ผมไม่รู้เชิงลึกนะครับ แล้วก็ดูไม่ออกด้วย แต่มันน่าจะเป็นหลักการเดียวกันหรือคล้ายๆกันกับสายของเครื่องเสียงที่ต่างกันใน ตัวนำสาย ฉนวน เทคนิค เทคโนโลยีการผลิตต่างๆ ก็ทำให้ได้เสียงที่ดีขึ้น


สายhdmiก็น่าจะทำให้ภาพดูมีมิติสีสันสมจริงไม่มีอาการเบลอของภาพ9ล9 (แต่ส่วนตัวผมดูไม่ออกจริงๆครับ พวกที่เขาเล่นของพวกนี้น่าจะดูออก:P)

ส่วนอีกอันที่ดูได้ง่ายๆก็เป็นเวอร์ชั่นครับ สายHDMIถูกๆจะไม่รองรับ3D w/เน็ต แต่ถ้าเป็นพวกเกรดมันก็จะมีเวอร์ชั่นของสายเช่น v1.4 รองรับภาพระดับ4k

ขอตอบครับ ใช้มาหลายปีแล้วครับHDMI ยี่ห้อchordเสันละ2500 ใช้มาสัก4ปี เทียบสายแถมและสายจีนถูกๆ สรุปว่า
1 สายถูกบางครั้งมันแยกสีไม่ออก
2สายถูก บางครั้งต่อไม่มีภาพ บางทีต่ออยู่ดีภาพหาย ต้องดึงออกแล้วต่อใหม่
3สายถูก มักเจออาการภาพnoise จะเห็นเป็นจุดเล็กบนหน้าจอเวลาดูหนัง
4สายแพงไม่จำเป็นรองรับ3D ครับ สายพวกนี้เป็นสายรุ่นเก่าที่ออกขายก่อนที่จะมีทีวี3Dครับ
สายของผมก็เช่นกัน มันรองรับแค่v1.3 สายที่รองรับ3Dจะเป็นv1.4 ไม่ว่าถูกหรือแพง
สายทั้ง2อย่างใช้แทนกันได้ครับ เพียงแต่สายรุ่นเก่าv1.3 มันไม่รองรับ3D ถ้าทีวีที่บ้านไม่รองรับ3D ใช้แค่v1.3 ก็ได้ครับ
5สายแพงมันจะทำให้ให้ภาพดูมีมิติสีสันสมจริงไม่มีอาการเบลอของภาพเหมือนสายถูก
6สายถูก มักจะเสียง่ายครับ ไม่ค่อยทน
7สายแพงมักมีตัวนำสาย ฉนวน เทคนิค เทคโนโลยีการผลิตต่างๆ ก็ทำให้ได้เสียงที่ดีกว่าสายถูก
ไม่ต้องตาเทพก็มองเห็นความแตกต่างครับ ต้องช่างสังเกตครับ เมื่อก่อนผมบ้าดูหนังมา็น็ก เลยเห็นความแตกต่างง่ายครับ สายไม่จำเป็นถึงเส้นละ 4-5 พันครับ ซื้อตามงบที่มีอยู่
และดูที่ระบบของเราด้วยครับ

ผมใช้ตัวนี้อยู่

เห็นมันสวยดีเลยซื้อมา

ถ้าไม่ได้ดูหนังพวก1080p ,remux ,fullrip

อย่าไปใช้เลยครับ เปลืองตัง

เคยแต่เทียบระหว่าง 200 กับหนึ่งพันครับ สายถูกมีปัญหาภาพล้มบางครั้ง บางทีเป็นเส้นๆ สีขาวตามแนวนอนส่วนมากจะเป็นตอนเปิดเครื่องเล่นใหม่ๆ หลังๆ รำคาญเลยต้องซื้อมาเปลี่ยน

ที่เห็นชัดคือของแพงสีอิ่มกว่านิดนึง ไม่มาก และภาพสว่างกว่าแบบรู้สึกได้ อันนี้ไม่ต้องทำ blind test เลย เพราะแม่ทักเองว่าทำไมจอสว่างขึ้น แล้วหลังจากเปลี่ยนอาการที่เจอข้างบนไม่เจออีกเลยครับ


