Guest
หมวดหมู่ >

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

=== รีวิว Tascam DR-100 Recorder / Player ===

sumat_kee

13/06/2013 12:17:08
2





สวัสดีครับ นับเป็นรีวิวที่ใช้เวลาเขียนนานมาก เล่นเอาเหนื่อยเลยครับ หลังจากที่ผมได้ใช้ Tascam DR-100 มาเกือบสองปีเรียกได้ว่ารู้จักกันค่อนข้างดี จึงมีเรื่องให้เขียนถึงอยู่เยอะ ดังนั้นก่อนที่จะได้อ่านรีวิว DR-100 ผมขอเกริ่นนำก่อนดีกว่าว่าผมได้มันมายังไง

หลังจากที่ผมได้เริ่มใช้ Recorder ในการฟังเพลง (ซึ่งตัวปัจจุบันที่ใช้อยู่คือ Roland R-05) ผมก็ได้ลองฟังหลายๆ ยี่ห้อไปเรื่อย ทั้ง Zoom H1 , Kenwood K7 , Sony UX-512 , Roland R09 , Tascam DR-07 , Tascam DR-05 , Sony PCM-M10

วันหนึ่งผมได้เข้ากรุงเทพ (นานๆ ครั้ง) เลยนัดกับคุณ วิท (wicbbl) ซึ่งแกบอกว่ามี Recoder หลายๆ ตัวให้ผมลอง ตัวที่ผมอยากลองคือ Roland R09-HR แกบอกว่ามี Tascam DR-1 และ Tascam DR-100 ด้วย ผมไม่ได้สนสองตัวนี้เลย กะไปฟังลองดูเฉยๆ เพราะโดยส่วนตัวแล้วชอบสไตล์เสียงของ Roland มากกว่า (ผมว่า Tascam มันคมไป)

พอไปพบคุณวิทก็ได้ลองฟัง Roland R09-HR และก็ได้ลอง Tascam DR-1 ซึ่งทั้งสองตัวก็เสียงดี แต่ก็ไม่ได้ดีเกิน Roland R05 ของผมมากมายแต่อย่างใด แล้วสุดท้ายก็ได้ลอง DR-100 ต้องขอบอกก่อนว่าขนาดค่อนข้างใหญ่มาก ใหญ่ที่สุดในเครื่องบันทึกเสียงพกพาที่ผมเคยเห็นเลยมั้ง มีขนาดพอๆ กับ Ipod สัก 2 ตัวครึ่งได้มั้ง หนาเป็นนิ้ว และอีกอย่างที่ผมไม่ชอบคือมันค่อนข้างกินแบต แต่พอได้ฟังเสียงเท่านั้น อึ้งไปเลยครับ

ถามซื้อต่อจากคุณวิทน่าจะ 4 - 5 ครั้งได้ อยากได้มากๆ (ราคาราวหมื่นต้นๆ ครับ) คุณวิทไม่ขายให้ ทำเอาผมหลอนจำทางกลับโคราชไม่ได้เลย 555 วันนั้นผมยังมีงานอีกหลายอย่าง แต่ก็ทำแบบใจลอย ในใจคิดถึงแต่เสียงของเจ้า DR-100 เท่านั้น พร้อมรำพึงรำพันเราเคยฟังเสียงแบบนี้จากที่ไหนหนอ เครื่องเสียงราคาเท่าไร ลำโพงราคาเท่าไรหนอจึงจะได้เสียงแบบนี้

จากที่เคยภูมิใจกับ Roland R-05 มากๆ กลายเป็นเฉยๆ ไปเลยเมื่อได้ฟัง DR-100 โทรไปหาเพื่อนๆ หลายคนมาก ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันมันขนาดนั้นเลยเหรอ ผมก็ตอบไม่ถูก ไม่เคยเป็น

กลับมาบ้าน ปกติผมจะใช้ CD Player Panasonic SL-J905 กับ Roland R-05 เป็นเครื่องเล่นประจำตัว กลายเป็นว่าฟังไม่เพราะไปเลยทีเดียว สมองคอยแต่จะคิดถึงเรื่อง DR-100 แล้วเช็คว่ามีที่ไหนขายบ้าง อยากได้มากๆ อยากได้เดี๋ยวนี้ 555 โทรไปทั้งกล่อม ทั้งขู่คุณวิท 3 วันติดๆ ในวันที่สามนั่นเอง คุณวิทก็ใจอ่อน (หรือรำคาญไม่รู้ 555) ขายให้ผม

ตกลงขายกันตอนบ่ายสอง ผมขับรถจากโคราชไปหาแกตอนสองทุ่ม (ผมต้องรอปิดบ้านก่อนตอนห้าโมงเย็น) ไปจ่ายเงินและรับเองกับมือเลยครับ แล้วในที่สุด Tascam DR-100 ก็ได้มาอยู่ในมือผมและรีวิวให้เพื่อนๆ อ่านกันครับ 555
ความคิดเห็นที่ : 1

sumat_kee

13/06/2013 12:17:34
2
เมื่อได้รับมาแล้วก็มาแกะกล่องกันดีกว่า






กล่องค่อนข้างใหญ่ครับ ขนาดพอๆ กับกล่องไปรษณีย์ขนาด ง.

แกะออกมาด้านในมีอุปกรณ์ดังนี้






1. ตัวเครื่อง DR-100
2. แบตลิเทียม
3. รีโมท
4. รางใส่รีโมท
5. สายต่อรีโมท
6. สาย USB
7. Mem SD Card 2 Gb.
8. Winscreen (ฟองน้ำกันลมสำหรับไมค์)
9. ถุงผ้า
10. สมุดคู่มือ

เนื่องจากเป็นตัว Top Tascam จัดเต็มครับ เรียกว่าเปิดกล่องก็ทำงานได้เลย จะขาดก็แต่ Adapter ซึ่งเป็นรุ่น P520 (5V. 2A.) สามารถสั่งซื้อเพิ่มได้ หรือว่าจะใช้ Adapter ของ Sony PSP ก็ได้ (5V. 1.5A.) ผมก็ใช้ของ Sony PSP ครับ โดย Adapter จะชาร์จเฉพาะแบตลิเทียมเท่านั้นนะครับ ไม่ชาร์จถ่าน AA
ความคิดเห็นที่ : 2

sumat_kee

13/06/2013 12:17:53
2
เอาล่ะเกริ่นมาเยอะแล้ว มาเริ่มรีวิวกันดีกว่า

1) ลักษณะภายนอก






Tascam DR-100 มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เมื่อเทียบกับเครื่องเล่นทั่วๆ ไป หรือแม้แต่จะเทียบกับ Recorder ด้วยกันก็ยังถือว่าใหญ่กว่า มีขนาด กว้าง x ยาว x สูง 8.05 x 15.1 x 3.5 ซม. และน้ำหนัก 290 กรัม ไม่รวมแบต เรียกว่าเป็นขนาดถือได้เต็มๆ มือเลยครับ (ขนาดพอๆ กับเกมส์บอยรุ่นเก่าเลยครับ) ตัวบอดี้ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (คล้ายๆ กับปืนลม) มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงครับ พื้นผิวสีดำขรุขระ (ผมชอบแบบนี้เพราะมันจะไม่ทิ้งคราบรอยนิ้วมือเหมือนแบบผิวมัน) หน้าจอมีไฟ Back light สีส้ม รองรับหน่วยความจำ SD Card ได้ถึง 32 GB. สามารถใส่ได้ทั้งแบตลิเทียม และถ่าน AA

