Guest
หมวดหมู่ >

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

รีวิวสายไฟ BlackSand Cable เจ้าทรายนิลกาฬ....

นายมั่นคง

02/08/2010 19:48:55
4,294



สวัสดีท่านนักฟังที่รักและเคารพยิ่ง...วันนี้ผมนายมั่นคงจะมาแนะนำอุปกรณ์ชนิดหนึ่ง ที่บรรดานักเล่นเครื่องเสียงในระดับเริ่มเอาจริงเอาจัง น่าจะให้ความสนใจกันทุกๆ ท่าน ก็คือสายไฟ Power AC นั่นเอง เจ้าอุปกรณ์ที่ว่านั้นเป็นอุปกรณ์เสริมหลังจากท่านเลือกสรรอุปกรณ์หลักได้แล้ว และยังรู้สึกว่ายังไม่ลงตัว หรือฟังไปฟังมาซิสเต็มยังเติมเต็มไม่ได้ ยังขาดในส่วนปลีกย่อยที่น่าจะเก็บรายละเอียดได้ยิ่งขึ้นไปอีก

วันนี้ผมคงไม่ได้รีวิวในเชิงขำขันล่ะครับ หรือเอาฮาเข้าว่าจนหาสาระไม่เจอ เพราะถ้าเขียนในเชิงนั้น อาจจะทำให้ท่านนักฟังทุกท่านเกิดความสับสน เพราะถ้านักเล่นเครื่องเสียงถ้าจะเล่นถึงสายไฟดีๆ คงต้องอยากอ่านเป็นข้อมูลชัดๆ เอาจริงเอาจังหน่อย ก็เลยประมาณว่าผมเขียนเป็นบทความ โดยให้ท่านอ่านไปเรื่อยๆ แล้วจะมีรูปภาพประกอบสลับไปเรื่อยๆ ดังเดิมเช่นกัน ท่านใดที่ขี้เกียจอ่าน ก็อาศัยดูรูปแล้วจินจนาการเสียงไปตามภาพที่เห็นก็แล้วกัน




ผมเป็นคนเล่นเครื่องเสียงมาช้านาน และได้เล่นสายไฟผ่านมือมาพอสมควร ทั้งที่จ่ายเงินซื้อหาเอง และรวมถึงการหยิบยืมเพื่อนฝูงที่มีสตุ้งสตางค์ ที่ใช้สายไฟในเกรดระดับไฮเอนด์อยู่ (ซื้อเองไม่มีปัญญา) ผมพบว่าสายไฟต่างๆ มากมายหลายต่อหลายเส้น มักจะมีข้อดีและข้อด้อยต่างๆ กันออกไป แต่ละเส้นก็ต่างคาแรคเตอร์ บางเส้นมีจุดเด่นในบางด้าน แต่ก็ยังมีจุดด้อยในบางด้าน โดยหาสายไฟที่ดี และสมบูรณ์จริงๆ แบบในอุดมคติไม่ได้นัก แต่วันนี้ผมนำสายไฟที่เชื่อว่ามีข้อเด่นมากมายจนท่านอาจประหลาดใจ

ผมทำการเสาะหาสายไฟจากทางอินเตอร์เน็ท และก็มักจะพบสายไฟแบรนด์คอมเมอร์เชียลต่างๆ นั้นมีอยู่ทั่วไปดาษดื่น แต่หลังจากเจาะลึกลงไป ผมพบว่ามีสายไฟเส้นหนึ่งที่โด่งดังตาม Forum ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Head-Fi, Audiogon หรือในเว็บเครื่องเสียงต่างๆ ทั่วโลก หลากหลายความเห็นต่างยกย่องให้สายไฟรายนี้สามารถขึ้นไปต่อกรกับสายไฟแบรนด์ตอมเมอร์เชียลในราคาค่าตัวที่แพงกว่า 2-3 เท่าได้อย่างสบายๆๆ เจ้าสายที่ว่าคือสายยี่ห้อ Black Sand จากประเทศแคนาดานั่นเอง




