Guest
หมวดหมู่ > ขายของมือสอง

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

ขายน้ำหอมใช้เองคะ **มีของใหม่เพิ่มนะคะ**

tamamajung

21/05/2016 17:53:45
0
IP : 171.101.167.186
น้ำหอมทุกตัวเป็นของแท้100% (นัดเจอที่ห้างเพื่อตรวจเช็คได้คะ ไม่แท้คืนเงิน10เท่าคะ)

**หนูเปลี่ยนเบอร์กับไลน์ใหม่นะคะ เนื่องจากโทรศัพท์หาย ลูกค้าเก่ารบกวนแอดใหม่ทีนะคะ**

โทร 080-6295928
Line ID >> kusuma_kk













Creed น้ำหอมแบรนด์ที่เรียกได้ว่าแพงมากแต่คุณภาพก็สมกับความแพงทั้งในเรื่องของกลิ่นที่หรูหรา ดูผู้ดีสุดๆ สามารถใช้ได้ทุกโอกาส และแถมติดทนนานมาก
(ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่านะคะ สมมุติน้ำหอมดีไซเนอร์ตามห้างบางตัวกลิ่นเบาหรือติดไม่ทน ทำให้อาจต้องฉีดทีครั้งละหลายสเปรย์ และอาจต้องฉีดเพิ่มในระหว่างวันเนื่องจากกลิ่นจางหายไป แต่สำหรับ Creed ฉีดครั้งเดียวสามารถอยู่ได้ 8ชม.ขึ้นไป หลายๆตัวก็12ชม.ขึ้น ทำให้น้ำหอมปริมาณเท่ากันแต่ Creed สามารถใช้ได้ยาวนานกว่าคะ แถมกลิ่นก็หรูหรา ไฮโซ แต่ใช้ง่าย ได้ทุกโอกาสเลย)

ขายดีมากจนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาพึ่งขึ้นราคาอีก 400฿ ทุกรุ่น โดยขวด 75ml ราคา 7,700฿ และ ไลน์ที่แพงที่สุด(Royal Exclusives line) ราคาขวดละ 25,700฿

ขายแบบทดลองและพกพา ขนาด 2.5 ml (พร้อมใบกระดาษแข็งการันตรีของ Creed) (ซื้อ30ขวด จะได้75ml ทั้งหมด 5,070 ซึ่งจะประหยัดไป 2,630 กว่าซื้อขวดใหญ่75ml 7,700฿ )

(Royal Exclusives line ไลน์ที่แพงสุด ราคาในshopไทยขวดละ 25,700) ขายขวดละ 219฿
1.Spice and Wood
2.Sublime Vanille

ขายหลอดละ 179฿
3.Silver mountain water
4.Aventus


ขายหลอดละ 169฿
5.Millesime imperial
6.himalaya
7.Green irish tweed
8.Virgin island water


1 Spice and Wood








http://www.fragrantica.com/perfume/Creed/Spice-and-Wood-10101.html

อยู่ในไลน์ที่แพงที่สุดของ Creed (Royal Exclusives line) วัตถุดิบที่ใช้สกัดเป็นน้ำหอมใช้วัตุดิบที่หายากและแพงมากๆคะ กลิ่นหอมแนววูดดี้จากไม้ cedar Patchouli Oakmoss(หญ้ามอส)ที่ให้กลิ่นที่สากแต่ชุมชื้น เลเยอร์ด้วยกลิ่นสโมกกี้จาก ต้น Birch ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำชาติรัสเซีย และผสมกลิ่นหอมด้วยความสไปซี่ของ Pepper และ Lemon apple bergamot(มะกรูด) ที่ให้ความหอมที่เย็นสดชื่น เติมเสน่ห์ที่แสนดึงดูดด้วยความหอมจาก musk ถ่ายทอดเป็นแนวกลิ่นที่น่าตื่นตาติ่นใจ และหรูหรา เป็นน้ำหอมที่ฝรั่งรีวิวว่าไม่สามารถได้กลิ่นนี้จากน้ำหอมราคาต่ำกว่า 10,000







2.Sublime Vanille

http://www.fragrantica.com/perfume/Creed/Sublime-Vanille-7024.html

อยู่ในไลน์ที่แพงที่สุดของ Creed (Royal Exclusives line) วัตถุดิบที่ใช้สกัดเป็นน้ำหอมใช้วัตุดิบที่หายากและแพงมากๆคะ กลิ่นตัวนี้หอมวนิลากลั้วกับมะนาว(Lemon)จางๆให้ความรู้สดชื่นแบบธรรมชาติ มีกลิ่นหอมหวานติด smoky จาก Tonka bean มี musk(สกัดได้จากต่อมเพศบริเวณเหนือยเครื่องเพศของกวางเพศผู้) ทำให้กลิ่นหอมสว่างไสวขึ้น อ่อนโยนขึ้น เซ็กซี่ขึ้น และกระตุ้นอารมณ์ได้มากขึ้น หอมหรูหรามาก ดูแพงสุดๆคะ เป็นน้ำหอมที่ฝรั่งรีวิวว่าไม่สามารถได้กลิ่นนี้จากน้ำหอมราคาต่ำกว่า 10,000 หอมมากๆคะ







3.Silver Mountain Water

http://www.fragrantica.com/perfume/Creed/Silver-Mountain-Water-472.html

รีวิวคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/10/review-creed-silver-mountain-water.html

ได้เวลาเล่นของสูงและแพง เพราะน้ำหอมแบรนด์นี้ราคาแบบว่าถ้าซื้อในไทยหรือเมืองนอกก็ใจหายไปอยู่ตาตุ่มกันเลยทีเดียว แค่ในไทยปัจจุบันมีเคาน์เตอร์ที่พารากอนแล้วขวด 120 ml ก็ล่อไป 8,500 หรือ 9,000 บาท (ไม่แน่ใจราคา) แล้วล่ะครับ แต่เห็นของแพงแบบนี้ คุณภาพสมกับความแพงที่สุดในเรื่องของกลิ่นจริงๆ

Silver Mountain Water: SMW มาพร้อมกับกลิ่นแนวคุณชายผู้ดีที่สุภาพ อ่อนโยน มาดดี ยิ้มง่าย เป็นผู้นำที่ดี มีคลาส และดูมีการศึกษาสุดๆ ถ้าเทียบกับ Series เรื่องสุภาพบุรุษจุฑาเทพ กลิ่นนี้อธิบายได้ถึงความเป็นคุณชายปวรรุจ (ที่โป๊ปเล่น) ได้ดีมากมาย เพราะกลิ่นจะเริ่มต้นกับความสดใสแบบ Citrus แต่หอมนุ่มนวลมาก แถมต่อเนื่องด้วยชาเขียวกลั้วกลิ่น Blackcurrant ที่สดชื่นเรียกรอยยิ้มได้ทันที และกลิ่นชาเขียวนี่แหละที่จะอยู่ยาวนานไปจนถึงช่วงเบส ที่จะหอมสะอาด เย็นๆ ด้วย Musk และพิมเสน กลิ่นนุ่มนวล ชวนฝัน สะอาดสะอ้าน ใส่ยังไงออร่าความเป็นผู้ดีออกทันที แถมกลิ่นที่ออกมาทั้งหมดนั้นธรรมชาติมาก เพราะแบรนด์นี้เน้นความเป็นธรรมชาติของกลิ่น โดยเน้นสกัดจริง พึ่งการสังเคราะห์กลิ่นค่อนข้างน้อย เช่นนั้น ทุกอณูของกลิ่นเลยทำให้คนใส่ดูดี ยกระดับ ออร่าบรรเจิด และดูอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ ครับ

เหมาะสำหรับ - ชายหนุ่มทุกผู้ทุกนาม ที่มีตังค์ซื้อ 55555 เพราะตัวนี้ใส่ได้ทุกสถานการณ์เลยทีเดียว แต่อาจจะไม่เหมาะนักกับการใส่ไปเตะบอล หรือใส่ผ้าขาวม้ากระโจนลงคลองว่ายน้ำเล่น ยิ่งใส่ไปทำงาน หรือไปงานทางการ รวมถึงไปเดินเล่นพักผ่อน ยังไงก็ชนะเลิศน้ำหอมแทบจะทุกกลิ่นของคนที่ใส่เดินสวนไปมาเลยทีเดียว

ความทน - มากกกกกกกกกกก เพราะเป็น EDP ของผู้ชาย เกิน 8 ชม. ขึ้นไปจนอาบน้ำนอนเลยล่ะครับ

การกระจาย - กระจายดีทุกช่วงเลย แต่โทนกลิ่นจะให้ไม่หนักหน่วงมาก จะดูมีคลาสตลอดศกที่ใส่ตัวนี้จริงๆ

ป.ล. อย่าคิดว่าผมซื้อขวดเต็มมา เพราะไม่ได้รวยขนาดนั้น ซื้อแบบแบ่งขายมาใช้เองครับ และเป็นอีกตัวของ Creed ที่ปลื้มมากเลยทีเดียว แพ้แค่ Aventus ลูกรัก ที่ผมหลงสุดๆ จนต้องซื้อขวดเต็ม ทุ่มไม่อั้นเลยทีเดียว







------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


4.Creed - Aventus








แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 10 ml เหลือ1ขวด ขวดละ 800 บาทคะ เผื่อใครอยากลองกลิ่น / หลอดทดลองขนาด 2.5ml หลอดละ 179 บาทคะ












รีวิวของพี่เข็มขัดสั้น

http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/review-creed-aventus.html

ได้เวลาของลูกรักที่สุดและแพงที่สุดจริงๆ เท่าที่เคยได้ซื้อน้ำหอมใช้มา ซึ่งคุ้มค่าเลยทีเดียวที่น้ำหอมตัวนี้จะเป็นหนึ่งในน้ำหอมที่ตัดสินใจไม่ผิดที่ทุ่มทุนมากขนาดนี้ เพราะหอมจริงอะไรจริง รวมถึงความหรูหราจัดเต็มมากมายกับ Creed Aventus ครับ

กลิ่นนี้นอกจากที่จะหอมแบบขาดใจ ยังใช้ง่ายมาก เป็นน้ำหอมที่ใครได้กลิ่นก็จะได้รับคำชมไม่ยาก ซึ่งส่วนตัวผมใส่ทุกครั้งได้รับคำชมทุกครั้งทั้งคนไม่รู้จักและคนที่รู้จักทั้งหลายเลยทีเดียว ให้อารมณ์แบบคุณชายที่สุภาพ ยิ้มง่าย ดูมีฐานะอย่างบอกไม่ถูก (ทั้งๆ ที่จริงๆ คนใส่น่ะจน 5555) ประมาณว่าถ้าเทียบกับ Series สุภาพบุรุษจุฑาเทพ กลิ่นนี้สามารถบอกตัวตนของ “คุณชายหมอพุฒิภัทร” ได้เลยทีเดียว เพราะความนุ่มนวล สุภาพ เสน่ห์จัดเต็มแบบไม่ต้องทำอะไรมากนิ่งๆ แต่เวลาตัดสินใจมีความเป็นผู้นำสูง รวมถึงทันสมัยสุดๆ ได้เลย

Top Notes มากับโทนกลิ่นที่ขาดลอยมากในด้านความหอมจรุงจมูก เพราะโทนสับปะรดเด่นมาก มีกลิ่นแบลคเคอเรนท์จางๆ กลั้วกับโทนซิตรัสเสริมทำให้ออกมากลิ่นหอมสดชื่นนุ่มนวลแทนที่ความสดชื่นแบบคมๆ ถึงขั้นฟินได้เลยเพราะกลิ่นผสมกันออกมาได้หอมแบบ Fruity ที่ไม่สาว แต่แมนและหรูหราได้ดีจริงๆ เพราะถ้าเป็นซิตรัสคมๆ อาจจะทำให้คนไม่ชอบเบือนหน้าหนีเพราะเสียดจมูกได้ นี่แหละที่ให้ความรู้สึกแบบเวลาหมอพุฒิภัทรยิ้ม มันสดใส และแฝงไปด้วยความนุ่มนวลมากจริงๆ ซึ่งโทนกลิ่นผลไม้จะตามมาที่ช่วง Middle Notes โดยเป็นฉากหลังให้กลิ่นของ Birch จัดเต็มในเรื่องของความหอมแบบเขียว นุ่ม และสดชื่น กลั้วไปกับพิมเสนที่ให้อารมณ์นิ่งๆ เย็นๆ และโทน Floral เบาๆ ที่ทำให้กลิ่นเข้าถึงง่าย หอมนวล มีคลาส เหมือนเวลาที่หมอพุฒิภัทรที่นิ่งมาดขรึม แต่จริงๆ เข้าถึงง่าย Nice และใจเย็น กลิ่นหล่อจริงจังเลยทีเดียวขอบอกกกกก! ยังไม่พอในช่วง Base Notes ได้เวลาจัดเต็มในเรื่องของกลิ่นที่สะอาดสะอ้าน มาดแมน อบอุ่น และจริงจัง เพราะการผสานกันของ Musk (สะอาด) Oak moss (มาดแมน) วานิลลา (อบอุ่น) หนัง (จริงจัง) เสริมด้วยอำพันทองที่ทำให้กลิ่นนุ่มนวล ทนและกระจายได้ดีมาก ทำให้ช่วงนี้บอกถึงความเป็นสุภาพบุรุษชัดเจน มีความเป็นผู้นำ แต่ยังคงความนุ่มนวลอยู่เสมอ กลิ่นโค-ตะ-ระชายในฝันมากน่ะครับ แบบที่หมอพุฒิภัทรแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ ความอบอุ่น ความจริงจังของตัวเองเอาชนะใจนางสาวศรีสยามอย่างกรองแก้ว ข้ามกำแพงแห่งชนชั้นและฐานะได้นั่นเอง

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศตั้งแต่วัยเรียนมหาลัยขึ้นไปครับ เป็นกลิ่นที่ใส่ไปแล้ว % การได้รับคำชมสูงมาก สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์และทุกช่วงเวลาเลยไม่ว่าจะใส่ทำงาน เดินห้าง พบปะผู้ใหญ่ ออกงานสำคัญอะไรก็ตาม กลิ่นเข้ากับชุดสูทมากเลยทีเดียว แต่ถ้าจะใส่กลิ่นนี้ออกกำลังกายก็พอได้แต่รอช่วงเบสก่อนจะดีกว่า ส่วนใส่เที่ยวกลางคืนก็ได้อยู่ครับ เพียงแต่กลิ่นดูไม่ค่อยเข้ากับสถานที่ดึ๋งดึง On the Floor เต้นแรงๆ อะไรเท่าไหร่นัก เน้นออกงานสังคมเต้นรำชวนฝันมากกว่าจะเต้นชะชะช่าตีลังกา 3 ตลบครับ

ความทน – มากกกกกกครับ 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ ส่วนตัวผมถึง 12 ชม. มาแล้วด้วยซ้ำไป

การกระจาย – กระจายดีมากในทุกๆ ช่วงเลย ถึงขั้นบางทีกลิ่นมาก่อนเป็นเมตรๆ เลยทีเดียว แถมค้างทิ้งไว้ยามคนที่ใช้เดินผ่านไปแล้วเสียด้วยซ้ำ และคง Concept สุภาพบุรุษนุ่มนวลได้ไม่มีผิดเพี้ยนตลอดตั้งแต่ต้นยันจบ มีช่วง Base ที่กลิ่นเบามาหน่อย แต่ก็ยังปล่อยของเต็มที่สบายๆ

ทิ้งท้าย – น้ำหอมตัวนี้ราคาไม่ใช่เล่นๆ แถมขึ้นราคาบ๊อยบ่อย จะแพงไปไหนเนี่ย ตอนนี้แพงกว่าแบรนด์ของสุลต่านประเทศโอมานที่ราคาสูงมหาโหดอย่าง Amouage ไปแล้วนะนั่น -_-“ แต่ของดีจริงครับ ถ้าใครเจอราคาที่ Paragon แล้วถอย แนะนำแบบแบ่งขายเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะได้ใช้ตัวนี้ เพราะผมก็ใช้แบบแบ่งขายมาก่อนที่จะทุ่มทุนสร้างกับขวดเต็มครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Afnan - Supremacy Silver (EDP)














ตัวนี้เป็น1ในตัวที่ทำกลิ่นได้เหมือนน้ำหอมสุดหรูและสุดแพงอย่าง Creed Aventus ที่สุดคะ (Creed Aventus แต่ละ Batch จะให้กลิ่นต่างกันคะ ซึ่ง Afnan ตัวนี้จะเหมือน Aventus ตัวที่กลิ่น Fruity เด่นคะ)

ขวด 100 ml ของใหม่ยังไม่ได้ใช้คะ จะขายตัวกล่องซีลที่ยังไม่แกะให้คะ ขาย 2,200 (Creed - Aventus ขวด75ml ก็ 9,200 แล้วคะ)

--> มีแบ่งขาย 10ml 2ขวด ขวดละ 250 บาท เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

**มีของลูกค้าฝากขาย 1 ขวดนะคะ ลองฉีดไป 3-4 สเปรย์ ขาย 1800 คะ**

ขออนุญาติยกรีวิวพี่เข็มขัดสั้นมาให้อ่านนะคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/12/review-afnan-supremacy-silver.html

ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยแม้แต่นิดเดียวว่า Afnan คืออะไร จนเมื่อวันหนึ่งมีคนบอกว่า Afnan รุ่น Supremacy Silver นี้แหละ คือตัวที่คล้าย Creed Aventus มากที่สุดเลยตัวนึง อ้าวงานนี้ก็สนสิจ้ะ เลยไปค้นหาข้อมูลไม่พอก็ขอสอยมาบ้างไรบ้างว่าแบรนด์จาก UAE แบรนด์นี้จะทำน้ำหอมออกมาเป็นยังไง

