สวัสดีครับ พี่ ๆ น้อง ๆ ในเว็บมั่นคง คิดถึงกันบ้างไหม ผมหายจากการรีวิว Gadget ไปนานเลยทีเดียว ก็เพราะว่าไม่ค่อยมี
เวลาเลยครับ มาคราวนี้ก็เกือบจะสิ้นปีละ มีใครซื้อของขวัญให้ตัวเองกันไปบ้างหรือยังครับ ส่วนผมซื้อให้ตัวเองล่วงหน้าไปละ
กว่า 2 เดือน โดยเป็นเงินผมบวกกับเงินของ ผบ.สูงสุด ที่ช่วยออก (^_^) ก็ทำให้ได้มาซึ่ง Astell&Kern AK100II
ผมเคยรีวิว AK100 รุ่นแรกไว้ที่นี่นะครับ (สนใจก็ไปอ่านได้ครับ)
http://www.forum.munkonggadget.com/detail.php?id=95174
เกริ่นนำ : ทำไมผมถึงซื้อมา?
- ต้องมีคนคิดในใจแน่ ๆ ว่าทำไมผมถึงซื้อมาฟังราคาไม่ใช่ถูก ๆ เลย รอบนี้เกือบแตะ 3 หมื่น ก็เพราะว่ามีวันนึงผมไปซื้อหูฟัง
Earbud Sen MX985 ตัวล็อตสุดท้ายที่อัมรินทร์เรือธง ก็ไปเจอน้องในร้าน น้องเอก (บริการดีครับ) ก็คุยกันไปคุยกันมาบอกผม
ว่าพี่ลองฟังยัง AK100II ผมก็ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากฟังละ น้องก็บอกนาน ๆ มาทีลองซะหน่อย ก็เลยลองครับ แฮ่ ดันเปิด Fourplay
เพลง December Dream แบบ 24bit (ผมแพ้ทางเพลงฟิวชั่นแจ๊สแบบนี้จริง ๆ อ่อนระทวย) และดันต่อให้ผมฟังกับ Sen MX985
ตัวของร้านที่เบิร์นจนไหม้หมดจด แบบนี้มันก็ลอยสิครับ มิติรอบหัวผมเลย อ้ายบ้าาาา (เสียตังค์แน่ ๆ ตู)
- หลังจากวันนั้นมา 2 อาทิตย์ กลับไปจัดเลยครับ T_T แต่คราวนี้เพื่อความมั่นใจเลยเตรียมไฟล์เพลงประจำของเราใส่ micro sd
และเอาหูฟังประจำของเราไปด้วย แต่พอไปถึง ตัวเดโมไม่อยู่แล้ว เอาไปออกงาน บ๊ะ T_T วันนั้นไปเจอน้องหลุยส์ หลุยส์บอก
พี่รอง HiFiman 601 กับ 901 ยัง ผมก็ตอบยัง ก็เลยจัดมาให้ลองเพราะมีตัวเดโม ผมสารภาพเลยว่า ผมไม่โดนไม่ใช่แนวทาง
ของผมแหะ ผมดันชอบความสงัดของ background AK100II ที่ติดหูหลอนผมมา 2 อาทิตย์ เอาละสิ ไม่มีเดโม AK100II ก็เลย
ตัดสินใจเอาวะ ซื้อเลยละกัน ไม่ลองละ ซื้อเลยครับ และหลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เกือบ ๆ 2 เดือนละ คือผมต้องฟังให้สาแก่
ใจก่อนมาทำรีวิวให้พี่ ๆ น้อง ๆ อ่านเล่น ๆ กันน่ะครับ
และก่อนที่จะไม่มีสาระไปกับรีวิวประกอบภาพของผม
เชิญอ่าน spec มันก่อนนะครับ เพราะนี่ละสาระหนึ่งเดียวในรีวิวอันนี้ -_-"
AK 100II General Specifications :
Model : AK100II
Body Color : Smoky Blue (ผมแทบไม่เห็นสีฟ้า)
Body Material : Aluminum (ตัดด้วยเพชร)
Display : 3.31inch WVGA (480 x 800) AMOLED Touchscreen