ผมพบเว็บไซด์ผู้จำหน่าย Black Sand Audio http://www.blacksandaudio.ca/ ซึ่งจำหน่ายอุปกรณ์เสริมต่างๆ สำหรับเครื่องเสียง และโดยรวมทั้งหมดเป็นสินค้าในระดับไฮเอนด์อย่างแท้จริง และหลังจากอ่านลึกลงไปก็พบว่าเว็บ Black Sand นั้นเปิดอีก section หนึ่งเพื่อทำสายไฟโดยเฉพาะ ซึ่งก็คือ Black Sand Cable http://www.blacksandaudio.ca/ ซึ่งงานนั้นผลิตโดยทีมงานภายใต้การนำของ John Cook

ผมสนใจและได้เมล์สอบถามไปกับทาง John Cook ผมไม่ได้สอบถามในฐานะลูกค้า แต่สอบถามในฐานะของผู้ที่สนใจจะนำสินค้ามาจำหน่าย ผมให้ John Cook อธิบายให้ฟังว่า สายเค้ามีความดีงาม หรือความพิเศษเหนือกว่าสายอื่นๆ ทั่วไปอย่างไรบ้าง ซึ่งผมเชื่อว่าการทำสายไฟให้ดีถึงดีที่สุดเส้นหนึ่ง มันคงต้องมีอะไรมากกว่าการเอาสายไฟสำเร็จรูปทั่วไป แล้วเลือกหัวปลั๊กแบรนด์ดังๆ มาสวมขันเข้า มันน่าจะมีอะไรที่พิเศษและดีพอที่จะเป็นเหตุผลประกอบ




John Cook บอกกับผมว่า สายไฟ Black Sand นั้น ทุกเส้นจะเริ่มต้นจากการนำสายไฟที่เลือกสรรแล้ว แล้วนำสายที่ได้ทั้งหมดไปผ่านกรรมวิธีแช่แข็ง Cryogenic ก่อน 1 ครั้ง ก่อนที่จะนำมาใส่ฉนวน และเค้ายังทำการเบิร์นสายไฟก่อน 1 รอบก่อนที่จะนำมาเข้าหัวปลั๊กที่ได้เลือกให้แมทช์เข้ากันทางด้านเสียง และหลังจากที่ทำการเบิร์นจนได้ที่ระดับหนึ่ง John Cook จะนำน้ำยา CAIG Progold ซึ่งพวกเรารู้จักดีในนามของน้ำยาที่เคลือบไว้กันคราบออกไซด์ และเชื่อกันว่ามันช่วยนำสัญญาณได้ดีขึ้นไปอีก

การไล้น้ำยาเข้มข้น ProGold จะถูกเคลือบทั้งสองด้าน ทิ้งจนแห้งสนิท ทั้งส่วนของหัวปลั๊กและส่วนของสายไฟ และขั้นตอนทั้งหมดจะถูกแต่งเสียงโดยเครื่องมืออิเล็คโทรนิคอุตสาหกรรมเฉพาะทาง John Cook ถือเป็นความลับไม่ยอมแจ้งมาให้ทราบ ผมแกล้งถามว่า การเข้าสายไฟกับหัวปลั๊กแค่มีคีมกับมีดคัทเตอร์ก็เพียงพอแล้วมิใช่หรือ จะมีมากไปกว่าเชียวหรือ John Cook ปฏิเสธว่าไม่ใช่แน่นอน มันมีกรรมวิธีที่เค้าสะสมประสบการณ์มา....




John Cook กล่าวต่อว่า สายไฟ Black Sand Cable นั้น หากชอบใจในรุ่นไหนควรเลือกรุ่นนั้นๆ และไม่ควรแกะสายไฟ เพื่อลองเปลี่ยนหัวปลั๊กด้วยตัวเอง เพราะเค้ามีทริคในขั้นตอนการประกอบ การนำสายไฟออกโดยพลการส่งผลให้เสียงอาจจะ Drop ลงได้ John บอกกับผมว่าแปลกใจไม๊ที่เค้าไม่ทำสายประเภทอื่นๆ ออกมาจำหน่าย อาทิพวกสาย RCA สาย Coaxial หรือแม้แต่กระทั่งพวกสายลำโพง ซึงผมก็แปลกใจเช่นกันว่าทำไม John เลือกที่จะทำแต่สายไฟ หรือเป็นเพราะ John เกียจคร้าน??

