Ostry KC09 ได้เปรียบกว่านิดหน่อยครับเบสจะติดกระแทกกระทั้นกว่า

หรือตอนนี้จะดูเป็น KINERA H3 ก็เป็นตัวเลือที่ดีเช่นกันครับเบสแน่นฟังสนุกเหมือนกันจ้า :)
https://www.munkonggadget.com/catalog?mode=search&mode_auto=&search_product_name=%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87+Kinera+H3

ขอบคุณครับ

เพิ่งถอย Ostry KC09 มากำลังเผาอยู่ ถึงเขาเล่าว่าไม่ต้องเผา แต่ลองฟังแล้ว ไม่เผา เสียงไม่คุ้มค่าเลย เสียงห่วย มิติแย่

ผ่านไป 24 ชั่วโมงถึงเริ่มดีขึ้น

ยังเผาไม่เต็มที่

เบสย่านต่ำกว่า 50Hz จะ Roll off หน่อยๆ ไม่ค่อยคราง
เบสกระชับ หนักแบบนุ่มๆ ไม่ถึงกับเบสหนัก
กลางชัดดี ดูเหมือนว่าจะพีคแถวๆ 7Kz ต้องลด EQ ลงมาถึงจะพอดี
แหลม กุ๊งกริ๊งใช้ได้ แต่ปลายน่าจะ Roll off เก็บตัวยังไปไม่ถึงสวรรค์

มิติ กับ ซาวด์เสตจ ขอเผาก่อน ก่อนเผานี่มั่วมาก ผ่านไป +24 ชั่วโมง เริ่มดีขึ้น แต่ยังดูเหมือนมีผ้ามาคลุมอยู่

+24Hrs เสียงพอใช้ได้แระ พอใจ จริงๆดูเหมือนว่าจะเด่น กลางแหลมนะ รอสัก 100 200 ชั่วโมง แล้วมาลุ้นอีกที

เครื่องเล่น Lenovo Phab2
Burning tools - Purist Audio Design
                    - Iso Tek Optimising small System
                    - AYRE Cardas 1.2 Full Guide
                    - TARA LABS cascade noise Burn - In
                    - Xiaomi Burn in

เปิดวนๆไป เห็นเขาว่าดีทุกตัว ตัดสินใจไม่ถูก ใช้มันทุกตัวเลย

ตอนนี้มาได้ 50 ชั่วโมงเเล้ว แต่ถ้าเอาจากที่ Purist Audio Design เคลมเอาใว้ เปิดแค่ 5 ชัวโมงเท่ากับ Burn in ปรกติ 24 ชั่วโมงคงไปไกลแล้ว

โปรแกรมเล่นเพลง - Noozy
                    - Poweramp
                    - Neuatron
                    - ArmAmp
                    - Hiby Music
                    - Onkyo HF

เท่าที่ลองแต่ละโปรแกรมมีผลต่อบุคลิกเสียง โดยเฉพาะกลาง และ ซาวต์เสตจ มิติ ส่วนเสียงเบส กับ เสียงแหลม มีผลเล็กน้อย 

เสียงกลาง ได้ทั้งอุ่น ใส ดาร์กนิด จะเเจ้ง หรือ ถอยหลังนิดๆ 
ซาว์เสตจ จะได้ทั้งแบบ กว้าง ถึง กว้างมาก
ตำแหน่งเครื่องดนตรี ชัด กับ พอไปได้

ทั้งหมด โปรแกรมมีผล

จุกหูฟัง ให้มา สองแบบ

1. ซิลิโคนธรรมดา น่าจะเวิร์คสุด เท่าที่อ่านทั้งฝรั่งและญี่ปุ่นก็เชียร์ใช้จุกนี้
2. ซิลิโคนเคลือบ เสียงจะกว้างกว่าอันบนนิดหนึง เบสน้อยกว่า สรุปอันบนฟังง่ายกว่า ฮา...

ไฟล์เเพลง แบบ Flac และ DSD มีผลต่อเสียง ซาวต์สเตจ กับ มิติ อยู่บ้าง

เนื่องจาก จุก และ โปรแกรมเล่นเพลง มีผลกระทบอยู่พอควร ดังนั้นก็ยากอยู่ที่จะบอก แต่เท่าที่ฟังมันเป็นหูฟังระดับคอมเมอร์เชึ่ยว ฟังติดหูง่าย ยังไม่ถึงกับออลดิโอไฟล์ เฟลงประเภทเครื่องสายนี่ กินขาด นอกนั้นก็เพลงร้องนี่ใช้ได้เลย เพลงทั่วไป ลองนิดหน่อย ก็มันส์ดี

จุกหูฟังที่เเถมมา เรื่องการป้องกันเสียงรบกวนภายนอก ทำได้กลางๆ ไม่ถึงกับดี แต่ก็กระชับดี ไม่เจ็บหู

