Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

รีวิวหูฟังศูนย์พระกาฬ : Zero Audio Doppio (พระกาฬเหนือกว่าหนึ่ง)

นายมั่นคง

23/09/2014 20:43:18
4,282



สวัสดีมิตรรักแฟนเพลงอันเป็นที่รักทุกๆท่าน ผมกลับมาอีกครั้งตามคำเรียกร้องของเจ๊เขียงหมูตลาดสดแถวบ้าน บอกว่าหลังจากที่ชมรีวิวสุดระทึกจากช่องทาง Youtube ไปแล้ว เจ๊แกบอกว่าอยากเห็นในรูปแบบของการอ่านบ้าง ซึ่งตอนแรกผมตั้งใจจะแซวกลับไปว่าให้ผัวเจ๊เขียนให้อ่านซิ แต่ใจก็ประหวั่นกลัวมีดหั่นหมูที่คมวับเงาจับใจ ก็เลยสงบและหุบปากอันโสโครกของตัวเองดีกว่า....

วันนี้ผมจะนำเสนอหูฟังแบรนด์ใหม่ สดๆ ซิงๆ ซึ่งมาแรงสุดๆในญี่ปุ่น แถบเอเซียและในฟอรั่มของ Head-Fi ในอเมริกา นั่นก็คือหูฟังแบรนด์ Zero Audio ซึ่งเป็นหูฟังแบรนด์ที่กำเนิดในญี่ปุ่น คือออกแบบและดีไซน์รวมถึงรีเสิร์ชทุกอย่างในญี่ปุ่น ซึ่งผมอยากจะบอกว่าเจ้าของค่ายนั้นไม่ใช่น้องใหม่ แต่เป็นพี่ใหญ่ของวงการอุตสาหกรรมไอที ซึ่งก็คือบริษัท KYOWA HARMONET LTD. ซึ่งเป็นผู้ผลิตและคิดค้นผลิตภัณฑ์มากมายตั้งแต่สาย Lan อุปกรณ์เชื่อมต่อทุกอย่างเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

ในเมื่อเค้าสามารถทำของใหญ่และใช้เทคโนโลยีทันสมัยและสูงสุด นับประสาอะไรกับการจะมานั่งคิดทำหูฟังซักตัวหนึ่งให้คุณภาพดีที่สามารถต่อกรกับหูฟังแบรนด์ฝรั่งแท้ๆ และทำราคาให้พิกัดอยู่ในระดับกลางๆ ซื้อหาจับต้องเป็นเจ้าของได้จริง อันนี้ผมว่าเป็นเรื่องยาก และเป็นโจทย์ที่ค่ายคูแข่งต่างทวีปต้องถอนหายใจดังเฮือกใหญ่ เพราะว่างานนี้ญี่ปุ่นเค้าเอาจริงนั่นเอง...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 1

นายมั่นคง

23/09/2014 20:44:03
4,282



ผมรู้จักแบรนด์นี้จากคุณ Mike Ting ซึ่งเป็น Editor และ Reviewer ของเว็บ Headfonia โดยเจ้าไมค์บอกกับผมว่าได้สั่งหูฟังตัวนี้มาขายหรือยัง ผมถามว่าแบรนด์อะไรเหรอ ผมยังไม่ได้ฟังด้วยตัวเองเลย เจ้าไมค์ทำตาโตกว่าไข่ห่าน บอกว่าผมไปขุดหัวมันขุดเผือกอยู่แถวไหนมา ทำไมไม่รู้จักตัวนี้ จะบ้าหรืออย่างไร ผมบอกว่างั้นบอกมาเร็วๆละกัน แล้วเจ้าไมค์ก็ให้ทีเด็ดสามตัวตรงๆ ไม่ต้องโต๊ดหรือต้องกั๊กให้เปลือง

Zero Audio ไง !!!

ทันที่ที่ทราบผมก็ติดต่อไปทางเว็บ Zero Audio ทันที และได้คำตอบที่นุ่มนวลละมุนละไมจากเจ้าของผลิตภัณฑ์ ซึ่งนามกรว่า Takamura San อ่านว่าทากามูระซัง ซึ่งหลังจากที่สอบถามกันอยู่หลายรอบ เค้าก็เลือกเอาผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวอัพเดทล่าสุด และอยู่ในความนิยมมาให้ผม 4 รุ่นด้วยกัน ซึ่งผมรู้สึกว่า เออแฮะ แบบนี้ดี คือไม่ต้องมีรุ่นมากระดับ 20 รุ่นให้ปวดขมับ

โดยรุ่นต่างๆ นั้นผมขอเขียนแบบย่อๆให้ทราบว่ามีรุ่น Zero 200, Zero 210, Zero 510, Zero 700 สั้นๆคือแค่นี้ แต่ถ้าเอาแบบเต็มยศ รออ่านในย่อหน้าต่อไปนะครับ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

นายมั่นคง

23/09/2014 20:44:53
4,282



ผมชอบมากครับที่หูฟังแบรนด์หนึ่งมีรุ่นให้เลือกไม่มากนัก และไม่วางรุ่นให้ทับซ้อนกันในขอบเขตของราคาและเรื่องเสียง คือตัวไหนเด่นอะไร ให้ว่างตัวนั้นไว้เป็นรุ่นเดียวในราคานั้น ส่วนถ้าราคาเท่ากันก็ต้องมีความต่างกันแบบเป็นนัยยะให้คนเลือกได้สามารถตัดสินใจเลือกได้แบบไม่สับสนครับ ซึ่งรุ่นต่างๆ หลังจากที่ Takamura San ได้บอกมาแล้วนั้นเหลือเพียง 4 รุ่นที่เป็นทีเด็ด โดยมีชื่อเรียกเต็มยศดังนี้เอย...