อุ๊ต่ะ! เปิดมานี่มัน Aventus จริงๆ ด้วยแหละแกร๊~ เพราะกลิ่นมาเลยจ้ากับความเป็นสับปะรด แอปเปิ้ลเขียว กับแบล็คเคอร์แรนท์ ล้อมด้วยกลิ่นโทนซิตรัส มันใช่เลย แต่! มันไม่ใช่ทั้งหมด เพราะกลิ่นเปิดนี่มีความเป็นผลไม้ชัดกว่า Aventus ที่จะมีกลิ่นของจูนิเปอร์เบอร์รี่และพิมเสนเด้งขึ้นมาล้อมตั้งแต่ช่วงนี้ ซึ่งตัวนี้ไม่ได้มีแบบนั้นเท่าไหร่ มันจึงกลายเป็นกลิ่นอายแบบสดชื่นของผลไม้เสียมากนั่นเอง แถมตามไปจนถึงช่วงท้ายๆ ของน้ำหอมเสียด้วย มันเลยมีความต่างจาก Aventus ออกมาบ้าง โดยในช่วงกลางกลิ่นอายของเปลือกเบิร์ธจะเด่นนำขึ้นมาให้โทนเขียวหอมนุ่มๆ และพิมเสนเริ่มมาบ้างแล้วแต่มาแบบกลางๆ กำลังดี ไม่ได้เด่นออกมามากนัก โทนกลิ่นดอกไม้อ่อนๆ ในช่วงนี้ก็มาแบบบางๆ เรียกว่าเป็นตัวสนับสนุนที่ดีของกลิ่นโทนผลไม้เสียมาก โดยกลิ่นจะมาแบบสดชื่นเย้าๆ กำลังดี มีความสดใสและขี้เล่นแฝงอยู่ในแบบที่ Aventus ไม่ได้มาในความรู้สึกแบบนี้ ในลักษณะโทนกลิ่นที่เหมือนกัน เพียงแต่ความเด่นของกลิ่นที่เป็นโทนหลักจะแตกต่างกัน เอาล่ะสิ งั้นมาดมต่อที่ช่วงท้าย ซึ่งใช่เลย เรารู้แล้วว่าอะไรคืออะไร กลิ่นเด่นนำขึ้นมาในช่วงนี้จะเป็นกลิ่นอายนุ่มๆ ติดเขียวกลั้วกลิ่นผลไม้จางๆ ที่ตามมาตั้งแต่ตอนต้น โดย Musk กับ Oak Moss จะคุมโทนหลัก และมีกลิ่นอายหอมนวลๆ ติดกลิ่นผิวกายนวลๆ อบอุ่นเบาๆ ซึ่งมาจาก Ambergris ตรึงไว้ให้มีความหรูหรากำลังดีเลย แต่สิ่งหนึ่งคือ กลิ่นที่ได้รับจะมีความใสสดชื่นเบาๆ แฝงอยู่ให้รู้สึกได้ไปตลอด จึงเป็นความเหมือนในรูปแบบที่เบาลงนั่นเอง

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป ก็สามารถใช้ตัวนี้ได้สบายๆ กลิ่นเรียกว่าหอมแบบสดชื่น ตามด้วยนวลๆ ปิดท้ายด้วยอบอุ่นโดยมีความสดใสในเนื้อกลิ่นแฝงไปด้วยตลอด ซึ่งสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ทั้งงานทางการที่ไม่ได้ถึงขั้นรับแขกบ้านแขกเมืองและไม่ทางการทั่วๆ ไปก็สามารถ เรียกว่ากลิ่นครอบจักรวาลได้เลยทีเดียว รวมไปถึงกลางคืนที่จัดได้สบายๆ เพราะเนื้อกลิ่นมันมีความขี้เล่นนี่แหละ

ความทน - อันนี้ต้องยกให้เขา เพราะเป็น EDP ที่กลิ่นทนถึง 8 ชม. สบายๆ และมากกว่านั้นเสียด้วยถ้าจำนวนสเปรย์ลงตัว

การกระจาย - เรียกว่ามีความดีงาม มาในลักษณะ Sillage Scent เช่นเดียวกับ Aventus เลยที่กลิ่นจะมาถึงก่อนคน คนไปแล้วกลิ่นยังอยู่ ต่อให้โต้ลมแค่ไหน กลิ่นก็ยังอยู่กับเรา เพียงแต่คนใส่จะไม่ค่อยได้กลิ่นจากตัวเองเท่าไหร่นักในช่วงต้นและช่วงกลาง หรืออาจจะได้กลิ่นชัดตามสภาพผิว มีช่วงท้ายๆ ที่จะลดระดับการกระจายมาแบบกลางๆ ที่จะเริ่มตีขึ้นให้รับรู้ จนค่อยๆ ลงไปเป็นออร่ารอบๆ ตัวจนหายไปจากผิว

สรุป - ใช่เลย มันคือ Aventus แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าจะให้มาอยู่ใต้ร่มไม้ชายคาด้วยการให้ตัวเทพเป็นตัวพ่อก็จะบอกว่านี้คือ Aventus ในรูปแบบที่วัยรุ่นขึ้น สดใสขึ้น ไม่ได้ออกทาง Smoky ติดกลิ่นอายคุณชายนุ่มนวลหรือทางการ และกลิ่นนวลเนียนเนี้ยบแบบที่ Aventus ทำได้นั่นเอง ที่สำคัญถ้าสั่งมาได้จาก ตปท. ราคาถูกกว่า Aventus เรียกว่าเกินครึ่งนะจ้ะ ขอบอกกกกกก!


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


5.Creed - Millesime Imperial








รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/05/review-creed-millesime-imperial.html


ขึ้นชื่อว่า “King of Citrus” ของน้ำหอม ชื่อนี้คงไม่ได้แต่ใดมา ถ้าไม่ดีจริงๆ ซึ่งแน่นอนว่าเป็น Creed จะมาหมูหมากาไก่ที่ไหนก็คงไม่ได้ ต้องมาเต็ม มาหรู มาไฮโซ และมาแบบมีคลาสมีระดับจัดเต็มแน่นอน ที่สำคัญถึงขั้นเป็นแรงบันดาลใจให้กับ Sean John Unforgivable และหลายๆ รุ่นเสียอีกด้วย เช่นนั้นมาเจอตัวพ่อกันหน่อยอย่าง Millesime Imperial ครับ

เพียงแค่ Top Notes ก็ต้องยกให้เขาล่ะครับ เพราะกลิ่นโทนผลไม้สดชื่นติดเปรี้ยวอมหวานมาเต็มมาก มีความฉ่ำๆ ของเมล่อนและมีโทนเหล้ารัมแบบใสๆ บวกกับกลิ่นอายเกลือสะอาดๆ กำลังดี กลิ่นช่วงนี้สดชื่นแบบหรูหราติดกรุ้มกริ่มแนวๆ คุณชายได้ดีมาก และพอเข้าสู่ช่วง Middle Notes งานนี้โทนซิตรัสของมะกรูด ส้ม เลมอนจะมาแบบใสสว่าง สดชื่นมากมาย โดยมีฐานรองพื้นด้านหลังคือกลิ่นโทนแป้งของดอกไอริสมาเสริม ทำให้กลายเป็นกลิ่นโทนสดชื่นที่ติดความเซ็กซี่กรุ้มกริ่มจางๆ โดยไม่เสียลุคผู้ดีคุณชายเจ้าเสน่ห์ไปตลอด ก่อนจะปิดท้ายที่ Base Notes งานสะอาดนุ่มต้องมา เพราะ Musk แบบนุ่มนวลเย้าเป็นระยะจะมากลั้วกับโทนวู้ดดี้อ่อนๆ ติดอบอุ่นกำลังดี ที่สำคัญกลิ่นโทนผลไม้กลั้วซิตรัสยังคงตามมาอยู่ เรียกว่ามาเรียกแขกให้ตลอด ส่งเสริมให้คนใส่ดูรวย มีรสนิยม ขี้เล่นก็ได้ สดชื่นติดทางการหรูหราก็ดี ชิลล์ๆ ก็เหมาะ คือ ยังไงก็มาเต็มแบบมีระดับเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ

เหมาะสำหรับ – จริงๆ น้ำหอมตัวนี้เป็น Unisex ครับ ใช้ได้ทั้งหญิงทั้งชาย แต่หลังจากใช้ผมเอนเอียงมาทางผู้ชายมากหน่อย เพราะกลิ่นมันดูสดใสและขี้เล่นติดหรูหรา อารมณ์ดีไม่น้อย แต่เอาเข้าจริงสาวๆ ใช้ได้สบายๆ แถมเพิ่มความหรูหรากับคนใส่ได้มากโขเลย ซึ่งสามารถใส่ได้ทั้งงานทางการและไม่ทางการ ได้ทุกสถานการณ์ทั้งกลางวันและกลางคืน บอกเลยว่าครอบจักรวาลมาก เพียงแต่มันจะเปลืองไปนะถ้าใส่ไปออกกำลังกาย เพราะมันแพงงงงง 5555

ความทน – อยู่ที่ 8 ชั่วโมง อาจจะมีบวกลบบ้างตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด ซึ่งส่วนตัวผมเจอ 10 ชั่วโมงเป็นเรื่องปกติของตัวพ่อตัวนี้ประจำ ฟินไปเลยยยยยย

การกระจาย – กระจายดีมากในช่วงต้น และจะลดมากระจายกลางๆ แบบหรูหรา ใครอยู่ใกล้ๆ ก็ฟินกับกลิ่นที่เข้าถึงได้ง่ายแบบมีระดับแบบนี้ไม่ยาก จนเป็นออร่ารอบๆ ตัวที่ยังตีขึ้นให้คนใส่รับรู้เสมอครับ

ทิ้งท้าย – สมกับฉายา King of Citrus ไม่มีผิดเพี้ยน แถมเป็นตัวพ่อที่เรียกว่างดงามเลยทีเดียวในความมีระดับและหรูหราในเนื้อกลิ่นที่เน้นสดชื่น แม้ว่าจะมีกลิ่นที่เอาไปเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งถ้าเทียบจริงๆ ก็ไม่ได้ออกทางเจ้าชู้จัดๆ แบบ Unforgivable และไม่ได้ออกทางวัยรุ่นใสๆ แบบ Love & Luck for Men แต่เป็นกลิ่นผู้ดีที่อารมณ์ดี กรุ้มกริ่ม สดชื่น และมีระดับหรูหราคาบเกี่ยวทุกอารมณ์แทน ซึ่งถ้ามีตังค์ก็จัดไป อย่าให้เสียนะคร้าบ

ป.ล. ทำไม Creed จะขึ้นราคาอีกแล้ว จะแพงไปไหนเนี่ย 5555555


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


6.Himalaya


http://www.fragrantica.com/perfume/Creed/Himalaya-465.html

ถือเป็นน้ำหอมที่ขายดีมากอีกกลิ่นของ Creed มาในขวดสีเงินทึบ บ่งบอกถึงความเย็น และมาในกลิ่นโทนสดชื่นแบบหรูหรา และแน่นด้วย ambergris สารหลั่งจากวาฬที่มีราคาสูง

Himalaya เป็นน้ำหอมโืืทน citrus woody ให้กลิ่นต้นของมะกรูด มะนาว ส้ม และเกรฟฟรุ๊ต โดยเนื้อกลิ่นนั้นออกทาง woody ตั้งแต่เริ่มแรกกันเลยทีเดียว มันไม่ youthful หรือใสเท่า Silver Mountain Water หากแต่มีความเป็นผู้ใหญ่นิดนึง ลองนึกภาพนักธุรกิจอายุราว ๆ 35 ใส่สูท หน้าตาดีใช้กลิ่นนี้ ในขณะที่ลูกน้องของเขา อายุ 30 ใช้ Silver Mountain Water โดยเนื้อกลิ่นของ Himalaya อาจจะบอกถึงตำแหน่งของคน 2 คนนี้ได้ ในความเห็นผมมันเป็นแบบนั้น Himalaya กลิ่นหรูหรากว่า

แม้ช่วงต้นจะเห็นกลิ่นอย่างมะกรูด มะนาว ส้ม แต่อย่าโยงไปถึงน้ำหอม citrus แรง ๆ อย่าง Eau d'Hadrien หรือ Eau de Sud ของ Annick Goutal เพราะ Himalaya มีโทนกลิ่นอากาศเย็น ๆ บนยอดเขาปนอยู่ ไม่ได้ออกมะนาว ส้ม และมะกรูดแบบนั้น

ช่วงกลางกลิ่น spicy ขึ้น แต่ยังคงความใสเย็นอยู่ เย็น ๆ เชิง metallic นิด ๆ

ช่วงเบสเข้าทาง house note อันโด่งดังของ Creed กลิ่นนั้นเนียน แน่น อบอุ่นหน่อย ๆ ไปกับ ambergris หรือที่รู้จักกันในนาม อำพันทอง ซึ่งมากับมัสก์และ tonka beans

Himalaya เป็นน้ำหอม unisex ที่เข้าถึงง่ายมาก ให้กลิ่นประเภทที่เรียกคำชมได้ไม่ยากพอ ๆ กับกลิ่นอื่น ๆ จาก Creed ที่กล่าวถึงด้านบนไปแล้ว

ใช้ได้กับหลายสถานการณ์ ทำงาน เข้าประชุม ออกงานหรู งานแต่ง เดินเที่ยวเล่น และออกเดท เป็นน้ำหอมที่เข้าถึงทุกโอกาส








------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


7.Creed - Green Irish Tweed




















- ขวดใหญ่สุด 120ml เหลือปริมาณตามยางรัด(ประมาณ35%) ราคาห้าง 8,700 ขอขาย 2,900 คะ

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/07/revire-creed-green-irish-tweed.html

บอกเลย! นี่คือตัวพ่อของ Davidoff Cool Water ที่ฮอตฮิตเหลือแสนเพราะเมื่ออยู่ในที่สาธารณะอย่างน้อยต้องได้กลิ่นไม่ต่ำกว่า 3 คนเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่หรูหว่า มีระดับกว่า และกลิ่นให้คุณภาพและความสุดยอดมากกว่า และเกิดขึ้นมาก่อน Cool Water คงต้องยกให้ตัวพ่ออย่าง Creed ที่เกิดขึ้นมาก่อนและราคาสูงมากเลยทีเดียวกับรุ่นนี้ครับ Green Irish Tweed

อย่างที่บอกข้างต้นว่าเป็นตัวพ่อของ Cool Water โดยเป็นน้ำหอมที่กลิ่นใกล้เคียงกันมากก็จริง แต่มาในลักษณะที่ไม่ได้ออกทางน้ำทะเลแบบตัวฮิตของ Davidoff แต่มาในแบบ Woody Floral Musk ที่มีชั้นเชิงและกลิ่นนุ่มนวลเนียนมีระดับสุดๆ เพราะ Top Notes จะมาในโทนของซิตรัสให้ความสดชื่นติดเขียวอย่างชัดเจนอย่างใบเวอร์บีน่าที่กลิ่นคล้ายมะนาวกับเลมอน ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้จะหอมสดชื่นอย่างมีระดับเพราะมีโทนไม้หอมรองพื้นด้านหลัง กลิ่นมีความซ่าออกทางเขียวๆ แบบสมุนไพรกำลังดีและหรูหรากันตั้งแต่ตอนต้น โดยไม่มีโทนน้ำทะเลแบบ Cool Water มาให้ลำบากใจในการแยกกลิ่นเพราะในความเหมือนมันมีความแตกต่างชัดเจนก็ตรงนี้ จนเมื่อเข้า Middle Notes กลิ่นสดชื่นของซิตรัสติดเขียว ยังคงอยู่แต่จะมาผสานกับโทนแป้งดอกไม้ ที่ยกให้ดอกไอริสและใบไวโอเล็ตที่มาทำให้เป็นโทนแป้งหอมสดชื่นติดเขียวรับช่วงต่อได้อย่างกลมกลืน กลิ่นมีระดับไล่เรียงแบบนวลเนียนมาก และให้ความสดชื่นแบบหรูหราคาบเกี่ยวความเป็นทางการได้อย่างลงตัว ก่อนจะปิดท้ายที่ Base Notes ซึ่ง Signature ของ Creed จะมากันในช่วงนี้กับกลิ่นของอำพันทอง (Ambergris) ที่จะให้ความรู้สึกแบบผิวกายติดกลิ่นเค็มหน่อยๆ กลั้วกับ Musk ที่มาให้ความสะอาดนุ่ม โดยโทนไม้หอมที่รองพื้นมาตั้งแต่ตอนต้นจะชัดเจนแบบกำลังดีในช่วงนี้ไปด้วย กลิ่นผสานกันจะเป็นโทนสดชื่นและสะอาดแบบนุ่มนวล มีความบางเบาแต่ไม่หายต๋อม ซึ่งภาพรวมทั้งหมดบ่งบอกถึงความเป็นสุภาพบุรุษที่สดชื่นและหรูหรามีระดับสูงมาก โดยไม่ละทิ้งความเป็นธรรมชาติของกลิ่นที่นวลเนียนเลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้่นไป ซึ่งกลิ่นใช้ง่าย เข้าถึงง่ายแน่นอน สามารถใส่ได้ในทุกๆ สถานการณ์ยามกลางวันทั้งทางการและไม่ทางการ กลิ่นให้ทั้งความสดชื่นและน่าเชื่อถือ เพราะเนื้อกลิ่นมันมีระดับสูงมาก ส่วนใส่กลางคืนกับอากาศบ้านเราก็เข้าทีไม่น้อย แต่ถ้าใส่ไปเที่ยวเคล้าแอลกอฮอล์ก็ได้อยู่ครับ แต่มันไม่ได้ออกทางยั่วยวนก็เท่านั้นเอง

ความทน - บอกเลยมาเต็ม 10 ชม. กลิ่นยังตีขึ้นให้รับรู้ ยิ่งถ้าร่างกายทำความร้อนกลิ่นจะตีขึ้นแบบที่ปลื้มไปเลยล่ะครับ

การกระจาย - นี่คือ Sillage Scent เพราะเน้นกระจายออกรอบตัวสร้างความหอมและรื่นรมย์ให้ผู้อื่นได้มาก ดมที่ผิวอาจจะ แต่กลิ่นออกเข้ม กลิ่นที่กระจายออกไปคือสดชื่นเขียวๆ นุ่มนวลแบบมีระดับ เรียกว่ากระจายดีทั้ง 3 ช่วง มีช่วงท้ายที่ลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวเป็นหลัก

ทิ้งท้าย - พูดง่ายๆ Cool Water เด็กไปเลยถ้าเจอตัวพ่อตัวนี้ เพราะมาเต็มด้านการมีดีเต็มเหนี่ยวกว่าเยอะ รวมถึงราคาที่ต้องขอยาหอม ยาดม ยาลม และยาหม่องไปด้วยเลยล่ะครับ เพราะแพงจริงอะไรจริง 5555555


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


8.Virgin Island Water







http://www.fragrantica.com/perfume/Creed/Virgin-Island-Water-899.html

รีวิวคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/review-creed-virgin-island-water.html

