******************

เฮียมั่นไปทะลวง...ริดสีดวงทวาร

วันนี้มาอีกแล้วครับ กับเกร็ดความรู้รอบตัวที่ไม่ค่อยมีใครนำเสนอกัน นอกจากเพจมั่นคงแห่งนี้ครับ วันนี้เล่าเป็นวิทยาทานกับท่านที่มีอาการตุงๆที่ทวารหนัก บางท่านมีเลือดออกขณะถ่ายอุจจาระ บางท่านไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นอะไร บางท่านกลัวจนขี้ขึ้นสมอง แต่ก็ไม่รู้จะไปเริ่มต้นตรงไหน ว่าแล้วก็ฟังเลยนะครับ^^
.
หลายวันก่อนผมถ่าย(ขี้) อุจจาระ และเอากระดาษชำระฟรีของห้างฯเช็ดดู ปรากฏว่ามีเลือดออกมาเป็นวงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ 5-6 ซม. ซึ่งไม่มีอาการท้องผูกแต่อย่างใด เพราะปกติผมเป็นคนถ่ายคล่อง กินปุ๊บไม่เกินครึ่งชั่วโมงต้องขี้ทันที พอเห็นเลือดออก(จริงๆเป็นมาหลายปี) ก็รู้เลยว่าตูไปหาหมอเพื่อเช็คสภาพตูดตัวเองดีกว่า
.
วันนี้เช้าก็เลยไปหาคุณหมอ พอเจอหน้าก็สวัสดีแล้วบอกคุณหมอว่าคาปูชิโน่แก้วนึงเหมือนเดิม เอ๊ยๆ บอกว่ามีอาการเลือดออกอีกแล้ว คุณหมอช่วยเช็คช่วงล่างให้ผมทีครับ คุณหมอบอกไปขึ้นเตียงเลย พร้อมกับพยาบาลบอกให้นอนตะแคง ถอดกางเกงลงถึงหัวเข่า แล้วนอนงอเข่าเหมือนกุ้งอบวุ้นเส้นนะคะ ผมก็พยักหน้าและทำตาม
.
ขั้นตอนไม่มีอะไรยากครับ ผมนอนยิ้มเผล่กับกำแพงแล้วเตรียมต้อนรับกับอุปกรณ์ที่กำลังแยงเข้าไปในก้น มาแล้ว มาแล้ว มันน่าจะเป็นท่อหรือกล้องหรืออะไรซักอย่างแหย่เข้าไปในก้นผม ผมสะดุ้งร้องอุ๊บส์ๆๆๆ และทำหน้าเหยเกแต่พองาม พยาบาลบอกว่า อ้าปากกว้างๆ หายใจลึกๆ ผมทำตามคืออ้าปากพะงาบๆ ตอนนั้นถ้ามีกระจกส่อง ผมคิดว่าตัวเองหน้าตาคงจะคล้ายปลาเก๋าทะเลที่เค้าจะเชือดเอาไปทำข้าวต้มปลา
.
คุณหมอทำอะไรยุกยิกอยู่พักนึง แล้วก็บอกว่าใส่กางเกงได้แล้ว คุณหมอบอกว่าตอนนี้ได้ทำการยิงหนังสติ๊กรัดหัวริดสีดวงให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลายท่านคงงงว่าริดสีดวงรักษาอย่างไร หัวริดสีดวงมันจะเป็นหัวๆ คล้ายหัวหอม ที่มาคาอยู่ตรงรูทวาร หัวไหนโตหน่อยเลือดก็จะมาคั่งตรงนี้มากหน่อย อันไหนเปล่งได้ที่มันก็จะแตกออก หรือถ้าท้องผูกเบ่งอุจจาระแรงๆ ก็จะแตกได้
.
คุณหมอใช้หนังสะติ๊กยิงเข้าไปรัดหัวริดสีดวง ก็จะคล้ายกับหน่วยบรรเทาสาธารณะภัยที่เอาบ่วงบาศก์ไปรัดหัวงูเหลือมครับ คือพอคล้องติดปุ๊บก็รูดปั๊บ หนังสติ๊กก็จะไปรัดตรงหัวงูจนแน่น หัวริดสีดวงก็เช่นเดียวกัน หลังจากที่รัดแล้วหัวริดสีดวงหัวนั้นก็จะฝ่อแห้งและหลุดออกมาเองปนกับอุจจาระ แล้วคุณหมอก็บอกโอเช กลับบ้านได้ ไว้อีก 3 เดือนมาส่องดูตูดกันใหม่
.
ท่านที่มีปัญญาเรื่องริดสีดวง ขออย่าได้เก็บเป็นความลับและปิดบังไว้ เพราะจริงๆอาจจะไม่ใช่อาการของริดสีดวงทวารก็ได้ ทางที่ดีที่สุด คือไปพบแพทย์ สิ่งที่สำคัญคือต้องระวังไม่ให้ท้องผูก และหมั่นสังเกตุอุจจาระว่ามีเลือดปนหรือไม่ ถ้าหากเลือดสีแดงก็มีแนวโน้มว่าอาจจะเป็นริดสีดวง แต่ถ้าสีดำ อันนี้ต้องให้คุณหมอวินิจฉัยขยายผลต่อไป
.