Toggle Dropdown
ค้นหา
ค้นหาชื่อสินค้า
ค้าหารีวิวและบทความ
ค้นหาโปรโมชั่น
ค้นหาฟีดข่าว
ค้นหาไฮไลท์
TH
EN
หน้าแรก
สินค้า
เว็บบอร์ด
เกี่ยวกับเรา
สาขา
วิธีชำระเงิน
ติดต่อเรา
Guest
อีเมล์ / ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
หรือ
ค้นหาโดย Google
ค้นหาทุกคำ
ค้นหาชื่อกระทู้
ค้นหาชื่อผู้ตั้งกระทู้
เว็บบอร์ดจับฉ่าย
หูฟังมือสอง
ซื้อขายจิปาถะ
รีวิวและบทความ
กระทู้เฮีย
คลับ
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย
ช่องทางการติดต่ออื่น
All
5
10
15
หูฟังไวต่ำกับไวสูงดูยังไงครับ
Shared
ติดตามกระทู้นี้
แจ้งลบ
duth
24/03/2013 20:05:26
0
หูที่มีความไวต่ำหรือสูงดูยังไงอ่าครับ
แล้วผลของความไวคืออะไร
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1
คนนี้
24/03/2013 20:26:08
0
ตรงช่อง Sensitivity (SPL)ในตารางสเปคนั่นล่ะ คือตัวบอกความไว มีหน่วยเป็น db หูฟังความใวต่ำ เช่น 84,86 db พวกนี้จะกินกำลังขับจากแอมป์ขับมาก ส่วนพวกความไวสูง เช่น 100,104 db พวกนี้จะกินกำลังขับน้อยกว่าใช้ พวกโทรศัพท์ เครื่องเล่นเพลงพกพาทั่วไปก็ขับออกได้ง่าย ***ขอย้ำว่า ความใวนี้ ไม่เกี่ยวกับคุณภาพเสียงแต่อย่างใด เคยเจอในลำโพงความใวต่ำมากๆเช่น ROGER LS3/5A กับ Celestion SL600-SL700 แต่เสียงมันดีจนน่าทึ่ง
ตรงช่อง Sensitivity (SPL)ในตารางสเปคนั่นล่ะ คือตัวบอกความไว มีหน่วยเป็น db หูฟังความใวต่ำ เช่น 84,86 db พวกนี้จะกินกำลังขับจากแอมป์ขับมาก ส่วนพวกความไวสูง เช่น 100,104 db พวกนี้จะกินกำลังขับน้อยกว่าใช้ พวกโทรศัพท์ เครื่องเล่นเพลงพกพาทั่วไปก็ขับออกได้ง่าย ***ขอย้ำว่า ความใวนี้ ไม่เกี่ยวกับคุณภาพเสียงแต่อย่างใด เคยเจอในลำโพงความใวต่ำมากๆเช่น ROGER LS3/5A กับ Celestion SL600-SL700 แต่เสียงมันดีจนน่าทึ่ง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2
duth
24/03/2013 23:54:12
0
แล้ว ค่า impedance ที่เป็นหน่วยโอมห์ อะครับ
มันคืออะไรครับ มีผลอะไรอย่างไรครับ
แล้ว ค่า impedance ที่เป็นหน่วยโอมห์ อะครับ
มันคืออะไรครับ มีผลอะไรอย่างไรครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3
คนนี้
25/03/2013 00:32:49
0
ความต้านทานการไหลของกระแสไฟฟ้า ในระบบไฟฟ้ากระแสตรงจะเรียกว่า ความต้านทาน(Resistance) ส่วนในระบบไฟฟ้ากระแสสลับจะเรียกว่า อิมพีแดนซ์(Impedance) ในที่นี้จะพูดถึงในหูฟัง อิมพีแดนซ์ที่มีอยู่มันจะมาจาก 1. ขนาดพื้นที่หน้าตัดของตัวนำ 2. ความยาวของตัวนำ 3.วัสดุหรือชนิดของตัวนำ รวมถึงความบริสุทธิ์ของตัวนำด้วย 4.จำนวนรวบของขดลวด(ในลำโพงของหูฟัง) ปัจจัยเหล่านี้ล่ะที่ทำให่เกิดค่า Impedance ขึ้นมาในระบบ ผลของอิมพีแดนซ์เหล่านี้เมื่อมีกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดในหูฟัง อิมพีแดนซฺ์จะต้านการไหลของกระแสไฟไม่ให้กลับไปสู่ฝั่ง Neutral ของระบบในทันที ส่งผลให้ขดลวด(Coil)เกิดสนามแม่เหล็กขึ้นแล้ว ลำโพงก็จะขยับตัวตามจังหวะกระแสไฟฟ้าที่จ่ายเข้าไปทำให้เกิดเป็นเสียงเพลง ขึ้นมาให้ได้ยินกันนี่ล่ะ
