ส่วนอุปกรณ์ หลักที่เราต้องใช้กันนั้นก็มี
ส่วนใหญ่จะต้องสั่งจากต่างประเทศ
1.กระจกหลัก ของผมจะใช้ขนาด 8นิ้วโฟกัส 800mm 10000บาท
2.กระจกรอง ขนาด 70mm 3000บาท
3.เลนส์ตา 25mm และ 9mm อันละ1000บาท 2000บาท
4.กล้องเล่ง สามารถที่จะทำขึ้นมาเองได้ ครับ 2800บาท
5.โฟกัสเซอร์ newtonian crayford 2speed 7000บาท

รวมประมาน 24800บาท

ภาพอุปกรณ์ต่างๆที่สั่งมาจากต่างประเทศ




1.กระจกหลัก ขนาด8นิ้ว โฟกัส 800mm
กระจกหลักนี้ค่าส่งแพงครับน้ำหนักเกือบ2กิโลกรัมได้ครับ ชิ้นนี้สั่งมาทำเอาผมนอนไม่หลับ
เพราะกลัวกระจกเสียหาย ฮ่าฮ่า แต่เค้าแพคมาดี สบายใจได้ใครจะสั่งมา หายห่วงครับ






2.กระจกรอง ขนาด70mm ใช้คู่กับ กระจกหลักที่ขนาด8นิ้ว






3.เลนส์ตา มี2อันครับ ขนาด25mm กับ ขนาด 9mm







4.กล้องเล่ง






5.โฟกัสเซอร์ (newtonian crayford 2speed )
คุณภาพดีมากครับเบบนี้ปรับได้ละเอียด






รูปอุปกรณ์ทั้งหมดที่สั่งมาจากต่างประเทศครับ ฮ่าฮ่า โดนไปหลายตัง เล่นเอา จน...กันเลยทีเดียว

ผมก็เล่นครับ อิอิ แต่เป็นแบบ Schmidt-Cassegrain กับ Refractor

กล้องดูดาว วัสดุที่นำมาทำตัวกล่องนั้น มีหลายอย่างครับ
1.ทำด้วยไม้ เป็นรูป8เหลียม อันนี้ผมก็ทำไม้ไหว ยากเกินน ฮ่าฮ่า ยอมแพ้

2.ท่อPVC ข้อดีครับทนทานทายายย แต่มีข้อเสียคือน้ำหนักมาก ผมขี้เกลียดแบกอะ ถ้าหนักมากๆ

3.ท่อกระดาษ อาจจะไม่ทนเท่าไรเนื่องจากเป็นกระดาษ แต่ได้ในเรื่องของน้ำหนักที่เบา

ส่วนกล้องที่ผมทำนั้น ผมได้เลือกวัสดุทำตัวกล้องเป็นท่อกระดาษครับ เนื่องจาก ราคาถูก น้ำหนักที่เบาแล้วอนาคตผมสามารถที่จะ นำมา ทำประกอบกับขากล้องแบบ EQ ได้ในภายหลังด้วยครับ




กล้องดูดาวนั้น ถ้าขนาดกระจกหลัก กว้าง 8นิ้ว
จะต้องใช้ลำตัวกล้องที่กว้างกว่ากระจก บวกไปให้ห่างอีกด้านข้างประมานข้างละ 1นิ้วครับ เท่ากับลำตัว กล้อง 10นิ้ว ครับ
ส่วน ท่อกระดาษที่ผมใช้นั้น เป็นท่อกระดาษ ขนาด 10นิ้วยาวประมาน 1เมตร ครับ

Varit Schmidt-Cassegrain ขนาดกี้นิ้วหรอครับ

กล้องผม 8 เองครับ แต่ถ้าถ่ายภาพ จะใช้กล้องของหอดูดาว เป็น Schmid 16 นิ้วครับ

16นิ้ว สุดยอด หอดูดาวววเลยหรออยากเห็นภาพจัง

ผมเคยทำวิจัยที่หอดูดาวอะครับ ไม่ได้เข้าไปหลายปีแล้วครับ >,,<

รอชมต่อครับ สุดยอดเลยครับ ทำกล้องเอง

ตอนนี้ผมได้สั่ง ท่อกระดาษจากโรงงานเรียบร้อยละครับ
ผมอยู่ต่างจังหวัดท่อแบบนี้ไม่มีขายเลยครับในจังหวัดที่ผมอยู่
เลยใช้วิธีสั่งซื้อ จากในอินเตอร์เนตนี้ละครับ ฮ่าฮ่า ยังโชคดีที่โรงงานเค้าขายให้ พร้อมทั้งส่งของมาทางขนส่งเอกชน
(ที่แรกผมกลัวโรงงานเค้าจะไม่ขายให้ เพราะท่อกระดาษแค่ท่อนเดียว แถบยังต้องส่งมาให้เราทางขนส่งเอกชนอีก รอดตัวไป )

