แกเป็นทั้งผู้ร่วมก่อตั้งลำโพง AR Acoustic research ที่โด่งดังเป็นพลุแตกในไทยเมื่อ 20-30 ก่อน เป็นผู้ผลิตคิดค้นระบบจูนคลื่น FM และออกแบบดีไซน์วิทยุตั้งโต๊ะให้กับ KLH จนโด่งดัง และรวมถึงกินตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาทางเทคนิคบริษัทใหญ่ๆๆ ....จนสุดท้าย ป๋า Henry Kloss ก็มาม่องเท่งเมื่อย้ายมาอยู่กับ Tivoli .......
แกเป็นทั้งผู้ร่วมก่อตั้งลำโพง AR Acoustic research ที่โด่งดังเป็นพลุแตกในไทยเมื่อ 20-30 ก่อน เป็นผู้ผลิตคิดค้นระบบจูนคลื่น FM และออกแบบดีไซน์วิทยุตั้งโต๊ะให้กับ KLH จนโด่งดัง และรวมถึงกินตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาทางเทคนิคบริษัทใหญ่ๆๆ ....จนสุดท้าย ป๋า Henry Kloss ก็มาม่องเท่งเมื่อย้ายมาอยู่กับ Tivoli .......
มาดูเจาะตรงด้านหน้ากันอีกนิดครับ เจ้าปุ่มล่างนี้เป็นปุ่ม Selector ซึ่งมันทำมาให้สี่ตำแหน่งด้วยกัน คือ ซ้ายสุดคือ OFF และมันจะไม่ติดขึ้นมาเอง ถ้าเราไม่ไปทะลึ่งเปิดมัน หรือผีไม่ได้หลอกเรา...ส่วนต่อไปก็คือปุ่ม FM และ AM และรวมไปถึง AUX ในที่สุด
เจ้าปุ่มนี่ล่ะ เริ่มมีประโยชน์สำหรับเซียนหูฟังอย่างเราๆๆ ท่านๆๆ แล้วล่ะ ปุ่ม AUX นั้น เราสามารถนำเครื่องเล่นพวก Portable Player มาเสียบฟังร่วมด้วยได้ เรียกว่าเอา iPod มาต่อ เสียงก็จะออกมาเป็น iPod ได้ ถ้าเราเลือกช่องนี้ไปที่ AUX
มาดูเจาะตรงด้านหน้ากันอีกนิดครับ เจ้าปุ่มล่างนี้เป็นปุ่ม Selector ซึ่งมันทำมาให้สี่ตำแหน่งด้วยกัน คือ ซ้ายสุดคือ OFF และมันจะไม่ติดขึ้นมาเอง ถ้าเราไม่ไปทะลึ่งเปิดมัน หรือผีไม่ได้หลอกเรา...ส่วนต่อไปก็คือปุ่ม FM และ AM และรวมไปถึง AUX ในที่สุด
เจ้าปุ่มนี่ล่ะ เริ่มมีประโยชน์สำหรับเซียนหูฟังอย่างเราๆๆ ท่านๆๆ แล้วล่ะ ปุ่ม AUX นั้น เราสามารถนำเครื่องเล่นพวก Portable Player มาเสียบฟังร่วมด้วยได้ เรียกว่าเอา iPod มาต่อ เสียงก็จะออกมาเป็น iPod ได้ ถ้าเราเลือกช่องนี้ไปที่ AUX
แต่ถ้ามันไม่ตรงคลื่นๆ มันจะวูบวาบ วูบวาบ ราวกับ กระสือสาวที่ล่องลอยออกหาอาหารนั่นแหละครับ ภาครับวิทยุของ Tivoli Model one นั้น ป๋า Henry เค้าออกแบบการรับคลื่นโดยร่วมกับทีมวิจัยของ Tivoli ซึ่งนำเอาเทคโนโลยีที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือมาใช้กันล่ะครับ ไอ้เทคโนอันนี้ คือวงจร GaAs MES-FET ซึ่งผมเองก็อ่านเจอเหมือนกัน แต่ช่างมันเหอะครับ อ่านแค่พอรู้ อย่าไปสนกับมันมาก เดี๋ยวจะปวดหัวเปล่าๆๆ.....555
ใน Tivoli Model One นั้น ออกแบบเพื่อให้รับภาควิทยุคลื่นสั้น อย่าง FM และคลื่นยาวแบบ AM ซึ่งในบทรีวิวนี้ผมทดสอบเฉพาะภาค FM (Frequency Modulation) เพราะผมว่าเราๆๆ ท่านๆ มักจะฟังเพลงกันจากคลืน FM นี่ล่ะ เพราะมันส่งสัญญาณในระบบสเตอริโอ ซึงถือว่าคุณภาพดีใช้ได้ เมื่อเทียบกับการไม่ต้องซื้อหาเพลงมาฟัง เพราะว่ายังไง วิทยุมันก็ฟังฟรีอยู่นั่นเอง.....
