Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

เบิร์นสายสัญญาณแล้ว เสียงดีขึ้นขนาดไหน ใครตอบได้ครับ

eeman2

29/05/2011 22:25:35
เห็นมีกระทู้ถามเรื่องการเบิร์นสายสัญญาณ เลยอยากถามท่านที่มีประสบการณ์ว่า สายเส้นเดียวกัน เบิร์นแล้วเสียงมันดีขึ้นขนาดไหนครับ ต่างกันกี่มากน้อย แล้วมันมีทฤษฎีหรือกฎวิทยาศาสตร์รองรับหรือไม่ครับ หรือแค่เพื่อความสบายใจ เพราะฟังเค้าว่ากันมา
เพราะเท่าที่เคยร่ำเรียนมา สายสัญญาณก็คือทองแดงที่หุ้มฉนวน ความเชื่อเรืองการจัดเรียงอิเลคตรอนมันเป็นแค่ความเชื่อ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ เพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนโครงสร้างทางโมเลกุลของสายสัญญาณได้ แต่เรามักสับสนกับเรื่องแม่เหล็กไฟฟ้าที่ว่า เอาขดลวดพันกับเหล็ก พอจ่ายไฟเข้าไป สนามแม่เหล็กที่เกิดจากขดลวด (ซึ่งมีไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงาน) จะไปจัดเรียงทิศทางโมเลกุลของเหล็กทำให้แท่งเหล็กกลายเป็นสนามแม่เหล็ก ซึ่งพอหยุดจ่ายไฟ แท่งเหล็กก็หมดสภาพแม่เหล็กไป
กับเรื่องเบิร์นแอมป์อีกครับ ในแอมป์มันมีชิพ ความต้านทาน ขดลวด ตัวเก็บประจุ ซึ่งอุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์เหล่านี้มันไม่ต้องการการเบิร์นแต่อย่างใด ยิ่งอุปกรณ์แพงๆจะใช้วัสดุเกรดดี ยิ่งมีความเพี้ยนจากค่าที่ออกแบบไว้น้อยมาก เรื่องการเรียงตัวของจังค์ชั่นในชิพยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ แล้วอย่างนี้จะทำให้เสียงเปลี่ยนไปจากเดิมได้อย่างไรกัน มิฉนั้นวิศวกรที่ออกแบบต้องพิจารณาตัวเองแล้วครับ ว่าวงจรของเค้าไม่เสถียร ของแบบนี้พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ แค่เอาพวกออสซิโลสโคปจับสัญญาณดูก็เห็นแล้ว ว่าก่อนและหลังต่างหรือไม่แค่ไหน แต่ก็ไม่เห็นมีใครพิสูจน์กันจริงจังซะที หรือว่าจะปล่อยไว้อย่างนี้กันต่อไป แบบไม่เชื่อแต่ไม่ลบหลู่
ไม่ได้ต้องการชวนทะเลาะนะครับ คนไทยทะเลาะกันมามากพอแล้ว เพียงแค่สงสัย สำหรับท่านที่ทำแล้วสบายใจก็ไม่ได้ว่าอะไร ของแบบนี้อยู่ที่ความสบายใจครับ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าของเล่น มันก็ต้องเล่นถึงจะสนุก แต่บางท่านอาจจะสบายใจที่เล่นไปได้เลย ไม่ต้องมาเบิร์นอีกพะวง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

eeman2

29/05/2011 22:26:58
0
เอ๊ะ ทำไมหุ่นยนต์ผมไม่ขึ้นล่ะ เดี๋ยวโดนตา Burst ประนามว่าไม่ล็อคอิน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

jomjomjom

29/05/2011 22:37:23
5
ครับพี่อีแม้นย์ คนที่จะตอบได้ ว่าดีขึ้น หรือไม่ แค่ไหน ก็คือ ตัวคนฟังคนนั้นเองครับ

ผมเคยตอบในกระทู้น๊านนานมาละว่า โครงสร้างหูของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทำให้การรับรู้สัญญาณความถี่ย่านต่างๆไม่เท่ากัน ทำให้ ในขณะที่คนนึงบอก เฮ้ย เสียงดีขึ้นเยอะเลยหวะ แต่อีกคนบอก ก็เหมือนเดิมเลยหวะ คือ ฟังไม่ออกนั่นเอง

