อาการเป็นยังไงครับที่บอกเสีย

มันดังๆเบาๆเองครับ บางทีก็เปิดติดบ้างไม่ติดบ้าง จนสุดท้ายมันจะเปิดไม่ติดเลยครับ

ผมใช้มาจะ1ปีแล้ว ยังปกติครับ หาถุงมาใส่แบบผมกันฝุ่นเข้า ด้านใน ผมว่าช่วยได้ระดับนึงเลย เร่งเสียง ลดเสียง ดับเสียง ก็แตะผ่านพลาสติกได้ครับ

เท่าที่ร้านเปิดใช้มาปีกว่าๆ ยังไม่เจอปัญหานะครับ อาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมต่างกันด้วย ลองหาสาเหตุดูครับ เช่นเรื่องความชื้น ความร้อน หรือฝุ่น

ใช้มา 4-5 ปีแล้วยังดีอยู่เลย

ของผมก็มีอาการเดียวกันครับ เริ่มจากตัวปรับเสียง หมุนแล้วดังบ้างเบาบ้าง จนเปิดไม่ติดเลย  สาเหตุของผมน่าจะมาจากเรื่องอุณหภูมิห้องที่ร้อน แล้วอบด้วยครับ ตัวยางรอบที่หมุนนี่ผิวลอกเป็นเหนียวๆเลยครับ ฮ่าๆๆ

แกะมาเป่าฝุ่นครับ ด้านใต้จะมีรู้น๊อด2รู้ครับ ลองกดดูครับใต้แผ่นกันลื่น ถ้าเจอรู้หนึ่งอีกรู้จะอยู่ตรงข้าม ใช้มืดค่อยๆแงะพอให้ขันน๊อดได้ ถอดผ้าด้านบนได้ก็เป่าฝุ่นออกเลยครับ ค่อยๆเป่านะครับเพราะจะมีตัวพลาสติกที่แสดงไฟอาจจะหลุด ประกอบกลับให้เหมือนเดิม กรณีของผมหายเลยครับ ลองดูครับ เปิดออกมาฝุ่นเยอะมาก

ด้านในคอนโทรลพอด จะประกอบด้วยโพเทนชิโอมิเตอร์(potentiometer)หรือพวกเรามักเรียกว่าวอลลุ่ม ถ้าจะวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา Bose เขาเลือกใช้pot ที่มีคุณภาพดีทีเดียว ซิลกันฝุ่นทั้งหมด (แต่ยังไม่ถึงขนาดกันน้ำ) ด้วยคุณภาพขนาดนี้น่าจะมีอายุการใช้งานที่นานหลายปี ไม่ควรเสียง่าย ท่านที่พบว่าเสีย อาจเป็นไปได้ว่า สภาพแวดล้อมที่เครื่องใช้งานอยู่ มีฝุ่นเยอะ พวกโมเลกุลเล็กๆจึงเข้าไปได้ ทำให้เกิดอาการดังๆเบาๆ หรือโครกครากเวลาเราหมุนตั้งความดังของเสียง
     การแนะนำว่าให้ถอดฝาครอบออก และเป่าฝุ่นด้านในพอดตัวนี้ บางท่านบอกว่า ใช้สเปรย์ล้างหน้าคอนแท็กฉีดเข้าไป ในฐานะช่างที่ซ่อมอยูู่ ตอบได้เลย ไม่ได้ผล ต้องถอดซ่อมอย่างเดียว แถมน็อบที่สวมบนแกนpot  เขาติดกาวอีพ๊อกซี่ไว้อีก คงยากที่คนไม่ได้เป็นช่างอาชีพ จะซ่อมสำเร็จ รังแต่จะเพิ่มอาการเสียมากขึ้น

+++

ส่วนใหญ่พังเพราะมีการหมุนใช้งานน้อย หมุนขยับไปมานิดเดียว เพราะติดกับการที่ไปรับในวินโดว์ หรือคียร์บอร์ดกันเพราะใกล้มือกว่า จริงๆควรบริหารหมุนปุ่มไปจนสุดกลับไปมาบ้าง เพื่อรักษาหน้าสัมผัสให้ใช้งานได้ดีดีและสะอาด ส่วนยางที่พ่นหุ้มวงแวนอันนี้ต้องทำใจมีอายุของมัน เอาเอลกอฮอลล้างแผลกับผ้าสะอาดๆ ชุบแล้วขัดออกครับ ^^ 

