น่าจะเป็นเพราะช่องทาง USB ส่งผ่านสัญญาณได้ไม่ดีเท่ากับ optic หรือ coax ครับ ก็เลยไม่มีคนพัฒนาเจ้าสายที่ว่า เพราะทำแล้วก็กลัวคนจะไม่เลือกใช้แบบ USB

แต่ตอนนี้คุณชูโอมารูทำออกมาแล้วครับ อยู่ที่ผมเส้นนึง ผมยังไม่ได้ทดสอบเลย เรียกว่าลืมทุกที แต่เดี๋ยวจะจัดเอามาให้ดูครับว่าหน้าตาเป็นไงจ้า 555

ง่า.. ตอนนี้ผมใช้ wireworld ultraviolet usb มาพักใหญ่ๆแล้วครับ

กลับไปหาสาย usb บ้านๆไม่ได้แล้ว ฮือๆ

คุณ Noize หาซื้อที่ไหมครับ

สั่งจากเจ้านี้จ้า นัท

http://forums.overclockzone.com/forums/showthread.php?t=820975

ใช้สอบถามราคาทาง pm ก่อน เค้าจะเช็คตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันให้

ตอนที่จัดมา ราคาอยู่ที่ 2k กว่าๆครับ

เดี๋ยวเร็วๆนี้ USB 2.0 ก็จะกลายเป็น 3.0 แล้วน่ะครับ เร็วกว่าแบบพันๆเท่าเลย ถึงตรงนั้นก็คงใกล้เคียง optical เข้าไปทุกทีแล้วอ่ะนะ

ซ้ายมือคือ 2.0 ขวามือ(สีฟ้า) คือ 3.0 และคงมีหัวหลายแบบให้เลือกใช้เหมือนเคย

USB 2.0 นั้นความเร็ว 480 เมกกะบิตต่อวินาที แต่ USB 3.0 อาศัยความลึกที่มากกว่า และเพิ่มสายสัญญาณไว้ภายในอีกจำนวน 5 เส้นทำให้สายของ USB 3.0 มีสายสัญญาณรวมกันเป็น 9 เส้น รีดความเร็วสูงสุดถึง 4.7 กิกะบิตต่อวินาที หรือเฉียดๆ สิบเท่าตัวจาก USB 2.0 เลยครับ

นี่เลยๆๆๆ ถ่ายให้ดูก่อนเลยครับว่ามีสาย USB ที่ผมแล้ว 555

แต่เดี๋ยวจะลองแล้วมาบอกครับ อันนี้เป็นงานของคุณชูโอมารูครับ เค้าฝากมาให้ผมลองดู ชอบใจสามารถบอกคุณชูโอจัดให้ได้ครับ

เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังเน้อ 555

usb พัฒนาเป็น 3.0 ก็เท่านั้น
ใช้กับพวก dac ก็ยังวิ่งด้วย usb 1.0 อยู่ดี

วันนี้ผมได้สาย ixos มือสองมาจากเว็บนี้แหละ คืนนี้ว่าจะลองซะหน่อย
แล้วเคยมีใครลองต่อสายดีๆ จากช่วงฮาร์ดดิสไปเข้าคอมพ์ดูมั๊ยครับ ว่ามีผลกับเสียงรึป่าว...

555... ผมปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อเลยครับ เย็นนี้ผมตั้งใจจะลองต่อสาย USB ที่ฮาร์ดดิสดู แล้วเพิ่งจะรู้ว่าขั้วต่อมันเป็นคนละชนิดกัน 555.. หน้าแตกกก...ครับ

แต่อย่างน้อยวันนี้ผมก็ได้ความรู้มาอีกหน่อยล่ะครับ ว่าสาย USB มันก็เหมือนกับสาย digital ประเภทอื่นๆครับ คือเหมือนตรงที่สาย USB แต่ละยี่ห้อก็ให้เสียงที่ไม่เหมือนกันเช่นกันครับ
ตอนนี้ผมมีสาย USB อยู่ 3 เส้นคือ สายแถม สาย Monster และก้อสาย IXOS
สายแถมตอนนี้ฟังออกชัดเจนครับว่ามันทำเสียง drop ไปพอสมควรครับ ฟังออกไม่ยากครับ ส่วนสายที่เหลืออีก 2 เส้นเสียงก็ต่างกันครับ เท่าที่พอจะจับได้ตอนนี้ก็คือ สาย IXOS มันจะให้เสียงที่เนียนกว่าครับ จังหวะดนตรีดีกว่า มีช่องไฟของดนตรี โดยเฉพาะเสียงของดับเบิ้ลเบสแยกเป็นตัวๆดีกว่าครับ ส่วนอิมแพ็คใกล้เคียงกันครับ
ที่โม้มาซะเยอะแยะก็ไม่ใช่อะไรครับ คือผมเห็นว่าปัจจุบันนี้มีคนที่ใช้โปรแกรมจากคอมพ์ต่อผ่าน Dac กำลังเป็นที่นิยมครับ สายเชื่อมส่วนใหญ่(หรือมีแต่ผมหว่า..)ก็น่าจะเป็นสาย USB ครับ เลยอยากจะให้มีสาย USB ออกมาให้เลือกเล่นมากๆหน่อยครับ นี่ขนาดผมลองเล่นสายระดับพันกว่าบาท ก็ยังสามารถเพิ่มคุณภาพของเสียงได้ในระดับนึง เลยอยากจะลองเล่นสายที่มีคุณภาพมากกว่านี้ (แต่ราคาไม่โหดนัก) ดูบ้างน่ะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่านนะครับ 555..

ได้รู้เพิ่มว่าสาย USB มันให้เสียงที่ไม่เหมือนกัน คงต้องลองหามาup gradeบ้าง

เอ่อ เเต่อาจารย์ที่วิศวะจุฬา ไม่ขอเอ่ยนามครับ

เค้าบอกว่า สายดิจิตอล ไม่นับ Coax แและ Analog

ไม่มีทางที่จะทำให้เสียงดีขึ้น จะทำได้ก็ให้ QC ดีขึ้นเท่านั้น

เพราะเสียงที่ได้ สายดิจิตอลจะเชค error เสมอ

อันนี้ลองหาอ่านดูที่ห้องหว้ากอเท่านั้น

ผมก็เข้าใจครับว่า เงินใครความสุขใคร ใครก็ซื้อ เเต่มาเเชร์ข้อมูลสำหรับบางคนที่เงิไม่ถึง เเล้วจะลงทุน ให้คิดดูดีๆ เอาเงินไปสมทบทุนแอมป์ดีกว่า

ขนาดที่วา สถาบันวิทยาศาสตร์อเมริกา ตั้งเงินรางวัล 30 ล้านดอลล่าให้คนไปเทส ยังไม่มีใครไปเทสกันเลย

เน้นว่าสายดิจิตอลนะครับ สายอนาลอคกับออพิค มไ่เกี่ยว

นั่นป็นข้อมูลที่ผมได้มานะครับ

ไม่ต้องมาทะเลาะกันนะ เอาเป้นว่า ลองเป็นฐานข้อมูล ให้ไปลองหาต่อกันเอาเองละกันครับ

เเต่ถ้าการส่งสัญญาณผ่าน USB มันมีการเสียของไฟล์จริงๆ พวกงานที่เราพิม เเล้วเซฟไฟล์ใส่ ก็คงมีปัญหาไม่น้อยล่ะครับ - -"

เเต่usb หัวทอง สามารถทำให้การส่งไฟล์เร็วขึ้นจริงๆนะครับ

เเต่เเค่ความเร็วในารส่ง เร็วขึ้นในระดับมิลลิวินาทีนะครับ ไม่ใช่ว่าเสียงดีขึ้นเเต่อย่างใด เเละที่เร็วขึ้นก็พร้อมกันหมดนะครับ ไม่ใช่ เสียงเบสเร็วขึ้น เสียงกลางช้ากว่าอะไรเเบบนั้น

สาย USB ที่ต่อ HDD มันจะเป็นแบบ A - Mini B ครับคุณกวี

ที่มีขายแบบดีๆ สั้นสุดก็ 50 ซม.ราคาก็ 2K ขึ้นไปแล้ว 555


ผมก็มีอยู่เส้นนึง แต่ยาว 1 เมตร เตรียมไว้ใช้กับ USB - S/PDIF Converter

สงสัยต้องลองต่อ HDD ดูเล่นๆ ว่ารู้สึกต่างจากเดิมรึปล่าว หิหิ..

เรื่อง jitter กับเรื่องข้อมูลไฟล์ผิดพลาด ...คนละเรื่องกันนะครับ

ผมเห็นร้านหมูหวานเคยเอา kimber usb มาขายนะ แต่รู้สึกหมดแล้วครับ

ไอ USB3.0 เนี้ย ผมได้ข่าวมาสองปีแล้วนะ ยังไม่เริ่มใช้กันสักที - -*

usb 3.0 ใช้กันเเล้วนะครับ เมนบอดรุ่นใหม่ๆปีนี้ก็มีพอตมาให้ข้างหลังกันเเล้ว

เมื่อวานผมยังเกือบหน้ามืด สั่งสาย USB มาเล่นเลย แต่ขอรอดูก่อนดีกว่าแฮะ....แบะๆๆ

วันนี้ผมรู้สึกไม่สบายใจที่กระทู้ของผมทำให้เกิดการโต้แย้งกันน่ะครับ คืนนี้ผมเลยต้องมานั่งฟังสาย USB ใหม่ว่าสิ่งที่ผมเขียนไปนั้นจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด พาคนไปเสียตังค์ฟรีหรือป่าว
ก็เลยขอยืนยันสิ่งที่ผมเขียนไปนั้นก็ยังเป็นไปตามนั้นแหละครับ แต่ถ้าจะถามหาหลักฐานทางเทคนิก ผมก็ขอบอกอย่างไม่อายเลยครับว่า ผมไม่รู้ครับ
การเล่นเครื่องเสียงนี่บางทีมันก็แปลกครับ ของบางอย่างไม่สามารถอธิบายได้น่ะครับ เมื่อก่อนผมเคยชอบก็อบแผ่นออดิโอไฟล์จากเพื่อนมาฟังครับ ตอนแรกก็ใช้แผ่น Princo ธรรมดานี่แหละครับ ตอนหลังหันมาใช้แผ่น Pistek เกรดออดิโอครับ แล้วถ้าผมบอกว่าทั้งสองแผ่นนี้เสียงไม่เหมือนกัน จะมีคนเชื่อไหมครับ เพราะถ้าเราเอาแผ่นสองยี่ห้อนี้ไปก็อบโปรแกรมคอมพ์อื่นๆก็ได้เหมือนกัน 555...
เดี๋ยวผมจะไปถ่ายรูปห้องฟังเพลงของผมให้ดูครับ แล้วจะเล่าเรื่องแปลกๆให้ฟังครับ ซึ่งยิ่งไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เข้าไปใหญ่ รับรองว่าพรุ่งนี้ต้องมีคนด่าผมกระจาย 5555.....

ห้องฟังเพลงของผมมีขนาด 3.6*3.8 เมตรครับ เป็นขนาดห้องที่ไม่น่าจะฟังเพลงได้ดีครับ มีแสตนดิ้งเวฟมาก เสียงเบสบวมก้องไปหมด อิมเมจ ซาวด์สเตจยิ่งไม่ต้องพูดถึงครับ หาไม่เจอ เมื่อก่อนผมก็ใช้แผงดิฟฟิวส์เซอร์เข้ามาช่วย(ไอ้แผงนี่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์แน่) แต่ก็ไม่ได้เรื่องครับ
ตอนหลังผมมาใช้ของไร้เหตุผลพวกนี้ครับ

ถ้าผมจะบอกว่าไอ้ของพวกนี้ใช้แล้วเสียงดีกว่าเจ้าพวกแผงดิฟฟิวส์เซอร์ใหญ่ๆ เป็นไงครับ ไร้เหตุผลดีมั๊ย อ่านแล้วน่าโมโหคนเขียนมั๊ยครับ 55555.....