แบตลิเทียมขนาด 1800 mAh ใช้งานได้ราวๆ 3 ชม. ส่วนถ่าน AA 2500 mAh ใช้งานได้ราวๆ 1 ชม. เท่านั้น ค่อนข้างกินไฟทีเดียว สามารถใช้แบตทั้งสองพร้อมกันได้ สามารถตั้งได้ว่าจะให้แบตตัวใดเป็นแบตเตอรี่หลัก เมื่อใช้ในส่วนแบตหลักหมดเครื่องก็จะมาใช้แบตสำรองทันที

ที่จะต้องมีแบตหลักแบตสำรองเพราะว่าในกรณีที่เราบันทึกเสียงอยู่ ถ้าแบตลิเทียมหมดเครื่องจะกลับมาใช้ถ่าน AA ในขณะนั้นเราสามารถถอดเปลี่ยนแบตลิเทียมชุดใหม่ได้โดยที่เครื่องไม่ดับ ทำให้บันทึกเสียงได้ต่อเนื่องโดยไม่พลาดการบันทึกที่สำคัญ (โปรมั่กๆ 555)






ด้านบนมีช่องเสียบ SD Card ไมค์ซ้ายขวา จุดรับสัญญาณรีโมท (อินฟาเรด) และลำโพง (ซึ่งเสียงเบามาก)






ด้านซ้าย (ไล่จากซ้ายไปขวา) เริ่มจากช่องต่อ USB (ไม่สามารถชาร์จไฟได้นะครับ) ช่องต่อ Adapter เพื่อชาร์จไฟ ปุ่มเปิดปิด ปุ่ม Hold ปุ่มหมุน Volume สำหรับหูฟัง ช่องหูฟัง Line in - out











ด้านขวามีปุ่มหมุนปรับ Volume ไมค์ซ้ายขวา ด้านนอกเป็นไมค์ขวา ด้านในเป็นไมค์ซ้าย และช่องใส่แบตลิเทียม






ด้านล่างมีช่องต่อไมค์โครโฟน XLR ซ้าย ขวา และช่องต่อสายรีโมท (รีโมทใช้ได้ 2 แบบคือแบบไร้สาย กับมีสาย โดยใช้รีโมทตัวเดียวกัน เหตุผลที่มีสองแบบเพราะว่าแบบไร้สายจะยิงสัญญาณเข้าด้านบน แต่ถ้าเราถือตัวเครื่องแล้วหันไมค์ไปทางเสียงหรือคนที่เราจะไปสัมภาษณ์ด้านบนจะกลายเป็นจุดอับสัญญาณไปทันที จึงต้องทำให้สามารถต่อรีโมททางด้านหลังได้นั่นเอง โดยในชุดจะมีตัวกล่องและสายรีโมทแถมมาให้ด้วย โปรจริงๆ 555)






ด้านหน้ามีหน้าจออยู่ด้านบน ส่วนด้านล่างมีปุ่มมากมาย แต่ส่วนใหญ่ใช้เพื่อการบันทึก ก็จะมีที่เราใช้บ่อยๆ คือปุ่มเล่น ปุ่มหยุด เดินหน้า ถอยหลัง ปุ่มเมนู และคลิกวิลที่อยู่ข้างๆ จะคอยทำหน้าที่เลื่อนขึ้นเลื่อนลง หรือใช้กรอเพลง ส่วนปุ่มในคลิกวิลตรงกลางคือปุ่ม Enter

ด้านบนคลิกวิลจะมีปุ่มเลือก Input โดย DR-100 จะมี Input 4 อย่างให้เลือกคือ 1.Line in 2.ไมค์ด้านบน (Uni) 3.ไมค์รูเล็กๆ ที่อยู่ด้านหน้า (ข้างๆ คำว่า Tascam) (Omi) 4.ไมค์นอกที่ต่อจากช่อง XLR (xlr)






ด้านหลังมีปุ่มสำหรับตั้ง Gain ปุ่มเปิดปิดการจ่ายไฟสำหรับไมค์ (Phantom power) ปุ่มตั้ง Limiter ปุ่มเปิดปิดเสียงลำโพง ด้านล่างจะมีช่องล็อคขาตั้ง และช่องใส่ถ่าน AA 2 ก้อน
ความคิดเห็นที่ : 3

sumat_kee

13/06/2013 12:18:12
2
2) ไฟล์ที่รองรับ

Tascam DR-100 รองรับไฟล์ 2 แบบ คือ MP3 และ Wave โดยรองรับไฟล์ MP3 ทุกแบบทุกบิตเรต

ส่วนไฟล์ Wave รองรับตั้งแต่ 16 bit 44.1 kHz - 24 bit 96 kHz แต่เนื่องจากว่า Firmware ตัวเดิมรองรับไฟล์สูงสุดได้แค่ 24 bit 48 kHz จึงมีการออก Firmware ตัวใหม่เพื่อให้สามารถเล่นไฟล์ 24 bit 96 kHz ได้ (Tascam DR-100 สามารถ Up Firmware ได้ และรุ่นใหม่ๆ ก็ Up Firmware มาให้เรียบร้อยแล้ว) แต่เวลาจะเล่นไฟล์ 24 bit 96 kHZ จะต้องเข้าสู่ HS mode เสียก่อน

การเข้าสู่ HS Mode ทำได้โดยเมื่อเปิดเครื่องให้กดปุ่มเปิด (Power) พร้อมกับปุ่ม Enter (ปุ่มตรงกลางคลิกวิล) พร้อมกัน พอเปิดเครื่องจะมีหน้าจอให้เลือก ถ้าเราเลือก HS mode ก็จะสามารถเล่นไฟล์ 24 bit 96 kHz ได้ แต่จะเล่น mp3 ไม่ได้ แต่ถ้าเราปิด HS mode เราจะเล่น mp3 ได้ แต่จะเล่นไฟล์สูงสุดได้แค่ 24 bit 48 kHz ตรงนี้ก็แล้วแต่การใช้งานครับ
ความคิดเห็นที่ : 4

sumat_kee

13/06/2013 12:18:31
2
3) หน้าจอ และฟังก์ชันการใช้งาน






หน้าจอมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับตัวเครื่อง (มีขนาดประมาณ 1 นิ้ว x 2 นิ้ว) แต่ก็สามารถแสดงรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน (แสดงข้อมูลได้ราวๆ 4 บรรทัด) มี back light สีส้ม สามารถตั้งระยะเวลาเปิดปิดได้ ไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ แต่สามารถเล่นได้โดยแสดงเป็นเครื่องหมายคำถามแทน