ได้เวลาของความเรียบหรูดูผู้ดีกับน้ำหอมแบรนด์ที่เรียกได้ว่าแพงแต่คุณภาพก็สมราคาอย่าง Creed อีกครั้ง ซึ่งคราวนี้จะมาไฮโซกลับกลิ่นที่ออกทางการท่องเที่ยวเกาะแบบหรูหราพักผ่อนแบบชิลล์ๆ ท่ามกลางอากาศอบอุ่นสุดๆ อย่าง Virgin Island Water กันครับ ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน

ต้องบอกกันเลยว่าใครที่ชอบมะพร้าว น้ำหอมตัวนี้จะให้อารมณ์มะพร้าวที่หรูหรากำจายมาก เพราะเปิดต้นกลิ่นกันด้วยกลิ่นของจาวมะพร้าวที่ทั้งหอมหวานและฉ่ำน้ำเลี้ยงสุดๆ โดยจะมีกลิ่นซิตรัสมาตัดให้ออกทางสดชื่นใสๆ มากขึ้น ได้อารมณ์วันฟ้าใสบนรีสอร์ทหรูหราขาดใจริมทะเลมากๆ ซึ่งกลิ่นมะพร้าวจะยังคงอยู่ไปจนถึงช่วงท้ายๆ เลยทีเดียว โดยในช่วงหัวใจหลักของน้ำหอมกลิ่นเชิงดอกไม้อ่อนๆ จะเริ่มมาเสริม แถมด้วยความสดชื่นจากขิงเข้าไปอีกดอกทำให้ช่วงนี้เป็นช่วงเบาสบายและหรูหราแบบใส่ชุดขาวใส่แว่นดำเดินเล่นพร้อมจิบน้ำมะพร้าวดูวิวทิวทัศน์ของทะเลชัดเจน และเมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายที่จะติดผิวไปตลอดมะพร้าวจะเริ่มจางลงเป็นฉากหลังให้กับกลิ่นน้ำตาลหอมหวานเบาๆ บวกกับเหล้ารัมเย้ายวนกำลังงามและ Musk ที่สะอาดสะอ้านนุ่มนวล ราวกับจิบค็อกเทลรัมมะพร้าวเบาๆ ท่ามกลางอากาศอบอุ่นบนเกาะ ซึ่งเป็นกลิ่นที่ฟินมากบนพื้นฐานที่หรูหราตามสไตล์ของ Creed แต่เข้าถึงง่าย ได้อารมณ์สีขาวตัดกับสีฟ้าตลอดเวลาที่ได้กลิ่นเลยครับ

เหมาะสำหรับ - ทุกเพศทุกวัยเลยครับ เพราะน้ำหอมตัวนี้เป็น Unisex ที่เข้าถึงได้ง่ายแบบชิลล์ๆ หรูๆ ริมทะเล (ที่ไม่มีกลิ่นคาวทะเลมารบกวนใจ) สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะไปเรียน ทำงาน เที่ยวทะเล เที่ยวทั่วๆ ไปแบบติดหรู แต่ออกกำลังกายอย่าใส่เลยครับ มันแพงไปนะ 55555 ที่สำคัญใส่ไปเที่ยวกลางคืนได้สบายๆ แต่กลิ่นมันจะหรูหน่อย และไม่ได้เย้ายวนอะไรมากขนาดนั้น ออกแนวเหมาะกับการใส่ไปจิบเหล้าตามบาร์ที่อยู่ในโรงแรม 5 ดาวมากกว่าครับ

ความทน - 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ กับน้ำหอมของ Creed

การกระจาย - กลิ่นกระจายได้ดีมากในตอนต้นได้อารมณ์มะพร้าวใสๆ กันเลยทีเดียว ก่อนจะลดระดับมาเรื่อยๆ เป็นกำลังดีคนรอบข้างยังได้กลิ่นอยู่จนกว่าจะหายไปจากผิว


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Thierry Mugler - Mugler Cologne








ฝรั่งและนักรีวิวทุกคนต่างบอกว่าตัวนี้คือโคลนนิ่ง Creed - Original Vetiver ซึ่งลองใช้แล้วก็ใกล้เคียงกันจริงๆคะ ในราคาที่ต่างกันหลายเท่า และเป็น1ในน้ำหอมที่ถูกโหวตให้เป็น "ฺbest of green scent" ซึ่งเหมาะกับอากาศร้อนๆมากๆ ฉีดปุ๊บรู้สึกสดชื่น สะอาดปั๊บเลยคะ **แต่ที่พิเศษสุดคือตัวนี้สามารถฉีดผสม(หรือที่เรียกกันว่า Layer)กับน้ำหอมกลิ่นอื่น โดยเฉพาะตัวที่กลิ่นเข้ม หวาน หรืออบอุ่น ทำให้ออกมาเป็นกลิ่นใหม่ที่หอมขึ้นได้ด้วยคะ วิธีการคือฉีดน้ำหอมตัวหลักก่อนแล้วก็ฉีดตัวนี้ทับลงไปคะ**

มี 2 ขวดนะคะ
1) ขวดใหม่ 100ml ขาย 2,000
2) ขวด 75ml เหลือปริมาณตามรูป(ประมาณ35%) ขาย 390 คะ
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 130฿ และ 10ml 230฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/03/review-thierry-mugler-mugler-cologne.html

เปิดต้น Top Notes กันได้แบบว่ากระจ่างใส สดชื่น สะอาดได้ใจมากกับกับกลิ่นโทนซิตรัสติดเขียวๆ ของใบส้ม ดอกส้ม และมะกรูด แบบว่ามาเต็มในแบบที่กลิ่นคมกำลังดี ไม่ได้แหลมเฟี้ยวมากเกินไป กับอิทธิฤทธิ์ของดอกส้มที่จะมาทำให้กลิ่นนุ่มลงมา เหมือนกลิ่นสดชื่นขณะอาบน้ำท่ามกลางธรรมชาติสุดๆ และเมื่อเข้า Middle Notes งานนี้ดอกส้มมาเต็มมากกกกก โดยจะมีกลิ่นโทนสบู่หอมสะอาดรองพื้นอยู่ตลอดเวลาทำให้กลิ่นนี้ออกแนวสะอาดนุ่มๆ แต่เซ็กซี่อ่ะ คือ เหมือนคนอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ เดินตัวเปียกๆ ออกมาจากห้องน้ำกลิ่นสดชื่นแบบนุ่มๆ ของสบู่ติดผิวกาย แล้วทำตาเชื่อมๆ เซ็กซี่เอียงอายราวกับบอกว่า ?#อยากเห็นคนแก้ผ้าไหม? อย่างไงอย่างงั้น ซึ่งกลิ่นโทนนี้จะเด่นไปจนสุดท้ายเลยทีเดียว โดย Base Notes จะเพิ่มความนุ่มของ White Musk เข้าไปอีก ทำให้กลิ่นจะนุ่มนวลสะอาดอยู่ตลอด แบบใส่เสื้อผ้านั่งชิลล์ๆ สบายๆ ให้อีกฝ่ายมาดมชื่นชมความสะอาดหรือพาไปร่อนนอกบ้านอย่างรื่นรมย์เลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - Unisex ขาดใจ เพราะเป็นกลิ่นหอมสดชื่นอย่างเป็นธรรมชาติที่เข้าได้กับทุกเพศ สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ในยามกลางวัน เพราะถือว่าเป็น Safe Scent ที่แฝงด้วยความเซ็กซี่กำลังดีงาม และใครได้กลิ่นก็สบายๆ ชิลล์ๆ สดชื่นไปด้วย ส่วนกลางคืนถ้าอากาศร้อนๆ อยู่กลางแจ้ง หรือสถานการณ์ทั่วๆ ไปก็ใส่ได้สบายๆ ครับ

ความทน - แม้จะเป็น Cologne แต่ก็ทนดีเลย ประมาณ 6 - 8 ชั่วโมง อยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น และจะลดระดับมากระจายกลางๆ จนถึงการเป็น Skin Scent ในช่วงท้ายๆ ที่ถ้าร่างกายทำความร้อน จะมีกลิ่นสบู่ดอกส้มสดชื่นตีขึ้นให้รับรู้ได้ไม่ยาก

ทิ้งท้าย - เอาไปเลยดีกว่ากับคำว่า #ของดีเทคนิคไม่ต้อง ของเขาดีจริงๆ และเหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อนมากๆ ของบ้านเราเลยล่ะครับ











ความคิดเห็นที่ : 1

tamamajung

21/05/2016 17:55:34
0
IP : 171.101.167.186







Chanel - Allure Homme Sport Eau Extreme EDP








ขวด 100 ml เหลือประมาณ 75-80% ขาย 2,500 คะ (ตัวนี้เป็น EDP ความทนและความแน่นของกลิ่นจะมากกว่ารุ่น Allure Homme Sport นะคะ)

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/review-chanel-allure-homme-sport-allure.html

น้ำหอมยอดนิยมสุดๆ ในโทน Sport จะเน้นโทนนุ่มๆ ครีมมี่ติดหวานเป็นหลักครับ โทนกลิ่นไม่ได้แตกต่างจาก Allure Homme Sport แต่จะได้ความหวานนุ่มนำเด่นมากกว่าความสดชื่น Top Notes เปิดกันขึ้นมาไม่ต่างจากต้นฉบับ เพราะกลิ่นส้มยังเด่นอยู่แต่จะมีโทนสดชื่นของมินท์ และกลิ่นเขียวสะอาดนิดๆ ของ Cypress (สนชนิดหนึ่ง) มาเสริมแทนที่จะเป็นซิตรัสแบบรุ่นปกติ ถือว่าปรับส่วนผสมให้แน่นขึ้น โดยไม่ทิ้งความสดชื่นแบบหวานอมเปรี้ยวที่ยังคงเป็นลายเซ็นของ Allure Homme Sport อยู่ ซึ่งกลิ่นในช่วง Top จะตามมาเป็นฉากหลังใน Middle Notes เสริมกับกลิ่นโทนสดชื่นแบบ Spice ของพริกไทยได้ดีมาก กลิ่นไม่ได้แตกต่างจาก Allure Homme Sport ปกติเลยยังให้ความหรูหราเต็มๆ อยู่และคงความ Sport ในเนื้อกลิ่นอยู่ ก่อนที่ Tonka Bean จะดันขึ้นมาเด่นจัดๆ เปลี่ยนถ่ายมาเป็น Base Notes ที่จะนุ่มละมุน ครีมมี่ ดูชวนฝัน และหวานติด Sport มากขึ้น มีโทนสะอาดและอบอุ่นเช่นเคยของ Musk และวู้ดดี้ ทั้งหมดให้อารมณ์เดียวกันกับ Allure Homme Sport เพียงแต่เพิ่มความหวานอบอุ่นลงไปมากขึ้นครับ



------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Chanel – Bleu De Chanel








ขวด 100 ml ตีต่ำๆเหลือประมาณ 75% ขาย 2,400 คะ

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/01/review-chanel-bleu-de-chanel.html

คนที่ใช้น้ำหอมหรือเล่นน้ำหอมกันมานักต่อนัก ต้องรู้จักตัวนี้เป็นแน่แท้ เผลอๆ ใน 1 สัปดาห์ ต้องได้กลิ่นน้ำหอมรุ่นนี้ของ Chanel อย่างน้อย 1 ครั้งจากบุคคลอื่นที่ใส่น้ำหอมตัวนี้ เพราะเป็นที่นิยมไม่น้อยเลยทีเดียวในความเป็นกลิ่นคนเมือง ที่มีความเมโทรทันสมัยในตัวเองสูง เผลอๆ คนชอบกลิ่นนี้พอๆ กับรุ่น Allure Homme Sport เลยเสียด้วยซ้ำไป เช่นนั้นมาคุยถึงรุ่นนี้กันครับ Bleu De Chanel

เปิดต้นกลิ่นก็ปล่อยของกันเลยทีเดียวกับโทนซิตรัสเย็นๆ กับความเป็นเกรฟฟรุตและเลม่อนกลั้วกับมิ้นท์ให้ความสดชื่นแบบมีชั้นเชิงเพราะแอบเข้มเท่ห์ Modern โดยไม่ได้คล้ายกับกลิ่นสดชื่นทั่วไปในตลาดเลย ซึ่งถ้าคนดมแล้วไม่ชอบช่วงต้น อาจจะพลาดโอกาสบางอย่างไปพอสมควร เพราะกลิ่นที่เหลือนี่แหละมันทำให้ตัวนี้เป็น Top Class ตัวนึงในน้ำหอมแบบ Mass Market ที่มีระดับมาก เพราะช่วงกลางความสดชื่นเย็นๆ กลั้วความหวานจางๆ ของขิงจันทน์เทศและพริกไทยสีชมพู จะมาผสานกับกลิ่นมะลิที่ทำให้ดูอ่อนโยน แต่แมนขรึมด้วยโทนวู้ดดี้รองพื้น ทำให้กลิ่นมีมิติมากเลยทีเดียวและสื่อชัดเจนถึงผู้ชายทันสมัยได้ชัดเจน จนเมื่อถึงช่วงท้ายคราวนี้ได้เวลาของความเย้ายวนแบบเมโทรที่ไม่ได้มาชวนกันโต้งๆ มาแบบเงียบๆ แต่โดดเด่นด้วยกลิ่นเชิงธูปหอมผสานกับพิมเสนที่ไม่หนักหน่วง โดยแอบจับได้ว่ามีหญ้าแฝกมาตัดลดความหนักหน่วงของทำให้กลิ่นนี้ไม่กลายเป็นกลิ่นที่ออกหลอน แต่มาเป็นกลิ่นที่เย้ายวนแบบทันสมัย มีความแมนในเนื้อกลิ่นแบบผู้ชายมั่นใจในตัวเอง นี่แหละผมจึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนถึงชื่นชอบน้ำหอมรุ่นนี้ของ Chanel กันมาก เพราะมันสื่อถึง Lifestyle ในแบบผู้ชายปัจจุบันที่หันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้นนั่นเอง

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป กลิ่นใช้ได้ในทุกสถานการณ์ทั้งยามกลางวันและกลางคืน ครอบจักรวาลเลยทีเดียว แถมสร้างลุคแบบผู้ชายดูแลตัวเองได้ดีมากเลยล่ะครับ

ความทน – ประมาณ 8 ชม. เป็นเรื่องปกติ ซึ่งอยู่ที่จำนวนสเปรย์ และจุดที่ฉีดด้วยเป็นสำคัญ

การกระจาย – กลิ่นกระจายได้ดีเลยทีเดียวในช่วงต้นและกลาง ให้คนอื่นรอบตัวรับรู้ถึงเสน่ห์และความ Modern ที่คนฉีดเป็นได้ดีมาก พอมาในช่วงท้ายๆ กลิ่นจะลดการกระจายลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวหอมกำลังดี


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Chanel - Allure Homme Edition Blanche EDP







ขวด 100 ml เหลือประมาณ 95% ขาย 2,900 คะ (ตัวนี้เป็น EDP ความทนและความแน่นของกลิ่นจะมากกว่ารุ่น EDT นะคะ)

ได้รับการพูดถึงมากทีเดียวสำหรับ Allure Homme Edition Blanche กลิ่นเด่นที่สุดในช่วง 2 ช.ม. แรกน่าจะเป็นมะนาวครับ ไม่ใช่มะนาวแบบบ้านเรานะครับ อันนั้นเรียกว่า lime แต่นี่คือ Lemon หรือมะนาวเมืองนอกนั่นล่ะครับ แต่กลิ่นไม่ได้ใส ๆ แบบน้ำหอมที่เด่นด้วยกลิ่นโทน citrus เนื่องจากรุ่นนี้มีพื้นเพมาจาก Allure Homme กลิ่นจึงออกทาง oriental หน่อย ๆ

กลิ่น citrus มาแบบ creamy นุ่มนวลต่อจมูก ส่วนผสมได้รับการคัดสรรแล้ว เชื่อใจ Jacques Polge ได้เลยครับ เขาไม่ทำให้ Chanel เสียชื่อแน่นอน ผ่านช่วงต้นมาแล้ว กลิ่นก็ยังมีโทน citrus ให้จับได้อยู่ เมื่อรวมตัวกับกลิ่นแน่น ๆ ของพวกเครื่องเทศและกลิ่นโทนอบอุ่นอย่างวานิลลาและแอมเบอร์ น่าจะเห็นได้ถึงความซับซ้อนนะครับ หนึ่งคือสดชื่น สองคือ sophisticated ไปกับ spicy notes และสาม อบอุ่นกำลังดีกับวานิลลา แอมเบอร์และไม้ซีดาร์

กลิ่นทนมาก กระจายดี ให้ความรู้สึกทันสมัย ดูหรูหรามีการศึกษา

ใส่ไปทำงานจะดีมากครับ ยิ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้ายิ่งเหมาะครับ ถือเป็นกลิ่นผู้นำเทรนด์ความทันสมัยของสังคมเมืองอย่างแท้จริง


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------








Thierry Mugler - A*Men Pure Malt








http://www.fragrantica.com/perfume/Thierry-Mugler/A-Men-Pure-Malt-6103.html

แบรนด์และตระกูลสุดรักของพี่เข็มขัดสั้นเลยคะ ตัวนี้เป็นลิมิเต็ททำออกมาในปี 2009 นะคะ ปีต่อไปก็ไม่ทำแล้วคะ หายากมากๆคะ เป็นตัวที่ถูกโหวตให้เป็นอันดับต้นๆของน้ำหอมผู้ชายที่ทำออกมาได้ดีที่สุดเลยคะตัวนี้ รีวิวในYoutube และในอินเตอร์เน็ตชื่นชมตัวนี้ทุกคนเลยคะ

- ขวด 100 ml ของใหม่ ยังไม่แกะกล่องนะคะ (ในรูปเป็นตัวของหนูเองคะ) ขาย 3,500฿
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 220฿ และ 10ml 400฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2014/10/review-thierry-mugler-amen-pure-malt.html

หนึ่งในน้ำหอมขั้นเทพ ที่เป็น Flanker ของตัวเทพสุดอย่าง A*Men ปกติ ที่กลิ่นจะพร้อมเรียกแขกยามค่ำคืนได้ไม่ยาก ใช้ง่ายกว่าต้นฉบับ แถมดูมีคลาส Chic เซ็กซี่ และคาสโนว่าสุดๆ ต้องเป็นตัวนี้เลย A*Men Pure Malt