Supported Audio Formats : WAV, FLAC, WMA, MP3, OGG, APE(Normal, High, Fast), AAC, ALAC, AIFF, DFF, DSF
FLAC, WAV, ALAC, AIFF : 8kHz ~ 192kHz (8/16/24bits per Sample) / DSD : DSD64 (1bit 2.8MHz), Stereo / DSD128
(1bit 5.6MHz), Stereo
Output Level : Unbalance 2.0Vrms / Balance 1.7Vrms (Condition No Load)
DAC : Cirrus Logic CS4398 x1 (Single DAC)
Decoding : Support up to 24bit/192kHz Bit to Bit Decoding
Input : USB Micro-B input (for charging & data transfer (PC & MAC)) / Connection Mode : MTP (Media Device)
Outputs : PHONES (3.5mm) / Optical Out (3.5mm) / Balanced Out (2.5mm, only 4-pole supported)
Wi-Fi : 802.11 b/g/n (2.4GHz)
Bluetooth : V4.0
Dimensions : 2.16 ”(55 mm) [W] x 4.37 ”(111 mm) [H] x 0.58 ”(14.9 mm) [D]
Weight : 5.99 oz (170 g)
Feature Enhancements Firmware upgrades supported (OTA)
Audio Performance
Frequency Response : ±0.025dB (Condition: 20Hz~20kHz) Unbalance & Balance / ±0.6dB (Condition:
10Hz~70kHz) Unbalance & Balance
Signal to Noise Ratio : 115dB @ 1kHz, Unbalance / 115dB @ 1kHz, Balance
Crosstalk : 127dB @ 1kHz, Unbalance / 130dB @ 1kHz, Balance
THD+N : 0.0009% @ 1kHz, Unbalance / 0.0008% @ 1kHz, Balance
IMD SMPTE : 0.0004% 800Hz 10kHz(4:1) Unbalance / 0.0003% 800Hz 10kHz(4:1) Balance
Output Impedance : Balanced out 2.5mm (1ohm) / PHONES 3.5mm (2ohm)
Clock source
Clock Jitter : 50ps (Typ)
Battery
Capacity : 3,150mAh 3.7V Li-Polymer Battery
ผมเทสด้วยการเปิดไฟล์ 24bit 192 ไป 9 ชั่วโมงรวด แบ็ตยังไม่หมดครับ
Memory
Built-in Memory : 64GB [NAND]
External Memory : microSD (สูงสุดได้ที่ 128GB) x1
OS
Supported OS : Windows XP, Windows 7,8 (32/64bit), MAC OS X 10.7 and up
เอาละครับ 42 รีวิวประกอบภาพต่อไปนี้ อ่านเพื่อความบันเทิงนะครับ
(รีวิวประกอบภาพ ไม่เน้นสาระ มีแต่ความรู้สึกส่วนตัวจากผมล้วนๆ)
มาเริ่มแกะกล่องไปกับผมเลย (แกะกล่องนี้ถ่ายตั้งแต่ตอนซื้อเครื่องอ่ะครับ)
กล่อง ดูหรูหราและหนักยาวใหญ่กว่าตอน AK100 ครับ
ผมรักแบรนด์ iRiver จริง ๆ แหะ ซื้อแต่ยี่ห้อนี้มา 15 ปีละ
พอถอดแจ๊กเก็ตกระดาษด้านนอกออกก็จะเจอกล่องด้าน ๆ เรียบ ๆ สวยงาม
พอเปิดฝากล่องออกก็จะเจอเครื่อง
พอเอาเครื่องออกก็จะเจอกล่องที่ใส่พวกอุปกรณ์เสริมที่แถมมาครับ
ก็ไม่ต้องไปซื้ออะไรเพิ่มเติมแล้วละ