SD Card ที่จะนำมาใช้กับ Tascam DR-100 จะต้องนำมา Format ที่ตัวเครื่องเสียก่อน ซึ่งจะมีการสร้าง Folder ขึ้นมา 2 Folder คือ Music และ Utility ให้เรานำเพลงใส่ใน Folder Music ได้เลย โดยเราสามารถใส่เป็น Sub Folder ได้ (Folder Music จะเหมือนกับ Folder root) หรือจะให้มีแยกย่อยใน Folder ก็ได้ตามสะดวก

เหตุผลหนึ่งที่ SD Card จะต้อง Format ที่ตัวเครื่องเสียก่อนเพราะว่าตัวเครื่องจะสร้างไฟล์มาไฟล์หนึ่งที่จะเก็บข้อมูลสุดท้ายที่เราเล่นเอาไว้ เมื่อเราเล่นถึงเพลงไหนหรือเปิดเพลงไหนอยู่แล้วเราปิดเครื่องพอเปิดเครื่อง เครื่องก็จะกลับมาที่เพลงนั้น ต่อให้ถอดแบตออกทั้งหมด หรือเอาเมมไปใส่เครื่องอื่น (ในตระกูล Tascam) ก็ยังจำเพลงสุดท้ายที่เล่นได้

แต่ตรงนี้ก็มีข้อเสีย ถ้าไฟล์ที่ว่า Error มันก็จะฟ้องว่า Memory ใช้ไม่ได้ต้อง Format ใหม่เท่านั้น เซ็งจริงๆ 555






อีกฟังก์ชันที่ดี (ในตระกูล Tascam มีแต่ตัวนี้เท่านั้น) แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการฟังเพลงแต่เป็นฟังก์ชันสำหรับการบันทึก นั่นคือฟังก์ชัน Overdub

Overdub แปลว่าเขียนทับ คือการที่เราบันทึกเสียงลงไปในไฟล์เดิมได้เลย ยกตัวอย่างเช่น

ผมบันทึกเสียงกลองก่อน ผมนำเสียงกลองที่บันทึกมาเปิดเล่น (ฟังโดยใส่หูฟัง) ผมสามารถเล่นเบสทับลงไปได้เลย ผมก็จะได้ไฟล์ที่มีเสียงกลองและเบสมาหนึ่งไฟล์

ผมนำไฟล์ที่บันทึกกลองและเบสมาเล่น แล้วก็เล่นกีตาร์ทับ ผมก็จะได้ไฟล์ที่มีเสียงกลอง เบส กีตาร์

ถ้าผมจะเล่นอะไรเพิ่ม (เช่น เปียโน คอรัส หรือเสียงร้อง) ผมก็นำมา Overdub ได้เลย จนในที่สุดก็สำเร็จเป็นเพลง

คล้ายๆ กับระบบ Multitrack แต่ระบบ Multitrack จะมีหลายๆ Track เราสามารถแก้เป็น Track ได้ แต่ระบบ Overdub พอ Overdub แล้วก็จะไม่สามารถแก้เฉพาะ Track ได้ แน่นอนว่า Overdub จะสู้ Multitrack ไม่ได้ แต่ก็ทำให้เราสามารถทำเพลงง่ายๆ เองได้โดยไม่ยุ่งยากซับซ้อน DR-100 รองรับ Overdub ไม่จำกัดครับ คือจะทับซ้ำกันกี่ครั้งก็ได้ การ Overdub จะทำได้เฉพาะไฟล์ Wave 16 bit เท่านั้น ไฟล์ mp3 ไม่สามารถทำได้
ความคิดเห็นที่ : 5

sumat_kee

13/06/2013 12:18:55
2
4) เรื่องเสียง

หากจะหาอุปกรณ์พกพาสักตัวเทียบกับ Tascam DR-100 ผมคิดว่าน่าจะเอา CD Walkman Sony D-25s หรือ Sony Walkman D-5 หรือ MD Sony MZ-1 มาเทียบจะดีที่สุด เรียกว่าต้องหาอุปกรณ์ที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จักมาเทียบกันเลยทีเดียว สำหรับ CD Panasonic SL-J905 หรือ CD Sony NE920 ยังห่างชั้นกันอีกเยอะ

เสียงเป็นยังไง เสียงของ Tascam DR-100 ออกไปทางชัด สด คม (แต่ไม่ถึงกับบาดเหมือนรุ่นเล็กของเขานะครับ) ให้น้ำหนักเสียงค่อนข้างหนักแน่น มีไดนามิกเสียงที่ฉับไว รวดเร็ว ฟังกลองสนุกมากๆ ทั้งเสียงเหยียบกระเดื่อง เสียงตีแฉ มันสุดๆ ไปเลยครับ (ได้กำลังขับมาจากการกินแบตมหาโหดนั่นแหละครับ ถ่าน AA 2 ก้อน 2500 mAh ชั่วโมงเดียวหมด 555) รายละเอียดเยอะมาก ระยิบระยับ ไม่ว่าจะเล็กแค่ไหนก็เก็บมาหมด

สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ DR-100 คือ มิติครับ DR-100 ให้มิติหรือเวทีเสียงที่เป็นสามมิติ คือมีหน้าหลัง บนล่าง ซ้ายขวา การจัดวางชิ้นดนตรีชัดเจน พื้นหลังเวทีเสียง (Background) ค่อนข้างเงียบ สงัด สะอาด เสียงนิ่งมากๆ ซึ่งได้รับอานิสงค์มาจากชิปประมวลผลและวงจรแอมป์ครับ

เพราะว่า DR-100 มี Input ไมค์แยกซ้ายขวากันอย่างอิสระ (มี Volume คนละชุด) จึงทำให้มีปรีแอมป์ 2 ชุด (เหมือนกับระบบของ Amp balance) การวางวงจรแอมป์แบบนี้ทำให้ลดเสียงรบกวนไปได้มาก ได้เสียงนิ่งและสงัด โฟกัสเสียงชัดเจน เท่าที่ทราบมาในระดับเครื่องเล่นพกพาถ้าไม่ใช่ตัว top แล้วน้อยตัวนักที่จะมีวงจรแอมป์แยกซ้ายขวา