เรื่องหาเหตุผลมาโต้แย้งเป็นเรื่องปกติแหละครับ คุณกวี
แค่ไม่มาแขวะ มาว่าด่าทอ หากความเห็นไม่ตรงกัน มันก็คุยกันต่อไปได้

เรื่องการโอนถ่ายข้อมูลที่ครบถ้วน แต่มีความเพี้ยนในบางตำแหน่งของข้อมูล
มันก็เป็นวิทยาศาสตร์ที่มีคำอธิบายครบถ้วนครับ แต่ค่อนข้างละเอียดซับซ้อน
พรุ่งนี้จะพยายามหาข้อมูลอ้างอิงมาประกอบ เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้รับทราบกันครับ หิหิ..

ขอบคุณครับคุณ Noize

พอดีนึกขึ้นมาได้ว่าเคยเข้าไปอ่านที่นี่ มีอ้างอิงถึงที่มาของข้อมูลพร้อมครับ

http://www.taf.in.th/forum/index.php?topic=11042.0

อันนี้ก็อีกลิ้งค์นึง ลิ้งย่อยข้างในอีกเพียบบบบ.. หิหิ

http://www.htg2.net/index.php?topic=9294.0;prev_next=prev

1. สาย USB มี noise, Jitter หรือจะทำให้เกิด Latency ใหม

มี

2. แต่ทำให้เสียง "ดี"ขึ้น dynamic ดีขึ้น หวานขึ้น bass แรงขึ้น หรือ sound stage ดีกว่าเดิมสุดๆ ใหม ?

ไม่

เพราะอะไรถึงเป็นเช่นนี้ อยากให้ทุกท่านลองหาคำตอบด้วยตัวเองครับ

สำหรับคนเล่นเครื่องเสียงแล้วผมว่าบางทีการได้ทดลองทดสอบด้วยตัวเองอาจจะได้ผลแตกต่างจากเหตุผลทางเทคนิกครับ ผมอยากจะยกตัวอย่างเก่าๆเช่นสายไฟออดิโอเกรดให้ฟังกันครับ
เมื่อสักสิบปีที่แล้วหากมีใครซักคนมาบอกเราว่าถ้าหากเราเปลี่ยนสายไฟที่ท้ายเครื่องเสียงแล้วเสียงจะเปลี่ยนไปเราก็คงหาว่าไอ้นี่มันมันบ้าไปแล้ว อ.วิศวะจุฬาคนนั้นคงต้องร้อง อกอีแป้นแตก...
ในตอนนั้นข้อมูลทางเทคนิกต่างๆเกี่ยวกับสายไฟก็คงมีน้อยแหละครับ เหมือนกับไอ้สาย USB ตอนนี้นี่แหละครับ แถมเครื่องเสียงในยุคนั้นก็ไม่ได้ทำมาให้เราเปลี่ยนได้ซะด้วย แต่กาลเวลาผ่านมาถึงตอนนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นเรื่องจริง แล้วเครื่องเสียงสมัยนี้ก็ทำมาให้เปลี่ยนสายไฟได้กันทั้งนั้นครับ
คนทีสอนให้ผมเล่นสายไฟคนแรกก็คือเฮียมั่นครับ ตอนนั้นเฮียมั่นได้แนะนำให้ผมซื้อสายไฟ SUPRA เส้นละพันกว่าบาทมาใช้กับแอมป์ HEF188 ครับโชคดีที่แอมป์ HEF เป็นเครื่องยุคใหม่เปลี่ยนสายไฟได้ ผมก็ซื้อมาโดยที่ผมไม่ได้คิดว่าผมจะฟังออกครับ แต่รู้ไหมครับว่าสายไฟเส้นหลังสุดที่ผมใช้ราคา 20k กว่าๆครับ(แต่ผมเอามาใช้กับเครื่องเสียงบ้านนะครับ)
ส่วนไอ้สาย USB นี่ยิ่งง่ายใหญ่เพราะว่าเวลาใช้ก็ไม่ต้องเอาเครื่องไปเจาะท้ายเหมือนการเปลี่ยนสายไฟในยุคนั้น เสียบปุ๊บถ้าฟังแล้วเสียงไม่เห็นเปลี่ยนก็ถอดออก ตัวเครื่องก็ไม่ได้เสียหายอะไรครับ เสียตังค์อย่างเดียวครับ
แต่ถ้าไม่อยากเสียตังค์เยอะก็ไม่ยากครับ เราก็มารวมกลุ่มกัน เอาสักสิบคน ออกตังค์กันคนละร้อย ซื้อสายเส้นละพันมาลองดู ถ้าเราสิบคน ยี่สิบหู ฟังแล้วไม่มีใครซักคนหรือหูซักข้างฟังความแตกต่างออก สายเส้นนั้นก็ไม่ต้องทิ้งครับ เอามาขายผมได้ครับ 555...

น่าลองแฮะ

1. สาย USB มี noise, Jitter หรือจะทำให้เกิด Latency ใหม : มี
-------------------------------------------------------------------------------
อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับมันทุกชิ้นมันก็มีผลทั้งนั้นแหละ จะมากจะน้อยก็ลองเลือกใช้เลือกเล่น
เอาในจุดที่มันเปลี่ยนได้สะดวก ไม่ต้องไปรื้อปริ๊นท์มาเปลี่ยนชิ้นส่วนรึตะกั่วบัดกรีใหม่

2. แต่ทำให้เสียง "ดี"ขึ้น dynamic ดีขึ้น หวานขึ้น bass แรงขึ้น หรือ sound stage ดีกว่าเดิมสุดๆ ใหม ? : ไม่
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ใช่ครับ ไม่มีใครเค้ามาเปลี่ยนแค่สาย USB เพื่อให้ได้สิ่งที่ยกมาทั้งหมดนั่นหรอก
การเลือกใช้การแมทช์อุปกรณ์หลักๆทั้งหลายต่างหากที่ทำให้ได้สิ่งเหล่านั้นมาอย่างชัดเจน

ทีนี้เมื่อคนเล่น อัพอุปกรณ์กันจนไม่รู้จะอัพอะไรเพิ่มแล้ว ก็มาเล่นพวกสายไฟ กรองไฟ
สาย USB ยันของประหลาดๆอย่างที่คุณกวีติดอยู่ที่ผนัง แล้วมันยังมีอีกเยอะแยะ
พวกแท่งไม้มหัศจรรย์ ก้อนอิฐประหลาด ไว้วางบนแอมป์ บนลำโพง ขารองสายไฟสายสัญญาณ

ของพวกนี้มีผลน้อยมาก แต่ละอย่างอาจจะทำให้ได้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นซักครึ่งเปอร์เซนต์
แต่จ่ายเงินเพิ่มอีกพอๆหรือมากกว่ากับอุปกรณ์หลักบางชิ้นเสียอีก แต่ผลที่ออกมามันก็ให้
ความพึงพอใจกับผู้เล่นที่นิยมเล่นแบบไขว่คว้าหาสิ่งที่ดีหรือคิดว่าดีเพิ่มไปเรื่อยๆแหละครับ

ทีนี้ก็อยู่ที่ความพอใจที่จะจ่ายของคุณๆหละครับ ว่าแค่ไหนถึงคิดว่าจะพอ หิหิ..

2 ไม่ได้หมายความ ว่าทุกอย่างที่ยกมา แต่ไม่ได้ซักอย่างที่ยกมาต่างหาก

555 นั่นแหละครับ จะซักครึ่งอย่างของคำที่ผมว่าทุกอย่าง(หมายถึงแต่ละอย่าง จะงงมั๊ย)ก็ไม่แหละ

อ่านที่ผมโพสท์แล้วพอจับใจความได้บ้างมั๊ยหละครับ ว่าส่วนนี้หนะ มันนี๊ดดดดเดียวจริงๆ




อยากให้อ่านบรรทัดสุดท้ายชัดๆด้วยครับ 555

สำหรับผมซึ่งถ้าจะให้อธิบายเหตุผลทางเทคนิคทางไฟฟ้าก็คงต้องยอมครับ เพราะมีความรู้เรื่องพวกนี้น้อยมากๆครับ ขนาดเรื่องง่ายๆเช่น ที่บ้านเวลาจะเปลี่ยนขาหลอดไฟผมยังต้องตามช่างมาทำเลยครับ กลัวไฟดูด 555..
แต่ถ้าผลของสาย USB ที่มีต่อเสียงนี่ผมขอยืนยันเลยครับ เสียงเปลี่ยนแน่ๆครับ แล้วก็ไม่ใช่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ครึ่งเปอร์เซ็นต์อะไรหรอกครับ เอาแค่ตอนฟังเพลงจีนของถงลี่ตอนขึ้นเพลงก็ต่างกันมากแล้วครับ เสียงของกีตาร์เวลาฟังกับสายแถม มันก็เป็นกีตาร์นี่แหละครับ ไม่ได้กลายเป็นกลองชุดแน่นอน แต่มันต่างกันตรงที่เสียงกีตาร์จากสายแถมมันไม่มีพลังครับ เสียงจากสาย Monster มันเหมือนกับเขาตั้งใจดีดมากขึ้น มีพลังครับ มีอิมแพคครับ ไอ้เสียงเครื่องดนตรีอื่นๆเวลาเล่นใกล้ๆมันก็ชัดกว่า ไอ้ที่ไกลๆมันก็ไกลกว่าครับ เสียงร้องก็ไม่เหมือนครับ ผมยืนยันครับ เสียงจากสายแถมมัน drop ลงไปอย่างชัดเจนครับ แต่เสียงที่ได้จาก Monster ก็ไม่ใช่ว่าจะดีนะครับ มันยังหยาบและสากไปหน่อย แต่ก็ดีกว่าสายแถมอยู่ดีครับ
ผมว่าเราอย่ามาถกเถียงกันในเรื่องเหล่านี้เลยครับ เอาเป็นว่าใครเชื่อครูบาอาจารย์ก็อย่าไปเล่นมันเลยครับ เดี๋ยวครูจะดุเอาว่าให้คนมาต้มเราง่ายๆ ทั้งๆที่ตอนบริษัททำสายเคเบิ้ลตอนเขาวิจัยอยู่คุณครูได้ไปดูรึกับเขาเปล่าก็ไม่รู้ แต่ไอ้ผมตอนเป็นเด็กนักเรียนผมมันเป็นพวกชอบไว้ผมยาว ใส่กางเกงสั้น แล้วก็ชอบแอบไปดูดบุหรี่ในห้องน้ำครับ.....อ้อ แอบเอาเหล้าไปกินตอนปัจฉิมนิเทศน์ ม.6 ด้วยครับ 55555....

หิหิ.. เรื่องเปอร์เซนต์ผมก็เปรียบเปรยไปหนะ คุณกวี

แต่สำหรับคนเล่นเครื่องเสียงจริงๆจังๆนี่ (หมายถึงมีระบบที่ดี เข้าที่เข้าทางอยู่แล้วนะ)

การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กๆน้อยๆ ก็สามารถจับได้ง่ายๆ แล้วยิ่งถ้าเป็นเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

มันคือความสุขซะเหลือเกิน มันอดที่จะปลื้มใจที่ได้จ่ายเงินเพิ่มไป ไม่ได้ซะจริงๆ 555


ปล.ตอนเป็นเด็กวัยรุ่นผมค่อนข้างจะเป็นเด็กเรียน(เร็ว)ครับ นั่งหน้าห้อง ทำการบ้านเสร็จ

ตั้งแต่ยังไม่กลับบ้าน มีเวลาไปเล่นดนตรี ไปแอบดูดบุหรี่กับเพื่อนๆได้ตลอด 555

อืม... จะเป็นอะไรก็ตามที่ว่าด้วยเรื่องของเสียง สิ่งที่มีผลมากที่สุดก็คือ... ครับใช่ หูของผู้ฟัง นั่นล่ะครับ ไปละเดี๋ยวซวย...