Zero Audio ZX-DX200 CT Carbo Tenore
Zero Audio ZX-DX210 CB Carbo Basso
Zero Audio ZX-BX510 CS Carbo Singolo
Zero Audio ZX-BX700 CD Carbo Doppio

หลายท่านอาจจะเกิดอาการ Ram หมด คือประมวลความจำไม่ทันหลังจากที่อ่านชื่อรุ่นที่ยาวเหยียดตั้งแต่หน้าเซ็นทรัลเวิลด์ไปถึงเลี้ยวโค้งหน้าห้างแพลตตินั่ม เดี๋ยวรุ่นอื่นๆผมจะเขียนในย่อหน้าสุดท้ายเป็นภาคผนวกให้ท่านได้อ่านกัน แต่ตอนนี้อ่านรุ่นที่ผมตั้งใจนำเสนอในรีวิวนี้ก่อน ซึ่งนั่นก็คือ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

นายมั่นคง

23/09/2014 20:45:38
4,282



Zero Audio Carbo Doppio!!

คำว่า Doppio เป็นภาษาอิตาลีซึ่งถ้าแปลกลับมาเป็นภาษาอังกฤษตรงๆก็คือ Double นั่นเอง หูฟังตัวนี้เป็นตัวเรือธงจากค่ายนี้ เป็นตัวท็อปสุดและราคาสูงที่สุดของค่าย เป็นหูฟังที่มีไดรเวอร์เป็นระบบ Balanced Amateur จำนวน 2 ตัว ช่วยกันทำงาน ในคนละย่าน โดยตัวหนึ่งทำหน้าที่ให้กำเนิดเสียงในย่านกลางแหลม ส่วนอีกตัวทำงานในย่านกลาง กลางต่ำ ซึ่งกำหนดจุดตัดเชื่อมต่อเสียง (Cross Over) ที่ไร้รอยต่อ ทอเต็มผืน นอนเต็มตื่นจริงๆครับ

แพ็คเกจนั้นเป็นแบบ Old School Style จริงๆ คือให้สังเกตุทรงกล่องครับ ลักษณะจะเป็นกล่องใสครึ่งท่อน ท่อนล่างจะทึบ เหมือนหนุ่มที่ถอดเสื้อออกสวมแต่กางเกงยีนส์ แล้วโชว์หน้าอก หัวไหล่ และขนรักแร้ คือใครเห็นกล่องแบบนี้แล้วน้ำตาซึม ซึมเพราะความดีใจที่ได้เห็นกล่องแพคเกจที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กๆ จะบอกว่ากล่องสมัยใหม่ที่เดี๋ยวนี้นิยมทำเป็นกล่องกระดาษ และเจาะหน้าต่างเล็กๆให้เห็น เอาเข้าใจผมว่าอาจจะไม่เร้าใจเท่ากล่องเจ้า Zero Audio นี่้ซะด้วยซิ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

นายมั่นคง

23/09/2014 20:46:09
4,282



ในกล่องแถมซองหนังคุณภาพดี ซึ่งเปิดฝาและปิดฝาด้วยตัวหนีบซึ่งมีแผ่นเหล็กเล็กๆซ่อนอยู่ เวลาใช้งานก็ให้เอามือบีบปากถุงหนังสีดำ ปากถุงก็จะเปิด จะปิดก็แค่ปล่อยมือ ส่วนใครพิเรนหรืออุตริอยากจะใช้ปากเปิด หรือจะใช้เท้าเปิด ก็มีศักดิ์และสิทธิ์ที่จะทำการเช่นนั้นหลังจากที่ท่านจ่ายธนบัตรที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฏหมาย คืออยากทำอะไรก็ไปทำ เพราะมันเป็นของท่านแล้วนี่...

ในกล่องจะมีจุกยางแถมมาให้น่าจะอีก 3 คู่ แต่ผมขี้เกียจถ่าย ก็เลยปล่อยเลยตามเลยก็แล้วกัน แต่สิ่งที่อยากจะบอกให้ทราบจริงๆก็คือ จุกยางของ Zero Audio นั้น เป็นจุกยางที่คุณภาพสูงมาก ให้สังเกตุที่ตัวเนื้อวัสุดครับ ผิววัสดุจะมีเกรนละเอียดที่ลูบแล้วติดมือนิดๆ ข้อดีของการที่ผิวจุกยางมีเกรนนั้น จะทำให้การยึดเกาะกับรูหูได้ดีมาก

เนื้อซิลิโคนมีความอ่อนนุ่ม มีความหนาที่พอดี คงรูปไม่เสียทรง ให้แรงที่รัดตัวท่อ Canal ได้ดีมาก ไม่มีอาการหลวมหรือคลอนแคลนหลุดจากตัวหูฟัง แน่น สนิท ทนทานนานข้ามกาลเวลา การชีลด์เสียงภายนอกนั้น ผมให้ดาวระดับ 100% คือ เมื่อใส่เข้าใจรูหูให้อัตราการกันเสียงสูงกว่าจุกยางจากค่ายอื่นๆมากนัก ใครที่ชื่นชอบหูฟังที่ให้อัตราการลดเสียงกวนที่ดีที่สุด Zero น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆแล้วครับ

แต่รสชาติอร่อยหรือเปล่าตอบไม่ได้ เพราะไม่กล้าลองกิน....
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

นายมั่นคง

23/09/2014 20:46:35
4,282



มาต่อกันด้วยเรื่องทรวงทรงองค์เอวของเจ้า Zero Doppio โดยไซส์ขนาดนี้ ผมถือว่าเป็นหูฟังขนาดเล็ก รูปร่างเล็ก ถ้าเปรียบเป็นนางงามก็เอวประมาณ 22-24 นิ้ว เป็นขนาดที่เล็กเพรียว แต่หยิบจับถนัดมือ ด้วยรูปทรงที่ออกแบบมาเป็นทรงกระบอก ทำให้เวลาหยิบแบบหลับตาไม่ต้องเดาว่าจะต้องจับเหลี่ยมมุมไหนเพื่อให้เข้าหู คือควักออกจากซองก็ถนัดมือแล้วครับ หูฟังบางตัวนั้นหยิบจับไม่ถนัด ซึ่งกลายเป็นข้อติติงในใจแบบไม่รู้ตัว