เสียงเบส กระชับแต่ผมรู้สึกว่าจุกที่มันแถมมา เบสย่านลึกมันบางๆ ไร้พลัง ฟังไม่มันส์ แต่ฟังเพลงปรกติ ไม่มมีปัญหาอะไร ยังสนุก มีน้ำหนักใช้ได้ ไม่ถึงกับเป็นลุกๆ หรือ ใหญ่ๆ พอเปลี่ยนมาใช้จุกยางแถมของยี่ห้อื่น รูกว้าง ตื้น เบสมีพลังขึ้นมา เบสย่านลึก สำผัสที่พลังได้ แต่กลางแหลมจะดร็อบไปหน่อย อาจต้องบูสอีคิวช่วยบ้าง

เสียงกลาง เด่นสุดๆ แต่บอกไม่ถูกว่ามัน ใส สะอาด หรือ อุ่นๆ ตัวโปรแกรมเปลี่ยน เเนวเสียงเปลี่ยน แต่เสียงกลางนี่โอเคเลย แต่ถ้าเบิร์นไม่พอ เสียงรับไม่ได้ ฮา...

เสียงแหลม ใส แต่เขาเล่ากันว่า เมื่อเทียบกับ KC06 หรือ KC06A มันจะอุ่นๆ ไม่ใสเหมือนสองตัวนั้น ไม่เคยฟังทั้งตัวเลยไม่รู้ เอาเป็นว่า ดี แต่แหลมย่านสูงเหมือนจะ Roll Off หางเสียงเลยดูเหมืนเก็บตัวเร็วไปนิดหนึง ขาระยิยระยับ อาจขัดใจ เสียงมันใสนะ แต่ไม่ได้แบบสว่าง แต่ก็ไม่ทึบ ปลายเสียงหายเร็วไปนิด

เมื่อเทียบกับ Havi 3B pro2 ต้องบอกว่า KC09 เป็นหูฟังที่ฟังสนุก ไม่ใช่แนวฟังสบายๆ และ ใครชอบเบสย่านต่ำ หรือ เบสลึกๆ เป็นลูกๆ อาจไม่ชอบ KC09 

คุ้มค่าใหม อันนี้ตอบยาก แต่เท่าที่อ่าน ทั้งฝรั่ง และ ญี่ปุน คอมเมนต์ เขาให้แค่ KC06B หรือ เต็มที่ KC07 มันคือการปรับปรุงเสียงจาก KC06 กับ KC06A ให้ดีขึ้น นอกนั้นไม่ได้มีอะไรใหม่ 

ทั้งฝรั่งและญี่ปุ่น ลงความเห็นเหมือนกันว่า เมื่อเทียบกับ KC06 และ KC06A แถมตั้งราคาระดับนี้ มันต้องมีอะไรที่ดีกว่านี้เช่นให้ไดร์เวอร์คู่ หรือ ข้ามไปแบบ Hybrid เหมือนยี่ห้ออื่นเลย ไม่ใช่แค่ ไดร์เวอร์ตัวเดียว ถือว่าไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา

สำหรับคนที่ไม่มี หรือ ไม่เคยฟัง KC06 กับ KC06A มาก่อน ลองไล่ๆดูเอาเท่าที่มีขายอยู่ในเมืองไทย ก็น่าจะพอสูสี อย่างน้อยๆ KC06 กับ KC06A ก็สร้างชื่อใว้เยอะ และมันคือการปรับปรุงจาก ทั้งสองตัวนั้น คิดว่าความเสี่ยงน่าจะน้อยลง ฮา.....

ถึงแม้ว่า Ostry จะเคลมว่าเสียงเพราะ โดยไม่เบิร์น หรือ ใช้เวลาเบิร์นน้อยกว่าหูฟังอื่นๆ แต่เท่าที่กำลังเบิร์นอยู่ตอนนี้ พบว่าเสียงยังไม่นิ่ง เพิ่มชั่วโมงการเบิร์น เสียงยังมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ 

ประมานนี้ ส่วนตัวจริงๆชอบ เสียงไฮบริดมากกว่า อยากได้ Fiio F9 แต่มันไม่มีขาย ขี้เกียจสั่ง AlienX

เยี่ยมยอด

ท่านBanjobpai ใช้ไฟล์เบิร์นหลายตัวขนาดนี้... เคยลองเทียบการใช้(ย้ำว่า ยังใช้อยู่ ผมไม่ได้แอนตี้แผ่นพวกนี้)มาก กับใช้น้อยหน่อยไหมครับ ^ ^
ผมเองใช้ Purist แผ่น Ultimate ( CD ) พักหลัง ผมใช้น้อยลง แต่ยังใช้อยู่ 
เฉพาะตัวมันเองหนึ่งรอบ แล้วตามด้วยแผ่น audiophileอื่น อีกร่วมยี่สิบแผ่น  ทำแบบนี้สี่ห้ารอบ (สามสัปดาห์) จบการเบิร์นสำหรับหูฟังแต่ละตัว
ซึ่งรวมการใช้แผ่น PAD ต่อหูฟังแต่ละตัว ใช้แค่สี่ห้ารอบเองครับ
เพราะแม้มันจะมีผลในการเปลี่ยนแปลงมาก
แต่ถ้าใช้เยอะเกินไป(เช่นเกินสิบรอบ)รู้สึกมีผลข้างเคียงในแง่noise  แบ็คกราวน์มันจะไม่ค่อยเงียบ
หรืออย่างไรก็ลองสังเกตดูนะครับ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น ^ ^