แผ่นกันรอยหน้าหลังสำรอง 1 ชุด
พลาสติกปิดรู Micro SD (ถ้าเรายังไม่ได้ซื้อเมมมาใส่เพิ่มอ่ะนะครับ)
สาย Micro USB เอาไว้เชื่อมต่อ เอาไว้ชาร์จไฟ
และที่ต้องขอบคุณมาก ๆ เลยคือ ซองหนังใส่เครื่องครับ ไม่รู้ละจะหนังหรือผ้าก็ชอบมากๆ
ตัวเครื่องผมก็ใช้อยู่ซักพักนึงแบบยังไม่แกะที่ปิดกันรอยเลยนะ
AK100II มาคราวนี้ มาพร้อมกับความจุในเครื่อง 64GB ครับ
สามารถซื้อ Micro SD Card สูงสุด 128GB มาใส่ได้นะ แต่สำหรับผม 64GB ก็ยังไม่เต็มเลยอ่ะ
ผ่านไปซัก 1 เดือน ทนไม่ไหวละ จับใส่ซองดีกว่า ซองสวยด้วย ทำให้จับถนัดมือด้วยครับ
ใส่ซองแล้วไม่ลื่นมือ กระชับครับ ขอบคุณที่แถมมาในชุดนะครับ T_T
ทำมาได้เนี้ยบจริง ๆ ครับ
ในช่วง 2 เดือนที่ใช้ฟังผ่านมานี้ผมก็ใช้หูฟังอยู่ 3 ตัวด้วยกันคือ
Sen MX985, เสี่ยอ๊อดรุ่นแรก และ Sony MDR-7506
เสียงมันคนละแบบเล้ยยยย -_-" สรุปผมชอบเสียงเสี่ยอ๊อดที่สุด
พามาชมตัวเครื่องรอบ ๆ ก่อนนะครับ
อันนี้สันเครื่องด้านข้างฝั่งขวามือ ก็จะมีแต่ปุ่มปรับ Volume ให้ใช้งาน
ดูแข็งแรงทนทาน ปรับได้ที่ละ .5 ครับ เช่น 45 45.5 46 46.5 เป็นต้น
ส่วนทางนี้ด้านสันเครื่องด้านข้างซ้ายมือ ก็จะมีช่องไว้ใส่ MicroSD กับ ปุ่ม Play , FF, RW
ที่เงาๆ นี่เพราะว่ายังไม่ลอกสติ๊กเกอร์ที่เขาแปะมาออกน่ะครับ แปะไว้งี้ละดีแล้ว
ส่วนสันเครื่องด้านบนและล่างก็จะมีช่องดังภาพ
คราวนี้ AK100II มีช่องสำหรับหูฟังแบบ balance ก็หูฟังที่มีขั้วแจ๊ก 2.5" แบบ 4pole น่ะครับ
งานเนี้ยบจริง ๆ ครับ เข้าไปอ่านในเว็บ Astell มาว่า ตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียมตัดด้วยเพชร
เก็บงานขอบได้เนียนมน ๆ เลยละ
มีอย่างนึงที่ตอนแรกผมก็ดันไม่เข้าใจ (เป็นเพราะผมไม่อ่านคู่มือ)
ว่า เครื่องมันออกมาได้ซักพักละทำไมไม่มี Firmware อัพเดทในเว็บให้โหลดเลยว้า
เข้าไปดูเว็บเป็นประจำเลยก็ไม่มี ซึ่ง อันที่จริงแล้ว AK100II นั้นอัพเดท Firmware ผ่านทาง WiFi ครับ
ต่อ WiFi ปุ๊บ เข้าอัพเดท มันจะตรวจเลยว่ามี Firmware version ใหม่ออกมาไหม
ก็ควรอัพน่ะครับ เพราะมีแก้ Fix Bug ต่าง ๆ มาเรื่อย ๆ
เอาละ มาที่ Interface หน้าจอกันบ้าง
ก็แตกต่างกับ AK100 เดิมเลยละครับ เพราะนี่คือหน้าตา Interface แบบเดียวกับ AK240 ครับ
ใช้งานง่าย เข้าใจง่าย และก็ลื่นปรื้ด ๆ เลยละครับ ระบบ touchscreen นี่ลื่น ๆ แบบ iPhone เลยนะ
ที่สำคัญ ผมว่ามันดูเรียบหรูสวยดีด้วยครับ
หน้าจอ ips คม ๆ ภาพสวย สีสันสดใสมาก ๆ ผมปรับ Contrast แค่ 1 เองนะ จาก 10 อ่ะ ฮ่าๆ
