Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

ซื้อ สาย mini to mini แพงๆ มันคุ้มมั๊ย มันมีผลต่อระบบเสียงมากน้อย

neotheone1

27/04/2013 20:37:49
0
ซื้อ สาย mini to mini แพงๆ มันคุ้มมั๊ย มันมีผลต่อระบบเสียงมากน้อยเพียงใด กี่ %
ขอแยกคำถามดังต่อไปนี้แล้วกันครับ เพื่อประดับความรู้นะครับ
1. สาย mimi to mini มีผลต่อเสียงประมาณกี่ % ถ้าต่อแบบ ( ไฟล์เพลง % + player % + mini 2 mini % + amp % + หูฟัง % )
2. ถ้าจะซื้อสาย mini to mini ควรมีราคาเป็นเท่าไร เมื่อเทียบกับ apm เช่น ครึ่งนึง ของ amp ฯลฯ
3. mini to mini แบบทั่วไป สายเล็กๆ ที่แถมมา กับ สายแพงๆ ราคาต่างกัน 10 เท่า
เสียงที่ได้มันคุ้มกันมั๊ย ฟังเสียงแล้วต่างกันชัดเจนมั๊ย
ขอบคุณครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

SounDFeVeR

27/04/2013 20:43:07
0
ผมว่าหากจะซื้อแล้วตั้งแง่ตั้งคำถามกับมันเยอะ เหมือนซื้อมาก็ทำให้ไม่สบายใจ เพราะยังคิดกับคำว่าคุ้มมั้ย ดีกว่าหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน ราคาที่จ่ายไปกับสื่งทีได้เพิ่ม ก้ควรซื้อแต่แค่ใช้งานได้ดีกว่าครับ เอาสบายใจและสบายกระเป๋าของเรา

(หากคิดต่าง ก็ขออภัย พอดีเห็นถามแบบเรื่องเชิงความพึงใจส่วนตัวมาชี้วัด หากให้วัดเป็นเปอร์เซนต์ตีเป็นค่ามันยากครับ เพราะแต่ละคนมีเกณฑ์มีไม้บรรทัดไม่เหมือนกัน)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

neotheone1

27/04/2013 20:49:34
0
ครับผม ขอบคุณครับ
เอาเป็นว่า ไม่ต้องซื้อแพงเกินงบ ก็แล้วกันนะครับ
อย่าง แอม 5000 บาท สาย 5000 บาท มันก็เกินไปใช่เปล่าครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

SounDFeVeR

27/04/2013 20:52:42
0
ตอบยากนะครับ เพราะบางคนถูกใจแอมป์หลักพัน บางคนถูกใจแอมป์หลักหมื่น และเรื่องสายก็เช่นกัน บางคนใช้ความถูกใจเป็นตัวในการเลือกของ บางคนใช้ความถูกกระเป๋าในการเลือกของ เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรตายตัวหรอกครับ เอาที่เราจัดเซตแล้วพอใจกับมัน สุขที่ได้ฟังเพลงจากมันก็เพียงพอแล้วนะครับผมว่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

veedemort

27/04/2013 20:52:52
58
คนที่มีงบประมาณในการซื้อสาย m2m ราคาแพงๆ หลายๆ คน ยอมจ่ายเงินซื้อ

เพราะความพอใจในเสียงที่ m2m ราคาแพงๆ ให้ได้ แต่เส้นที่ราคาไม่แพงให้ไม่ได้คับ

คุณภาพที่เหนือกว่ามาตรฐานทั่วๆ ไป ... ต้องยอมลงทุนคับถึงจะได้ (ไปลองสายแพงๆ ให้เราเข้าใจว่ามันดีกว่ายังไงที่ร้านเฮียก็ได้คับ อิอิ)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

jesusgamers

27/04/2013 20:58:58
25
Live พี่ หนึ่ง ครับ

ถูกต้องแล้วครับ ความสุข ความพอใจ ความคุ้ม บางครั้ง จำนวนเงิน หรือราคา แต่ละคนมันไม่เหมือนกันหรอกครับ มันพูดอยาก
แต่ถ้าจะเอาเป็น % จริงๆ จาก คหสต ผมพอจะตอบได้ดังนี้
สิ่งที่ผลกับเสียงมากที่สุด
หูฟัง >80%
สายหูฟัง>3%
player >10%
Amp>4%
สายสัญญาณ มินิ ต่างๆ>2%


ที่ไม่เต็ม 100% เพราะเสียงที่ได้ยินจากเครื่องมือเหล่านี้ ยังไง ก็ไม่เหมือนเสียง อนาล็อค จากธรรมชาติ 100% หรอกครับ มันต้องมี noise และความเพี้ยน จาก source อิเล็กทรอนิกส์ บ้างไม่มากก็น้อย แม้จะไฮเอนด์ แค่ไหนก็ตามผมคิดเช่นนี้ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

veedemort

27/04/2013 21:23:55
58
ความเห็นของผมต่างจากพี่ข้างบนคับ :)

ถ้าคะแนนรวมคือ 100 ปัจจัยแต่ละอย่างมีผลประมาณนี้คับ (คหสต)

หูฟัง 40
สายหูฟัง 10
Player 22
แอมป์ 18
สายพ่วงแอมป์ 10
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