ผมว่า มันก็ขึ้นอยู่กับหูคนนั่นเเหละ

เเต่จะว่าไปก็จริง

เพราะการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่รองรับว่า เสียงเปลี่ยนไป มันไม่มีเลยน่ะสิ

อันที่จริง ไฟล์ ดิจิตอล เเละการส่งสัญญาณดิจิตอล เราก็รู้กันอยู่ว่า

มันไม่มีการสูญเสียข้อมูลเลย

ลองดูที่ดเค้าทดลองกันหน้าสองถึงสามนะ

http://forums.overclockzone.com/forums/showthread.php?t=900184

จะไปไล่ไปถามอาจารย์ก็ไม่ได้หรอก เพราะของเเบบนี้ มันไม่ใช่เทคโนโลยีขั้นสูงของโลกอะไขนาดนั้น ตามทฤษฎี มันไม่มีทางเปลี่ยน

ถ้าหูคุณบอกว่าเปลี่ยน เเละไม่เดือดร้อนใคร ก็จัด ตาบายครับ

เเต่ทีนี้ ก็พูดเอาไว้ เผื่อบางคน ที่งบน้อยๆ

ว่าให้มองวิทยาศาสตร์บ้างก็ดี อย่าปล่อยให้จิตปรุงเเต่งมากจนเกินไป มันก็ดีนะ สำหรับคนที่มีปัจจัยพร้อม อย่างน้อยมันก็ได้ความสุข ผมมองเเบบนี้นะ

ใน Head fi ก็มีคนพิสูจมาเเล้ว สายเส้นละ 90k ทำ Blind Test ปรากฎ่าไม่รอดเช่นกัน

คนเเรก ทายถูก 12 ครั้ง ใน 20

คนที่สอง 8 จาก 20 ไมมีนียสำคัญทางสถิติ

สรุปว่า ใครมีปัจจัย เล่นเเล้วมีวามสุขก็เล่นไปเถิด . . .

แต่คนที่งบจำกัด ก็ลองไปหานิยามของคำว่า ดิจิตอล ดูละกัน ว่ามันมีการสูญเสียข้อมูลตรงไหน (คำตอบคือไม่มี)

ถ้ามันมีรายละเอียดของการส่งสัญญาณหายไปได้จริง (โดยเฉพาะ การไปขนาดหูมนุษย์ฟังได้ล่ะก็) การสั่งปริ้นงานรูป หรือไฟล์เเต่ละครั้ง ตัวหนังสือคงเพี้ยนไปหมดเเน่ๆ

หรือการกอปเพลงลง USB เเต่ละครั้ง ถ้ามีการสูญเสียจริง ไฟล์ต้องไม่เหมือนต้นฉบับเเน่ๆ (ขนาดต่อตรง คุณยังบอกว่ามันมีการรับสัญญาณที่ต่างกันเลย)

ทั้งหมดที่พูดมา หมายถึง สายดิจิตอล เช่น usb เท่านั้น สายอนาลอค เเละพวกเเอมป์ มันมีผลเเน่ๆอยู่เเล้ว

เเละสังเกต เวลาถามคนที่เล่นเเล้วบอกว่าเสียงเปลี่ยนว่าเปลี่ยนได้ยังงัย จะบอกกันว่า

ผมไม่รู้ ผมรู้เเต่ หูผม(เเละจิตผม) ฟังเเล้วมันบอกว่าเปลี่ยน

ทั้งๆที่เอาจริงๆ หูเละจิตของมนุษย์ มันหยาบกว่าเครื่องมือทีนักวิททดลองนัก

******* เเต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ อย่างที่บอก ทำไปเเล้วมีความสุขก็ทำเถอะ ที่มาพูดขอไว้หน่อย เผื่อหลายๆคนที่งบจำกัด เเละกลัวจะเสียตังไปซะ เอาตังไอับเเอมดีกว่า *******

ส่วนตัวก็ใช้สาย kimber ที่ตัวละ 7000 อยู่ เพราะว่ามันทนทาน เเละหน้าตาเวลาต่อสายมันงาม ไม่น่าเกลียดเหมือนสายไฟ นั่นเเหละ เหตุผลของผม

ลองจับเพ่ือนที่ว่าหูเทพมาทำเส ก็ยังไม่รอดซักคน (มีคนนึงมันทำได้ 15/20 เเต่เเค่คนเดียว ครั้งเดียว เเล้วไม่มีอีกเลย)

555...โอเคครับ ไม่มีผลก็ไม่มีผลครับงั้นก็ตกลงตามนี้ก็แล้วกันครับ จะได้ไม่ต้องซีเรียสกันไปใหญ่ครับ
ผมเองก็จะได้ไม่ต้องมาลุ้นเสียว ว่าจะโดนอะไรต่อครับ แหมขนาดคอนเฟิริ์มว่าสายเส้นละ 7000 เทวดายังฟังกันไม่ออก (อันนี้ผมไม่ได้สงสัยสายหรอกครับ แต่ผมสงสัยว่าเทวาดามากกว่า) แล้วตอนซื้อที่ร้านเขาไม่ให้เราลองก่อนหรือครับ หรือว่าลองแล้วฟังไม่รู้เรื่อง แต่ก็ซื้อเพราะมันสวยดี!!!! จริงๆแล้วผมว่าวันหลังลองไปเดินแถวบ้านหม้อดูแล้วหาหนังงูลายสวยๆมาหุ็มสาย USB ที่แถมมากับเครื่องก็ได้ครับ ประหยัดตังค์กว่าตั้งเยอะ 5555555.........

เอ้า.. งั้นจะว่าไงก็ตามใจก็แล้วกันหละครับ

ไอ้เรามันหูคนเดินดินกินข้าวแกงซะด้วยสิ 555

คุณ Noize ครับบังเอิญผมไปเสิรช์เจอมนุษย์ต่างดาวมันกำลังหลอกต้มมนุษย์บนดาวดวงนั้นอยู่ครับ ผมเลยรีบเอามารายงานให้คุณNoize กับท่านเทวดาได้รับทราบครับพ้ม!!!
http://www.taf.in.th/forum/index.php?topic=13377.0

เอ้อ จะเถียงกันไปเพื่ออะไรครับ

วงการนี้มันก็หลอกลวงปนๆกับของจริงนั่นเเหละ มันอยู่ที่ความสุขส่วนตัว

ความเห็นผม ในฐานะที่อยู่ทั้งวงการเคร่งเสียงเเละวงการวิทยาศาสตร์ ก็คือ ผมไม่เชื่อทั้งสองอย่าง เพราะผมเองก็ยังไม่ได้ลอง

เเต่อีกฝ่ายที่บอกว่าเสียงเปลี่ยนเนี่ย มีหลักฐานที่มัชัดเจนมั้ยครับ

ถึงคุณกวี ผมเองก็อยากรู้ ว่ามันทำให้เสียงเปลี่ยนด้วยกลไกอะไร มาประชดกันเเบบนี้ มันก็ไม่ทำให้คนเชื่อมากขึ้นหรอกครับ ผมอ่านไปเเล้วคิดตาม มันก็จริงตามอีกฝ่ายว่า มีเหตุเเละผลดี ึงคำพูดจะค้านกับความเห็นของหลายๆคนก็เถอะ

ที่ถามเเบบนี้เพราะเห็นอีกฝ่ายเค้ามีหลักฐานมายืนยันระดับนึง เเละมันก็จริงซะด้วย เวลาถามว่า เสียงทำไมเปลี่ยน

คนมักตอบว่า ไม่รู้ ก็หูอั๊วะ ฟังเเล้วมันเปลี่ยน . . .

ผมก็เเอบถูกใจคนนี้นะ เออ มันก็จริง เเล้วบางนที่มีปัจจัยจำกัด จะเอาเงิน5000หรือบางทีหลักหมื่นมาลงทุนเพราะหูของคนอื่น มันก็ดูไม่มีเหตุผลไปหน่อยเหมือนกันนะครับ

***ไว้ว่างๆ ผมจะลองเขียนไปถามพวกผู้ผลิตดูเลยดีกว่าวันจันทร์น่าจะได้คำตอบที่เป็นวิชาการมาบอกกล่าวกัน***

เเต่ก็เคยได้ยินมาครับ ว่าสาย USB เเละสายดิจิตอลไม่มีผลจริงๆ เเต่จริงแท้เเค่ไหนไม่ทราบได้ เพราะขนาดว่าที่คุณไก่เอามาโพสน่ะ

ที่สถาบันวิทของอเมริกา ส่ง จม เชิญ พวก บกนิตยสารWhatHifi ไปทำ Blind test รางวัล 30 ล้าน เหรียญ โดยใช้สายบ้านๆ กับสายเทพราคา7-8หมื่น (ลองไปถามคุณไก่ดู เห็นเเว่บๆ)

ก็ยังไม่มีใครยอมไป

มันก็น่าคิด ที่ว่า ถ้ามนจริง เงินรางวัล พอๆกะขายหนังสือได้ 3 ปีเลยทีเดียว ทำไมไม่ไป . . .

เดวผมจะลองส่ง จม ไปถามหลักการทางวิทย์ดูนะ มาประชดกันไปมา ไม่ช่วยอะไรครับ ผมเองก็อยากรู้ ว่าสายดิจิตอล มันเปลี่ยนได้ยังงัย

ไม่น่าเกินวันอังคาร (ถ้าทางนู้นเค้าคิดจะตอบนะครับ) ก็คงจะได้คำตอบ

จะได้เลิกเถียงกันซะที ในหลายๆเวปก็ประเด็นเดิมๆ น่ะ

สุดท้าย ขอถามหน่อย เวปนี้มันเเก้ไขข้อความที่เขียนไปเเล้วไม่ได้หรอ ปกติอยู่ TAF กับ OCZ ผมมาโพสในกระทู้พี่คณิต น้องมิน จะเเก้เเล้วเเก้ไม่ได้ ฝากตัวสำหรับเวปนี้ด้วยละกันครับ - -

ไม่ต้องลำบากกันขนาดนั้นหรอกคร๊าบคุณ zhalvia งานนี้ผมถอยแล้วคร๊าบ....
จริงๆแล้วไอ้กระทู้นี้ผมตั้งขึ้นมาเพราะแค่อยากจะหาซื้อสาย USB ไว้ใช้เองคร๊าบ ไม่ใช่มาขายสายคร๊าบ พอดีต้องโดนกระแสต่อต้านเหมือนผมจะมาโกหกเพื่อนๆในเว็บ หรือหลอกลวงประชาชนยังไงก็ไม่รู้ ก็เลยคันปากพูดมากไปหน่อย แรกๆก็ไม่ได้คิดว่ามันจะบานออกมาในรูปนี้ครับ หลังๆชักคิดได้ว่าตรูจะทำไปทำไมฟะ
ตอนนี้เจอกระทู้ตัวเองดันขึ้นมาทีไร สะดุ้งทุกทีเลยคร๊าบ.....ไม่เอาแว๊วววว....

ผมเองก็อยากรู้นะครับ เพราะผมก็อยากจะซ์้อมาจัดชุดใหม่คู่กับน้องมินเหมือนกัน

ยังงัยก็ตาม ผู้ผลิตก็น่าจะตอบได้อยู่นะครับ เเต่คงไม่ได้มาดันกระทู้เเล้วล่ะครับ ไม่ต้องห่วง ยังงัยซะ เดวผมลองถามได้ยังงัยจะบอกกล่าวนะครับ ส่วนตัวผมเองก็เชื่อว่า คนที่มันจ่ายเงินเอะๆ หลายๆคนมันก็ไม่โง่หรอก - -"

เพราะผมก็เคบเห็นอาจารย์ฟิสิกส์ที่มหาลัยคนที่จ่ายเงิน 8-9 หมื่น ซื้อสาย RCA มา ก็คงไม่ใช่อุปทานขำๆ เเล้วซื้อมาอย่างเเน่นอนเเหละครับ เเต่พอดีไม่ได้เรียนคณะฟิสิก เลยรู้จักเเค่ผ่านๆไม่ได้ถาข้อเท็จจริง

มันน่าจะมีข้อเท็จจริงอยู่ เพราะผมเห็นมันทะเลาะกันทุกเวปจริงๆ ประเด็นเนี้ย - -"

พิมผิดเยอะหน่อย พิมบนไอโฟน

คุณ zhalvia ค่อยๆอ่านที่ผมโพสท์ ที่คุณกวีโพสท์ แล้วที่ใครก็ไม่รู้แล้วก็ไม่รู้ว่ากี่คนกันแน่ด้วยโพสท์(แต่เดาว่าคนเดียว)

เพราะไม่ล็อกอินเข้ามาแถมใช้ชื่อไม่เคยซ้ำแต่ละโพสท์ อ่านช้าๆครบๆนะ

แล้วน่าจะเข้าใจเจตนา ว่าคนไหนพยายามทำอะไรอยู่ 555


ปล.ผมพยายามค่อยๆอ่านกระทู้อ้างอิงที่เค้ายกมาอย่าช้าๆ ก็เจอว่าความเห็นที่ว่าไว้ในตรงกระทู้นี้
มันเหมือนกับความเห็นนึงในกระทู้นั้นมากกก แบบว่าเป็นความคิดเห็นนึงนะ ไม่ใช่คำตอบ 555

การยกตัวอย่างบางส่วนจากประเด็นที่ต่อเนื่องมาอ้างอิง มันทำให้เข้าใจผิดประเด็นกันได้เน้อ

เรื่องอุปกรณ์ digital มันเป็นหนังยาวครับ มาเปิดใจ รับฟังข่าวสารข้อมูลใหม่ๆกันไว้บ้างจะดีกว่า


ขอให้มีความสุขจากการเสพย์สื่อ digital กันทุกๆคนนะครับ 555

คุณ Noize ครับ ผมว่าเราสองคนเผ่นกันก่อนที่จะโดนเทวดา เอ้ย! คนพวกนี้รุมสกรัมดีกว่าครับ....
ยินดีที่ได้รู้จักกับคุณ Noize นะครับที่อุตส่าห์ช่วยผมไม่ให้ผมโดนรุมกระทืบตายคาเว็บ 555
เอ่อ... ไม่ทราบว่าคุณ Noize เล่นเครื่องเสียงบ้านด้วยรึปล่าวครับ รู้สึกว่าเดือน ก.ค.
นี้จะมีงาน BAV ครับ ถ้ามีโอกาสอยากให้ไปลองดูห้องแสดงห้องนึง ที่น่าจะใช้อุปกรณ์ติดผนังแบบที่ผมติดครับ แล้วก็จะรู้ครับว่าผมซื้อมาติดทำไม
ไว้เจอคุณ Noize ในกระทู้คนอื่นบ้างก็ดีนะครับ สวัสดีครับ...