John บอกว่า เค้าชำนาญ และรู้ในศาสตร์ของการทำสายไฟดีกว่างานประเภทอื่น เค้าเลือกที่จะทำสายไฟเพียงอย่างเดียว ทำให้ผมหวนคิดเปรียบเทียบกับร้านอาหาร ร้านข้าวมันไก่รสเลิศที่ทำข้าวมันไก่อร่อย ย่อมไม่ยอมขายเย็นโตโฟในร้านแน่นอน ฉันใดก็ฉันนั้น ผมมั่นใจวา John Cook นั้นเก่งและเชี่ยวชาญ ผมทำการตกลงด้วยการทดสอบสังผลิตภัณฑ์เดโมมาทดลองก่อน โดยเลือกเป็นรุ่น Best Buy อย่าง Violet Z1 ก่อน ผมมีความเชื่อส่วนตัวว่า ถ้ารุ่นทั่วไปเสียงไม่ดี อย่าได้หวังกับรุ่นใหญ่ให้เสียเวลา




ผมเลือกสายไฟที่ความยาว 2 เมตรเต็มๆ มันมีทริคในการเลือกสายไฟอยู่ข้อหนึ่งคือ สายไฟที่ดีควรอยู่ในช่วงความยาว 1.80 เมตร หรือถึง 2.0 เมตร เพราะสายไฟนั้นหากตัดสั้นที่ 1.50 เมตร หรือต่ำกว่าลงไป ตัวสายจะให้เสียงที่เครียด เกร็ง และกระด้าง ความจัดจ้านมากกว่า แต่ที่ 2.0 เมตร คือระยะที่ดีสุด ดีพอสำหรับที่จะใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่น และมีระยะพอที่จะวางตัวสายทอดยาวโรยตัวลงก้บพื้น หรืออุปกรณ์ที่รองสายไฟ การปล่อยให้สายไฟลอยเท้งเต่งอยู่กลางอากาศ มีผลต่อโฟกัสตำแหน่งเสียง

ผมสั่งสายตัวเบสิคที่เป็น Best Buy ที่สุดจาก John Cook ซึ่งก็คือรุ่นแนะนำเลยก็ว่าได้ มันคือ Viloet Z1 ผมทดสอบกับซิสเต็มเครื่องเสียงบ้านชุดเล็กๆๆ อย่าง DAC 19DSP แอมป์ Moon i1 และลำโพง Totem Model One ส่วนซิสเต็มหูฟังก็คือเจ้า AMP ROC และ DAC 19DSP และมีหูฟัง Grado HF-2 ประกอบด้วย แผ่นที่ใช้ส่วนใหญ่ก็คือ แผ่นไวโอลิน Camen Fantasia, Praticia Barber, ถงลี่, ไช่ฉิน, Norah Jones, และแผ่นโชว์ไดนามิกแบบไทยๆ คือ รัฐฉานตำนานที่โลกลืม ของคาราบาว




สัมผัสแรกที่ยอดเยี่ยมมากคือเรื่องไดนามิกคอนทราส (Dynamic Contrast) ส่วนที่จะให้ความสมจริงความอ่อนช้อยของเพลงและชิ้นดนตรี ก็คือตรงจุดนี้ล่ะครับ หากไดนามิคคอนทราสดี ก็หมายความว่าชิ้นดนตรีสามารถไล่ความอ่อนแก่ของสัญญาณ คือไล่ตั้งแต่ส่วนที่เบาสุดไปถึงส่วนที่ดังสุดได้ดี สามารถเก็บความถี่ตรงนี้ได้หมด แล้วแบเรียงออกมาโชว์ให้ได้ยินกัน หากท่านเคยฟังแผ่นไวโอลิน หากสังเกตุให้ดีๆ จะเห็นว่าการลงน้ำหนักมือของคันชักนั้นต่างกัน ความตึงเขม็งของสายนั้นต่างกันตลอดทั้งเพลง

เสียงที่ดีคือต้องไล่โทนอ่อนแก่ สามารถจับได้ถึงความดังค่อยในแต่ละจังหวะของการเล่น อุปกรณ์ที่จับรายละเอียดไม่ได้ มักจะได้ยินแค่การลงน้ำหนักมือ ทุกๆ ส่วนเหมือนจะทื่อ แข็ง และแบน เป็นแค่เสียงไวโอลิน แต่ไม่ใช่อารมณ์ของไวโอลิน Violet จับตรงจุดนี้ได้ดีมาก ในแง่ความสมจริงถือว่าเยี่ยม และยังในส่วนของย่านแหลม ก็โชว์ฮาร์โมนิกได้เยี่ยม ปลายไทรแองเกิ้ลนั้นแหลมกังวาน มีการคราง สั่น และสัมผัสได้ว่ามีมวลน้ำหนัก หรือที่นักเล่นเครื่องเสียงรู้กันดีว่า "แหลมเป็นเม็ด" นั่นเอง...