ความต้านทานการไหลของกระแสไฟฟ้า ในระบบไฟฟ้ากระแสตรงจะเรียกว่า ความต้านทาน(Resistance) ส่วนในระบบไฟฟ้ากระแสสลับจะเรียกว่า อิมพีแดนซ์(Impedance) ในที่นี้จะพูดถึงในหูฟัง อิมพีแดนซ์ที่มีอยู่มันจะมาจาก 1. ขนาดพื้นที่หน้าตัดของตัวนำ 2. ความยาวของตัวนำ 3.วัสดุหรือชนิดของตัวนำ รวมถึงความบริสุทธิ์ของตัวนำด้วย 4.จำนวนรวบของขดลวด(ในลำโพงของหูฟัง) ปัจจัยเหล่านี้ล่ะที่ทำให่เกิดค่า Impedance ขึ้นมาในระบบ ผลของอิมพีแดนซ์เหล่านี้เมื่อมีกระแสไฟฟ้าผ่านขดลวดในหูฟัง อิมพีแดนซฺ์จะต้านการไหลของกระแสไฟไม่ให้กลับไปสู่ฝั่ง Neutral ของระบบในทันที ส่งผลให้ขดลวด(Coil)เกิดสนามแม่เหล็กขึ้นแล้ว ลำโพงก็จะขยับตัวตามจังหวะกระแสไฟฟ้าที่จ่ายเข้าไปทำให้เกิดเป็นเสียงเพลง ขึ้นมาให้ได้ยินกันนี่ล่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4
คนนี้
25/03/2013 00:43:46
0
ส่วนหูฟัง Impedanc จะมากหรือน้อย มันจะไม่เกียวข้องกับหูฟังว่าจะเสียงดี/ไม่ดี มันเป็นรายละเอียดทางเทคนิค หูฟังเสียงจะดี/ไม่ดี มันอยู่ที่การออกแบบ และการเลือกสรรวัสดุที่เอามาใช้ทำ และสิ่งที่ต้องไม่ลืมคือ "ใครเป็นคนทำ" เปรียบเหมือน มีหมู ไก่ กุ้ง หมึก มีผัก ฯลฯ อยู่ในครัว ไม่ใช่ที่ใครๆจะเข้าไปทำเป็นอาหารแล้วจะออกมาอร่อยเหมือนๆกัน มันอยู่ที่ว่าใครเข้าไปเป็นกุ๊กแล้วปรุงเป็นอาหารออกมาแล้วอร่อยได้นี่ล่ะ ไม่ใช่หาง่ายนัก
ส่วนหูฟัง Impedanc จะมากหรือน้อย มันจะไม่เกียวข้องกับหูฟังว่าจะเสียงดี/ไม่ดี มันเป็นรายละเอียดทางเทคนิค หูฟังเสียงจะดี/ไม่ดี มันอยู่ที่การออกแบบ และการเลือกสรรวัสดุที่เอามาใช้ทำ และสิ่งที่ต้องไม่ลืมคือ "ใครเป็นคนทำ" เปรียบเหมือน มีหมู ไก่ กุ้ง หมึก มีผัก ฯลฯ อยู่ในครัว ไม่ใช่ที่ใครๆจะเข้าไปทำเป็นอาหารแล้วจะออกมาอร่อยเหมือนๆกัน มันอยู่ที่ว่าใครเข้าไปเป็นกุ๊กแล้วปรุงเป็นอาหารออกมาแล้วอร่อยได้นี่ล่ะ ไม่ใช่หาง่ายนัก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5
หูเบา
25/03/2013 00:48:03
แสดงว่าผลความไว เสียงมันไม่มีมากละมั้ง ถ้าไวต่ำ
แสดงว่าผลความไว เสียงมันไม่มีมากละมั้ง ถ้าไวต่ำ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6
คนนี้
25/03/2013 00:54:34
0
**ลืมบอกไปอีกอย่างว่า หูฟังที่มี Impedance สูงๆ อย่างของ Beyerdynamic DT-770 จะมีรุ่นที่เป็น 300 โอมห์ 600โอมห์ (แต่รุ่นนี้เขามี 40โอมห์ให้เลือกด้วยนะ) หูฟังที่มีอิมพีแดนซ์สูงแบบ ต้องใช้แอมป์ขยายหูฟังขับสถานเดียว เครื่องเล่นเพลงทั่วๆไปขับไม่ออกแน่นอน แต่ถ้าอิมพีแดนซ์น้อยๆ ซึ่งไม่มากไปกว่า 40 โอมห์ เครื่องเล่นPlayer ทั่วๆไปเปิดได้สบายๆ
**ลืมบอกไปอีกอย่างว่า หูฟังที่มี Impedance สูงๆ อย่างของ Beyerdynamic DT-770 จะมีรุ่นที่เป็น 300 โอมห์ 600โอมห์ (แต่รุ่นนี้เขามี 40โอมห์ให้เลือกด้วยนะ) หูฟังที่มีอิมพีแดนซ์สูงแบบ ต้องใช้แอมป์ขยายหูฟังขับสถานเดียว เครื่องเล่นเพลงทั่วๆไปขับไม่ออกแน่นอน แต่ถ้าอิมพีแดนซ์น้อยๆ ซึ่งไม่มากไปกว่า 40 โอมห์ เครื่องเล่นPlayer ทั่วๆไปเปิดได้สบายๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7
duth