จะไปไหน จะไปไหน ...

เฮียยังไม่มาเล่าเรื่องสาย USB ของคุณชู เลย ...

อยากเอามาต่อกับ 801 ครับ คิคิ

มาคุยกันเถอะครับ เพื่อนกันพี่ๆน้องๆกัน นะ

จุ๊บๆ

หิหิ.. ไม่เห็นจะมีอะไรน่าเป็นกังวลครับคุณกวี คนกันเองทั้งนั้น(ที่แสดงตัว) 555

เครื่องเสียงบ้านผมไม่เคยเล่นเป็นของตัวเองจริงๆจังๆครับ

แต่อาศัยเล่นของพี่ชายตอนไปอยู่บ้านเค้าอยู่พักนึงเมื่อซักสิบกว่าปีมาแล้ว

ได้รู้จักสาย wireworld มาก็ช่วงนั้นแหละครับ หิหิ..


เอ้า เฮียยย์ มาโม้เรื่องสาย USB คุณชูโอมารู เร็วๆหน่อยครับ อยากแล้ว 555

เอ้าไม่เผ่นก็ไม่เผ่นครับ อยู่ต่อให้คนมันหมั่นไส้เล่นๆ ฮาาาาา...

เอ่อ อย่าเข้าใจอะไรผิดกันนะครับ

ผมก็ไม่รู้ว่าคุณกวีเข้าใจอะไรอะนะ เเต่คนใน ocz ที่ชื่อ sleipnir ก็คือผมเองน่ะครับ ซึ่ง ทุกคนก็รู้กันน่ะนะ เพราะผมเองช้สองชื่อนี้ในวงกว้างขวางอยู่เเล้ว (คนในเวปนี้บางคนก็รู้ครับ เพื่อนๆกันก็เล่นกันสองเวป)

เเละที่ผมเข้ามากระทู้นี้ เพราะมีเพื่อนส่งลิ้งมาให้เนี่ยเเหละ

ผมเองในกระทู้นั้น ผมก็ไม่ได้คอนเฟิมว่า usb ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องนะครับ ลองอ่านดูดีๆ

ผมยังโพสด้วยซ้พว่า จะทะเลาะกันไปทำไม เรื่องสาย ทั้งๆที่ประเด็น จขกทคือเรื่องการเเปลงไฟล์ ที่ผมเข้าไปเถียงหัวเด็ดตีนขาดก็เพราะผมคิดว่า ไฟล์ Flac มันคุณภาพ ดีกว่า mp4 เเต่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องสายเเต่อย่างใด เพราะข้อมูลพวกนี้ผมก็น้อยครับ เเต่มีพื้นฐานอยู่้าง

ส่วนคนที่มาโพสข้างบน ก็คนเดียวอยู่เเล้วนี่ครับ เเต่ใช้บัตรผ่านมาก็คงพิมชื่อมั่วๆน่ะ
เเต่จะเป็นใครในกระทู้นั้น ผมเองก็เดาไม่ออกนะครับ เเต่ถ้าหมายถึงคนที่ชื่อ Sleipnir ล่ะก็ ผมก็บอกว่า นั่นคือผมเอง - -"

ผมเจอเเล้วครับ ถ้าคุณกวีหมายถึง ข้ความของผมที่ว่า

------------------

ส่วนเรื่องสาย USB Kimber พวกนั้น

ผมว่า ราคามันก็เเค่ 1000 นิดๆ คือ คนที่ซื้อ เนี่ย sys ต้องระดับ 30k up อย่างของผม HD800 ทั้งเซ็ตราวๆ 80000

กะไอเเค่ usb 1000 เนี่ย ผมมองว่า เเค่ความสวยงามของสายถัก ความคงทน ปราณีต ประกัน ก็คุ้มเเล้วครับ (ผมเองก็ใข้เพราะมันสวย) ไม่ได้กลัวมันส่งสัญญาณไม่ครบอะไรหรอก

คือไม่ได้ดูถูกเงิน1000 นะ เเต่ถ้าจะถามว่า ทำไมถึงซื้อเนี่ย ผมก็บอกเลย เพราะมนทน เเละสวย ครับ ไม่ดูรกโต๊ะเมือนสายดำๆบ้านๆทั่วๆไป ยังเเอบโชว์สายด้วยซ้ำ

---------------------

ผมก็เเสดงความจริงใจเลยครับ ว่าอันนี้เป็นข้อความที่ผมพิม อันนี้ ผมเเสดงความบริสุทใจเลยครั ว่าผมเป็นคนพิมเอง ถึงจะคล้ายๆกับข้อความที่คุณ (ใครไม่รู้) ข้างบนพิมไป เเต่มันก็มีหลายอย่างไม่เหมือนกันครับ

เอาเป็นว่า ผมไม่เเก้ตัวเลยนะ เรื่องท่มันบังเอิญมีข้อความคล้ายๆกัน เเต่ผมก็ขอเเสดงความบริสุทใจด้วยการพูดก่อนเลยละกันว่านั่นเป็นข้อความที่ผมพิมเองครับ ส่วนจะไปให้ใครเชื่อว่าผมเป้นใคร คนเดียวหรือคนละคน (ผมคิดว่าคุณกวีมองเเบบนี้นะ)

ผมก็บอกเลยครับว่า ผมไม่ได้เกี่ยวกับนาย ที่พิมชื่อมั่วๆข้างบน เลย สามารถให้เฮียเชค ip ดูได้เลยครับ

เเต่นั่นเป็นข้อความของผมจริงๆ

ปล เเต่สายที่ผมใช้ตอนี้เป็นคิมเบอร์ธรรมดาครับ ที่ตัวละพันกว่าๆน่ะ เเต่ตอนนี้จะไปสอยสายสายร้านไฮไฟ lover อยู่ครับ เห็นว่าตัวละ 900 เอง เเล้วเสียงโปร่ง

อ่านเเลวไม่รู้จะเเก้ตัวยังงัย ความเห็นมันคล้ายกันจริงๆ

เอาเป็นว่า ผมเเสดงความจริงใจเเล้วละกันครับ ส่วนคนเชื่อมั้ย คงยาก เพราะผมอ่านดูก็เห็นว่า ข้อความมันคล้ายกันจริงๆ

ซีเรียสพอสมควรครับ เพราะไม่อยากให้มีการเข้าใจผิด เวปนี้ ผมเล่นมานาน เเต่ไม่ได้โพสจรองจัง อ่านข้อความคุณกวีมาเยอะ ไม่อยากเข้าใจผิดกันครับ

****เเต่ถ้าให้ผมเดาเข้าข้างตัวเองก็คือ นายคนที่พิมชื่อมั่วๆนั่น อ่านข้อความของผมจากเวปนั้น เเล้วคงถูกใจ (เเละคงเห็นว่าผมเป้นนักวิชาการ เพราะคนใน ocz จะรู้กัน ว่าผมเป้นเกี่ยวกับวิทย์สุขภาพ) เลยเอาข้อความผมมาพิม (ทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้คอนเฟิม เเละมีความรู้เรื่องพวกสายน้อยครับ) เเค่เเสดงความเห้น

เเละก็เเอดให้มันดูเว่อๆ (เเต่อาจจริงก็ได้ครับ)

ขอเดาเเบบเข้าข้างตัวเองละกันครับ เพราะความคิดเเรกที่ผมเห็น ข้อความของคนข้างบนโพส ผมก็ยังคิดในใจเลยว่า เออ มันก็สงสัยเหมือนเราเลย เเต่มันพิมมั่วไปหน่อย ดูไม่เป็นขั้นเป็นตอน เลยไม่น่าเชื่อถือ

ผมเลยมาพิมต่อ

เเละความเห้นผมในเวปนั้น อาจไม่ถูกใจคุณกวี เเต่มันก็เป้นเเค่ความเห็นครับ เเละหลังๆมา ผมก็ไม่ได้ไปยุ่งอีกเลย เพราะผมสอบ****


ไม่รู้ว่าจะเข้าใจกันยังงัยนะครับ เเต่ค่อนข้างซีเรียส เพราะไม่อยากเสียสังคมเวปดีๆเเห่งนี้น่ะครับ

ปล พอดี เวปนี้ดันเเก้ไขข้อความไม่ได้ (ใช่มั้ย?) ในเวปนั้น ผมลองอ่านดูเเล้ว . . .

ผมว่า ข้อความของผมมันเป็นการเเก้ต่างให้คนใช้สายusb นะครับ ไม่ได้โจมตี คงตรงข้ามกับนายคนั้นได้นะครับ เหอๆ

555 อย่าคิดมากครับ เดี๋ยวฉี่เหลืองเปล่าๆ หิหิ..

เล่นของพวกนี้มีอะไรสงสัย สอบถาม ท้วงติง มันดีอยู่แล้วครับ

ไม่มีใครรู้ไปหมดทุกเรื่องทุกอย่าง จะได้ช่วยๆกันหาข้อมูล หาเหตุผลกัน สนุกดีออก 555

มัคือไม่ใช่อะไรครับ

ผมกลัวคุณกวีจะคิดว่า ผมเป็นคนเดียวกับนายข้างบนนั่นเเหละ

รูปการมันให้ซะด้วย . . .

ส่วนตัวอย่างที่ผมโพสในเวปนั่นเเหละครับ usb มันตามใจคนซื้อ ไม่ได้มีอคติเเต่ประการใด

เเละในกระทู้นั้น ผมยังสนุบสนุนคนที่ซื้อด้วยซ้ำ

เนื่องจากมีท่าน Avant มาโพสว่า คุณจะไปซื้ออะไรมากมายกับ usb

ผมเองก็ยังบอกว่า usb ดีๆงานมันก็เนี๊ยบจริงๆ ราคาพันกว่าๆ ก็น่าซื้อมากๆครับ

เเล้วคุณ Avant เเกก็มาบอกว่า ที่เเกพูดว่า เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์น่ะน่ะ หมายถึง ตัวละหมื่นกว่าๆ

ซึึงผมก็ไม่ได้เถียงอะไร เพราะมไ่มีข้อมูเเน่นพอที่จะเถียง



สรุป ที่ผมโพสมายืดยาว เพราะผมกลัวว่า คุณกวีจะเข้าใจผิดว่าผมกับบคนนั่นคือคนเดียวกันนั่นเเหละครับ ไม่ใช่อะไรหรอก รูปการมันให้

มัคือไม่ใช่อะไรครับ

ผมกลัวคุณกวีจะคิดว่า ผมเป็นคนเดียวกับนายข้างบนนั่นเเหละ

รูปการมันให้ซะด้วย . . .

