ลองดู FedEx หรือ DHL หรือยังครับ แต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่าพอสมควร

ลองดู FedEx หรือ DHL หรือยังครับ แต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่าพอสมควร

ต้องส่งกับ Fedex ครับ เค้าจะมีแผนกทำใบขอส่งออกให้ครับ แต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่าปกติมากพอสมควร

แต่จริงๆเค้าห้ามเฉพาะอุปกรณ์ที่เป็นแบตเตอรี่นะครับ ไม่ได้ห้ามพวกหม้อแปลงครับ ยังไงลองสอบถามให้ชัดเจนอีกทีครับ

ขอบคุณครับเฮีย เดี๋ยวลองถามอีกทีครับ ยังไงคนขายต้องออกให้ผมอยู่แล้ว อีเบย์บังคับ

ขอบคุณครับพี่ haute horlogerie
ปล. แอบมอบตัว จริงๆผมก็ชอบนาฬิกานะครับอิอิ

ผมใช้บริการ DHL Express ส่งของไปซ่อม ค่าส่ง แพงเอาการเลยคับ
ต้อง Declaired เป็น Returned item นะ ไม่งั้นผู้รับปลายทางเสียภาษีขาเข้า
หรืออาจถูกปฎิเสธไม่รับของคืนนะคับ 
ปกติแล้วผู้ซื้อจะต้องออกค่าส่งของกลับเอง แต่ถ้าผู้ขายออกให้ถือว่าโชคดีมาก

อยากรู้ราคาเหมือนกันครับที่แพงเอาเรื่องนี่มันประมาณเท่าไหร่ครับ 2-3000 เลยรึเปล่า

ค่าส่งตอนนี้ถ้าด้วย DHL หรือ Fedex ก็ราวๆ 2 พันบาทครับ ใกล้ไกลคลาดเคลื่อนนิดๆหน่อยๆ ถ้าไปรษณีย์ไทยก็ย่อมเยาลงนิดนึงคือพันกว่าบาท

ซึ่งส่วนมากคนขายจะช่วยออกค่าส่งกลับ บางรายก็เรียกค่าส่งรวมกับค่าซ่อม อันนี้แล้วแต่ policy แต่ละคน แต่ปัญหาที่หนักก็คือ เวลาเค้าเปลี่ยนตัวใหม่ส่งกลับมา ถ้าศุลกากรตรวจ เราไม่สามารถอ้างได้ว่าเป็นของซ่อมหรือ replacement ครับ และศุลกากรท่านจะตีเป็นของใหม่ด้วยการเปิดกูเกิ้ลประเมินภาษีกันดื้อๆเลยครับ อันนี้ต้องระวัง

เดี๋ยวนะครับเฮียมั่น ผมจำได้ว่าเคยคุยกับพนักงานของกรมศุลกากรเค้าบอกว่า ถ้าเราซื้อมาเสียภาษีขาเข้าไปแล้วรอบนึง
ถ้าส่งกลับไปซ่อม/เปลี่ยนแล้ว ส่งกลับมาอีกที สามารถแสดงหลักฐานได้ไม่ต้องเสียรอบสองได้นะครับ รึผมได้ข้อมูลไม่ถูกต้อง -..-

ถูกต้องแต่ไม่ถูกหมดครับ การส่งกลับหมายถึงต้องมีหลักฐานการนำเข้า(หลักฐานการเสียภาษี) พอนำเข้ามาแล้วเวลาเสียจะส่งกลับไป ต้องนำเอกสารที่ชำระภาษีพร้อมกับถ่ายรูปสินค้าที่เสีย ถ่ายหมายเลขเครื่อง แล้วถึงส่งออกไปได้ และของที่กลับมาต้องเป็นเลขเดียวกับที่ส่งออกไปครับ เรียกวิธีนี้ว่า สุทธินำกลับ

แต่ถ้าหากเป็นการเคลมตัวใหม่ที่เป็นคนละเลข ซึ่งหมายถึงเป็นของใหม่ กล่องใหม่ ถูกส่งเปลี่ยนมาให้ใหม่ อันนี้ไม่สามารถอ้างว่าเป็นสินค้าที่เคยส่งเคลม ศุลกากรจะต้องมีการเก็บภาษีใหม่อีกรอบ ซึ่งข้อนี้เป็นข้อกฏหมายที่ออกมาเพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์อ้างว่าสินค้าที่ส่งเข้ามาเป็นของซ่อม ของเคลมตลอด ซึ่งวิธีนี้ไม่ดีต่อผู้ที่ทำตรงไปตรงมาทุกขั้นตอนเลยครับ

ของผมจาก eBay มันระบุเลยอะครับว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้ขาย คนขายขอดู shipping quote ด้วยครับ ตอนนี้ยังไม่ได้ส่งเลย ช่วงสอบพอดี

ด้วยความสงสัยเลยโทรไปสอบถามมาละครับ ได้ความว่า มันจะต้องแยกยื่นคำร้อง 2 ที่ เพื่อขอคืนภาษีที่จ่ายไปแล้ว ในกรณีที่จะส่งของกลับซึ่งรู้แน่ว่ามันจะต้องเปลี่ยนตัวมา 

ภาษีนำเข้า ต้องไปทำคำร้อง "re-export นอกอารักขา" ที่ไปรษณีย์ที่สามารถทำ "พิธีการทางศุลกากร" ได้ เท่านั้น
ซึ่งจากที่ถามเบื้องต้นในกรุงเทพฯ มีที่แจ้งวัฒนะครับ พอถามถึงที่อื่นก็ถูกบอกว่าให้หาข้อมูลเพิ่มเติมเอง
แล้วจะได้ภาษีคืน 9/10 ของภาษีที่จ่ายไปแล้ว และ 1 ส่วนที่ถูกหักไป ถ้าเกิน 1,000 บาท จะเสียแค่ 1,000 เช่น 1,500 ก็จะได้คืนมาเพิ่มอีก 500 เป็นต้น

ส่วน Vat ต้องไปทำเรื่องขอคืนที่สรรพากรอีกที แต่ง่ายภาษีนำเข้าคือไปสรรพากรพื้น ที่ไหนก็ได้และจะได้ vat คืน ตามจำนวนใบเสร็จที่เราจ่ายจริงไว้ 
vat นี่ ผมโอเค ไม่รู้สึกว่าถูกเอาเปรียบอะไร ไม่เหมือนภาษีนำเข้า 

ซึ่งพอของชิ้นใหม่กลับเข้ามาก็ต้องเสีย ภาษีนำเข้า + ภาษีมูลค่าเพิ่มอีกรอบครับ 
ฉะนั้นก่อนรับของที่สั่งนำเข้ามา ควรไปทำบุญ 9 วัด เพื่อเพิ่มบุญเสริมดวงชะตา ลดโอกาสของชำรุดไว้ด้วยครับ -..-"