หากใครมีอัลบั้มของคาราบาว ชุด รัฐฉาน ตำนานที่โลกลืม ขอให้ลองมาเปิดฟัง หากใครไม่มีให้น่าจะลองมาหาฟังกันครบ เพราะแผ่นนี้เป็นแผ่นที่บันทึกมาค่อนข้างดี output จะแรงกว่าปกติเล็กน้อย ไดนามิกนั้นแรง ขึ้นลง ตลอดทั้งอัลบั้ม เป็นแผ่นบันทึกที่โชว์เสียงเต็มๆ ชัด และแสดงให้เห็นว่าไดนามิกจะแจ้งเป็นอย่างไร ฟังโดย Violet Z1 จะทราบว่าสายมันให้แรงปะทะ ความสด คึกคัก เร้าใจ ช่วงพีคของการบันทึก สามารถไต่ทะลุขึ้นไป เรียกว่าอาการอั้นไม่เจอในสายเส้นนี้

เจ้า Violet Z1 นั้น ต่างจากสายไฟทั่วไปที่ผมเคยผ่านมือมา คือเราจะไม่พบอาการสากเสี้ยน หรือกร้านที่ความถี่ใดความถี่หนึ่ง สายบางยี่ห้อ ทำเสียงย่านทุ้มได้ดี แต่กลับไปพบความกร้านในย่านแหลม แต่สำหรับ Viloet ต้องใช้คำว่ามันละเมียดตั้งแต่ความถี่ต่ำๆ จนไล่ไปถึงความถี่สูงๆ หากใครทดสอบฟังจริงๆ จังๆ จะพบว่าเจ้า Black Sand นั้นให้ความโปร่ง (transparent) เยี่ยมยอด คือช่องว่างระหว่างเครื่องดนตรี ชิ้นต่อชิ้น ถูกถ่างวางห่างออกจากกัน ไม่มีการเกยกัน หรือต้องมานั่งเดาใจว่าชิ้นไหนอยู่หน้า ชิ้นไหนวางเหลื่อมไปทางหลัง




ในเรื่องของการขึ้นรูปเป็นสามมิติ ผมพบว่าสายไฟ Violet Z1 นั้นวางชิ้นดนตรีได้แม่นยำ และสามารถให้ดนตรีบางชิ้นเหลื่อมและเลยมาด้านหน้า และหากฟังให้ดีๆ จะสามารถวางให้ชิ้นดนตรีประกอบอื่นๆ นั้นโอบล้อมมาทางด้านข้างได้กว้างและไกลขึ้น การฟังเพลงไม่ว่าจากลำโพงหรือหูฟัง เสน่ห์ที่สูงสุด และให้ความตื่นตะลึงมากที่สุดก็คือตรงส่วนนี้ล่ะครับ หากอุปกรณ์ชุดใด ทำความสมจริงและฉีกชิ้นดนตรีให้ลอยละล่องได้ นั่นคือสุดปราถนาของทุกๆ คนแน่นอน

จุดที่เป็นจุดแข็งที่สุดของ Black Sand และเป็นจุดที่ผมคิดว่านักฟังเพลงทุกคนมักจะต้องชอบและหลงใหลไม่แพ้กันก็คือเรื่อง Blackness เจ้า Black Sand CAble นั้นทำตรงนี้ได้ดีสมชื่อ สายสามารถทำฉากหลังให้ดำสนิท มันมืดสนิท มืดจนทำให้ชิ้นดนตรีถูกขับให้เด่น ลอยผุดขึ้นมาทีละชิ้น ทีละด้าน เสียงนักร้องมีตัวตน เนื่องจากฉากหลังที่มืดสนิท เสียง Norah JOnes แหบเสียงขึ้นนาสิกมีเสน่ห์ และยิ่งฟังมีเสน่ห์เมื่อสายไฟ Black Sand สามารถทำฉากหลังได้มืด เพื่อส่งให้นักร้องร้องเพลงได้ซาบซึ่งยิ่งขึ้น