ส่วนชิปของ DR-100 คือ AKM Audio4pro ครับ (รายละเอียดของ AKM ดูได้จากบทวิเคราะห์ด้านล่าง) ซึ่งเป็นตระกูล Chip ที่ดีที่สุดที่วงการบันทึกเสียงให้การยอมรับมาหลายสิบปี อุปกรณ์ห้องอัดสตูดิโอดีๆ ย่อมใช่ชิป AKM กันทั้งนั้น ตรงนี้จึงเป็นการรับประกันคุณภาพเสียงได้ว่าเทียบเคียงสตูดิโอบันทึกเสียงได้แน่นอน

อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ ช่อง Line out ช่อง Line out ของ DR-100 ให้เสียงค่อนข้างชัดจัดกว่าช่อง Phone มากครับ ถ้าใครจะนำไปต่อออกเครื่องเสียงแนะนำช่องนี้ครับ ส่วนถ้าใครจะเอาหูฟังต่อฟังก็ได้แต่เสียงค่อนข้างดังนะครับ ปรับ volume ไม่ได้ด้วย

กำลังขับของ DR-100 ค่อนข้างสูงครับ ขับหูฟังพวก Earbud ใช้ Amp (เช่น PK1) ได้สบายๆ (แต่จะชอบเสียงหรือเปล่าเป็นอีกเรื่อง 555) เพราะที่จริง DR-100 ออกแบบกำลังมาเพื่อขับพวกหูฟัง Fullsize ในสตูดิโออยู่แล้ว DR-100 มี volume ถึงสิบครับดังสุดของ Ipod จะได้ประมาณ Volume 4-5 ของ DR-100 เท่านั้นเองครับ แต่ก็แน่นอนต้องแลกมากับการกินแบตครับ

DR-100 กินแบตเท่าเดิมตลอดครับ ไม่ว่าจะฟังเบาหรือฟังดัง เรียกว่าไม่สนเรื่องประหยัดพลังงาน (ไม่เข้ากับยุคสมัยเลย 555) เจ้าเครื่องที่กินแบตขนาดนี้เท่าที่รู้จักก็พวก CD Sony รุ่นเก่าๆ MD รุ่นเก่าๆ นั่นแหละครับ
ความคิดเห็นที่ : 6

sumat_kee

13/06/2013 12:19:14
2
สรุป

ราคาจริงๆ ตอนที่เปิดตัวของ DR-100 คือ 699 เหรียญ (ราวๆ 21,000 บาท) ที่เมืองไทยศูนย์ขายอยู่ที่ 29,000 บาท แต่ไม่รู้ขายไม่ออกหรือยังไงไม่ทราบ ช่วงหลังมีการนำมาลดราคาขายกันจนน่าตกใจ ของใหม่เหลือราวๆ หมื่นกว่าบาท ถือว่าเป็น Player ที่คุ้มค่ามากๆ ตอนที่ผมได้มาต้นปี 55 ตอนนั้นยังมีขายอยู่เยอะ แต่พอผ่านมาราวกลางปีเริ่มหาไม่ได้ จนในที่สุดก็หมดไปจากท้องตลาดอย่างรวดเร็ว แสดงว่ามีคนนิยมกันเยอะ

ช่วงปลายปี 55 มีรุ่น 2 ออกมาคือ DR-100 mk II แต่ไม่ได้รับความนิยม (เพราะไม่ใช่ชิป AKM) ยิ่งทำให้เกิดการหา Tascam DR-100 หนักขึ้นไปอีกจนแม้แต่มือสองก็หาได้ค่อนข้างยาก

Tascam DR-100 ที่จีนได้รับความนิยมมาก ถือว่าเป็น Player มาตรฐานตัวหนึ่ง แล้วก็พี่จีนนี่แหละครับตัวการที่กว้านซื้อ DR-100 จนหมดตลาด บางครั้งเข้าเวบจีนเห็นบางคนมี DR-100 5-6 ตัวก็มี เอามา Mod กันสนุกสนาน

สำหรับผมนอกจากนำมาฟังเพลงแล้ว ผมก็ใช้ DR-100 ในการทำงานเบิร์นหูฟัง V-Gold lite นั่นแหละครับ ด้วยคุณลักษณะกำลังขับเยอะให้เสียงที่ชัดสะอาด มิติดี จึงเหมาะมากสำหรับการเบิร์นหูฟัง ตอนนี้ผมมี DR-100 ประจำการ 4 เครื่องครับ บ้าไม่แพ้พี่จีน 555

หากจะให้ผมแนะนำเครื่องเล่นบันทึกเสียงให้เพื่อนๆ สักตัวหนึ่ง Tascam DR-100 จะเป็นตัวแรกที่ผมแนะนำครับ ถ้าท่านไม่ติดกับขนาดของมัน ท่านอยากได้เครื่องเล่นในระดับต้นๆ ของวงการบันทึกเสียงพกพา ในราคาตอนนี้ราวๆ หมื่นบาท Tascam DR-100 คุ้มค่าที่สุดแล้วครับ
ความคิดเห็นที่ : 7

sumat_kee

13/06/2013 12:19:33
2
บทวิเคราะห์พิเศษ

โดยปกติรีวิวของผมจะไม่มีส่วนนี้ แต่เนื่องจากผมค่อนข้างประทับใจเสียงของ DR-100 มากๆ ทำให้เริ่มหาข้อมูลมาเพิ่ม (ว่าทำไมมันถึงเสียงดี) จากหาเล็กๆ น้อยๆ คุณเอก (MagicWrap) ก็ได้หาเพิ่มช่วยผมจนมีข้อมูลเอาไปทำวิทยานิพนธ์ได้เลยทีเดียว 555

ชิปประมวลผล

Tascam DR-100 นั้นใช้ Chip Audio4Pro ของ AKM หลายๆ ท่านไม่รู้จักยี่ห้อ AKM
AKM ย่อมาจาก Ashahi Kensi Microdevices เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัท Asahi ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทนี้ทำทั้งยา รถไฟหัวกระสุน กระจก (อาซาฮีที่เรารู้จักนั่นเอง) รวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ด้วย
AKM เป็นส่วนที่ผลิตพวกชิปหรืออุปกรณ์ที่ใช้กับพวกชิปเสียงโดยเฉพาะ และผลิตให้แก่กลุ่ม Pro เท่านั้น ไม่ผลิตให้กลุ่ม Consumer น่าจะด้วยมีราคาแพงและผลิตมาน้อย หากดูสายการผลิตแล้วจะเห็นว่าเกือบยี่สิบปีผลิตชิปออกมาเพียงสิบกว่ารุ่นเท่านั้น