ส่วนตัวอย่างที่ผมโพสในเวปนั่นเเหละครับ usb มันตามใจคนซื้อ ไม่ได้มีอคติเเต่ประการใด

เเละในกระทู้นั้น ผมยังสนุบสนุนคนที่ซื้อด้วยซ้ำ

เนื่องจากมีท่าน Avant มาโพสว่า คุณจะไปซื้ออะไรมากมายกับ usb

ผมเองก็ยังบอกว่า usb ดีๆงานมันก็เนี๊ยบจริงๆ ราคาพันกว่าๆ ก็น่าซื้อมากๆครับ

เเล้วคุณ Avant เเกก็มาบอกว่า ที่เเกพูดว่า เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์น่ะน่ะ หมายถึง ตัวละหมื่นกว่าๆ

ซึึงผมก็ไม่ได้เถียงอะไร เพราะมไ่มีข้อมูเเน่นพอที่จะเถียง



สรุป ที่ผมโพสมายืดยาว เพราะผมกลัวว่า คุณกวีจะเข้าใจผิดว่าผมกับบคนนั่นคือคนเดียวกันนั่นเเหละครับ ไม่ใช่อะไรหรอก รูปการมันให้

อย่าซีเรียสไปเลยคร๊าบคุณ zhalvia แล้วที่จริงผมก็ไม่ได้หมายถึงคุณ zhalvia เลยคร๊าบ ส่วนเว็บ ocz นั่นผมก็เข้าไปอ่านนิดเดียวเองคร๊าบ แต่มันอ่านไม่รู้เรื่องคร๊าบ
แล้วไอ้ Link ของ taf ที่ผมโพสลงไปนั่นผมก็ไม่เคยอ่านมาก่อนหรอกคร๊าบ พอดีผมเจอกระแสสังคมมันกระหน่ำเหมือนผมเป็นพวกต้มตุ๋นอะไรทำนองเนี๊ย เมื่อคืนเล่นเอาผมนอนไม่หลับ หลังจากแทนที่ผมจะมานั่งฟังเพลงสบายๆ ต้องมานั่นสลับสาย USB ไปมา ว่าผมฟังผิดตรงไหนหว่า... ทำไมมันฟังไม่ออกกัน(วะ).... แล้วก็มาลองเสริช์หาข้อมูลมั่วๆเอาใน google ดูคร๊าบ เลยไปได้บทความนั้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจคร๊าบ
จริงๆลองกลับไปดูที่ผมได้ตั้งกระทู้ไว้บนสุดนั้น ก็จะเห็นว่าผมเองก็เพิ่งจะได้สาย Monster มาไม่นานนี้เอง พอดีลองฟังแล้วมันเวิร์ค ก็เลยแค่อยากจะได้สายที่ดีๆ มาใช้ในห้องฟังเพลงแค่นั้นเองคร๊าบ ส่วนไอ้สาย Monster เนี่ย ผมตั้งใจจะเก็บไว้ใช้กับชุดหูฟัง พอดีผมไม่รู้ว่าจะไปหาข้อมูลได้ที่ไหน ก็เลยมาลองถามพรรคพวกในเว็บนี้ดูแค่นั้นเองคร๊าบไม่ได้ตั้งใจจะมาโฆษณาขายของแต่อย่างใดคร๊าบ พอดีสงสัยดวงจะไม่ดี งานเลยเข้าคร๊าบ 55555.....-

ไม่เลยครับ

ผมเองก็เเค่กลัวคุณกวีจะเข้าใจผิดน่ะครับ

ผมยังอยากมีเพื่อนเวปนี้อยู่เน้อ

เรามานั่งซเรียสกัน ไอคนที่เปิดประเด็นมันหายไปไหนไม่รู้เเล้วครับ เฮ้อ ชีวิต

ผมยังต้องขอคำเเนะนำคุณกวีอีกเยอะครับ

ผมมันเซียนหูอินเอีย เเต่เรื่องพวก สายหรือฟูลไซนี่ เด็กๆครับ นื่องจาก เพิ่งมาเล่นได้เเปปปเดียวครับ

คุณกวีไม่เข้าใจผิดก็ดีเเล้วครับ ผมซีเรียสจิงๆนะเนี่ย ยังอยากอยู่เวปนี่ครับ 555

ผมชื่อปามนะครับ เจอกันก็ทักผมบ้าง ถ้าเรื่องหูอินเอีย ผมสามารถจัดได้ครับ เรียกได้ว่าฟังมากมหดเเล้ว

เเต่สงสัยเวปนี้ คนเล่น ฟูลไซกันเยอะครับ ไม่เหมือน TAF 5555

ฝากตัวด้วยครับ

ผมเองก็ยังว่าจะอับสายอยู่บ้าง เเต่คงอับสาย RCA ก่อนล่ะจ้า เล็ง Hpmefrown ซิลเวอเลดอยู่ จากที่คุณคณิตเกาผมมาครับ

เรื่อง usb ไว้ทีหลัง 555

เรื่องเสียงอย่าไปซีเรียสเลยคุณกวี ผมก็ขอยืนยันคำเดิม

เราฟังเเล้วเรามีความสุขก็พอครับ อย่าไปเเคร์ใครเลย ที่ผมคิดจะถามคนที่สร้างสายขึ้นมาจริงๆ ก็เพราะผมเห็นมันทะเลาะกันทุกเวป

ตั้งเเต่เวปฝรั่งมังฆ้อง ยันเวปบ้านๆอย่างเราๆล่ะครับ 555

จริงๆผมเองก็เล่นเครื่องเสียงบ้านเป็นหลักครับ ส่วนหูฟังก็เล่นแบบลำลองครับ ไม่เชี่ยวชาญอะไรหรอกครับ ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ในห้องฟังเพลงมากกว่าครับ นี่ถ้าไอ้คนนั้นมันรู้ว่าเฉพาะราคาเม็ดไม้ที่ผมติดเอาไว้ข้างฝา หมดไป 100k กว่าๆ มันจะด่าอะไรผมอีก 555555......

อธิบายในหลักวิทยาศาสตร์ได้ครับ แต่มันย๊าวยาว
อีกอย่างคนที่พิสูจน์ส่วนใหญ่เป็นนักฟิสักส์ ไม่ก็วิศวะ เคยมีใครถามนักเคมีมั๊ยครับเนี่ย -*-

- การ Deflect ของ electron (ใช้อธิบายเรื่องการเบิร์นสายได้ครับ)
- ศักย์ประจุข้ามรอยต่อ (ใช้อธิบายเรื่องน้ำเสียงเมื่อเปลี่ยนวัสดุ)
- ระบบประสาทสัมผัสร่วม (ใช้อธิบายว่าทำไมบางคนฟังออก หรือบางคนฟังไม่ออก)

นักวิทยาศาสตร์ที่ดีไม่ควรดูถูกใคร เพราะที่จริงแล้วที่เราพิสูจน์ว่าไม่จริง
มั่นใจได้อย่างไรว่าอุปกรณ์ที่ทดสอบมันเหมาะสมแล้ว ฝากไว้ให้คิดครับ

ดันให้เฮียมารีวิวสาย USB คุณชู ครับ

เดี๋ยวจะขอเดินสาย รายงานสดแทนเฮียล่ะครับเรื่องสาย USB เพราะตอนนี้อยู่กับผมเรียบร้อย 55555......สงสัยจะคิดผิดซะแล้วที่หันมาเล่น DAC โดนหมัดที่มองไม่เห็นเพียบเลยวุ้ย........แบะๆๆๆๆๆ

เพิ่งจะได้เข้ามาอ่าน drama กันยาวเลย
คนเราลองคิดว่าไม่เปลี่ยนอธิบายยังไงก็ไม่ฟังหรอกครับ ต้องเอาไปให้ฟังเอง

ว่าแต่สาย usb คุณชูมีหัวแบบไหนมั่งครับ
หาแบบ type a to mini-b สาย usb แบบ audio grade หาซื้อยากจริงๆ

รออ่านอยู่คร๊าบ

สาย USB ต่างเส้นกันมีผลต่างเสียงแน่นอนครับ ที่ฟังสลับไปๆมาๆแล้วเลือกไม่ถูกแสดงว่าร่างกายล้าแล้วครับ ทางที่ดีค่อยๆฟังไปใช้ความพอใจตัดสินดีกว่าครับ ส่วนตัวผมว่าพอใจกับสาย USB ที่เป็นแบรนออดิโอมากครับอย่างน้อยหัวก็เสียบได้แน่นมากกว่าล่ะครับ 5555

ปล.สาย Kimber ที่น้าหมูหวานเอามาขายเป็น USB3.0 ด้วยล่ะครับถ้าจำไม่ผิด อิอิ

มาแจ้งให้เป็นน้ำจิ้มตอนนี้เท่าที่ลองๆ ผมได้ลองอยู่ 2 เส้นล่ะครับ คือเส้นแถมจากเจ้า FUN และ สายจากพี่ชูโอมารุ นั่นเองจ้า

สายของพี่ชูโอ จะเสียงค่อนข้างสะอาดกว่าสายแถมมาอย่างเห็นได้ชัดล่ะครับ การแยกชิ้นดนตรีทำได้ค่อนข้างเคลียร์เลยทีเดียว พื้นหลังที่มัวๆก็ชัดเจนขึ้นมาอย่างไม่ต้องสังเกตุกันเลยทีเดียวล่ะครับ


เดี๋ยวมาโม้ต่อดีกว่า....แบะๆๆ

สาย USB จะมีผลหรือไม่นั้นอยู่ที่ protocol ที่ใช้กับงานนั้นๆไปด้วยครับ อย่างก็อปไฟล์ก็ใช้ protocol แบบหนึ่งก็อปไวก็อปช้าลงตามไฟเลี้ยงและ bandwidth ของ bus ว่าโดนแชร์มากน้อยแค่ไหนซึ่งตัวนี้ไม่ได้ทำงานแบบ real-time แต่การฟังเพลงใช้ protocol ของ model 1.1 ที่ทำงานแบบ real-time คือพวก bit error checking จะไม่มีเหมือนพวก data transfer และ flow control ก็ต่างกัน

การใช้สาย usb ที่ดีขึ้นจะช่วยลด latency ของการส่งข้อมูล package buffer ของเสียงทำให้เสียงมี delay น้อยลงและเปิดสมจริงขึ้นนิดหน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ได้ถึงจุดหนึ่งครับ จึงยังไม่มีค่ายไหนกว่าทำสาย usb เป็นแสนๆมาในตลาดเพราะผลของมันไม่ชัดพอจะขายแข่งพวกไม่กี่พันหรือหมื่นต้นๆได้ครับ

^
^
ค่าตัวมันเท่าไหร่ครับแพะ

เอ้ย usb เป็นเเสนมีนะครับ เดวเอาลิ้งมาให้ดู 555

ผมเห้นเเล้วยังชอคเลย

ค่าตัวยังไม่มีคร้าบบบบ พี่ชูโอ แกทำมาให้ลองใช้ดูก่อนล่ะครับ (แต่ผมกะไม่คืนแล้วล่ะ ประหยัดได้อีก ถ้าไม่หาเรื่องต่อ)....แบะๆๆๆ

ไชโย!!! มีคนฟังออกจนได้ คุณ Noize ครับ เราสองคนไม่ต้องเผ่นแล้วครับ 5555.....
ส่วนตัวผมไปสั่งสาย Wireworld Starlight มาแล้วครับ ถ้าได้ของเมื่อไหร่จะมาโม้ต่อคร๊าบ....

ู^
^
ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับ ว่ามันดียังไง ทำไมแพงลิบขนาดนั้น

วันนี้ผมเพิ่งจะได้สายมาครับ เดี๋ยวผมลองฟังก่อนแล้วจะมาโม้ให้ฟังครับ 555...

รอฟังด้วยคนครับ^^
ว่าแต่สายIXOS ที่พูดถึงคือรุ่นนี้ปะครับสนใจอยู่เหมือนกันครับ

รอรีวิวเล็กๆ ช่วงค่ำๆนะครับคุณกวี หิหิ..

แฮ่ๆ...ผมกะลังรอให้ลูกหลับอยู่ครับ เดี๋ยวดึกๆ ผมกะจะเอามาเทียบกับสายที่มีอยู่แล้วจะมาโม้ทีเดียวเลยครับ ตอนนี้เปิดเบิร์นWireworld Starlight ไปพลางๆก่อน ไอ้สาย USB นี่มันต้องเบิร์นรึป่าวก็ไม่รู้ 555

ผมว่ามันก็ต้องเบิร์นแหละครับ

ตื่นเต้นไปด้วยนะเนี่ย หิหิ..