Caedus

27/04/2013 21:27:21
7
ความเห็นผมนะครับ
-หูเรา 90%
-system 10% ใน10%ก็แบ่งเป็น
-หูฟัง 60%
-player 20%
-amp15%
-สายสัญญาณ 5%
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

neotheone1

27/04/2013 21:30:56
0
ก็คือ เสียงดี ไม่ดี เน้นไปที่ หูฟังอย่างแรก รองลงมา คือ player แล้วก็ แอมป์ ใช่เปล่าครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไฟล์เพลงต้องดีด้วย อย่างน้อยต้อง 128 kpbs ที่ริปมาจากแผ่น CD แท้ ไม่ใช่โหลดมาจากเน็ต หรือ แผ่น mp3 ใช่เปล่าครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

UIZ

27/04/2013 22:13:00
ถ้าริปจากแผ่นแล้ว ควรต่ำสุดที่ 192 kbps นะ เด๋ยวนี้ไฟล์ 128 kbps หาง่ายมากในnet
ที่จริงควรเอาเป็น 320 kbps หรือ losslessไปเลย เพราะคุณภาพเสียงหนิ ไม่ต้องกลัวว่าจะแท้ หรือเทียมเหมือนโหลดในnet (128 kbps เก๊ ยังมีเลย 55 ทำไปได้ไงไม่รู้)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

blackpie

27/04/2013 22:28:06
30
ถ้าจะพิถีพิถันขนาดนั้นจะเอาให้คุ้มขั้นต่ำๆเลยแนะนำที่ 16 บิตจริงๆครับ ต่ำกว่านี้ไม่ค่อยน่าเล่นแล้วครับอีกอย่างสมัยนี้ 16 บิตมีเยอะแยะหาง่ายครับ ส่วนเรื่องสายนี่ผมไม่ขอตอบละกันเพราะความพอใจกับสบายกระเป๋าเป็นที่ตั้งมากกว่าสิ่งใด
สำหรับผมเล่นตั้งโต๊ะเนี่ยผม weight น้ำหนักให้ dac เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในระบบครับ แต่ถ้าพกพาผมว่า player กับหูฟังนี่คู่คี่กันเลย ถ้าหูดี player ห่วยเสียงไม่แมชมันก็ไม่ไหวครับ แต่ player ดีหูแถมมันก็เหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตนมากกว่า อะไรแบบนั้น
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

bookzadx

27/04/2013 22:38:13
8
สายmini ถ้างบไม่หนาจริง ไม่ต้องเล่นแพงมากหรอกครับ
ไปเปลี่ยนสายหูฟังจะคุ้มกว่า ฟังออกง่ายกว่าเยอะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

Archibald

27/04/2013 22:54:25
4
ผมเห็นด้วยกับคุณ veedemort ความเห็นที่ 6 นะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

ปุ๊ทะลิ

27/04/2013 23:45:40
ผมมีหลักคิดนึงอยากแชร์คับ อาจจะนอกเรื่องไปสักหน่อย แต่ลองอ่านเล่นๆดูคับ


ต้องบอกก่อนว่า มันเป็นเพียงหลักคิดของผมคนเดียวนะคับ ผมไม่ได้บังคับให้ใครเชื่อ หรือต้องทำตาม ทุกคนล้วนมีวิธีคิดและวิธีในแบบของตัวเอง

*** โปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะคับ ***


ผมคือคนนึงที่เล่นหูฟังมาเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว นับตั้งแ้ต่จำความได้เกิน 15 ปีแน่นอน ลองผิดลองถูกมาก็เยอะ เสียเงินเสียเวลาไปก็มาก แต่ทุกสิ่งที่ผมทำไปผมไม่เสียดายนะคับ เพราะผมถือว่ามันคือ "ความสุข"


เข้าเรื่องครับ แฮ่!!!

ผมมักจะสังเกตุ และพบคำถามเหล่านี้ซ้ำๆเดิมๆนี้อยู่บ่อยครั้งครับว่า

"ของแพงต้องดี ของดีต้องแพง", "มันดีกว่ากันแค่ไหน ดีกว่ากันยังไง", "อันนี้สิดี อันนั้นไม่เวิคหรอก", "เค้าว่าดี", "ต้องไอ้นี่ ต้องไอ้นั่น" บลาๆๆๆๆๆๆ

คือผมจะบอกว่าจริงๆแล้ว ทุกอย่างมันต้องเกิดจากการลองด้วยตัวเองทั้งสิ้นคับ

"การฝึกทักษะการฟัง" ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญคับ แยกให้เป็น ฟังให้ออก


ผมมักจะเห็น "ผู้เล่นหน้าใหม่" เข้ามาสู่วงการโดยการเริ่มต้นด้วยอะไรที่มัน "แพง" หรือบางทีก็ "เชื่อในคำวิจารณ์" "เชื่อในเสียงส่วนมาก" มากกว่าที่จะ "ลองด้วยตัวเอง"


ผมว่าตรงนี้แหละคับที่ทำให้ "หลงทาง" ได้ง่ายๆ


ผมหมายถึง แทนที่จะ "เข้าใจอย่างถ่องแท้ด้วยตนเอง" แต่กลับ เข้าใจและเชื่อใน "คำพูดของคนอื่น" มากกว่า

ก็อย่างที่บอกคับ ถ้า "ไม่เข้าใจความต้องการของตัวเอง" ผมว่ายังไงก็ "หลงทาง" อยู่อย่างนั้นแหละคับ

คือบางที "ฟังก็ไม่ออก" "มองความต่างก็ยังไม่เห็น" แต่ก็เชื่อใน "คำกล่าวอ้างของคนอื่น" ว่าอันนั้นสิดี อันนี้สิดี


ทีนี้เข้าสู่กระบวนการด้านการปฏิบัติคับ


ก็เหมือนๆกับหลักวิทยาศาสตร์นั้นแหละคับ

คือต้องมีการ "ทดลอง", "ทดลองซ้ำๆ", "ทดลองหลายๆตัวแปร"


บางคนคงบอกว่า "บร๊ะ!!! แล้วจะเอาเงินมาจากไหนนักหนา ไม่ใช่ลูกเศษรฐีนะเว่ยเฮ่ย!!!"