หลังจากจบการทดสอบสายไฟตัวอย่างในตอนแรก ผมก็ปรึกษากับคุณหมูหวานแห่ง Hifilover ว่าสายไฟค่ายนี้เสียงไม่ใช่ธรรมดาน่าจะนำมาทดลองจำหน่ายกันทุกๆ รุ่น ผมเลยทำการสั่งสายไฟรุ่นรองท็อปเข้ามาเสริมทัพสำหรับท่านที่ชอบอะไรที่เป็นที่สุด จริงๆ แล้วสายไฟจากค่าย Black Sand นั้นมีตัวท็อปสุดคือรุ่น Statement One คือราคาเฉียดเส้นละเจ็ดหมื่นบาท ซึ่งผมคงไม่น่าจะสั่งมาขาย ณ เวลานี้ เนื่องจากยังไม่เห็นตัวคนซื้อนั่นเอง แต่ผมได้สั่งสินค้าตัวที่เป็นตัวเรือธง Flag Ship มาด้วยอีกตัวคือรุ่น Silver Refernce MKV

ซึ่งรุ่นนี้เป็นรุ่นสร้างชื่อ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นรุ่นสร้างโบสถ์ สร้างศาลากันก็ยังได้ครับ คือโด่งดังตั้งแต่ MKI, MKII มาเรื่อยๆ จนมาถึงปัจจุบันคือ MKV โครงสร้างสายทำจากสายเงินผสมทองแดงขนาดหน้าตัด 11.5 AWG เปลือกฉนวนภายนอกหุ้มจากเนื้อฝ้ายสังเคราะห์ เนื้อดำเหนียว และที่สำคัญหัวปลั๊กที่ได้รับการเลือกให้เข้ากับชุดนี้คือ หัวปลั๊ก Wattgate สีเงิน 330iAG+350iAG ครับ เรียกว่าใช้หัวตัวท็อปสุดจากค่าย Wattgate เลยก็ว่าได้




สุ้มเสียงนั้นไม่ทิ้งแนวจากตัวรุ่นน้องในค่ายเดียวกัน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความอิ่มลึก และแรง impact ของเบสครับ เป็นสายที่ไม่ใช่สดหรือโปร่งบางตามชื่อ แต่กลับกันด้วยซ้ำครับ คือมันให้เสียงที่ดื่มด่ำ อิ่มลึก ความเป็นดนตรีค่อนข้างสูงมาก ด้วยความที่เป็นรุ่นพี่ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือการเก็บรายละเอียดหยุมหยิมต่างๆ ที่ทำได้เหนือขึ้นอีกเล็กน้อย คือเป็นการเก็บรายละเอียดในระดับ micro detail เลยก็ว่าได้ ผมจะอธิบายว่ารายละเอียดที่หยุมหยิมนั้นดีอย่างไร

พวก Ambient ต่างๆที่ฝังและซ่อนมาในแผ่นซีดีรวมถึงแผ่นซีดีรุ่นใหม่ๆ (HDCD,HQCD,XRCD)ที่มักจะมีความสามารถในการเก็บรายละเอียดในการบันทึกสูงมาก หากถ้าเรามีสายไฟที่สามารถเก็บรายละเอียดในส่วนที่ซ่อนไว้ในแผ่นซีดี อะไรจะเกิดขึ้น ?? เสียงนักร้องหญิงอย่าง NoRah Jones, Ayako, ถงลี่, ไช่ฉิน ฯลฯ พวกค่ายบันทึกมักจะเน้นทำมาสเตอร์กันสุดชีวิต พิถีพิถัน แต่ไม่สามารถถ่ายทอดรายละเอียดได้อย่างหมดจด หากซิสเต็มยังไม่สมบูรณ์ในทุกๆๆ จุด