นอกจากหยิบจับถนัดมือ ในส่วนของตัวสายหูฟังที่ให้มานั้น หลายท่านอาจจะมองแล้วขนาดเล็ก ซึ่งถ้าสัมผัสแรกหลายคนพยายามมองในแง่ความทนทานไว้ก่อน แต่เท่าที่ใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน ผมว่าเนื้อฉนวนนั้นมีความยืดหยุ่นและให้ตัวได้ดี รวมถึงวัสดุที่ใช้ทำสายก็คือ OFC Oxygen Free Copper คุณภาพสูง ซึ่งสังเกตุลวดที่ใช้ทำตัวนำมีความเหนียว อ่อนตัว และไม่ขาดง่าย ซึ่งการที่ใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง ทำให้สายของ Zero ขาดในยากกว่าปกติ

แต่ใครอย่าทะลึ่งไปทดลองกระชากแรงๆล่ะ เค้าไม่ได้ออกแบบให้ใช้ล่ามวัวหรือใช้รัดของท้ายมอเตอร์ไซต์นะเออ...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

นายมั่นคง

23/09/2014 20:46:59
4,282



มาถึงขั้วเสียบกันมั่ง สมัยนิยมคือทุกค่ายจะทำขั้วเสียบขนาด 3.5 มม. ที่มีรูปทรงที่ผอมสะโอดสะองกันทั้งหมด เหตุที่ต้องทำและปรับให้ขนาดเล็กกว่าที่เคยเป็นมาก็เพราะการมาของสมาร์ทโฟนนั่นเอง ลำพังตัวเครื่องสมาร์ทโฟนน่ะเสียบขั้วที่มีขนาดอ้วนแค่ไหนก็ได้ แต่เคสเจ้ากรรมที่ทุกคนอุตส่าห์ไปหาซื้อมาเพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์ตนเองให้ใหม่เอาใจกับคนอื่นที่ซื้อต่อมือสองในอนาคต มักจะมีขนาดเล็กกันทั้งนั้น ซึ่ง Zero ออกแบบตรงจุดนี้ให้เรียบร้อยแล้วครับ...

สิ่งที่ผมให้สังเกตุนิดครับ ขั้วต่อแจ๊คตัวผู้จะเป็นหักงอ 90 องศา นัยว่าทำให้เวลาเสียบแล้วเผลอไปกระตุกถูกจะทำให้หลุดจากเครื่องเล่นได้ยากขึ้น ตรงหัวข้อตรงนี้เป็นพลาสติกหล่อแข็งเข้ากับตัวแจ๊ค 3.5 มม. เรียกว่าแข็งแกร่งทนทานเพราะหล่อแข็งโป้กมาอย่างดิบดี ไม่ต้องกลัวอาการเลื่อนหลุดจากกันของตัวขั้วและตัวแจ๊ค ซึ่งหูฟังที่ดีๆจะต้องทำตรงจุดนี้ออกมาให้เรียบร้อยที่สุด เพื่อลดอัตราการเสียชีวิตของหูฟังเนื่องจากอาการสายขาดในนั่นเอง....
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

นายมั่นคง

23/09/2014 20:47:19
4,282



มาเปลือยจุกยางออกแล้วดูด้านในส่วนที่เป็น Canal หรือท่อที่เสียบเข้าหูฟังกันมั่งครับ ในรุ่นท็อปสุดอย่าง Zero Doppio นั้นรังสรรค์มอบคุณภาพของวัสดุอย่างทดีที่สุดมาให้ครับ ปกติเรามักจะเห็นท่อตรงนี้เป็นพลาสติกหล่อติดกับต้วบอดี้ของหูฟังเป็นส่วนใหญ่ ถ้าหูฟังระดับสูงขึ้นมาถึงจะใช้วัสดุที่เป็นโลหะคุณภาพดี ซึ่งมักจะเป็นหูฟังในพิกัดเกินกว่าหมื่นยันทะลุหลักกิโลสองหมื่นกว่าไปโน่น

แต่ Zero Doppio ใส่และติดตั้งท่อ Canal ด้วยทองเหลือง (Brass) ซึ่งชุบและเคลือบจนเงางามน่าใช้มาก ซึ่งมีความคงทนสูง และตัวท่อถูกติดตั้งโดยยึดกับตัวบอดี้โดยมีบ่ารับแรงจากตัวบอดี้ ซึ่งรับแรงการดึงเข้าดึงออกได้สูง และบ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ ให้ดูจากตัววัสดุส่วนที่เป็นทองเหลืองนะครับ ผมถ่ายภาพแบบปกติทั่วไป แต่เนื่องจากเหลี่ยมคูที่กลึงเป็นสันคมได้เรียบร้อยดี ความวิ๊งเป็นประกายใสเด้งก็โผล่ออกมาโดยไม่ต้องพึ่งคลีนิคเสริมความงามแต่อย่างใด....
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

นายมั่นคง

23/09/2014 20:47:41
4,282



มาดูกันถึงภาพรวมๆอีกครั้งกับตัวหูฟัง Zero Doppio ครับ ผมดูภาพจากทางเน็ทในตอนแรกๆ ยังนึกว่าตัวมันคงใหญ่บะเร้อบะร่า แต่เอาเข้าจริงพอเห็นตัวเป็นๆยืนท้าวสะเอวอยู่ตรงหน้า ต้องบอกว่ามันเป็นหูฟังรูปหล่อตัวหนึ่งของวงการครับ คือขนาดที่ให้มาพอดีกับมือคนทั่วไป มีท่อ Canal หรือท่อนำเสียงที่มีขนาดเหมาะเหม็งกับคนเอเซีย ทำให้สวมใส่ได้ง่ายไม่ระคายหรือล้าหู ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีช่องหูใหญ่หรือเล็กก็ตามที