ผมมีคำตอบให้คับ นั่นคือ "เริ่มจากของถูก" หรือง่ายๆเลยก็คือ "เริ่มจากของธรรมดา" คับ



จะมีประโยชน์อะไร ถ้าคุณมี "เพชรน้ำงามชั้นเลิศ" แต่แยกไม่ออกว่าต่างจาก "เพชรปลอม" ยังไง


ก่อนอื่นเลยคือ "คุณต้องเข้าใจในสิ่งที่แย่" ก่อนคับ แล้วจึงค่อย "สั่งสมประสบการณ์" จนกระทั้ง สามารถที่จะแยกแยะความแตกต่างระหว่าง "ของดีกับของไม่ดี" ออก

เมื่อนั้นแหละคับ คุณถึงจะเข้าใจว่า "ดี มันดีอย่างไร"


อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นคับว่า

มันเป็นเพียงหลักคิดของผมคนเดียวนะคับ ผมไม่ได้บังคับให้ใครเชื่อ หรือต้องทำตาม ทุกคนล้วนมีวิธีคิดและวิธีในแบบของตัวเอง

*** โปรดใช้วิจารณญาณด้วยนะคับ ***


ผมเองก็ไม่ได้เก่งมาจากไหนหรอกคับ แต่ผมก็เริ่มจาก ของกากๆทั้งนั้น ตั้งแต่สมัยเรียนก็เก็บเงินซื้อมันมาเรื่อย จนกระทั้งปัจจุบันผมก็ยังทำงานเก็บเงินซื้อหูฟังอยู่ ฟังมันจนกระทั่งรู้ว่าความแตกต่างมันคืออะไร

คือบางทีอะไรที่เค้าว่าดี ถ้าผมไปฟังแล้วฟังไม่ออก ผมก็ไม่ปักใจเชื่อคับ ว่ามันดี แต่ก็ไม่คิดแย้งแต่อย่างใด เพราะก็เป็นไปได้ว่า ทักษะในการฟังของเค้าสูงกว่า จึงฟังออก และรับรู้ได้

อีกมุมก็คือ ถ้าผมฟังแล้วไม่ชอบ ถึงเค้าว่ามันดียังไง ผมก็ไม่ชอบคับ นั่นคือผมรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร


ฝากไว้ให้อ่านกันเล่นๆเท่านี้คับ ขอบคุณคับ :)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

Pazippizzy

28/04/2013 01:34:15
0
ขอตอบตรงๆเลยละกัน พอใจคือคุ้มครับ ไม่พอใจคือไม่คุ้ม
เลือกเองตามจุดที่สบายใจและสบายกระเป๋าครับ

การฝึกฟังก็สำคัญ แต่ฟังออกก็ใช่ว่าจะดี
วันดีคืนดีคุณฟังแยกออกมากๆ จะกลับไปฟังตัวเก่าๆ เดิมๆที่เคยชอบ ดันฟังไม่ได้แล้ว
กลายเป็นฟังไปไม่เป็นสุขซะอีก โหยหาแต่เสียงที่เหนือกว่าเดิม
ผมว่าค่อยๆเล่นไปเรื่อยๆจะดีกว่า ยังไม่ต้องเน้นของแพงมาก
สำหรับผม เวลาฟังอะไรที่รู้สึกว่ามันอัพเกรดขึ้นจากเดิมแล้วมันรู้สึกเป็นสุขดีครับ ค่อยๆอัพไป
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

neotheone1

28/04/2013 10:59:23
0
ขอบคุณทุกท่านมากครับ ให้ความคิดในแง่ดีๆ ทั้งนั้นเลย
เพิ่งหัดเล่นได้ไม่นานอ่ะครับ
เผอิญผมอยู่ ตจว. ไม่มีโอกาสไปลองฟัง ก็อาศัยรีวิวต่างๆ เนี่ยแหละครับ
แล้วก็ตัดสินใจซื้ออ่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

Paganini

28/04/2013 11:07:22
1
ใช้คำว่า ต่างกันเยอะ เหมาะกว่า

ส่วนชอบ ไม่ชอบ หูใครหูมัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

alanvaltz

28/04/2013 11:52:02
0
ถ้าคะแนนรวมคือ 100 ผมให้ประมาณนี้

Player 40 (ที่ให้เยอะกว่าคนอื่นเพราะผมไม่ฟังแบบFlatครับ)
หูฟัง 30
แอมป์ 10
สายพ่วงแอมป์ 8
สายหูฟัง 8
ไฟล์เพลง 4 (ใช้เวลาเพ่งนานกว่าสายอีก ยกเว้นว่าคุณภาพห่วยจริงๆ)


เท่าที่ผมลองสัมผัสมา แพงๆใช่ว่าจะถูกใจครับ บางครั้งสายราคา3พันแยกความต่างจากสายแถมได้ยากกว่าสายราคาไม่ถึงพัน

สำหรับการเลือกสาย ผมแนะนำให้
-เลือกจากแนวเพลงที่ชอบ หากชอบเบส และ อิมแพค ก็ไปสายทองแดง ชอบสเตจ เสียงรายละเอียดก็สายเงิน
-หากไม่รู้แนวก็ลองสั่งหรือขอลองเพื่อนบ้านใกล้เคียงทั้ง2สายเลย
-ในราคาระดับต้นๆ ไม่เกินพัน งานDiy จะสังเกตุความต่างได้ง่ายกว่าครับ (คหสต.)



