น ไม่สามารถ Optical Out
แล้วไปอัดบนเครื่องอื่นต่อได้นะครับ มัน Protect ไว้ครับ มันเป็นกฎหมายเป็นลิขสิทธิ์
นะครับ มีรุ่นเดียวที่ Optical out จากแผ่นอัด แล้วไปอัดเครื่องอื่นต่อได้นั่นคือ
Sony MZ-1 รถถังนั่นเองครับ