ตัวนี้ นั้นเอง she3800 ในตอนนั้นที่ฟังครั้งแรก ฟัง คิดฮอด ของ Bodyslam พอมาบ้านก็ฟังเพลง เกือบ บุรินทร์ ตบเข่าเลย บร๊ะๆ !!! มันใช่ เพลงนี้เบส มันจะเอื้อนคราง ดื้อๆๆๆ ดื่อๆๆ มันทำได้ impact มันมี ( ปรกติผมเปิดกับลำโพงที่มี sub ) ความรู้สึกตอนนั้นคือ มันมีเบส ชอบ นอกนั้นคือไม่รู้เรื่องอะไร รู้แต่ว่าเพราะ


จนวันนี้ หลังจากฟังมาเยอะ ตั้งแต่หลัก สิบ ( ข้างทางแถมของถมมีขาย สอง ear bud ) หลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น หลักแสนยังไม่เคยฟัง

ผมว่า ผมก็หูพัฒนาไปมากหล่ะ จากที่ฟังไม่ออก อ่านรีวิวก็งงไป พอฟังเพลง ฟังไม่ออก ไม่เข้าใจว่า เค้าเอาอะไรมาพูด เค้าฟังออกเหรอ พอวันนี้ เสตจ กว้าง แคบ กว้างของข้าง เสตจด้านลึก ด้านกว้าง เป็นวงกลม แบน เบส upper bass , mid bass ,deep bass เสียงกลาง เสียงร้อง เนื้องเสียงบาง หนา รายละเอียดเนื้อเสียง ความชัด มีย่านต่ำมากวนไหม เสียงสูง เสียงแหลม รายละเอียดเสียงสูง บาด ไม่บาด ละเอียด เป็นฝอยๆ ด้วน ไปสุด ไปไม่สุด ดร์าก มาก น้อย สว่าง ขุ่น ใส พอถึงวันนี้ ที่ว่ามาฟังออกแล้ว


พอกลับมาฟัง SHE 3800 ตัวนี้อีกที พบว่า อ้าวเจ้าตัวไม่ได้เน้นเบสนี่ แถมกลางพุ่งด้วย เน้นเสียงปลาย รายละเอียดถือว่าดีเลย เถียบกับตัวเป็นพันได้ ( แต่คุณภาพของเสียงยังสู้ไม่ได้ ) และเบสโอเคเลย แต่ไม่ได้ ตุบๆ อะไรมาก จบแบบครากขุ่นไปเลย ไม่ได้ เสียงออกทางสว่าง แต่ดราก นิดๆ ตรงปลายเสียง เนื้อเสียง กลาง ไม่บาง ไม่หนา สเตจเทียบกัน pk 2 ถือว่า ด้านกว้างสู้ไม่ได้ มันจะออกไปทางด้านลึก รายละเอียดฟังตอนแรก แทบไม่ชื่อหู pk มันจะมาหมดดีน่ะ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มันมาหมด แต่ตัวนี้ มาหมดเหมือนกัน แต่เล็กๆ น้อยๆ ยังเก็บไม่เท่า pk แต่ เสียงหลักๆ มาชัดกว่า รายละเอียดหลักๆ มาชัดกว่า เสียงร้องพุ่ง ชัดเจนมาก คล้ายๆ พวก Beyerdynamic เสียงร้องชัดมากๆ ส่วน pk จะถอยหลัง ส่วนตัวนนี้ พุ่งมาข้างหน้านิดหนึ่ง แต่ไม่พลาด แหลมจะดราก ถอยไป เบส อยู่ข้างหลังเสียงร้อง ถ้ารูป Eq คงเป็นรูป สามเหลี่ย ประมาณนี้ /\

แต่เป็นสามเหลี่ยมที่ฐานกว้าง เพราะ กลางไม่ได้พุ่งอะไรมากมาย

ฟังแล้วคล้าย PK1 มากๆ ทั้งปลายเสียง เบสก็เหมือน มาแบบไม่มาก แต่มานิ่มๆ เป็นลูก ดีมากๆ เสียงร้องไม่ค่อยคล้าย pk1 จะถอย ส่วนตัวนี้พุ่ง นิดๆ แต่เนื้อเสียงเหมือนกัน เสียงแหลม เสียงปลาย ก็เหมือนกัน แต่ pk1 จะรายละเอียดดีกว่า และ มีคุณภาพกว่า แต่ไม่ใช่แบบ ฟ้า กับ เหว ถือว่าเหมือนกัน ไกล้เคียงกันมากๆ แถมขับง่ายสุดๆ ( แถม ลักษณะสายยังเหมือนกัน สายคู่ หัวแจ็คก็เหมือน ^^ )