ในตอนนี้ผมใช้สลับกันสองสายครับ(เงินและทองแดง)
แล้วแต่อารมณ์ และหูฟังที่เลือกของวันนั้น
รำคาญที่ต้องเปลี่ยนไปมานิดนึง แต่ก็พอใจกับสิ่งที่ได้ครับ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

JuneyJa

28/04/2013 11:57:31
733
ต้องลองหละครับ
โดยส่วนตัวผมว่าต่างกันครับ

พวกสายต่างๆเนี้ย มีส่วนช่วยเติมเต็มใน system หละครับ
แรกๆผมก็ไม่เชื่อเท่าไหร่ว่าสายจะมีผลอะไรมากมาย
แต่พอได้ลองเท่านั้นหละ เสียงดีขึ้นแบบผิดหูผิดตาเลยครับ
จนสงสัยว่า เห้ยนี้มันใช่หูฟังตัวเก่าจริงๆเหรอ....ว่ะ

ตอนนี้ค่าสายต่างๆผมน่าจะเกิน system หลักไปแล้วครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

neotheone1

28/04/2013 23:47:42
0



ตอนนี้ใช้สายแถม เส้นเท่าหนวดกุ้งอยู่
ถ้าลองสาย diy ยังไงเสียงก็ต่างแบบเห็นได้ชัดใช่เปล่าครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

lifezz

29/04/2013 00:22:31
5
แอบสูบความรู้
ปรบมือให้ คห.5 ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

blackpie

29/04/2013 00:46:40
30
แนะนำนะครับมีเวลาเข้าไปขอลองดูก็ได้ nordost heimdall2 กับ blue heaven เนี่ยต่างแบบเหมือนเปลี่ยนระบบใหม่จริงๆ
xlr นะครับร้านเฮียแกมี
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

hydeless

29/04/2013 03:17:32
1
ส่วนตัวคิดว่าตัวระบบต้องถึงด้วยนะครับ อยากให้เทน้ำหนักไปที่ หูฟังกับเพลเยอร์เท่าๆกันแนวเสียงหลักอยู่ที่สองตัวนี้ รองมาก็แอมป์ต้องมาดูอีกว่าแอมป์แฟลทไม่ไม่แฟลท บางตัวบูสบางย่าน ลดบางย่านก็แล้วแต่ ส่วนสายมินิอนาล็อกก็อยู่ที่ตัวนำเลยครับเงินหรือทองแดง ว่าเสริมความถี่ระบบหลักเท่าไร ไม่มีแย่ลงครับ มีแต่ชอบหรือไม่ชอบกับเสียงที่เปลี่ยนไป ให้ค่าพอๆกับสายหูฟังครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

neotheone1

29/04/2013 11:49:55
0



สายนี้สวยดีอ่ะ ใครมีมั่งครับ ขอซื้อแบบราคาแบ่งกันใช้หน่อยครับผม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24

neotheone1

30/04/2013 00:49:48
0
ผมไปอ่านบทความข้างล่างมา ผมยังอึ้งอยู่เลยมันขนาดนั้นเลยรึ ต้องลองซะแล้ว...


ขออนุญาตโพสบทความที่ไปเจอมานะครับ

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

ทฤษฎี สายลำโพงและสายสัญญาณควรมีราคา 15-20% ของซิสเต็ม.......... ถูกหรือผิด???

ผมเชื่อเลยว่ากระทู้นี้น่าจะเป็นกระทู้ที่ hot และมีการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางแน่ๆ

ผมมีความเชื่อมาตลอด 10 กว่าปีที่เล่นและขายเครื่องเสียงมา จากคำพูดของเซียนและนักวิจารณ์ที่ว่าสายสัญญาณและสายลำโพงควรมีราคา 15-20% ของซิสเต็ม

เช่นซิสเต็ม 100,000 บาท ท่านควรเผื่องบให้สายทั้งซิสเต็ม 15,000-20,000 บาท

ผมเชื่ออย่างนี้มาตลอดจริงๆ

จนมาช่วงหลังๆที่เริ่มมีประสบการณ์กับเครื่องเสียงและสายที่ราคาสูงขึ้น มุมมองจากที่พบเจอด้วยตนเองและจากลูกค้าหลายๆท่านที่เป็นนักเล่นตัวยง รวมถึงน้องยู,พี่อ้อยและคุณหน่อย ผู้จัดการประจำสาขาศรีราชา 3 คนที่ทำให้ผมต้องมาทบทวนเรื่องนี้ใหม่ และที่ขาดไม่ได้คือ JPS Super conductor 3 และ Aluminata ที่ทำให้หูตาสว่างมากขึ้น

คำถามคือ มันใช่จริงๆเหรอ 15-20% ที่ว่ากันมา และมันพอจริงๆหรือเปล่า

ถ้าไม่มีเรื่องเมื่อวานนี้ผ่านเข้ามาในชีวิตผม ผมไม่มีทางเปิดประเด็นนี้แน่ๆ เรื่องของเรื่องคือ

ผมมีโอกาสไปบ้านพี่กฤษณ์ ลูกค้าของคุณหน่อย ที่ตัวเมืองชลบุรี

บ้านนี้เป็นบ้านที่คุณหน่อย Recommend ให้ต้องไปฟังเพราะพี่กฤษณ์เป็นคนแรกที่ลองใส่สาย JPS Super conductor 3 ราคาสายคู่นี้ 100,000 บาท ใส่กับแอมป์ Onkyo NR-3007 เล่นกับ B&W 804 S โดยมีเครื่องเล่นซีดี Rotel RCD-02 เป็นแหล่งโปรแกรม