25/03/2013 01:26:45
0
ขอถามเพิ่มนะครับ
แล้วงี้เค้าทำให้โอมห์สูงไแทำไมอะครับ
ขอถามเพิ่มนะครับ
แล้วงี้เค้าทำให้โอมห์สูงไแทำไมอะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8
คนนี้
25/03/2013 01:59:38
0
เพราะผู้ออกแบบเขาต้องการใส่รายละอียดคุณลักษณะทางเสียง ลงไปให้ครบถ้วนตามที่เขาออกแบบเอาใว้ หูฟังอิมพิแดนซ์สูงๆ มักผลิตมาใช้ในงานผลิตที่ต้องการคุณภาพ รายละเอียดสูงๆ เช่นในสตูดิโอ สำหรับซาวน์เอนจิเนียร์ที่มิกเสียงงานเวทีดนตรี หรือระดับมือาชีพใช้งาน ผมเคยฟัง Beyerdynamic DT-770(แต่ไม่แม่นว่า 300หรือ600โอมห์) จากเพื่อน Soundengineer ในงานเวทีดนตรี เสียงมันละเอียดระยิบระยับ ยังติดหูอยู่จนทุกวันนี้ ผมต้องเสียเงินซื้อ Beyerdynamic DT-770 หรือไม่ก็ DT-880 แน่ๆเลยเนี่ย วันนั้นแอมป์ที่ใช้ขับ DT-770 ก็แอมป์ของ Peavey ธรรมด๊า ธรรมดา นี่เอง Mixer ก็Soundcraft Venue II แต่เสียงที่ออกมา ลืมไม่ลง **เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาทำImpedanceสูงๆมาเพื่อบังคับให้เราใช้แอมป์ขยายหูฟังไปขับซึ่งจะทำให้เราได้รายละเอียดครบถ้วน อีกนัยหนึ่ง หูฟังพวกนี้มีใว้ตรวจสอบความบกพร่องในระบบ ไม่ว่าจะมาจากเครื่องมืออุปกรณ์ในระบบ หรือความบกพร่องจากนักร้อง นักดนตรี เสียงของหูฟังแบบนี้จะออกไปทางแฟลท แฟลทมากๆ ซึ่งจะไม่ถูกใจคนทั่วๆไปที่ชอบฟังเพลงแบบสนุกสนาน
เพราะผู้ออกแบบเขาต้องการใส่รายละอียดคุณลักษณะทางเสียง ลงไปให้ครบถ้วนตามที่เขาออกแบบเอาใว้ หูฟังอิมพิแดนซ์สูงๆ มักผลิตมาใช้ในงานผลิตที่ต้องการคุณภาพ รายละเอียดสูงๆ เช่นในสตูดิโอ สำหรับซาวน์เอนจิเนียร์ที่มิกเสียงงานเวทีดนตรี หรือระดับมือาชีพใช้งาน ผมเคยฟัง Beyerdynamic DT-770(แต่ไม่แม่นว่า 300หรือ600โอมห์) จากเพื่อน Soundengineer ในงานเวทีดนตรี เสียงมันละเอียดระยิบระยับ ยังติดหูอยู่จนทุกวันนี้ ผมต้องเสียเงินซื้อ Beyerdynamic DT-770 หรือไม่ก็ DT-880 แน่ๆเลยเนี่ย วันนั้นแอมป์ที่ใช้ขับ DT-770 ก็แอมป์ของ Peavey ธรรมด๊า ธรรมดา นี่เอง Mixer ก็Soundcraft Venue II แต่เสียงที่ออกมา ลืมไม่ลง **เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาทำImpedanceสูงๆมาเพื่อบังคับให้เราใช้แอมป์ขยายหูฟังไปขับซึ่งจะทำให้เราได้รายละเอียดครบถ้วน อีกนัยหนึ่ง หูฟังพวกนี้มีใว้ตรวจสอบความบกพร่องในระบบ ไม่ว่าจะมาจากเครื่องมืออุปกรณ์ในระบบ หรือความบกพร่องจากนักร้อง นักดนตรี เสียงของหูฟังแบบนี้จะออกไปทางแฟลท แฟลทมากๆ ซึ่งจะไม่ถูกใจคนทั่วๆไปที่ชอบฟังเพลงแบบสนุกสนาน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9