แต่ได้มาปุ๊ป ต้องแก้แน่นอน

1 สาย เป็นสาย J ขวายาวกว่า ซ้าย มากๆ ต้องตัดให้เท่ากัน ( ผมไม่ชอบสาย J )

2 ระหว่าง Body กับสาย เชื่อติดกันไม่แน่น ขยับได้ ต้องทำให้ติดกันให้หนึบเลย ไม่งั้น ขยับไป ขยับมา ตะกั่ว ที่ชื่อสาย กับ Driver หลุดแน่

3 หัวแจ็ค ดูเปราะมาก ถ้าโดนกระทำ นิดหน่อย ขาดในแน่นอน ที่แรกก่ะจะเปลี่ยนไปใช้ หัวแจ็คอื่นเลยเช่น Nutrick ไม่แพงมาก แต่หาของไม่ได้ และคิดอีกทีกลัว signature ของเสียง คาแร็กเตอร์ ของมันจะเปลี่ยนไป เลย ใช้ท่อหด แทนดีกว่า

อุปกรณ์ที่จะใช้ทำ อันดับแรกหัวแร้ง

น้ำยาเชื่อมตะกั่ว

และก็ ตะกั่ว แบบธรรมดา ไว้อนาคตจะหากระกั่ว WBT , CARDAS , MUNDORF มาผสมเล่นๆ ปรับเสียงดู

หน้าตา รู driver เป็นรูเล็ก คล้าย pk2

ภายใน หลังแกะ

.

จบปริ้ง เชื่อมตะกั่วเสร็จ สายเท่ากันหล่ะ แกะผิด ยาวกว่ากัน นิดหนึ่ง

จากนั้นก็ต้อง เอากระเปาะ ที่แยกสายสองเส้นออก ทำใหม่ เพราะหลังกตัดสาย กระเปาะจะขึ้นมาสูงมาก เหือบติดคออยู่แล้ว แยกสายเป็นสองข้าง ถ่างออกจากกัน มีดปาดลงตรงกลางเลย จากนั้น ก็แคะเอาสายออก ตัวเปาะ ใหญ่ก็เกะออก สบายๆ ( ตรงนี้ลืมถ่าย )

แล้วก็ ต้องทำกระเปาะขึ้นใหม่ และหุ่มหัวแจ็ค

เสร็จแล้วออกมาเป็นงี้ ตรงแจ็คก็หุ้ม แล้วกาวร้อนหยอดเลย เพราะไม่คิดแกะอยู่แล้ว แจ็คจะได้แน่นอนๆ ปรากฏว่าแจ็ค แข็งโป้ก เลยดูน่าจะไม่ พังง่ายๆแน่ ตรงกระเปาะใหม่ หาจุดเหมาะ ให้สายยาว พอดีๆ ท่อหด ไฟรนเลย แล้วกาวร้อน ยอดหน่อย อยู่ ติดหนึบ ไม่เคลื่อนไปไหนแน่นอน

ตรง driver กับสาย ผมเอากาวหยอด ตรงท่อที่สายเสียบเข้าไป แต่ต้องระวัง มากๆ ไม่ให้เกาะระเหยไปใส่ driver mี่เป็น พลาสติด แผ่น บางๆ ของเราได้

แน่นหนึบ แข็งแรงหล่ะ

ตัว body มันจะมี ส่วนที่ยื่นออกมา ทำให้ใหญ่ขึ้นโดยใช่เหตุ ผมหูเล็ก ใส่ได้แต่ pk ถ้าใหญ่กว่านี้ หลุด เจ็บ DS300 ขอบายเลย ใหญ่มาก mx985 พวกนี้ ใส่ไม่ได้เลย แต่เจ้า she3800 โดยปรกติ มันก็ไม่ใหญ่อยู่แล้ว ใส่ได้สบายดี ( แต่ pk ใส่สบายกว่า ) ผมเลยเอาตะไบ เหลามันซะเลย ปรากฎว่าได้ body เล็กเท่า pk เลย ใส่สบายดีจริง

( ปล ในรูปเหมือนเบี้ยว แต่จริงๆแล้วไม่เบี้ยวน่ะครับ กลม มน เล็ก สวยเลย )

.