สาย ลำโพงแพงกว่าแอมป์พี่เค้าอีก ถูกกว่าลำโพงครึ่งหนึ่ง แถมมีสายไฟ Audioquest NRG-100 อีก 1 เส้นต่อแอมป์อยู่ราคา 40,000 กว่าบาท สายสัญญาณของ Monitor รุ่น NF 1302 อีก 1 เส้น ค่าสายคิดเป็น 40% ของซิสเต็มโดยประมาณ

เห็นชุดพี่เค้าตั้งแต่คุณหน่อยโพสต์ผมก็เฉยๆ ชุดอย่างนี้ฟังมาเยอะ

ลองเปลี่ยนสายลำโพงเป็น Aluminata เข้าไป งานเข้าเลย เสียงอลังการใหญ่โต เหมือนลำโพงตัวใหญ่ขึ้น เบสเหมือนมีซํบ 12 นิ้วสองลูกออกมาจากลำโพง ใหญ่สมจริง แต่ขอประทานโทษไม่มีบวมเบลอ จังหวะเก็บตัวไม่มีล่าช้า หย่อนยาน

ถ้าเอาผ้าคุลมเครื่องฟังแต่เสียง ที่ลำโพง ผมว่าเซียนๆต้องฟันธงว่าเป็น Power 100 วัตต์ขึ้นไปกับซีดีแพงๆสักตัว สายมันทำให้เสียงขึ้นไปได้ถึงระดับนั้นจริงๆ

เรื่อง นี้ไม่ค่อยอยากเล่าเพราะคนไม่เชื่อจะหาว่าผมเวอร์ แค่สายลำโพงมันจะอะไรกันนักหนา ผมเข้าใจที่ท่านคิดเพราะผมเองก็เคยคิดอย่างนี้มาเป็นสิบๆปี ยิ่งคนไม่เชื่อเรื่องสายยิ่งจะหาว่าผมพูดเกินไปหรือเปล่า จะเชียร์ของที่ตัวเองขายล่ะสิท่า

ของไม่ดีจริง เขียนไปก็เท่านั้น ผมมีแต่จะเสียเปล่าๆ และสายราคาระดับนี้ปั่นกระแสไปก็เท่านั้น มันไม่ช่วยให้ขายดีขึ้นแน่ๆผมมั่นใจ มันไม่ใช่ของที่ใครจะซื้อไปลองกันเล่นๆ คนที่ซื้อเค้าไม่เชื่อที่ผมเขียนหรอก เค้าเชื่อหูตัวเองมากกว่า ฟังแล้วเสียงไม่ดีราคานี้ไม่มีใครจ่ายเงินหรอก รถเก๋งคันนึงเลยนะครับ

ในมุมกลับกันสายราคาเท่ารถเก๋ง 1 คันมันก็สมควรที่จะต้องทำให้ซิสเต็มธรรมดาแปลงร่างเป็นไฮเอนด์ให้ได้ไม่ใช่หรือ

ถ้า ท่านได้ฟังเองชุดนี้จะต้องรู้สึกเหมือนผมว่า นี่มันไม่ใช่เสียงของรีซีฟเวอร์เครื่องละ 6-7 หมื่น กับซีดีเครื่องละ 20,000 แล้ว ฟังยังไงมันก็ไม่ใช่ นี่มันเสียงไฮเอนด์ราคาเป็นล้านแล้ว ไม่รู้จะพูดยังไง ต้องฟังเองถึงจะเข้าใจ เรื่องอยางนี้อธิบายยาก คุณหน่อยเองเข้าใจเหมือนผม พี่กฤษณ์เองก็คิดไม่ต่างกัน

ผมเองก็ไม่ เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน ทฤษฎีและความเชื่อหลายๆอย่างที่เคยมี ต้องกลับมาทบทวนกันใหม่แล้วว่ามันจริงหรือเปล่า สายลำโพงก็แค่สายลำโพงมันจะไปช่วยอะไรมากมาย เต็มที่ก็แค่ให้ลำโพงทำงานเต็มประสิทธิภาพ แค่ 15-20% ของซิสเต็มก็พอ

แล้ว 15-20% มันไปกระตุ้นศักยภาพของลำโพงได้สักกี % หรือที่ผ่านมาผมไม่เคยฟังเสียงลำโพงเต็มประสิทธิภาพเพราะความเชื่อนี้หรือ เปล่า ถ้าตัดเรื่องราคา 300,000 ออกไป สายเส้นนี้คือส่วนที่ทำให้ลำโพงคู่นี้หรือคู่ใดๆแสดงศักยภาพออกมาอย่างเต็ม ที่

เป็นเสียงที่เราไม่เคยได้ยินจากสายราคาต่ำกว่าหรือคุณภาพต่ำกว่าเท่านั้นเอง

สุดท้ายพี่กฤษณ์ตัดสินใจเปลี่ยนสายเดิมเป็น Aluminata ไปแล้ว

เหตุการณ์นี้ทำให้ผมย้อนไปถึงเรื่องที่ผมเคยคุยกับคุณหน่อยเมื่อไม่กี่เดือนมานี้
ผมเคย comment คุณหน่อยอยู่ 2-3 ครั้งที่เจอว่าขายสายราคาใกล้เคียงกับราคาลำโพงให้ลูกค้า ผมบอกว่าขายสัก 15-20% ก็พอ เพราะกลัวว่าลูกค้าจะรู้สึกว่าซื้อสายแพงไป เกิดมีเพื่อนฝูงมาทัก ทางผมก็จะเสีย ผมซีเรียสเรื่องพวกนี้มากอยู่แล้ว