ตอนนี้ได้ท่อ กระดาษมาเรียบร้อยละครับ ความยาวที่1เมตร
ท่อกระดาษนี้ ขนาด10นิ้ว ยาว1เมตร ราคาอยู่ที่ 170บาท +ค่าส่งอีก 240 รวม 410บาท น้ำหนักของท่อ อยู่ที่ 4.10กิโลกรัม
ส่วนถ้าเป็นท่อPVC ขนาด10นิ้ว ยาว4เมตร (เนื่องจากไม่มีการตัดแบ่งขายครับ )ราคาอยู่ที่ 1800บาท น้ำหนักของท่อ อยู่ที่ 8.00กิโลกรัม

วัสดุที่เราจะนำมาทำชิ้นส่วนนั้นมีหลายอย่างให้เลือกแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป
แผ่นไม้MDF ข้อเสีย ไม่ทนต่อความชื้น ทำสียาก ไม่ทน น้ำหนักเบา ราคาถูก
แผ่นไม้อัด ข้อเสีย ใช้ไประยะนานกาวอาจจะเสื่อมทำให้ไม้อัดรอนออกได้ ข้อดี ไม่มีการบิดตัว ราคาถูก
แผ่นไม้จริง หายากเนื่องจากต้องใช้หน้ากว่าถึง10นิ้ว มีการบิดตัว กับไม้บางชนิด คงทน ราคาสูง
แผ่นอะครีลิค ข้อดีไม่มีการบิดตัว คงทน ราคาสูง

โดยจะใช้แผ่นอะครีลิกมาประสานกันให้ได้ความหนาประมาน 20mm เพื่อความแข็งแรง
แล้วนำมาตัดเป็นรูปวงกลมเท่ากับขนาดภายในท่อกระดาษขนาด10นิ้ว เพื่อนำมาทำเป็นตัวฐานรองกระจกหลัก

เง้อๆๆๆๆ นี่ทำแบบเอาจริงเลยนี่นา ไม่ใช่เล่นๆๆแล้วครับ 555 หากใครมีอะไรดีๆในเชิงนี้ เอามาโพสได้เลยครับ 555 ผมยินดีจริงๆๆครับ

และอย่าลืมถ่ายภาพมาให้ดูด้วยว่ามันใช้งานได้ดีน้องๆกล้องจริงๆราคาแพงๆๆเลยนะครับ 555

การทำชิ้นส่วนต่างๆของกล้อง
อุปกรณ์ที่ใช้ในการตัด แผ่นอะคลีลิก และทำชิ้นส่วนต่างๆ ที่ผมใช้นั้น
จะใช้
1.โต๊ะเลื่อยวงเดือน 2.เครื่องทิมเมอร์ 3.สว่านไฟฟ้าพร้อมด้วยแท่นเจาะ 4.ที่ตราปเกียว
















แล้วอุปกรณ์เซฟตี้ เอาไว้ป้องกัน ความปลอดภัย จำเป็นมากปลอดภัยไว้ก่อนฮ่าฮ่า




1.มีหูฟังกันเสียงดังจากภายนอก (อันนี้ผมไปเอาหูฟังดีเจมา ใช้แทน พอดีมันถอดสายออกได้ ยืมมาก่อน ฮ่าฮ่า )
2.แว่นตา
3.ผ้าปิดจมูกกันฝุ่นละออง

ขอบคุณครับ เอีย ยามวางของผมก้มีเล่นหูฟัง ครับ ทำกล้องนี้เลยครับ ฮ่าฮ่า

ชิ้นส่วนต่อไปที่เราจะทำก็คือ ฐานรองกระจกหลัก (miror cell )




