Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

เหน่งบาตัดแปะ....อีโรติคในบทเพลงของ ทูล ทองใจ

เหน่งบา

24/05/2013 18:49:20
0
เคยไหมครับ ที่ฟังเพลงของ คุณทูล ทองใจ ด้วยความประทับใจ แล้วพอเอามาร้อง ออกจากปากตัวเอง
แล้วมัน...แปลกๆ ปนจั๊กจี้ เพราะเนื้อความมัน..ออกจะโป๊ๆหน่อย แต่ก็ไม่ได้คิดให้ละเอียด ผมเองรู้สึกเช่นนั้น
กับบางเพลง บางท่อนของเพลงคุณทูล แต่ก็ไม่ได้มีรูปธรรมที่ชัดเจนในใจนัก จนเมื่อมาได้อ่านหนังสือ
"ทูล ทองใจ เทพบุตรเสียงกังสดาล" เรียบเรียงโดยคุณวัฒน์ วรรลยางกูร จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์แสงดาว
จึงได้ถึงบางอ้อ เพราะมันมีบทหนึ่งในหนังสือ เกี่ยวกับ ส่วนที่eroticในบทเพลงคุณทูลครับ
จะเอามาถ่ายทอดให้ได้อ่านกันดังนี้

อารยะสังวาส

ติดตามข่าวสารการเมืองที่ผ่านมา จะได้ยินคำศัพท์แปลกๆ เช่น นอมินี, อารยะขัดขืน
คำหลังนั้น อธิบายด้วยภาพอาจารย์สอนรัฐศาสตร์ ผมยาว ฉีกบัตรเลือกตั้งในคูหาอย่างตั้งใจ เป็นการแสดงการต่อต้าน
การปกครองที่เขาเห็นว่า ไม่ชอบธรรม
เห็นเขามี'อารยะขัดขืน' ฟังเพลง ทูล ทองใจ แล้วก็ปิ๊งคำใหม่ 'อารยะสังวาส'
อารยะสังวาส, อารยะสังโยค นั่นคือจุดเด่นเฉพาะของเพลง ทูล ทองใจ ตั้งแต่ต้น คือ โปรดเถิดดวงใจ และอีกหลายเพลง...เป็นสิบ
อารยะ - เจริญ
สังวาส - การอยู่ด้วยกัน, การอยู่ร่วมกัน, การร่วมประเวณี
สังโยคะ - การประกอบกัน, การอยู่ร่วมกัน
เพลงจำพวกสังวาสกันอย่างผู้เจริญ อารยะสังวาส เป็นเพลงสำแดงพิศวาส เสน่หา กันด้วยภาษากวี ดนตรีไพเราะ
อันเป็นเสมือนใส่ข่า, ตะไคร้, ใบมะกรูด, จนกลบกลิ่นคาว ยวนเย้าด้วยกลิ่นหอม ปรุงน้ำปลา มะนาว ซอยพริกขี้หนู
ผักชีฝรั่ง จนหอมอร่อยซี้ดซ้าด

โปรดเถิดดวงใจ, เสียงดุเหว่าแว่ว, คืนนั้นสวรรค์ล่ม, คืนนั้น, คืนอำลา, จูบมัดจำ, นางอาย,
ปรารถนา, ฝากหัวใจ, กลิ่นแก้มนาง, กลิ่นปรางนางหอม