และยังทำเก๋เท่ราวกับคุณชายนักซิ่ง ด้วยลีลาการนำเอาลายเทาดำแบบคาร์บอนไฟเบอร์ Carbon-Fiber ซึ่งให้ความรู้สึกเร้าใจ สปอร์ต และเคร่งขรึมในบางอารมณ์ ซึ่งในซีรีส์ Carbo นั้น หูฟังทุกตัวของ Zero ก็ใช้พลาสติกที่เป็นลาย Carbon Fiber ทั้งสิ้น ใครที่เคยหลับฝันหวานน้ำลายยืดอยากจะมีรถสปอร์ตคันเกินสิบล้าน ติดลาย Carbon Fiber ตั้งแต่พวงมาลัยยันคอนโซลพันไปถึงท่อไอเอีย บัดนี้ฝันของท่านเป็นจริงแล้ว ท่านสามารถซื้อหูฟัง Zero ซึ่งมีลายเฉกเช่นเดียวกันไปทดแทนจินตนาการได้....

ผมเองก็ใช้วิธีนี้ทดแทนเอาเช่นกัน...
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

นายมั่นคง

23/09/2014 20:48:09
4,282



มาถึงตอนสำคัญ หลังจากที่ผมพยายามโอ้เอ้ เล่านู่นเล่านี่ สุดท้ายก็มาถึงตอนที่ขี้เกียจพิมพ์ที่สุด ก็คือเรื่องเสียงนี่ล่ะครับ เพราะพิมพ์ทีไรท่อนนี้มักจะยาวกว่าท่อนอื่นๆอยู่ร่ำไป ผมทดสอบฟังหูฟัง Zero Doppio ตัวนี้กับเพลยเยอร์อยู่ 2 ตัว นั่นก็คือจาก Hifiman HM901 โดยเลือกฟังไฟล์คุณภาพสูง Hires และฟังแบบง่ายๆ โดยต่อตรงกับโทรศัพท์ไอโฟนทั่วไปแบบที่หลายๆคนคุ้นเคย และหูฟังตัวนี้ผ่านการใช้งานและเบิร์นอินมาในระดับหนึ่ง เรียกว่าสุกได้ที่พอสมควร

ลำดับแรกของการฟัง จะรู้สึกได้ทันทีว่าหูฟัง Zero Audio Doppio นั้นขับง่ายเพราะเป็นเกียร์ออโต้รุ่นใหม่ การใช้งานกับโทรศัพท์อย่างไอโฟนนั้นสอบผ่านด้วยคะแนนท่วมทะลัก เพราะเพียงการเร่งแค่ 50% ของจำนวนโวลุ่มทั้งหมดโดยประมาณ เสียงที่ได้ก็แรงและได้ระดับความดังที่ต้องการแล้ว หากเร่งมากขึ้นไปจนถึง 60-70% เท่ากับหูท่านกำลังจะหนวกและพิการถาวรได้ ซึ่งกำลังขับเพียงน้อยนิดก็เอาอยู่แล้วครับ นี่ยังไม่ต้องนับถึงกำลังขับจากเพลย์เยอร์อย่าง Hifiman HM901

เสียงแหลมที่ได้นั้นมีความกระจ่างใสในเนื้อเสียง ให้ความโปร่งใส เคลียร์ ได้อย่างดีที่สุด เสียงสูงทั้งหมดทำได้ดีจนถึงขั้นเหลือเชื่อครับ เพราะว่าปกติแล้วเสียงแหลมที่เรามักจะได้ยินจากหูฟังคุณภาพดีทั่วไปนั้น ปลายแหลมนั้นจะได้ยินกันครบถ้วน แต่ถ้าหากผมบอกว่ากับหูฟัง Doppio นั้น ท่านสามารถได้ยินเสียงแหลมที่สูงขึ้นไปกว่าระดับเดิมๆที่ท่านเคยได้ยิน ท่านอาจจะไม่เชื่อ Doppio ให้รายละเอียดของเสียงแหลมที่สูงระดับ micro detail คือสิ่งที่เป็นละอองหรือเป็นอณูเล็กๆ เจ้า Doppio สามารถเก็บและถ่ายทอดออกมาได้อย่างหมดจด

เสียงกลางนั้นเปิดเผย ไม่พุ่งหรือรุกเร้าจนเกินความจำเป็น เสียงนักร้องหญิงนั้นไต่คีย์สูงได้โดยรู้สึกว่าไม่มีม่านหมอกมาบดบังแต่อย่างใด เสียงกลางถึงจะเปิดสะอาด สว่าง แต่ยังให้ความรู้สึกของความอิ่ม หนา อุ่นและละมุน เสียงร้องจะให้สเกลเสียงที่ใหญ่คล้ายๆกับการฟังหูฟัง Fullsize ชิ้นดนตรีแต่ละชิ้นที่เรียงวางไว้ในไฟล์ที่บันทึก จะพบว่าไม่มีชิ้นไหนที่ฟังแล้วผอมบาง หรือไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ว่าจะเป็นพวกเครื่องเคาะ หรือเครื่องสี พวกเครื่องเป่าให้ขนาดและทรวงทรงเป็น 3 มิติที่ดี ในเรื่องมิตินั้น หากจะให้ทัดเทียมกัน ผมว่าบางทีคู่ต่อกรที่เหมาะสมน่าจะต้องเป็นถึงเจ้า Hifiman RE600 เสียด้วยซ้ำ