คุณหน่อยบอกผมว่า ส่วนใหญ่ที่ซื้อคือลูกค้าได้ลองฟังเอง ชอบถึงได้ซื้อ และมันก็ช่วยทำให้เสียงดีขึ้นมาก มากกว่าเปลี่ยนแอมป์หรือลำโพง

คุณหน่อยบอกผมว่า ถ้าซิสเต็มเดิมของลูกค้า สมมติใช้ลำโพง Proac D 18 ต่อสายลำโพงตามทฤษฎีก็น่าจะลงเป็น AQ Rocket88 ราคาสัก 20,000 บาท เอออันนี้ผมเห็นด้วยเลย สายมันไม่แรงมาก

แล้วถ้าคุณชัยวัฒน์เปลี่ยนใส่ Comet ราคา 70,000 เข้าไปเสียงมันจะดีขึ้นอย่างมหาศาล ซึ่งเสียงนี้จะไม่มีทางได้ยินถึงแม้จะเปลี่ยนลำโพงเป็น D28 หรือ D 38 แล้วใช้ Rocket 88 เหมือนเดิม

ผมลองแล้วและมันก็เป็นเช่นนั้น การเปลี่ยน D28 กับ D 38 ให้สเกลที่ใหญ่ เสียงเต็มอิ่ม และฟังดูดีขึ้น แต่ไม่มีรายละเอียดเหมือน D 18 ใส่ Comet หรือถ้าจะให้ดีจริงๆ ควรเปลี่ยนสายตามลำโพงขึ้นไปด้วยถึงจะดีที่สุด และถ้าคุณเปลี่ยนเป็นรุ่นสูงอย่าง Meteor เสียงจะดีกว่า Comet อีกมากมาย

จากนั้นคุณหน่อยเริ่มพูดถึงหลักแนวคิดของเค้าเพิ่มเข้ามา อ้อลืมบอกไปย่าง คุณหน่อยใช้ Moon i1 เล่นกับ B&W CM-1 แต่ใช้สายลำโพง JPS Superconductor+ ซึ่งราคาแพงกว่าแอมป์และลำโพง เค้าให้เหตุผลว่าถ้าไม่เล่นสายตัวนี้ก็ไม่ได้ยินเสียงอย่างนี้จากลำโพงคู่นี้

วิธีคิดของคุณหน่อยคือ

มีแอมป์+ลำโพง ไม่มีสาย เสียงไม่ดัง
มีลำโพง+มีสาย ไม่มีแอมป์ก็เสียงไม่ดัง
มีสาย+มีแอมป์ ไม่มีลำโพงก็ไม่มีเสียง

แล้วจะบอกว่าสายสำคัญน้อยกว่าแอมป์หรือลำโพงได้อย่างไร เพราะถ้าไม่มีสายก็ไม่มีเสียง ทุกแย่างต้องดีพอๆกัน สายก็ควรจะดีพอๆกับแอมป์และลำโพงสิถึงจะถูก

ตอนนั้นที่ฟังคุณหน่อยพูดผมเองก็ยังไม่เข้าใจ แหมความเชื่อในหัว 10 กว่าปีมันมีมุมของตัวเองที่ไม่ยอมเปลี่ยนความคิดง่ายๆใครๆก็เป็น ผมก็รับฟังและจำเอาไว้

จากนั้นก็มีหลายเหตุการณ์ทีผ่านเข้ามา น้องยูนี่ก็เป็นคนที่ทำให้ผมเปลี่ยนความคิด

น้อง ยูก็เป็นหนึ่งในนั้น ก่อนหน้านี้น้องเค้าใช้

AVR: ONKYO : TX-NR5007
Front speakers: B&W : CM7
Center: B&W : CMC-2
Surround: B&W : CM5
Subwoffer: Paradigm Sub Studio12
BD Player Pioneer LX91
ราคาชุดนี้ ประมาณ 400,000 กว่าบาท แล้วดูสายที่น้องเค้าใช้

Speaker cable: Audioquest Meteor for front ,Comet for center , Audioquest Rocket33 for surround
AC Power Cord: JPS ALUMINATA,NRG Wild,,NRG10+IEGO8095,NRG10+wattgaate330&350,NRG5+fi11(cu)
HDMI: HDMI Diamond,HDMI1, Furutech X.V 1.3
Subwoofer cable: Audioquest Collorado >>> may be Niagara
ราคาสายเฉียดๆ 500,000 บาท เกินราคาชุดเครื่องเสียงไปแล้ว

ทุกครั้งที่ยูเปลี่ยนสาย ผมติงตลอดว่ามันจะแพงไปหรือเปล่า ยูซื้อพี่พี่ดีใจ แต่ซื้อสายแพงไปพี่ไม่เห็นด้วย ยูพูดให้ผมฟังเสมอว่า ถ้ายูไม่เปลี่ยนสายอย่างนี้ ยูก็ไม่ได้เสียงแบบนี้ ถึงพี่ให้ยูเปลี่ยนแอมป์เป็น Pre+processor แต่ไม่เปลี่ยนสายยูลองแล้วเสียงมันก็ไม่ได้อย่างนี้