ยกตัวอย่างตัวผมเองครับ เคยมีชุดฟังตั้งโต๊ะเกือบดีมากๆ มีหูราคาแพง ไปๆมาๆ จบที่ไวแสง 5555 ขายหม๊ดเลย
เพราะโครงสร้างหูผมมันรับรู้สัญาณต่างๆแค่ไวแสงก็ว่าสุดยอดแล้ว 55555

เนอะพี่อีแม้นนนนย์
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

eeman2

29/05/2011 22:52:49
0
จ้า แสดงว่าพี่ทศย์ซี่ย์ที่รักของอีแมนย์น่ะ หลุดพ้นวังวนเรื่องก่อนเบิร์นหลังเบิร์นไปแล้ว 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

FolkTrance

29/05/2011 22:57:41
3
ผมเจอเคสหนักเหมือนกัน เพื่อนผมไม่เคยเล่นหูฟัง มีแพงก็ 200 บาท เพื่อนผมมาขอลอง Yuin PK1+iBasso D6 ผมไปฟัง มันบอกว่า ไม่เห็นต่างกับหูฟังราคา 200บาทเลย =_=" แต่คนอื่นๆที่ลองต่างบอกกันว่าต่างสุดๆ

สรุปหูคนและประสบการณ์ในการฟังหรือความใส่ใจในรายละเอียดของเสียงที่ให้ของแต่ละคนมีระดับที่ต่างกันมากๆ

ส่วนสายสัญญาณต้อง Burn ผมเองก็เคยสัมผัสแค่ครั้งเดียวคือตอนซื้อ Dock to mini รุ่น DNA ได้ลองที่ DGW ได้ลองทั้งสายของที่ร้านที่ใช้งานมาปีนึงกับสายแกะกล่อง ผมว่ามันต่างกันนิดหน่อยตรงที่สายใหม่มันจัดจ้านและเสียงแข็งๆไปนิดแต่สายเก่าจะอ่อนลงมาครับ

ส่วนอีกกรณีที่เคยอ่านเจอก็คือการโมสายลำโพง ในเคสนั้นใช้สาย Lan cat5 ซึ่งเมื่อคนโมทำเสร็จก็เปิดเพลงทดสอบซึ่งผลลัพท์น่าผิดหวังในตอนต้นๆ แต่พอเขาเปิดทิ้งไว้สักระยะเสียงที่แหบๆหายๆก็กลับมา อันนี้ไม่รู้นะครับว่าเรียกว่า Burn หรือ Worm up ดีเหมือนกัน รู้สึกสายแลนจะขาดเนื้อเบสครับแต่ถูกมาก คงควรเป็นสายเฉพาะของลำโพงน่าจะดีกว่า :-)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

eeman2

29/05/2011 23:14:45
0
ท่าน FolkTrance ครับ เรื่องหูคนต่างกันนี่ปกติครับ ผบ.ผม ท่านฟังหูแถมจาก Samsung T10 ท่านบอกว่าสุดยอดแล้ว ดีกว่า TF10 อีก
การสายลำโพง นี่พอจะอธิบายได้ว่า วงจรครอสโอเวอร์ของลำโพงดีๆ เมื่อได้รับสัญญาณที่ดีขึ้น ชัดขึ้น การตอบสนองความถี่มากขึ้น ก็อาจต้องให้เวลาวูฟเฟอร์ของลำโพงปรับตัวนิดหน่อย แต่ผมก็ยังคิดว่า ในสายตัวเดียวกัน คงไม่ได้ต่างกันมากมายเกิน 3% เพราะพวกนี้พิสูจน์ด้วยเครื่องมือทดสอได้
ส่วนสาย Dock to mini วันเดือนปี ที่ผลิตต่างกัน ล็อตการผลิตต่างกัน ส่วนผสมในทองแดงต่างกัน อาจจะ+อุปทานเล็กน้อย ก็ทำให้ต่างได้ครับ แต่ก่อนและหลังเบิร์นมันไม่มีอะไรในโครงสร้างในสายเส้นเดียวกันเปลี่ยนไปนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

FolkTrance

29/05/2011 23:56:40
3
เรื่องสายต้อง Burn อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจเหมือน ตอนแรกฟังมาต้อง Burn สายก็เอ๋อๆไปพักนึง =_=" สายต้อง Burn ล่วยอ่ะ

แต่ไงๆก็ต้องใช้ตลอด ตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่าเสียงมันเปลี่ยนหรือเปล่านะครับ ใช้มาก็ 4เดือนล่ะ มันชินหูไปแล้ว =_="