สาย Silver Reference MKV นั้น เก็บรายละเอียดยิบย่อยออกมาแบบหมดเปลือก ประกอบกับการที่เข้าหัวร่วมกับหัว Wattgate รุ่น AG ทำให้รายละเอียดฝอยเล็กฝอยน้อยออกมาหมด สังเกตุจากเพลงร้องต่างๆ ของนักร้องหญิง เวลานักร้องร้องอย่างเต็มเสียงด้วยความชัดเจน สาย Silver Reference สามารถโชว์ เสียงก้องสะท้อนเล็กๆ ตามขอบของเวทีเสียงทั้ง 2 ฟาก เรียกว่าเสียงสะท้อนเหมือนจะเป็นตัวกำหนดขอบเขตและทำให้รับรู้ถึงระยะของสตูดิโอที่ใช้บันทึกกันเลยทีเดียว

อีกจุดเด่นที่เป็นจุดแข็งของ สายไฟรุ่น Silver Reference MKV คือเสียงต่ำ ปกติถ้าในซิสเต็มเดิมที่ท่านใช้อยู่ ขอให้ท่านเลือกแผ่นที่มีจุดเด่นเรื่องเบส และเป็นแทร็คที่ท่านฟังจนขึ้นใจ ติดหูและจำได้ ขอให้ท่านฟังทบทวนมันหลายๆ รอบ แล้วให้จำเสียงเบสในโน๊ตตัวต่ำตัวสุดท้ายให้ดี ว่ามันให้อิมแพ็ค และสร้างขนาดมวลเนื้อเสียงได้ระดับไหน แล้วให้ท่านถอดเปลี่ยนสายไฟเดิมที่มีอยู่ แล้วนำสาย Silver Reference MKV เสียบเข้าแทนที่ทันที ผมมั่นใจว่าท่านจะต้องเกิดอาการตกใจ...




เพราะสาย Silver Reference MKV นั้นโชว์โน๊ตเบสตัวต่ำสุดให้ท่านได้ แรงปะทะหรือสะเทือนของลูกเบสตัวต่ำ สามารถสัมผัสได้ทันที จากที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนในสายไฟเดิมๆ ในซิสเต็ม หัวโน๊ตเบสนั้นคมเกลี้ยง ท่านที่เล่นเครื่องเสียงมาเป็นเวลานานๆ ย่อมจะรู้ดีว่า การทำเสียงแหลมที่ดีนั้นไม่ยากเย็นนักในซิสเต็ม แต่การที่อยากจะได้เสียงเบสที่ลึก และเป็นเบสจริงที่ไม่บวมเบลอ เรามักจะต้องจ่ายไปกับการอัพเกรดเครื่องเป็นเรือนแสน แต่เราสามารถเติมเต็มได้กรรมวิธีง่ายกว่าก็คือการอัพเกรดสายไฟนั่นเอง

มีอีกหลายสิ่งที่น่าสนใจที่ผมนำมาแนะนำ คือสายไฟของ Black Sand Cable นั้น สามารถทำการอัพเกรดหัวปลั๊กมาเลยจากทางเว็บ Black Sand ไม่แนะนำให้มาทำกันเองในภายหลังครับ ต้องไม่ลืมว่าฝรั่งนั้นเค้ามี Know How และเป็นเจ้าแห่งศาสตร์ของเรื่องทำนองนี้ ผมได้ทดลองสั่งสาย Black Sand Violet Z1 แล้วเข้าหัวด้วย Furutech FI-28 ทั้งหัวทั้งท้าย (เฉพาะหัวท้ายราคาเท่าที่เห็นตามเว็บคือหมื่นกว่าบาท) ซึ่งผมอัพเกรดขึ้นไป สุ้มเสียงต่างๆ ดีขึ้น ความเป็นตัวตนสูงยิ่งขึ้น เงาหม่นต่างๆ ที่เคยเจอในสายไฟ stock ก็หายไปหมด