แต่ถ้ามันไม่ตรงคลื่นๆ มันจะวูบวาบ วูบวาบ ราวกับ กระสือสาวที่ล่องลอยออกหาอาหารนั่นแหละครับ ภาครับวิทยุของ Tivoli Model one นั้น ป๋า Henry เค้าออกแบบการรับคลื่นโดยร่วมกับทีมวิจัยของ Tivoli ซึ่งนำเอาเทคโนโลยีที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือมาใช้กันล่ะครับ ไอ้เทคโนอันนี้ คือวงจร GaAs MES-FET ซึ่งผมเองก็อ่านเจอเหมือนกัน แต่ช่างมันเหอะครับ อ่านแค่พอรู้ อย่าไปสนกับมันมาก เดี๋ยวจะปวดหัวเปล่าๆๆ.....555
ใน Tivoli Model One นั้น ออกแบบเพื่อให้รับภาควิทยุคลื่นสั้น อย่าง FM และคลื่นยาวแบบ AM ซึ่งในบทรีวิวนี้ผมทดสอบเฉพาะภาค FM (Frequency Modulation) เพราะผมว่าเราๆๆ ท่านๆ มักจะฟังเพลงกันจากคลืน FM นี่ล่ะ เพราะมันส่งสัญญาณในระบบสเตอริโอ ซึงถือว่าคุณภาพดีใช้ได้ เมื่อเทียบกับการไม่ต้องซื้อหาเพลงมาฟัง เพราะว่ายังไง วิทยุมันก็ฟังฟรีอยู่นั่นเอง.....
เฮ้ย..ผีหลอกกลางวัน ??? เสื้อเหลืองกอดคอกับเสื้อแดงไปเที่ยว ??? ช่อง AUX นี่ล่ะที่ผมว่าแปลก ผมมาค้นพบว่า ช่อง AUX นี่ เมื่อผมต่อ iPod และเอาสัญญาณออกมาเป็น mini แล้วเอามาจิ้มที่ช่อง AUX แล้ว select เลือกตรงหน้าปัดไปที่ AUX สุ้มเสียงที่ได้ ช่างเหมือนกันการใช้แอมป์หูฟังแบบแยกชิ้นเลยทีเดียว
เฮ้ย..ผีหลอกกลางวัน ??? เสื้อเหลืองกอดคอกับเสื้อแดงไปเที่ยว ??? ช่อง AUX นี่ล่ะที่ผมว่าแปลก ผมมาค้นพบว่า ช่อง AUX นี่ เมื่อผมต่อ iPod และเอาสัญญาณออกมาเป็น mini แล้วเอามาจิ้มที่ช่อง AUX แล้ว select เลือกตรงหน้าปัดไปที่ AUX สุ้มเสียงที่ได้ ช่างเหมือนกันการใช้แอมป์หูฟังแบบแยกชิ้นเลยทีเดียว
เอ้า อันแรกเลย เจ้านี่นะจะคลาสสิคกว่า ธานินทร์ แน่ๆๆๆ เพราะผมว่ามันเข้า world Class ไปแล้วล่ะ ถ้าหากจะกล่าวถึงพวก Table Radio เจ้า Tivoli น่าจะเป็นแชมป์อยู่ครับ
เอ้า อันแรกเลย เจ้านี่นะจะคลาสสิคกว่า ธานินทร์ แน่ๆๆๆ เพราะผมว่ามันเข้า world Class ไปแล้วล่ะ ถ้าหากจะกล่าวถึงพวก Table Radio เจ้า Tivoli น่าจะเป็นแชมป์อยู่ครับ
