จริงๆแล้วถ้าใครเกิดทัน!!! จะทราบว่าผมเริ่ม GRADO มาตั้งแต่รุ่น SR325i ตัวสีทองล่ะครับ และไต่ระดับนรกขึ้นมาจนถึงรุ่นล่าสุดใน The e Series ครับ ซึ่งรุ่นที่ผมกำลังจะกล่าวถึงนี้คือรุ่นที่เป็นระดับ top ของ Reference Series ครับ รุ่นที่ว่า คือรุ่น RS1e นั่นเองคร้าบบบบบบ
แบรนด์ GRADO นั้นถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ.1953 ครับ ถ้านับเข้าในปีนี้คือ 61 ปีเข้าไปแล้วครับ โดยเริ่มจาก Joseph Grado ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของ John Grado ที่เรารู้จักกันดีนั่นเองครับ ซึ่งสำหรับ John แล้วต้องบอกว่านอกจาก Joseph นั้นจะเป็นลุงแล้ว ยังเสมือนเป็นอาจารย์คอยแนะนำเรื่องเสียงไปในตัวด้วยล่ะครับ ฟังแล้วมันซาบซึ้งพิกลแฮะ ........
จากอดีตสู่ปี 2014 นี้เอง...... GRADO นั้นได้เปิดตัว Sereis ใหม่ ขึ้นคือคือ The e Series ครับ สำหรับแฟนๆ GRADO แล้วถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากๆ (ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง) เพราะเป็นที่ทราบกันดีกว่า GRADO จะออกหูฟังใหม่ๆมาทั้งที จะใช้เวลาในการเปิดไลน์ใหม่นั้นเฉลี่ย 5 ปี ต่อครั้งเลยทีเดียวครับ ดังนั้นในการเปลี่ยนแต่ละครั้ง ย่อมต้องตื่นตา ตื่นใจเป็นพิเศษ เหมือนตอนยืนส่องรอเวลาพริตตี้มอเตอร์โชว์แต่ละปีกันเลยทีเดียวครับ
The e Sereis นั้นถือเป็น Third Generation ของ GRADO ครับ นั่นคือเคล็ดวิชาถูกถ่ายทอดมาตั้งแต่ รุ่นของ Joseph ถ่ายทอดมายังรุ่น John และส่งไม้ต่อให้กับ Jonathan ซึ่งเป็นลูกชายของ John Grado นั่นเองครับ และยังเป็น CEO หนุ่มวัยเพียง 23 ปีเท่านั้นครับ จริงๆแล้ว Jonathan นั้นถือว่ามีบทบาทกับ GARDO อยู่พอควรครับ เพราะ Jonathan นั้นดำรงตำแหน่งระดับ ผู้อำนวยการด้านการตลาด และมีส่วนร่วมในการผลิตหูฟัง in ear ของ GRADO อีกด้วยครับ ซึ่งผลงานล่าสุดก่อนที่จะมาทำ The e Series นั้นคือ รุ่น Bushmills, นั่นเองครับ เรียกว่า GRADO ยุคนี้ถือว่ายังคงดำรงจิตวิญญาณของบรรพชนไว้ได้อย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว
และแน่นอนว่า The e Series ก็ต้องอยู่ในความดูแลของ Jonathan เช่นเดียวกัน
The e Sereis นั้นถือเป็น Third Generation ของ GRADO ครับ นั่นคือเคล็ดวิชาถูกถ่ายทอดมาตั้งแต่ รุ่นของ Joseph ถ่ายทอดมายังรุ่น John และส่งไม้ต่อให้กับ Jonathan ซึ่งเป็นลูกชายของ John Grado นั่นเองครับ และยังเป็น CEO หนุ่มวัยเพียง 23 ปีเท่านั้นครับ จริงๆแล้ว Jonathan นั้นถือว่ามีบทบาทกับ GARDO อยู่พอควรครับ เพราะ Jonathan นั้นดำรงตำแหน่งระดับ ผู้อำนวยการด้านการตลาด และมีส่วนร่วมในการผลิตหูฟัง in ear ของ GRADO อีกด้วยครับ ซึ่งผลงานล่าสุดก่อนที่จะมาทำ The e Series นั้นคือ รุ่น Bushmills, นั่นเองครับ เรียกว่า GRADO ยุคนี้ถือว่ายังคงดำรงจิตวิญญาณของบรรพชนไว้ได้อย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว
และแน่นอนว่า The e Series ก็ต้องอยู่ในความดูแลของ Jonathan เช่นเดียวกัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2
The แพะ
06/10/2014 22:36:51
39
