
เมื่อหัวค่ำ ผมเดินไปเที่ยวเล่นให้ห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ผมไม่ค่อยมีเวลาแวะเวียนไปดูซีดีใหม่ๆ บ่อยนัก เพราะในห้างนี้ไม่มีเพลงสากลดีๆ ให้เลือกหา จะมีก็แต่ซีดีเพลงไทยสากลที่หาได้ตามร้านทั่วไป....เหมือนเคยทุกครั้ง ผมต้องเดินเข้าไปตรวจในหิ้งของเพลงเพื่อชีวิต ซึ่งมันจะหลบอยู่มุมลึกสุดของร้าน ผมมักเดินไปสำรวจทุกครั้งที่มีเพลงออกใหม่ และผมไปเฝ้าดูเนื่องจากจุดประสงค์บางอย่าง...
ผมมีพฤติกรรมแบบนี้ โดยเฉพาะกับมุมเพลงเพื่อชีวิตมุมนี้ ผมเดินที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้มานานประมาณ 15 ปี และผมก็มักจะแวะมาที่ร้านนี้ เพื่อดูตรงมุมเดิมนี้ ผมรอคอยอะไรบางอย่าง...และผมก็เจอมันในวันนี้ ใจผมเต้นแรง ผมไม่แน่ใจว่าผมมีอาการรุกรี้รุกรน กระสับกระส่ายซักขนาดไหน มันมากจนคนขายสังเกตุออกหรือเปล่า
ผมเจออัลบั้มเพลงที่ผมตามหามากว่า 30 ปี เป็นงานเพลงอัลบั้มชุดที่ 3 ของศิลปินวงแฮมเมอร์ ผมนั้นเป็นแฟนเพลงของวงแฮมเมอร์ตั้งแต่ผมอายุ 12-13 ผมดูคุณอารี ประธาน คุณอนุชา ประธาน ตั้งแต่วันแรกที่เข้าประกวดในรายการโทรทัศน์ช่อง 5 ชื่อรายการวันดวลเพลง ผมติดตามฟังเพลงและดูจนวันที่วงแฮมเมอร์ได้รับการตัดสินให้เป็นแชมป์เปี้ยนรายการวันดวลเพลง
หลังจากนั้น ก็มีแผ่นเสียงและเทปคาสเซ็ทต์ของวงแฮมเมอร์ติดตามออกมา เพลงที่เราคุ้นหูกัน และทุกคนมักจะฟังผ่านหูกันมาแล้วทุกคน คงไม่ผิดไปจากเพลง บินหลา หรือ เพลงปักษ์ใต้บ้านเรา ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ประสพความสำเร็จสูงสุดของวงแฮมเมอร์ ซึ่งในเวลานั้น ผมยังเป็นแค่นักเรียนระดับมัธยมศึกษา แต่ผมก็เก็บสตางค์อุดหนุนวงแฮมเมอร์มาโดยตลอด
จนอัลบั้มที่ 3 ของวงแฮมเมอร์ ออกมา...ผมจำได้ว่า เป็นช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดของวงแฮมเมอร์ในช่วงเวลานั้น ผมเก็บสตางค์ซื้อเทปคาสเส็ทต์ของวงแฮมเมอร์อย่างเช่นเคย ผมจำได้ว่า ในอัลบั้มนี้มีเพลงที่ผม "รัก" มากที่สุด ชื่อเพลงว่า "เด็กน้อย" มันเป็นความรัก มันเป็นบทเพลงที่มาชดเชยความเหงา ความเศร้า ของผมในวัยเยาว์....ผมฟังเพลง "เด็กน้อย" ด้วยความซาบซึ้งตั้งแต่นั้นมา ผมไม่เคยเบื่อที่จะเปิดฟัง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า......