ในชิ้นส่วนนี้จะมี ชิ้นส่วนด้วยกันสองชิ้นคือ
1.ชิ้นที่จับยึดกับกระจกหลัก
2.ชิ้นส่วนที่ ยึดกับลำตัวกล้องดูดาวหรือท่อกระดาษทางด้านล่าง
ทั้งสองชิ้นส่วนนี้ จะมีน็อตที่ยึดเข้าไว้ด้วยกัน แล้วมีสปริง

การออกแบบชิ้นส่วนของ ฐานรองกระจกในชิ้นที่ยึดกับลำตัวกล้องดูดาว
การออกแบบชิ้นส่วนทั้งสองนั้นเราก็ต้องเริ่มจาก หาขนาดของลำตัวกล้อง หรือท่อกระดาษภายในกันก่อน
เพื่อที่ทำทำชิ้นส่วนจะได้ ได้ขนาดพอดีกับลำตัวกล้องด้านในแล้วใส่กันได้พอดี
ในชิ้นส่วนนี้จะมี ชิ้นส่วนด้วยกันสองชิ้นคือ
1.ชิ้นที่จับยึดกับกระจกหลัก
2.ชิ้นส่วนที่ ยึดกับลำตัวกล้องดูดาวหรือท่อกระดาษทางด้านล่าง
ทั้งสองชิ้นส่วนนี้ จะมีน็อตที่ยึดเข้าไว้ด้วยกัน แล้วมีสปริง

การออกแบบชิ้นส่วนของ ฐานรองกระจกในชิ้นที่ยึดกับลำตัวกล้องดูดาว
การออกแบบชิ้นส่วนทั้งสองนั้นเราก็ต้องเริ่มจาก หาขนาดของลำตัวกล้อง หรือท่อกระดาษภายในกันก่อน
เพื่อที่ทำทำชิ้นส่วนจะได้ ได้ขนาดพอดีกับลำตัวกล้องด้านในแล้วใส่กันได้พอดี




ชิ้นส่วนต่อมาที่ทำก็คือ
ฐานรองกระจกชิ้นที่ยึดกัน กระจกพาราโบลา

เริ่มจากตัดแผ่นชิ้นรองกระจกก่อน




แล้วก็ชิ้นส่วนของตัวที่ยึดด้านข้างของกระจก เราจะใช้แผ่นโฟมกันกระแทกมาติดไว้ด้วย
ลองนำกระจากมาวางทาบดูเพื่อ คำนวนแล้วตัดส่วนที่เกินออก

มาต่อกันเลย ดีกว่าครับ
ก็เมื่อได้ชิ้นส่วนมาแล้วเราก้มา เจาะรู ทำเกียวกัน

ผมจะใช้สว่านใส่กับแท่นจับสว่านเพื่อให้รูที่เจาะได้ฉาก เจาะทั้งหมดด้านละ2รู รวมแล้วจำนวน6รุ




ต่อมาผมจะทำเกียวโดยใช้ที่ตราปเกียว




แล้วก็เจาะรู3รูเพือใส่น้อตสำหรับ น้อตที่ใส่สปริง








เสร็จแล้วเมื่อเราเอาน้อตใส่ก็ได้ได้ประมานแบบนี้ครับ
ก็เหลือหาสปริงกับทำชิ้นส่วนเพิ่มเติมอีกนิดหน่อย

ชิ้นส่วนต่างๆเพิ่มเติม โดยเราจะติดโฟรมกันกระแทกในส่วนที่จับกับชิ้นกระจก




น็อตและสริงที่ใช้












เมื่อประกอบเสร็จแล้ว ก็จะที่ที่รองฐานกระจกหลักแบบในภาพ

ขอพักแค่นี้ก่อนเหนื่อย ค่อยอัพใหม่
มาฟังเพลงเพราะๆ ก่อน ใครสนใจหูฟังเสียงดีดีก็ลองไป ฟังได้ที่ร้านมั่นคงนะ ช่วยเฮียโมษนานิดหนึ่ง ฮ่าฮ่า

ถ้าบันทึกเป็นวิดีโอด้วยก็แจ๋วเลย

ความคิดดีครับแบบวิดีโอ ฮ่าฮ่า แค่นี้ผมก็เหนื่อยแล้ววว

ต่อมาก็เป็นชิ้นส่วนของ ที่ยึดกระจกรอง (spider secondary mirrors )