อืมม น่าจะเป็นไปได้ เพราะบางครั้งก็ได้ยินเสียงรบกวนเป็นแบ๊กกราวด์ โผล่มาเหมือนกัน งั้นกลับไปเผาต่อด้วยเพลง ดีก่า

ไม่ได้ตัดสินว่าเป็นอย่างที่บอกแน่นอนนะครับ  ลองหาหูถูกๆเบิร์นเทียบกันดู
และที่ใช้ในจำนวนจำกัดนี่ผมเจาะจงหมายถึงไฟล์ของ Purist เท่านั้นนะครับ เพราะไฟล์อื่นผมไม่เคยลอง ไม่รู้ผลของแต่ละอัน
ข้อมูลนี้ผมก็ไม่ได้คิดเองหรอกครับ  ได้รับการบอกต่อจากเสี่ยดิว blackpie นักเล่นมือเก๋าของบอร์ด
แต่ไฟล์เบิร์นพวกนี้มันต้องระวังกรณีใช้กับหูฟังเท่านั้นครับ  ถ้าเป็นอุปกรณ์อื่น ไม่มีข้อจำกัดตรงนี้จัดหนักได้เลย
ตอนเราเบิร์นอุปกรณ์อื่นเราก็เอาหูถูกๆที่ไม่ได้ใช้มาเสียบรองรับให้มันครบloop เท่านั้นเองครับ

ขอบคุณมากๆครับ คุณBanjobpai

555 ขอแก้ใขนิดหน่อย เนื่องจากไปใช้สายทองแดงเคลืบเงินตั้งแต่ต้น ฟังเลยรู้สึกว่า เบสมันดูบางๆ ไปหน่อย 

วันนี้ลองงัดเอาสายของมันมาลองดู เบสมาตรึม มวลใหญ่ แต่จะติดนุ่มๆหน่อยๆ

คร่าวๆ สายทองแดงเคลือบเงิน เมื่อเทียบกับสายเดิมๆ

เบส สายทองแดงเคลือบเงิน จะบางการเยอะ แต่กระชับกว่า ถึงว่าทั้งฝรั่ง ทั้งญี่ปุ่นบอกว่าเบสดี ทำไมเราฟังถึงรู้สึกว่ามีแค่นี้ฟะ ฮา... ที่เเท้ สายนี่เอง

กลาง ไม่ต่างกันมาก ทองแดงเคลือบเงินจะดูสว่างกว่า ฟังดูก็บางๆกว่า แต่สายเดิมๆจะนุ่มนวลมีน้ำหนักเสียงกว่า

แหลม ไม่ต่างกันมาก ฟังเเล้วสายเดิมๆ จะแบบใสๆอุ่นๆ สายทองแดงเคลือบเงินมันก็ใส แต่มันเก็บตัวใวกว่า ไม่นุ่มแบบสายเดิม

ทองแดงเคลือบเงิน กลางชัดก็จริง แต่ก็ไม่ได้ใสปิ๊ง ดูเหมือนขุ่นนิดๆ แหลมอาจต่างกันหน่อยในแง่น้ำหนักของเสียง 

คุ้มใหมถ้าเปลี่ยน ซื้อมาอัพเกรด มันคงแค่ทำให้บุคคลิกเสียงเปลี่ยน แต่คงไม่ได้กินสายเดิมขาด แต่ราคามันก็ไม่ได้แพง คงเหมือนจุกหูฟังละมั้ง ขำๆลองเล่นดูได้

สายทองแดงเคลือบเงินตัวนี้ ตัวสายเบามาก แต่มี Memory Effect แถมจะพันกันเล็กน้อย สายเดิมน่าจะใช้สบายกว่า ไม่มี Memory Effect มากวนใจด้วย

FiiO LC-3.5B  เบสดีขึ้นมาก + กลางแหลม ที่ละเอียดขึ้น 

ผมใช้รุ่นนี้ 2 คู่เลย

ต่อสายคนละประเภท (2.5mm / 3.5mm)

ถ้าสาย-หัวแจ็คดี ไฟล์เพลงดี

เครื่องเล่น Match ลงตัวดี

จะเป็นหูฟังที่ปั้นให้มาครบได้หมด

มิติ >เวที >กำลังขับ >อิมเมจ >ช่องไฟ >หัวโน๊ต

OSTRY KC09