เพราะเปิดต้นกลิ่นมาก็เป็นกลิ่นแนวผลไม้รวมที่ให้อารมณ์ Fruity สุดๆ มีกลิ่นอายสดชื่นก็จริง และมันดูขี้เล่นกรุ้มกริ่มไม่หยอก พอเข้าช่วง Middle เท่านั้นแหละ ได้เวลาของ Malt กันแล้ว เพราะกลิ่นที่ได้คือกลิ่นวิสกี้ ที่ผสานกับกลิ่นแนวๆ Woody ได้หอมเซ็กซี่ ดูมีสกุลรุนชาติขึ้นมาทันที ซึ่งกลิ่นนี้แหละบ่งบอกถึงอารมณ์แห่งการเป็นคาสโนว่าที่หล่อเลือกได้ แค่เพียงกลิ่นลอยไปปะทะจมูกใครซักคน โดยจะมีกลิ่นผลไม้บางเบาเป็นฉากหลังเสริมทำให้เกิดอารมณ์ Chic กำลังดีแถมให้อารมณ์ผู้ชายคนนี้มันหล่อจังเลย และกลิ่นวิสกี้นี่แหละที่จะมารวมตัวกันกับช่วงเบสอย่างกลิ่นแนวๆ Oriental เครื่องเทศที่ไม่หนักหน่วงนัก มีโทนวานิลลาอยู่พอประมาณ แต่ที่เด็ดดวงที่ทำให้เกิดอาการผู้ชายคนนี้มาดแมน เซ็กซี่ เร้าใจอย่างบอกไม่ถูก โดยไม่ต้องถอดเสื้อผ้าก็ถือกลิ่นถ่านหินที่สะอาดๆ นี่แหละ ความเก๋มันอยู่ตรงนี้

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายวัยทำงานครับ เป็นน้ำหอมที่ใส่ยามกลางคืนไปเที่ยวก็ได้ หรือออกงานกลางคืนก็เสริมออร่าเซ็กซี่ได้ไม่หยอก จริงๆ ก็ใส่ยามกลางวันได้ครับ เช่นเที่ยวห้างเดินเล่นแบบหรูๆ หน่อย แต่ถ้าใส่ไปทำงานอย่าฉีดเยอะ เดี๋ยวจะดูออกแนวเซ็กซี่เกินไปนักครับ

ความทน - มากกกกกกกกกกกก เกิน 8 ชั่วโมงขึ้นไป กลิ่นวิสกี้ตีขึ้นให้ฟินตลอด

การกระจาย - กระจายดีมากในช่วง Top และ Middle กลิ่นจะเย้ายวนกำลังดี และหรูหรา แต่ช่วงเบสจะออกแนวกลิ่นออร่ารอบๆ ตัวแบบเท่ห์ๆ มากกว่า

เป็นอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจในโซนของน้ำหอมโทนกลิ่นเหล้าที่ไม่ได้ทำให้ดูเป็นคนขี้เมาแต่อย่างใด แต่ทำให้ดูว่าคนๆ นี้ช่างมีรสนิยมดี๊ ดี ดูรวย ใส่แล้วระวังงานเข้าต้องออกกำลังกายยามค่ำตคืนหน่อยนะครับ คุณผู้ชาย ฮี่ฮี่


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Thierry Mugler - A*Men Pure Havane








http://www.fragrantica.com/perfume/Thierry-Mugler/A-Men-Pure-Havane-11444.html

แบรนด์และตระกูลสุดรักของพี่เข็มขัดสั้นเลยคะ ตัวนี้เป็นลิมิเต็ททำออกมาในปี 2011 นะคะ ปีต่อไปก็ไม่ทำแล้วคะ หายากมากคะ เป็นตัวที่ถูกโหวตให้เป็นอันดับต้นๆของน้ำหอมผู้ชายที่ทำออกมาได้ดีที่สุดตัวนึงเลยคะ รีวิวในYoutube และในอินเตอร์เน็ตชื่นชมตัวนี้ทุกคนเลยคะ

- ขวด 100 ml ของใหม่ ยังไม่แกะกล่องนะคะ (ในรูปเป็นตัวของหนูเองคะ) ขาย 3,000
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 170฿ และ 10ml 330 ฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2014/12/review-thierry-mugler-amen-pure-havane.html

นี่คือหนึ่งในตัวที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดตัวนึงเลยทีเดียวกับในการเป็น Flanker ของโซน A*Men ที่จัดเต็มกับการบอกถึงต้นตำรับที่ยังคงความเซ็กซี่เย้ายวนอยู่เบื้องหลัง แต่โดดเด่นเป็นสง่าในแง่ของการเป็นตัวเองอย่างชัดเจน ซึ่งถือว่าเป็นรุ่น Limited Edition ที่คนรักน้ำหอมแบรนด์ Thierry Mugler ไม่ควรจะพลาดกับรุ่นนี้ครับ A*Men Pure Havane

เปิดตัวด้วยความเป็นยาสูบหอมๆ ราดด้วยน้ำผึ้งชุ่มๆ กลิ่นมีเสน่ห์แบบภูมิฐานมากมายกันตั้งแต่เริ่มต้น ให้ความรู้สึกเย้ายวนในแบบสุภาพบุรุษที่ซ่อนคมและหวานลึกลับกันเลทีเดียว ซึ่งกลิ่นของยาสูบและน้ำผึ้งนี้จะตามติดไปจนถึงช่วงท้ายๆ ของน้ำหอมเลย โดยเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางก็ได้เวลาของความเป็น A*Men ที่เข้ามาทำหน้าที่แทน โดยกลิ่นของต้นจะกลายเป็นคนเบื้องหลังที่ปล่อยกลิ่นให้รู้สึกบางๆ ตลอด ให้กลิ่นของวานิลลา โกโก้ และพิมเสน ทำหน้าที่อย่างโดดเด่น มาก กลิ่นช่วงนี้จะหอมเซ็กซี่เย้ายวนแบบมีระดับขาดใจ แถมกลิ่นอบอุ่นน่าเชื่อถือมาก ยิ่งมีกลิ่นยาสูบกลั้วน้ำผึ้งจางๆ มาผสานยิ่งทำให้เซ็กซี่แบบไม่ต้องถอดเสื้อผ้าก็เชิญมากินทั้งตัวเลยน่าจะง่ายกว่า และได้เวลาของการปิดท้ายด้วยกำยานและแอมเบอร์ที่จะให้ความรู้สึกอบอุ่น น่าเข้าใกล้ แบบยังคงความมีภูมิเต็มเปี่ยม ลึกลับกำลังดี โดยมีกลิ่นในช่วงต้นและกลางตามมาเป็นพื้นหลังทำให้ได้ความเย้ายวน ความหวาน และความเซ็กซี่แบบสุภาพบุรุษหน้านิ่งๆ เพิ่มเข้ามาดึงดูดอีกต่อ แค่นี้ก็เพียงพอที่น้ำหอมตัวนี้จะทำให้คนใส่และคนได้กลิ่นฟิน และพร้อมฟินต่อกันได้ไม่ยากครับ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศเน้นวัยทำงานขึ้นไป เพราะกลิ่นค่อนข้างให้อารมณ์ความเป็นผู้ใหญ่ในเนื้อกลิ่นจากโทนน้ำผึ้งราดใบยาสูบนี่แหละ สามารถใส่ทำงาน (แบบสเปรย์เหมาะสม) ใส่ออกงานหรู หรือออกงานทั่วไป รวมถึงการเที่ยวกลางคืนแบบมีระดับนิดนึง ไม่ใช่ใส่ไปเต้นรากแตก ร้องกี๊ซซซซ ร้องแอร๊ยยยย มันไม่ใช่อ่ะ แต่ไม่เหมาะกับการใส่ไปออกกำลังกายเลย กลิ่นจะกระจายดีจนทำให้คนอื่นเวียนหัวเอาได้ครับ

ความทน - มากกกกกกกกกกกกก จะมากไปไหน เกิน 8 ชม. แน่ๆ เพราะใส่ทุกครั้งตั้งแต่ 6 โมงเช้า เที่ยงคืนกลิ่นยังลอยให้รู้สึกตลอดเลย

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้น และจะลดมากระจายดีไปตลอดจนกว่าจะหายไปจากผิว สมกับการเป็น A*Men ที่ไม่เคยลดราวาศอกให้ใคร

ทิ้งท้าย - เป็นอีหหนึ่งใน Flanker ของ A*Men ที่ผมปลื้มมากๆ เลยทีเดียวครับ ของเขาดีจริงๆ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Thierry Mugler - A*Men Ultra Zest






http://www.fragrantica.com/perfume/Thierry-Mugler/A-Men-Ultra-Zest-29589.html

แบรนด์และตระกูลสุดรักของพี่เข็มขัดสั้นเลยคะ ตัวนี้เป็นลิมิเต็ททำออกมาในปี 2015 นะคะ เพิ่งออกมาเมื่อปีที่แล้ว เป็นตัวที่ถูกโหวตให้เป็นน้ำหอมผู้ชายที่ทำออกมาได้ดีที่สุดเป็นอันดับ1ในเว็บน้ำหอม Fragrantica ในปี2015 (Best men's Perfumes in 2015) เลยคะ

- ขวด 100 ml ของใหม่ ยังไม่แกะกล่องนะคะ (ในรูปเป็นตัวของหนูเองคะ) ขาย 3,300
- ขวด 100 ml เหลือประมาณ 50% ขาย 1,700 คะ
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 200฿ และ 10ml 370฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/11/review-thierry-mugler-amen-ultra-zest.html

บอกกันตรงนี้ว่า "นี่คือหนึ่งในลูกรักของผมเลย" ที่กลิ่นแบบว่าถูกจริตขั้นสุดในแง่ของการผสมผสานน้ำหอมโทนสดชื่นและเย้ายวนเข้าด้วยกันได้อย่างมีชั้นเชิงมาก โดยยังมีกลิ่นอายของต้นตระกูลอย่าง A*Men ที่ X แตกอยู่อย่างไม่มีผิดเพี้ยน นั่นก็คือ ตัวส้มสีแสบจี๊ดที่พึ่งวางตลาดอย่างรุ่นนี้เลยครับ A*Men Ultra Zest

เปิดต้นกลิ่นด้วย Top Notes กับกลิ่นส้มสีเลือดที่จะออกหวานฉ่ำติดเปรี้ยว มาผสมผสานกับส้มเขียวหวานทีมาในโทนเปรี้ยวอมหวานเดียวกันกลายเป็นกลิ่นอายหอมสดชื่นที่ฉ่ำมากไม่หวานไปไม่เปรี้ยวไป โดยจะมีกลิ่นซ่าๆ ของกลิ่นขิงกับเลมอน และมีมินท์มาให้ความสดชื่นแบบเย็นๆ อีก กลายเป็นกลิ่นแบบน้ำส้มแฟนต้าซ่าๆ มากันเต็มๆ แน่นๆ เลย นี่แหละครับคนรักกลิ่นส้มจะแบบว่าฟินจัดกับตัวนี้มากเลย เพราะมันลั่นล้ากันตั้งแต่ต้นและยาวนานไปจนถึงช่วงท้ายๆ เลย เพียงแต่จะมีสิ่งที่หลบๆ ซ่อนๆ ในช่วงนี้คือโทนแบบ A*Men ต้นตระกูลและตัวเอกของไลน์อย่างพิมเสนที่มาแบบเบาๆ อยู่ ซึ่งจะมาชัดเจนกันในช่วง Middle โดยที่กลิ่นส้มซ่าๆ จะตามมาเด่นอยู่ แต่สิ่งที่เสริมขึ้นมาคือ กลิ่นของกาแฟกลั้วเครื่องเทศ มีกลิ่นอายแบบคาราเมลติดพิมเสนให้รู้สึกได้ ช่วงนี้เลยกลายเป็นกาแฟรสส้มแบบเย้ายวน เท่ห์ ลั่นล้า และสดชื่นในเวลาเดียวกัน เรียกว่าคือไฮไลท์กันเลยกับการเอาความเป็น A*Men มาผสมกับส้มจนได้กลิ่นที่ลงตัวมาก กลิ่นแบบยั่วยวนชวน X ก็จริง แต่มีความสดชื่นมาเบรกไม่ให้หวานเกินไป และใช้ง่ายกว่า ซึ่งกลิ่นกาแฟผสมส้มซ่าๆ ในตอนนี้จะลากยาวไปเรื่อยๆ จนจะมีกลิ่นอายของวานิลลาและครีมมี่แบบนุ่มนวลดันขึ้นมาเรื่อยๆ จนเข้า Base Notes ที่จะหลายเป็นกลิ่นกาแฟกลั้วส้มจางๆ มีกลิ่นวานิลลาแบบไลท์เวอร์ชั่นแบบนุ่มๆ ติดครีมมี่มากลั้ว ที่สำคัญจะพลาดไปได้อย่างไรกับพิมเสนที่เปิดตัวกันเต็มๆ ในช่วงนี้ กลิ่นอายจะหอมแบบชวนคลุกวงในแบบ A*Men แบบที่ไม่ชวนกันโต้งๆ ชัดเจนแบบต้นตระกูล มาแบบเฮฮา สดชื่น แต่หันไปหลิ่วตาใส่เป็นระยะยังไงยังงั้นเลยอ่ะ ฮิ้วววววว เรียกว่าคือไฮไลท์กันเลยกับการเอาความเป็น A*Men มาผสมกับส้มจนได้กลิ่นที่ลงตัว และใช้ง่ายกว่าต้นกระกูลมาก ไม่รักและหลงกลิ่นนี้ได้อย่างไรกัน

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไป กลิ่นสดลื่นลั่นล้าอย่างมีชั้นเชิงมาก แถมมีความเจ้าชู้ชวนกินแบบต้นตระกูลที่ไม่ได้ออกตัวแรงยั่วให้มากินให้หมดทั้งตัวขนาดนั้น แต่เน้นยั่วเรื่อยๆ จนสุดท้ายฟินนนนนนนนน ซึ่งใส่ได้กับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ซึ่งงานทางการจัดๆ อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่ ถ้าใส่แบบทำงาน Office นี่ได้อยู่ หรือใส่แบบชิลล์ๆ เที่ยวลั่นล้าก็ได้นะครับ แต่งดใส่ออกกำลังกายได้เลย เพราะกลิ่นแม้จะสดชื่นแต่แน่นมาก ฆ่าชาวบ้านหรือไม่ก็ยั่วให้มาฟัดนัวกันคาลู่วิ่งในสถานที่ออกกำลังกายเสียก่อน ส่วนยามค่ำคืน จัดไป ใส่ได้สบายมากกับอากาศบ้านเรา เรียกว่าเรียกแขกได้ดีมากตามสไตล์ตัวต้นตระกูลเลยครับ

ความทน - 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ ซึ่งอยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดด้วยส่วนหนึ่ง ส่วนตัวผมเจอที่ 12 ชม. ครับ กลิ่นตีขึ้นตลอดด้วย

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากกกกกกกกกกในช่วงต้นสดชื่นซาบซ่ามากมาย แล้วจะลดลงมากระจายดีในช่วงกลาง ก่อนจะกระจายกลางๆ ค่อนไปทางออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย - รักมาก หวงมาก และดีใจมากที่มีไว้ครอบครอง พูดได้ว่ามีโอกาสจะซื้อตุนไว้ครับ เพราะมันเป็น Limited Edition ด้วยยยยย และคงไม่ปล่อยให้จากไปไหนง่ายๆ แน่นอนกับน้ำหอมรุ่นนี้ ที่เข้า Top 20 น้ำหอมสุดรักผมทันทีไม่มีเงื่อนไขใดๆ ^^


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Carolina Herrera - CH Men Prive









http://www.fragrantica.com/perfume/Carolina-Herrera/CH-Men-Prive-31508.html

ตัวใหม่ล่าสุดจาก Carolina Herrera พึ่งออกมาปลายปีที่แล้ว กลิ่นแนวอโรมาติค อบอุ่น เซ็กซี่สุดๆ แบบชายหนุ่มที่ยั่วสุดๆๆ เด่นที่กลิ่นวิสกี้กรุ่นๆ หนัง กับความหวานของทองก้าบีน ตัวนี้ฝรั่งเลิฟมากๆค่ะ โดยรีวิวจากสาวๆในยูทูป ต่างบอกว่า SEX ALL DAY!!!