สำหรับรุ่น AKM4Pro ที่ Tascam DR-100 ใช้อยู่นั้นในสายการผลิตของ Tascam ก็มีแค่ตัว DR-100 กับ 680 เท่านั้น ซึ่งตัว Tascam 680 มีราคาราวๆ 60,000 บาท ($2,000) ซึ่งเป็นตัวตั้งโต๊ะ (Desktop) ไม่ใช่ตัวพกพา มีขนาดประมาณเครื่องโปรเจคเตอร์

ฉะนั้น DR-100 ถือว่าเป็นตัวพกพาตัวเดียวของ Tascam ที่ใช้ Chip รุ่นนี้ นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ DR-100 เสียงไม่เหมือนกับ DR-1 , DR2-D , DR-5 , DR-7 หรือตัวอื่นๆ ของ Tascam เลย

สำหรับ Chip AKM ตัว Top จะมีใช้อยู่ในพวกเครื่องบันทึกเสียง Sound Device หรือ Nagra ซึ่งเป็นของมืออาชีพจริงๆ

Sound Device หลายๆ ท่านคงไม่รู้จัก ต้องขอกล่าวสักนิดก่อนว่ามันเป็นเครื่องเล่นพกพาที่มืออาชีพเอาไว้ใช้งานจริงๆ ราคาตัวถูกสุดคือ $2,000 - $3,000 (หกหมื่นถึงแปดหมื่นบาท) ตัวแพงสุดราคาเกิน $20,000 (หกแสนบาท)

อีกยี่ห้อคือ Nagra แม้จะเป็นคนละบริษัทแต่ก็ใช้ Chip ตัวเดียวกันนั่นแหละครับ ราคาของ Nagra จะค่อนข้างแพง เริ่มจากราวๆ $5000 ไปจนถึงหลายหมื่นเหรียญ และยังมียี่ห้ออื่นๆ เช่น ตัวพวกนี้ไม่ต้องถามราคา ราคาซื้อรถเก๋งมาขี่ได้สบายๆ ก็ใช้ชิป AKM กันเช่นเดียวกัน

ใครใช้อุปกรณ์บันทึกเสียงพวกนี้บ้าง ?
Sound Device , Nagra ถือว่าเป็นอุปกรณ์ใช้งานนอกสถานที่ที่โรงถ่าย Hollywood นิยมมาก Studio ที่ใช้บ่อยคือ Pixar Studio , Universal Studio , จอร์ท ลูคัสฟิลม์ ส่วนใหญ่เอาไว้บันทึกพวกเสียงต่างๆ เพื่อนำไปทำเสียงแอฟเฟกซ์ หรือเสียงประกอบ หนังที่เราน่าจะคุ้นเคยคือ Transformer ทั้งสามภาค สตาร์วอร์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (โรงถ่ายใน Hollywood ใช้มานานแล้วนะครับ) หนังการ์ตูนของ Pixar เกือบจะทุกเรื่อง

และไม่นับรวมถึง National Geography , BBC World ที่ใช้ทั้งบันทึกเสียงธรรมชาติ หรือนำไปสัมภาษณ์บุคลลสำคัญๆ นี่คือกลุ่มอุปกรณ์ที่ถ้าจะบันทึกเสียงนอกสถานที่ที่มืออาชีพจะนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ ตัว อุปกรณ์พวกนี้ไม่มีไมค์ในตัวนะครับ จะต้องต่อไมค์นอกทั้งหมด

การได้ฟัง DR-100 ซึ่งใช้ Chip ในตระกูลเดียวกับ Sound Device หรือ Nagra แม้จะเป็นตัวเล็กที่สุด ก็ทำให้ผมเข้าใจว่าเสียงระดับมืออาชีพมันเป็นยังไงกัน ฝรั่งหลายๆ คนที่ใช้ Sound Device เป็นปกติ จะพูดถึง DR-100 ประมาณว่าก็โอเคนะ พอแก้ขัดได้ แปลฝรั่งเป็นไทย หมายความว่า Sound Device เสียงดีกว่า DR-100 อีกเยอะ 555


ราคา Sound Device 702 ซึ่งเป็นตัวถูกที่สุด ราคาราวๆ หกหมื่น - แปดหมื่นบาท ถ้าจะซื้อคงต้องรอถูกหวยอย่างเดียวล่ะมั้ง 555

อย่างที่ได้กล่าวมาแล้วที่จริงราคา Tascam DR-100 ก็เกือบสามหมื่นบาท แล้วลดลงมาเหลือราวๆ หมื่นกว่าบาท ถ้าจะนับอุปกรณ์ที่ใช้ Chip AKM DR-100 น่าจะถูกที่สุดแล้ว ฉะนั้นสำหรับผมแล้วเรียกว่าได้ว่าสุดคุ้มจริงๆ ขอจบเพียงเท่านี้แหละครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่าน แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ
ความคิดเห็นที่ : 8

sumat_kee

13/06/2013 12:20:15
2
ข้อดี (+)
1. ตัวเครื่องใช้ชิป AKM ระดับเดียวกับสตูดิโอ
2. แอมป์แยกซ้ายขวา กำลังขับสูง
3. ตัวเครื่องทำจากวัสดุไฟเบอร์คาร์บอน ค่อนข้างแข็งแรง น้ำหนักเบา
4. ใช้แบตเตอรี่ได้ 2 แบบ ทั้ง ลิเทียม และถ่าน AA
5. ใช้ SD Card ได้ถึง 32 GB

ข้อเสีย (-)
1. มีขนาดค่อนข้างใหญ่ พกพาไม่ค่อยสะดวก
2. ไม่ประหยัดไฟ กินไฟเยอะ
3. ต้องฟอร์แมท SD Card ในตัวเครื่องก่อนจึงจะใช้งานได้
4. ถ้าจะเล่นไฟล์ 24 bit 96 kHz จะต้องยุ่งยากในการเปลี่ยนโหมด
5. ไมค์ในตัวเสียงค่อนข้างแย่ ถ้าใช้งานบันทึกเสียงจริงๆ แนะนำไมค์นอก
ความคิดเห็นที่ : 9

PUPU

13/06/2013 14:32:35
44
ขอบคุณสำหรับรีวิวคุณภาพครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

surarak

13/06/2013 14:37:01
ถ้าฟังแนวร็อค 16บิท เป็นหลัก ถ้าจะหามาใช้ ถือว่าคุ้มไหมครับ
ความคิดเห็นที่ : 11

FLY_WING

13/06/2013 14:44:13
0
ขอบคุณมากสำหรับรีวิวครับ...
คุณสุเมธทำให้ผมหลอนไปอีกคนแล้วน๊ะครับ
จัดไปแล้วตามคำแนะนำ...^_______^
ความคิดเห็นที่ : 12