ขนาดผมฟังเพลง Source เดิมๆแต่คนละช่วงเวลา มันยังให้ความรู้สึกไม่เหมือนกันเลยครับ 555+ เช่นผมดันทะลึ่งตื่นตอนตี 5 ไม่รู้ทำอะไรเอาเพลงมาฟัง ไหงเพลงมันมันเล่นเร็วผิดปกติ + เสียงมันดังผิดปกติซะนี้ เอาแน่เอานอนกับหูตัวเองไม่ได้เลย 555+
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

boomer1983

30/05/2011 00:16:17
0
^
^
ผมว่าอันนั้นน่าจะเป็นความมีสติของคนฟังแล้วมั้งครับ แบบว่าตื่นเช้าเบลอๆสติสตังยังทำงานไม่เต็มที่ ฟังเพลงเดียวกันแต่อาจจะได้ความรู้สึกไม่เหมือนกันอันนี้เรื่องจริงครับเพราะผมก็เป็น ของผมจะฟังเพลงเพราะที่สุดคือตอนดึกๆก่อนนอนครับ 555+
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

eeman2

30/05/2011 07:19:57
0
เรื่องเอาแน่กับหูตัวเองไม่ได้ นี่ผมก็เป็นหนักเหมือนกัน 555
ขนาดระดับเสียง ดัง/เบา บางทียังสับสนเลย
แต่เห็นมีกระทู้หลายอันที่ถามเรื่องเบิร์นสายมา เลยอยากหาท่านที่พิสูจน์แล้วมายืนยันว่าเบิร์นแล้วดีขึ้นจริงขนาดไหน
ไหนๆก็ไหนๆนะครับ ไอ้สายปลั๊กไฟที่ว่าต้องเบิร์นด้วย นี่ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ถ้าบอกว่าเปลี่ยนสายไฟขนาดใหญ่ขึ้น หรือสายที่ดีขึ้น มีระบบป้องกันสัญญาณรบกวน อันนี้ใช่ครับ จะได้สัญญาณไฟที่สะอาดขึ้น แต่ไฟ AC 220โวลท์ ที่จ่ายเข้าไป มันจะต้องถูกแปลงเป็นไฟ DC ขนาด 5-24 โวลท์ ตามแล้วแต่สเปคเรื่อง ตัว power supply ที่ใช้แปลง (ถ้าตัวเล็กๆแบบที่ชาร์จมือถือเราเรียก adaptor) นี่มันก็มีวงจรกรองสัญญาณที่ดีมากๆอยู่แล้วนะครับ ตอนที่ผมเรียนอยู่ แค่ power supply ในคอมพ์รุ่น ApplyII+ (แก่ไปมั๊ยหว่าตู)นี่มันก็เป็นระบบ switching power supply ที่มีความเพี้ยนของสัญญาณ DC น้อยมากๆแล้วนะ นี่เวลาผ่านไปกี่ปีแล้วล่ะ วงจร filter ใน power supply มันพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ยิ่งในเครื่องเสียงราคาแพง ยิ่งพิถีพิถันเรื่องนี้มาก ผมยิ่งมองไม่ออกว่า การเบิร์นสายปลั๊กนี่มันช่วยได้ตรงไหน แต่เรื่องแยกสายเมนจากมิเตอร์ไฟนี่รับได้นะครับ อาจจะเป็นความเว่อร์ของคนเล่น แต่จริงๆแล้ว พิสูจน์ได้ว่า กระแสไฟที่ได้เข้าเครื่องเสียง จะได้รับโดยตรง มีการรบกวนจากอุปกรณ์อื่นน้อยลงบ้าง น้อยลงบ้างนะครับ ไม่ใช่เยอะแยะ แต่มันก็เป็นเรื่องจริง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

We Are Kamilia

30/05/2011 07:32:32
0
ไอเรื่องการฟัง แต่ละช่วงเวลาแล้วเสียงไม่เหมือนกัน ไม่ได้เกี่ยวกับสติอะไรหรอกครับ