แต่ผมมองว่าประโยชน์ที่พวกเล่นหูฟังจะได้กลับไป ก็อีตรงเสียบได้เหมือนแอมป์หูฟังและฟัง FM เหมือนผ่านแอมป์ชั้นดีเลยล่ะ ตอนนี้ผมต่อ iPod คาไว้อยู่ และก็เสียบหูฟัง Grado คาไว้เช่นกัน เวลาฟัง iPod ผมก็เลือกไปที่ AUX เวลาจะฟัง FM ก็บิดมาที่ FM เรียกว่าไม่เหงาเหมือนสมัยที่ฟังเพลงจาก iPod เพียงอย่างเดียว
ภาคแอมป์ไม่มีอาการจัดจ้านหรือบวมเบลอ ขาดรายละเอียดครับ ออกโทน Flat เล้กน้อย คือกลางๆๆ ไม่เน้นมากนัก ขนาดซาวด์เสตทนั้นถือว่าเหลือรับประทานแล้วสำหรับฟังก์ชั่นระดับของแถม เวลาต่อฟังกับ Grado ถ้าฟังในห้องนอน ผมเปิดฟังไม่เกิน 10 นาฬิกาเท่านั้นครับ ความสะอาดของเสียงกลางคือของดี ไม่ขาดไม่เกิน ใครที่อยากได้ชุดเล้กๆๆ ระดับ Back up ตัวนี้ใช้ได้ดีแน่นอนจ้า
แต่ผมมองว่าประโยชน์ที่พวกเล่นหูฟังจะได้กลับไป ก็อีตรงเสียบได้เหมือนแอมป์หูฟังและฟัง FM เหมือนผ่านแอมป์ชั้นดีเลยล่ะ ตอนนี้ผมต่อ iPod คาไว้อยู่ และก็เสียบหูฟัง Grado คาไว้เช่นกัน เวลาฟัง iPod ผมก็เลือกไปที่ AUX เวลาจะฟัง FM ก็บิดมาที่ FM เรียกว่าไม่เหงาเหมือนสมัยที่ฟังเพลงจาก iPod เพียงอย่างเดียว
ภาคแอมป์ไม่มีอาการจัดจ้านหรือบวมเบลอ ขาดรายละเอียดครับ ออกโทน Flat เล้กน้อย คือกลางๆๆ ไม่เน้นมากนัก ขนาดซาวด์เสตทนั้นถือว่าเหลือรับประทานแล้วสำหรับฟังก์ชั่นระดับของแถม เวลาต่อฟังกับ Grado ถ้าฟังในห้องนอน ผมเปิดฟังไม่เกิน 10 นาฬิกาเท่านั้นครับ ความสะอาดของเสียงกลางคือของดี ไม่ขาดไม่เกิน ใครที่อยากได้ชุดเล้กๆๆ ระดับ Back up ตัวนี้ใช้ได้ดีแน่นอนจ้า
อีกคำถามครับเฮีย ผมอยากรู้ว่า ภาครับ AM ชัดไหมครับเพราะจะซื้อไปให้พ่อใช้ที่ต่างจังหวัดเขาก็ฟังแต่ AM อยู่แล้วอะครับ
อบคุณเฮีย มากเลยครับ แล้วเขาแถมเสา AM มาให้ด้วยหรือปล่าวครับ
อีกคำถามครับเฮีย ผมอยากรู้ว่า ภาครับ AM ชัดไหมครับเพราะจะซื้อไปให้พ่อใช้ที่ต่างจังหวัดเขาก็ฟังแต่ AM อยู่แล้วอะครับ
อบคุณเฮีย มากเลยครับ แล้วเขาแถมเสา AM มาให้ด้วยหรือปล่าวครับ
ส่วนภาค AM ผมไม่ได้ลองจริงๆๆ ครับ เนื่องจากผมไม่ได้ทำสายอากาศไว้ต่อ AM แต่ผมมั่นใจว่าถ้า FM มันเคี้ยวเข้า AM ก็ไม่น่าจะเหลือหลอล่ะครับ ส่วนในกล่องนั้น ไม่มีเสา AM มานะครับ แต่เราสามารถทำเองก็ได้ง่ายจังประมาณนั้น แค่เอาสายไฟเส้นเล็กๆๆ มาม้วนให้เป็นวงกลมๆๆ ก็ใช้ได้ล่ะ
ไว้ผมจะมาขยายความต่อในส่วนของภาค AM เน้อ..........