ต้องให้เครดิตกับเพลง "โปรดเถิดดวงใจ"ที่ เบญจมินทรฺ์ วางตำแหน่งให้ ทูล ทองใจ
เป็นต้นแบบของเพลงอารยะสังวาสแรกเริ่ม
"ดึกดื่นคืนนั้นเคยร่วมผูกพันแน่นหนัก เคยฝากความรักไว้ด้วยใจภักดิ์ไม่พราง
เสียงน้องออเซาะขอรักมั่น รำพึงเสียงสั่นเมื่อใกล้สาง ไม่อยากจะร้างห่างรักที่เริ่มลอง"
รักที่เริ่มลอง คือรักแรกของวัยสาวหนุ่ม ไม่เคยมีประสบการณ์ จึงสำแดงออกในอาการรำพึงเสียงสั่นเมื่อใกล้สาง
แต่เมื่อฝ่ายหญิงร้างลาไป ฝ่ายชายก็ถึงกับนอนไม่หลับ และหมกมุ่นอยู่กับอารมณ์สวาท
"มิได้หลับนอนได้แต่ทอดถอนฤทัย พี่หลงบรรเลงเพลงรักเก่า ตัวเธอนั้นเล่าอยู่แห่งไหน"
ไอ้หนุ่มบรรเลงเพลงรักเก่าอย่างไร ต้องจินตนาการเอง

จากโปรดเถิดดวงใจ แนวเพลงอารยะสังวาสแบบ ทูล ทองใจ ย้ำชัดในเพลง 'เสียงดุเหว่าแว่ว' ที่การสังวาส, สังโ่ยค,
หรือกามกรีฑาของสาวหนุ่ม ถูกบรรยายในภาษาจินตนาการสวยงามว่า
"เราเกี่ยวแขนกันเที่ยวในแดนฟ้า พบวิมานเทวา ผ่านดาราน้อยใหญ่
ปราสาทสีทองผ่องอำไพ โอ้เพลินใจในแดนสวรรค์
กอดกัน กระซิืกกระแซะนั่น ชวนชมนั่นดาวระยิบระยับตา"
และ
"อิงแอบแนบขวัญปลอบใจ เสียงสะอื้นยังจำได้ ร่ำอยู่จนใกล้สว่าง

โปรดเถิดดวงใจ ของเบญจมินทร์นั้น "รำพึงเสียงสั่นเมื่อใกล้สาง" ส่วนเสียงดุเหว่าแว่ว ของ ไพบูลย์ บุตรขัน
เป็นเสียงสะอื้นร่ำไรอยู่จนใกล้สว่าง
เรียกว่า เสียงสะอื้นนานกว่าเสียงสั่น เพราะฟ้าสางก่อนแล้วฟ้าจึงสว่าง คิดดูแล้วกัน ว่าอันไหนถึงอารมณ์สังวาสกว่ากัน
ร่ำไรอืดอาดกว่ากัน
ดุเดือดกว่าเสียงสั่น เสียงสะอื้น ก็ต้องคืนนั้นสวรรค์ล่ม อารมณ์สังวาสที่ลูกผู้ชายสารภาพว่า ฝันเปียก
แต่เพลงใช้ภาษากวีบรรยายอารมณ์ทางเพศเป็นสัญลักษณ์สวยงาม เป็นเมฆ, บึง, ไทรย้อย, บัว...เป็นเรื่อง
สังวาสทั้งหมด สังวาสแบบอารยะ

"ผ่านเมฆรำไร มาพบบึงใหญ่อโนดาตงาม ไทรย้อยห้อยกิ่ง ทิ้งก้านคลุมน้ำสีคราม
บัวน้อยอร่ามงามน่าภิรมย์ เสียดายมิทันเด็ดบัวสวรรค์ชม คืนนั้นสวรรค์ล่ม.."
อะไรคือ เมฆ, บึง, ไทรย้อย, บัว ก็ต้องจินตนาการเอาเอง แบบอารยะสังวาส

นี่คือสามเพลงสุดยอดของเพลงแนวสังวาสของ ทูล ทองใจ
อีก 7-8 เพลงก็เลือกสังวาส (เสียงเพลงกับโสตหู) กันตามอัธยาศัย
อย่างปรารถนาเบญจมินทร์ช่างจินตนาการว่า
"อยากแนบเนื้อขอเป็นเสื้อสวมใส่สรรพางค์"หากหนุ่มไปร้องจีบสาว สาวคงขนลุกชัน ที่หนุ่มมาวอนขอแนบเนื้อ