เสียงต่ำนั้นโดดเด่น ธรรมชาติของ Doppio นั้นเป็นหูฟังโทนอุ่น นุ่ม ส่วนที่ผลักดันให้น่าฟังอีกจุดหนึ่งก็คือเบสนี่ล่ะครับ เบสมีมวลขนาดกลางๆค่อนไปถึงใหญ่ คือในดนตรีที่บันทึกเสียงต่ำมาได้มากๆ ในหูฟังบางตัวอาจจะถ่ายทอดออกมาไม่ได้ เราอาจจะแค่ได้ยินเสียงหึ่งๆ ครางอยู่เบาๆ แต่ฟังแล้วไม่ชัดเจนนักว่าเป็นโน้ตตัวต่ำหรือไม่ แต่ Doppio นั้นให้เสียงต่ำที่มีขนาดและมีแรงกระแทกที่ดี หัวโน้ตใหญ่มนโต ไม่ใช่เบสที่เป็นลิ่มกระแทกแยงหูแต่อย่างใด และหากเจอแทร็คไหนที่บันทึกเบสมาในแบบที่ต้องการแรงกระเพื่อม Doppio โชว์แรงกระเพื่อมของคีย์ต่ำออกมาได้ดีอย่างไม่ขัดเขิน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

นายมั่นคง

23/09/2014 20:48:47
4,282



เพื่อความสะใจในการรับฟัง ผมสลับไปที่เพลย์เยอร์ตัวเก่ง Hifiman HM901 มั่ง ซึ่งหากจะบอกว่า Hifiman 901 เสียงดีกว่าไอโฟนคงไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะด้วยความที่เป็นเพลย์เยอร์อาชีพน่าจะทำคุณภาพเสียงได้ดีกว่าในทุกๆอย่าง แต่ความสะดวกกระทัดรัดเท่านั้นที่ต้องยอมโยนผ้ายกมือยอมแพ้แก่ไอโฟน ผมทดสอบความดังของการขับจาก 901 นั้น พบว่าที่ระดับความดังประหยัดไฟเบอร์ 4 ก็ดังระดับเกินพอสำหรับผมแล้ว

พอจับมาเข้าคู่กับ Hifiman สิ่งที่ฟังได้จาก Doppio กับไอโฟน น่าจะกลายเป็นเรื่องขบขันไปแล้ว เพราะ Doppio นั้นถ่ายทอดความต่อเนื่องลื่นไหลของน้ำหนักได้ดีมาก อยากให้ลองฟังเครื่องสีในเพลง Storms Are On the Ocean ของนักร้องสาว Amber Rubarth เสียงเชลโลสีล้อกันกับไวโอลินได้อย่างน่าตื่นตะลึง น้ำหนักการลงคันชัก การผ่อนน้ำหนักข้อมือ และความกว้างของ Sound Stage ที่แสดงศักยภาพให้ได้ยินถึงความกว้างและไกลแบบไร้ขอบเขต

การฟังคู่กับ Hifiman 901 นั้น เสียงกลางที่เคยฟังว่าอิ่มและมีเนื้อดีแล้วกับไอโฟน พอมาถึง 901 กลับพบว่าเสียงนั้นมีสเกลที่ใหญ่ขึ้นไปอีก เนื้อเสียงอิ่มมีเนื้อหนังมากยิ่งขึ้น ความฉ่ำของดนตรีสูงยิ่งขึ้นอีก นี่ผมกำลังหูฟัง Planar ตัวใหญ่ขนาด 400 กรัมอยู่หรือนี่ เปล่าเลยครับ เสียงที่ได้มาจากหูฟังตัวเล็กๆอย่าง Doppio นี่ล่ะครับ สิ่งที่เป็นจุดแข็งอีกจุดหนึ่งที่ผมเคยบอกไว้ในวีดีโอ ก็คือการโชว์ชิ้นดนตรี แบบลอยได้ออกมาให้ได้ยินกัน เมื่อจับคู่กับ 901 ปรากฏว่าฉากหลังนั้นมืด เครื่องดนตรีทั้งซ้ายและขวาแย่งกันแข่งประกายออกมา

และด้วยพื้นฐานที่ doppio ใช้ไดรเวอร์ BA คุณภาพสูงที่ถ่ายทอดเสียงแหลมออกมาได้อย่างหมดจดงดงาม ทำให้เรารับรู้ถึงบรรยากาศและเสียงฮาร์โมนิค ที่รายล้อมห่อหุ้มเครื่องดนตรีไว้ ฟังแล้วจะรู้สึกถึงความฉ่ำ หรือที่ฝรั่งมักจะใช้คำว่า Lush กันบ่อยๆ เพลย์เยอร์ Hifiman 901 นั้นทำให้เสียงจาก Doppio ให้ความอิ่มหวาน และประกายเสียงที่เหนือชั้นขึ้นไปอีก 1 ขั้น หากจะบอกว่าทั้ง 2 ตัวเล่นร่วมกัน มันเหมือนการฟังเพลงจากชุดอนาลอกอย่างเครื่องเล่นแผ่นเสียงดีๆเครื่องหนึ่งนั่นเอง

ลองฟังเสียงจากเครื่องอคูสติกเล็กๆอย่างฮาร์โมนิก้ากันครับ อัลบั้มที่ถือว่าการบันทึกเป็นที่ยอมรับกันในหมู่คนเล่นเครื่องเสียง น่าจะไม่แคล้วอัลบั้ม Free Wheelin ของอัจฉริยะเพลงเพื่อชีวิตของชาวอเมริกัน นั่นก็คือ Bob Bylan นั่นเอง ในอัลบั้มนี้มีการโชว์บเพลงปากเด่นๆอยู่หลายเพลง เครื่องดนตรีคู่ใจของ Dylan ที่ให้เสียงลมผ่านลิ้นทองเหลืองเล็กอย่างฮาร์โมนิก้านั้นเป็นอะไรที่ผมชอบฟังมาก เพราะในการเป่าหรือดูดลมเข้าหนึ่งครั้ง จะมีโน้ตเสียงรวมกันอยู่หลายตัว