ส่วนภาค AM ผมไม่ได้ลองจริงๆๆ ครับ เนื่องจากผมไม่ได้ทำสายอากาศไว้ต่อ AM แต่ผมมั่นใจว่าถ้า FM มันเคี้ยวเข้า AM ก็ไม่น่าจะเหลือหลอล่ะครับ ส่วนในกล่องนั้น ไม่มีเสา AM มานะครับ แต่เราสามารถทำเองก็ได้ง่ายจังประมาณนั้น แค่เอาสายไฟเส้นเล็กๆๆ มาม้วนให้เป็นวงกลมๆๆ ก็ใช้ได้ล่ะ
ไว้ผมจะมาขยายความต่อในส่วนของภาค AM เน้อ..........
SPECIFICATIONS
Model: Model One by Henry Kloss™
Type: AM/FM analog mono table radio
Driver: One 3" (76.2mm) full-range driver
Dimensions: 8.375" W x 4.5" H x 5.25" D
(212.7mm W x 114.3mm H x 133.35mm D)
Weight: 3.94 lbs (1.787 kg)
ตัวนี้เปิดดังหูแตกได้เลยนะครับ ไม่ใช่เปิดไม่ได้ล่ะ.... แต่เนื่องจากมันเป็นวิทยุสไตล์ kitchen Radio หรือบางคนก็เรียก Bed Radio บางทีก็เรียก Table radio หรือบางคนก็เรียก Clock Radio ซึ่งวิทยุสไตล์นี้มันเป็น Vintage คือเน้นฟังสบายๆๆ ง่ายๆๆ ยิ่งถ้าประเภทฟังข่าวสาร ฟังละครคณะเกศทิพย์ แบบนี้รับกินเลยล่ะ
SPECIFICATIONS
Model: Model One by Henry Kloss™
Type: AM/FM analog mono table radio
Driver: One 3" (76.2mm) full-range driver
Dimensions: 8.375" W x 4.5" H x 5.25" D
(212.7mm W x 114.3mm H x 133.35mm D)
Weight: 3.94 lbs (1.787 kg)
ตัวนี้เปิดดังหูแตกได้เลยนะครับ ไม่ใช่เปิดไม่ได้ล่ะ.... แต่เนื่องจากมันเป็นวิทยุสไตล์ kitchen Radio หรือบางคนก็เรียก Bed Radio บางทีก็เรียก Table radio หรือบางคนก็เรียก Clock Radio ซึ่งวิทยุสไตล์นี้มันเป็น Vintage คือเน้นฟังสบายๆๆ ง่ายๆๆ ยิ่งถ้าประเภทฟังข่าวสาร ฟังละครคณะเกศทิพย์ แบบนี้รับกินเลยล่ะ
เจ้า tivoli นั้น made in china จ้า ติดหราอยู่ด้วนหลังเลยครับ แต่สบายใจได้ครับ ยุคคนี้ถ้า made in china ถือว่าเหนือกว่าพวกประเทศอื่นแล้วล่ะ 55 iPod ยังทำใน China เลยครับ ตัดไปได้ สบายใจแน่นอนครับ
เจ้า tivoli นั้น made in china จ้า ติดหราอยู่ด้วนหลังเลยครับ แต่สบายใจได้ครับ ยุคคนี้ถ้า made in china ถือว่าเหนือกว่าพวกประเทศอื่นแล้วล่ะ 55 iPod ยังทำใน China เลยครับ ตัดไปได้ สบายใจแน่นอนครับ
ส่วนกรณีรับพวกคลื่นแรงๆๆ ได้หรือเปล่า อันนี้ไม่ได้ test จริงๆๆ ล่ะ ผมมา test ตรงว่าคลื่นมันรับได้ชัดเจนไม๊ และวูบวาบมากไม๊ 555 แต่คลื่น นกป ไม่ได้ test ล่ะ เพราะขืน test มีหวังเสียเงินตามไปอีก...555
ส่วนกรณีรับพวกคลื่นแรงๆๆ ได้หรือเปล่า อันนี้ไม่ได้ test จริงๆๆ ล่ะ ผมมา test ตรงว่าคลื่นมันรับได้ชัดเจนไม๊ และวูบวาบมากไม๊ 555 แต่คลื่น นกป ไม่ได้ test ล่ะ เพราะขืน test มีหวังเสียเงินตามไปอีก...555
