อยากรู้ด้วยคนครับ รอฟังคำตอบ...

บาลานซ์ น้้าหนักเทากัน
บาลานซ์ ในเครื่องเสียง หมายถึงปุมปรับ ให้เสียงซ้ายขวาเท่ากัน
เพลง เป็นสเตอริโอ 2 ชาแนล ...ซ้ายขวา มีการโยนเสียงซ้าย-ขวา
เสียงร้องออกมาข้างเดียวบ้าง 2ข้างบ้าง แล้วแตเพลง...ลุกเลนในเพลง
พูดถึงที่ออก2 ข้าง +บาลานซ์
ถ้าเสียงเท่ากัน เสียงร้องจะออกมาตำแหน่งตรงกลาง
ถ้าเสียงไม่เทากัน ...หรือการวางลำโพง ทำให้ตำแหน่งเสียงผิดไป
เสียงร้องก็จะมีการเยื้อง เช่น เช่น กลางเยื้องออกซ้าย กลางเยื้องออกขวา
-----------
ถ้าเสียงเยื้องนิดคงไมมีเครื่องมือวัด เครืองวัด DB (ความดัง) คงไมมีผลให้จับเทาไหร
แตใช้หูเราวัดนีแหละ....เพราะเราฟังเอง(บางทีการยินของหูเรา2ข้างอาจไมเทากันก็ได้)
------------
มีไฟล์เสียงเทสตำแหนงอยู่...เดี๋ยวว่่างๆรื้อดูครับ...อัพให้ครับ

บาลานซ์ น้้าหนักเทากัน
บาลานซ์ ในเครื่องเสียง หมายถึงปุมปรับ ให้เสียงซ้ายขวาเท่ากัน
เพลง เป็นสเตอริโอ 2 ชาแนล ...ซ้ายขวา มีการโยนเสียงซ้าย-ขวา
เสียงร้องออกมาข้างเดียวบ้าง 2ข้างบ้าง แล้วแตเพลง...ลุกเลนในเพลง
พูดถึงที่ออก2 ข้าง +บาลานซ์
ถ้าเสียงเท่ากัน เสียงร้องจะออกมาตำแหน่งตรงกลาง
ถ้าเสียงไม่เทากัน ...หรือการวางลำโพง ทำให้ตำแหน่งเสียงผิดไป
เสียงร้องก็จะมีการเยื้อง เช่น เช่น กลางเยื้องออกซ้าย กลางเยื้องออกขวา
-----------
ถ้าเสียงเยื้องนิดคงไมมีเครื่องมือวัด เครืองวัด DB (ความดัง) คงไมมีผลให้จับเทาไหร
แตใช้หูเราวัดนีแหละ....เพราะเราฟังเอง(บางทีการยินของหูเรา2ข้างอาจไมเทากันก็ได้)
------------
มีไฟล์เสียงเทสตำแหนงอยู่...เดี๋ยวว่่างๆรื้อดูครับ...อัพให้ครับ

รบกวนถามต่อครับ แล้ว เครื่องเล่นพวก dx90 ak100 x3 x5 เสียงที่มา เหมือนว่า ไม่แยก ซ้าย-ขวา ไช่ไหมครับ

หมายถึงระบบ balanced หรือเปล่าครับ???
เช่นในแอมป์ RSA the Intruder หรือ alo Rx3B หรือ Duet
เช่นเครื่อง HM901 balanced หรือ AK balaced หรือเปล่าครับ

ตอบแบบคุณ tiger เดี๋ยวงงกันใหญ่???

กำ หมายถึง ระบบ balanced สัญญาณ

balanced ไฟ 3เฟส คักย์ไฟ ประมาณ 5V
unbalanced ไฟ2เฟส คักย์ไฟ ประมาณ 2V
------------
balanced สัญญาณแรงกวาผลกระทบจากน๊อยซ์ น้อยกว่าครับ

กำ หมายถึง ระบบ balanced สัญญาณ

balanced ไฟ 3เฟส คักย์ไฟ ประมาณ 5V
unbalanced ไฟ2เฟส คักย์ไฟ ประมาณ 2V
------------
balanced สัญญาณแรงกวาผลกระทบจากน๊อยซ์ น้อยกว่าครับ