และยังมีสิ่งที่อยากจะแนะนำอีกอย่างครับ คือมีหัวปลั๊กแบรนด์ใหม่ๆ อย่าง ATL ซึ่งเป็นแบรนด์สินค้าไฮเอนด์แท้ๆ จากไต้หวัน ซึ่งคุณภาพไม่ยิ่งหย่อนกว่าแบรนด์เดิมๆ ที่เราเคยใช้กันมา เป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจอีกตัว ณ ปัจจุบัน ซึ่งผมได้ทดลองมานำใช้ในร่วมกับ Silver Reference โดย John Cook บอกว่าชุดนี้คือการอัพเกรดอย่างแท้จริง ซึ่งจากการสังเกตุด้วยตาภายนอก วัสดุไม่ว่าจะเป็นตัวปลั๊ก นั้นเนียน การหล่อ รวมถึงตัวเนื้อวัสดุเยี่ยม วัสดุตัวนำไฟฟ้า เคลือบทองหนา เงางาม

สายไฟ Silver Reference เมื่อเข้าหัวปลั๊ก ATL มันให้เสียงที่นวลเนียน อิ่มหวาน ความใสของเนื้อเสียงสูงมาก ไร้หมอกหรือม่านที่คลุมเคลือ แต่คงไว้ด้วยรายละเอียดที่เนียนในเชิงครู เบสนุ่นเนียน ในขณะที่แหลมยังหวาน ใส ท่านที่ชอบเสียงเพลงที่ออกไปทางโทนนุ่ม หวาน ปานน้ำตาลหยด คงต้องไม่พลาดที่จะทดสอบหัวปลั๊กแบรนด์ใหม่อย่าง ATL ครับ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ ในเร็วๆ นี้น่าจะมีมาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และผมจะนำเอามาเล่าถึงโดยละเอียดในโอกาสต่อไปครับ




บทสรุป สายไฟ Black Sand นั้น เป็นสายไฟที่ถูกวางตัวให้ขึ้นไปต่อกรกับสายที่แพงกว่าอีก 2-3 เท่า เป็นสายที่มีกรรมวิธีที่มากกว่าที่เราเข้าใจกันว่า สายไฟนั้นก็คือการหาสายไฟที่ดีแล้วแค่หาหัวยี่ห้อที่ดีก็จบ แต่จริงๆ มันมีทริคในการทำ และการวิธีในการจูนเสียง โดยผ่านเครื่องอิเล็คโทรนิคโดยเฉพาะของค่าย Black Sand สาย Black Sand เป็นสายที่ไม่ได้ทำการตลาดผ่านสื่อหนังสือที่ทรงอิทธิพล หรือเว็บไซด์ดังต่างประเทศ แต่เป็นที่รู้กันว่านี่คือสายที่ให้มากกว่าสายแบรนด์คอมเมอร์เชี่ยลโดยทั่วไป โดยจ่ายน้อยกว่ากันหลายเท่าตัว......

เป็นสายที่ผมมั่นใจในความเป็นดนตรี และเป็นสายที่ผมคิดว่ามันเป็นมายาแห่งเสียง เป็นสายที่ฟังแล้วน่าตื่นตะลึงกับการวางตำแหน่งชิ้นดนตรีได้อย่างน่าอัศจรรย์ การอ่านข้อเขียนหรือบทความที่ตะบี้ตะบันชมเชยสินค้า ถือเป็นเรื่องที่พบเห็นกันโดยทั่วไป แต่กับสายไฟเสียงระดับไฮเอนด์อย่างเจ้า Black Sand Cable หรือ เจ้าทรายนิลกาฬ นั้นมีให้ท่านทดสอบและทดลองสุ้มเสียงกันแล้วที่ร้าน Hifilover ณ บัดนี้เป็นต้นไปเราจะมาพิสูจน์กันว่าสิ่งที่ผมเขียนหรือกล่าวถึงนั้นจะจริงเท็จเพียงไร.....




!!อย่าเชื่อในบทความหรือสิ่งที่ท่านอ่าน จนกว่าท่านจะพิสูจน์มันด้วยหูและวัดคุณค่ามันด้วยประสบการณ์ของท่านเอง!!

สนใจทดสอบ หรือติดต่อสอบถามรายละเอียด ขอเชิญได้ที่ร้าน Hifilover.com พันทิพย์ประตูน้ำ ติดต่อคุณหมูหวาน 086-8107374 ได้ทุกวันครับ






ขอได้รับความขอบคุณ

นายมั่นคง

.........