เค้าจะเอา model 3 เข้ามามั้ยครับ
อยากได้นาฬิกาปลุกด้วยง่ะ
เค้าจะเอา model 3 เข้ามามั้ยครับ
อยากได้นาฬิกาปลุกด้วยง่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 75
CEzilla
12/04/2009 18:35:41
มายืนยันคุณภาพคับแก้วของ Tivoli ด้วยอีกคนครับ
Model One เนี่ยผมซื้อมาใช้สองตัวครับ จากร้าน ยูฟิตอน ที่พันทิพ เอาเข้ามาขาย เมื่อหลายปีแล้ว
ที่ราคาค่าตัวละ 6,800 บาท ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นยูฟิคอน เอา Model Two มาขายด้วยเหมือกัน
ตัวนึงให้ซื้อคุณพ่อใช้เพราะท่านชอบฟังคลื่นดนตรีคลาสสิคของวิทยุจุฬา เป็นตัวที่มีสีและลายคลาสสิกแบบเดียวกันกับของเฮียมั่นคงเลย อีกตัวนึงเอาไว้ใช้เอง สีเงินขาวเข้ากับเครื่อง Mac และ Ipod ได้ดี
สรุปว่า มันคลาสสิกดี เหมาะกับคนชอบฟังเพลงทางวิทยุ FM เปิดวิทยุเป็นเพื่อนแก้เหงา :-)
มายืนยันคุณภาพคับแก้วของ Tivoli ด้วยอีกคนครับ
Model One เนี่ยผมซื้อมาใช้สองตัวครับ จากร้าน ยูฟิตอน ที่พันทิพ เอาเข้ามาขาย เมื่อหลายปีแล้ว
ที่ราคาค่าตัวละ 6,800 บาท ถ้าจำไม่ผิดตอนนั้นยูฟิคอน เอา Model Two มาขายด้วยเหมือกัน
ตัวนึงให้ซื้อคุณพ่อใช้เพราะท่านชอบฟังคลื่นดนตรีคลาสสิคของวิทยุจุฬา เป็นตัวที่มีสีและลายคลาสสิกแบบเดียวกันกับของเฮียมั่นคงเลย อีกตัวนึงเอาไว้ใช้เอง สีเงินขาวเข้ากับเครื่อง Mac และ Ipod ได้ดี
หน้าตาและรูปพรรณสัญฐานก็ครือๆๆ กับ Model one ครับ แต่เปลี่ยนนิดหน่อยตรงนาฬิกาที่แถมมาด้วย หลายท่านอาจจะบอกว่า เฮ้ย แถมนาฬิกาแล้วแพงขึ้นหรือเปล่า...5555
หน้าตาและรูปพรรณสัญฐานก็ครือๆๆ กับ Model one ครับ แต่เปลี่ยนนิดหน่อยตรงนาฬิกาที่แถมมาด้วย หลายท่านอาจจะบอกว่า เฮ้ย แถมนาฬิกาแล้วแพงขึ้นหรือเปล่า...5555
รุ่นนี้มีฟังก์ชั่นเพิ่มมาให้มากกว่าใน Model one คือมันเพิ่มลำโพงภายนอกได้อีก 1 ตัว เพื่อทำให้มันเป็นสเตอริโอได้ และมีช่องสำหรับให้สัยญาณออกไปที่ซับวูเฟอร์ได้อีก.....ซึงเหล่านี้ ท่านนักฟังต้องควักกระเป๋าสตางค์ ณ ที่จ่ายทั้งหมดล่ะ 555
เอ้า ช่างหัวมัน ที่เค้าแถมมามีประโยชน์แน่ๆๆ แล้วแต่เราว่าจะเล่นหรือเปล่าเท่านั้น รุ้สึกว่าจะเสียบ mic และมี AUX ให่เลือกเล่นจนสะใจ มีครบถ้วนครับ
เจ้า Model Tree นี่เค้ายกเอาทรานสฟอเมอร์ออกมาไว้ด้านนอก มากลายเป็นหม้อแปลงลูกย่อมๆๆ อยู่ภายนอกครับ แต่ไม่ได้มีอุปสรรคอะไร เพราะมันก็เหมือนอแดปเตอร์ตัวนึงนั่นเอง...