กระจกรองจะอยู่ด้านบนของกล้อง
หน้าที่คือจะทำการสะท้อนแสงจากกระจกพาลาโบล่า แล้วสะท้อนแทงส่งต่อมาที่เลนส์ตา
โดยวัสดุที่เราจะนำมาใช้ทำชิ้นส่วนนี้ก็จะเป็น
1.ไม้ 2.ไม้บรรทัด 3.แผ่นอะคลิก 4.ท่อพีวีซีขนาด 70mm




















เมื่อเสร็จแล้วเราก้จะได้แบบในภาพ

นี่มันไม่ใช่ของทำเล่นๆๆแล้วครับ ผมดูแล้วขั้นตอนโคตรยากเลยล่ะ 555 อย่าลืมถ่ายขั้นตอนสุดท้ายว่ามันใช้งานยังไง มองจากทางด้านไหนอะไรทำนองนี้ด้วยนะครับ

ตอนแรกคิดว่าจะทำตาม แต่เริ่มเห็นรายละเอียดที่ละขั้นตอนแล้ว ต้องขอบอกว่า บายดีกว่า นี้มันมืออาชีพแล้วนี่หน่า 555.... ขอดูอย่างเดียว

สุดยอดครับ นับถือๆๆ คือการจะลงมือทำอะไรเองยังไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่ แต่การจะลงมือทำของที่ต้องซื้ออุปกรณ์ที่มูลค่าหลายหมื่นบาทมาลองทำ อันนี้ผมถือว่ายาก เพราะของพรรค์นี้การคำนวนระยะต่างๆน่าจะยากถึงขั้นโคตรยาก เพราะคำนวนผิดนอกจากจะใช้งานไม่ได้จริงแล้ว ยังเจ็บใจภายหลังอีก

แต่เห็นจากการวางแผนงานขนาดนี้ มั่นใจว่าผลลัพธ์ต้องดีแน่ๆๆ เฮียรอชมภาพดาวนะครับ 555

คือ ปัญหาคือ มันเสียตังซื้อ กะจก เลน์ไปหลายตังแล้วนี้ดิมันเลยต้องทำให้ทำเสร็จ ไม่งั้นเสียตังฟรี ครับเฮีย
ส่วนวางแผนนี้ทำไปงมไปมั่วไปมากกว่า แต่มันโดนไปหลายตังจริงจริง

ต่อมาก็เป้นการเจาะท่อ กระดาษขนาด 10นิ้วเพื่อยึดชิ้นส่วนต่างๆ
ชิ้นส่วนที่ต้องยึดก็จะมี
1.ขายึดกระจกรอง
2.ฐานกระจกหลัก
3.โฟกัสเซอร์








เมื่อเจาะรูที่จะยึดเสร็จหมดแล้วต่อมาเราก็มันใส่น็อตยึดชิ้นส่วนต่างๆ กันเลย
เริ่มจากกระจกรอง



สนิมกิน็อต ซะแล้วว









ต่อมาก็มาใส่ฐานยึดกระจกหลัก
ก่อนที่จะใส่เราก็เอาปากกาเมจิกมาหาจุดกึ่งกลางพอ เพื่อไว้ใช้ตอนที่เราทำการ โคเมต กระจก








ยึดน็อตทั้งหมด3ตัว

ปีนี้จะทำเสร็จไมนี้เรา






ลำตัวกล้องก็เสร็จหมดแล้วก็เหลือในส่วนของขากล้อง
กะว่าจะออกแบบลักษณะแบบในภาพนี้ครับ




ชิ้นส่วนต่อไปเอาไว้จับกล้องลำตัวกล้องดูดาวครับ
นั้นก็คือชิ้นส่วนรางสไลด์ครับ ฮ่าฮ่า

เดียวว่างจะมาทำกล้องดูดาวต่อครับ หายไปนานเลยวุ้น เรา

วันนี้ว่างว่างเลยมาทำต่อ เอารางสไลด์มาประกอบ ละก็ติดกล้องเร่ง

เห็นแล้วต้องร้องอื้อหือ ลงทุนมากๆ ทำออกมาแล้วราคาสงสัยจะพอๆกับซื้อสำเร็จมั้งครัย แต่ก็สนุกดีตอนทำ
สมัยก่อนผมเคยซื้อกระจกเว้าจากศึกษาภัณท์มาทำ แต่อันเล็กกว่านี้มาก ทำออกมาแล้วไม่ค่อยชัดเลยรื้อทิ้งไปหมดแล้วครับ