ส่วน balanced amp
หมายถึง amp ทีสงสัญญาณเอ้าพุทแบบ balanced (bridge amplifier)
ไฟ 3เฟส ขับ ตัวดอกลำโพง +หูฟัง
โดยใช้ ไฟเฟส+ ไฟเฟส- ไมใช้ GND
ตัวดอกลำโพง +หูฟัง ซ้าย-ขวา จะใช้GND เทียบศักย์ไฟร่วมกัน
ตัวดอกลำโพง +หูฟัง ซ้าย-ขวา ใช้ ไฟเฟส+ ไฟเฟส- ไมเกี่ยวข้องกัน
---------
ต่างamp ปกติ(unbalanced)
ทีสงสัญญาณเอ้าพุทแบบ unbalanced
ไฟ 2เฟส ขับ ตัวดอกลำโพง +หูฟัง
โดยใช้ ไฟเฟส+ กับ GND
ตัวดอกลำโพง +หูฟัง ซ้าย-ขวา จะใช้GND เทียบศักย์ไฟร่วมกัน

ส่วน balanced amp
หมายถึง amp ทีสงสัญญาณเอ้าพุทแบบ balanced (bridge amplifier)
ไฟ 3เฟส ขับ ตัวดอกลำโพง +หูฟัง
โดยใช้ ไฟเฟส+ ไฟเฟส- ไมใช้ GND
ตัวดอกลำโพง +หูฟัง ซ้าย-ขวา ใช้ ไฟเฟส+ ไฟเฟส- ไมเกี่ยวข้องกัน
---------
ต่างamp ปกติ(unbalanced)
ทีสงสัญญาณเอ้าพุทแบบ unbalanced
ไฟ 2เฟส ขับ ตัวดอกลำโพง +หูฟัง
โดยใช้ ไฟเฟส+ กับ GND
ตัวดอกลำโพง +หูฟัง ซ้าย-ขวา จะใช้GND เทียบศักย์ไฟร่วมกัน
-------------
แก้ข้อความ....เดียวยิ่งงง

ระบบ Balance ของเครื่องเสียงมันจะมีการส่งสัญญาณเป็น 3 เส้นครับ คือสัญญาณ + สัญญาณ - และ GND
ซึ่งจะทำให้สัญญาณที่ส่งจากเครื่องเล่นไปแอมป์ หรือแอมป์ไปหูฟัง มี Voltage ที่แรงกว่า ความเพี๊ยนน้อยกว่าครับ
ซึ่งมันจะได้ผดีที่สุดเมื่อทั้งระบบเป็น Balance ตั้งแต่ต้นจนจบจ้าา ^^

"รบกวนถามต่อครับ แล้ว เครื่องเล่นพวก dx90 ak100 x3 x5 เสียงที่มา เหมือนว่า ไม่แยก ซ้าย-ขวา ไช่ไหมครับ"
ตอบ : เครื่องเล่นที่กล่าวมา ให้ output แบบ unbalanced คือ แยกสัญญาณ (+) ซ้าย-ขวาครับ (คือ R+, L+) แต่ไม่ได้แยก (-)

"แล้ว balanced (แท้) มันเป็นยังไง และแตกต่างจาก unbalanced ยังไง?"
ตอบ : ก่อนอื่นต้องเข้าใจความต่างของ unbalanced กับ balanced (แท้) ก่อน
ทั้งสองแบบจะมีส่วนประกอบหลักเหมือนกันคือ ภาค source, ภาค amp, และ ตัวหูฟังเอง แต่ต่างกันในรายละเอียดและวิธีการทำงาน
ระบบ unbalanced - source จะจ่ายสัญญาณ (R+), (L+), และ (-) ไปยัง amp เพื่อทำการขยายสัญญาณไปขับลำโพงในหูฟัง
ส่วนระบบ balanced (แท้) - source จะจ่ายสัญญาณ (R+), (R-), (L+), (L-) ไปยัง amp แบบ differential เพื่อขยายสัญญาณไปขับลำโพงในหูฟังโดยสายหูฟังต้องเป็นสายแบบ balanced (มีสายภายใน 4 เส้น และ สายกราวด์)
จะเห็นได้ว่าอุปกรที่เกี่ยวข้องและหลักการทำงานนั้นต่างกันพอสมควรเลยทีเดียว