รุ่นนี้มีฟังก์ชั่นเพิ่มมาให้มากกว่าใน Model one คือมันเพิ่มลำโพงภายนอกได้อีก 1 ตัว เพื่อทำให้มันเป็นสเตอริโอได้ และมีช่องสำหรับให้สัยญาณออกไปที่ซับวูเฟอร์ได้อีก.....ซึงเหล่านี้ ท่านนักฟังต้องควักกระเป๋าสตางค์ ณ ที่จ่ายทั้งหมดล่ะ 555
เอ้า ช่างหัวมัน ที่เค้าแถมมามีประโยชน์แน่ๆๆ แล้วแต่เราว่าจะเล่นหรือเปล่าเท่านั้น รุ้สึกว่าจะเสียบ mic และมี AUX ให่เลือกเล่นจนสะใจ มีครบถ้วนครับ
เจ้า Model Tree นี่เค้ายกเอาทรานสฟอเมอร์ออกมาไว้ด้านนอก มากลายเป็นหม้อแปลงลูกย่อมๆๆ อยู่ภายนอกครับ แต่ไม่ได้มีอุปสรรคอะไร เพราะมันก็เหมือนอแดปเตอร์ตัวนึงนั่นเอง...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 114
นายมั่นคง
26/06/2009 15:15:10
0
ด้านหน้า ยังคงความเป็นตระกูล Tivoli Model อยุ่ครับ คือย้ายนู่นนิด ย้ายนี่หน่อย แล้วก็เก็บเงินเพิ่ม แต่เค้าก็ทำมาให้สมราคาพอประมาณ
เอามาต่อกับ เครื่องเล่น ทีแรกต่อกับเครื่องเล่น CD ยี่ห้อโนเนม ราคาประมาณ 4พันกลางๆ เสียงใช้ได้แต่ เจอปัญหาเวลาเปิด TIVOLI แล้วสวิทช์ไปที่ FM แล้วเปิดถาดใส่ CD PLAYER เหมือนมีสัญญาณรบกวนเลย แต่จะเป็นพักเดียว หงุดหงิด เลยไปหา CD PLAYER ตัวใหม่ แล้วทดสอบแบบเดิม ก็ไปเจอเจ้านี่ YAMAYA CDX-497 ราคาหมื่นต้นๆ หลังจากผ่านการทดสอบ ไม่มีเสียงรบกวนเลยเน้อ(ที่มีเสียงรบกวน อาจเป็นเพราะเอาเจ้า TIVOLI ไปวางบนเครื่อง CD PLAYER)
แล้วมีที่หงุดหงิด2จุด คือ จุดแรก เวลาเบาเสียง CD PLAYER จนสุด มันก็ยังมีเสียงเบาๆออกมา คือไม่เงียบสนิทซะทีเดียว
จุดที่สอง ไฟสีเหลืองบอกสถานะการหาคลื่นความถี่ของวิทยุจะสว่างหรือดับตลอดเวลา ที่เปิดไปที่ AUX หมายความว่าสัญญาหาคลื่นความถี่วิทยุจะหาตลอดว่าแม้ว่าจะเปิด CD PLAYER ก็ตาม
สาหรุป ชอบๆๆครับ ที่ชอบเพราะว่าดีไซน์มันเก๋ดี วันที่ซื้อ CD PLAYER ก็เอา TIVOLI ไปด้วย คนเห็นก็สนใจมามองๆ บางคนก็บอกว่ายี่ห้ออะไรไม่เคยได้ยิน(จะดีใจดีไหมเนี่ย) บอกว่าอืม ตัวเล็กแต่เสียงเพราะดีเน๊อะ บางก็บอกว่าแปลกดี
สิ่งที่ไม่ชอบ
1. ไม่เหมาะแก่ CD PLAYER ห่วยๆ(ตามข้างต้น)เพราะถ้าเอาวางเป็นชั้นๆจะมีสัญญาณรบกวน
2. เบาเสียงสุดก็ยังไม่เงียบสนิท(ตามข้างต้น)
3. การหาคลื่นวิทยุสถานีต่างๆ หายากเหมือนกัน เป็นเพราะผมชินกับการใช้แบบดิจิตอลแล้วโปรแกรมล็อคไว้
4. สวิทซ์ปรับ FM/AM/AUX เกรงว่าปรับบ่อยๆ หมุนเร็วๆ นานๆไปจะทำให้สวิทช์พัง ใจอยากจะให้แบบเป็นปุ่มกดทั้ง 3 ปุ่ม แต่คงเปลืองงบมั้ง ไม่เก๋เท่าปุ่มเดียว 3 IN 1
5. สายไฟที่ต่อระหว่างตัวเครื่องกับปลั๊กไฟบ้าน ค่อนข้างหลวม ไม่หนืดแน่น คือไม่รู้ว่ายัดไปแน่นจนสุดหรือยังง่ะ
6. ยางรองพื้น ใช้กาวติดไม่เนียน เห็นรอยกาวเรอะๆ และน่าจะใช้ยางรองพื้นสีดำจะดูมีราคากว่านี้
7. ราคาแพงไปม่ะ (ความรู้สึกส่วนตัว)
8. Tiovoli Model 1 ราคาเหมาะไม่แพง แต่เป็นโมโน ต่ออะไรเพิ่มไม่ได้เลย