"คืนอำลา" พร ภิรมย์ แต่งแล้ว คงไม่กล้าร้องเอง ต้องมาให้ทูลร้อง
"..หอมแก้มสาวไม่สิ้นกลิ่นจาง หอมทรวงเจ้าอวลเคล้ากลิ่นปราง หอมไม่สร่างจุมพิตติดใจ
ทรวงละมุนหนุนเนื้อนวลควรผ่อน อย่าด่วนตัดรอน หนุนนอนไม่ช้ำเท่าไร.."
เอ...นอนเอาศีรษะซุกทรวงละมุนกันเลยหรือนี่

จูบมัดจำ ของ นิยม มารยาท ก็แบบ "พี่จูบมัดจำตลอดทั้งคืน" อารยะสังวาสแบบ
ไม่ได้หลับได้นอน ก็เพราะหลงใหลในสุดจะสรร เนินถันเจ้างามขาวผ่อง

อีก 6-7 เชิญสังคีตสังวาสให้เพลิดเพลิน พรรณนาไปคงยืดยาว

ปล. ผมจะพยายามรวบรวมหลายเพลงที่ว่า ไว้ในกระทู้นี้นะครับ

จูบมัดจำ

ต่างวิงวอนอ้อนรักพรอดพร่ำ
รักแสนหวานฉ่ำพี่จูบมัดจำตลอดทั้งคืน
กอดนวลไว้ แนบกายฝังใจระรื่น
ไออกอุ่นหนุนรักชื่น พี่กอดขวัญยืน มิจางห่างน้อง

จะมีใครที่ไหนกันเล่า
สวยงามเกินเจ้า พี่เฝ้าเล้าโลมโฉมนิ่มเนื้อทอง
สุดจะสรร เนินถันเจ้างามขาวผ่อง
ดังหนึ่งพิมยามยิ้มมอง สวาทรักปอง น้องนางนั่งชม

จวนแจ้งแล้วหนา
เดือนตกจะลับตา นกกาต่างกู่ หาคู่ภิรมย์
นกกู่พี่กอดเจ้าไว้มิให้ระทม
สองเราต่างเฝ้าเชยชม จนสิ้นแสงโคมแห่งจันทร์

พี่ต้องลาก่อนฟ้าสว่าง
โน้มนวลแนบนาง เฝ้าจูบสองปรางเพื่อฝากสัมพันธ์
แต่คืนนี้พี่ไปอย่าได้ไหวหวั่น
คืนใหม่เราค่อยพบกัน เพื่อสร้างวิมานฉิมพลีที่คอย


ในฝัน
คำร้อง-ทำนอง เบญจมินทร์

หากฝันว่าฉันและเธอ ละเมอความรักร่วมกัน
ทุกๆวันแสนสุขฤทัย หากความรักนั้นหนักเหลือ
แนบเนื้อเชื้อรักดังไฟ ฉันขอตายบนตักนาง

หากเราได้รักร่วมกัน ผูกพันกระสันต์แน่นเหนียว
ขอรักเดียวไม่จืดและจาง หากเป็นดั่งเช่นที่หมาย
จะตายฉันไม่ขอห่าง ขอรักนางเนื้อนวลแน่นอน

มอบใจและกาย ทุกสิ่งมั่นหมาย
ถึงตัวตายไม่คลายรักก่อน สู้ทนอ้อนวอน
ยอมฝันแม้ยามหลับนอน ทนกอดหมอนนานมา

หากฝันฉันไม่หลอกหลอน ตื่นนอนคงพบหน้าน้อง
สมดังปองใจปรารถนา หากเป็นดังเช่นที่หมาย
จะตายฉันไม่นำพา ขอบูชาน้องนางแน่นอน…