ผมว่ามันอยู่ที่ช่วงเวลานั้นคนต้องการฟังอะไรมากกว่า ผมคนนึงละครับ ที่ฟังเพลงแต่ละรอบไม่เหมือนกัน มันอยู่ที่สภาพสมอง ว่าคิดอะไรอยู่ ฟังทำไม ทุกอย่างเป็นปัจจัยทั้งนั้น โดยเฉพาะเวลาเราตั้งใจฟัง จะเป็นตอนที่แย่ที่สุดละครับ เพราะหัวเราจะไปก่อนเพลง จะคิดก่อนว่าต่อไปจะได้ยินอะไร อุปทาน อคติ ความเชื่อ ความมั่นใจทุกอย่างมีผลทั้งนั้นและครับ เหมือนการฟังไฟย์เพลงคนละไฟย์ ผมว่ามีไม่กี่คนหรอกครับ ที่มั่นใจมากๆแล้วถูก มากกว่าการเดาว่าน่าจะไช่อันนี้
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

th.don

30/05/2011 08:31:57
0
นั่งในที่เงียบๆผ่อนคลาย ฟังเพลงเบาๆ จิบกาแฟไป หรืออาจจิบไวน์ หรือเหล้าก็แล้วแต่
แล้วตั้งใจฟังดีๆจรู้ว่าเพลงสนุกขึ้นเยอะนะครับ

แต่ถ้าอากาศร้อนๆนั่งฟังไม่เปิดแอร์ มันก็ไม่่อยสนุก

ลองดูครับ เรื่องสายผมไม่ออกความเห็นละกันครับ :)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

bluenote

30/05/2011 09:00:57
0
ตาม. คต. 10.

คิดมากเด๋วฟังเพลงไม่มีความสุขนะจ๊ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

echo

30/05/2011 09:04:06
คือจะให้ตอบว่าดีขึ้นมากน้อยเพียงใดนั้นคงตอบไม่ได้ แต่รับรู้ได้ว่าเปลี่ยนแปลง เพราะช่วงเวลาในการเบิร์นมันนานมากว่ากันที่100-200ชั่วโมงขึ้นไปยิ่งไม่ค่อยเปิดฟังก็เป็นอาทิตย์ๆล่ะครับมันจำรายละเอียดทีแรกกับผ่านมาเกือบเดือนไม่ไหวหรอก แต่พอจับได้ว่าเช่น แหลมละเอียดขึ้น เบสกระชับขึ้นอะไรประมาณนี้ ไอ้ครั้นจะหาสายสัญญาณรุ่นเดียวกัน แบบเบิร์นแล้วกับยังไม่เบิร์นมาลองก็ไม่ได้มีเงินเหลือขนาดนั้น ส่วนเรื่องเอาเครื่องมือมาวัดมาจับหรือจะว่ากันตามทฏษฎีนั้นมันก็เหมือนเรื่องผี เรื่องวิญญาณ แล้วแต่ความเชื่อครับ วัดจับต้องไม่ได้ ฟังออกหรือฟังไม่ออกก็แล้วแต่บุคลลไป แต่คนที่ฟังออกนี่ผมถือว่า ซวยครับได้เสียเงินกันแน่ ฟังไม่ออกก็ไม่เสียสตางค์

เรื่องแอมป์นี่ก็ต้องเบิร์นครับ แอมป์ใหม่กับแอมป์ที่เบิร์นแล้วเสียงต่างกันแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อด้วย บางยี่ห้อไม่กี่10ชั่วโมง บางยี่ห้อ200-400ชั่วโมง

ปัญหาแบบนี้อย่ามาหาข้อสรุปเลยครับ มีมาก่อนเว็บบอร์ดอีก มีมาเป็นสิบๆปีแล้ว ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่ออย่างไร ก็พิจารณาเอาเอง เหมือนสายสัญญาณ สายลำโพง ชุดละแสน กับชุดละพัน คนที่ฟังไม่ออกว่าดีกว่าอย่างไรก็เขาอุปทานไปเอง ส่วนคนที่เขาฟังออกเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้ามีตังค์ก็ซื้อก็เท่านั้น เปรียบได้กับเพชรแท้กับเพชรรัสเซีย ผมดูให้ตายก็ดูไม่ออก หรือที่บรรดาคุณสาวๆเธอสามารถแยกความแตกต่างระหว่างกระเป๋าหลุยส์เกษรกับ กระเป๋าหลุยส์นานาได้ ไอ้เราดูก็ไงก็ไม่ต่าง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

eeman2

30/05/2011 09:05:08
0
น้าดล ฟังเพลงให้สนุก นั่งในที่เงียบๆยังไม่น่านา ถ้านั่งในที่อโคจรสนุกก่านา ไหนจะลุ้นดูน้องๆ ไหนจะลุ้นผบ.ตามมาเจอ 55
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