เพิ่มเติมครับ ถ้ามันอาการหนักมาก contact clener ก็ช่วยไม่ไหวครับ เคยรื้อออกมาลองจัดการแล้ว
ซื้อใหม่ครับ สมัยนี้ราคาไม่แพงแล้วครับ ^^

 หลายวันก่อนรับ Bose Companion 20 เข้าซ่อม เพิ่งจะเสร็จเดี๋ยวนี้เอง เครื่องนี้เข้ามาซ่อมด้วยอาการ เร่งวอลลุ่มที่คอนโทรลพอดเต็มที่แล้ว มีเสียงดังเบามากต้องเงี่ยหูฟัง ต้องค่อยแงะตู้ออกเพื่อจะเอาแผงวงจรที่อยู่ในตู้ลำโพงด้านขวาออกซ่อม(พยายามให้เกิดริ้วรอยน้อยที่สุด)        เมื่อซ่อมวงจรเสร็จเสียงดังระดับปกติแล้ว ก็เกิดปัญหาตามมาอีก เมื่อเสียงดังแล้วมีเสียงเบสออก เสียงจะแตกแพร่ดๆ ปรากฏว่า ขอบลำโพงซึ่งยางกรอบแตกทั้งวง เลยต้องถอดลำโพงเปลี่ยนขอบลำโพงทั้งสองข้าง                                     หลังเปลี่ยนขอบเรียบร้อย เสียงกลับมาดังปกติ ทั้งเสียงเบส กลาง แหลม ปัญหากตามมาอีกเหมือนเจ้าของกระทู้ถามเรื่องวอลลุ่มในคอนโทรลพอด เวลาเร่งบางทีเสียงเบาวูบลง แทนที่จะค่อยๆเพิ่มความดังตามการเร่ง ต้องถอดคอนโทรลพอดออกมาซ่อมอีกเป็นตัวสุดท้าย เมื่อซ่อมเสร็จ คราวนี้เสียงปกติสมบูรณ์ทุกอย่าง คงต้องลองเรื่องอีก 2-3 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องจะปกติเต็มที่ แล้วค่อยแจ้งลูกค้าอีกครั้ง                          เครื่องรุ่นนี้มีอาการประจำรุ่นคือ ขอบลำโพงมักแตก เสียงเบาทั้งสองข้าง หรือดังเบาข้างใดข้างหนึ่ง และคอนโทรลพอดเดี๋ยวดังเดี๋ยวเบา ผมรับซ่อมครับ จะทำเฉพาะขอบลำโพงก็ได้ แต่จะอยู่ไม่นานวงจรข้างในจะมีปัญหาตามมาในอีกไม่นาน แต่ถ้าซ่อมกันไว้เลย จะอยู่ได้ทนขึ้น จึงอยากจะแนะนำให้ผู้ที่เป็นเจ้าของเครื่องรุ่นนี้ได้พิจารณา

สนใจซ่อมขอบลำโพงครับ เสียงด้านหนึ่งมีเสียงแตก ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ครับ

  ปกติควรจะเปลี่ยนขอบเป็นคู่ เพราะอายุใช้งานมาเท่าๆกัน ข้างหนึ่งเสียได้ แต่อีกข้างก็มีโอกาสเสียตามมาในอีกไม่นาน
     ถ้าเปลี่ยนขอบข้างเดียวคิดตัวละ 700 บาทครับ ถ้าเป็นคู่ คิด 1200 บาท (ราคานี้เปลี่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่ยนขอบอย่างเดียวนะครับ ไม่่่่่่่่่ต้องซ่อมเครื่องนะครับ)