ถ้าไม่ได้จริงจังอะไรเล่นสายแบบแบรนด์ที่เชื่อถือได้หน่อย ไม่ต้องแพงมากอย่าง sony ก็ได้ หลักๆ มันต่างที่คุณภาพการผลิต สาย HDMI ของ apple ก็ไม่แพง แค่ 600 บาทเอง

ผมเคยอ่านมา จำแหล่งที่มาไม่ได้แล้วครับ ไม่ทราบว่าเข้าใจถูกรึเปล่า เค้าบอกว่าสาย hdmi นั้นส่งสัญญาณเป็นระบบดิจิตอล นั่นก็คือเป็น 0 หรือ 1 ดังนั้นเวลาส่งสัญญาณออกมาจึงเหมือนมีแค่ เปิดกับปิด ไม่เหมือนกับสายอนาล็อคที่มีการส่งสัญญาณละเอียดเป็นค่าต่อเนื่องกันมาเลย ดังนั้นสาย hdmi คุณภาพเลยไม่ค่อยต่างกันหนัก ไม่เหมือนกับสายสัญญาณอนาล็อกทั่วไป ที่ยิ่งใช้วัสดุดีๆ ยิ่งทำให้นำสัญญาณได้ถูกต้องตามต้นฉบับมากขึ้น

ผิดถูกยังไง ชี้แนะด้วยนะครับ

ผมใช้สาย HDMI ของ QED สีต่างๆแยกขาดมากขึ้น สีดำมีความดำสนิทมากขึ้นครับ Noiseน้อยลง

ส่วนตัวคิดว่าถ้าไปถามในเว็บบอร์ดเฉพาะทางไปเลยทีกว่าครับ น่าจะได้คำตอบเชิงลึกได้เร็วกว่า

www.lcdtvthailand.com

ถ้าตัดเรื่อง 3D ออกไป ผมว่าไม่ต่างถ้าไม่ตาเทพหรือดูแบบจับผิดเ้อาเป็นเอาตาย แต่ต่างทางให้คุณค่าทางด้านจิตใจครับ

เรื่องสัญญาณเป็นดิจิตอล ก็มีส่วนครับ แต่อย่าลืมว่า สายสัญญาณ เป็นตัวนำไฟฟ้า ข้อมูลไม่ว่าจะเป็นอนาล็อกหรือดิจิตอล ถ้าตัวนำสัญญาณดี สัญญาณที่ปลายทางจะรับได้ครบและบริสุทธิ์ ไม่มีการรบกวนมากกว่าสัญญาณที่เกรดทั่ว ๆ ไปครับ

ยังไงก็ตาม ความแตกต่างจะมีนัยยะสำคัญมากขึ้น ถ้าซิสเต็มที่เพื่อน ๆ ใช้ ราคาแพงตามตัวสายไปด้วยครับ

เช่น กรณี เครื่อง ราคาพันกว่า กับ เครื่องราคาเป็นหมื่น ปล่อยภาพและเสียงเหมือนกัน
สายแถมเข้าที่ตัวแอมป์หรือ ทีวี จอสัก 60 นิ้วขึ้นไป จะเห็นได้เลยว่า ภาพชัดใสเคลียร์กว่ากันครับ

ทีนี้เราเปลี่ยน hdmi ให้คุณภาพดีขึ้นอีก ทีนี้ เครื่องราคาพันกว่า อาจจะให้ผลไม่ต่างมาก แต่เครื่องราคาแพง จะสามารถแสดงศักยภาพของมันได้มากกว่าเดิมอีกเยอะครับผม

โหหห ได้ความรู้มากๆครับ แต่ผมแค่เอาไปต่อกับ hd player ต่อเข้ากับ TV ธรรมดาๆ ก็คงเล่นสาย 4-5 ร้อยก็พอแล้วละมั้งครับ

เรื่องนี้เห็นเถียงกันไม่จบไม่สิ้นครับ เรื่องของการส่งสัญญานเป็นดิจิตอล 0-1

ฝ่ายโปร(ส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักเล่น) ก็บอกว่ามันเป็นผลจริงๆ
ฝ่ายคอน(ส่วนใหญ่ก็จะเป็นนักเทคนิก วิทยาศาสตร์)ก็บอกว่ามันส่งได้แค่ 0-1 นั่นคือได้กับไม่ได้เท่านั้นไม่เหมือน analog