- ขวด 100 ml ของใหม่ ซื้อมา 3,900 ขาย 2,400 คะ
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 150฿ และ 10ml 270฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Ralph Lauren – Polo Blue








ขวด Limited ใหญ่สุด 200 ml ไม่มีขายในไทยนะคะ เหลือตามหนังยางรัด ตีต่ำๆ35% (ประมาณ70ml) ขาย 1,400 คะ

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/review-ralph-lauren-polo-blue.html

เป็นอีกหนึ่งในรุ่นยอดฮิตของโซน Polo ซึ่งถ้าเอามาวางเรียงๆ กันแล้วให้เลือกว่านอกจาก Polo Sport แล้วอยากใช้ตัวไหน Polo Blue นี่จะโดนเป็นลำดับแรกไม่ยากเลยล่ะครับ เพราะว่า

มันเป็นตัวที่ให้ความสดชื่นเข้าถึงง่ายสุดๆ เผลอๆ เข้าถึงง่ายกว่า Polo Sport ด้วยซ้ำไป กับ Top Notes ที่หอมสดชื่นมากกับกลิ่นแตงกวากลั้วกับเมล่อน มีโทนซิตรัสจากส้มแฝงมาทำให้เกิดความกระปรี้กระเปร่ายามฉีดหรือได้กลิ่นได้ดีมากจริง ซึ่งบอกเลยว่าเพียงแค่กลิ่นในช่วงนี้ ถ้าชอบเสียตังค์ได้เลยแบบไม่ต้องรอช่วงอื่น เพราะมันให้อารมณ์ได้ครบถ้วนกับความเป็นน้ำหอมที่เข้าถึงง่ายของผู้ชายจริงๆ และถึงแม้จะเข้าช่วงอื่นๆ ของน้ำหอมก็ยังเสียตังค์ซื้อได้ง่ายๆ อยู่ดี เพราะไม่ว่าจะเป็น Middle Notes ที่จะมีกลิ่นของโหระพากลั้วกลิ่นโซนสะอาดๆ แบบอากาศสดชื่ดได้ดีมากเข้าถึงง่ายตามเคย และ Base Notes ที่จะให้อารมณ์กลิ่นทางวู้ดดี้เบาๆ กลั้วกับ Musk สะอาดๆ และกลิ่นหนังนุ่มๆ บางๆ ที่ให้อารมณ์แมนๆ สะอาดๆ สบายๆ แบบผู้ชายได้ดีมาก เช่นนั้นไม่แปลกใจว่าทำไมถึงเป็นที่นิยมและเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่คนรักน้ำหอมโซน Polo มักจะเลือกใช้

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศทุกวัยเลยครับ ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะไปเรียน ไปทำงาน ไปเที่ยว อยู่บ้าน แก้ผ้าเดินรอบบ้าน หรือออกกำลังกาย ออกงานหรูก็พอไหวในระดับหนึ่ง แต่ไม่เหมาะกับยามกลางคืนนักครับเพราะกลิ่นเบาไป แต่ถ้าจะใส่เพื่อเน้นความสะอาดสดชื่นทำได้อยู่ ที่สำคัญคุณผู้หญิงทั้งหลายสามารถใช้น้ำหอมตัวนี้ได้สบายๆ ครับ เพราะจะได้ความรู้สึกสปอร์ตกำลังดี โดยไม่ได้ออกทางแมนจัดๆ แต่ประการใด

ความทน – 6 ถึง 8 ชม. ขึ้นไป อยู่ที่เคมีด้วยส่วนหนึ่งครับ ซึ่งถ้าฉีดเสื้อด้วยกลิ่นจะทนมากขึ้น เพราะเสื้อที่ผมฉีดแล้วเวลาจะเอาไปซัก กลิ่นยังลอยหอมอ่อนๆ ขึ้นมาอยู่เลย

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากช่วง Top และต้นๆ ของ Middle นอกนั้นจะลดระดับลงมาเรื่อยๆ และเป็น Skin Scent ยาม Base ครับ

ทิ้งท้าย - ถือว่าเป็นหนึ่งใน #ของดีเทคนิคไม่ต้อง ได้สบายๆ เลยล่ะครับ ^^

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Ralph Lauren – Polo Black







- ขวด 125ml ลองฉีดไป 1ที ขาย 1,900 คะ
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 130฿ และ 10ml 230฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/02/review-ralph-lauren-polo-black.html

เข้าใจว่าหลาย ๆ ท่านรอน้ำหอมกลิ่นนี้อยู่นะครับ ซึ่งเด่นด้วยมะม่วงสุกในช่วงเปิด และมาในแบบเย็น ๆ หน่อย สร้างความสดชื่น และเซ็กซ์ซี่ตั้งแต่ฉีดออกมาเลย ถือเป็นกลิ่นที่เจาะตลาด mass market อย่างตรงไปตรงมา กลิ่นเข้าถึงง่ายตามสไตล์ของโปโล
จริงๆ ชื่อ Black ดูไม่ค่อยเหมาะนะครับ เพราะในความเข้าใจผม กลิ่นที่ออก Black น่าจะสร้างความลึกลับ น่าค้นหาแบบถึงที่สุด และออกทาง sophisticated หากแต่ Polo Black มาในแบบ citrus อ่อน ๆ และโอนเอนไปทาง aromatic ที่ไม่ได้มาในรูปแบบสมุนไพร
จริงๆ แล้วอยากให้ชื่อ Polo Red มากกว่าครับ เพราะกลิ่น sexy มากกว่าลึกลับ

นอกจากมะม่วงแล้ว กลิ่นที่เด่นในขั้นต่อมาคือ Patchouli และ Tonka bean ให้ความอบอุ่นจนกลิ่นจางหายไปในเวลาประมาณ 7 ช.ม. กลิ่นติดผิวแนบแน่น กระจายพอควร เหมาะกับบรรยากาศโรแมนติคครับ ผู้หญิงใช้ได้สบาย ๆ ครับ
ความคิดเห็นที่ : 2

tamamajung

21/05/2016 17:56:20
0
IP : 171.101.167.186
Antonio Banderas – Blue Seduction








http://www.fragrantica.com/perfume/Antonio-Banderas/Blue-Seduction-1088.html

- ขวด 100ml เหลือประมาณ 90%+ ขาย 1,400 คะ (ตัวนี้รีวิวจากฝรั่งรวมถึงตัวหนู กลิ่นจะเหมือน Versace - eau fraiche แต่จะมีความเซ็กซี่เพิ่มเข้าไปคะ)

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2016/01/review-antonio-banderas-blue-seduction.html

ห่างหายไปจากแบรนด์เซเลปอย่าง Antonio Banderas นี้มานานมาก เพราะน้ำหอมแต่ละตัวเรียกว่าทำออกมาได้เกินคาดและไม่คิดว่านี่เป็นน้ำหอมเซเลปกันเลยทีเดียว ซึ่งในรอบนี้เรียกว่าต้องอวยกันหน่อยเพราะของเขาดีจริงๆ กับรุ่นนี้เลย Blue Seduction

เรียกว่าสร้างความประทับใจกันตั้งแต่ Top Notes เลยก็ว่าได้ เพราะกลิ่นอายของเมล่อนที่เด่นขึ้นมาโดยมีโทนซิตรัสติดผลไม้มันสร้างความสดชื่นติดนุ่มๆ ได้ดีมาก โดยที่จะมีกลิ่นมินท์มาให้ความเย็นแบบ Spicy ไม่ให้กลายเป็นผลไม้จัดๆ มากไป ซึ่งกลิ่นอายของเมล่อนติดมินท์จะตามไปที่ช่วง Middle Notes ด้วย ซึ่งจะไปผสมผสานกับกลิ่นอายของแอปเปิ้ลเขียวที่รับช่วงโทนผลไม้ เป็นกลิ่นหอมสดชื่นก่อน แล้วกลิ่นของโทนน้ำทะเลก็จะมาให้ความสดชื่นแบบ Aquatic ต่อเนื่องเข้าไปอีก โดยไม่มีกลิ่นคาวใดๆ แต่ยังไม่จบแค่นี้เพราะท่ามกลางกลิ่นที่สดชื่นติดนุ่มหวานจางๆ แบบนี้ มีกลิ่นของคาปูชิโน่นุ่มๆ ครีมมี่ทำให้กลิ่นอายเรียกว่าตัดกันได้น่าดมกลิ่นมาก เหมือนนั่งจิบกาแฟท่ามกลางอากาศสดชื่นเคล้ากลิ่นผลไม้ริมทะเลเลย ซึ่งลิ่นอายแบบทะเลกลั้วกาแฟจะเริ่มเด่นแทนโทนผลไม้ จนเข้าสู่ Base Notes ที่กลิ่นโทนไม้หอมอ่อนๆ จะค่อยๆ มารองพื้นให้ โดยมีกลิ่นอายอุ่นๆ จากแอมเบอร์เข้าไปเสริมกับตัวคาปูชิโน่กลิ่นในช่วงนี้จะผ่อนคลายสบายๆ อบอุ่น แอบเย้ายวนไม่น้อย แต่แบบสบายๆ เสียมาก โดยที่กลิ่นของโทนน้ำทะเลยังคงอยู่ให้ความสดชื่นอ่อนๆ และผ่อนคลายอยู่อย่างไม่มีผิดเพี้ยน

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียน ม.ปลาย ก็สามารถใช้ตัวนี้ได้สบายๆ เพราะกลิ่นเข้าถึงได้ง่ายและเรียกคำชมได้แบบไม่ต้องพยายาม สามารถใส่ได้ในทุกๆ สถานการณ์ยามกลางวันเลย เพราะกลิ่นคาบเกี่ยวไล่เรียงโทนสดชื่นไปอบอุ่นสบายๆ ได้ลงตัว ส่วนยามค่ำคืนถ้าไม่ได้เน้นไปหาเหยื่อก็ใส่ได้อยู่ แบบทั่วๆ ไปกับอากาศบ้านเรา

ความทน – 8 ชม. อาจจะมีบวกลบประมาณ 2 ชม. ตามจำนวนสเปรย์ที่ฉีดไป ซึ่งถ้าจำนวนสเปรย์ถึงลากยาว 12 ชม. แบบที่ผมเจอได้สบายๆ (จัดไป 7 สเปรย์ กดเต็มมิด รวมฉีดเสื้อด้านหน้า)

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ให้ความรู้สึกสดชิ่นติดนุ่มหวานได้ลงตัว ก่อนที่จะลดลงมากระจายกลางๆ และปิดท้ายด้วยออร่ารอบๆ ตัว กึ่ง Skin Scent แล้วจางลงไปตามลำดับของเวลาที่ผ่านไป

ทิ้งท้าย – นี่คือ Masterpiece ของแบรนด์ Antonio Banderas และเป็นหนึ่งใน #ของดีเทคนิคไม่ต้อง ได้สบายๆ กับราคาที่ดีงามแล้วกลิ่นที่ได้รับมันดีงามมากมายเกินราคาที่จ่าย


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Dior - Homme Intense













- ขวด 100ml เหลือประมาณ 10ml ขาย 370 บาทคะ

ตัวขายดีและฮิตสุดของ Dior เลยคะ เนื่องด้วยความเต็มแน่น นวลเนียนของเนื้อกลิ่นที่สัมผัสได้ กลิ่นเปิดของรุ่น Intense ยังมีกลิ่น make up และลิปสติกของผู้หญิงอยู่นะครับ และยังจับกลิ่นมะนาวอ่อน ๆ ได้อีกด้วย แต่ที่เด่นที่สุด คือโทน gourmand ที่เด่นขึ้นมามากทีเดียวเมื่อเทียบกับรุ่นแรก กลิ่นลาเวนเดอร์ชัดในช่วงกลางท่ามกลาง creamy accord ที่ได้จากวานิลลาและแอมเบอร์ ส่วน iris มาในแบบหวาน เย็น และคมนิด ๆ ตัดกับความครีมมี่ได้ดี ให้กลิ่นที่ sexy และ sensual แบบน่าค้นหาอย่างมาก ซึ่งความ sensual น่าค้นหานี้ ได้จากโทน gourmand ของโกโก้ นอกจากโกโก้แล้ว ในช่วงเบสยังมีกลิ่นของอำพันทอง (ambergris) อีกด้วย แม้จะไม่มีใน list ด้านบนก็ตาม จะว่าไป โทน gourmand ในช่วงเบสอ่อนลง และได้ความเป็น oriental ขึ้นมาแบบชัดเจนกว่า แต่ไม่ถึงกับเปลี่ยนโทนกลิ่นแบบหาของเดิมไม่เจอนะครับ

ใส่ในวันอากาศเย็น ห้องแอร์ แล้วกลิ่นจะดีมากครับ ใส่ทำงานก็เบามือหน่อยนะครับ เพราะกลิ่นกระจายดีและทนมาก ใส่ออกเดทเหมาะที่สุดครับ


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Yves Saint Laurent - L'Homme


ไม่ว่าจะเปิดดูรีวิวของใครต้องมีตัวนี้อยู่ในลิสต์อันดับต้นๆแน่นอนคะ หลายๆคนให้เป็นอันดับ1น้ำหอมประจำ Summer และช่วงเช้าในทุกสภาพอากาศเลยคะ เพราะมันหอมมากคะ เพราะกลิ่นมาแบบสบายๆ ใครๆก็ชอบ กลิ่นหอมแบบมีระดับ ไม่เหมือนใคร ฉีดแล้วรู้เลยว่าเป็นYSL กลิ่นสดชื่น ฟลอรัล สไปซี่ ติดผิวดี ที่สำคัญเหมาะกับอากาศเมืองไทยมากๆคะ

ขวดใหญ่สุด 100ml เหลือปริมาณตามรูป (ประมาณ45%) ซื้อมา 3,800 ขาย 1,600 คะ








-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Sean John - Unforgivable








- ขวดใหญ่สุด 125ml ของใหม่ ยังไม่แกะกล่องนะคะ (ในรูปเป็นตัวของหนูเองคะ) ขาย 2,200฿ คะ
- ขวด 125 ml เหลือ 50% ขาย 1,300฿
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 140฿ และ 10ml 250 ฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2014/12/review-sean-john-unforgivable.html

เป็นหนึ่งในตัวยอดนิยมที่ชายไทยหลายคนชอบและเป็น Signature ประจำตัว (รวมถึงตัวผมเองอยู่ช่วงนึง) จนเมื่อถึงเวลาที่ตัวนี้เลิกผลิตต่างก็เสียดายกันสุดๆ จะไปหาตัวที่ใช้แทนได้ที่เป็นต้นฉบับอย่าง Millesime Imperial ก็แพงมากหรือ Ed Hardy Love & Luck ก็หาไม่ได้ง่ายๆ จนปัจจุบันนี้ประกาศออกมาผลิตอีกรอบแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องดีมากเลยทีเดียว เช่นนั้นฉลองการกลับมาอีกครั้งกับตัวนี้เลยครับ Unforgivable

แม้ว่ารุ่นนี้จะโดนค่อนขอดมานักต่อนักในกรณีที่กลิ่นใกล้เคียง Millesime Imperial แบบว่าก็อบมาชัดๆ แต่จริงๆ แล้วมันมีความดีงามในตัวเองและอารมณ์ในอีกรูปแบบนึงที่รุ่นต้นฉบับไม่ได้สื่อถึงตรงนี้ คือ ความเจ้าชู้ลั่นล้าอย่างโจ่งแจ้งนี่แหละ เพราะ Top Notes ทำออกมาได้ดีมากกับกลิ่นโทนผลไม้กลั้วซิตรัสที่หอมสดชื่น แต่จะมีกลิ่นของโหระพาและเปลือกเบิร์ชมาตัดทำให้กลิ่นออกทางหอมนุ่ม ได้อารมณ์กรุ้มกริ่มมากมาย จนเมื่อเข้าสู่ Middle Notes กลิ่นของลาเวนเดอร์จะเริ่มค่อยๆ ดันขึ้นมาเด่นมากขึ้น โดยมีกลิ่นของดอกไอริสมาทำให้เกิดความรู้สึกเซ็กซี่เย้ายวน ที่สำคัญแอบจับได้ถึงกลิ่นของเหล้ารัมกับกลิ่นโทนผลไม้ตอนต้นที่เป็นฉากหลังอยู่ เลยทำให้กลิ่นบอกอารมณ์แบบน่านัวน่ากอดกันได้เลย และ Base Notes ก็ดันขึ้นมาทำให้กลิ่นเหล้ารัมที่เป็นฉากหลังในช่วงกลางกลายเป็นตัวละครนำขึ้นมาแบบชัดเจน โดยจะมีโทนวู้ดดี้ครีมมี่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นตัวรองอยู่ด้านหลัง กลิ่นจะคง Concept ในการเป็นผู้ชายลั่นล้าตั้งแต่ต้นยันจบ สมกับชื่อว่า Unforgivable ที่สื่อตรงตัวว่า ผู้ชายแบบนื้ให้อภัยไม่ได้ เพราะเล่นเอาชั้นยอมไปแล้ว มันต้องเป็นของชั้นคนเดียว ฮึ่ม! แบบนี้เลย

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไป เพราะกลิ่นเย้ายวนเข้าถึงง่าย บ่งบอกถึงความลั่นล้าและ Playboy ในตัวคุณเลยทีเดียว สามารถใส่ทำงาน เรียน หรือออกกำลังกายได้ในจำนวนสเปรย์ที่เหมาะผม นอกเหนือจากนั้นจัดไปครับ กลิ่นเรียกแขก ดึงดูด และน่ากอดเลยทีเดียว

ความทน - ความทนอยู่ระหว่าง 6 - 8 ชม. ตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดครับ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้นและจะค่อยๆ ลดลงมาเรื่อยๆ จนกลายเป็น Skin Scent ที่คนฉีดยังได้กลิ่นอยู่ และเน้นคนที่มายืนใกล้ๆ มาสีเกินความจำเป็นไปประมาณนี้เลย


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Lacoste – Eau de Lacoste L.12.12 White







- ขวด 100 ml เหลือ 87%+ ขาย 1,600฿
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 120฿ และ 10ml 200 ฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/12/review-lacoste-eau-de-lacoste-l1212.html


เป็นหนึ่งในไลน์ L.12.12 ที่ออกมาตอบโจทย์น้ำหอมด้านSport แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เฉพาะยามออกกำลังกายก็ได้ ซึ่งน้ำหอมรุ่นนี้อิงมาจากเสื้อโปโลของ Lacoste สีขาวเลย ซึ่งเป็นอย่างไร มาลองดมผ่านตัวหนังสือกันอย่าง Eau de Lacoste L.12.12 White

Top Notes เปิดขึ้นมาได้หอมสดชื่นติดนวลๆ มาก กลิ่นเกรฟฟรุตจะมาแบบซิตรัสก็จริงแต่จะมีกลิ่นอายของเครื่องเทศติดหวานของเม็ดกระวานดันมาด้วย เลยทำให้ซิตรัสออกทางนวลสว่างสดชื่นก็”ด้หวานหน่อยๆ ก็มี แอบมีกลิ่นเขียวๆ สมุนไพรให้รู้สึกได้จางๆ จนเมื่อเข้าสู่ช่วง Middle Notes งวานดอกไม้ต้องมา ซึ่งผมทึ่งเล็กน้อยเพราะกลิ่นดอกกระดังงาจะมากลั้วกบโทนซิตรัสติดหวานนุ่มที่ตามมาในตอนต้น โดยมีความครีมมี่ออกโทนขาวสว่างนวลของดอกซ่อนกลิ่นแซมไปตลอด เรียกว่าช่วงนี้เป็นโทนดอกไม้ที่แมนแบบไม่น่าเชื่อ ซึ่งแอบจับได้ถึงกลิ่นหนังติดโทนไม้หอมที่รองพื้นด้านหลัง เรียกว่าเบลนด์กลิ่นออกมาได้ดีมากเลยทีเดียวกับการเอาดอกไม้ 2 ตัวนี้มาเด่นในน้ำหอมชาย และปิดท้ายที่กลิ่นอายดอกไม้สว่างๆ ครีมมี่นุ่มๆ ติดหวานสดชื่นจะเบาลงไปบ้าง ให้กลิ่นโทนไม้หอมผสมกับหนังที่เคยหลบๆ ซ่อนๆ นั้นได้เด่นขึ้นมา กลิ่นอายจะออกทางสะอาดๆ ติดแมนนุ่มๆ กลิ่นหนังไม่มีโทนสาปมารบกวนเลย มีแต่กลิ่นออกหนังนุ่มขาวคล้ายผิวกายหอมสะอาดติดนุ่ม มีความอบอุ่นกำลังดี หอมแบบนวลๆ ไปตลอด ซึ่งเรียกว่าผสมผสานกลิ่นออกมาได้ดีเลยทีเดียว โดยยังคงเป็นผู้ชายแบบสุภาพสะอาด อบอุ่น ออกโทนสว่างขาวอย่างชัดเจนไม่มีผิดเพี้ยนเลย