เก็บเข้าทำเนียบไว้ฟัง เพลิน นึกถึงหูฟังตัวแรก เบรินไปได้นิดหน่อยแล้วครับตอนนี้ จากความรู้สึก driver ของ she3800 บางมากๆ เลย ทำให้มันละเอียดอ่อนมาก ปลายแหลมมันไม่คม แต่เป็นฟอย นิดๆเลย ลายละเอียดดีมาก เบส มันไม่แข็ง เหมือน pk2 แต่นุ่ม แผ่ออก ดีมากๆ สุดยอดจริงๆ

เทียบกับ OMX2 ที่พึ่งซื้อมา ถือว่า ตัวนั้นคุณภาพการผลิต วัสดุ ดีมากๆ เทียบกันตัวพันต้นๆ ได้ ไม่ต้องมาแก้แบบนี้ แต่เสียงคล้าย pk เสียงร้องถอยแต่น้อยกว่า เสียงแหลมสด คม เสียดนิดๆ ในบางช่วง เบสคล้ายๆ pk แค่เยอะกว่า สเตจแคบกว่า ออกไปทาง ขุ่นๆ คม pk โปร่ง กว้างๆ

จบแล้วครับ ^^

การmodครั้งนี้ modตรงจุดไหนให้เสียงดีขึ้นน้องๆpk1ครับ

หรือว่าเดิมๆมันน้องๆpk1อยู่แล้ว

เดิมๆ ก็เหมือนอยู่แล้วครับ แต่ ทำเปลี่ยนจากสาย j เป็นสาย Y ครับ แล้วก็เพิ่มความแข็งแรง ตรงแจ็ค กับ body ส่งน ไดอะเฟรม ของมันก็เปราะบางมากๆ ต้องเบรินไปๆ เรื่อยๆ ไม่เปิดดังมากจะได้เข้าที่เข้าทาง ส่วนใหญ่ผมเน้นไปทางเบรินครับ

พอสายเท่ากัน เท่ากับความต้านทานสายไม่ต่างกันมาก เสียง ทั้งสองข้างจะได้ไม่ต่างกันมาก ความสั้นยาวของสายมีผลต่อเสียงครับ

ยืมภาพของพี่ Tired Bore Weary‎

.

ซื้อตัวนี้ให้เพื่อนที่ทำงานไปหลายตัว น่าจะเกือบ 10 ตัวได้
ยืนยันว่าเสียงดีจริง เบสปริมาณเยอะ เสียงกลางดี ปลายแหลม ok คือเก็บตัวเร็วไปนิด แต่ก็ไม่ได้ถึงกับขาดแคลน
โทนเสียงโดยรวมออกแนวนุ่มๆ เบสเยอะ ฟังเพลินๆ
ในราคาไม่เกิน 200 บ.ผมว่าตัวนี้คุ้มสุดแล้ว

แต่...
ถ้าเทียบกับ pk1 ผมว่ายังห่างชั้นกันมากเลยครับ
เอาแค่ pk3 หรือ senn mx365 ก็คนละเรื่องแล้วครับ (2 ตัวนี้ผมใช้อยู่ และเคยฟังเทียบกับ SHE3800 มาก่อน)

MX365 ดีกว่า SHE3800 ในทุกด้าน ทั้งปริมาณและคุณภาพ ไม่ว่าจะเสียงต่ำ กลาง ปลายแหลม โดยเฉพาะความชัดเจนและรายละเอียด
ในขณะที่ pk3 จะดีกว่า mx365 ขึ้นไปอีกขั้น

อันนี้ความรู้สึกจากที่เคยฟังนะครับ...
คือ SHE3800 นั้นคุ้มในระดับค่าตัวของมัน แต่ยังไม่ใกล้เคียงกับพวกที่ราคาแพงกว่าเป็นสามสิบเท่าแน่นอนครับ

ใช่แล้วครับ ยังห่างชั้นกันมาก ถ้าเทียบกับ mx375 ห่างกัน นิดหนึ่งๆ แต่ถ้าเทียบกับ pk3 ยังทิ้งห่างกันหลายช่วงตัว โดย รวมๆ เลย และถ้าเทียบกับ pk1 ก็จะยิ่งห่างออกไปอีก