สำหรับหูฟัง GRADO นั้นจะแบ่งออกทั้งหมด 5 Series คือ • The Prestige series (6 headphones) • The Reference series (2 headphones) • The Statement series (1 headphone) • The Professional series (2 headphones) • In-Ears (3 headphones)
ซึ่งเจ้า RS1e นั้นจัดได้ว่าเป็นรุ่น Top สุดของ The Reference series นั่นเอ๊งๆๆๆ และหูฟัง GRADO แทบทุกรุ่นจะเป็นงาน HAND MADE ครับ ทั้งนี่เพื่อสามารถที่จะควบคุมคุณภาพของตัวหูฟังให้ผิดพลาดน้อยทีสุดก่อนจะที่วางจำหน่าย และ นอกจากนี้ยังมีความทนทานสูงอีก้ดวยล่ะครับ ว่าก็ว่าเถอะ ต้องบอกว่าเนื้องานของ GRADO สมัยนี้ดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากๆๆแล้วล่ะครับ
สำหรับหูฟัง GRADO นั้นจะแบ่งออกทั้งหมด 5 Series คือ • The Prestige series (6 headphones) • The Reference series (2 headphones) • The Statement series (1 headphone) • The Professional series (2 headphones) • In-Ears (3 headphones)
ซึ่งเจ้า RS1e นั้นจัดได้ว่าเป็นรุ่น Top สุดของ The Reference series นั่นเอ๊งๆๆๆ และหูฟัง GRADO แทบทุกรุ่นจะเป็นงาน HAND MADE ครับ ทั้งนี่เพื่อสามารถที่จะควบคุมคุณภาพของตัวหูฟังให้ผิดพลาดน้อยทีสุดก่อนจะที่วางจำหน่าย และ นอกจากนี้ยังมีความทนทานสูงอีก้ดวยล่ะครับ ว่าก็ว่าเถอะ ต้องบอกว่าเนื้องานของ GRADO สมัยนี้ดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากๆๆแล้วล่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3
The แพะ
06/10/2014 22:38:24
39
สำหรับ GRADO RS1e นั้นป็นหูฟังที่ผลิตโดยใช้ตัว CUP เป็นไม้ครับ ซึ่งไม้ที่ใช้นั้นไม่ได้ไปลักลอบตัดแถวเขาใหญ่แต่อย่างใดครับ แต่เป็นไม้มะฮอกกานีครับ ซึ่งผมไม่ทราบว่าไปลักลอบมาหรือเปล่าครับ 555 ซึ่งปกติแล้วไม้มะฮอกกานีนั้น ถือเป็นวัสดุที่ทาง GRADO ใช้มาตั้งแต่สมัยยุคแรกที่เริ่มทำหัวเข็มเลยทีเดียวครับ ซึ่งรุ่น RS1e นั้น ยังผ่านกรรมวิธีอบเนื้อไม้ เพื่อให้สีของตัวไม้นั้นใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุดนั่นเองครับ
หรือแม้แต่วัสดุอย่างโลหะโรเดียม ที่ถือว่าเป็นโลหะที่มีราคาสูงมาก ก็ยังถูกมานำมาใช้เป็นวัถุดิบในการผลิตหูฟังของ GRADO เช่นกันครับ นอกจากนี้ยังมีการปรับจูนเสียงใหม่ทั้งหมดใน The e Series นี้อีกด้วยล่ะครับ เรียกว่าทุกอย่างใหม่หมดจดจริงๆ ในรุ่นที่ 3.....
สำหรับ GRADO RS1e นั้นป็นหูฟังที่ผลิตโดยใช้ตัว CUP เป็นไม้ครับ ซึ่งไม้ที่ใช้นั้นไม่ได้ไปลักลอบตัดแถวเขาใหญ่แต่อย่างใดครับ แต่เป็นไม้มะฮอกกานีครับ ซึ่งผมไม่ทราบว่าไปลักลอบมาหรือเปล่าครับ 555 ซึ่งปกติแล้วไม้มะฮอกกานีนั้น ถือเป็นวัสดุที่ทาง GRADO ใช้มาตั้งแต่สมัยยุคแรกที่เริ่มทำหัวเข็มเลยทีเดียวครับ ซึ่งรุ่น RS1e นั้น ยังผ่านกรรมวิธีอบเนื้อไม้ เพื่อให้สีของตัวไม้นั้นใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุดนั่นเองครับ
หรือแม้แต่วัสดุอย่างโลหะโรเดียม ที่ถือว่าเป็นโลหะที่มีราคาสูงมาก ก็ยังถูกมานำมาใช้เป็นวัถุดิบในการผลิตหูฟังของ GRADO เช่นกันครับ นอกจากนี้ยังมีการปรับจูนเสียงใหม่ทั้งหมดใน The e Series นี้อีกด้วยล่ะครับ เรียกว่าทุกอย่างใหม่หมดจดจริงๆ ในรุ่นที่ 3.....