เหตุเพราะสิ่งใด ผมถึงผูกพันและมีความ "รัก" กับบทเพลงนี้มาก ในช่วงอายุ 14 ปี แม่จากผมไปเนื่องจากโรคไตวาย ซึ่งแม่ต้องทนทุกข์กับการมีชีวิตด้วยการฟอกไต และผ่าตัดเปลี่ยนไต แล้วผมล่ะ...ผมในวันนั้น เมื่อขาดแม่ ผมรู้สึกว่า ผมเหมือนเด็กที่ต้องต่อสู้กับโลกที่โหดร้ายในภายหน้าแต่ลำพัง...เพลง "เด็กน้อย" ของแฮมเมอร์นั้น เปรียบเหมือนบทเพลงที่สะกดอารมณ์ และกล่าวเตือนให้ผมรู้ว่าโลกจริงๆๆ มันโหดร้ายอย่างไร มันบอกผมให้ต่อสู้ และอยู่บนโลกแห่งความจริง มากกว่าจะอยู่ในโลกแห่งความฝัน
คราวใดที่ฟังเพลงนี้
ก้อนสะอื้นเหมือนมันจะถูกดันขึ้นมาจุกตรงลำคอ น้ำตาเหมือนจะปริ่ม ผมกุมมือตัวเองจนแน่น....
เวลาผ่านไป เทปม้วนนี้ผมไม่อาจจะรักษาเอาไว้ได้ มันสูญหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ เทปชุดนั้นออกในปี พ.ศ.2524 เดือนพฤษภาคม ซึ่งถ้านับเวลาน่าจะครบ 28 ปีในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ผมทำมันหาย มันหายไปจากชีวิตผม...และช่วงเวลาเป็นสิบๆ ปีที่ผ่านมา วงแฮมเมอร์ได้นำเอาอัลบั้มเก่ามารีมาสเตอร์และทำใหม่ แต่ก็ไม่มีอัลบั้มนี้แต่อย่างใด และมีการนำเพลงมาทำใหม่ ทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ก็ไม่มีเพลงนี้แต่อย่างใด....
ผมเคยพิมพ์จดหมายส่งทางไปรษณีย์ไปหาวงแฮมเมอร์ที่สำนักงานเพลงของเค้า ทวงถามว่า พี่ครับ..พี่ช่วยนำอัลบั้มเพลงนี้กลับมาผลิตได้ไหมครับ เล่าถึงความรักและความฝังใจของผมกับบทเพลงของวงแฮมเมอร์ ถามถึงสาเหตุว่าทำไมอัลบั้มนี้ถึงไม่มีการนำกลับมาจำหน่ายใหม่ ทั้งๆ ที่เป็นอัลบั้มที่ผมถือว่าเป็นจุดสูงสุดของการเขียนเพลงเลยด้วยซ้ำไป แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าจดหมายจะถึงมือพี่ๆ กันหรือเปล่า.....
เมื่อมีการคุยกันไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามในเว็บบอร์ด หรือการสัมภาษณ์จากใครๆๆ ก็ตาม แม้แต่รายการมหาเนิร์ดที่มาถ่ายเทปการสัมภาษณ์ไป มีคำถามที่น้องต้นถามผมไว้ว่า มีเพลงไหนที่ชอบมากที่สุดในชีวิต.....ผมตอบอย่างไม่รีรอ และไม่อายที่ผมฟังเพลงที่ไม่มีใครสนใจ เป็นเพลงไทยที่ผมรัก ผมตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า เพลง "เด็กน้อย" ของวงแฮมเมอร์ ผมยังจำได้ว่า ผมยังฮัมเพลงนี้ในการบันทึกเทป (อยู่ในเทปภาค 2) ซึ่งในวันที่สัมภาษณ์ ผมก็ยังไม่พบเจอกับอัลบั้มนี้แต่อย่างใด....