เสร็จไปอีกเครื่อง สำหรับCompanion20 เวอร์ชั่นหลัง Bose ไม่บอกเป็นเวอร์ชั่นใด แต่เราเป็นช่างจะเห็นว่าบอร์ดรุ่นนี้มีส่วนแตกต่างจากรุ่นที่แล้ว
     เครื่องนี้เข้ามาด้วยอาการ เปิดปิดที่คอนโทรลพอดได้ปกติ แต่เร่งวอลลุ่มสุดแล้วไม่ดัง ได้เปลี่ยนอะไหล่ตัวที่เสีย และอะไหล่ที่คาดว่าจะเสียในอนาคตอันใกล้ ไปด้วย จะได้ใช้เครื่องได้ทนทานอีกหลายปี ขอบลำโพงแตกร้าวทั้งสองข้าง จึงเปลี่ยนขอบลำโพงไปในคราวเดียวกัน
     
 

ขอบขาดตามเส้นรอบวง ไม่ค่อบพบบ่อยนัก

 วันนี้ที่ 5 เมย.64 ได้ซ่อม BOSE Companion 20 เสร็จไปอีก 1 เครื่อง เครื่องนี้ส่งซ่อมด้วยอาการ เสียงลำโพงด้านขวา ที่มีวงจรขยายอยู่ เสียงแตก แพร่ดๆ เมื่อเปิดดูขอบลำโพง ปรากฏว่าขอบยางแตกให้เห็นชัด และเสียงทั้งเครื่องเริ่มจะเบาลงไปประมาณ 1ใน4 คือเสียงเบาลง ซึ่งเป็นอาการประจำตัวของรุ่นนี้
    ทีแรกลูกค้าแจ้งซ่อมแค่เปลี่ยนขอบลำโพงด้านขวาอย่างเดียว ก็สามารถซ่อมได้แต่ต้องชี้แจงให้ลูกค้าทราบด้วยว่า เสียงที่ได้ออกมา2 ข้างจะดังไม่เท่ากันแน่นอน ควรจะทำทั้ง 2 ข้างพร้อมกัน และเนื่องจากเครื่องแสดงอาการประจำตัวคือ เสียงเริ่มเบาลงด้วยแล้ว ควรจะซ่อมไปในคราวนี้ด้วยเลย เพราะถ้าปล่อยไป อีกไม่นานจะต้องส่งซ่อมอาการเสียงเบาอีก 
      ลูกค้าเห็นด้วย จึงซ่อมทั้งขอบลำโพง 2 ข้างและวงจรขยายด้วย ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายทั้งค่าซ่อมทีละส่วน และค่าขนส่งไปมาอีกหลายเที่ยวลงไปได้พอสมควร

ที่แจ้งว่า BOSE Companion20 เวลารื้อแผงวงจร ต้องทุบตู้ลำโพงออก จะมีริ้วรอยที่ตู้บ้าง จึงอยากจะนำรูปถ่ายจริง จากเครื่องที่เสร็จแล้ว ว่ามันมีร่องรอยมากมายแค่ไหน ลองขยายภาพดูครับ แต่ถ้าไม่สังเกตก็จะมองไม่ค่อยเห็น แต่ยังมีให้เห็น

ร่องรอยด้านขวา

ลำโพงที่ขอบแตก

ช่างสุรพลครับ ค่าซ่อมคอนโทรลพอดเท่าไหรครับ อาการคือ เร่ง-เบาๆ-อาการเสียงวูบๆไม่สมูทครับ

ในภาพเป็นรูปขอบผ้า ที่ลูกค้าเปลี่ยนมา

ขอบลำโพงของติดเครื่องทำด้วยยางบางๆอัดขึ้นรูป เมื่อใช้ไปนานมากกว่า 10 ปี ยางมันจะแข็ง และกรอบ เมื่อเราเร่งเสียงดังมากๆ ขอบจะแตก ส่งผลให้เสียงที่ออกมาจากลำโพงเสียงแตกตามไปด้วย ปกติเวลาซ่อม จะเปลี่ยนขอบให้ทั้งซ้ายและขวา ไม่งั้นเสียงที่ออกมาจะดังไม่เท่ากัน และอายุของลำโพงอีกข้าง มีนผลิตมาพร้อมๆกัน เมื่อข้างหนึ่งขอบแตกได้ อีกข้างก็พร้อมจะแตกตามกันไป