เมื่อวานผมเพิ่งจะได้ K701 กับ MS-Pro มาพร้อมกันกับสาย Wireworld Starlight วันนี้เลยออกอาการมึน ไม่รู้จะเล่นอะไรก่อน ส่วนไอ้ RS-2 ก็ปล่อยไปแล้ว เลยเป็นของ(เก่ามือ 2 )ใหม่ทั้งหมด แถมลูกก็ยังไม่ยอมนอน เปิดทีวีแข่งตลอด แง......

งั้นต้องใช้เวลาสร้างความคุ้นเคยกับเสียงใหม่หมดเลยละครับ 555

ไม่ต้องรีบจัดมินิรีวิวก็ได้ครับแบบนี้ หิหิ..

คุณ kawee อยู่แถวรามหัวหมากหรือเปล่า อยากรบกวนยืมสาย cardas ที่คนขายMS PRO มัดรวมชุด มาลองสักนิดนึง ว่าเสียงเป็นอย่างไรจะเหนือกว่า บ้อนบ๊อนมากมั๊ย ถ้าไม่อยู่แถวรามหัวหมากขอบายครับ

อันนี้ผมไม่แน่ใจว่า USB DAC มันมีการ Check ความถูกต้องของ Data หรือป่าว

แต่ผมรู้สึกว่าสาย HDMI ส่ง Data แบบไม่ Check หรือคล้ายๆ UDP นั้นหละถ้าส่งผิดก็ผิด
ไม่มีการส่งกลับมาบอกว่า "เฮ้ย ส่งผิดโว้ย..ส่งใหม่" ดังนั้นคุณภาพสาย HDMI ผมว่าสำคัญ (ลองแล้วกับตัวเอง) แต่ USB DAC ผมไม่รู้ถ้าเหมือน HDMI ก็สายมีผลแน่ๆ แต่ถ้ามีการทำ Data Correction ก็ไม่เกิดผลกับเสียงเท่าไหร่นอกจาก Jitter


ที่อ่านดูก็มีคนคิดเหมือนผมเยอะเหมือนกันเนอะ อิอิ

ผมอยู่อนุสาวรีย์คร๊าบ

งั้นคงต้องบาย ขอบคุณมากๆคร๊บบบบ

คุณ Tanan ครับ พอดีผมมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์น้อยจริงๆครับ ผมเลยไปก็อปปี้ข้อความจากลิงค์ที่คุณ Noize หามาน่ะครับ ถ้าเป็นคนละเรื่องกันก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ555



("เรื่องสายสัญญาณดิจิตอลนั้นมีการผิดเพี้ยนแน่นอนครับ

แต่การส่ง ข้อมูลดิจิตอลมีหลาย โปรโตคอล ส่วนมากจะมีการตรวจสอบที่ปลายทางว่าได้ข้อมูลถูกต้องหรือไม่ แต่ปัญหาอยู่ที่ โปรโตคอล USB Audio 1.1 เป็นโปรโตรคอลที่ส่งแล้วลืม (sent and forget) คือส่งไปแล้วไม่สนใจว่าปลายทางจะได้รับข้อมูลถูกต้องหรือไม่ ดังนั้นหากสายสัญญาณมีการผิดพลาดมาก เสียงก็จะเพี้ยนไปมากครับ

ที่มี การถกเถียงกันว่าการส่งสัญญาณแบบดิจิตอลไม่มีการผิดพลาด ที่หลายๆคนมักจะคิดว่า "ถ้ามันผิดพลาดแล้วเวลาเรา copy ไฟล์จากเครื่องไปที่ USB Harddisk ไฟล์มันก็มีโอกาสเสียสิ" นั่นเป็นเพราะว่า โปรโตรคอลในการรับส่งไฟล์ผ่าน USB มีการตรวจสอบความถูกต้อง ถ้าข้อมูลช่วงไหนมีการผิดพลาดปลายทางจะส่งคำร้องขอให้ส่งข้อมูลชุดนั้นมา ใหม่

การทดสอบสาย USB ว่ามีความแตกต่างกันจริงหรือไม่ (ถ้าไม่ใช้หู) ก็สามารถทำได้โดยเอาสาย USB ที่ต้องการทดสอบมาเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ กับ USB Harddrive แล้วทำการ copy ไฟล์ขนาดใหญ่ๆ (1Gb ขึ้นไป) แล้วจับเวลา ถ้าสายที่มีการผิดเพี้ยนมาก จะใช้เวลาในการ copy มากกว่า เพราะต้องส่งข้อมูลซ้ำหลายครั้ง ส่วนสายที่มีความผิดพลาดน้อยกว่า ก็จะใช้เวลาในการ copy สั้นกว่า


การอ่านข้อมูลจากสื่อบันทึก ข้อมูลดิจิตอล (เช่น CD) ก็เช่นกัน มีการผิดเพี้ยนแน่นอน แต่ การอ่านสื่อดิจิตอลทั้งหมด (ยกเว้น การอ่านแบบ AUDIO CD) จะมีโปรโตคอลตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่อ่านได้ถ้าอ่านมาแล้วไม่ถูกต้อง ก็จะมีการอ่านซ้ำ ถ้าอยากทดสอบว่าจริงไหม ให้ทดลอง copy ไฟล์ขนาดใหญ่จากแผ่น CD มาที่คอมพิวเตอร์ จับเวลาไว้ แล้วทดลอง copy ไฟล์เดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้ให้จับ CD Drive ขึ้นมาเขย่าๆ (ไม่ต้องรุนแรงมากนัก) แล้วจับเวลาเช่นกัน จะพบว่าการเขย่า CD Drive ไปด้วยจะทำให้การ copy ไฟล์ช้าลง แต่ไฟล์ที่ copy ได้มีความสมบูรณ์เท่ากัน แต่กรณี AUDIO CD จะเป็นการอ่านแล้วนำไปใช้ทันทีไม่มีการตรวจสอบ ดังนั้นเครื่องอ่าน CD สำหรับฟังเพลงจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะลดการผิดพลาดจากการอ่านนี้ลง ที่เห็นชัดๆก็มักจะเป็นการทำให้แท่นเครื่องมั่นคงแข็งแรงป้องกันการสั่น สะเทือน")

กระทู้เชิงวิชาการ ที่มีการทดลองฟังอย่างนี้ด้วย ผมชอบจังเลย
ผมพึ่งมี DAC ตัวแรกเมื่ออาทิตย์นี้ กำลังสนใจจะลอง diy สาย usb ใช้เองบ้าง
ก็ไล่อ่านบทความเกี่ยวกับสาย usb จากกระทู้ของ หลายๆ เวป
ที่มีการทดลองฟังแล้ว สรุปว่าเสียงต่าง
จะด้วยเหตุผลกลใด ก็หาอ่านเพิ่มเติมดูนะครับ อยู่ในเวปดัง ๆ ทั้งนั้นหล่ะ
ปล.ถ้าขี้เกียจอ่าน ก็อยากให้ลองหา สายหลาย ๆ เส้น ทั้ง diy ทั้งสำเร็จ
มาฟังเทียบก่อนจังครับ

ตกลงเมื่อคืนคุณกวีหลับก่อนลูกรึปล่าวครับ 555

ไม่ได้หลับครับ แต่ลองฟังอยู่พักใหญ่เหมือนกันครับ เทียบอยู่ระหว่าง Monster กับ Wireworld ครับ สาย Wireworld ถึงตอนนี้ก็น่าจะประมาณ 5-6 ช.ม. ครับ ส่วนสาย Monster คงจะพ้นเบิร์นไปนานแล้วครับ
ยอมรับครับว่าความนี้หูขี้กลากอย่างผมฟังความแตกต่างออกยากกว่าตอนเทียบระหว่างสาย Monster กับสายแถมเยอะครับ ตอนนั้นเพียงแค่ฟังสายแถมไปเรื่อยๆ แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Monster เสียงก็เปลี่ยนไปทันทีครับ ไม่ต้องตั้งใจมากครับ ครั้นพอกลับไปใช้สายแถมอีกครั้งก็เกิดอาการไม่อยากฟังทันทีครับ ท่านที่เคยอัพเกรด system อื่นๆให้ดีขึ้นแล้วกลับไปฟัง system เดิมอีกครั้ง คงจะนึกถึงอาการนั้นออกครับ
ส่วนคราวนี้ผมต้องฟังกันแบบ A-B test ครับ จับความแตกต่างได้ว่า การเปลี่ยนสายที่แพงขึ้นไป 5- 6 เท่าตัว กลับเพิ่มต่อยอดจากเดิมได้อีกนิดหน่อยเองครับ ที่พอจะฟังออกคือ เสียงร้องที่ผมเคยติ สาย Monster ว่าหยาบไปหน่อย สาย Wireworld จะช่วยตรงนั้นได้ครับ ส่วนเสียงของเครื่องสายต่างๆ ฟังจากสาย Wireworld ก็จะกังวาลกว่า มีมวลกว่า แต่ก็ไม่มากครับ เมื่อกลับไปฟังส่วนนี้จากสาย Monster พบว่าเสียงกีตาร์จะออกบี้แบน ทันทีครับ แต่ก็นิดเดียวเองครับ
เท่าที่ผมรู้สึกในตอนนี้ ถ้าไม่เป็นเพราะว่าประสาทหูของผมห่วย ก็น่าจะเป็นเพราะข้อจำกัดของ system ครับ เพราะว่าลำดับชั้นของราคาสายมันต่างกันมาก แต่ได้ผลเพิ่มขึ้นมาจิ๊ดเองเดียวครับ เี๋ดี๋ยวผมว่าจะเอาสาย 2 เส้นนี้ไปกัดกันในห้องฟังครับ น่าจะบอกอะไรมากกว่านี้ครับ เพราะผมยังมั่นใจในสาย Wireworld อยู่

เท่าที่อยากจะแนะนำท่านที่ทนอ่านกระทู้ของผมมาถึงตอนนี้ ผมอยากจะให้ความเห็นแบบนี้ครับ ท่านที่ใช้สายแถม USB อยู่ในเครื่องระดับกลางๆอย่างผม ถ้าอยากจะเปลี่ยนสายเป็นสายระดับพันกว่าบาท ผมว่าคุ้มค่าแน่นอนครับ แต่ถ้าจะเปลียนไปเป็นสายระดับ 5-6 พันบาท ผมอยากจะทดลองด้วยตัวเองก่อนครับ สำหรับผมๆ ก็เอาเงินพอๆกันนี้ ไปเปลี่ยนหูจาก RS-2 ไปเป็น MS-PRO มาเหมือนกัน ผมว่าอย่างหลังคุ้มกว่าเยอะครับ 5555.....

usb ผมว่าฟังยากนะถ้าเป็นตัว 4-5000 พอๆกัน

ผมยังอยากจะเล่าเรื่องจริงจากประสพการณ์ให้ฟังอีกเรื่องนึงครับ เมื่อซักสองปีที่แล้วผมใช้เครื่องเสียงบ้าน system ระดับ 100k กว่าๆครับ มีอยู่มาวันนึงเพื่อนผมได้เอาสายสัญญาณราคา 39000 บาทยี่ห้อนึงมาให้ฟังครับ มันบอกว่าเสียงดีมากๆ เอาไปลองฟังดู ตอนนั้นผมเองก็ฟังออกครับว่าเสียงมันดีขึ้นครับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะน่าลงทุนอะไรครับ
แต่เมื่อไม่นานมานี้ ผมก็ได้ลองฟังสายคู่นั้นอีกครั้งกับ System ชุดปัจจุบันครับ คราวนี้เสียงของ system ผม ก็ถูกยกระดับขึ้นมาทันทีครับ พอถอดออกแล้วมาฟังสายของผมเอง พูดได้คำเดียวครับ ว่าอยากจะร้องไห้ครับ เสีองดร็อบลงไปมากจนน่ใจหายครับ ภาษาเครื่องเสียงเค๊าเรียกว่าหูเสียครับ

คุณ Noize ครับ!! ตอนคุณ Noize ซื้อสาย Wireworld มาใหม่ๆ มันต้องรอระยะเบิร์นอินรึป่าวครับ ตะกี้ผมเอาไปลองฟังในห้องฟังเพลง เสียงมันฟุ้งๆน่ะครับ แต่ว่าฟังได้แป็บเดียวครับ นัดกับแฟนดูละครเรื่องเป็นต่อ 555....