ข้อเสีย หลักๆเลยคือ คุณภาพของทุกๆ ส่วนยัง เรียกว่า คุณภาพยังไม่ค่อยดี ตามราคา

แล้วที่เรียก น้องๆ pk1 เพราะ เสียงเจ้าตัวนี้ คล้าย pk1 อยู่หลายส่วน คือ ลักษณะเบส ลักษณะความ drak ลักษณะ ลักษณะปลายแหลม ย่านสูง กล่าวคือ she3800 ตัวนี้ ถ้าฟังกับชิปเสียง ตะกูล wolfson ( เท่านั้น ) เสียงจะคล้ายกับ pk1 ต่อกับ alo national อย่างน่าตกใจ แต่เสียงโดยรวมถือว่า ด้วยกว่า pk1 ( ทุกด้าน ) แต่ไม่ใช่ฟ้ากับเหว ตามที่พูดไว้ข้างบน

เพราะ 100 กับ 4000 ไม่รวมค่า amp


แต่โดยส่วนตัว ถ้าพูดถึง เฉพาะ ear bud ตัวไหนออกมา ถ้าขนาดไม่ใหญ่ ผมเก็บมาลองหมด อย่าง omx2 ที่เป็นกระแสกัน ผมก็ซื้อมา ทั้งเสียง คุณภาพการผลิต ดีมาก เกือบจะเทียบกับตัวหลักพันได้ แต่ยังด้วยกว่า pk3 ถ้าเทียบโดยรวม ส่วนตัว ear bud ที่ใช้ประจำคือ pk3 pk2 pk1 ใส่สบาย รายละเอียด แต่วันไหน แบบอยากเปลี่ยน บรรยากาศ ผมหยิบ she 3800 มาฟังเล่นๆ แต่กลับไม่หยิบ omx2 เลย แบบมันมีอะไรที่บางทีหูฟัง แพงๆ กว่ามัน ห้าสิบเท่าก็ให้ไม่ได้


ส่วน mx375 เคยใช้ เกือบปี ตอนเล่นหูฟังใหม่ๆ แต่ตอนนี้โยนเข้าป่าไปแล้ว พัง แต่ผมว่า mx375 ถ้าต่อกับ soure ที่หวานๆ หน่อย ผมว่าใครฟังใครก็ชอบ

^^ ^^

แต่ที่แย่ที่สุด ของ she3800 คือ การ matching

ถ้าใครใช้ อะไรก็แล้วแต่ ที่มี chip เสียง wolfson และ วงจร จ่ายไฟไม่มาก ( ซึ่งก็คือลักษณะ ของ chip ตัวนี้นั้นหล่ะ ) แล้วเสียงแหลม จะลื่นๆ หวานๆ นวล เบส นุ่มๆ ไม่กระแทก จะเป็นอะไรที่ดี ดีเลยทีเดียว



แต่ถ้า soure ให้เสียง สด เบสกระแทก และกำลังขับค่อนข้างสูง ( สด สว่างไม่เป็นไร แต่ถ้า soure เบส แน่น กระแทก และเยอะนี่ไม่ได้เลย ) ถ้าเป็นตามที่ว่ามา เสียงจะเพี้ยนไปหมดเลย เหมือน หูฟัง เล็กๆ แล้วไปขับกับ Amp ใช้กำลังสูงๆ เสียงจะเพี้ยนไปหมดเลย ความเพี้ยนจะสูงมาก ( ฟังได้ แต่เสียงจะเพี้ยน ) โดยเฉพาะ chip ค่าย logic ไม่เข้ากันมากๆ )

เพิ่มเติมน่ะครับ ที่จริงไม่อยากเขียนเยอะกลัวจะยาวไป คนไม่อ่าน 555

ผมว่าเป็นหูที่เสียงดี(สำหรับคนชอบเบสกับเสียงกลาง)ตัวนึงเลยครับ

ส่วนบอดี้ก็ตามราคาครับผม พลาสติกบาง คม ตามราคา 120 บาทครับ

ส่วนจะเปรียบกับ pk2 pk1 ผมว่ายังต่างพอสมควรครับผม คหสต ครับ

เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้นะ she3800 ฟังไปๆมาๆ จับมาเปลี่ยนสาย กลายเป็นหูฟังตัวโปรดผมไปละ ฟังกับ MD เสียงออกมาค่อนข้างครบๆ ผมชอบมากกว่า pk1,2,3,mx985 และตัวอื่นๆที่เป็นกระแสซะอีก (ยกเว้นถ้าใช้แอมป์ หาตัวสู้ pk1 ได้ยาก)

ถึงสู้ pk1 ไม่ได้ ผมว่าเป็นตัวนึง ที่เสียงดีเลยล่ะ