XaNXuSiiZ
25/03/2013 02:36:58
0
สรุปคือทำโอมสูงมาเพื่อบังคับให้เราใช้ amp ขับใช่ไหมครับ
สรุปคือทำโอมสูงมาเพื่อบังคับให้เราใช้ amp ขับใช่ไหมครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10
คนนี้
25/03/2013 02:44:37
0
**มาถึงตรงนี้ ต้องกล่าวคำว่า "ขออภัยอย่างแรง" ที่ไม่ได้บอกรายละเอียดทั้งหมด ทีแรกก็ตอบคำถามแบบทั่วๆไป มาถึงขั้นนี้ก็ต้องบอกว่ามีสิ่งหนึ่งคือ ถ้าเป็นหูฟัง ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน ระหว่างอิมพิแดนซ์สูง กับอิมพิแดนซ์ต่ำ รุ่นที่อิมพิแดนซ์สูงจะแตกต่างออกไป เช่นใช้ลวดตัวนำที่พัน Voice Coil เส้นเล็กกว่า จำนานรอบมากกว่า (เป็นรายละเอียดทางเทคนิคและเหตุผลที่ผลิตออกมาใช้งาน กับกลุ่มเป้าหมาย)ซึ่งรุ่นอิมพิแดนซ์ต่ำ จะออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการแนวเสียงโดยรวมแบบรุ่นอิมพิแดนซ์สูง ซึ่งผู้ใช้ทั่วไปสามารถนำมาใช้งานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เช่นแอมป์ขยายหูฟังก็ใช้งานได้สะดวก แต่รุ่นที่อิมพิแดนซ์สูงกว่า จะให้รายละเอียด ความชัดเจน ความเที่ยงตรงที่ดีกว่า ***ในกรณีนี้ อิมพิแดนซ์มีผลต่อคุณภาพเสียง
**มาถึงตรงนี้ ต้องกล่าวคำว่า "ขออภัยอย่างแรง" ที่ไม่ได้บอกรายละเอียดทั้งหมด ทีแรกก็ตอบคำถามแบบทั่วๆไป มาถึงขั้นนี้ก็ต้องบอกว่ามีสิ่งหนึ่งคือ ถ้าเป็นหูฟัง ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน ระหว่างอิมพิแดนซ์สูง กับอิมพิแดนซ์ต่ำ รุ่นที่อิมพิแดนซ์สูงจะแตกต่างออกไป เช่นใช้ลวดตัวนำที่พัน Voice Coil เส้นเล็กกว่า จำนานรอบมากกว่า (เป็นรายละเอียดทางเทคนิคและเหตุผลที่ผลิตออกมาใช้งาน กับกลุ่มเป้าหมาย)ซึ่งรุ่นอิมพิแดนซ์ต่ำ จะออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการแนวเสียงโดยรวมแบบรุ่นอิมพิแดนซ์สูง ซึ่งผู้ใช้ทั่วไปสามารถนำมาใช้งานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์เช่นแอมป์ขยายหูฟังก็ใช้งานได้สะดวก แต่รุ่นที่อิมพิแดนซ์สูงกว่า จะให้รายละเอียด ความชัดเจน ความเที่ยงตรงที่ดีกว่า ***ในกรณีนี้ อิมพิแดนซ์มีผลต่อคุณภาพเสียง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11
คนนี้
25/03/2013 02:47:14
0
*แต่ถ้าต่างรุ่น ต่างยี่ห้อกันแล้ว อิมพิแดนซ์ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเสียงโดยตรงว่าจะเสียงดี/ไม่ดี
*แต่ถ้าต่างรุ่น ต่างยี่ห้อกันแล้ว อิมพิแดนซ์ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องเสียงโดยตรงว่าจะเสียงดี/ไม่ดี
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12
duth
25/03/2013 08:41:15
0
อย่างงี้แล้ว มันจะเกี่ยวกับหูฟังขี้ฟ้องไหม?