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4
The แพะ
06/10/2014 22:42:41
39
ลักษณะของการวางตัว CUP และ ตัว Driver นั้น ถ้าสังเกตุดีๆ จะไม่เหมือนกับรุ่นก่อนๆแล้วครับ คือถ้าเป็นรุ่นเดิมๆครับ ตัว Driver นั้นจะถูกวางไว้ตำแหน่งที่เสมอกับตัว CUP ไม้ครับ แต่งวดนี้รุ่น RS1e นั้นจะถูกวางยื่นเลยออกมาอีกนิดหน่อย ซึ่งทำให้ระยะของตัว Driver นั้นถูกย่นลงมาใกล้กับหูของผู้ฟังมากขึ้นนั่นเองครับ
ลักษณะของการวางตัว CUP และ ตัว Driver นั้น ถ้าสังเกตุดีๆ จะไม่เหมือนกับรุ่นก่อนๆแล้วครับ คือถ้าเป็นรุ่นเดิมๆครับ ตัว Driver นั้นจะถูกวางไว้ตำแหน่งที่เสมอกับตัว CUP ไม้ครับ แต่งวดนี้รุ่น RS1e นั้นจะถูกวางยื่นเลยออกมาอีกนิดหน่อย ซึ่งทำให้ระยะของตัว Driver นั้นถูกย่นลงมาใกล้กับหูของผู้ฟังมากขึ้นนั่นเองครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5
The แพะ
06/10/2014 22:43:40
39
อีกจุดที่เปลี่ยนไปใน The e Series นั้นตัว Adaptor จะมีขนาด 3.5 mm ทั้งหมดครับ ซึ่ง GRADO นั้นให้เหตุผลว่า สำหรับ Life Style ของนักฟังเพลงในยุคปัจจุบันนั้น จะเน้นการฟังแบบพกพา หรือใช้ Soure ที่มีขนาดเล็กๆ มากกว่าการฟังแบบจัดเต็มซึ่งนอกจากจะประหยัดเนื้อที่แล้ว ยังสะดวกในการเคลื่อนย้าย อีกด้วยครับ
อีกจุดที่เปลี่ยนไปใน The e Series นั้นตัว Adaptor จะมีขนาด 3.5 mm ทั้งหมดครับ ซึ่ง GRADO นั้นให้เหตุผลว่า สำหรับ Life Style ของนักฟังเพลงในยุคปัจจุบันนั้น จะเน้นการฟังแบบพกพา หรือใช้ Soure ที่มีขนาดเล็กๆ มากกว่าการฟังแบบจัดเต็มซึ่งนอกจากจะประหยัดเนื้อที่แล้ว ยังสะดวกในการเคลื่อนย้าย อีกด้วยครับ
ตัวก้านของหูฟังของรุ่น RS1e นั้นก็เป็นอีกจุดที่ทาง GRADO นั้นออกแบบใหม่เช่นครับ สังเกตุอีกรอบจะเห็นว่าเหล็กที่มาใช้เป็นก้านของหูฟังนั้นมีขนาดที่หนาขึ้นครับ และนอกจากนี้ส่วนของหนังรองศรีษะนั้นยังมีขนาดที่หนาขึ้น และ นุ่มขึ้นเช่นกันครับ เรียกว่าใส่สบายขึ้นครับ
ในส่วนของตัว foam ที่รองหูนั้นก็มีนุ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมากๆครับ คือถ้าใครเล่น GRADO มานานๆจะทราบกันดีว่า foam นั้นก่อนใช้งานจะแข็งมาก บางท่านต้องไปจุ่มน้ำสบู่ก่อน แล้วจึงฟังได้ครับ แต่รุ่นหลังๆนั้นไม่จำเป็นแล้วครับ ผมเดาว่าทาง GRADO น่าจะจุ่มน้ำสบู่มาก่อนถึงมือเราล่ะครับ 5555
ตัวก้านของหูฟังของรุ่น RS1e นั้นก็เป็นอีกจุดที่ทาง GRADO นั้นออกแบบใหม่เช่นครับ สังเกตุอีกรอบจะเห็นว่าเหล็กที่มาใช้เป็นก้านของหูฟังนั้นมีขนาดที่หนาขึ้นครับ และนอกจากนี้ส่วนของหนังรองศรีษะนั้นยังมีขนาดที่หนาขึ้น และ นุ่มขึ้นเช่นกันครับ เรียกว่าใส่สบายขึ้นครับ
ในส่วนของตัว foam ที่รองหูนั้นก็มีนุ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมากๆครับ คือถ้าใครเล่น GRADO มานานๆจะทราบกันดีว่า foam นั้นก่อนใช้งานจะแข็งมาก บางท่านต้องไปจุ่มน้ำสบู่ก่อน แล้วจึงฟังได้ครับ แต่รุ่นหลังๆนั้นไม่จำเป็นแล้วครับ ผมเดาว่าทาง GRADO น่าจะจุ่มน้ำสบู่มาก่อนถึงมือเราล่ะครับ 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7