"แล้ว balanced มันมีข้อดีกว่า unbalanced ยังไง"
ตอบ : ดูที่ภาพเลยครับ อันนี้เป็นภาพสำหรับ 1 channel นะครับ (R หรือ L)




จะเห็นว่าในระบบ unbalanced เมื่อสัญญาณเดินทางจาก source ไปยัง amp
หากถูกรบกวนด้วยอะไรก็ตามแต่ (EMI, RFI) จนเกิดเป็น noise
เมื่อไปถึง amp สัญญาณที่ถูกขยายก็จะมี noise ปนอยู่ด้วย
ในขณะที่ระบบ balanced นั้น source จะจ่ายสัญญาณ (+) และ (-) ในเฟสตรงข้ามกัน
เมื่อถูกรบกวนด้วยอะไรก็ตามแต่ (EMI, RFI) จนเกิดเป็น noise
เมื่อไปถึง amp (แบบ differential) noise ที่อยู่ในสัญญาณที่ต่างเฟสกันจะหักล้างกันและหายไป
ในขณะที่สัญญาณ (+) และ (-) จะกลายเป็น (A)-(-A) = 2A คือสัญญาณแรงกว่าเดิมสองเท่า
สรุปข้อดีของระบบ balanced คือ
- สัญญาณมีความคมชัดกว่า เนื่องจาก noise ที่เกิดระหว่างทางที่สัญญาณเดินทางจาก source ไป amp จะหักล้างกันเองและหายไป
- สัญญาณแรงกว่าแบบ unbalanced สองเท่า

ผิดตกยกเว้นนะครับ.

ระบบ บาล็านซ์ อธิบายไปก็รายละเอียดเทคนิคเยอะ ทำไมมันเสียงดีกว่าก็มีข้อมูลอีกบาน

สรุปเนื้อๆได้ว่า มันมีสัญญาณอินพุทสองเส้นเปรียบเทียบกัน ถ้าสัญญาณอะไรก็ตามที่เข้ามาทั้งสองเส้น เท่ากัน มันจะลบกันหายไปหมด
เช่นสัญญาณรบกวน-สายมันอยู่ชิดกัน สัญญาณรบกวนก็จะเหมือนๆกันทั้งสองเส้น มันก็จะลบกันหายไปหมด พอถึงปลายทางก็จะได้แต่สัญญาณจริงๆ

คาแรกเตอร์สาย ความเพี้ยนต่างๆ ในสายสัญญาณทั้งสองเส้นมีเหมือนๆกัน ก็จะลบกันหายไปหมด

สรุประบบนี้จะให้ควาบริสุทธิ์ของสัญญาณสูงกว่าแบบไม่บาล๊านซ์ ที่ถ้ามีสัญญาณอะไรเข้ามามันก็ขยายหมดไม่เลือกครับ

Balance ถ้าใน amp, dac ก็คือ

แยกสัญญาณ input ออกเป็น ซ้าย ขวา แยกไปยังอุปกรณ์ต่างๆ อย่าง dac ก็จะมีชิพ dac เป็นของแต่ละ ch หรือแหล่งจากไฟแต่ละ ch โดยเฉพาะ อันนี้น่าจะเป็น fully bal. ซึ่งจะมีบางทีเป็น balance แต่ใช้หม้อแปลงตัวเดียวก็มี แต่ก็ต้องอยู่ที่ขาออกด้วยว่าเราใช้ขาออกเป็น balance รึปล่าว ถ้าเปลี่ยนมาเป็น single end ก็ต้องรวมสัญยาณอยู่ดี

ข้อดี มีน้อยส์น้อยกว่า มีกำลังมากกว่า

แต่ถ้า balance สายอย่าง xlr ก็จะมีแบบ 3 ขั้ว 4 ขั้ว แบบ 3 ขั้วก็แบ่งเป็น ground, hot(+), cold(-) ข้อดีคือทั้งสองขั้วจะมี ground ทำให้สัญญาณรบกวนหักล้างกันไป

ผมตอบเท่าที่ผมพอรู้นะ ผมก็มือใหม่เหมือนกัน แต่อยากจะ diy ไปเรื่อยๆ ค่อยๆศึกษาไป

ยกตัวอย่าง balanced แบบเต็มตัว
dac AD1955




ภาค V/I




ภาคขยาย bridge amplifier

ขอบคุณ ทุกข้อมูล ของหลายท่านครับ