ด้วยความรู้งูๆปลาๆของผม ผมคิดว่าต้องแยก ระบบ balance กับ single end ออกจากกันก่อนนะครับ
Single end หลักๆคือมี 3.5 mm และ 6.3 mm
ส่วน balance ที่ใช้กันหลักๆก็จะมี 2.5 mm, 4.4 mm และ XLR ครับ

2.5 ผมว่ามีอนาคตแน่นอนเพราะ DAP ส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่ของญี่ปุ่นรุ่นใหม่ๆก็ยังคงใช้อยู่ ซึ่งต่างจากแบบตั้งโต๊ะที่ส่วนใหญ่ถ้ามีระบบ balance จะไปใช้ XLR แทนครับ

การที่ Hugo ใส่มาให้แค่ 3.5 และ 6.3 แสดงว่า Hugo ไม่ได้มีวงจร balance มาให้เล่นครับ ไม่ได้แปลว่ามันไม่อยากสนับสนุน port 2.5 mm 

ผิดพลาดตรงไหนฝากอาจารย์ท่านอื่นๆแก้ด้วยนะครับ :)

Chord เค้าบอกว่าสาเหตุที่ไม่ให้ช่อง balance มาใน Hogo กับ Mojo ก็เพราะไม่จำเป็น ของเค้า "เสียงดี ไม่ต้องมี balanced" ครับ

แสดงว่าพวกที่ใช้ balanced นี่เสียงห่วยจึงต้องใช้ใช่ใหม

AK สะดุ้งเลย555

Benchmark ก็ไม่ทำ balance สำหรับขับหูฟังครับ เค้าบอกไม่มีประโยชน์ เพี้ยนเปล่าๆ วัดค่ามาแล้ว (จริงๆทาง benchmark เชียร์ให้ใช้ balance ระหว่าง line level หรือระหว่าง equipments, interfaces แต่ถ้าจะขับหูฟังแล้ว SE จะ perform ได้ดีกว่า)

สาเหตุ ผมย่อให้แบบสุดๆได้ดังนี้ครับ
1 ต้องมีแอมป์ย่อย 2 ตัว = เพิ่ม output impedance และความเพี้ยนเพิ่ม
2 ต้องแบ่งโหลดหูฟัง = ลด damping factor
IMHO ถ้าไม่ได้ mix หรือ master ที่ต้องการ headroom เยอะๆ ผมไม่เห็นความจำเป็นของ balanced drive เลยครับ


https://benchmarkmedia.com/blogs/application_notes/audio-myth-balanced-headphone-outputs-are-better

เห็นด้วยกับ คห.5 ครับ แค่ปัญหาคือผู้ผลิต DAP ส่วนใหญ่จะชอบกั๊กความสามารถของช่อง single เช่นจัดกำลังขับให้เบาเหมือนตดบ้าง DAC เกิดอาการขี้เกียจทำงานแค่ตัวเดียวบ้างทั้งๆที่มี DAC 2 ตัว ไม่รองรับ native DSD บ้าง ในขณะที่จัดเต็มให้กับช่อง balance และในทางปฏิบัติผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่ได้ลองฟังเสียงจากช่อง balance แล้วก็มักจะไม่กลับไปฟังทางช่อง single อีกตลอดกาลครับ

นี่คือปัญหา เวลาที่เหล่า audiophile ไม่เน้น fidelity ครับ 55555555

เกิดความสงสัยเรื่องช่อง 2.5 ของ AK ชึ้นมาทันใด
เพราะผู้ผลิตเขาโฆษณา ว่า Dual DAC ต้องช่อง 2.5 ??? 

จะเล่น AK Player ก็ต้องเล่นช่อง balance 2.5 ครับ

ช่อง SE 3.5 หาอะไรอุดปิดตายได้เลย 555

จริงๆแล้ว ในทางทฤษฎี ช่อง balanced ให้คุณภาพที่สูงกว่าทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็นความเที่ยงตรง การ loss ของสัญญาณที่น้อยกว่า แต่ปัญหาคือค่ายเครื่องเสียงบางค่ายทำเสียงในส่วนของบาลานส์ออกมาแล้วคนฟังรู้สึกว่าช่อง unbalanced เสียงดีกว่า ซึ่งต้องถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดครับ

แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ ถ้าหากมีการฟังเทียบแบบ A/B Test เราจะทราบว่าช่องบาลานส์ให้คุณภาพที่ดีกว่า

