ขึ้นอยู่กับหูฟังด้วยครับ ถ้าหูฟังให้รายละเอียดดีมากมันก็จะแยกแยะความต่างได้มากตาม ถ้าคิดจะเล่นยาวๆหรือจริงจังก็ซื้อของแพงเลยเพราะเดี๋ยวหูมันก็หาเรื่องหาโน่นนี่นั่นมาลองอยู่เรื่อย แต่ถ้าไม่อะไรมากเอาแบบกลางๆก็พออย่าซื้อถูกสุดครับ

ต่างครับแต่ไม่ต่างเท่าราคาที่ห่างกัน เน้นเลือกตามงบที่เรามีเลือกตัวที่คิดว่าชอบที่สุดโอแล้วครับ

ถ้าราคาห่างกันมาก  ก็จะมีความต่างกันอยู่ระดับหนึ่งครับ  ด้วย Hardware ที่ดีกว่าทั้ง วัสดุภายนอก ภาค DAC ภาคขยาย ทุกอย่างก็จะเพิ่มคุณภาพขึ้นไปตามระดับของเครื่องเล่นครับ

ต่างครับ แต่ไม่ต่างเท่าค่าตัว
เครื่องเล่น 3หมื่น ไม่ได้เสียงดีกว่าตัวละ 3 พัน 10เท่าครับ
ส่วนตัวเล่นมาจากราคาหลักพันต้นๆ จนไปถึงหลักหมื่นปลายๆ ชอบตัวหมื่นปลายๆมากกว่าครับ
และคิดว่าคุ้มสำหรับผมนะ

ชอบครับ ต่างแต่ไม่เท่าราคาที่ห่างกัน

มันไปแสดงผลต่างมากไม่มาก ขึ้นอยู่กับต้นทาง คือ "ไฟล์เพลง"ด้วยครับ
ถ้าเพลงทั่วไป ไฟล์ธรรมดา อาจจะบอกว่า  DAPระดับสูงกับไม่สูง  ไม่เห็นต่างกันเท่าไหร่
แต่ถ้าไฟล์ที่คุณภาพสูงมากจริงๆ และเป็นเพลงที่เน้นโชว์คุณภาพการบันทึกจริงๆ เมื่อฟังกับ"หูฟังที่ระดับคุณภาพสูงพอ" จะให้ความแตกต่างได้ชัดเจนครับ 
ทว่าก็ไม่ใช่ต่างกันตามจำนวนเท่าของราคาที่ต่าง(แบบที่ท่านอื่นบอกนั่นแหละครับ)
 
สมมุติว่าถ้าพล็อตกราฟ ราคาเป็นแนวตั้ง คุณภาพเป็นแนวนอน  เส้นกราฟก็น่าจะเหมือนสินค้าประเภทอื่นด้วยเหมือนกัน คือ ความชันของกราฟมันจะสูงครับ
จะขยับคุณภาพไปอีกสามสิบเปอร์เซน อาจต้องจ่ายเพิ่มห้าสิบเปอร์เซน ประมาณนั้น...

ต่างกันไม่มากครับ + ราคาแพงไม่จำเป็นต้องเสียงดีกว่าครับ ถ้าหูฟังไม่ได้ขับยากมาก DAP ราคาพันปลายๆ ถึงหมื่นต้นๆ ก็ OK แล้วครับ 

เสียงต่างกันครับ แต่ว่าของยิ่งราคาสูงความคุ้มค่ายิ่งน้อยลง บางทีมันไปแพงอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเสียงด้วย เช่นวัสดุ ดีไซน์ ฯลฯ

จากคนไม่เคยสนใจ DAP เลย

ทุกวันนี้ลองตั้งแต่ถูกยันแพง ต้องยอมรับว่า ต่างมากๆครับ