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัย ม.ปลาย ขึ้นไปก็มช้งานตัวนี้ได้แล้วครับ กลิ่นเรียกว่าอยู่ในโซนใช้ง่าย เข้าถึงง่าย และหอมสดชื่นติดนุ่มนวลได้ลงตัว สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ทั้งทางการและไม่ทางการ ส่วนยามค่ำคืนก็ใส่ได้แบบทั่วๆ ไป แต่ถ้าไปเที่ยวแล้วยั่ว ไม่เข้าทางเลยจ้าบอกเลย

ความทน – อยู่ระหว่าง 6 – 8 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นหลัก

การกระจาย – กลิ่นกระจายกำลังดีในช่วงต้น แล้วคงตัวกระจายกลางๆ ไปตลอด จนช่วงท้ายจะเป็นออร่ากึ่ง Skin Scent ครับ

ทิ้งท้าย – ครั้งแรกที่ผมได้กลิ่นจากคนที่ใส่น้ำหอมกลิ่นนี้สวนกับผม บอกเลยว่าหันขวับ แล้วเดินตามไปถามเลยว่าใส่น้ำหอมกลิ่นอะไรหอมนวลๆ มาก เจอมองด้วยสายตาที่งงๆ แต่ก็ได้รับคำตอบมา และก็หามาครอบครองจนได้ เป็นกลิ่นแรกประทับใจของผมเลยล่ะครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Lalique - Hommage a L'Homme







- ขวด 100ml ของใหม่ ขาย 1,700฿
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 130฿ และ 10ml 220 ฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/01/review-lalique-hommage-lhomme.html

เพราะ Lalique นี้เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ทำน้ำหอมออกมาได้หรูหราขาดใจมาก เพียงแค่เห็นขวดของรุ่นที่กำลังจะมาบอกเล่ากันนี้ก็ฟินแล้ว เพราะสวยมากกกกก ที่สำคัญนอกจากขวดสวยแล้ว ยังทำกลิ่นออกมาได้หอมไม่เหมือนใครเสียอีกด้วยกับรุ่นนี้เลย Hommage a L'Homme

สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจกับกลิ่นนี้มากเลยคือความเป็นแป้งหอมหรูหรา ที่ไม่มาแบบหนักหน่วง แต่มาแบบกำลังดีอย่างหนักแน่นที่ไม่จางหายไปไหน กำลังดีอย่างไงก็ยังงั้น ซึ่งเปิด Top Notes มากลิ่นอาจจะออกทางสดชืิ่นแบบโทนเขียวแปร่งๆ ติดขมหน่อยๆ เพราะกลิ่นของใบไวโอเล็ตจะมากลั้วกับกลิ่นของหญ้าฝรั่นที่ออกทางขมปนหวานติดกลิ่นหนังนิดๆ มีโทนซิตรัสเบาๆ เพิ่มความซับซ้อนของกลิ่น ซึ่งให้ความหรูหรากันตั้งแต่ต้นเลย เพียงแต่ถ้าคนที่ไม่ได้ผ่านน้ำหอมอื่นๆ มาก่อน อาจจะเบือนหน้าหนีหน่อยๆ เพราะกลิ่นมันจะไม่ได้ชวนดึงดูดมากขนาดนั้น และหลังจากผ่านไปไม่นานเข้าสู่ Middle Notes ซึ่งงานนี้ดอกไวโอเล็ตขอมากระชับพื้นที่ให้ความรู้สึกเป็นแป้งหอมดอกไม้ละมุนจมูก โดยมีพริกไทยมาให้ความรู้สึกสดชื่นติด Spice และมีถั่วตองก้ามาทำให้กลิ่นในช่วงนี้นุ่มนวลเข้าไปอีก แต่ก็ไม่ได้ออกทางสาวเลยกลายเป็นแป้งหอมนุ่มๆ ติดหรูมีคลาสของผู้ชายได้ชัดเจนโดยไม่หนักเกินไป ได้อารมณ์แบบแป้งหอมละมุนออกทาง Ozonic ที่ลอยตามอากาศให้ความรู้สึกละมุนหอมอยู่ตลอดเวลา จนปิดท้ายที่ Base Notes กับความเป็น Musk นุ่มเย้าสะอาดๆ โดยมีโทนอบอุ่นมาแทรก แต่สิ่งที่โดดเด่นมากคือ Oud: กฤษณา ที่ดันไม่ได้มาในแบบแน่นๆ มาแบบ Light ทำให้กลิ่นของ Oud ในช่วงนี้กลายเป็นกลิ่นแบบ Rich Tone ที่หรูหรากำจายแกล้มอบอุ่นได้ดีมาก ยิ่งมาผสมกับโทนกลิ่นแป้งหอมละมุนช่วงกลางที่ยังตามมา ยิ่งทำให้กลิ่นดูหรูแมนแบบมีระดับเข้าไปอีก ซึ่งอาจจะไม่ได้ดูท่านชายอะไรมากขนาดนั้น แต่เป็นเหมือนสุภาพบุรุษที่แต่งตัวดี วางตัวดี หรูหราแบบไม่ได้แสดงออกมานัก แต่ออร่าและอินเนอร์เวลาที่คนอื่นเห็นและได้กลิ่นมันใช่สุดๆ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศ โดยน้องๆ มหาลัยก็ใช้ได้ครับ เพียงแต่กลิ่นอาจจะไม่ได้ออกทางเข้าถึงง่ายมากนัก แต่ไม่ค่อยเหมาะกับการใส่ไปทำกิจกรรมแบบลุยๆ เท่าไหร่ เพราะกลิ่นค่อนข้างเสริมให้เราดูเป็นสุภาพบุรุษแบบหรูหรา แบบเช่นนั้นกลิ่นนี้จะเหมาะกับวัยทำงานค่อนข้างมาก เพราะมันเสริมบุคลิก ซึ่งใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ยิ่งเฉพาะออกงานทางการ ขอยกเว้นการใส่เพื่อออกกำลังกาย เพราะไม่เหมาะเลย เผลอๆ ถ้าเหงื่อมาผสมกับ Oud จะได้เป็นกลิ่นออกทางสาปหน่อยๆ ซึ่งถ้าไม่ชินกับกลิ่นแนวๆ นี้ จะอึดอัดเอาได้ ส่วนกลางคืนใส่ได้สบายๆ ครับ กลิ่นมีระดับจริงๆ

ความทน - เกิน 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ ซึ่งส่วนตัวผมเจอ 12 ชม. เป็นเรื่องปกติ

การกระจาย - กลิ่นกระจายกำลังดี ให้ความรู้สึกแบบหรูหรา มีคลาสไปตลอด คงเส้นคงวาไม่มีผิดเพี้ยน อาจจะมีลดลงมาหน่อยในช่วง Base แต่ก็ยังทำให้คนใส่รู้สึกได้ถึงกลิ่นอยู่ตลอด

ทิ้งท้าย - ภาพรวมของน้ำหอมตัวนี้ผมขอลงเอยที่คำจำกัดความสั้นๆ ว่า "แป้งหอม Oud แบบ Ozonic ที่หรูหรา" แบบนี้เลยล่ะครับ แต่กลิ่นอาจจะไม่เหมาะกับทุกคน มีโอกาสลองก่อนจะดีที่สุดครับ ^^


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Hermes - Terre d'Hermes




















ขวดนี้เป็นขวด Limited เป็นขวด Metal หรูหรา ไฮโซมากคะ ขนาดใหญ่ที่สุด 150ml ยังไม่ได้แกะใช้คะ ซื้อจาก PARAGON 7,800บาท ขอขาย 3,700 คะ

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/review-hermes-terre-dhermes.html

หนึ่งในน้ำหอมที่เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดตัวนึงในแบรนด์นี้สำหรับผู้ชายเลยทีเดียว นั่นคือ Terre d'Hermes

แน่นอนว่าถ้าใครชอบน้ำหอมโทนสุภาพ Safe Scent นี่คือหนึ่งในตัวที่จะสมควรได้มีโอกาสใช้และทดสอบกับผิวครับว่าเข้ากับตัวเองหรือไม่ เพราะ Top Notes จะให้ความรู้สึกสดชื่นสุดๆ ไปเลยในกลิ่นโทนซิตรัสที่มีส้มนำมาเลยทีเดียว เป็นกลิ่นส้มที่ออกติดเขียวๆ หน่อย ซึ่งกลิ่นโทนเขียวนี่แหละครับคือลายเซ็นของ Hermes เลยที่จะมีในน้ำหอมแทบจะทุกตัว ซึ่งนอกจากจะทำให้สดชื่นแล้วมันยังทำให้แอบหรูมากๆ พอกลิ่นเปลี่ยนโทนมาที่ Middle Notes จะมาในรูปแบบที่สะอาดๆ ของพริกไทยซึ่งเด่นมากจริงๆ โดยมีพิมเสนเป็นฉากหลังบางๆให้อารมณ์นุ่มนวลเย็นๆ ได้ดีเลย ซึ่งพิมเสนนี่ยังตามมาต่อที่ช่วง Base Notes ที่คราวนี้จัดเต็มกันด้วยกับโทนกลิ่นที่ให้อารมณ์ดินอุ่นหอมๆ (ไม่ใช่โคลนเลนโดนแดดนะครับ เสียหมดถ้าเป็นกลิ่นแบบนั้น) ด้วยความเป็นหญ้าแฝก พิมเสน กลิ่นเชิงวู้ดดี้แมกไม้ ให้อารมณ์ติดดินแบบสะอาดสะอ้าน สุภาพ และมีคลาส โดยมีกำยานเป็นตัวตบให้เข้าที่เข้าทางให้กลิ่นออกทางหรูหราอีกด้วย

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศทุกวัย กลิ่นนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่สดชื่นและสุภาพมากเลยทีเดียว สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทำงาน ไปเรียน เดินเล่น ไปเที่ยวกับแฟน เที่ยวธรรมชาติ รวมถึงใส่ไปพบปะผู้คนทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ หรือทั่วๆ ไป ตลอดจนใส่ไปออกกำลังกายยังได้แบบสบายๆ เลย ที่สำคัญน้ำหอมกลิ่นนี้เป็น Safe Scent ที่ไม่กระจายมาก เน้นกลิ่นอ่อนๆ ในโทนที่อบอุ่นสร้างความไว้วางใจได้ดีมากจึงเหมาะกับแพทย์ และคนทำงานในสาขาสาธารณสุขที่ต้องบริการผู้ป่วย โดยที่กลิ่นต้องสุภาพ อบอุ่น และไม่ทำให้ผู้ป่วยตกใจ ที่สำคัญผู้หญิงใช้ได้สบายๆ กลิ่นแม้ไม่ออกทาง Unisex จ๋าๆ มาก แต่ก็สามารถใส่เพื่อสร้างความกระฉับกระเฉงและดูสุภาพไปด้วยได้ดีไม่น้อยครับ

ความทน - แม้จะเป็น Safe Scent กลิ่นสดชื่นก่อนค่อยมาเป็นกลิ่นอ่อนๆ แบบไอดินหอมๆ แต่ทนเกิน 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ

การกระจาย - กลิ่นกระจายในระดับดีที่ช่วง Top และจะลดระดับมาเรื่อยๆ แบบอบอุ่น สะอาด หรูหรา มีคลาส เป็นออกแนวติดผิวครับ แต่ถ้าขยับเนื้อขยับตัววอร์มร่างกายอะไรแบบนี้ก็จะมีกลิ่นหอมสะอาดสดชื่น ตีให้ได้กลิ่นอยู่ครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------








Baldessarini - Secret Mission


ตัวนี้คือโคลนนิ่ง Armani Attitude (ซึ่งเลิกผลิตแล้วและหายากมากคะ เป็นน้ำหอมในตำนานที่คนใน Pantip โดยเฉพาะสาวๆกล่าวถึงเลยคะ สาวๆแบบหนูชอบมากกก) เว็บ fragrantica ต่างยกให้ตัวนี้กลิ่นใกล้เคียงที่สุดคะ

- ขวดใหญ่สุด 90 ml เหลือปริมาณตามยางรัด(ประมาณ85%) ขาย 1,800 คะ
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 130฿ และ 10ml 250 ฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

เนื่องจากกลิ่นก็อบกันมาเลย จึงขอใช้รีวิวแทนกันนะคะเพื่อให้พอเห็นภาพ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/02/review-giorgio-armani-attitude.html

เพราะว่า Armani เลิกผลิตน้ำหอมรุ่นนี้เท่านั้นแหละ ฮิตขึ้นมาทันตาเห็น เลยทำให้บุคคลที่รักน้ำหอมโทนกลิ่นแบบนี้ต่างก็ต้องเอาเข้ามาเก็บไว้ให้จงได้ ซึ่งตอนนี้จากที่ราคาไม่เท่าไหร่ กลายเป็นราคาสูงขึ้นแบบจัดเต็มเลยทีเดียว ในเมื่อกำลังฮิตกว้านหากันเช่นนั้น ก็เลยมาขอตอกย้ำว่ามันมีความดีงามมากมายเลยทีเดียวนะนั่นกับ Armani Attitude ครับ

ส่วนตัวจะมองน้ำหอมตัวนี้เหมือนนิยาย/ละครเรื่อง #อย่าลืมฉัน เพราะในแต่ละช่วงอย่างกับบอกเล่าอารมณ์และความรู้สึกทางจิตใจระหว่างสุริยาวดีและเขมชาติ กลิ่นจะเปิดตัวด้วยกาแฟกับเลม่อนซึ่งจะได้อารมณ์แบบกาแฟดำใส่มะนาวฝานแบบที่คู่นี้เขาโปรดปรานและเป็นหนึ่งในตัวเชื่อมความรู้สึกระหว่างกันตั้งแต่แรกเริ่มรู้จัก กลิ่นจะให้ความสดชื่นความเป็นหนูเล็กกลั้วความเข้มของเขมชาติได้เป็นอย่างดี

เมื่อผันตัวเข้าสู่ช่วงกลางกับความนุ่มนวลของลาเวนเดอร์ที่แทรกขึ้นมาผสานกับเม็ดกระวานกลายเป็นกลิ่นนุ่มหวานกลั้วความขมสดชื่นที่ตามมาตั้งแต่ช่วงต้น เหมือนความรู้สึกที่สะท้อนในความทรงจำของทั้งคู่ยามที่หวนกลับมาพบกันอีกครั้ง ซึ่งมีทั้งความขม ความหวาน ความดึงดูดซึ่งกันและกันแบบไม่โจ่งแจ้ง ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว จนเกิดเรื่องราวที่หอมหวานจางๆ นุ่มนวลละเมียดละไมปนความขมที่กระจายให้คนอ่านหรือดูรู้สึกได้

และการปิดท้ายด้วยกลิ่นโทนอบอุ่นนิ่งขรึมหนักแน่นด้วยแอมเบอร์และยางไม้โทนหวานอุ่น ล้อมรอบไปด้วยกลิ่นของพิมเสนอ้อยอิ่งที่นุ่มจมูกหอมอย่างมีระดับ บอกเล่าถึงอารมณ์ของความอบอุ่นของทั้ง 2 คน ที่ผ่านการให้อภัยซึ่งกันและกัน ความรักที่ยังคงอยู่ เข้าใจซึ่งกันและกันแบบผู้ใหญ่ที่ปิดฉากละครเรื่องนี้แบบซาบซึ้งนั่นเอง


เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นค่อนข้างมีความเป็นผู้ใหญ่ในระดับหนึ่ง สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทำงาน ออกงานทางการ พบปะผู้คน หรืออยู่ใกล้คนรัก ส่วนออกกำลังกายก็พอได้อยู่แต่ควรรอท้ายๆ จะดีที่สุด ใส่เที่ยวกลางคืนก็พอไหวครับ ไม่ได้น่าเกลียดอะไร แต่ไม่ได้ไปในทางเย้ายวนโจ่งแจ้งมากขนาดนั้น

ความทน - 8 ชั่วโมงโดยประมาณ อาจจะมีบวกลบไปบ้าง อยู่ที่เคมี จุดที่ฉีดและจำนวนสเปรย์ด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย - ถือว่ากลิ่นนี้เป็นหนึ่งใน Sillage Scent ได้เลยเพราะช่วงต้นและกลางกระจายดีมาก ดมที่ผิวอาจจะไม่ค่อยรู้ว่ามันมีกลิ่นติดอยู่ แต่มันกระจายตีขึ้นตลอดให้คนใส่และคนรอบข้างได้กลิ่นหมด มีช่วงท้ายๆ ที่ลดเป็นออร่ารอบๆ ตัวที่ยังคงความรู้สึกอบอุ่นให้รับรู้ได้ไปตลอด













------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Armani - Attitude Extreme








ของใหม่ กริ๊บๆเลยคะ เลิกผลิตแล้วและหายากมากคะ เป็นน้ำหอมในตำนานที่คนใน Pantip กล่าวถึงเลยคะ สาวๆแบบหนูชอบมากกก ขาย 2,900฿ คะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/02/review-giorgio-armani-attitude-extreme.html

เพราะรุ่นปกติเลิกผลิตไป รุ่น Extreme ก็เอากับเขาด้วย เลยเป็นหนึ่งที่คนฮิตในการที่จะหามาครอบครองให้จงได้ กับราคาที่โก่งจนสูงไม่น้อยเช่นเดียวกันกับรุ่นปกติเลย เมื่อเล่าถึงรุ่น Attitude ปกติแล้วก็ต้องมาที่ตัวนี้ด้วย เพราะมันต้องเชื่อมโยงกัน เช่นนั้นเลยขอตามต่อจากรุ่นปกติกับ Armani Attitude Extreme ครับ