Model 2 ราคาแพงไปนิด แล้วหนำซื้อยังทะลึ่งมีรูให้ต่อซัฟเพิ่มอีก เสียตังค์เพิ่มสิตัวเอง
Model 3 มีนากาปลุก คิดว่าราคาแพงไป(ค่านากาแพงกว่า Model 2 อีก) สำหรับคนต้องการซื้อแบบคุ้มค่า ฟังวิทยุดีๆ ผมว่า Model 1 เหมาะสำหรับคำว่า \\\"พอเพียง\\\" เป็นที่สุด
9. ถ้ามี Model 4 ควรจะมีช่องต่อ Coax หรือ Optic และเป็นช่องต่อ RCA L/R ไปเลยดีก่า คือเน้นฟัง CD PLAYER ไปเลย ไม่ชอบฟังกับไอพอดเพราะไฟล์เพลงมันบีบอัด เสียงออกมาไม่ค่อยแจ่ม
โดยรวมชอบมากกว่าเกลียด เพราะ...ซื้อไปแร้ว อิๆ
ซื้อมาแระ โมเดล 2
เอามาต่อกับ เครื่องเล่น ทีแรกต่อกับเครื่องเล่น CD ยี่ห้อโนเนม ราคาประมาณ 4พันกลางๆ เสียงใช้ได้แต่ เจอปัญหาเวลาเปิด TIVOLI แล้วสวิทช์ไปที่ FM แล้วเปิดถาดใส่ CD PLAYER เหมือนมีสัญญาณรบกวนเลย แต่จะเป็นพักเดียว หงุดหงิด เลยไปหา CD PLAYER ตัวใหม่ แล้วทดสอบแบบเดิม ก็ไปเจอเจ้านี่ YAMAYA CDX-497 ราคาหมื่นต้นๆ หลังจากผ่านการทดสอบ ไม่มีเสียงรบกวนเลยเน้อ(ที่มีเสียงรบกวน อาจเป็นเพราะเอาเจ้า TIVOLI ไปวางบนเครื่อง CD PLAYER)
แล้วมีที่หงุดหงิด2จุด คือ จุดแรก เวลาเบาเสียง CD PLAYER จนสุด มันก็ยังมีเสียงเบาๆออกมา คือไม่เงียบสนิทซะทีเดียว
จุดที่สอง ไฟสีเหลืองบอกสถานะการหาคลื่นความถี่ของวิทยุจะสว่างหรือดับตลอดเวลา ที่เปิดไปที่ AUX หมายความว่าสัญญาหาคลื่นความถี่วิทยุจะหาตลอดว่าแม้ว่าจะเปิด CD PLAYER ก็ตาม
สาหรุป ชอบๆๆครับ ที่ชอบเพราะว่าดีไซน์มันเก๋ดี วันที่ซื้อ CD PLAYER ก็เอา TIVOLI ไปด้วย คนเห็นก็สนใจมามองๆ บางคนก็บอกว่ายี่ห้ออะไรไม่เคยได้ยิน(จะดีใจดีไหมเนี่ย) บอกว่าอืม ตัวเล็กแต่เสียงเพราะดีเน๊อะ บางก็บอกว่าแปลกดี
ถามเฮียหน่อยจ้า
Model Two + Model CD รวมแล้วเท่าไหร่ และตอนนี้มีสีอะไรหลงอยู่ที่สาขาไหนบ้าง
ไม่อยากไปก่อนหาข้อมูล คราวก่อนไปงามวงศ์วาน
โดน PK1 + rx alo amp น๊อคมา เลยต้องติดเอากลับบ้านมาด้วย
ยังมึนๆ อยู่เลยจ้า
ถามเฮียหน่อยจ้า
Model Two + Model CD รวมแล้วเท่าไหร่ และตอนนี้มีสีอะไรหลงอยู่ที่สาขาไหนบ้าง
ไม่อยากไปก่อนหาข้อมูล คราวก่อนไปงามวงศ์วาน
โดน PK1 + rx alo amp น๊อคมา เลยต้องติดเอากลับบ้านมาด้วย
ยังมึนๆ อยู่เลยจ้า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 190
ยิ่งฉัตร อัศวโสภณ
28/06/2010 14:46:12
สวยดีเนอะ
สวยดีเนอะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 191
TivoliAudioThailand
28/06/2010 17:17:13
Tivoli Model One™
AM /FM Table Radio
Tivoli Audio รุ่น Model One ออกแบบโดย Henry Kloss เป็นวิทยุตั้งโต๊ะที่ถ่ายทอดเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของ Model One ซึ่งมีปุ่มการทำงานเพียง 3 ปุ่ม แต่ภายในกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีของการสร้างคลื่นสัญญาณเสียง จึงทำให้มีภาครับวิทยุที่ยอดเยี่ยม ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือมาพัฒนาเพื่อปรับปรุงให้ภาครับ FM มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถรับคลื่นสถานีวิทยุได้เป็นจำนวนมาก และทำให้ถ่ายทอดเสียงออกมาอย่างสมบูรณ์