เพิ่งกลับมาจากภารกิจสร้างความบันเทิง หิหิ..

ตอนเส้นแรกนี่เบิร์นอยู่ร่วมร้อยชั่วโมงเหมือนกันครับ ถึงจะนิ่ง

เส้นใหม่นี่ยังไม่พ้นยี่สิบเลย แถมเบิร์นพร้อมไปด้วยกันกับ dac อีกต่างหาก 555

ไปได้ DAC อะไรมาครับ เห็นขาย Stello ไปหยกๆ

หลังจากสาย Wireworld ที่ผมได้มันน่าจะผ่าน 20 ช.ม. ไปแล้ว คราวนี้ความต่างชั้นของมันเมื่อเทียบกับสาย Monster เริ่มจะห่างกันมากๆแล้วครับ ต่างกันแบบไม่ต้องทำ A-B test แล้วล่ะครับ
พอผมกลับไปฟังสาย Monster อย่างแรกที่เจอคือความขุ่นของเสียงครับ เสียงร้องแห้งไปทันที แล้วน้ำเสียงโดยรวมจะออกบี้ๆครับ ( เข้าใจกันรึเปล่าหว่า..) เสียงของสาย Wirewold จะกลมกล่อม ฟังแล้วลื่นไหลกว่าครับ
แต่นั่นก็เป็นเรื่องของน้ำเสียงครับ ทีเด็ดมันอยู่ตรงที่ ช่วงที่เวลาเครื่องดนตรีมันเล่นขึ้นมาพร้อมๆกัน เสียงจากสาย Monster มันก็ชัดเจน แยกแยะดีหรอกครับ แต่!! มันเหมือนกับเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นกำลังแข่งกันเล่นครับ ส่วนเสียงจากสาย Wireworld มันกลับทำให้เหมือนว่า เครื่องดนตรีแต่ละชิ้น มีน้ำหนัก ไม่เท่ากัน มีการย้ำเน้นที่ต่างกัน ตรงนี้ส่งผลมากที่จะทำให้เพลงๆเดียวกันนี้ มีความน่าฟัง และ มีความเป็นดนตรีที่ต่้างกัน
บางคนอาจจะเถียงว่าสิ่งเหล่านี้เป็นไปไม่ได้ แต่ท่านที่ซนๆ ชอบเล่นแอคเซสเซอรี่ ของเครื่องเสียงคงจะนึกภาพออกครับ
ที่โม้มานี่ก็เพราะจะแก้ตัวว่า วันที่ได้รับสาย Wireworld มาแล้วยังไม่ทันได้เบิร์นสาย ก็ดันรีบมาโม้ ซึ่งอาจจะทำให้สายเค๊าเสียยี่ห้อน่ะครับ5555....

โม้ต่ออีกหน่อยไม่งั้นนอนไม่หลับ บางคนอาจจะเถียงว่าสายดีๆ จะสร้างสิ่งเหล่านี้เพิ่มขึ้นมาได้ยังไง ผมอยากจะอธิบายว่า เพลงที่เขาบันทึกกันมาดีๆแบบออดิโอไฟล์มันจะมีสิ่งเหล่านี้มาอยู่แล้วครับ สายที่ด้อยคุณภาพต่างหากที่ทำให้สิ่งเหล่านี้มันหายไปครับ แต่สายดีๆมันแค่ถ่ายทอดเสียงออกมาให้เราได้ยินแบบสมบูรณ์ขึ้นครับ

^
^
เดี๋ยววันหลังจะหาข้อมูลสายสัญญาณในสตูดิโอที่เค้าบันทึกเสียงมาเทียบดูครับ อย่างเราเป็นผู้ฟังก็วิ่งหาสายสัญญาณดีๆ แพงๆกันไป แต่อยากรู้เหมือนกันว่า "ต้นทาง" ที่เค้าผลิตเสียงเพื่อบันทึกกันน่ะ เค้าใช้สายอะไรกัน

ไปได้ DAC อะไรมาครับ เห็นขาย Stello ไปหยกๆ
--------------------------------------------------
ด้วยความอยากลองครับ เลยโล๊ะชุดเก่ายกชุด แบบล้มกระดานเลย แล้วมาหาใหม่

ตอนนี้กำลังเบิร์นอยู่ 2 ตัว มี Xiang Sheng ศิษย์หมูหวาน กับ DA-01 ไทยประดิษฐ์
http://forums.overclockzone.com/forums/showthread.php?t=941875
----------------------------------------------------------------------------------
สายสัญญาณที่ใช้ในสตูดิโอต่างกันครับ กับสายบ้านเลยครับ เค้าใช้สายเกรดดีปานกลาง ไม่ต้องเมพมากเกิน

เหตุผลคือ ห้องบันทึก จับรวม 24,32 หรือ 48 เป็น 1

แต่ผู้บริโภคอย่างเราๆ พยายามถอด 1 ให้เป็น 24 ,32 หรือ 48

เทียบกับ Stello แล้วไปไงครับ ? มันมีอะไรดีครับ คุณ Noize ถึงได้ปล่อย Stello ไปเนี่ย!!....แฮ่

เดา(เพราะยังไม่พ้นเบิร์น)ว่ายังเทียบชั้น Stello ไม่ถึงหละครับ

แต่ช่วงนั้น มีความคิดว่าหันมาเล่นแอมป์หลอด singe end แล้วเสียดายของภาค balance ของ Stello

ลองมาเปลืองตัวค้นหา single end dac พวกผ้าขี้ริ้วห่อทองดูครับ 555

โทษนะครับสายของ WireWorld ดูให้ดีนะครับระวังของปลอมนะครับเพราะเห็นว่า
ทางบริษัทผู้ผลิตเข้ามีหนังสือออกมาเตือนว่าให้ระวังของปลอมครับ ส่วนเรื่องของจริงหรือปลอมผมก็ยังดูไม่ออกครับ

^
^
ขอบคุณครับ

ผมซื้อจากคนที่สั่งตรงจาก WW มาให้เลยครับ

ประเภท Buy it now ใน Ebay ที่มาจากไต้ัหวัน ฮ่องกง นี่ยังไงก็ไม่กล้าครับ หิหิ..

ขอบคุณครับ ทางที่ดีผมว่าควรจะซื้อจากตัวแทนครับ จะได้ไม่ต้องเสี่ยง555...

USB นอกจากขาข้อมูลแล้ว ยังมีขาจ่าย power นะครับ ตรงนั้นอาจมีผล

ขอขุดกระทู้หน่อยนะครับ
เพิ่งได้ wireworld ultraviolet วันนี้ครับ
เปลี่ยนสายปุ๊บเสียงแจ่มขึ้นแบบเห็นได้ชัด ไม่ต้องตั้งใจฟังก็เห็นได้

ใครฟังเพลงกับ DAC ลองเปลี่ยนสาย USB ดูครับ คุ้ม !!!

ว่าแล้วก็อยากลอง starlight ไม่ทราบใครลองทั้งสองรุ่นแล้วบ้างครับ
อยากรู้ว่าต่างกันเยอะมั้ย ถ้าเยอะจะขาย ultraviolet ไปซื้อ starlight แทน 555+

ปล. ขอบคุณพี่น้อยสำหรับคำแนะนำเรื่องสายครับ

555...จริงๆแล้วตอนก่อนที่ผมเล่าค้างเอาไว้คือไอ้สาย IX0S ที่ผมไม่ค่อยได้พูดถึงมันเท่าไหร่น่ะครับ พอดีผมเห็นว่ากระทู้นี้มันตกไปแล้วก็เลยไม่มีโอกาสจะเล่าน่ะครับ ในเมื่อคุณ figaro อุตส่าห์ไปขุดมันขึ้นมาผมเลยถือโอกาสโม้ต่อเล็กน้อยนะครับ.....

ผมก็ว่าจะถามอยู่ว่า มีคนรับทำสาย Dock to usb รึป่าวครับ ของ Creative น่ะ ไม่ใช่ ipod

เล่าต่อเถอะครับ ผมคนนึงละที่อยากรู้

ตอนนั้น System ที่ผมใช้อยู่คือ Dac19>>C2>>MS-Pro ครับ ที่ผมเปรียบเทียบสาย Monster กับสาย Wireworld Starlight ให้ฟังก็เพราะว่าเห็นผลที่แตกต่างกันค่อนข้างชัดเจน ผมจึงกล้าเขียนออกมาให้อ่านกันครับ แต่ช่วงนั้นผมยังฟังเสียงเพื่อหาความแตกต่างระหว่างสาย IXOS กับสาย Wireworld Starlight ไม่ค่อยออกครับ คือถ้าฟังเสียงจาก System เดิมผมว่าสายทั้งสองเส้นมันต่างก็ให้เสียงที่นุ่มนวล ลื่นไหล แยกแยะรายละเอียดได้ดีกว่าสาย Monster ทั้งคู่ครับ
แต่เมื่อซัก 2 สัปดาห์ที่แล้วผมได้เปลี่ยน System ใหม่เป็น DAC19>>>น้องมิน ( ของพี่คณิตครับ )>>> หูนางไม้จีน HE-5 ปรากฎว่า System ใหม่นี้มันสามารถทำให้ผมหาความแตกต่างระหว่างสาย IXOS กับสายสาย Wireworld Starlight ได้อย่างง่ายดายครับ ฟังครั้งเดียวสลับกันก็รู้ได้ทันทีครับ...

ตอนแรกถ้าเราเปลี่ยนจากสายแถมมาเป็นสาย Monster มันจะดีขึ้นแบบก้าวกระโดดครับ คือจะเห็นผลชัดเจนมากครับ แต่พอผมเปลี่ยนจากสาย Monster มาเป็นสาย IXOS กับสาย Wireworld Starlight มันจะดีขึ้นไปอีกครับ แต่ไม่แตกต่างกันเท่าแบบแรกครับ...คือไม่ได้ดีกว่าแบบก้าวกระโดดแล้วครับ...
สาย Monster มันจะให้เสียงร้องรวมไปถึงเสียงของชิ้นดนตรีที่หยาบกว่าสาย 2 เส้นหลังครับ ฟังกี่ครั้งๆมันก็เป็นอยู่อย่างนั้นแหละครับ...
เสียงที่ได้จากสาย IXOS นี่จริงๆแล้วผมถือว่าดีและคุ้มค่ามากครับเมื่อเทียบจากราคาของมันครับ น่าจะประมาณพันกลางๆครับ เสียงร้องจากสาย IXOS นี่ผมถือว่าดีมากแล้วครับ พื้นเสียงก็ใสสะอาดปราศจากความขุ่นมัวครับ แต่เมื่อมาเทียบกับสายสาย Wireworld Starlight แล้วผมว่ามันยังด้อยกว่าอยู่ระดับนึงครับ...
พื้นเสียงของสาย IXOS ผมก็ว่ามันใสสะอาดดีอยู่แล้ว แต่พอฟังเสียงจากสาย Wireworld Starlight ผมพบว่ามันจะยิ่งใสขึ้นไปอีกครับ ประกายของหางเสียงที่ได้จากสายสาย Wireworld ก็เหมือนจะทอดไปไกลและมีความกังวาลกว่าครับ เสียงร้องจากสาย Wireworld ก็จะลอยออกมาจากเสียงดนตรี มีความกลมกลึง ( พูดไม่ถูกเหมือนกันช่วยๆนึกตามหน่อยละกันนะครับ ) มีทรวดทรงกว่าสาย IXOS ครับ คือถ้าเราฟังเสียงจากสาย Wireworld Starlight ไปซักพักนึงให้ชินหู แล้วเรากลับมาฟังสาย IXOS อีกทีจะรู้สึกว่าเสียงต่างๆมันจะทึบลงนิดๆ พื้นเสียงที่ตอนแรกว่าใสสะอาดดี ก็จะรู้สึกว่าขุ่นหน่อยๆขึ้นมาทันทีครับ แล้วเสียงร้องจะแห้งกว่าพอสังเกตุได้ครับ แต่ผมก็ยังถือว่าเสียงที่ได้จากสาย IXOS ก็ดีอยู่นะครับ ถ้าเราไม่เอามันไปเทียบกับสาย Wireworld Starlight น่ะครับ....