สำหรับตัวนี้พูดง่ายๆ คือ กลิ่นจะขนมาหมดจากรุ่นปกติ เพียงแต่ความเข้มข้นของตัวน้ำหอมจะเปลี่ยนแปลงไป จนกลายเป็นอีกโทนนึงที่ยังมีรากฐานของเดิมอยู่ มีการลดความเด่นและเพิ่มความเข้มบางกลิ่น หรือเพิ่มส่วนผสมเข้ามาบ้าง เริ่มที่ Top Notes ที่จะลดความสว่างของกลิ่นเลม่อนลงไป เพิ่มความแน่นของกลิ่นกระวานและเม็ดยี่หร่ากันเต็มๆ กลิ่นจะแน่นเข้มติดโทนวู้ดดี้นิดๆ มาแบบเข้มๆ กันเลยทีเดียว ส่งต่อให้ช่วง Middle Notes กลิ่นจะเข้มข้นขึ้นด้วยกลิ่นกาแฟกลั้วโทนหวานเย้ายวนและโทนขรึมๆ ของไม้ซีดาร์ ทำให้กลิ่นจะออกทางเข้มเท่ห์นิ่งๆ เหมือนผู้ชายหุ่นดี หน้าตาเร้าใจในชุดสีดำ ก่อนจะเข้าสู่โทนอบอุ่นเต็มๆ ในช่วง Base Notes กับแอมเบอร์ที่จะปล่อยกระจายความอบอุ่น โดยมีโนกลิ่นของวู้ดดี้ที่ให้อารมณ์แบบ Armani Code ที่มีความเป็นสบู่เย้ายวนเข้ามาแซมหน่อยๆ กลั้วด้วยพิมเสนที่บางเบาและดึงดูดมีระดับเข้าไป ซึ่งภาพรวมของรุ่น Extreme จะมาเป็นตัวกลางที่เชื่อมโยงความเป็น Attitude และ Code ได้เป็นอย่างดีครับ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไปครับ ซึ่งรุ่นนี้อาจจะไม่ได้เข้าถึงง่ายแบบรุ่นปกติเพราะมีความดาร์กเข้มในเนื้อกลิ่นมากกว่า ซึ่งจะเหมาะกับการใส่ในหลายๆ สถานการณ์ทั้งกลางวันและกลางคืน แบบทั่วไป ออกงานทั้งทางการและไม่ทางการ เพราะให้ความรู้สึกว่ากลิ่นเท่ห์เข้มติดหวานดีทีเดียว ซึ่งไม่เหมาะกับการใส่ออกกำลังกายเลยล่ะครับ

ความทน - 8 ชม. โดยประมาณ บวกลบไม่มาก อยู่ที่จำนวนสเปรย์ จุดที่ฉีด และเคมีด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย - ตัวนี้แม้จะลงท้ายว่า Extreme แต่ไม่ได้หมายความว่าจะกระจายดีนะครับ เน้นเป็นความเข้มข้นของเนื้อกลิ่นมากกว่า เช่นนั้นตัวนี้จะกระจายปานกลาง ลดลงไปเรื่อยๆ จนเป็น Skin Scent ในช่วงท้ายจนกว่าจะหายไปจากผิวครับ



------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Baldessarini - Strictly Private


Baldessarini เป็นแบรนด์ที่แตกไลน์ออกมาจาก Hugo Boss ที่เน้นทำน้ำหอมด้วยสโลแกน ?SEPARATES THE MEN FROM THE BOYS คือ ไม่มีคำว่าหน่อมแน้ม ไม่มีคำว่าวัยกระเตาะ มีแต่"คำว่าผู้ชายที่เติบใหญ่ ภูมิฐาน และมีระดับเท่านั้น" หรือเป็นแบรนด์ไฮโซของ Hugo boss นั่นเอง

ตัวนี้กลิ่นจะดูมีระดับมาก เป็นผู้ใหญ่ที่ดูผู้ดีและภูมิฐาน กลิ่นไม่ซ้ำกับคนอื่นแน่นอนคะ (รูปโฆษณาก็บอกชัดเจนคล้ายผู้ชายภูมิฐาน ยืนให้สาวๆในชุดว่ายน้ำชำเลืองมอง) ฝรั่งบอกกลิ่นคล้าย Tom Ford - Noir Extreme ด้วยคะ

- ขวดใหญ่สุด 90 ml เหลือ 55 % ซื้อมา 3,500 ขาย 1,000฿ คะ

http://www.fragrantica.com/perfume/Baldessarini/Strictly-Private-5202.html














------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Dolce & Gabbana - The One for Men








http://www.fragrantica.com/perfume/Dolce-Gabbana/The-One-for-Men-Platinum-Limited-Edition-22108.html

น้ำหอมที่ฝรั่งและรีวิวแทบทุกรีวิวใน Youtube ชอบมากๆ เป็นกลิ่นน้ำหอมที่มีความอบอุ่นและดึงดูดทุกเพศมากคะ ตัวนี้หนูแนะนำเลยจริงๆ ถ้าไม่หอมยินดีคืนเงินคะ ^^

ตัวนี้เป็นตัว Limited ปี2014 ขนาด 100ml กลิ่นจะหอมกว่ารุ่นปกตินิดนึงคะเพราะมีการปรับสูตรนิดหน่อย ขาย 2,300 คะ

รีวิวจากพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/review-dolce-gabbana-one-for-men.html

ต้องบอกว่า The One เป็นน้ำหอมที่ดึงดูดมากเลยทีเดียวนะครับ เพราะภาพรวมของความเป็นน้ำหอมแบบ Oriental Spicy ที่จะปล่อยกรุ่นกลิ่นของความหวานและความยวนใจได้มากอยู่แล้ว และมีพระเอกที่โดดเด่นชัดเจนที่ทำให้คนใส่จะมีกลิ่นที่ดูมาดแมน มีคลาส และโรแมนติคได้ไม่น้อย ซึ่งตัวนี้เปิด Top Notes กันด้วยความ Spicy ชัดเจน แต่เบรกความหวานด้วยความสดชื่นของเกรฟฟรุ๊ต (ส้มเช้งชนิดนึง) ทำให้กลิ่นจะเป็นโทนหอมหวานนุ่มนวลกำลังดี โดยยังมีความสดชื่นนัวไปด้วยตลอด ซึ่งเป็นกลิ่นเปิดที่เป็นเอกลักษณ์เลยตัวนึง พอผ่านไปได้ซักไม่เกิน 15 นาที Middle Notes ปล่อยของเต็มตัวกับโทนอบอุ่นและเย้ายวนของเม็ดกระวาน มีสร้างความสดชื่นติดหวานของขิง และเรียกแขกด้วยดอกส้ม มีกลิ่นของช่วงต้นมาผสมผสานให้กลิ่นออกหวานแมนดึงดูดมากพอสมควรเลยทีเดียว และก็ได้เวลาของพระเอกคือ Base Notes ที่ใบยาสูบจัดเต็มจริงๆ ให้อารมณ์หวาน เย้ายวน สะอาด และเซ็กซี่ในคราวเดียว เสริมทัพความแมนด้วยกลิ่นโทนวู้ดดี้ที่ยังให้ความอบอุ่นในเนื้อกลิ่นได้มาก แค่นี้ก็กินขาดแล้ว แถมเสริมบุคลิภาพผู้ใส่ได้ดีมากตัวนึงเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - ชายหนุ่มทุกเพศวัยทำงานขึ้นไปครับ กลิ่นเนี้ยบนิดนึง แต่ใส่ได้ทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะใส่ไปทำงาน ออกงาน พบลูกค้า ใส่ไปงานเลี้ยง งานแต่ง เพราะให้อารมณ์อบอุ่นน่าเชื่อถือได้กำลังดี เข้ากับสูททุกประเภทได้ดีมาก ที่สำคัญใส่ไปอี๋อ๋อกับแฟนนี่ก็เหมาะกับกลิ่นยั่วแบบแมนๆ ไม่ได้แสดงออกได้ดีมาก ใส่เที่ยวกลางคืนก็ได้ครับ แต่กลิ่นอาจจะไม่ได้กระจายมากนัก เพราะเน้นคลุกวงในมากกว่า ส่วนผู้หญิงไม่ค่อยแนะนำครับ กลิ่นใบยาสูบมันจะออกแมนเกินไปนิดนึง ยกเว้นปลอมตัวเป็นทัดดาว บุษยา "เจ้าฮ่ะ ผมอยากฟัดเจ้าอะฮ่ะ" นั่นก็อีกเรื่องครับ

ความทน - อยู่ที่ 6 - 8 ชม. ครับ อาจจะมากหรือน้อยกว่านั้นอยู่ที่เคมีและการฉีดด้วยส่วนหนึ่ง เพราะส่วนตัวบางครั้งผมเองไม่ได้ทนถึง 8 ชม. แต่บางครั้งล่อไป 12 ชม. ก็เจอมาแล้ว และฉีดใส่เสื้อผ้าด้วยก็ได้นะครับ กลิ่นก็ติดเสื้อผ้าได้ดีในระดับหนึ่งเลย

การกระจาย - The One จะกระจายดีที่สุดคือ Top แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาเป็นกลิ่นแนวๆ คลุกวงในมากกว่าครับ อย่างน้อยก็ยังดี เพราะมันไม่ได้กระจายเพื่อยั่วชาวบ้านไปทั่วเกินไปนัก
ความคิดเห็นที่ : 3

tamamajung

21/05/2016 17:56:40
0
IP : 171.101.167.186
Midnight in Paris - Van Cleef & Arpels


















http://www.fragrantica.com/perfume/Van-Cleef-Arpels/Midnight-in-Paris-9685.html


รุ่น EDT ขวดใหญ่สุด 125ml ของใหม่คะ ขาย 2,600 คะ (ขวด75ml ขวดทดลองที่เหลือขวดสุดท้ายที่ Paragonก็ 3,150บาทแล้วคะ)

รุ่น EDP ขวดใหญ่สุด 75 ml ของใหม่คะ ขาย 2,600 คะ (รุ่นEDP ไม่มีขายในไทยนะคะ และก็เลิกผลิตแล้วเหมือนกันคะ)

ตัว EDP กลิ่นจะทนและเข้มกว่า EDT นะคะ


รีวิวจากคุณแชมป์คะ **กลิ่นนี้เลิกผลิตแล้วนะครับ ถ้าได้ลองแล้วติดใจ ก็รีบหาซื้อตุนได้เลยครับ ก่อนราคาจะสูงขึ้น**

เสปรย์แรกมา แล้วรู้สึกเลยครับว่าหอมมาก ให้อารมณ์เซกซี่ เขื่อมโยงใกล่เคียงในเรื่องแนวกลิ่น ก็คงเป็นarmani code men นะครับ แต่ในตัวนี้ ไม่หวาน ไม่แป้งจัดๆเท่ากับarmani code

ใครชอบกลิ่นที่เด่นด้วยหนังเป็นหลัก และอยากได้ความเซ็กซี่จากหนังที่ไม่ออกanimallic มากเกินไปแบบน้ำหอมniche. ผมก็แนะนำเลยครับ กลิ่นน่าสนใจมากๆ

เปิดมาก็ได้โทนหนัง แป้งเบาๆ กรุ่นๆควัน ติดหวานนิดๆ

แต่พอกลิ่นเริ่มเซ็ทตัว ความหวานจากถั่วทองก้าก็เริ่มหายไป กลิ่นเครื่องหนังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นและกลิ่นกำยานก็เข้ามามีบทบาท เหมือนกับได้กลิ่นกำยานที่ถูกจุด ให้ความรู้สึกอบอุ่นนน่ากอด

จุดเด่นของกลิ่นนี้ ผมว่าเป็นกลิ่นแนวหวานๆที่ไม่หวานมากจนเวียนหัวสามารถใส่ตอนแดดออกแรงๆได้สบาย และกลิ่นนั้นไม่กระจายรุนแรงจนน่าปวดหัว หากแต่กลิ่นที่กระจายออกมานั้นเป็นในรูปแบบควันๆ ลอยๆ และความทนก็อยู่ในระดับที่น่าเชื่อถือได้



รีวิวจากพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/reviewvan-cleef-arpels-midnight-in-paris.html

ท้องฟ้าอันประดับประดาไปด้วยหมู่ดาวยามย่ำค่ำไล่เรียงสีสันไปจนถึงยามดึกของยามฤดูหนาว ณ ใจกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่แสนจะสวยงามได้มาประดับประดาลงบนขวดทรงกลมที่ถือว่าเป็นขวดน้ำหอมที่สวยขาดใจจริงๆ และเป็นส่วนหนึ่งบอกเล่าเรื่องราวของความโรแมนติคสมกับชื่อ Midnight in Paris ได้เป็นเรื่องราวมากมายเลยทีเดียว

องก์ 1 - หญิงสาวได้พบชายหนุ่มที่หน้า Le Cinq Restaurant ณ Four Seasons Hotel, Paris ในยามเย็นตามที่ได้นัดหมายไว้ โดยกรุ่นกลิ่นกายชายหนุ่มยามเมื่อพบเจอ ที่เต็มไปด้วยความเข้มแข็ง น่าค้นหา สดชื่นและอบอุ่น ของกลิ่นแนวๆ เลมอน มะกรูด และโรสแมรี่ กลั้วกลิ่นหนังนุ่มๆ ที่โดดเด่น ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างพึงใจและยื่นมือให้ชายหนุ่มพาเข้าไปเพื่อลิ้มรสอาหารอันเลิศรสกับช่วงเวลาของความสุขที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

องก์ 2 - อากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้นมาแบบเป็นใจ เมื่อชายหนุ่มพาหญิงสาวขึ้นไปชมเมืองปารีสบนหอไอเฟล ท่ามกลางหมู่ดาวนับไม่ถ้วนแต่งแต้มท้องฟ้าอันสวยงาม เมื่อยามที่หญิงสาวยืนใกล้ชายหนุ่มกรุ่นกลิ่นกายที่น่าค้นหา อบอุ่น และวาบหวามซาบซ่า ด้วยกลิ่นหนังนุ่มๆ กลั้วกลิ่นชาเขียวมัทฉะ และมีกลิ่นอายหอมเย็นของดอก Lily of the Valley ทำให้เธอรู้สึกวางใจและมีความสุขที่ยืนใกล้ผู้ชายคนนี้ ยิ่งบทสนทนาเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างรอยยิ้มเหมือนชิมรสชาอุ่นๆ ชั้นดีท่ามกลางอากาศเย็นที่แสนจะเป็นใจให้ได้ใกล้ชิดกัน

องก์ 3 - ท้องฟ้ายิ่งมืดสนิทเท่าใด ดาวนับล้านดวงยิ่งสุกใสสวยงามมากขึ้นเท่านั้น เธอยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อชายหนุ่มพาเดินในสวนด้านล่างหอไอเฟลที่เป็นฉากหลังที่แสนจะโรแมนติค ยิ่งอากาศใกล้เที่ยงคืนเริ่มหนาวเย็นเท่าไหร่ชายหนุ่มยิ่งกระชับหญิงสาวแนบแน่นเพื่อมอบไออุ่นให้มากขึ้นพลางจุมพิตที่หน้าผาก หญิงสาวได้กรุ่นกลิ่นกายที่แสนเย้ายวน ดึงดูด และช่างอบอุ่นทั้งกายและใจจนทำให้ไม่อยากให้ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้สิ้นสุดลงไปเลยแม้แต่วินาทีเดียวหลังจากนี้

Comment - เห็นไหมครับ น้ำหอมตัวนี้สามารถมากๆ แค่ได้กลิ่น 3 ระดับที่บอกเล่าเรื่องราวได้เป็นฉากๆ เลย เก๋สุดๆ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายตั้งแต่วัยทำงานเป็นต้นไปที่ต้องการให้ลุคตัวเองโรแมนติคครับ เพราะน้ำหอมตัวนี้โทนกลิ่นหนังนุ่มๆ ชัดมาก มีอารมณ์เย็นๆ แบบ Lily of the Valley กลั้วโทนละมุนของชาเขียว และโทนเย้ายวนที่อบอุ่นสุดๆ ของกำยานและแอมเบอร์ แอบมีโทนครีมมี่น่ากินของถั่วตองก้าและอัลมอนด์ด้วย คือ ใส่ไปโรแมนติคกับแฟนน่ะทั้งได้และโดนที่สุดแล้ว ขอบอก! แต่จริงๆ ตัวนี้สามารถใส่ออกงานได้ทั้งกลางวันและกลางคืนครับ ทำงานก็ได้ (แบบพอดีๆ) เพราะโทนออกแนวทางการได้อยู่ครับ

ความทน - มากกกกก เกิน 8 ชม. แน่นอน เย้ายวนกันนานๆ ให้ฟินไปข้างเลย

การกระจาย - ดีมากเลยในทั้ง 3 ช่วงในอารมณ์ต่อเนื่องจากสดใส มาดแมน น่าค้นหา อบอุ่น และโรแมนติคได้เก๋มากมาย

ป.ล. เป็นอีกหนึ่งในตัวที่ผมไม่พลาดเด็ดขาดที่จะมีไว้ครอบครองครับ ตกหลุมรักกลิ่นนี้มาก ใส่แล้วดูโรแมนติคขึ้นไปอีก150%


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Issey Miyake - L'Eau d'Issey Pour Homme


http://www.fragrantica.com/perfume/Issey-Miyake/L-Eau-d-Issey-Pour-Homme-721.html

กลิ่นสามัญประจำบ้านของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั่วโลกเลยค่ะ คะแนนโหวตเยอะมาก เป็นอีกกลิ่นหอมใช้ง่ายที่มีความสดชื่น และหวานพอดีๆ หอมชื่นใจและติดทนดีด้วยค่ะ เหมาะกับอากาศในเมืองไทยมากๆ ใครที่ชอบกลิ่นหอมประมาณ Armani Gio น่าจะชอบนะคะ

ขนาดใหญุสุด 125ml ซื้อมา 3,600 เหลือประมาณ 85-90% ขาย 1,300 คะ

กลิ่นนี้เป็นกลิ่นหอมที่แรงบรรดาลใจจากความอิสระและความสงบที่ไร้กาลเวลา เรียกได้ว่าเป็นกลิ่นหอมสดชื่นที่เหมาะสำหรับทุกโอกาส กลิ่นจะเปิดมาด้วยกลิ่นหอมเฟรชๆสะอาดๆของ ส้ม Yuzu เลมอน และเบอกาม็อต ตามด้วยกลิ่นหอมหวานจากพืชพรรณธรรมชาติ และดอกไม้กลิ่นหอมหวานสบายๆ เช่น vetiver ดอกบัว ใบLemon Verbena ดอกลิลลี่ป่า ดอกSaffron ดอกมิยะเนธ และมีกลิ่นหอมเครื่องหอมเจือสไปซี่หน่อยๆของ พวกใบยาสูบ ก่อนจะอมหวานเซกซี่นิดๆด้วยชินนามอน และมีไม้หอม+กับกลิ่นสดชื่นสังเคราะห์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Issey อย่าง Calone เย็นๆ ออกแป้งสะอาดๆ








