Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

รีวิวลำโพงบลูทูธ nakamichi music one plus

pockethifi

09/08/2017 23:28:30
161
การฟังเพลงในยุคปัจจุบันเป็นการฟังเพลงที่เน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก ตลาดของเครื่องเสียงระดับมวลชนจะเทไปทางลำโพงระบบบลูทูธ ซึ่งทุกยี่ห้อทำออกมาขายกันถ้วนหน้า  เรียกได้ว่าใครไม่ทำขายก็พลาดรายได้มหาศาล  และการค้นหาลำโพงเสียงดีที่หน้าตาดีผมก็ได้ค้นพบอีกตัวเลือกหนึ่งที่ได้มาด้วยความบังเอิญ

นากามิชิเป็นบริษัทที่ทำเครื่องเสียงมายาวนาน ในยุคยี่สิบปีที่แล้วเครื่องเสียงบ้านยี่ห้อนากามิชิถือเป็นเครื่องเสียงเกรดไฮเอนด์  เป็นสินค้ายี่ห้อญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมระดับโลก  เครื่องเสียงชิ้นสร้างชื่อของนากามิชิจะเป็นเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ทที่แพงระยับและว่ากันว่าเป็นเครื่องเล่นเทปที่ดีที่สุดในโลกที่เคยมีมา  ส่วนเครื่องเล่นซีดีของนากามิชิก็จะออกไปแนวเครื่องเล่นที่ใส่ได้หลายแผ่น ระบบมิวสิคแบงค์ที่สามารถเปลี่ยนแผ่นได้เร็วที่สุดในโลกอีกเช่นกัน  ซึ่งสองอย่างนี้ทำให้นากามิชิเป็นเครื่องเสียงระดับหรูหราไฮเอนด์ไปอย่างไม่มีใครปฏิเสธ
ลำโพงในครั้งนี้ผมได้ลองฟังและติดใจในน้ำเสียงถึงกับต้องอุ้มกลับมาจากสิงคโปร์ก็คือ nakamichi music one+ อ่านว่า นากามิชิมิวสิควันพลัส  จะขอเรียกว่ามิวสิควันเพื่อความสะดวกนะครับ  เจ้าตัวนี้วางโชว์อยู่ในสนามบินของสิงคโปร์  ตอนที่ผมรอจะขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพก็ได้เดินผ่านร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าจำพวกไอทีและเครื่องเสียงต่างๆ  เจอลำโพงวางอยู่บนโต๊ะหลายตัว  หนึ่งในนั้นที่สะดุดตาก็คือ มิวสิควันตัวนี้
หน้าตาของลำโพงออกมาสไตล์หน้ากลมมีขาตั้งเป็นเสากลาง  ดูเป็นการออกแบบที่เน้นความสวยงามเป็นหลัก  ซึ่งผมก็สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น  ยืนพิจารณารอบตัวก็จะเห็นช่องเชื่อมต่อด้านหลัุงมีช่องเสียบไฟเลี้ยง  มีช่องเสียบสัญญาณเสียงชนิด aux ขนาด 3.5มม.  และมีปุ่มควบคุมอยู่ด้านหน้านิดหน่อย เอาไว้เลือกฟังระหว่างบลูทูธ และช่องเสียง aux และมีปุ่มปรับระดับเสียงดังเบา มีปุ่มเปิดปิดตัวเครื่อง ด้านข้างตู้ลำโพงมีสัญลักษณ์ nfc ที่หมายความว่าเราสามารถใช้อุปกรณ์มือถือ tablet และโน้ตบุ๊คที่มี nfc มาเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดาย
หน้าตากลมๆ ส่วนของตู้ลำโพง มีความลึกพอสมควร คาดว่าภายใต้ความลึกนั้นก็คงเป็นวงจรขยายเสียง ตัวลำโพงสีเทาเข้ม ตัดกับตะแกรงหน้าลำโพงสีเทาอ่อน ทำให้มันดูเป็นลำโพงที่หรูหราและดูแพง  แม้ค่าตัวมันจะอยู่ในระดับไม่กี่พันบาทก็ตาม  นั่นทำให้คนรู้จักนากามิชิในอดีตอย่างผมสนใจที่จะลองฟัง และอยากได้มันนิดๆตั้งแต่แรกเห็น และเมื่อได้ทดลองฟังที่ร้านอยู่สิบนาที  ก็ตัดสินใจอุ้มกลับมาด้วยกัน
ระบบการขยายเสียงภายในเข้าใจว่าเป็นการขยายเสียงแบบดิจิทัล และมีดอกลำโพงด้านหน้าแบบฟูลเร้นจ์ขนาดประมาณ 4 นิ้ว  ด้านหลังลำโพงเป็นแผ่นลำโพงเรียบๆทำหน้าที่เป็นพาสซีพเรดิเอเตอร์ ช่วยปรับจูนโทนเสียงทุ้มให้นุ่มนวลน่าฟังมากยิ่งขึ้นกว่าการเปิดเป็นช่องธรรมดาแบบลำโพงตู้เปิด  ข้อดีของมิวสิควันก็คือ มันสามารถเชื่อมต่อกับพวกเดียวกัน หรือมิวสิควันอีกตัวหนึ่งได้ ทำให้มันกลายเป็นลำโพงสเตอริโอ คือตัวแรกเป็นช่องเสียงซ้าย ตัวที่สองเป็นช่องเสียงขวา ทำให้เราสามารถใช้ฟังเพลงแบบสองลำโพงได้เหมือนเครื่องเสียงบ้านทั่วไป  แต่นั่นก็หมายความว่าเราต้องซื้อมันสองตัว
 