เท่าที่ใช้pk2มารู้สึกมันเหมืินขี้ฟ้องที่่เค้าๆพูดกันรึเปล่า ผมเอาไปต่อกับ dzeroเป็นdac และลองต่อตรงกู
เสียงที่ได้ต่างกันอย่างให้ได้ชัดมาก บางเพลงรู้สึกสากไปทั้งเพลง ในขณะที่ต่อตรง จะออกหวานเลยหล่ะนุ่มๆเบสๆ
พอผมลอง ms2i ก้ะ 80i ดูความต่างแทบไม่เห็นเมื่ิต่อตรงแทบกับต่อแอมป์
อย่างงี้แล้ว มันจะเกี่ยวกับหูฟังขี้ฟ้องไหม?
เท่าที่ใช้pk2มารู้สึกมันเหมืินขี้ฟ้องที่่เค้าๆพูดกันรึเปล่า ผมเอาไปต่อกับ dzeroเป็นdac และลองต่อตรงกู
เสียงที่ได้ต่างกันอย่างให้ได้ชัดมาก บางเพลงรู้สึกสากไปทั้งเพลง ในขณะที่ต่อตรง จะออกหวานเลยหล่ะนุ่มๆเบสๆ
พอผมลอง ms2i ก้ะ 80i ดูความต่างแทบไม่เห็นเมื่ิต่อตรงแทบกับต่อแอมป์
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13
คนนี้
25/03/2013 14:39:35
0
หูฟังขี้ฟ้อง มันเป็นบุคลิกของหูฟังโดยกำเนิด จากการออกแบบให้มีคุณลักษณะที่ถ่ายทอดรายละเอียดที่ออกมาอย่างเที่ยงตรง ไม่มีการบิดเบือน ไม่มีการประณีประนอมต่อ แหล่งกำเนิดสัญญาณเสียง ส่วนหูฟังบางรุ่น ถ้าต่อตรงกับเครื่องเล่นPlayerทั่วๆไปเสียงออกมา บางครั้งเสียงแจ๋น ,หยาบกระด้าง , เสียงจัด ,เบลอ ฯลฯ แต่พอไปต่อผ่านแอมป์ เสียงกลับมีรายละเอียด เสียงเบสกระชับขึ้น แหลมดีขึ้น เป็นต้น อาการเหล่านี้ ไม่ได้เกิดจากหูฟังขึ้ฟ้อง แต่มันเกิดจาก เครื่องPlayerขับหูฟังไม่ออกต่างหาก
หูฟังขี้ฟ้อง มันเป็นบุคลิกของหูฟังโดยกำเนิด จากการออกแบบให้มีคุณลักษณะที่ถ่ายทอดรายละเอียดที่ออกมาอย่างเที่ยงตรง ไม่มีการบิดเบือน ไม่มีการประณีประนอมต่อ แหล่งกำเนิดสัญญาณเสียง ส่วนหูฟังบางรุ่น ถ้าต่อตรงกับเครื่องเล่นPlayerทั่วๆไปเสียงออกมา บางครั้งเสียงแจ๋น ,หยาบกระด้าง , เสียงจัด ,เบลอ ฯลฯ แต่พอไปต่อผ่านแอมป์ เสียงกลับมีรายละเอียด เสียงเบสกระชับขึ้น แหลมดีขึ้น เป็นต้น อาการเหล่านี้ ไม่ได้เกิดจากหูฟังขึ้ฟ้อง แต่มันเกิดจาก เครื่องPlayerขับหูฟังไม่ออกต่างหาก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14
yoyuk
25/03/2013 14:45:24
0
ขออนุญาตถามหน่อยนะครับ คุณคนนี้กับน้องหยกคนเดียวกันรึป่ะครับ? เฆ็นรูปคล้ายกันเลย^^
ขออนุญาตถามหน่อยนะครับ คุณคนนี้กับน้องหยกคนเดียวกันรึป่ะครับ? เฆ็นรูปคล้ายกันเลย^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15
คนนี้
25/03/2013 14:59:38
0
ไม่ใช่ครับ ผมไม่รู้จักใครเลยในนี้
ไม่ใช่ครับ ผมไม่รู้จักใครเลยในนี้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16