เอาใจช่วยครับงานนี้ เดี๋ยวเว็บใหม่เสร็จ ผมขออนุญาตเอาเก็บไว้แบบถาวรในห้องรีวิวให้เลยนะครับ อนุชนรุ่นหลังจะได้เห็นกันจะๆๆว่ากว่าจะได้นี่เหนื่อยขนาดไหน 555

ขอคารวะท่านเจ้าของกระทู้หนึ่งจอก........

ตอนนี้ก็เริ่มทำขากล้อง ละครับ โดยเอาวัสดุ แผ่น MDF มาทำเพราะนำหนักเบาราคาถูก
ละผมก้เอาพวกวัสดุแผ่นอะคริลิกมันทำชิ้นที่เป็นฉากแล้วก็ยึด เพื่อให้แข็งแรง
ขอคุณครับเฮีย ละก็ขอบคุณพี่พี่ทุกคนครับ

เดี๋ยวเว็บใหม่เสร็จ ผมจะรวบรวมกระทู้นี้เข้าไปไว้ในนั้นเลยครับ จะได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับน้องๆที่อยากจะทำอะไรที่ยากๆๆ แต่ต้องการให้มันสำเร็จ จะได้ทราบว่ามันไม่ใช่ของง่ายๆถ้าไม่มีความมุ่งมั่นจริงๆๆน่ะครับ ^^

ขอบคุณครับ เฮีย
เดียวถ้าทำเสร็จผมจะมาอะธิบายเกี่ยวกะระบบละก็ลายละเอียดต่าง ครับ

วันนี้ก็มาต่อด้วยการทำแผ่นรองด้านล่างกันครับ ฮ่าฮ่า
เราก้นำแผ่นMDF มาตัดให้เป็นวงกลม ตัดให้เป็นวงกลมมันก็ยากอยู่ครับถ้าไม่มีเครืองมือ
อันนี้ผมจะใช้เครืองทิมเมอร์ ทำการตัดโดยมีเครืองมือช่วยจะเป็นแกนเหล็ก มาทำให้เป้นวงกลม เวลาตัดโดยที่เรากำหนดขนาดได้ว่าจะเอาวงใหญ่แค่ไหน








เจ้านี้ละครับ เครืองทิมเมอร์




เสร็จแล้วก็เมือมารวมกับขากล้องก็จะได้ประมาณในภาพเลยครับ ฮ่าฮ่า

ขอดูภาพที่เห็นจากกล้องตัวนี้ด้วยครับ

ยังไม่เสร็จเลยครับฮ่าฮ่า ใจร้อนจังไวรุ่น

ต่อมา ผมก็จะมาทำสีดำด้านภายในกล้องดูดาวแล้วก็ชิ้นส่วนต่างๆ
กล้องดูดาวใน ภายในกล้องจะต้องไม่มีแสงสะท้อนอื่นมารบกวน เพราะฉนั้น
ภายในของกล้องดูดาวของเราจะต้อง ทำเป็นเสียงดำด้าน
การทำของผมในก็ ใช้สีกะป๋อง นี้ละครับพ่น




ซื้อมา 35บาท ครับ ฮ่าฮ่า
ส่วนต่อมาเราก็ ถอดชิ้นส่วนต่างๆ แล้วก็ขัดด้วยกระดาษทรายละอียดเบอร์320โดยประมาน เพื่อให้ชิ้นส่วนที่เป็นแผ่นอะคริลิคที่มันลื่นหายลื่น แล้ว็สีสามารถยึดเกาะได้ดี








ชิ้นส่วนของชุดยึดกระจกหลัก








พ่นเสร็จก็ตากแดดไว้ครับ

555 ค่าของพอคำนวนออกว่าน่าจะไม่แพงนะครับ

แต่ค่าแรงผมคำนวนเล่นๆๆว่าน่าจะเกินแสนไปแล้วนะเนี่ย 555 เยี่ยมๆๆๆครับ ผมติดตามเอาใจช่วยทุกขั้นตอนอยู่นะครับ

