หลักๆดูที่ขนาด พท หน้าตัดซึ่งมันจะเป็นตัวบอกว่าส่งผ่านกระแสได้มากน้อยแค่ใหน ถ้าเป็นแอมป์ก็ 2.5 mm2 ขึ้นไปกำลังดีส่วนเครื่องเล่นต่างๆ 0.75-1.5 mm2 นี่ก็เพียงพอแล้ว หรือถ้าบอกมาเป็นหน่วย awg ก็ดูเทียบจากตารางนี้ http://www.tnt-audio.com/clinica/awg_e.html แต่สิ่งสำคัญที่สุดต้องไปลองฟังดูก่อนว่าชอบเสียงรึป่าวครับ

ถ้าแนวเสียงเดิมชอบอยู่แล้ว แนะนำ Shunyata รุ่นตามงบประมาณครับ
เสียงจะดีขึ้นแต่ไม่เปลี่ยนแนวเสียง ชอบมากครับ

ขอบคุณทั้ง 2 ท่านมากครับ พอได้เป็นแนวทางแล้วล่ะครับ...

เวลาเลือกสายไฟนั้น ไม่ค่อยมีอะไรยากนัก คือถ้าอุปกรณ์ที่กินไฟมาก จำเป็นจะต้องใช้สายไฟเส้นใหญ่ที่มีหน้าตัดใหญ่ หรือเบอร์ที่ใหญ่ เช่นเบอร์ 14 หรือเบอร์ 12 หรือเบอร์ 10 AWG (เบอร์เล็กสายยิ่งใหญ่)  ส่วนพวกซีดี พวก dac พวกปรีแอมป์ ใช้สายไฟขนาดเล็กลงได้ เช่น 14AWG หรือ 16AWG

ซึ่งจริงๆการใช้สายไฟ เส้นใหญ่เส้นเล็กมีผลต่อคุณภา่พเสียงทั้งสิ้น แต่ถ้าเครื่องที่ใช้ไฟไม่มากแต่ใช้สายไฟใหญ่ ก็เท่ากับขี่ช้างจับตั๊กแตน แต่ถ้าจ่ายไหวก็สามารถซื้อเส้นที่ใหญ่ไว้ใช้ครอบจักรวาลก็ไม่ผิดกติกาครับ

แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงกลับไม่ใช่เรื่องสายใหญ่หรือเล็ก แต่กลับเป็นเรื่องบุคลิกเสียง เรื่องไดนามิก เรื่องโทนเสียงที่ค่อนไปทางสว่างหรือทางถอยจม และที่สำคัญคือเรื่องของกำลัง สายไฟที่ดีเสียบแล้วสิ่งที่ต้องรู้สึกได้ก่อนคือเรื่องกำลัง เรี่ยวแรงที่ดีขึ้น อันนี้เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนเพื่อนครับ

ได้ข้อมูลเป็นประโยชน์มากครับ ขอบคุณครับเฮีย...

เพิ่มเติมอีกนิดครับ ก่อนจะมาพิจารณาสายไฟ ให้เลือกอุปกรณ์หลักให้ลงตัวก่อน เพราะบางครั้งการเลือกสายไฟ เลือกไปเลือกมา ค่าสายไฟเกินกว่าครึ่งของมูลค่าเครื่อง อันนี้ถือว่าผิดหลักการเล่นแล้วครับ ยังไงอุปกรณ์หลักต้องดีและลงตัวก่อน

ส่วนสายไฟให้มองเป็นอุปกรณ์ที่ใช้คัดท้าย หรือปรับทิศทางเสียงไปในโทนที่เราต้องการ ส่วนมากเราจะต้องรู้ว่าซิสเต็มหลักนั้นขาดอะไรไป คราวนี้ล่ะค่อยมาพิจารณาเลือกสายไฟแต่ละค่ายแต่ละแบรนด์กัน

ทั้งนี้การเลือกสายไฟก็คล้ายๆกับปลั๊กผนัง อุปกรณ์เหล่านี้มักจะมุ่งเน้นไปเรื่องกำลัง ช่องไฟ ไดนามิกเป็นส่วนใหญ่ครับ ^^

อาจจะไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้ แต่คำตอบที่แปะข้างล่างนี่มาจากเจ้าของ brand cable ที่ MrSpeaker เค้าแนะนำ
ตอนผมถามเรื่องสายไฟเส้นต่อไปที่ควรซื้อก่อนเส้นอื่นๆ เผื่อจะมีประโยชน์นะครับ ขอให้มีความสุขในการฟังเพลงครับ