echo

30/05/2011 09:08:51
0
อ่อ ถ้าอยากรู้ความแตกต่าง ลองอีกวิธีก็ได้ คือนำสายสัญญาณ หรือสายลำโพงก็ได้ ที่การใช้งานมานานแล้ว คือพ้นช่วงเบิร์นมานานแล้ว ลองสลับหัวท้ายทั้ง2ข้างดูซิครับ เช่น จากเคยออกจากซีดีไปแอมป์ ก็ลองเอาข้างที่เคยอยู่ปลายทางที่แอมป์มาอยู่ต้นทางที่ซีดี ฟังอย่างตั้งใจ เพลงที่คุ้น สลับไปสลับมา เสียงไม่เหมือนกันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

eeman2

30/05/2011 09:26:27
0
ขอบคุณพี่ echo ครับ
ไอ้สายเส้นละพัน กับสามพัน นี่ผมก็มีกรรมแล้วครับ เพราะแยกออกว่าเสียงต่าง
แต่สลับต้นปลายเคยลองละครับ พบว่าพ้นกรรมครับ ไม่ต่าง แต่ยอมรับว่าการสลับขั้วสายมีความต่างแน่นอนครับ เพราะจุดเชื่อมจุดต่อสายไม่เหมือนกัน การสลับขั้วอาจทำให้ค่า impedance โดยรวม ต่างไปจากเดิม แต่ตรงนี้ถึงยอมรับ หูผมก็ฟังไม่ออกแล้วครับ
ไม่ได้จะหาข้อสรุปหรอกครับ แค่อยากถามว่าท่านใดลองแล้วพบว่ามันต่างมั่ง เพราะยังไงการใช้ไปเรื่อยๆมันก็คือการเบิร์นนั่นเอง ปลายทางอยู่ที่จุดเดียวกัน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

นายมั่นคง

30/05/2011 09:51:09
4,282
มีส่วนครับ ของพวกสายสัญญาณเหล่านี้ เบิร์นแล้วมีความเปลี่ยนแปลงแน่นอน เพียงแต่การเปลี่ยนนั้น เปลี่ยนไปในทางไหนนั่นเอง โดยมากเราจะคาดหวังว่าหลังจากเบิร์นแล้วคือจะต้องดีขึ้นไปอีกล่ะจ้าๆๆๆๆ ตอบว่าดีขึ้นครับ แต่ไม่ใช่กลายเป็นสายคนละเส้นเน้อๆๆๆ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

th.don

30/05/2011 10:05:53
0
คุณหุ่น

เรื่องเปลี่ยนแปลงมีผลอยู่ครับ เพียงแต่ต้องฟังและจดจำตอนแรกๆให้ได้
แต่ส่วนมากจะไม่ค่อยรับรู้กัน รวมผมด้วยครับ อิอิ
ถ้าเปลี่ยนสายแตกต่างแน่นอนครับ เอิ๊กๆ
แต่อย่าอุปทานไปเองครับ เพราะว่ามันก็มีขีดจำกัด อาจจะไม่มากก็น้อย
ถ้ายังงั้นสายเส้นไม่ถึงพัน ฟังมาสามปี เสียงอาจจะพุ่งไปกระทบตัวเส้นหมื่นก็ได้นะครับ 555

เอาเป้นว่า เสียงดีขึ้นครับ ไม่มากก็น้อยจ้า มันมีขีดจำกัดของมันครับผม :)
อยู่ที่หูคนเรา และ ความตั้งใจใส่ใจในการฟังรายระเอียดเล็กๆน้อยของมันครับ

อย่าไปซีเรียสครับ ฟังเพื่อผ่อนคลาย ไม่ใช่ยิ่งฟังยิ่งเครียดครับ อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

eeman2

30/05/2011 10:49:17
0
ไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องนี้หรอกครับน้าดล เพียงแค่แปลกใจว่ามันเป็นไปได้ด้วยเหรอ ว่าเราใช้วิทยาศาสตร์พิสูจน์เทคโนโลยีไม่ได้ อิ อิ
โดยส่วนตัว ผมมีคำตอบให้ตัวเองมาสามสิบปีได้แล้ว ของที่ใช้วัสดุดีขึ้น ย่อมได้คุณภาพของเอาท์พุทที่ดีขึ้นไปด้วย แต่พอดีเห็นมีน้องเค้าถามมาเรื่องเบิร์นลำโพงมั่ง สายมั่ง เราก็เลยลองค้นกระทู้เก่าๆ ก็ไม่ได้คำตอบที่สงสัย เพราะพี่ๆเค้าพากันล่องเรือออกทะเลกันไปหมด
รู้ว่าลำบากเรื่องแยกความรู้สึก+ความเชื่อ กับความถี่ทางฟิสิกส์ออกจากกัน แต่แค่อยากรู้ว่ามีทฤษฎีอะไรที่อ้างอิงได้บ้างเท่านั้นน่ะครับ
เผื่อวันข้างหน้าอาจจะมีน้องหรือหลานๆในนี้ซักคน หาคำตอบออกมาได้
ส่วนเรื่องความสุขในการเล่นของ หรือการฟังเพลง อันนี้เป็นรสนิยมของแต่ละท่านครับ
ผมแค่กลัวบอร์ดสุขสงบเกินไป เลยหาเรื่องมาถกกันเล่นๆ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