ค่าแรงเกินแสนนี้ ฮ่าฮ่า
วันนี้ผมก็มาทำสีต่อจากเมื่อวานในชิ้นส่วนต่างๆ


เป็นชิ้นส่วนที่ยึดกระจกรอง ด้านบนของกล้อง
เสร็จแล้ว วันนี้ ก็จะมีอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นมา คือ
1.สีรองพื้นสำหรับอะครีลิค
2.สีรองพื้นสำหรับโลหะ หรือเหล็ก
กระป๋องละ 50 บาท 2กระป๋อง รวมละก็ 100บาท





สีรองพื้นอะครีลิค




สีรองพื้นสำหรับโลหะ หรือเหล็ก




เริ่มจากส่วนของ ท่อกระดาษก่อสร้างหรือลำตัวกล้อง เราก็จะถอดเอาชิ้นส่วนต่างๆออกให้หมด เพื่อจะนำมาทำสีภายในท่อ พอแล้วก็น้ำกระดาษทรายลูบภายในท่อให้ความลื่นของผิวท่อหมดไป




แล้วก็พ่นด้วยสีรองพื้นอะครีลิค ที่พ่นเพราะว่าตัวท่อนี้สีเกาะได้ยากครับมันลื่นมากๆ
สีรองพื้นมันจะเป็นสีออกขาวๆ ทำให้สียึดเกาะได้ดีมากขึ้น




ต่อมาก็พ่นทับด้วยสีดำด้าน




กว่าจะพ่นได้จนแบบในภาพนี้ นี้วผมงิกเลยครับวันนี้พื้นที่ในท่อมันเยอะมาก อีกอย่างมันพ่นยากเพราะมันอยู่ข้างในท่อ




ต่อมาก็ เป็นน็อต แหวนรองน็อก น็อตต่างๆพวกนี้ผมจะพ่นเป็นกลุ่มๆ ไม่เอามารวมกันละพ่นทั้งหมดครับเพราะมันเยอะมากเดียวจะงงว่าอันไหนใส่อันไหน แยกเป็นกลุ่มไว้

แล้วก็พ่นทับด้วยสีดำด้าน





ตอนนี้ก็เหลืออีกไม่มากแล้วครับคลาดว่าพรุ่งนี้น่าจะประกอบกล้องละเอามาส่องละถ่ายภาพดาวมาให้ชมกันได้ครับ ฮ่าฮ่า

ผมอยากถามจริงๆครับ ว่าที่เค้าผลิตขายกันตัวเท่าไหร่ครับ ราคาหลักหลายๆแสนหรือถึงล้านไม๊ครับ 555

มีตั้งแต่หลักพัน-หมื่น-หลักแสน-หลักล้าน-ครับ ฮ่าฮ่า

แบบหักแหงแสง ขนาดหน้ากล้อง 70mm. ราคา 9000บาท





แบบหักแหงแสง ขนาดหน้ากล้อง 152mm. (6นิ้ว) ราคา 60000บาท





แบบสะท้อนแสง ขนาด10นิ้ว ราคา 39000บาท แบบนี้มีขากล้อง EQด้วย






ขากล้องสำหรับกล้องดูดาว แบบEQ ราคา 62000
คือในส่วนของกล้องดูดาวนั้นขากล้องก็สำคัญมากครับราคาก็แพงพอกับราคากล้องดูดาว เพราะต้องมีระบบตามดาว การถ่ายภาพดาว





กล้องดูดาวแบบผสม ขนาดหน้ากล้อง 508mm. (20นิ้ว)
Meade LX400-20 ราคา ประมาณ 2,000,000บาท

ที่มาจาก http://www.darasartcenter.com/

กล้องดูดาว ราคาก็จะอยู่ที่ขนาดหน้ากล้อง ชนิดของกล้อง
แล้วก็ระบบของขากล้องด้วยครับ

เข้ามาเก็บความรู้ครับ

เห็นราคาแล้ว...กลับไปดูหนัง journey to the edge of universe แบบเดิมถึงจะเหมาะกับคนตังน้อยแบบผมนะครับ อิอิ

เดียวว่างผมจะมาอัพเดทต่อนะครับ

มารีวิวกันต่อเลยครับ ฮ่าฮ่า




ภาพฐานยึดกระจกหลัก เมื่อประกอบเข้ากับลำตัวกล้อง





ภาพในภายลำตัวกล้องครับ

มาดูวิธีปรับ balance น้ำหนักของกล้อง ต่อครับ









ลักษณะจะเหมือนในภาพนี้เลยครับ ปากกาจะทรงตัวอยู่ได้ โดยไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง





โดยคายล็อคตัวล็อคแล้วค่อยๆ เลื่อนลำตัวกล้อง ให้น้ำหนัก สมดุลกันแล้วกัน ขันน็อตให้แน่น เพื่อล็อคลำตัวกล้อง

ติดตามอยู่นะครับ 55

ขอบคุณครับเฮีย ฮ่าฮ่า กระทู้ผมอาจจะบ้าบอ ยาวมหาสาร 5555

วันนี้เราก็จะมา ปรับกระจกในกล้องสะท้อนแสงกันครับ ทำกล้องเสร็จ ใช้ว่าจะส่องได้เลยนะครับ มันต้องมีการปรับจูน กระจกที่สะท้อนแสงไปมาในกล้องให้เข้าที่เข้าทางด้วย 555
ขั้นแรก เรามาดูหลักการทำงานของ กล้องแบบสะท้อนแสง กันก่อนดีกว่า
กล้องดูดาวแบบสะท้อนแสง (Reflecting Telescope)
หลักการทำงานของกล้องสะท้อนแสงนั้น คือการใช้กระจก 2 ชิ้น โดยใช้กระจกชิ้นที่ 1 (Primary Mirror) ทำการสะท้อนแสงมายังกระจกชิ้นที่ 2 (Secondary Mirror) แล้วจึงทำการสะท้อนภาพเข้าสู่ตาของเรา โดยภาพนั้นจะเป็นภาพหัวกลับ









ภาพตามการเดินทางของแสง ครับในภาพนี้
ที่ว่ามองจากทางไหนก็ตามภาพนี้เลยครับ ฮ่าฮ่า

ขอเข้าเรื่องต่อนะครับ การปรับกระจกของกล้อง แบบสะท้อนแสง หรือ การ Calimateing
ก็คือการปรับกระจกภายในกล้องครับ ให้ได้ระยะต่างๆ เหมาะสมได้ภาพที่คมชัดที่สุด กระจกไม่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง
โดยอุปกรณ์จะมีด้วยกันสองแบบครับ




1. Laser Collimator






2. Collimating Eyepiece

ถ้าไม่มีอุปกรณ์ทั้งสองชิ้น เราก็ยังสามารถ ปรับกระจก ได้อยู่ครับ โดยหา กระบอกอะไรก็ได้ครับที่ขนาดเท่ากับกระบอกเลนส์ตา มาใส่เข้าไป ในโฟกัสเซอร์ แทนแลนส์ตา มาเล่งแล้วค่อยๆปรับ
ในส่วนของผมจะใช้กระบอกปรับครับ เพราะ ถ้าสั่งซื้อจากต่างประเทศ คงใช้เวลา ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ขอใช้กระบอก แก้ขัดไปก่อนฮ่าฮ่า มาดูดีกว่าครับว่าทำอย่างไรบ้าง




ก่อนอื่น เราก็ต้องนำกระจกหลัก มาเขียนเส้น ตำแหน่งศูนย์กลางไว้ก่อนครับ เวลาปรับเราจะได้รู้ต้องไหนคือ ศูนย์กลางของกระจกหลัก
( ใช้ปากกาเมจิกแบบที่สามารถลบได้นะครับ )




นำกระบอกใส่ไปที่โฟกัสเซอร์ที่ช่องใส่เลนส์ตา





ค่อยๆปรับ ให้ส่วนของภาพ กระจกหลัก และกระจกรองอยู่ในตำแน่งศุนย์กลางมากที่สุดครับ
การปรับ ก็ไปหมุน ที่ ส่วนของน็อต กระจกหลักและน็อตกระจกรองครับ

ไปปรับตรงไหน เราไปดูภาพกันเลยครับ
1. น็อตส่วนที่ ปรับกระจกรอง




2. ตัวบิดส่วนที่เราใช้ปรับกระจกหลัก




วันนี้ขอจบเรื่องการปรับกระจกเท่านี้ละครับ ฮ่าฮ่า

วันนี้ ผมก็จะ เอารูปภาพถ่ายดาวมาให้ชมกันครับ ฮ่าฮ่า
พอดีผมไม่มีอุปกรณ์ ในการถ่ายภาพดาวเลย ขอใช้มือถือ ธรรมดามาลองถ่ายภาพดาวดูครับ วิธีนี้จะถ่ายได้แค่ วัตถุที่สว่างมากมากเท่านั้น ที่สว่างน้อยน้อย ก็จะถ่ายไม่ติดครับ
มาดูกันดีกว่าครับ