ความคิดเห็นที่ : 1

Acidstudio

02/08/2010 19:55:46
0
หุหุ เย็นไว้ๆๆๆ หุหุ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

ทัตเทพ บุณอำนวยสุข

02/08/2010 20:31:22
125
นี่ชุดของเฮียมั่นคงเ็ต็ม ๆ เลยเหรอครับนี่......อุแม่เจ้า!!!!!!
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

JJ22

02/08/2010 22:51:59
ฮี่ๆๆ น้ำลายหกอีกแล้ว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

Close_Up

02/08/2010 23:13:55
0
เอาไปต่อคอม,TVได้เปล่าหว่า ปลั๊กที่บ้านหายากอยู่พอดี 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

ชนสวัสดิ์

03/08/2010 00:12:28
ยืมไปลองฟังซักเดือนก่อนได้ไหมครับ ช่ืวงนี้กรอบ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

นายมั่นคง

03/08/2010 00:30:34
4,294
ใครสนใจโทรถามคุณหมูหวานได้เลยครับ จะทดสอบ ทดลองกันอีท่าไหน แบบไหน โทรไปคุยได้เลยครับ สายไฟพวกนี้จะว่าไปแล้ว มันไม่ใช่ของจำเป็นอันดับต้นๆ ล่ะครับ แต่เป็นของสำหรับการอัพเกรดในคนที่อุปกรณ์หลักมันลงตัวแล้วล่ะครับ

ราคามันอาจจะไม่เป็นมิตรกับกระเป๋านัก แต่ถ้าเป็นเล่นเครื่องเสียงเข้าเลือดก็คงต้องอาศัยความหน้ามืดเข้าช่วยล่ะ ผมเองก็แอบจัดกับหมูหวานไปสองเส้นล่ะครับ เล่นเอาตัวเบากระเป๋าเบาเลยครับ


นี่ยังกลัวว่าเมียจะเอาเจ้า Black Sand ผมไปทำสายพ่วงเสียบเตารีดไว้รีดเสื้ออยู่ล่ะครับ

555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

The แพะ

03/08/2010 00:47:58
39
เอาล่ะซิ ผมเริ่มกิเลสพุ่งอีกครั้ง 5555555...แบะๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

iountuinui

03/08/2010 08:51:04
0
ใช้ไม่เป็นฮ่ะ แต่ชอบตรงที่สี ม่วงย์ๆ นี้แหละฮ่ะ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

Papoom

03/08/2010 21:36:40
0
ชุดเฮียเทพจริงๆ Mono Block ซะด้วย อิจฉาๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

นายมั่นคง

03/08/2010 21:41:04
4,294
555 วันนี้ดีใจจนน้ำตาไหลเลยครับ เห็นหมูหวานขาย Black Sand Viloet เมื่อตอนช่วงเย็นๆๆ ไปเส้นนึง 555

เอ้า ใครข้องใจ โทรถามคุณหมูหวานได้เน้อ 55
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

www.lacostelike.com

05/10/2010 09:13:13
LRH2010-10-5Lacoste Shoes Online has releases her new shoes for this season. For a long time, I didn’t notice shoes. But this time, I began to fall in love with Lacoste shoes. This time their Lacoste Shoes Sale are full of innovation and comfort.I love shoes with new designs. Shoes must be comfortable. I think Mens Laocste Shoes are the must-have points for choosing a pair of good shoes. When I was wandering on the internet, the Mens Lacoste Shoes attract me deeply. The shoes have leather upper with textured rubber outsole. On the shoes upper, there is large embroidered logo, whose color is the same with upper – white. The most outstanding place of the Lacoste shoes is the Cheap Lacoste Shoes. I saw too many shoes with shoelace closure.Though I love Lacoste shoes . If you are interested in flattie, Lacoste Shoes may be suitable for you. Flats are easy choice for every day. The flats have soft leather upper with textured rubber outsole. The soft upper are protective for your foot while the textured rubber outsole is to avoid slipping. There is an Lacoste logo on the shoe surface.Though I love Lacoste Carnaby Shoes.
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

ทัตเทพ บุณอำนวยสุข

05/10/2010 18:34:52
125
แสปมบุกอีกแล้วจ้า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

09/07/2015 07:08:43
ความคิดเห็นที่ : 14

09/07/2015 07:08:44
ความคิดเห็นที่ : 15

09/07/2015 07:08:45
"รีวิวสายไฟ BlackSand Cable เจ้าทรายนิลกาฬ...."