หูฟังอย่าง Doppio สามารถถ่ายทอดเสียงแหลมที่ลอดจากฮาร์โมนิก้าได้ยินแยกแยะชัดเจนเป็นโน้ตทีละตัว แหลมนั้นแผ่และลอยออกมาเป็นเส้นเป็นสาย และมีน้ำหนักจนรู้สึกว่าแหลมนั้นไหลออกมาเป็นสาย ซึ่งถ้าเป็นแหลมที่เกิดจากเครื่องเคาะพวกไทรแองเกิ้ล หรือพวกกระดิ่งราว เราจะได้ยินเสียงแหลมที่ดังระรัวลอยเป็นเม็ดๆ การสั่นระรัวจากเครื่องดนตรี และรายละเอียดของฮาร์โมนิคได้ดี เพราะมีไดรเวอร์ที่คุณภาพแตกต่างจากท้องตลาดทั่วไป

Doppio นั้น ไม่ใช่หูฟังที่เอาไปลากและอัดด้วยเพลง Hip-Hop หรือ Metal หนักๆสะใจฮาร์ดคอร์ เพราะนั่นเท่ากับเสียของและไม่ตรงประเภทกับความถนัดของตัวหูฟัง ธรรมชาติของ Doppio นั้น ผมให้สัดส่วนในการนำไปฟังกับเพลงออดิโอไฟล์เกินกว่า 50% Jazz หรือ Classic ดีๆ หรือ Rock ที่บันทึกดี รวมถึงเพลงแนว Vocal ทั้งหญิงและชาย น่าจะเป็นแนวที่ถนัดทีสุดของ Zero Doppio ครับ

หากคุณกำลังมองหาหูฟังที่ให้อะไรมากกว่าที่คุณเคยคาดหวังไว้ ผมแนะนำให้ลองหาโอกาสฟัง Zero Doppio ไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกครับ ด้วยสนนราคาที่ไม่สูงจนเกินไปแม้จะเป็นหูฟังตัวท็อปก็ตาม การใส่ใจและควบคุมการผลิตด้วยทีมงานวิศวรกรออกแบบจากญี่ปุน ด้วยชื่อชั้นและการการันตีจาก Editor จากทั่วโลก ผมว่าเท่านี้ก็เพียงพอจะทำให้เจ้า Zero ไปยืนอยู่ในใจคุณได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

ขอได้รับความขอบคุณ(โม้จนเหนื่อย)

มั่นคงซัง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

นายมั่นคง

23/09/2014 20:49:17
4,282



ภาคผนวก

หลังจากที่โม้จนน้ำลายแตกฟองฟ่อด เหมือนกับคนที่กินยาฆ่าหญ้าเข้าไปเกือบครึ่งขวด คราวนี้ก็มาถึงช่วงสบายๆครับ ผมเขียนรีวิวโม้พร่ำเพรื่อไปเรื่อย แต่ทุกอย่างจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของลักษณะเสียงแบบนั้นจริงๆ ไม่มีการยกเมฆหรือแหกตาเบิกเนตรให้เสียอารมณ์ล่ะครับ 555 และคราวนี้ผมจะเขียนถึงรวมๆว่า หูฟัง Zero ทั้ง 4 รุ่นนั้นมีอะไรกันบ้างและคอมเม้นท์สั้นๆว่ามันเป็นอย่างไร

ค่าย Zero นั้นตั้งทั้งชื่อ ตั้งทั้งรหัสเลข เรียกว่าครบเครื่องเล่นเอาคนความจำสั้นอย่างผมจำแทบไม่ได้ครับ ความจริงถ้าจะตั้งรหัสก็ตั้งมันเป็นตัวเลขไปเลย จะตั้งเลียนแบบขี้ผึ้งที่ใช้ทาแผลกันน้ำกัดเท้าเป็นเบอร์ๆๆก็ไม่เลว จะได้จำง่ายๆ หรือจะตั้งชื่อเรียกให้มันจะๆๆไปเลย แต่นี่ตั้งเบิ้ลให้งงเล่นซะงั้นครับ ความจริงผมนั่งถอดรหัสตัวเลขของเค้าออกมาได้อยู่เหมือนกัน แต่ขี้เกียจเล่าล่ะ เพราะเล่าแล้วคืนนี้จบไม่ลงแน่ๆๆ 555

เอ้า เริ่มเลยจ้าๆๆๆ 555

Zero Audio ZX-DX200 CT Carbo Tenore
รุ่นนี้ให้ความโปร่ง สบายๆ กลางแหลมไม่จัดจ้าน ฟังสบายๆครับ ปริมาณเบสสำหรับผมถือว่าพอดีแล้ว ฟังกับทุกแนวแล้วยังเหลือๆ ซาวด์สเตทกว้างพอสมควร ซ้ายจรดขวาทำได้ดี เป็นหูฟังแบบไดรเวอร์ไดนามิกที่ให้โทนัลบาลานส์หรือความสมดุลย์ได้ดีตัวหนึ่ง

Zero Audio ZX-DX210 CB Carbo Basso
คนละแนวกับตัว Tenore คือตัว Basso นั้นถูกวางให้เป็นหูฟังที่ให้เนื้อเบสที่มากกว่า มวลหนา อิ่ม คนฟังนุ่ม ชอบเบสที่อุ่นๆ เพลงแนวจังหวะกระแทกกระทั้น หรือพวกฟังเพลงแนวแอนิเมชั่นน่าจะพลาดไม่ได้ เพราะช่วยเกลาความจัดจ้านของการบันทึกได้เป็นอย่างดี

Zero Audio ZX-BX510 CS Carbo Singolo
เป็นหูฟังแบบ BA หนึ่งไดรเวอร์ที่กลมกล่อม ฟังได้กับทุกๆแนว ไม่ว่า pop rock jazz แนวมาคล้ายๆตัว Tenore แต่เป็นตัวอัพเกรดขึ้นกว่าในทุกๆย่าน ไม่ว่าจะเป็นความเข้ม อิมเมจของชิ้นดนตรี และความลื่นไหลต่อเนื่องของน้ำเสียงที่น่าจะถูกใจมิวสิคเลิฟเวอร์