ตอนนั้นผมก็ได้แต่คิดว่า เอา เอาเข้าไป แล้วแต่ยูละกัน ผมเจอคนทักยูบ่อยว่าเล่นอย่างนี้ทำไมไม่เปลี่ยนเครื่องไปเลย แต่ยูก็ยังเล่นอย่างนี้อยู่พักใหญ่จนตอนหลังเปลี่ยนเป็นชุดฟังเพลง โดยมี B&W 804 diamond กับปรี Moon + power bryston 14 B เข้าประจำการ

แต่อุดมการณ์ยูก็ยังเหมือนเดิม เปลี่ยนชุดเครื่องเสียงไปเฉียดล้าน

ก็เปลี่ยนสาย Aluminata ตามขึ้นไปทั้งเซ็ทรวมกับสายไฟเดิมๆที่ยังโอเค ราคาเฉียดล้านพอๆกัน ด้วยเหตุผลเดิม

?ยูฟังแล้วพี่ สายลำโพงต้องเป็น JPS Aluminata เท่านั้น รุ่นต่ำกว่านั้นเสียงมันไม่ได้ เสียงมันไม่สุด?

ราคาสายซื้อลำโพงได้ 1 ข้างกับอีกครึ่งคู่ เอา เอาเข้าไป

ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นพร้อมๆกับชุดของพี่อ้อย Apache

พี่อ้อยใช้
Bryston 4B-SST2+ปรี BP-26&MPS2
เครื่องเล่นซีดี Bryston Bcd-1
ลำโพง ProAc D-38

ทั้งชุดเฉียดๆล้านเหมือนกัน สายทั้งชุดฉียดๆ 400,000 บาท
ก่อนหน้านี้พี่อ้อยไม่เชื่อเรื่องสายมากเท่าไร ยิ่งสายไฟพี่เค้ายิ่งไม่ค่อยเชื่อ แต่พอได้ลองเล่นจริงจังก็ค่อยๆขยับขึ้นมาเรื่อยๆ จนปัจจุบันจบที่สายลำโพง AQ Montblanc ราคา 50,000 กว่าบาทและสายสัญญาณ JPS Super conductor3 2 ชุด ราคาประมาณ 70,000 บาท

Project ที่วางไว้คือจะเปลี่ยนซีดีเป็น Esoteric หรือเพิ่มแอมป์เป็น 7 B Mono block 2 ตัว
จนน้องยูหอบหิ้วสายลำโพง Aluminata ไปให้ฟัง พี่อ้อยบอกเลยว่าไม่เปลี่ยนเครื่อง แต่ขอเปลี่ยนสายเส้นนี้แทน สายที่ราเกือบเท่า D 38 ของพี่เค้านี่ละ

เหตุผลคือ มันเห็นผลเปลี่ยนแปลงชัดกว่าเยอะ

เคสนี้ที่ทำให้ผมหูตาสว่างขึ้นมาก จริงของพี่อ้อย ผมนึกภาพเลยว่าถ้าเปลี่ยน Bryston เป็น Esoteric เสียงก็คงละเอียดขึ้น ชัดขึ้น หรือเปลี่ยนเพาเวอร์ก็คงได้กำลังมากขึ้น พลังดีขึ้น

แต่มันไม่ได้ความอลังการและน้ำเสียงที่สมจริงอย่างที่สายลำโพงเส้นนี้ให้ออกมาแน่ๆ

เงิน 3000,000 พี่อ้อยเลือกได้ทั้งสามทางเลือก แต่พี่อ้อยเลือกเล่นทางนี้ เพราะได้พิสูจน์แล้วว่ามันเห็นผลมากกว่า

แล้วทฤษฎี 15-20% มันไปอยู่ที่ไหน ผมเชื่อว่าถ้าพูดเรื่องนี้กับนักล่นที่ดวงตาเห็นธรรมมาก่อนผมเค้าต้องขำแน่ๆ

และก็มีอีกหลายๆเหตุการณ์ที่ลูกค้าซื้อสายแพงๆไปเล่นกับชุดที่แพงกว่าสายไม่มาก ทั้งพี่นก พี่ Kenny Joey ซึ่งทำให้ผมเข้าใจอะไรต่อมิอะไรมากขึ้น ทั้งสองท่านก็เป็นเจ้าของสายไฟและสายลำโพง Aluminata ซึ่งชุดสายของพี่ทั้งสองนั้น เกิน 50% ของซิสเต็มทั้งนั้น

ตามมุมมองของผมตอนนี้ ซึ่งไม่รู้ว่าอนาคตจะเปลี่ยนยังไง เพราะประสบการณ์การเล่นจะสอนเรามากขึ้น ความคิดก็เปลี่ยนไปมากขึ้น สายลำโพงซื้อให้ดีที่สุดเท่าที่จะเล่นได้ ถ้าข้ามข้อจำกัด 15-20% เราอาจจะเจอเพชรเม็ดงามออกมาจากลำโพงคู่เดิม เพราะคำว่าดี คือของดี มันต้องแพงกว่าอยู่แล้วเป็นแกติ สายที่ดีเกินลำโพงคือสายที่เทียบกับรุ่นที่เล็กกว่าแล้วเสียงต่างขึ้นไปไม่มาก แสดงว่ามันสุดที่ตรงนั้นแล้ว อย่างนี้เราก็ไม่ต้องเล่นตัวที่สูงขึ้นไปเพราะมันไม่คุ้ม