แต่วันนี้ผมได้ซีดีอัลบั้มนี้มาอยู่ในมือ ผมได้เพลง "เด็กน้อย" ของผมกลับมาแล้ว ผมใช้การรอคอยอันยาวนานมาเกือบ 30 ปี มันเป็นเพลงที่หายไปจากชีวิตผม มันเคยมาช่วยฉุดรั้งชีวิตผมไว้ในวัยเยาว์ แต่วันนี้มันมาให้กำลังใจ มันมาทำให้ผมหวลคำนึงถึงวันที่ผมยังสับสน วันที่ผมว้าเหว่ วันที่ผมเกเร วันที่ผมยังเยาว์ วันที่ผมยังเขลา....
ภาพอดีตมันกลับมาฉายให้เห็นในวันนี้
ก้อนสะอื้นเหมือนมันจะถูกดันขึ้นมาจุกตรงลำคอ น้ำตาเหมือนจะปริ่ม ผมกุมมือตัวเองจนแน่น....
(ผมขอคัดลอกเนื้อเพลงมาให้เพื่อนๆๆ ได้อ่านกันตรงนี้นะครับ)
-----------------------------------------------------------
โอ้เจ้าเด็กเล็กเอ๋ย ยังไม่เคยได้รู้เรื่องราว
มองดูฟ้วยังมีแสงดาว ลา ล้า ล้า ลา...ลา ล้า ลา ลา
นัยน์ตามีความฝัน บนสวรรค์คงมีดวงดาว
บนเมฆขาวคงมีที่นอน ฮืม ฮืม ฮืม ฮืม...ฮา ฮา ฮา ฮา
เมื่อเติบใหญ่แล้วเจ้าจะเข้าใจ ว่าโลกนั้นมันไม่ไฉไล
เหมือนดั่งใจที่ใฝ่ฝัน.....(ซ้ำ)
โอ้เจ้าเด็กเล็กน้อย พ่อแม่คอยเฝ้าเอาใจ
เลี้ยงดูจนเจ้าเติบใหญ่ ลา ล้า ล้า ลา...ลา ล้า ลา ลา
น้ำตาเจ้าหยาดไหล เมื่อมีใครเค้าไล่ทุบตี
อยากวิ่งหนีไปให้ไกล ฮืม ฮืม ฮืม ฮืม...ฮา ฮา ฮา ฮา
เมื่อเติบใหญ่แล้วเจ้าจะเข้าใจ ว่าโลกนั้นมันไม่ไฉไล
เหมือนดั่งใจที่ใฝ่ฝัน.....(ซ้ำ)
โอ้เจ้าเด็กเล็กน้อย พ่อแม่คอยเฝ้าเอาใจ
เลี้ยงดูจนเจ้าเติบใหญ่ ลา ล้า ล้า ลา...ลา ล้า ลา ลา
น้ำตาเจ้าหยาดไหล เมื่อมีใครเค้าไล่ทุบตี
อยากวิ่งหนีไปให้ไกล ฮืม ฮืม ฮืม ฮืม...ฮา ฮา ฮา ฮา
--------------------------------------------------------
ผมไม่อายที่ผมฟังเพลงที่ไม่มีใครอยากฟัง ผมฟังเพลงจากอารมณ์ดิบ อารมณ์เหงา และอารมณ์ที่ฟุ้งซ่านส่วนตัวของผม ผมกล้าบอกว่านี่คือเพลงที่ผม "รัก" มากที่สุดในชีวิต เพลงที่ผมรัก หรือเพลงที่ใครๆๆ รัก ไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงฮิต เป็นเพลงขายดี หรือเป็นเพลงที่คนอื่นชื่นชม...ขอแต่มันมีความหมายกับชีวิตผมเท่านั้นพอ
ขอบคุณที่สละเวลาอ่านกันทุกท่านครับ
.......
ผมได้ฝากตัวอย่างเพลงไว้ที่ตรงลิงค์นี้ครับ (เพื่อเป็นการแนะนำคงไม่น่าจะขัดต่อสิ่งใดๆครับ)
http://th.upload.sanook.com/A0/7ce1bc33b008d24d938dbe354c95dde3