ภาพดวงจันทร์
ภาพจากล้อง Newtonian ที่ได้ทำขึ้นเอง
ขนาดหน้ากล้อง 200 mm. โฟกัส 800 mm. F ratio 4 เลนส์ตา 25 mm. กำลังขยาย 32 เท่า
สถานที่ ต.บ้านหม้อ อ. เมือง จ. เพชรบุรี
เวลา 00.10 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2015
วิธีถ่ายภาพ ใช้มือถือ จ่อกับเลนส์ตา

โอ้วววค่อดชัดเลยไม่เคยส่องกล้องดูดาวมาก่อนมันส่องได้ขนาดนี้เลยรึนี่

เดียว ว่างจะมีอัพเดทภาพสวยสวยใหม่ครับ
ภาพจากในกล้องจริงชัดก่านี้มากครับ แต่ ผมไม่มีอุปกรณ์ถ่ายภาพได้แค่เอามือถือไป จ่อ เลยได้ภาพมาเท่านี้ครับ

โอววว โคตรชัดเลยครับ ขนาดเป็นมือถือนะเนี่ย ว่าแต่กระต่ายบนดวงจันทร์อยุ่ตรงไหน ใครช่วยวงให้ดูหน่อยเร้วๆๆๆ 555

ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน กระต่ายมันอยู่ตรงไหนครับ ฮ่ฮ่า เห็นแต่หลุม

วันนี้ ผมจะมาอัพเดท เสริมหล่อให้กล้องละครับ หายไปนานมากก
ขากล้องของผมที่เห้นมันจะทำจากแผ่น MDF พวกนี้โดนความชื้นโดนน้ำมันก็จะพอง บวมได้ครับ เราก็ต้องมาทำสีกันหน่อย เดียวไม่หล่อ 555

ก่อนอื่นเราก็ถอด ออกมาเป็นชิ้นๆ ครับแล้วก็ ทาด้วย แชล็ค เบอร์ 7 ใช้ แปรงขนกระต่ายทาครับ ถ้าไม่ทา แชล็ค มันจะดูดสีมากครับ









ส่วนของขอบ ผมก็จะใช้ สีโป๊ โป๊บริเวณ ขอบทั้งหมดครับ แล้วขัดด้วยกระดาษเบอร์ 320 ให้เรียบ

ลืมบอก แชล็ค เบอร์7 ผมทาไปประมาณ4เที่ยว ครับ พวกวิธีการทา ผมก็หาจากในเนตนี้ละครับ ผมเองก็ไม่ใช้ช่างเพิ่งจะเคย ทาแชล็ค ก็ครั่งนี้ละครับ

ต่อมาก็ พ่นสีรองพื้น




พ่นสีจริง ผมใช้สีดำด้านครับ มองแล้วมันดุดี 555

เสร็จแล้ว ผมก็ใส่ อุปกรณ์ เสริมต่างๆ




ติดเทฟรอนเพื่อให้มันเลือนเวลาเราหมุนกล้อง




ต่อมาก็ ติดล้อครับ ให้ผมแบกกล้องผมก็ไม่แบกไม่ไหวครับ ใส่ล้อเลยครับ เลือนได้ 5555




จัดไป 4 ดอก เลือนมากยังกะสเก็ตบอร์ด 555






ช่องใส่ เลนส์ตา มือจับเอามายึดกับขากล้องเวลาที่เรายกขากล้อง





พอประกอบกล้องใช้จริงปราฎกว่า ขากล้องค่อยข้างหนักครับ ผมเลย เจาะรูปเพื่อลดน้ำหนัดลง





ส่วน รางสไลด์ด้านข้างที่เป็นไม้ผมจะใช้ น้ำมันรักษาเนื้อไม้ทีคออยล์ทาครับ

ประกอบแล้วว หล่อเลย ตานี้ 555

อืมมม สุดยอดเลยคร้าบบ 555