ลำโพง 100,000 บาทอาจจะให้เสียงได้ดีสุดๆกับสายราคา 60,000-70,000 โดยที่ไม่มีทางได้จากการเปลี่ยนแอมป์หรือลำโพงโดยใช้สายราคา 10,000 กว่าบาทแน่ๆ ดังนั้นอย่าสบประมาทคนที่เปลี่ยนสายอย่างนี้ว่าเล่นเครื่องเสียงไม่เป็น ทำไมไม่เปลี่ยนเครื่อง ผมเชื่อเลยว่าเปลี่ยนเครื่องไปเผลอๆดีขึ้นสู้ไม่ได้


หลายท่านเคยคิดว่าสายอะไรก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ จนมาวันหนึ่งได้ลองสายดีๆ ความคิดก็เปลี่ยน
สายไฟจะไปมีผลอะไรมากมาย แล้วตอนนี้ท่านเปลี่ยนสายไฟอะไรกันอยู่?
ขาตั้งลำโพงไม่ต้องสนใจ วางอะไรก็ได้ ในที่นี้มีกี่ท่านที่ใช้ขาตั้งคู่ละหลายๆพันจนหลายๆหมื่น

ความคิดในเรื่องเครื่องเสียงมันเปลี่ยนได้ตามประสบการณ์การเล่นของเรานั่นละ สำหรับผมตอนนี้ผมไม่เชื่อว่า 15-20 % จะพอกับชุดเครื่องเสียงดีๆสักชุด นอกเสียจากมีสายที่ดีมากๆในราคาตรงนั้น ถือว่าเป็นโชคดีของเรา

ขออภัยลูกค้าบางท่านที่ซื้อสายแพงพอๆกับซิสเต็ม หรือซื้อสายลำโพงพอๆกับลำโพง ผมเคยคิดว่าท่านไม่เข้าใจการเล่นเครื่องเสียงแต่ที่ไหนได้ผมเองนั่นละที่เข้าใจเรื่องนี้สู้ท่านไม่ได้จริงๆครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25

ต้าร์

30/04/2013 08:31:00
0
มีแอมป์+ลำโพง ไม่มีสาย เสียงไม่ดัง
มีลำโพง+มีสาย ไม่มีแอมป์ก็เสียงไม่ดัง
มีสาย+มีแอมป์ ไม่มีลำโพงก็ไม่มีเสียง
ชอบวิธีคิดนี้จริงๆ สายสำคัญมาก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26

JOKER_THX

30/04/2013 09:34:24
7
เชื่อครึ่งหนึ่ง... ไปลองเองอีกครึ่งหนึ่ง... ใช่ว่าของแพงต้องดี ใช่ว่าของดีเราต้องชอบ แต่ที่แน่ๆคือการได้เ็ก็บเกี่ยวประสบการณ์ครับ.. ขอให้ได้พบสิ่งที่ตามหาครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 27

neotheone1

30/04/2013 14:06:30
0



ตอนนี้ สายนี้กำลังเดินทางมา หวังว่าเสียงน่าจะดีขึ้นนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 28

virus1113

30/04/2013 14:35:08
1
สายคุณพ้อยท์ดีกว่าเเน่นอน ฟังออกชัวร์ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 29

hipfood

30/04/2013 21:45:34
ผมว่าเปลี่ยนสายลำโพง คล้ายเปลี่ยนสายหูฟังแหละครับ สำคัญโครตๆๆ แต่ถ้าพวก interconnect สายไฟ นี่ผมให้สัก 10% - 15% แต่สุดท้ายมันก้อพูดยากเหมือนกัน อย่าง dac ผม ใช้สาย usb nordost blue heaven ผมชอบมาก แบบรู้สึกได้ว่าถ้าเปลี่ยน dac ให้แพงกว่านี้แต่สาย usb แถม เสียงมันคงไม่ได้มาแบบนี้แบบที่เราต้องการ
สุดท้ายต้องโดน blue heaven แทน สายหูฟังก็เหมือนกันครับสุดท้ายจบที่ toxic

ฟิน

สรุป ถ้าเป็นผมไปลองดูก่อนครับ งบน้อยเล่น diy ดีกว่า ไปลองฟัีงดูครับสาย เรือธงคุณ point หรือ hga คุณ jame007 ผมว่าดีทั้งคู่แล้วแต่แนวที่ฟัง หรือจับแถวสองก็ได้ครับ ราคาดี คำแนะนำส่วนตัวนะครับ ถ้าไม่ติดเรื่องสายแข็งผมว่าเรือธงคุณพ้อยท์จบครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 30

neotheone1

04/05/2013 09:28:05
0
ขอถามหน่อยครับ จากรูป คห.27 ทางไหนเข้าแอมป์ ทางไหนออกจาก player ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 31

JOKER_THX

04/05/2013 09:44:42
7
ตอนซื้อไม่ได้ถามผู้ขายมาเหรอครับ = =" DIY แต่เจ้าก็ mark ไว้ไม่เหมือนกันอ่ะครับ.... ดูจากรูปก็ได้แต่นั่งเดาเหมือนกัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 32

Caedus

04/05/2013 10:04:04
7
@neotheone1

ถ้าจำไม่ผิดนะครับ สายของคุณ point ทิศที่มาร์คไว้จะเข้าแอมป์ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 33

cycy

04/05/2013 13:48:11
15
สายคุณ point ด้านที่ท่อหดออกมายาวกว่าจะเข้าแอมป์ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 34

Ace of Hearts

18/10/2014 14:58:28
6
ลองเสียบ สลับดู นะครับ
สลับได้สองวิธีเอง ถ้ามันให้เสียงต่างกัน
ก็เลือกเสียงที่ชอบ คริ ๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"ซื้อ สาย mini to mini แพงๆ มันคุ้มมั๊ย มันมีผลต่อระบบเสียงมากน้อย"