Zero Audio ZX-BX700 CD Carbo Doppio
เป็นตัวเรือธงจากค่าย เบสลูกหนา ลึก แรงอิมแพ็คและกระเพื่อมแรงชัดเจน กลางแหลมเยี่ยม โดยเฉพาะแหลมที่ให้รายละเอียดระดับฝอยละออง ใครที่เป็นคอออดิโอไฟล์จ๋า ต้องการฟังรายละเอียดที่ซาวด์เอ็นจิเนียแอบซ่อนเอาไว้ หรือคนที่ชอบค้นหาเสียงที่หายไปต้องลองให้ได้


555 คร่าวๆๆก็คงประมาณนี้ล่ะครับ ใครสนใจรุ่นไหนไปฟังกันเอาเองครับ ติดเพลย์เยอร์และเพลงที่คุ้นเคยไปทดลองฟังกันได้ตลอดเวลานะครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 1
ความคิดเห็นที่ : 12

themiumhhh

23/09/2014 21:05:32
1
เจิมครับ

ใช้มาแล้วสองรุ่น DX200 กะ BX700 doppio นี่แหละ เสียงแหลมเด็ดมากๆ สเตจกว่าง

รายละเอียดดีจริงๆ แต่ผมว่าเบสแอบเยอะไปนิดสำหรับผม


ข้อดีของมันอีกอย่างคือใสสบายมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ใครใส่อินเอียร์ไม่ได้ต้องลองครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

นายมั่นคง

23/09/2014 22:09:43
4,282
ตัว Doppio นั้นเวลาใส่แล้วจะสบายมากๆ เพราะท่อนำเสียงมันมีขนาดเล็กกว่าทั่วไปนิดนึงครับ เวลาใส่เลยยัดง่าย และชีลด์หูเราให้ไม่ได้ยินเสียงกวนจากภายนอกได้ดีครับ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

หลุยส์ munkonggadget

24/09/2014 14:31:44
1,057



อันนี้เป็นรูปใส้ในของเจ้า Doppio ครับ ลองดูว่ามีอะไรบ้างที่อยู่ข้างในภายใต้บอดี้กลมๆเล็กๆครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

หลุยส์ munkonggadget

24/09/2014 14:48:45
1,057
ส่วนสเป็คข้อมูลเพิ่มเติมของ Zero Audio Doppio มีดังนี้ครับ

สายหูฟัง แบบ OFC มีความยาว 1.2 เมตร
ไดรเวอร์ แบบ ฺBalance Amature จำนวน 2 ตัว ต่อข้าง
ความต้านทาน 12โอห์ม
ตอบสนองความถี่ 8Hz - 16,000Hz
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

ทัตเทพ บุณอำนวยสุข

24/09/2014 15:06:37
113
แล้วเรื่องราคาล่ะครับเฮียร์......
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

ทัตเทพ บุณอำนวยสุข

24/09/2014 15:09:41
113
อ้อ.....เห็นแล้วครับใน price list .......ราคาตั้งแต่สองพันถึงเจ็ดพันกว่าบาทตามลำดับ.....
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

ohwownoone

24/09/2014 20:55:32
ซื้อครับ 555+
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

นายมั่นคง

24/09/2014 22:16:38
4,282
พี่อ่างลองไปฟังเล่นๆๆก่อนครับ ตัวนี้ผมว่าคนฟังแหลมที่ใสๆละเอียดแบบยิบๆๆ น่าจะถูกใจล่ะครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

เหน่งบา

25/09/2014 23:21:09
1,866
ตัวนี้ผมกลับว่าพี่อ่างไม่โดนครับ โปร่ง พริ้ว บางหน่อยๆเนี่ย

พี่ท่านชอบแบบ(เสียง)อวบๆอึ่มส์ๆอย่างIM70มากกว่าครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

นายมั่นคง

26/09/2014 00:34:37
4,282
555 ตัวนี้ไม่ออกแนวบางนะครับ ช่วง Full Burn in นั้น ออกไปทางกลางอิ่ม อวบ หนาเลยครับพี่เหน่งบา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

Bom_baysinton

26/09/2014 13:28:34
9



ผมอ่านญี่ปุ่นออกนิดหน่อยครับ.. แปลให้..
ไม่มีส่วนไหนเป็น plastic เลยนะเนี่ย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

เหน่งบา

26/09/2014 13:37:23
1,866
ไอ้Full Burn inนั่น เฮียจัดให้หลุยส์เอาไว้รอผมที่เรือธงหน่อยละกันครับ

เผื่อผมจะได้ไม่ต้องจ่ายตังค์เพิ่มเป็นรุ่นอื่น อิอิอิ พรุ่งนี้แล้วละครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24

นายมั่นคง

26/09/2014 22:20:58
4,282
ขอบคุณมากๆๆครับ ผมเองไม่มี app แปลตัวอักษรเพราะไม่ได้ใช้ android แต่เท่าที่ผมลองจับและเอาแว่นขยายส่องดู ตัว canal เป็นทองเหลืองจริงๆและตัวบั้นท้ายเป็นอลูมิเนียมหล่อ แต่เพิ่งทราบเดี๋ยวนี้ว่า carbon fiber นั้นเป็นของจริงๆๆอีกด้วย 555

ตอนแรกผมว่าจะเขียนแต่ก็ไม่กล้า ผมใช้แว่นขยาย 30X ส่องลงไป ผมก็ว่ามันไม่ใช่แค่ลายคาร์บอนธรรมดาแปะไว้ ขอบคุณคุณ Bom_baysinton ที่ช่วยแปลให้เน้อๆๆ 555

-----------------
ตัวที่พี่เหน่งบาจะฟัง น่าจะเป็นตัวเดียวกับที่ผมเอามาถ่ายรูปนะครับ คิดว่าน่าจะใช่ล่ะ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25

