ถ้ากลัวถอดเลย ฟังก์ชั่นนี้มันตัดการจ่ายไฟภาคที่แปลงไฟจากหม้อแปลงครับ

ดังนั้นมันกันไม่ได้แน่นอน ส่วนความเสียหายขึ้นอยู่ที่ว่าตัดแบบไหน

ถ้าตัดสัญญาณไฟฟ้า อันนี้ก็เหมือนเปิดใช้งานธรรมดา ไม่ช่วยไรเลย

แต่ถ้าตัดด้วยรีเลย์(จะได้ยินเสียงรีเลย์ทำงาน เวลาเปิดปิด)ก็เสียหายน้อยกว่านิดนึง

เพราะยังงัยก็ยังมีไฟจ่ายอยู่ ไม่มาทางตรง มันก็อ้อมมาทางไฟเลี้ยงรีเลย์ เข้าวงจรอยู่ดี

ปล. ถ้าสายไฟจากการไฟฟ้าที่จ่ายเข้าบ้าน ไม่จ่ายให้บ้านหลังอื่นในบริเวณใกล้เคียง

ความเสี่ยงที่จะโดนหนักมีสูงมาก เพราะไม่มีใครช่วยแบ่ง

surge protector มันมีพิกัดที่ทนได้ เกินกว่านั้นมันไปละ..อย่าคิดว่ามันจะช่วยได้ตลอด

เพิ่มเติม เพิ่งทราบจากเพื่อนมาว่า surge protector ในปลั๊กที่เราใช้ๆกัน มันทำงานแบบ sacrifice คือเมื่อเกิด surge ขึ้น ตัวอุปกรณ์ข้างในมันจะเสียไป แล้ว surge คราวหน้ามันก็จะช่วยเราไม่ได้แล้ว

ปัญหาคือปลัีกที่เราใช้ๆอยู่ มันเสียรึยัง เพื่อนมันบอกไม่มีอุปกรณ์วัดก็ไม่รู้ เพราะที่ตัวปลั๊กมันไม่มีอะไรบอก

ก็เลยจบการสนทนา ไปต่อไม่ถูก เหอๆ...

ขอบคุณมากครับ สงสัยต้องติด breaker ตัว จะได้ปิดสะดวกสะดวก ^^

เพิ่มเติมครับ พวกเครื่อง player, TV, Computer นอกจากผมเสียบเข้า surge protector แล้วยังต่อผ่านเครื่องสำรองไฟอีกที อันนี้เลยไม่ค่อยกังวล :)

เออจริงด้วยครับ ลืมไปเลยเรื่องนี้ จริงๆมันมีความเสียหายทำนองนี้แน่นอน แต่ไม่รู้ว่าปัจจุบันพวกอุปกรณ์ต่างๆ(หมายถึงทางการไฟฟ้า) มันมีการป้องกันไว้ชั้นหนึ่งก่อนแล้วหรือยัง ^^

อย่างในเคสที่เดินสายไฟใหม่ติดตั้งเบรกเกอร์เฉพาะชุดเครื่องเสียงเรียบร้อยแล้ววิธีที่ดีที่สุดคือยกเบรกเกอร์ลงทุกครั้งหลังฟังเสร็จใช่ไหมครับ

ของผมมีเบรกเกอร์ชุดเครื่องเสียงอย่างเดียว ปรกติจะดึงลงทุกครั้งหลังใช้เสร็จครับ สายผมมันเยอะพอควรครับ ขี้เกียจดึงเข้าดึงออกครับ เลยใช้วิธีนี้ครับ ง่ายดีและดูท่าจะปลอดภัยที่สุดนะตามความคิดผมครับ

@เฮีย การไฟฟ้า ติดอุปกรณ์ที่มีชื่อว่า LA Lightning arrester ที่หม้อแปลงทั้งแรงสูงและแรงต่ำครับ

หลังจากนั้นในส่วนสายไฟที่ออกจากหม้อแปลงจนถึงบ้านไม่มีอุปกรณ์ติดตั้งใดๆ เพิ่มอีก

@Draco อุปกรณ์ surge protector ที่นิยมใช้กันปัจจุบัน ข้างในใช้ MOV metal qxide varistor

อายุของ MOV จะสั้นลงๆ เมื่อทำงานครับ ดังนั้นในสถานีไฟฟ้า จะมีการติดตั้งอุปกรณ์นับจำนวนครั้งที่ทำงานเพื่อวางแผนเปลี่ยนก่อนชำรุด

surge voltage เวลาวิ่งเข้าระบบไฟบ้าน โดยทั่วไปพวกอุปกรณ์มอเตอร์ ปั้มต่างๆ จะไม่ค่อยมีปัญหา

เพราะโครงสร้างอุปกรณ์มีขนาดใหญ่ ต่างกับวงจรอิเลคทรอนิคส์ต่างๆ เช่น บอร์ดควบคุมของ แอร์ ทีวี เครื่องเสียง ฯ

ดังนั้นจะพบบ่อยครับว่าเวลาเสีย จะเสียตรงส่วนนี้ซะส่วนใหญ่

ปล. ข้อแนะนำก็คือ ให้ติด Surge protector ที่ตู้เมนซึ่งเป็นอุปกรณ์ตัวแรกที่สายไฟฟ้าจากการไฟฟ้าต่อเข้ามา

@Hsung
ขอบคุณครับ ที่ผ่านมาไปหวังพึ่งแค่พวกปลั๊กต่างๆ ผิดวิธีแหะ

อีกนิดครับ หน่วย Surge protector ที่ใช้เรียกกันคือ kJ หรือ กิโลจูลล์ครับ เป็นหน่วยของพลังงานที่ Surge protector รับได้

บางทีก้ใช้หน่วย kA จริงๆ ก็แนวๆ เดียวกันเพราะใช้รูปคลื่นกระแสมาตรฐานในการคำนวณ

ปลั๊กทั่วๆ ไป ที่ชอบบอกว่ามี Surge protector ต้องดูด้วยว่ากี kJ/kA บางปลั๊กมีกระจึงเดียวเอามาคุย คนซื้อก็เข้าใจว่ามีพอแล้ว...กรรม

ผมไม่ใช่คนขาย เลยตอบไม่ได้ว่าควรใช้เท่าไหร่พอ แต่ยิ่งมากยิ่งดีครับ คนขายบางคนเค้าแนะนำว่า

ถ้าติดที่ตู้เมนควรใช้ 20 kA ขึ้นไป ส่วนที่ปลั๊กก็ 10 kA ขึ้นไปครับ นอกจากนี้ถ้าบ้านใครอยู่ในพื่นที่โล่งแจ้ง หรือสายไฟที่จ่ายอยู่ในที่โล่งก็ต้องระวังให้มาก

เนื่องจากเวลาฟ้าผ่า สนามไฟฟ้าจากฟ้าผ่าสามารถเหนี่ยวนำ (ไม่ได้ผ่ามาที่สายโดยตรง)สายไฟฟ้า ทำให้มีกระแส surge ไหล เข้ามาที่บ้านเราได้ครับ