ผมเองก็ไม่รู้จะอยู่ฝ่ายไหน แต่เคยฟังเทียบ HDMI ของ audioquest ที่ปิยะนัส ระหว่างซีรี่ส์ต่ำกับซีรี่ส์ที่สูงๆ ในชุดเดียวกัน

ผมพบว่าเสียงที่ได้ต่างกันจริงๆครับ แต่ไม่รู้ว่าเสียงแบบไหนดีกว่ากัน รู้แค่ว่าต่างครับ

ส่วยภาพนี่แยกไม่ออกครับ

เปนคำถามที่ผมพยามหาคำตอบอยุ่เหมือนกันครับ

ผมก็คิดว่ามันต่างแน่ๆ แต่ว่าความต่างที่เกิดขึ้นมันจะมากแค่ไหนอันนี้คือที่สงสัยอยู่ ^^

ระบบไฟ น้อยซ์ต่ำ แรง เร็ว นิ่ง จ่อๆให้ทุกเครื่อง
เครื่องในระบบ มีระดับคุณภาพสูง รีโซลูชั่นสูง
ซอร์ส เครื่องเล่น มีคุณสมบัติตามที่ว่ามา จอภาพก็ด้วย
ทั้งซอร์ส และจอภาพ ถูกปรับเซ็ท ให้อยู่ในย่านกลางๆ ไม่ปรับบูสอะไร หรือลดอะไรจนเหล่ ไปจากที่ควรเป็น

แบบนี้ จะให้ให้ผลต่าง ของภาพ เสียง แบบที่เรารู้สึกได้ง่ายขึ้น

ส่วนจะแม็ทช์ จะชอบ ก็อีกเรื่องหนึ่งจร้า

ต่างกันครับ แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงต่าง มันมีอะไรที่เรายังไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์อีกมากมายครับ(เรายังไม่ใครสามารถสรุปเป็นทฤษฏีได้) ถ้าเราลองกับระบบของเราแล้วต่างกันและชอบก็ใช้ครับ ถ้าเราลองแล้วไม่ต่างหรือต่างกันไม่มากมายอะไรหรือมองว่าไม่คุ้มก็ไม่ต้องใช้ครับ เก็บตังค์ไว้ใช้อย่างอื่นแทนดีกว่า

ต่างกันครับสีสันต่างกันนิดหน่อยแต่เรื่องความนิ่งต่างกันมาก เช่นภ้าใครเคยเจออาการตอนเปิดปิดสวิสไฟแล้วภาพกระพริบเกิดจากตัวนำและฉนวนที่ไม่ค่อยดี แต่พวกตัวที่แพงวัสดุและการกันสัญญาญรบกวนที่ดีกว่าทำให้การเชื่อมต่อนิ่งและได้สัญญาณที่ต่อเนื่องมากกว่าครับ

มันต่างกันครับ และมันมีคำอธิบายเป็นวิทยาศาสตร์อยู่ แต่คำอธิบายต้องใช้เวลาทำความเข้าใจพอสมควร
คร่าวๆคือมันเป็นเรื่องของ jitter ที่ทำให้การเดินทางของสัญญาณดิจิทัลมีปัญหา
สายแพง jitter ต่ำ สายถูก jitter สูง แต่มันก็ขึ้นอยู่กับเครื่องส่งและเครื่องรับด้วยว่า
สามารถจัดการกับ jitter ได้ดีขนาดไหน บางระบบเลยมองเห็นง่าย บางระบบมองเห็นยาก

ก่อนเลือกซื้อสาย อย่ามองข้ามจอที่เรามีนะครับ
จอความละเอียดต่ำ ใช้สายดีๆ ก็ไม่มีประโยฃฃชน์ครับ
อีกอย่าง ถ้าขนาดจอที่ใช้ต่ำกว่า 50 นิ้ว ก็ไม่ต้องไปสนใจสายแพงๆหรอกครับ