คนนี้
26/03/2013 23:00:13
0
เพิ่มเติมนิดนึงจากคำถาม ทำหูฟังโอห์มสูงมาทำไม? เพราะในสตูดิโอ และบรรดาซาวน์เอนจิเนียร์ มืออาชืพ จะใช้แอมป์ขยายหูฟังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ดังนี้ บ.ผลิตหูฟังที่ให้ใช้งานในสตูดิโอ เขาจะเอาค่า Out put (กำลังขยายทางด้านขาออก)ของแอมป์ขายหูฟังไปคำนวณหาอิมพิแดนซ์ที่เหมาะสมมาทำหูฟัง มันจึงมีอิมพิแดนซ์สูง แต่ในปัจจุบันคนทั่วๆไปเรียกหาหูฟังมาใช้งานมากขึ้น และเครื่องPlayer ที่ใช้กันก็เป็นเครื่องพกพา หรือคอมพิวเตอร์กันเป็นส่วนใหญ่ และเครื่องเหล่านี้ก็มีกำลังขยายออกที่น้อยมาก ทางบ.ต่างๆจึงใช้วิธีผลิตหูฟังให้มีอิมพิแตนซ์ต่ำๆ(โอมห์ต่ำ)เพื่อให้เครื่องPlayerทั่วๆไปขับได้ง่าย เรี่องราวทั้งหลายก็เป็นเช่นนี้แล.
เพิ่มเติมนิดนึงจากคำถาม ทำหูฟังโอห์มสูงมาทำไม? เพราะในสตูดิโอ และบรรดาซาวน์เอนจิเนียร์ มืออาชืพ จะใช้แอมป์ขยายหูฟังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ดังนี้ บ.ผลิตหูฟังที่ให้ใช้งานในสตูดิโอ เขาจะเอาค่า Out put (กำลังขยายทางด้านขาออก)ของแอมป์ขายหูฟังไปคำนวณหาอิมพิแดนซ์ที่เหมาะสมมาทำหูฟัง มันจึงมีอิมพิแดนซ์สูง แต่ในปัจจุบันคนทั่วๆไปเรียกหาหูฟังมาใช้งานมากขึ้น และเครื่องPlayer ที่ใช้กันก็เป็นเครื่องพกพา หรือคอมพิวเตอร์กันเป็นส่วนใหญ่ และเครื่องเหล่านี้ก็มีกำลังขยายออกที่น้อยมาก ทางบ.ต่างๆจึงใช้วิธีผลิตหูฟังให้มีอิมพิแตนซ์ต่ำๆ(โอมห์ต่ำ)เพื่อให้เครื่องPlayerทั่วๆไปขับได้ง่าย เรี่องราวทั้งหลายก็เป็นเช่นนี้แล.
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17
hi fi man
26/03/2013 23:09:39
ohm สูงไม่ได้เสียงดีนะครับ
เจอหูขับง่าย แอมป์พอดี เสียงมันดีกว่า ไม่เค้น ฟังเพลืนเงินเหลือๆ
นอกจาก เงินมีมากคัน อยากหนักหูก็เชิญ จ้า
ใส่ lcd 2 รุ่น ร็อคสะเดิด ไปโหนรถไฟฟ้า คงเท่ มากมาย
เอว ก็แขวนแอมป์ โทมาฮอร์ค รุ่น แรง
ohm สูงไม่ได้เสียงดีนะครับ
เจอหูขับง่าย แอมป์พอดี เสียงมันดีกว่า ไม่เค้น ฟังเพลืนเงินเหลือๆ
นอกจาก เงินมีมากคัน อยากหนักหูก็เชิญ จ้า
ใส่ lcd 2 รุ่น ร็อคสะเดิด ไปโหนรถไฟฟ้า คงเท่ มากมาย
เอว ก็แขวนแอมป์ โทมาฮอร์ค รุ่น แรง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ตอบกระทู้ :
"หูฟังไวต่ำกับไวสูงดูยังไงครับ"
รายละเอียด :
ชื่อ :
รหัสความปลอดภัย :
ตกลง
ตั้งค่าใหม่
แจกหูพิเศษ :
แจ้งลบกระทู้ / ข้อความ
สาเหตุ :
โพสที่แจ้งลบ
แจ้งโดย
เหตุที่แจ้ง
สถานะ