แนวร่วมเซ็ง

13/06/2013 14:47:48
7
รีวิว ทำให้อยากได้......อิอิ

ว่าแต่เครื่องอัดพวกนี้ มันเหนือกว่าพวก ak120 Colorfly4c หรือเซต ipod+dac+amp

ไหมครับ
ความคิดเห็นที่ : 13

ด.ช.สมชาย

13/06/2013 14:52:33
0
@surarak

ฟังร็อคดีมากครับ ฟังสนุก

รอรีวิวมาเป็นปีจนคิดว่าไม่ได้อ่านแล้ว 555
ความคิดเห็นที่ : 14

sumat_kee

13/06/2013 15:17:25
2
ถ้าจะให้เทียบกับพวก AK100 หรือ Colorfly C4 หรือ ibasso DX100 หรือ Hifiman 801 ผมว่าเสียงคนละอย่าง

คือแต่ละตัวจะทำเสียงออกมาไม่เหมือนกันแล้วแต่ว่าจะเน้นไปที่ย่านไหน แต่ถ้าถามผมว่า Tascam DR-100 คุณภาพเสียงพอจะสู้ 4 ตัวข้างบนได้ไหม ผมยืนยันว่าได้

ความรู้สึกของผมตอนฟัง DR-100 เหมือนไปนั่งอยู่ในห้องซ้อมครับ คือมันสด ชัด จัด ถ้าคนชอบอะไรที่ผ่อนคลาย หรือฟังระรื่นหูสบายๆ ข้าม DR-100 ไปได้เลยครับ
ความคิดเห็นที่ : 15

Gaia_Blue

13/06/2013 15:23:29
0
มาได้จังหวะมากๆ เลยครับ คุณสุเมธ แต่อยากถามหลายข้อ ขอเม้มคำถามไว้ก่อน ใช้แล้วยังไม่เข้าใจหลายเรื่อง เดี๋ยวมันเยอะจนได้ที่แล้วจะมาปรึกษาครับ

อยากรบกวนแนะนำการด์หน่วยความจำที่เหมาะๆ ให้ด้วย กับ วิธีการจัดการไฟล์เพลงในเครื่องน่ะครับ เพื่อให้ได้ระบบการฟังที่เข้าที่เข้าทาง (เอาแบบที่ใช้กับเครื่องที่คุณสุเมธมีก็ได้ครับ)

เสียงนี่ขนาดชุดตั้งโต๊ะชุดเล็ก ต้องหลบให้เลยทีเดียวครับ รายละเอียด มิติ และ อิมแพค ครบเครื่อง แต่ใหญ่หน่อย และการเล่นเพลงยังไม่ค่อยถนัดนัก เนื่องจากมันทำมาสำหรับการอัดเสียงนี่ล่ะเนาะ
ความคิดเห็นที่ : 16

happysound08

13/06/2013 15:26:51
0
@ sumat_kee ถ้าเปรียบเทียบกับ sony d-1 แนวเสียงขาดกันเยอะไม๊ครับ
ความคิดเห็นที่ : 17

น้อย

13/06/2013 16:01:46
1
สุดยอดไปเลยครับพี่สุเมธ สำหรับรีวิวแบบละเอียดยิบ

@happysound08......อ่านดูแล้วแสดงว่า พี่โย เตรียมตัวกด sony d-1 มาแน่ๆเลย

@Gaia_Blue......มารอคำถามด้วยคนครับพี่ ผมก็แอบมีเครื่องนึง อิอิ

@sumat_kee......อย่างที่พี่สุเมธว่าเลยครับ สด ชัด จัด อิมแพคสะใจ

@ด.ช.สมชาย.......ใช่เลยครับพี่ ฟังร๊อคแล้วคึกคักดีจัง มันส์ดีจัง

@แนวร่วมเซ็ง........recommend เลยครับพี่..ต้องลองๆ

@FLY_WING........นั่นไง พี่เสกสรรจัดมาเรียบร้อย
ความคิดเห็นที่ : 18

sumat_kee

13/06/2013 17:30:43
2
อย่าพูดถึง Sony D-1 555

ปล่อยให้เขาอยู่ในที่ในทางของเขาเถอะ ถ้าจะให้รีวิว Sony D-1 ต้องทำมาเป็นไตรภาคครับ

รายละเอียดแม้แต่การออกแบบก็มีบันทึกไว้ แม้แต่ปุ่มกดยังมีที่มาเลยครับ เยอะมาก แล้วไม่ต้องพูดถึงพวกอุปกรณ์ภายในนะครับ สตูดิโอระดับสูงใช้ของยังไง Sony D-1 ใช้ยังงั้นเลยครับ

สำหรับผม Sony D-1 อยู่คนละระดับทั้งราคา ($2,000) และคุณภาพเสียงครับ

รออ่านรีวิว Sony D-1 ได้ครับ แต่อีกกี่ปีไม่รู้นะ 555
ความคิดเห็นที่ : 19

happysound08

13/06/2013 17:41:44
0
@sumat_kee แสดงว่า d-1 แหลก (ตำนาน) 55

@น้อย จขกท.มีน้ำใจ กรุณาส่งมาใช้ชิม ผมก้อดีใจมากแล้วครับ
อ่อ ลืมบอกผมไม่กล้าเก็บไว้นาน ฟังเพียงไม่กี่แทร็ค ก็ต้องรีบส่งคืน
หากเอาไว้กับตัวนานๆ ไอ้ที่เก็บๆสะสมมา อาจจะสูญเปล่าได้55
ความคิดเห็นที่ : 20

เอกเรื่องมาก

13/06/2013 18:13:56
23
#14 จะแจ้งมาก ว่าไม่เข้ากับผมชัวร์ นึกภาพออกเลยว่าถ้าได้ลองฟังครั้งแรก คงอึ้ง ทึ่ง เสียว อยากได้ใจจะขาด แต่พอได้มาแล้ว ใช้ไฟใช้มา มีมาปล่อยในห้องซื้อขายแน่ผม เพราะตัวที่อยู่กับผมนานๆ มักจะออกแนวฟังสบายๆ แต่ตัวที่ออกแนว สด จะแจ้ง คมๆ หน่อยๆ ฟังแล้วแมร่งโคตรฟินเลย แต่ไหงไปๆมาๆ ไปโพสที่หน้าซื้อขายได้ไงไม่รู้
ความคิดเห็นที่ : 21

FLY_WING

13/06/2013 18:13:57
0
@happysound08 ใช่ครับพี่โยคุณสุเมธมีน้ำใจมาก
ส่งมาให้ชิม...ก็เลยเกิดอาการหลอนไปหลายวัน....
@น้อย พี่เลยแก้อาการหลอนด้วยการหามาไว้ข้างกายซะเลย
ความคิดเห็นที่ : 22