ตัวลำโพงมาพร้อมกับรีโมทคอนโทรลขนาดเล็กกระทัดรัด ในรีโมทใช้ถ่านกระดุมรุ่น 2032  ที่รีโมทสามารถสั่งการได้ทุกการทำงาน  ตั้งแต่การไล่เปิดเครื่องไปจนปิดเครื่อง  รีโมทสีขาวหน้าตาดูไม่ค่อยเข้าพวกเท่าไหร่  ลำโพงใช้ไฟเลี้ยง 18V dc และกินกระแสไฟ 1.6a ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ค่อยได้พบกับเครื่องเสียงตัวอื่นๆนั่นหมายความว่า ห้ามทำอแด๊ปเตอร์หายเด็ดขาด  ถ้าพังขึ้นมายังไม่รู้ว่าจะส่งซ่อมที่ไหน เพราะในประเทศไทยยังไม่มีใครนำเข้ามาขายเลย
มาถึงเรื่องการใช้งานกันบ้าง  การเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธจากโทรศัพท์มือถือไปยังลำโพงทำได้ง่ายดาย ไร้ความซ้ำซ้อน  แถมมือถือบางรุ่นหรือโน้ตบุ๊คบางรุ่นมีระบบ nfc แค่เอามือถือไปแตะใกล้ๆลำโพงฝั่งที่มีสัญลักษณ์ nfc ทั้งสองตัวก็จะเชื่อมกันได้อัตโนมัติ  นับว่าเป็นความสะดวกสบายเต็มที่  ส่วนคุณภาพเสียงก็ถือว่าทำได้ไพเราะสมราคา  น้ำเสียงโดยรวมจะออกแนวนุ่มและเบสใหญ่  เบสไวเป็นจุดเด่น ไม่คลาง ไม่แห้งเกินไป  การฟังเพลงร้อง เพลงแจ๊ส เพลงที่โชว์เสียงเบสจะเข้าทางลำโพงตัวนี้  เบสอึ๋มๆคลอเคลียร์กับเสียงร้องไปตลอดเพลง  พอฟังเพลงจากลำโพงตัวนี้นานๆแล้วกลับไปฟังเสียงจากโทรทัศน์ก็จะเสียอารมณ์อย่างมาก  เพราะสไตล์เสียงจากโทรทัศน์จะเบสน้อย  พอหูฟังมิวสิควันจนชิน ไปฟังลำโพงตัวอื่นจะเหมือนมีอะไรหายไป  ซึ่งมันก็คือความถี่ย่านต่ำหายไปนั่นเอง
เสียงกลางส่งเสียงร้องได้ชัด  แต่ก็ยังไม่เทียบเท่ากับลำโพงสองทางที่ให้ความคมของน้ำเสียงมากกว่า  ส่วนมิวสิควันจะมาโทนหนาและไม่กรุ๊งกริ๊ง ไม่มีเสียงตัวเอสที่บาดล้นเกินไป  ใครที่ชอบเสียงความถี่สูง ชอบเสียงเพอคัสชั่น  อาจจะไม่ชอบเสียงจากมิวสิควันตัวนี้  เพราะปลายความถี่สูงมันห้วนกว่า จบเร็วกว่าลำโพงสองทางทั่วไป  แต่มันก็ไม่ได้ทำให้อรรถรสการฟังเพลงหายไป   ดูเหมือนมิวสิควันจะพยายาททำแนวเสียงให้คล้ายๆกับ bose
 