Tivoli Audio รุ่น Model One ออกแบบโดย Henry Kloss เป็นวิทยุตั้งโต๊ะที่ถ่ายทอดเสียงได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของ Model One ซึ่งมีปุ่มการทำงานเพียง 3 ปุ่ม แต่ภายในกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีของการสร้างคลื่นสัญญาณเสียง จึงทำให้มีภาครับวิทยุที่ยอดเยี่ยม ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีของโทรศัพท์มือถือมาพัฒนาเพื่อปรับปรุงให้ภาครับ FM มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถรับคลื่นสถานีวิทยุได้เป็นจำนวนมาก และทำให้ถ่ายทอดเสียงออกมาอย่างสมบูรณ์
Tivoli Model three จัดลำโพงอีกหนึ่งตัวเสียงดีราคาเท่าไหร่ทั้งชุดพร้อมราคาซื้อที่ร้านได้ไหม
ตอบด้วยจะซื้อเร็วๆนี้จะซื้อที่ร้านสาขางามวงวานได้ไ้หม
Tivoli Model three จัดลำโพงอีกหนึ่งตัวเสียงดีราคาเท่าไหร่ทั้งชุดพร้อมราคาซื้อที่ร้านได้ไหม
ตอบด้วยจะซื้อเร็วๆนี้จะซื้อที่ร้านสาขางามวงวานได้ไ้หม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 197
muza
04/10/2010 11:22:51
Tivoli Model threeเป็นไม้สีดำมีหรือเปล่ามีที่ไหน จะซื้อที่พันทิพย์ งามวงวานศ์
Tivoli Model threeเป็นไม้สีดำมีหรือเปล่ามีที่ไหน จะซื้อที่พันทิพย์ งามวงวานศ์
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 198
muza
04/10/2010 11:25:26
ขอฟรีได้ไหม
ขอฟรีได้ไหม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 199
muza
04/10/2010 11:27:39
ล้อเล่นนะครับ
ล้อเล่นนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 200
muza
04/10/2010 11:28:58
จะซื้อจริงๆซื้อมาเเล้วเครื่องนึงTivoli Model One
จะซื้อจริงๆซื้อมาเเล้วเครื่องนึงTivoli Model One
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 201
muza
04/10/2010 11:31:07
ขอโทษครับ
ขอโทษครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 202
muza
04/10/2010 12:35:59
ุTivoli Model three ต่อลำโพงอีกหนึ่งตัวได้รึเปล่าช่วยจัดไห้หน่อยราคาเท่าไหร่ซื้อที่ไหนอยู่นนทบุรีฃอโทษด้วยที่เด็กพิมพ์คำว่าขอฟรีได้ไหมเเล้วTivoli Model One ต่อลำโพงอีกตัวได้ไหม
ุTivoli Model three ต่อลำโพงอีกหนึ่งตัวได้รึเปล่าช่วยจัดไห้หน่อยราคาเท่าไหร่ซื้อที่ไหนอยู่นนทบุรีฃอโทษด้วยที่เด็กพิมพ์คำว่าขอฟรีได้ไหมเเล้วTivoli Model One ต่อลำโพงอีกตัวได้ไหม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 203
muza
04/10/2010 13:06:33
Tivoli Model One ซื้อมา 1 เดือนสภาพ 100% สีวอนัท บิลยังอยู่ เทินTivoli Model threeได้รึเปล่า
Tivoli Model One ซื้อมา 1 เดือนสภาพ 100% สีวอนัท บิลยังอยู่ เทินTivoli Model threeได้รึเปล่า