เหน่งบา

13/06/2013 18:26:05
0
รีวิวแจ๋วมากครับ เยี่ยมจริงๆ ละเอียด ครอบคลุม ได้ข้อมูลเยอะมาก
ขอบคุณนะครับ ^ ^
ความคิดเห็นที่ : 23

Gaia_Blue

13/06/2013 18:52:24
0
@sumat_kee

ผมกำลังมองหาmemory. เพิ่มครับไม่ทราบว่ามันใช้ micro SDHC class 10 ได้มั้ยครับ เห็นที่เว็บไซท์เค้าทดสอบไว้ไม่กี่ยี่ห้อครับ

ส่วนอีกปัญหาที่เจอคือ ผมสร้าง sub folder ใต้ folder MUSIC แล้วเครื่องแจ้งว่าไม่มีไฟล์เพลง(wav) แต่วางข้างนอก sub folder เครื่องหาไฟล์เจอครับ

ต้องมีการตั้งค่าที่ไหนอีกหรือปล่าวครับ แนะนำที
ความคิดเห็นที่ : 24

betterake

13/06/2013 19:36:01
0
class 10 ใช้ได้ครับ

DR100 นับเป็น recorder ที่คุ้มค่าที่สุดครับ คือถ้าจะเอาดีกว่านี้ก็แพงกว่านี้เยอะ
ถ้าถูกกว่านี้ก็ยังห่างคนละชั้นกับ DR100

ถ้ารู้จักการฟังมิติจากเจ้านี่แล้วเครื่องเล่นอื่นๆจะฟังลำบากครับ
ความคิดเห็นที่ : 25

franchiz1

13/06/2013 19:53:55
1
รายละเอียดเยอะจริง ครับตอนที่มีิ Roland r09
ความคิดเห็นที่ : 26

jackbkk

13/06/2013 22:39:24
0
ฟังแล้วซักจะสนใจเครืองอัดเสียง อยากลองเหมือนกันครับ
ความคิดเห็นที่ : 27

wic

13/06/2013 22:59:04
0
รีวิวได้เยี่ยมเลยครับพี่สุเมธ ข้อมูลแน่นมากจริงๆ ไม่เสียแรงที่รอคอยมาเป็นปีๆ เลยครับ
ความคิดเห็นที่ : 28

ballxyz

14/06/2013 00:18:04
0
แบบนี้สงสัยต้องขอลงคิวรับต่อจากพี่สุเมธไว้ล่วงหน้าได้ไหมครับ
ความคิดเห็นที่ : 29

maewkaew

14/06/2013 11:44:57
2
ในที่สุดก็มาแล้ว เยี่ยมคะ ครบถ้วน ได้ใจความ
ความคิดเห็นที่ : 30

franchiz1

05/07/2013 13:49:03
1
มาดันหน่อย ครับ ตอนนี้ ใช้ Dr 05 แก้ขัดไปก่อนครับเสียงไม่ ธรรมดาเลย รองบจัด DR 100 ซ่ะหน่อยครับ
ความคิดเห็นที่ : 31

franchiz1

09/07/2013 14:17:13
1



รอการมาของ เธอ ตัวนี้ อิๆ สมใจหวัง ล่ะครับ
ความคิดเห็นที่ : 32

rocketz

09/07/2013 14:22:56
0
คุณ franchiz1 ผมขอปรึกษาหน่อยนะครับ ผมส่งเมลล์ไปหาละครับ
ความคิดเห็นที่ : 33

franchiz1

09/07/2013 14:23:28
1



1อัฟด้วยภาพนี้ครับ
ความคิดเห็นที่ : 34

franchiz1

09/07/2013 14:33:48
1



@rocketz เมลกลับไปเเล้วครับ

ผมตัดสินใจซื้อ เพราะได้ลอง DR 05 เเล้ว ใช้เลย เสียงที่ได้ถือว่าเยี่ยมเเล้ว ตัวนี้จะขนาดไหนล่ะครับเนี้ย คหสต ล้วนๆครับ


อีกภาพ เนียนๆครับเหลือ เเต่หาอแดปเตอร์ เท่านั้นครับ
ความคิดเห็นที่ : 35

rocketz

09/07/2013 14:38:09
0
ฟังเพลงแนวช้าๆ acoustic นี่ roland r05 จะเหมาะกว่าตัวนี้ป่าวครับ พอดีอ่านรีวิวบอกว่าไมค์ติดตัวไม่ค่อยดี พอดีผมอยากได้เครื่องอัดเสียงเพราะส่วนตัวก็เล่นดนตรีบ้าง อย่างน้อยก็คุ้มค่าจริงๆ ขอคำแนะนำหน่อยครับ ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ : 36

sumat_kee

11/07/2013 08:15:11
2
ตอบคุณ rocketz

ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้ไขว้เขวนะครับ

ที่ผมบอกว่าไมค์ Internal ของ DR-100 เสียงไม่ค่อยดี ไม่ใช่ว่าไม่ดีเลยนะครับ คือไม่ดีเมื่อเทียบกับไมค์ที่ใช้ในห้องอัดจริงๆ แต่ถ้าจะอัดทำเดโมหรืองานทั่วๆ ไปแล้วก็กินเครื่องบันทึกเสียงกลุ่มเล็กขาดแน่นอนครับ
ความคิดเห็นที่ : 37

sumat_kee

11/07/2013 08:18:09
2
พูดง่ายๆ เสียงไม่ค่อยดีของรุ่นใหญ่ (รุ่นท๊อป) ยังไงก็ดีกว่าเสียงดีที่สุดของรุ่นเล็กนะครับ

ที่ผมบอกว่าไมค์ไม่ค่อยดีเพราะผมนำไปเทียบกับรุ่นโปรเลย ตรงนี้ถ้ายังติดใจยังไงผมมี DR-100 ส่งไปให้ลองฟังได้นะครับ ติดต่อมาได้เลยจ้า
ความคิดเห็นที่ : 38

sumat_kee

11/07/2013 08:24:17
2
ตอบคุณ ballxyz

เรื่องขาย DR-100 คงไม่มีครับผม มีแต่ซื้อเพิ่ม
ผมว่าของดีก็ต้องเก็บไว้ครับ ถ้ารีวิวๆ แล้วขายนั่นไม่ใช่ของดีแล้วครับ 555