Full HD 1920x1080 แต่จอ 32 นิ้ว ใช้สายไหนก็ดูแทบไม่ออกครับ

20% บวก ลบ เท่านั้นครับ

คุ้มไม่คุ้มตัดสินใจเอา

มันต่างกันจริง สัมผัสได้ นิดหน่อย กับบางคนเท่านั้นไม่ใช่ทุกคนนะ

และจอต้องใหญ่40" ขึ้นไปนะ

อยู่บ้านใช้สายแบบถูกครับ ผ่านมาสามปี เริ่มมีปัญหาภาพมันกระตุก แต่ความชัดยังคงเดิม
ผมว่า
เนื่องจาก HDMI มันส่งสัญญาณแบบDigital
เรื่องความชัด คงไม่มีปัญหา แต่ปัญหาน่าจะอยู่ที่ความเร็วในการส่งสัญญาณ ถ้าเร็วไม่พอก็น่าจะกระตุกเหมือนของผมเนี่ยแหละ
ส่วนเรื่องสีสันถูกแพงไม่น่าจะเพี้ยนน่ะเพราะมันส่งแบบDigital
ประมาณว่า
ต้นทาง เขียนตัวอักษรว่า แดง
ปลายทาง มันก็น่าจะอ่านออกว่า แดง น่ะครับ มันคงไม่อ่านเป็นเหลืองแน่ๆ

สำหรับผม ผมเน้นที่ การเชื่อมต่อแน่นหนาดี, สายไม่กรอบหรือแข็งเป๊กจนหักในได้ง่าย, หัวเสียบแข็งแรง แค่นี้ครับ ที่เหลือก็น่าจะเหมือนๆ กัน ไม่แตกต่าง

อันนี้ทางต่างประเทศเขา review เอาไว้น่ะครับ
http://news.cnet.com/8301-17938_105-20056502-1/why-all-hdmi-cables-are-the-same/

ฟังเพลงตอนกลางวัน กับนอนกลางคืนเสียงยังไม่เหมือนกันเลย จะเอาอะไรกับใจคน แต่ใช้สายจีนถูกๆระวังพอต hdmi เจ๊งนะครับมันช็อต

สายถูกพังง่ายเเล้ว ทำให้เคื่องส่งสัญญานพังด้วย คอมผมเจ้งไปเเล้ว

อย่าถูกเกินจนเข้าหัวไม่ดี ซ๊อตทำเครื่องพังนะครับ
ยี่ห้อดีๆ รุ่นพื้นๆ ก็ดีเหลือหลายแล้วครับ

ใช้ของ lcdthailand 2m พันหน่อยๆ ก็ ok ดี เอา notebook ต่อกับ monitor acer 34 นิ้ว จอโค้ง

ผมใช้ jericho ครับไปหาซื้อได้ตาม homepro เส้นละสองพันกว่าบาทครับ ทนทานและมีสรบอกทิศการไหลของสัญญาณด้วยครับ สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือความดำครับ นอยซ์ก็น้อยกว่ามากๆแถมสียังอิ่มกว่าสายแถมเยอะ พอลองเปลี่ยนเส้นนึงสุดท้ายซื้อมาเปลี่ยนทั้งระบบเลยครับเห็นผลค่อนข้องชัดเลยครับไม่ต้องเพ่ง

ไม่ทราบว่ามีใครเคยลอง AudioQuest Carbon มั้ยครับ ว่าแตกต่างอย่างชัดเจนกว่าพวก 2-3พัน บาทหรือเปล่าครับ(ผมเคยเห็นเขารีวิว ว่าดีกว่าชัดเจน แต่อยากถามจากคนเคยใช้จริงครับ) คุ้มกับการลงทุนมั้ยครับ

carbon ดีนะครับต่างกันเยอะอยู่แต่ถ้าไม่ได้พิถีพิถันหรือจริงจังขนาดนั้น jericho ก็เหลือๆแล้วครับ แทบไม่ต่างจากสาย carbon เลยครับ

ขอบคุณมากครับ^^ ถามไว้เผื่อไป 4k นะครับ แต่ตอนนี้ยัง full hd อยู่ สาย jericho นี่น่าสนใจมากครับ^^

Kaiboer L Series สีม่วง ๆ V1.4 ลดเหลือหลักร้อย.....หาแหล่งซื้อ/โปรดีๆ สองเส้น ไม่ถึงพันห้า.....ใช้ได้ดีเช่นกันจร้า

ของถูกวัสดุคงผสมทองแดง ที่เคลือบทองก็ผสมทองแดงอีก

อยากลอง merrex 2.0 plus ดีไหมครับ ราคาก็ 1700 บาท หรือ audioquest cinnamon ดีเน้นฟังเพลงอย่างเดียว ชอบแนวเสียงกลองคมๆฟังกระเดื่องชัดๆ