เพลง คืนนั้นสวรรค์ล่ม
คำร้อง - ทำนอง ไพบูลย์ บุตรขัน

คืนหนึ่งนั้น เป็นคืนสวรรค์สว่าง
พี่ได้พาน้องนางภิรมย์ชมดาว พริ้งพราววาววาบนภา
พบชาวเทวัญ สวยงามอร่ามตา
นับว่าเป็นวาสนา ได้มาสวรรค์อำไพ
เพลินชมภิรมย์นภางค์ จนพาน้องนางหลงไป
ผ่านเมฆรำไร มาพบบึงใหญ่อโนดาตงาม
ไทรย้อยห้อยกิ่ง ทิ้งก้านคลุมน้ำสีคราม
บัวน้อยอร่าม งามน่าภิรมย์
เสียดายมิทันเด็ดบัวสวรรค์ชม
คืนนั้นสวรรค์ล่ม เสียงฟ้าเสียงลม
ฝนพร่างพรม พี่หนาวจนสั่น
กลับกลายเป็นฝันไป ไร้คู่กอดนอน...


โปรดเถิดดวงใจ
คำร้อง-ทำนอง เบญจมินทร์์

โปรดเถิดดวงใจ โปรดได้ฟังเพลงนี้ก่อน
อย่าด่วนหลับนอน อย่าด่วนทอดถอนฤทัย
จำเสียงของพี่ได้หรือเปล่า จำเพลงรักเก่าเราได้ไหม
เคยฝากฝังไว้ แนบในกลางใจนาง
ดึกดื่นคืนนั้น เคยร่วมผูกพันแน่นหนัก
เคยฝากความรัก ว่าด้วยใจภักดิ์ไม่จาง
เสียงน้องออเซาะขอรักมั่น รำพึงเสียงสั่นเมื่อใกล้สาง
ไม่อยากจากนาง ร้างห่างรักที่เริ่มลอง
แต่พออีกไม่นานนัก ความรักที่เคยหวานซึ้ง
เปลี่ยนจากหนึ่ง กลับกลายเป็นสอง
ลืมรักลืมรส ลืมไปหมดที่เคยทดลอง
อ้อมแขนที่เคยประคอง น้องอยู่ในอ้อมแขนใคร
ดึกดื่นคืนนี้ พี่คงเฝ้าคอยเหมือนก่อน
มิได้หลับนอน เฝ้าแต่ทอดถอนฤทัย
พี่หลงบรรเลงเพลงรักเก่า ตัวเธอนั้นเล่าอยู่แห่งไหน
ดูช่างโหดร้าย ให้เราเฝ้าคร่ำครวญ...


คืนอำลา

เจ้าอย่าผลักไส เตียงหนุนอุ่นไอ
น้องเคยให้พี่หนุนตักนอน
แล้วคืนนี้ไฉนกลับงอน
ขอเพียงตักเจ้าหนุนอุ่นนอน
เนื้อเจ้าอ่อนนอนหนุนจนสาง

แก้วตาอย่าอาย เคียงชิดติดกาย
น้องเบนบ่ายไฉนเล่านาง
หอมแก้มสาวไม่สิ้นกลิ่นจาง
หอมทรวงเจ้าอวลเคล้ากลิ่นปราง
หอมไม่สร่างจุมพิตติดใจ

ทรวงละมุนหนุนเนื้อนวลครวญผ่อน
อย่าด่วนตัดรอนหนุนนอนไม่ช้ำเท่าไร
คืนอำลาสัญญาให้น้องแน่ใจ
เจ้าทำหวงตัวไปได้ เห็นใจพี่เถิดแก้วตา

ก่อนพรากจากไป พี่ขอถอดใจ
ไว้จนกว่าจะย้อนกลับมา
ขอฝากฝังความหลังก่อนลา
น้องจงโปรดได้คิดเมตตา
น้องจงอย่าให้พี่ผิดหวัง


คืนนั้น

หนาวเย็นน้ำค้างกลางดึกอกใจระทึก
ดุเหว่าแว่วเตือนเมื่อใกล้จะสาง
คืนนั้นเราสองคนเคียงข้าง
ชิดเชยจูบนวลปราง
กอดนวลนางชิดเคียงกัน

คืนทั้งคืนหวานรื่นชื่นฉ่ำ
พร่ำพรอดน้ำคำ
ร่วมทางสุขล้ำในแดนสวรรค์
ยามเมฆลอยคล้อยบัง แสงจันทร์
น้องออดอ้อนคืนนั้นไม่ลืมจันทร์ไปจนตาย