อย่าง CD Panasonic 905 ผมก็มีตั้ง 3 ตัว คือมีออกมาขายเมื่อไหร่ผมซื้อแน่
ส่วนหู Aiwa D9 แต่ก่อนผมมีหลายตัวเลย รวมทั้ง Aiwa V99 , V88 , D8 ด้วย เรียกว่าหูในกลุ่มนี้ออกมากี่ตัวผมเก็บเรียบ 555
ความคิดเห็นที่ : 39

rocketz

11/07/2013 10:57:11
0
ผมส่งเมลล์ไปหาแล้วนะครับ พี่สุเมธ

ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ : 40

franchiz1

11/07/2013 15:20:00
1
@sumat_kee

พี่สุเมธครับ อเเดปเตอร์ ใช้กับ DR 100 หาซื้อได้จากที่ไหนครับ รบกวนเเนะนำด้วย ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ : 41

poporing007

11/07/2013 16:04:05
0
ที่พี่สามล้อก็มีครับ adapter เป็นของเครื่อง PSP ใช้ด้วยกันได้ครับ
หรือหาเองสเปก 5v 1.5-2a
ความคิดเห็นที่ : 42

franchiz1

11/07/2013 20:20:28
1
poporing007 ขอบคุณครับ
ความคิดเห็นที่ : 43

Gaia_Blue

12/07/2013 10:15:23
0
เพิ่มเติมให้ครับ

adaptor ของตรงรุ่นลองสอบถาม คุณ wic ข้างบนได้ครับ
ความคิดเห็นที่ : 44

จ้อน

16/07/2013 13:25:09
ใช้อยู่ครับ ซื้อจากคุณ wic ตอนแรกก็ใช้ r 05 แต่โดนขโมย พอได้ตัวนี้ไม่เสียดาย r 05 เลยครับ ใช้แทนซีดีเพลย์เยอร์ดี ๆ ได้เลย (r 05 แทนซีดีบ้านไม่ผ่าน เสียงเล็กกระจุ๋มกระจิ๋มมาก และเสียงไม่ค่อยเปิด แต่ช่องไฟดี) เอาไปต่อเครื่องเสียงฟังที่บ้านก็ได้ ฟังในรถก็ได้ ผ่านที่แปลงไฟ 2a ถูก ๆ ช่อง พวกไม่อ่านแผ่นไม่ต้องซ่อมแล้ว ใช้นี่แทนเลย รุ่น 2 เห็นว่าถูกลง แต่ดูสเปค ทำไมเห็นว่ายังใช้ akm อยู่ แต่ดูเหมือน s/n ต่ำลง และเสียงสู้รุ่นแรกไม่ได้ (เค้าว่ามานะ)
ความคิดเห็นที่ : 45

wic

19/07/2013 21:31:02
0
Roland R-05 ผมว่าเหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มจะเปลี่ยนมาฟังเพลงจาก Recorder มากเลยครับ เพราะว่ามันฟังติดหูง่าย Recorder ตัวแรกที่ผมเริ่มฟังก็คือ R-05 นี่แหละ

ส่วนเจ้า DR-100 นี่ เสียงจะไปไกลกว่า R-05 เยอะเลย เหมาะกับผู้ที่เก่งกล้าวิชาแล้วครับ 555
ความคิดเห็นที่ : 46

wic

19/07/2013 22:57:30
0



Adaptor ของ Tascam ตรงรุ่นเลยจะเป็นรุ่นนี้ครับ
ความคิดเห็นที่ : 47

maewkaew

27/07/2013 15:11:51
2
อัพค่ะ
ความคิดเห็นที่ : 48

ballxyz

06/08/2013 21:18:07
0
มารออ่านความรู้เพิ่มครับ พึ่งได้ dr100 มาวันนี้
ความคิดเห็นที่ : 49

wic

24/08/2013 17:19:20
0
เข้ามาดันกระทู้หน่อยครับ
ความคิดเห็นที่ : 50

ช่วยหน่อย

09/09/2013 09:02:19
ช่วยแนะนำ FZ ที่แมตกับ DR-100 ให้ทีครับ
อยากได้หลายๆช่วงราคา เริ่มตั้งแต่ 3000 - 30000 บาท
ความคิดเห็นที่ : 51

aor

09/09/2013 09:44:35
8
คุณสุเมธครับถ้าว่างช่วยรีวิว tascam d-2d แบบเต็มๆให้อ่านหน่อยสิครับ
ไม่ทราบคุณสุเมธได้รับ eagles live 1977 แล้วหรือยังครับ สำหรับแผ่นปู่chetที่คุณสุเมธมีแผ่นvcdตอนนี้ผมหาแผ่น dvd ได้แล้วครับเดี๋ยวจะส่งไปให้นะครับ
ความคิดเห็นที่ : 52

BoyBrinks

07/08/2014 16:29:13
8
ไฟล์เพลงที่เราเอามาลง D-100 มีนามสกุล .MP3 กับ .WAV แค่ 2 อย่างใช่ไม๊ครับ แล้วอัตราบิทเรทเท่าไหร่กันบ้างที่รองรับ คือผมลองเอาไฟล์ .WAV 96/24 มันไม่อ่านครับ
ความคิดเห็นที่ : 53

Goldcity90

07/08/2014 19:28:16
0
เข้าไปปรับ ที่ setting ให้เป็น .WAV 24bit ครับ ของผม tascam dr40 ลองปรับดูเผื่อได้ครับ
ความคิดเห็นที่ : 54

BoyBrinks

08/08/2014 08:06:29
8
ขอบคุณครับ @Goldcity90
ได้แล้วครับ ลงเพลง Munkong.wav เสียงสะอาดใสแจ๋วเลยครับ
ความคิดเห็นที่ : 55

Oppopdas

05/12/2014 21:52:30
0
อ่านรีวิวแล้ว หาเครื่องเล่นเเนว มอนิเตอร์ นำ้ตาจะไหล เจอเเล้ว ฮื่อๆๆ ไม่น่าเข้ามั่นคงเลยยย กินมาม่าเเน่คราวนี้
ความคิดเห็นที่ : 56

Witti

05/12/2014 23:04:06
0
DR-100 เสียงดีนะครับ อยู่ร่วมกันมาพักใหญ่ๆเกือบสามปี อิ อิ ^ ^
ความคิดเห็นที่ : 57

BoyBrinks

06/12/2014 05:36:45
8
ผมใช้เบิร์นหูฟังกับลำโพง แรงขับเหลือเฟือครับ ^^
ความคิดเห็นที่ : 58

hmonginthanon

04/01/2017 19:27:00
อัพ อัพ กำลังสนใจเรคคอร์ดเดอร์
ความคิดเห็นที่ : 59

อำนาจTC

08/11/2023 14:28:42
รุ่นนี้จอแตกซ่อมๆด้ทีาไหนครับ
ความคิดเห็นที่ : 60

BrandonNop

17/04/2024 23:47:56
cloud health care https://forums.dieviete.lv/profils/127605/forum/ oxford health care
"=== รีวิว Tascam DR-100 Recorder / Player ==="