กำลังสนใจ Wireworld Starlight พอดีเลยครับ ขอบคุณสำหรับรีวิว

ถามเพิ่มครับ หัวที่ USB เอามาต่อ DAC เค้าเรียกว่าหัวอะไรครับ

^
ผมเข้าใจว่าน่าจะเรียกว่าหัว usb นะ อยู่ที่ dac มันรับหัวแบบไหน a , b , mini-b


เห็นพี่ kawee review แล้วอยากเปลี่ยนมาใช้ startlight มั่งจัง

คุณ figaro เส้นที่ใช้อยู่กี่ M ครับ สนใจสอยต่อให้ครับ ส่ง e-mail มาเลยครับ

มาบอกเพื่อนๆที่ยังไม่รู้นะครับ

หลังจากผมได้ dac ใหม่มา ผมก็เสียบ usb จาก com เข้า dac พบว่าเสียงห่วยแตกกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก โดยที่เมื่อก่อนผมจะต่อ com > usb > onkyo doc > coax > dac วันนี้มีเวลาเลยจัดวางและต่อสายแบบเมื่อก่อน พบว่าเสียงกลับมาดีเหมือนเดิมครับ 5555 ไม่เสียตังค์ครับงานนี้

สรุบคือ usb ออกจาก com เสียงไม่ดีเท่าแปลง usb จาก com เป็น coax ครับ

แหมที่คุณดี๋แนะนำมันก็ดีอยู่หรอกครับ เพราะผมเคยลองใช้สาย USB>>> MUSILAND>>>COAX>>>DAC19 เสียงมันก็ดีขึ้นจริงๆครับ แต่งบประมาณมันจะยิ่งบานทะโร่ขึ้นไปใหญ่น่ะครับ555...
คุณดี๋ครับ... ผมเอารูปสาย COAX ที่วันนั้นผมเคยเล่าเอามาให้ดูครับ ตัวนี้เสียงอิ่มใหญ่ เวทีกว้าง เสียงมีพละกำลังดีเชียวครับ จริงๆแล้วผมก็ว่าถ้าให้ทดสอบสาย COAX digital มันยังง่ายกว่าทดสอบสาย USB เยอะครับ ไม่ต้องมานั่งเทียบกันจนตาเหล่คิ้วขมวด5555....

แปลงเป็น coax ก็น่าสนใจอยู่ครับ
แต่ต้องซื้อตัวแปลง+ค่าสาย เผลอๆจะแพงกว่าค่า dac ที่ใช้อยู่อีก 555+
งบจำกัดขอใช้ usb ไปก่อนละกันครับ มีงบเมื่อไหร่จัดไป

พวกสายหิ้วหลากยี่ห้อนี่มันจะมีโอกาสปลอมไหมครับ

ผมล่ะไม่กล้าซื้อจริงๆ

สงสัยจะมีครับคุณ แคนนอน ผมว่าเวลาซื้อระวังหน่อยก็ดีครับ

คุณกวี ครับ แล้วสาย USB ยี่ห้อ Monster ที่คุณกวีเคยใช้
หัวสายมีไฟสัญญาน LED สีฟ้า หรือป่าวครับ พอดีผมเพิ่งสั่งจากเว็บหนึ่งไป
ในราคา 900 บาท(รวมค่าส่ง) พอดีแอบกลัวว่ามันจะของ Copy หรือป่าว

ขอบคุณครับ

รบกวนพี่พี่กวี ... ปล่อยสาย USB ซักเส้นสิครับ แหะแหะ

จะเอามาเสียบ คอม กับ HM801 ครับ ... มันเป็นแบบนี้ครับ ไม่ทราบว่ามีไม๊ครับ



เค้าเรียกสายแบบนี้ว่าอะไรอ่ะครับ USB to mini-USB ป่ะครับ
แล้วไอ้กระปุกเฟอไรต์ นั่น จำเป็นไม๊ครับ มันมีผลกับเสียงยังไงครับ

^

a to mini-b ครับพี่ทศ

a to mini b มันมีแบบดีๆ มั๊ยครับ

^
^

ตามนั้นแหละ.. ส่วนเจ้าเฟอไรต์ มันมีไว้กรองสัญญาณรบกวนที่มากับสายจ้า หิหิ..


ปล. คุณทุเรียนครับ Monster นี่อัตราเสี่ยงค่อนข้างสูง แต่ถ้าสั่งไปแล้วก็ขอเอาใจช่วยให้ได้ของแท้นะครับ หิหิ..

ตอนนี้ผมก็ 2 จิต สองใจ จะตบ Starlight หรือจะเอาเข้ากล่องแปลงเป็น Coax แล้วไปเล่น Coax ดีหว่า....แบะๆๆๆ

พี่น้อยย์ แล้วอย่างสายของ Monster มันไม่มีเฟอร์ไรต์ .. แสดงว่า ตัวสายมันกันสัญญาณได้อยู่แล้ว ไรงี้ป่ะครับ ...

พี่มีสาย a to mini b แหล่มๆ จะปล่อยไม๊ครับ 555

รอดูสาย usb ของคุณชูโอมารุ ไมเงียบหายไปเลยหว่า
หรือมันออกมาแล้วแต่ผมตกข่าว 555+

เงียบครับ ... เฮียเก็บไปใช้คนเดียวไม่แบ่งใครครับ .... (งอน)

a to mini b มันมีแบบดีๆ มั๊ยครับ
^
^
มีครับทุกยี่ห้อเลยมั้งครับ แต่ผมไม่ได้ใช้แบบนี้อยู่

------------------------

ตอนนี้ผมก็ 2 จิต สองใจ จะตบ Starlight หรือจะเอาเข้ากล่องแปลงเป็น Coax แล้วไปเล่น Coax ดีหว่า....แบะๆๆๆ
^
^
เล่น coax ดีกว่านะ ตาแพะ usb ผมใช้ต่อจาก com > onkyo doc เพื่อทีจะแปลงเป็น coax

สรุบว่า onkyo doc มันคุ้มมากๆอะ 555555

แล้ว concept ต่อมันเหมือน ต่อจาก uDAC ไหมอ่ะครับ
PC==>USB=>uDAC==>Coaxial==>AMP

ขอบคุณครับ

ต่อจาก com > onkyo doc เพื่อทีจะแปลงเป็น coax
---------------------------------------------------------------------

ทั้งชุดต่อแบบนี้หรือป่าวครับ

com -> usb -> onkyo -> coax -> dac -> rca -> amp -> phone

ถ้างั้นช่วง com -> usb -> onkyo ถ้าเปลี่ยนสาย usb ก็น่าจะเสียงดีขึ้นไปอีกนะ
ถ้าจะฟังเพลงจากคอมหนีไม่พ้น usb อยู่ดีใช่มั้ยครับ
ยกเว้นจะใช้พวก m2tech ที่มันเสียบตรงเข้า port usb แล้วแปลงให้เป็น coax เลย

ผมก็ว่าจะรอดูราคาของคุณชูโอเหมือนกันครับ เฮียช่วยออกมาชี้เป้าด้วยครับผม

แล้ว concept ต่อมันเหมือน ต่อจาก uDAC ไหมอ่ะครับ
PC==>USB=>uDAC==>Coaxial==>AMP

ขอบคุณครับ
^
^
ไม่เคยใช้ uDac ครับ แต่น่าจะเหมือนนะครับ

----------------------------------

ทั้งชุดต่อแบบนี้หรือป่าวครับ

com -> usb -> onkyo -> coax -> dac -> rca -> amp -> phone

ถ้างั้นช่วง com -> usb -> onkyo ถ้าเปลี่ยนสาย usb ก็น่าจะเสียงดีขึ้นไปอีกนะ
ถ้าจะฟังเพลงจากคอมหนีไม่พ้น usb อยู่ดีใช่มั้ยครับ
ยกเว้นจะใช้พวก m2tech ที่มันเสียบตรงเข้า port usb แล้วแปลงให้เป็น coax เลย
^
^
ทั้งชุดต่อแบบนั้นครับ 5555 วุ่นวายมาก 55555

ฟังจากคอมก็ usb or ตัวแปลง usb to coax, ถ้า sound card มี coax ก็จบจ้าาาาาาาา

ถ้าใช้สาย usb ที่เข้ากะ system เราที่สุดเสียงก็น่าจะดีขึ้นหละครับ เพียงแต่อาจจะไม่มากกว่าสายที่ผมใช้อยู่(หมายความว่าอาจจะไม่คุ้มกะเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มอะครับ)

กะว่าจะไปขอยืม สาย usb Wireworld Starlight สีแดงของพี่กวี และ สาย usb cardas ของพี่คณิตที่เพิ่งสั่งเข้ามามาฟังดูก่อนอะครับ ว่าผมจะฟังแล้วต่างกะ kimber usb ที่ผมใช้อยู่หรือเปล่า

จะได้ตัดสินใจถูกครับ 55555

วุ่นวายดีครับ 555+ ตอนนี้โต๊ะคอมที่บ้านก็สายอะไรไม่รู้โยงกันมั่วไปหมด

ไว้จะรออ่าน review บรรดาสายๆครับ อิอิ

กะว่าจะไปขอยืม สาย usb Wireworld Starlight สีแดงของพี่กวี และ สาย usb cardas ของพี่คณิตที่เพิ่งสั่งเข้ามามาฟังดูก่อนอะครับ ว่าผมจะฟังแล้วต่างกะ kimber usb ที่ผมใช้อยู่หรือเปล่า
...............
อย่าลืมยืมy-Whatของพี่คณิตมาลองด้วยครับ คุณตี๋

ตอบคุณ durian ครับ สาย Monster ที่ผมใช้มันก็มีไฟ LED ครับ ผมว่าคงจะไม่ปลอมหรอกครับ สบายใจได้ แล้วคุณ durian ได้ลองฟังดูรึยังครับว่าเสียงมันเป็นแบบที่ผมโม้เอาไว้รึป่าว??..ยังไงช่วยรายงานผลหน่อยก็ดีนะครับ....

คุณทศยยย์ครับ สาย USB ผมมีอยู่แค่ 3 เส้นเองครับ ขอเก็บเอาไว้สลับฟังเล่นแก้กลุ้มน่ะครับ....

คุณ Noize ครับ วันนี้ผมได้กลับไปอ่านกระทู้ของเราใหม่ตั้งแต่ต้นลงมาครับ เลยอดปลื้มใจไม่ได้ครับ ว่าเดี๋ยวนี้พวกเราไม่ได้ถามกันอีกแล้วเรื่องสาย USB ว่ามันมีผลกับเสียงจริงหรือปล่าว?? กลายมาเป็น ถามว่าสายเส้นไหนเสียงเป็นยังไง.... แหม!!! ผมดีใจจริงๆเลยครับคุณ Noize 555...


คุณดี๋เอาไว้ว่างๆมาลองยืมสายusb Wireworld Starlight ได้ครับ ไม่มีปัญหา...

ตอนนี้ผมก็ 2 จิต สองใจ จะตบ Starlight หรือจะเอาเข้ากล่องแปลงเป็น Coax แล้วไปเล่น Coax ดีหว่า....แบะๆๆๆ
---------------------------
คิดไม่ตกเหมือนกันเลยครับ ของผมออกแนวว่าถ้าต้องจ่ายเยอะ เอางบไปอัพสายสัญญาณหรือระบบไฟมันน่าจะเห็นผลกว่า แต่ก็อยากได้สาย digital ดีๆ ด้วยก็เลยยังไม่รู้จะขยับไปทางไหนดี อิอิ

คุณ Juicy ครับ ผมว่าสาย USB ถ้ายังเป็นสายแถมอยู่ก็ควรต้องเปลี่ยนก่อนครับเพราะว่ามันเป็นตัวต้นทาง แต่เอาเป็นแบบราคาพันกว่าบาทก็พอครับ สายแถมกับสายออดิโอเกรดมันแตกต่างกันเยอะอยู่ครับ แล้วหลังจากอัพสายสัญญาณหรือระบบไฟเสร็จ ถ้ามีงบเหลือค่อยมาว่ากันใหม่ครับ....
อย่างที่ผมบอกครับว่า จากสายพันกว่าบาทไปเป็นสายหลายๆพันมันจะแตกต่างกันน้อยลงครับ ไม่เหมือนกับตอนเปลี่ยนครั้งแรกครับ