The แพะ
06/10/2014 22:45:37
39
บริเวณที่ปรับระดับของก้านหูฟังนั้น จะเป็นอะลูมิเนียมแท่งกลม เวลาใช่ปรับระดับนั้น ให้ให้มือจับตรงจุดที่รองรับก้านแล้วค่อยๆดึงครับ ถึงจะถูกหลักฮวงจุ้ยครับ เพราะถ้าใส่แล้วดึงลงมาอาจจะทำให้เกิดความเสียหายของหูฟังได้ครับ แต่ไม่ใช่ใน The e Series ครับ เพราะทาง GRADO มีการเปลี่ยนเนื้อกาวทีใช้เชื่อมต่อใหม่ทั้งหมด เพื่อความทนทานครับ
แต่ถึงกระนั้น....ผมก็ไม่กล้าที่จะกระชากอยู่ดี 555
บริเวณที่ปรับระดับของก้านหูฟังนั้น จะเป็นอะลูมิเนียมแท่งกลม เวลาใช่ปรับระดับนั้น ให้ให้มือจับตรงจุดที่รองรับก้านแล้วค่อยๆดึงครับ ถึงจะถูกหลักฮวงจุ้ยครับ เพราะถ้าใส่แล้วดึงลงมาอาจจะทำให้เกิดความเสียหายของหูฟังได้ครับ แต่ไม่ใช่ใน The e Series ครับ เพราะทาง GRADO มีการเปลี่ยนเนื้อกาวทีใช้เชื่อมต่อใหม่ทั้งหมด เพื่อความทนทานครับ
โดยรวมแล้วหูฟัง GRADO RS1e นั้นจะเป็นหูฟังทีให้โทนเสียงที่ Colour และฟังสนุกมาก ไม่จืดชืด และยังคงให้ความเป็น 3 มิติสูงมากๆๆ ควรค่าที่อยู่ในระดับ TOP ของ The Reference Series ครับ ซึ่งเหมือนเป็นการผสมผสานกันจุดดีของรุ่น RS1 + RS1i เข้าไปด้วยกันนั่นเอง
สำหรับใครที่เป็นสาวกแนว Rock และ Metal ผมว่าน่าจะถูกใจเจ้า RS1e นี้ได้ไม่ยากนักล่ะครับ
Spec ของหูฟังรุ่น RS1e
Audio Specs: Transducer Type : Dynamic Operating Principle : Open Air Frequency Response : 12 - 30,000 hz SPL 1mW : 99.8 dB Normal Impedance : 32 ohms Driver Matched dB : .05 dB
จบแล้วล่ะครับสำหรับรีวิวหูฟัง GRADO RS1e ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่เสียเวลามาอ่านกันนะครับ ไปละจ้า พบกันใหม่กับรีวิวหน้านะคร้าบบบบบบ......แบ๊ะๆๆๆๆ
โดยรวมแล้วหูฟัง GRADO RS1e นั้นจะเป็นหูฟังทีให้โทนเสียงที่ Colour และฟังสนุกมาก ไม่จืดชืด และยังคงให้ความเป็น 3 มิติสูงมากๆๆ ควรค่าที่อยู่ในระดับ TOP ของ The Reference Series ครับ ซึ่งเหมือนเป็นการผสมผสานกันจุดดีของรุ่น RS1 + RS1i เข้าไปด้วยกันนั่นเอง
สำหรับใครที่เป็นสาวกแนว Rock และ Metal ผมว่าน่าจะถูกใจเจ้า RS1e นี้ได้ไม่ยากนักล่ะครับ
Spec ของหูฟังรุ่น RS1e
Audio Specs: Transducer Type : Dynamic Operating Principle : Open Air Frequency Response : 12 - 30,000 hz SPL 1mW : 99.8 dB Normal Impedance : 32 ohms Driver Matched dB : .05 dB
จบแล้วล่ะครับสำหรับรีวิวหูฟัง GRADO RS1e ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่เสียเวลามาอ่านกันนะครับ ไปละจ้า พบกันใหม่กับรีวิวหน้านะคร้าบบบบบบ......แบ๊ะๆๆๆๆ
กลางแหลม นั้นคือย่านเสียงที่เป็นรอยต่อระหว่างย่านกลางไปย่านแหลมนั่นเองครับ ในที่นี้ถ้าเป็นพวกเพลง Rock และ Metal ก็จะเป็นพวกเสียงกีาร์ตาร์ solo เป็นต้นครับ
กลางแหลม นั้นคือย่านเสียงที่เป็นรอยต่อระหว่างย่านกลางไปย่านแหลมนั่นเองครับ ในที่นี้ถ้าเป็นพวกเพลง Rock และ Metal ก็จะเป็นพวกเสียงกีาร์ตาร์ solo เป็นต้นครับ