Bom_baysinton

27/09/2014 06:37:59
9
555 ยินดีครับเฮีย ^_^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26

DSM

27/09/2014 10:04:52
0
แหล่มจริงครับ doppio คอมเฟริม ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 27

หลุยส์ munkonggadget

27/09/2014 18:04:03
1,057
เด๊่ยวรอคุณเหน่งบา มารายงานตัวอีกท่านหนึ่งครับ เพราะเพิ่งเข้ามาัดไปวันนี้หมาดๆเมื่อช่วงบ่ายครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 28

l2esurection

27/09/2014 18:20:15
62
ตัวนี่เสียงดีจริง -w- แต่พี่หลุยบอกของหมดเลยไม่ซื้อตอนนั้น -____-
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 29

เหน่งบา

27/09/2014 19:12:08
1,866
ปิดจ็อบอินเอียร์วันนี้แล้วครับ หลังจากเทียวไปฟังอยู่ถึงสามเที่ยว ที่จริงเที่ยวแรกยังไม่ได้ฟังตัว700(Doppio) แต่การได้ฟัง 210 กับ510 ก็ทำให้เห็นภาพรางๆและคาดหวังไว้กับตัว 700

รอบสองได้ลองฟัง และมัดจำ700 ไว้แล้วด้วยซ้ำ แต่ยังคาใจว่ายังมีบางตัวที่น่าสนใจยังไม่ได้ลอง เลยขอคุณหลุยส์ให้ยังไม่ต้องส่งของให้ แต่จะเข้าไปฟังเปรียบเทียบอีกครั้ง

สรุป...จบอินเอียร์ที่Zero BX700 Doppioครับ และหวังว่าจะไม่ต้องเข้าไปเจอหลุยส์อีกนาน เพราะเข้าไปทีไรได้เรื่องทุกที T_T (ไว้ขอเปิดกระทู้เล่าเป็นกระทู้ใหม่ เพราะมีบางแง่มุมที่ไม่เกี่ยวกับหูฟังก็มี)

ขอบคุณคุณหลุยส์มากๆครับ จะไปฟังกี่เที่ยว ให้เตรียมของให้กี่ตัว กี่ครั้ง ตกลงหรือไม่ตกลง ได้เงินหรือไม่ได้เงิน สีหน้าหลุยส์ไม่เคยเปลี่ยนครับ คอยบริการด้วยดีทุกครั้ง เตรียมของไว้ให้ทุกคราว แฮปปี้กับชายหน้าเดียว ณ เรือธงจริงๆครับ ^ ^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 30

ohwownoone

27/09/2014 19:42:41
ยินดีกับพี่เหน่งบาด้วยครับ สำหรับหูฟังตัวใหม่ โดนใจแน่ๆคราวนี้ แถมรอดพ้นจากพวกเรือนหมื่น เหอๆๆ

ตอนนี้ผมพยามเก็บตัง เล็งๆสายใหม่ของ HD650 อยู่ครับ เลยพยายามเลี่ยงๆพวกชุดพกพา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 31

นายมั่นคง

27/09/2014 21:48:53
4,282



อ้าวเรียบร้อยโรงเรัยนไทยญีุ่ปุ่นดินแดงแล้วหรือนี่ 555 ขอบคุณมากๆๆครับพี่เหน่งบา

ประเด็นที่ผมเริ่มสนใจก็คือตรงที่เจ้า Doppio นั้นไม่มีส่วนที่เป็นพลาสติกผสมอยู่นี่ล่ะครับ โดยเฉพาะตรง Canal ที่เป็นท่อทองเหลืองนี่ผมถือว่าน่าทึ่งมาก เพราะส่วนมากเครื่องดนตรีโดยส่วนใหญ่มักจะทำจากทองเหลืองเป็นหลัก ซึ่งน่าจะมีผลต่อการรีโซแนนซ์ของเสียงแหลมโดยเฉพาะ แหลมเจ้า doppio ช่วงเปิดกล่องใหม่ๆจะมีปลายที่เป็นฝอยมากนิดนึง แต่พอผ่านเบิร์นไปแล้ว ทุกอย่างจะลงตัวแต่ยังคงไว้ซึ่งรายละเอียดของเสียงแหลมที่ดีมาก อานิสสงค์อีกส่วนก็น่าจะมาจากไดรเวอร์ BA คู่ที่เลือกใส่อีกด้วยล่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 32

Witz

27/09/2014 22:48:45
1
ใครใช้Doppio แนะนำให้หาจุกยางJVC Spiral dots Tip มาใช้ครับ ปลายแหลมจะเปิดมากขึ้นไอ้รายละเอียดที่ว่าดีอยู่แล้วก็จะยิ่งดีเข้าไปอีก หามาลองกันดูครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 33

Gokzsg

28/09/2014 13:26:25
กำลังคิดอยู่ว่าจะถอย doppio หรือ athim01 ดีคับ ช่วยแนะนำข้อดีข้อเสียแนวเพลงของทั้ง 2 ตัวนี้หน่อยนะครับ ขอบคุนครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 34

หลุยส์ munkonggadget

28/09/2014 15:01:34
1,057
เทียบเรื่องรายละเอียด doppio เหนือกว่า im 01 อยู่พอสมควรเลยครับ
แต่กานสวมใส่ doppio จะใส่แบบปกติ ส่วน IM01 จะใส่แบบคล้องหูครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 35

opipopip

29/01/2016 16:04:05
1
ตัวนี้ต้องใช้กับจุกโฟม รุ่นไหนขนาดถึงจะพอดีหรอครับ?
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 36

หลุยส์ munkonggadget

29/01/2016 19:37:05
1,057
จุกยางเดิมๆเสียงจัดว่าลงตัวอยู่ครับสำหรับค่ายนี้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"รีวิวหูฟังศูนย์พระกาฬ : Zero Audio Doppio (พระกาฬเหนือกว่าหนึ่ง)"