------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Bvlgari - Aqva pour Homme

http://www.fragrantica.com/perfume/Bvlgari/Aqva-Pour-Homme-153.html

เป็นน้ำหอมกลิ่นสดชื่นแนว Aquatic ที่โดดเด่นและเป็น 1 ในไม่กี่กลิ่นที่กลุ่มคนเล่นน้ำหอม niche จะมองหาในยามต้องการความสดชื่น โดยดูความนิยมได้จาก basenotes เป็นต้น จุดเด่นของน้ำหอมตัวนี้อยู่ที่โทน salty ของกลิ่น และโน็ตสาหร่าย ที่ผสมผสานกันจนเป็นเอกลักษณ์ ชวนให้นึกถึงสีน้ำทะเลยามเย็นจิงๆค่า

ขวด100ml ลองฉีดไป1สเปรย์ ขอขาย 1,500 คะ

รีวิวคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/review-bvlgari-aqva-pour-homme.html

ฮิตมาก ฮิตจริงๆ เพราะว่า กลิ่นมันหอมเข้าถึงง่ายและโดนใจอันนี้ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ครับกับ Bvlgari Aqva pour Homme เพราะว่า

Top Notes เปิดต้นด้วยความหอมนุ่มสดชื่นกันด้วยกลิ่นส้มแบบทันสมัยกลั้วความเขียวของใบส้มเข้าไป เพียงแค่นี้ไม่ต้องรอตรงอื่นก็เสียตังค์ได้ เพราะกลิ่นมันเข้าถึงง่าย หอมดึงดูดให้อยากใช้ไม่ยากจริงๆ และเพียงไม่นานกลิ่นลาเวนเดอร์จะยิ่งมาทำให้กลิ่นออกทางนุ่มนวล แล้วตามมาด้วยกลิ่นสาหร่ายแบบทะเลมาเลย มีความสดชื่นกำลังดีจากกลิ่นในช่วงต้นที่เป็นพื้นหลังกำลังดี แถมมีกลิ่นออกทางสะอาดๆ นุ่มๆ เข้ามาทำให้หอมนวลได้ใจในรูปแบบ Aquatic มากจริงๆ ซึ่งถ้าใครไม่ชอบกลิ่นสาหร่ายในช่วงนี้ อาจจะเวียนหัว มึนๆ ได้และอาจจะบายทันที แม้ว่ากลิ่นสาหร่ายจะไม่ได้ออกทางคาวทะเลมากนักก็ตาม แต่ถ้าดมภาพรวมของกลิ่นที่กระจายออกมาจะให้อารมณ์ออกมาทะเลนิ่งๆ น้ำลึก แบบดำน้ำชมปะการังชิลล์ๆ เพลินๆ มีความรู้สึกเย็นๆ ให้สัมผัสได้ตลอด ซึ่งถ้าคนชอบจะปลื้มมากมายก่ายกองเข้าไปอีก พร้อมเสียตังค์แน่ๆ เพราะมันหอมจริง และเมื่อ Base Notes เข้ามาทักทายจะมีความเย็นวาบๆ นุ่มนวลจากพิมเสนกลั้วไปกับโทนวู้ดดี้แบบเบาสบายไม่ออกทางอบอุ่นจัดๆ โดยที่ยังมีโทนออกทางน้ำทะเลลึกมาให้รู้สึกสดชื่นตามมาอยู่ โดยกลิ่นในช่วงนี้หอมนวลเย้ายวนกำลังดี ให้ความรู้สึกนุ่มเย็นสบายๆ เลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ - หนุ่มทุกเพศวันเรียน ม. ต้น ขึ้นไป เลยครับ กลิ่นเข้าถึงง่าย ให้อารมณ์ทะเลแบบดำน้ำลึก สะอาด นุ่มๆ เย็นๆ กลิ่นโดนใจมหาชนเลย สามารถใส่ไปเรียน ไปทำงาน ไปเที่ยวเล่นทั้งทะเล ป่าเขาลำเนาไพร จนถึงเดินห้าง เดิน JJ ได้หมด ออกกำลังกายก็ได้ แต่ใส่เที่ยวกลางคืนอาจจะเบาไปนะครับ ถ้าเจอกับเหล้า เรียกได้ว่าครอบจักรวาลเลยทีเดียวครับ

ความทน - ประมาณ 8 ชม. ครับ อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้แล้วแต่จำนวนสเปรย์ การฉีด และเคมีด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากจริงๆ ในช่วง Top และ Middle ที่พร้อมจะทำให้มหาชนรอบตัวชอบได้ไม่ยาก ส่วน Base จะออกแนวหอมนุ่มเย็นๆ ขรึมๆ กำลังดีแบบเข้ามาใกล้ๆ จะได้กลิ่น





ความคิดเห็นที่ : 4

tamamajung

22/05/2016 14:45:25
0
IP : 171.101.167.186
John Vervatos ขายแล้วนะคะ
ความคิดเห็นที่ : 5

tamamajung

23/05/2016 13:24:07
0
IP : 171.101.167.186
ขอบคุณลูกค้าหลายๆท่านมากๆเลยนะคะ อุดหนุนหลายชิ้นเลย :))
ความคิดเห็นที่ : 6

tamamajung

23/05/2016 20:54:52
0
IP : 171.101.167.186
น้ำหอมแบ่งขายสั่งได้อีกนะคะ ^^
ความคิดเห็นที่ : 7

tamamajung

24/05/2016 16:51:22
0
IP : 171.101.167.186
ขอบคุณลูกค้าทุกท่านนะคะ


















ความคิดเห็นที่ : 8

tamamajung

25/05/2016 14:47:19
0
IP : 171.101.167.186
ขอบคุณลูกค้ามากๆเลยคะ




ความคิดเห็นที่ : 9

koboli

25/05/2016 15:35:45
0
IP : 161.200.189.2
นัดรับของได้รึเปล่าครับ
ความคิดเห็นที่ : 10

tamamajung

25/05/2016 21:22:47
0
IP : 1.46.235.77
รบกวนแอดไลน์มานะคะ
ID:Kusuma_kk
ความคิดเห็นที่ : 11

tamamajung

26/05/2016 13:21:52
0
IP : 171.98.242.255
ขอบคุณลูกค้าทุกท่านนะคะทั้งลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ที่อุดหนุนน้ำเรื่อยมา ^^


สั่งได้ตลอดนะคะ ส่งของจิงๆค่า :)













ความคิดเห็นที่ : 12

tamamajung

28/05/2016 14:10:39
0
IP : 171.98.242.255
รีวิวจิง ส่งของจิงนะคะ สั่งกันได้เรื่อยๆเยยน๊า
ขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่อุดหนุนนะคะ แม่ค้าจะพยายามหาของมาลงใหม่เรื่อยๆ ยังไงตามดูได้จ้า
ความคิดเห็นที่ : 13

tamamajung

29/05/2016 14:08:14
0
IP : 171.98.242.255
ขอบคุณลูกค้าทุกท่านนะคะ ออเดอร์เยอะทุกวันเยย เย้ๆ
ความคิดเห็นที่ : 14

tamamajung

30/05/2016 13:35:27
0
IP : 171.98.242.255
ลูกค้าที่แชทมาสั่งน้ำหอมแล้วยังไม่ได้ รบกวนทักแชทมาอีกทีนะคะ เพราะแชทหนูหาย หนูกลัวแบบว่าลืมส่งคะ เพราะมีลูกค้าสั่งเยอะ ส่วนใครที่สนใจน้ำหอมก็แอดไลน์มาสอบถามได้เหมือนเดิมนะคะ
ความคิดเห็นที่ : 15

tamamajung

31/05/2016 14:58:31
0
IP : 171.98.242.255
ขอบคุณลูกค้าทุกท่านนะคะทั้งลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ที่อุดหนุนน้ำเรื่อยมา ^^










ความคิดเห็นที่ : 16

tamamajung

01/06/2016 13:15:38
0
IP : 171.98.242.255
ส่งของทุกวันนะคะ สั่งมาได้เรื่อยๆเยยน๊า :)
หรือว่าสนใจตัวไหนสอบถามก่อนก็ได้จ้า ^^









ความคิดเห็นที่ : 17

tamamajung

02/06/2016 14:29:58
0
IP : 171.98.242.255
ขอบคุณลูกค้าทุกท่านมากๆนะคะ ถ้าอยากได้น้ำหอมตัวไหนที่ไม่ได้ลงไว้ก็สอบถามได้นะคะเผื่อหนูมีคะ







ความคิดเห็นที่ : 18

tamamajung

03/06/2016 14:14:30
0
IP : 171.98.242.255
เดี๋ยวมีของใหม่มาลงเพิ่มนะคะ :)
ความคิดเห็นที่ : 19

tamamajung

04/06/2016 13:29:42
0
IP : 171.98.242.255
ขอเวลาถ่ายรูปแปปนะคะ มีน้ำหอมที่เพิ่งลงเคาน์เตอร์อย่าง Thierry Mugler - A*Men / Armani - Code Profumo / Dunhill - Icon / Narcisco Rodriguez - Blue noir ด้วยนะคะ สอบถามทางโทรศัพท์หรือไลน์ก่อนก็ได้น๊า
ความคิดเห็นที่ : 20

tamamajung

06/06/2016 19:20:46
0
IP : 171.98.242.255

AL Rehab - silver


http://www.fragrantica.com/perfume/Al-Rehab/Silver-1176.html" title="http://www.fragrantica.com/perfume/Al-Rehab/Silver-1176.html">http://www.fragrantica.com/perfume/Al-Rehab/Silver-1176.html

ตัวนี้เป็น1ในตัวที่ทำกลิ่นได้เหมือนน้ำหอมสุดหรูและสุดแพงอย่าง Creed - Silver Mountain Water มากที่สุดคะ (ฝรั่งทุกคนยกให้เป็นตัว Clone creed SMW เลยคะ)

- ขวดใหญ่ 35 ml เป็น EDP นะคะ ขาย 900 (Creed - Silver Mountain Water ขวด75ml ก็ 7,700 แล้วคะ)

- มีแบบ Oil perfume (เป็นลูกกลิ้งทาผิวจะทนกว่าแบบสเปรย์นะคะและไม่มีแอลกอฮอลด้วยคะ) ขนาด 3ml ขวดละ 200 บาท เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ













------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



ARMAF - CLUB DE NUIT INTENSE


ตัวนี้เป็น1ในตัวที่ทำกลิ่นได้เหมือนน้ำหอมสุดหรูและสุดแพงอย่าง Creed Aventus ที่สุดอีกตัวคะ (Creed Aventus แต่ละ Batch จะให้กลิ่นต่างกันคะ ซึ่ง ARMAF ตัวนี้จะเหมือน Aventus ตัวที่กลิ่น Smoky เด่นคะ ซึ่งจะต่างจาก Afnan นะคะ)

ขวด 105 ml เป็นความเข้มข้นระดับ EDPด้วยคะ ทนแน่ๆ ของใหม่ยังไม่ได้ใช้คะ จะขายตัวกล่องซีลที่ยังไม่แกะให้คะ ขาย 2,500 (Creed - Aventus ขวด75ml ก็ 9,200 แล้วคะ)

ลองอ่านรีวิวของพี่เข็มขัดสั้นดูนะคะ

เมื่อได้อ่านข้อมูลมาจากหลายๆ ทางไม่ว่าจะเป็นทั้งเวบไซต์เกี่ยวกับน้ำหอม หรือเพจต่างๆ ที่เหล่าคนรักน้ำหอมเขาไปชุมนุมกันของ ตปท. มักจะพูดกันว่า Armaf รุ่น Club de Nuit Intense for Men เป็นอีกหนึ่งตัวที่คล้าย Creed Aventus มากโดยเทียบกับ Batch การผลิตในรุ่นที่มีกลิ่นอาย Smoky จัดๆ (ต้องเข้าใจกันก่อนว่า Creed เป็นแบรนด์ที่วัดกลิ่นเหมือนกันในทุกรอบการผลิตได้ยาก เพราะอิงกับคุณภาพวัตถุดิบในช่วงนั้นๆ เลยทำให้จะมีบาง Batch ที่กลิ่นนี้เด่นกว่ากลิ่นนั้น กลิ่นนั้นโดยกลบไปเยอะบ้าง) เช่นนั้นเราต้องพิสูจน์ด้วยการเสียเงินสอยมาแล้วผลที่ออก คือ

Top Notes กลิ่นมีความเข้มข้นของโทน Smoky จากเปลือก Birch ชัดเจนมากกลิ่นมาติดโทนหนังหน่อยๆ เสียด้วย แต่เพราะว่ามีกลิ่นอายของโทนสดชื่นอย่างซิตรัสและผลไม้ที่ไม่ยอมให้มาแย่งซีนแน่ๆ เลยทำให้กลิ่นของเลมอนและโทนผลไม้ยังทำหน้าที่เด่นเด้งออกมาอยู่ แน่นอนว่ากลิ่นสับปะรดนั้นแทบไม่รู้สึกเพราะออกแนวจะไปทางโทนผลไม้อย่างแบล็คเคอแรนท์และแอปเปิ้ลเขียวเสียมากกว่า โดยกลิ่น Smoky ก็ขอตีคู่กันไปตั้งแต่ต้น จนเมื่อเข้า Middle Notes งานมาเต็มของโทน Smoky จึงได้มาและเป็นตัวที่จะเด่นไปจนถึงช่วงท้ายๆ เลยนั่นคือ เปลือกไม้ Birch ที่จะให้กลิ่นอายหนังติดโทน Smoky แมนๆ มาเลยก็จริง แต่จะมีกลิ่นโทนดอกไม้อย่างมะลิติดกุหลาบจางๆ เคล้าวานิลลาหน่อยๆ มาทำให้กลิ่นนุ่มขึ้น ไม่มามะรุมมะตุ้มผลัดกันเด่นแบบช่วงต้นแล้ว ซึ่งส่งต่อไปยังช่วง Base Notes ที่ความ Smoky ยังคงอยู่ไม่หนีไปไหน แต่จะมีความอบอุ่นติดนุ่มนวลของ Musk และกลิ่นตรึงที่ออกทางผิวกายสะอาดติดเค็มจางๆ ของอำพันปลาวาฬ (Ambergris) ที่จะมาตรึงให้เกิดความนุ่ม วานิลลาจะมาให้ความอบอุ่นเพิ่มมีกลิ่นอายของพิมเสนมาแบบเบาๆ เคล้าไปตลอด ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วกับตัวเทพอย่าง Aventus คงต้องบอกว่า กลิ่นช่วงต้นแตกต่างเพราะยังอยู่ในช่วงชิงดีชิงเด่นกันอยู่ ก่อนที่จะเริ่มมีความคล้ายมากขึ้นในช่วงกลางแต่มีความแมนเข้มกว่า และใกล้เคียงมากในช่วงท้าย ซึ่ง Batch ของ Aventus ที่มีความเป็น Smoky จัดๆ กลิ่นจะใกล้เคียงตัวนี้มากจริงๆ แต่ Armaf ก็ยังไม่ได้มีกลิ่นอายที่นุ่มนวลจมูกกว่า Aventus ที่มีคุณภาพกลิ่นและตัวเกลาให้กลิ่นมีความหรูหรามีระดับแบบสัมผัสได้มากกว่ารวมถึงมีความนวลเนียนกว่าก็เท่านั้นเอง ซึ่งถ้าไม่มายด์เพราะลงรายละเอียดมากไป ตัวนี้ทดแทนกันได้เลยล่ะ

เหมาะสำหรับ ? ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว กลิ่นอาจจะอยู่ระหว่างกลางๆ ที่ไม่ได้เข้าถึงได้ง่ายมากขนาดนั้น แต่ถ้าใครต้องการตัวแทนของ Aventus ในแบบที่ Smoky จัดๆ ตัวนี้ไปได้ค่อนข้างดีและมีความแมนเข้มเพิ่มเข้ามาเสียด้วย โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ถ้าจะออกกำลังกายให้รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืน กลับกลายเป็นว่าตัวนี้เข้าทางกว่าในแง่ของการใส่ไปเรียกเรตติ้งและไม่ได้ดูออกทางคุณชายมากเกินไป แบบที่ Aventus ทำได้ เพราะความเข้มของโทน Smoky ที่สร้างความแมนเท่ห์นั่นเอง

ความทน ? EDP มาเต็มเช่นนั้นจัดไปที่ 8 ชม. สบายๆ แถมลากยาวไปได้มากกว่านั้นอีกด้วยซ้ำถ้าจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเอื้อมากพอ ส่วนตัวเจอที่ 12 ชม. แบบฟินๆ เลย

การกระจาย ? กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายแบบดีค่อนไปปานกลาง และปิดท้ายที่การเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย แล้วลดลงเรื่อยๆ ตามลำดับ





ความคิดเห็นที่ : 21

tamamajung

07/06/2016 16:18:04
0
IP : 171.98.242.255
CH Prive , Dunhill Icon , Blue seduction ขายแล้วนะคร๊าา :))
ความคิดเห็นที่ : 22

tamamajung

10/06/2016 14:02:05
0
IP : 171.98.242.255
น้ำหอมทุกตัวสามารถลองแบบแบ่งได้นะคะ ถ้ามีตัวไหนที่อยากลองที่หนูไม่ได้ลงไว้ ลองสอบถามมาได้นะคะ :))
ความคิดเห็นที่ : 23

tamamajung

12/06/2016 12:44:59
0
IP : 171.98.242.255
มีน้ำหอมออกใหม่อย่าง Mr.burberry ด้วยนะคะ และก็มี Dior Homme Intense 30ml และหลายๆตัวมาเพิ่ม ขอถ่ายรูปก่อนนะคะ แต่ก็โทรหรือไลน์มาถามน้ำหอมตัวอื่นๆได้เช่นเคยนะคะ
"ขายน้ำหอมใช้เองคะ **มีของใหม่เพิ่มนะคะ**"