เดือนลับลงขอบฟ้า
เป็นเหมือน สัญญา
ว่าใกล้รุ่งรางแสนเสียดาย
ใจหายดุเหว่าแว่วร้อง
จำพรากจากน้องจำจาก
ฝากรอยจำจารึกทรวงใน

คิดถึงคืนนั้นยังฝังจิตคร่ำครวญหวนคิด
กลิ่นเนื้อแนบชิดยังเตือนติดใจ
คืนทั้งคืนหวานชื่นจำได้
เสียงดุเหว่าทีไรยิ่งพาใจรัญจวน


เสียงดุเหว่าแว่ว

เสียงดุเหว่าแว่วมาเหมือนเตือนให้
สองเราผวาจากกัน
ค่อนคืนตื่นฝัน ราเกี่ยวแขนกัน
เที่ยวในแดนฟ้าพบวิมานเทวา
ผ่านดาราน้อยใหญ่ปราสาทสีทองงามผ่องอำไพ
โอ้เพลินใจในแดนสวรรค์
กอดกันกระซิบกระแซะกัน
ชวนชมนั่นดาวระยิบระยับตา
เพลินอยู่จนเสียงดุเหว่าแว่วมา
เป็นสัญญาให้เราจากกัน
อิงแอบแนบปลอบใจ
เสียงสะอื้นยังจำได้ร่ำอยู่จนใกล้สว่าง
ฟ้าสางแล้วเราต้องพรากจากกัน
เสียงดุเหว่าแว่วร้อง อยู่
กระตู้วู้เมื่อครู่เลือนหาย
แสนเสียดายสุดจะหมายกลับคืน


เพลง ปราถนา
คำร้อง-ทำนอง เบญจมินทร์

หากแม้น เลือกเกิดเองได้
คนทุกคนเลือกเกิดอย่างไร
ก็ตามใจเขาปรารถนา
แต่ตัวฉันนั้น ขอตั้งสัจจะวาจา
ถึงชาตินี้ชาติหน้า
ปรารถนาเกิดมาใกล้คุณ

หากร้อนผิวกาย ใจระทม
ตัวฉันยอมเลือกเกิดเป็นลม
เฝ้าลูบชมเนื้ออ่อนละมุน
หากหนาวนัก ขอเอารักวางไว้เป็นทุน
ขอเกิดมาเป็นผ้าอุ่น
เกิดเป็นหมอนหนุนสำหรับนาง

อยากเกิดมาเป็นสีแดง แต้มแต่งสองริมฝีปากคุณ
อยากเกิดเป็นแป้งหอมกรุ่น ลูบไล้เนื้ออุ่นสองปราง
อยากเกิดเป็นสร้อยห้อยคอไว้ อยากเป็นดอกไม้ที่ทัดหู
อยากอยู่ร่วมหอไม่ห่าง

จะขอเป็นแหวน สวมก้อย
เป็นกำไลสวมใส่มือน้อย
เกิดเป็นรอยรับบาทของนาง
อยากแนบเนื้อ ขอเป็นเสื้อสวมใส่สรรพางค์
ขอเกิดเป็นหมอนข้าง
เพื่อนางนวลน้องได้กอดนอน

thankขอบคุณเจ้าของข้อมูลทั้งหลาย คุณวัฒน์ วรรลยางกูร,สำนักพิมพ์แสงดาว, ท่านหมื่่นกระบี่ไร้พ่าย ท่านกระต่ายเว็บสายสัมพันธ์, พี่จรีพร และเว็บMusic4Thai นะครับ thank
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

SARUS

21/12/2014 10:39:44
28
ฮึ่ย...อีโรติคจริงๆด้วยอ้ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 2

yamano

21/12/2014 22:41:53
271
ขอบคุณครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"เหน่งบาตัดแปะ....อีโรติคในบทเพลงของ ทูล ทองใจ"