th.don

30/05/2011 10:56:36
0
ไม่กล้าฟันธงครับ อิอิ สำหรับเรื่องสาย รอท่านอื่นเซียนๆมาช่วยดีกว่าครับผม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

eeman2

30/05/2011 11:13:28
0
เฮียมั่นครับ ด้วยความเคารพ
ไหนๆผมหาคนมาถกเรื่องอจินไตยกันแล้ว ขอถามเฮียละกันครับ
สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงจากการเบิร์นสายสัญญาณ สายปลั๊กนี่ ทางเมืองนอกฝรั่งมันว่าเหตุผลกันยังไงบ้างครับเฮีย
(สายลำโพงนี่ยอมรับว่าจริงนะครับ เพราะต้องให้เวลาลำโพงปรับตัว แต่สายอื่นๆถ้าจะบอกว่าให้ลำโพงปรับตัว นี่ไม่น่าจะมากขนาดจับได้)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

rathnom

15/04/2014 11:53:31
0
เกรียนยังงี้ ใคร้เขาจะมาตอบ ถ้าซิสเต็มถึงๆ การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็ฟังออกแล้วครับ เน้นว่า ต้องถึงๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

Otomo

15/04/2014 12:37:22
6
ขอบอกว่าดีขึ้นจริงๆ แต่ดีขึ้นขนาดไหน ขึ้นอยู่กับสายยี่ห้อนั้นๆ
บางยี่ห้อดีขึ้นแต่ไม่มาก แต่ฟังออกได้ชัดเจน ปกติส่วนมากก็ดีขึ้น 20% ครับ
แต่บางยี่ห้อ เช่น Kimber ก่อนเบิร์น กับหลังเบิร์นนั้น เหมือนสายคนละเส้น หน้าตีนกับหน้ามือเลยทีเดียว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

Otomo

15/04/2014 12:41:05
6
สาย Kimber ลองหาสายลำโพงเค้าเช่น 4TC นำมาถักเป็นสายสัญญาณก็ได้ครับ เสียงดีคุ้มราคามาก แล้วลองใช้ดูว่าระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา มีความแตกต่างอย่างไรเกิดขึ้นมาบ้าง

เรื่องการเบิร์นสาย และอุปกรณ์เครื่องเสียงนั้น เป็นเรื่องที่ผ่านการพิสูจน์และใช้จริงจากนักฟัง ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นนักฟังหูฟัง หรือนักฟังเครื่องเสียงบ้าน เครื่องเสียงรถ ในประเทศและต่างประเทศ ไม่ใช่พวกพ่อมดหมอผีมาหลอกครับ มันมาจากประสบการณ์ ลองทำลองฟังดู แล้วจะรู้ครับ

เรื่องเสียง การฟังให้เป็น ไม่ใช่เรื่องที่จะเข้าถึงได้ง่าย แต่เมื่อเป็นแล้ว มันจะอยู่กับตัวคุณ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24

fairyland01

15/04/2014 12:57:57
0
การต้องการคำตอบทางวิทยาศาสตร์นี่เกรียนตรงไหนครับ -0-
ส่วนตัวผมว่ามันก็เกิดความเปลี่ยนแปลง
แต่บอกไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไรครับ

ปล. A:นักวิทยาศาสตร์รู้ได้ไงครับ ว่าแสงเดินทางด้วยความเร็ว xxx,xxx km/s
B:เกรียนจัง ซิสเต็มเขาดีเขาก็วัดได้น่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25

starman

15/04/2014 17:53:15
3
เอาน่าเอาน่า กระทู้ก็เก่าปี 11 แน่ะ

ผ่านๆไปเหอะ ก็ไม่รู้จะด่ากันทำไมนี่
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26

Furch

16/04/2014 16:55:54
624
ป่านนี้ จขกท. เค้าได้คำตอบแล้วมั้งครับ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"เบิร์นสายสัญญาณแล้ว เสียงดีขึ้นขนาดไหน ใครตอบได้ครับ"