ส่วน 2.5 นั้นมีอนาคตอีกไกลครับ เพราะเป็นมาตรฐานล่าสุดในการจะจำแนกแยกช่องบาลานส์ด้วยขนาดครับ เรียกว่าถ้าเล่น portable ถ้าเห็นรูขนาด 2.5 มม. ถือว่าเป็น standard ของช่องบาลานส์ขนาดเล็ก อันนี้เป็นข้อดีที่ทำให้ดูเป็นสากลและเข้าใจตรงกันครับ ^^

จากที่ผมได้ลองช่อง 2.5 balance ที่เห็นชัดเจนคือ การแยกแยะชิ้นดนตรีกับรายละเอียดที่เพิ่มขึ้น คือแบ่งช่องไฟกันขาดเลย และแรงขับที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ถ้าคนชอบการแยกรายละเอียดชิ้นดนตรีดีๆ อันนี้เข้าทางเลยครับ แต่บางคนอาจจะไม่ชอบเพราะ มันดูจริงจังเกินไปถ้าเทียบกับช่อง 3.5 single end 

ขอเทียบเคียงกับชุดบ้าน  ชุดตั้งโต๊ะก็แล้วกัน  ส่วนใหญ่ก็เป็นบาลานซ์กันนะครับ  ถ้าไม่ดีคงไม่มีค่ายไหนทำออกมา  แต่พอค่ายตัวเองไม่ทำ  แล้วออกมาบอกว่าระบบบาลานซ์ไม่ดี  อันนีก็เกินไป 

อันที่จริงต้องบอกว่า Mojo กับ Hugo มันคือเทคโนโลยีจากโลกอนาคตที่เอาชิป FPGA หรือ CPU ซึ่งมีพลังประมวลผลสูงกว่าชิปเสียงถึง 500 เท่า มาใช้แทนชิปเสียง คุณภาพเสียงมันก็เลยล้ำหน้าแบรนด์อื่นไปหลายช่วงตัว เหมือนเอารถซุปเปอร์คาร์ 500 แรงม้าไปแข่งกับรถม้า จะเอามาเทียบกันมันก็ดูจะไม่ค่อยแฟร์ สรุปว่าเสียงของ Mojo และ Hugo มันดีกว่าบาลานซ์ของแบรนด์อื่นอยู่แล้วก็เลยไม่มีความจำเป็นต้องใช้ระบบบาลานซ์ไงครับ

ความเห็น13มีแหล่งข้อมูลอ้างอิงมั้ยครับ?

ที่ว่า Mojo มันเปรียบเหมือน ซุปเปอร์คาร์ แล้วแอมป์บาลานซ์เปรียบเหมือนรถม้า  ไม่ทราบว่าเอา Mojo ไปเทียบกับแอมป์บาลานซ์ตัวไหนเหรอครับ  เคยใช้ Mojo เทียบกับแอมป์บาลานซ์หลายตัวที่ระดับราคาใกล้เคียงกัน  ทำไม่ไม่รู้สึกว่ามันถึงขั้นนั้น  สงสัยคงหูไม่ถึงจริงๆ  เลยไม่ได้เก็บ Mojo ไว้แต่เลือกเก็บแอมป์บาลานซ์ไว้แทน   

ตามนี้เลยครับ

Mytek Brooklyn ของผมเปรียบเสมือนรถม้าหรือนี่ T^T

บริษัทใหญ่ๆหลายค่ายก็ไปทาง balaced หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น sennheiser, sony, AK, FiiO, etc. ต่างบริษัท ต่างความเชื่อ ต่างวิธีการ สุดท้ายผู้บริโภคคือผู้ตัดสิน อ่อนแอก็แพ้ไป

จริงครับ DACมีหน้าที่แปลงสัญญาณdigitalให้เป็นanalog เราจะไปเอาซุปเปอร์คอมพิวเตอร์หรือควอนตัมคอมพิวเตอร์มาทำหน้าที่แทนDAC แล้วทำงานได้เร็วกว่าเป็นล้านๆเท่าก็ไม่ได้หมายความว่าเสียงมันจะดีกว่าเป็นล้านๆเท่าจริงมั้ยครับ เหมือนเวลาทำข้อสอบคนที่ทำข้อสอบเสร็จก่อนเดินออกจากห้องสอบก่อนคนอื่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้คะแนนมากกว่าคนอื่น ผมเคยไปลองฟังโมโจ้นะเสียงมันก็ดีจริงๆน่ะแหละแต่ไม่ได้ดีกว่าของเจ้าอื่นเป็น500เท่าขนาดนั้น

2.5 น่าจะยังอยู่อีกนาน ขนาดเครื่องเล่นของจีนก็เทตามมากันหมดแสดงว่ากระแสมันมาทำให้คุ้มค่าการลงทุน

แต่ DAC เสียงดีๆ 2.5MM นี่หายากจังครับ