การฟังเพลงจากลำโพงบลูทูธยุคนี้จะให้ความสมดุลย์น้ำเสียงได้ดี  เสียงต่ำย่านเบส เสียงกลางและเสียงแหลมที่มีอยู่ในเพลงจะได้รับการถุ่ายทอดออกมาสมดุลย์กันทั้งหมด  และมีจุดเด่นได้เปรียบลำโพงบ้านนิดหน่อยตรงที่ เมื่อเราฟังเสียงในระดับเบา เราจะยังคงได้ยินเสียงเบสลึกๆ ที่ช่วยปกคลุมบรรยากาศของเพลงอยู่ด้วย  ดูเหมือนมิวสิควันจะจูนเสียงให้เน้นเบสมากขึ้นเมื่อฟังในระดับความดังน้อยๆ  ตรงนี้จะแตกต่างไปจากลำโพงบ้านอย่างสิ้นเชิง คือ ลำโพงบ้านจะมีจุดที่ได้น้ำหนักสมดุลย์เสียง เบส กลาง แหลมครบก็ต่อเมื่อเราจะต้องเปิดให้ดังระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นระดับการฟังที่จริงจังและเป็นระดับที่เราไม่สามารถพูดคุยกันแข่งกับเสียงจากลำโพงได้   และหากเราเปิดเครื่องเสียงบ้านเบากว่านี้ หรือเปิดในระดับแบ็คกราวน์มิวสิค  น้ำหนักของดนตรีก็จะมาไม่ครบซึ่งเป็นเรื่องปกติของเครื่องเสียงชุดใหญ่
 
ในไทยผมไม่พบว่ามีใครขายนากามิชิตัวนี้  เคยพยายามเดินดูตามห้าง  ตามร้าน istudio ที่มักจะมีลำโพงดีๆเจ๋งๆมาขายในร้าน  ก็ยังไม่พบรุ่นนี้  nakamichi musicone+ คงไม่มีใครนำเข้ามาขายจริงๆ ผมเลยตั้งชื่อโพสท์นี้ไว้ว่าเป็นลำโพงหายากมาก  มาถึงวันนี้ ต่อให้ผมอยากได้ลำโพงรุ่นนี้อีกตัวเพื่อมาใช้งานเป็นระบบสเตอริโอสองลำโพง ทำงานแยกซ้ายตัวนึง ขวาตัวนึง ก็ทำไม่ได้  ต้องไปหิ้วมาจากเมืองนอกเท่านั้น
 
ปล ผมเขียนรีวิวหลังจากที่ได้ใช้งานมาประมาณ 1 ปี
 
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 3
ความคิดเห็นที่ : 1

หมูหวาน

10/08/2017 00:26:26
573



ขอบคุณมากๆสำหรับ รีวิวครับ ตัวนี้หน้าตาคุ้นมากๆครับ เพราะเคยมีศูนย์ไทยเจ้านึงเอามาให้ผมเทส แล้วก็ไม่ได้นำเข้ามาจำหน่าย

จริงๆคือน่าจะตัวเดียวกันเลย Altec Lansing Epsilonia

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

pockethifi

10/08/2017 10:22:30
161
ผมว่ามันเสียงดีนะ  น่าจะเอามาขายนะครับ น่าเสียดาย  
ยิ่งมีลูกเล่น ลิงค์กันเป็น stereo ได้ด้วย ทำให้คนซื้อไปแล้วบางคนต้องซื้อซ้ำเพื่ออัพระบบ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"รีวิวลำโพงบลูทูธ nakamichi music one plus"