Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

(แบนเนอร์การกุศล) รักษาและดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรักของท่าน โดย คุณหมอ Petch

นายมั่นคง

06/11/2010 16:36:11
4,282



วันนี้มาแนะนำผู้อุปการะคุณแบนเนอร์การกุศลอีกท่านหนึ่งครับ อันนี้ไม่ใช่ใคร เพื่อนเรานั่นเอง คุณหมอ Petch ล่ะครับ ผมเลยตั้งกระทู้ให้ใหม่ 1 อัน เพราะว่าคุณหมอแกไม่มี Facebook หรือเว็บไซด์ ไม่มี blog แต่ไม่เป็นไรครับ ผมจัดการแนะนำเป็นกระทู้ให้เองซะเองว่างั้น 555

------------------------------------------------------------
"โรงพยาบาลสัตว์บ้านรักสัตว์เลี้ยง" อ.เมือง จ.ชลบุรี
โทร. 038 284231, 084 9242002
รักษาและดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรัก
โดย.....คุณหมอเพชร poramate_vet @ yahoo.com
-------------------------------------------------------------

ไม่มีใครจะรู้ใจคนรักสัตว์เลี้ยงได้เท่ากับคนรักสัตว์เลี้ยงด้วยกันแน่ๆๆล่ะครับ ท่านใดมีปัญหาเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง สามารถติดต่อปรึกษากับคุณหมอเพชรได้นะครับ สมาชิกเราในนี้หลายๆๆ คนก็เคยปรึกษาคุณหมอเพชรกันมาแล้วทั้งนั้น ซึ่งคุณหมอเพชรก็ช่วยให้คำปรึกษาที่ดีและการรักษาที่ดีที่สุดเรื่อยๆๆมา

กราบขอบพระคุณคุณหมอเพชรมา ณ ที่นี้เลยจ้า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

petch_a_vet

06/11/2010 19:20:43
0
IP : 125.27.15.52
ขอบคุณเฮียมั่นมากนะครับที่ตั้งกระทู้ให้ครับ

ใครมีปัญหาสุขภาพสัตว์เลี้ยงอยากสอบถามก็เชิญเลยนะครับ หรือว่า ถ้าอยู่ในละแวกชลบุรีก็เรียนเชิญได้เลยนะครับ
ความคิดเห็นที่ : 2

นายมั่นคง

07/11/2010 03:25:22
4,282
IP : 58.9.170.71



ท่านที่มีสัตว์เลี้ยง และมีปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ หรือต้องการปรึกษาปัญหาต่างๆ ในการดูแลรวมถึงการฝึกนิสัยของสัตว์เลี้ยงแสนรักของท่าน สามารถโทรถาม หรือเมล์สอบถามก่อนได้นะครับ

โดยเฉพาะท่านที่อยู่ในละแวกเมืองชลบุรี อันนี้สะดวกเลย สามารถนำสัตว์เลี้ยงไปปรึกษาคุณหมอเพชรได้ทันทีเลยจ้า........
ความคิดเห็นที่ : 3

petch_a_vet

07/11/2010 08:55:46
0
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอโฆษณาหน่อยแล้วกันนะครับ

ทางโรงพยาบาลสัตว์บ้านรักสัตว์เลี้ยงมีบริการต่างๆดังนี้นะครับ

- ฉีดวัคซีน
- รักษาโรคทั่วไปทางอายุกรรม
- ทำหมันสุนัข แมว กระต่าย ฯลฯ
- ศัลยกรรมทั่วไป ทั้งช่องอก ช่องท้อง และ เนื้อเยื่ออ่อนทั่วไป โดยใช้การวางยาสลบด้วยเครื่องดมยาสลบและเครื่องช่วยหายใจขณะสัตว์สลบ จึงทำให้การวางยาสลบเพือการผ่าตัดมีความปลอดภัยมากชึ้น
- ศัลยกรรมกระดูกและข้อ ทั้งกระดูกหัก กระดูกแตกร้าว ฯลฯ โดยมีอุปกรณ์การทำกระดูกทั้งการใช้ Pin (แท่งเหล็กศัลยกรรทยึดในแกนกระดูก) และ การใช้ Plate (แผ่นเหล็กศัลยกรรมยึดที่ผิวนอกของกระดูก)
- ส่องตรวจอวัยวะต่างๆเช่น โพรงจมูก หลอดลม หลอดอาหาร ทางเดินปัสสาวะ ลำใส้ใหญ่ ด้วย Endoscope (กล้องส่องตรวจภายในร่างกาย)
- ขูดหินปูนสัตว์เลี้ยงเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี
- X-Ray
- ตรวจเลือด และ ตรวจปัสสาวะ
- ป้องกันและกำจัดเห็บ หมัด และ พยาธิภายนอกอื่นๆ
- อาบน้ำสัตว์เลี้ยง
- จำหน่ายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง และ อาหารสัตว์เลี้ยงเกรดพรีเมี่ยม
- ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพและการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยง

เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 8.00-21.00 น.
ติดต่อได้ที่ 038 284231 และ 084 9242002

ขอบคุณเฮียสำหรับกระทู้นะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

AscoGenetic5

07/11/2010 09:10:58
175
เดี๋ยวดันให้ทุกวันเลย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

Collagen

07/11/2010 10:02:01
4
ดันนิดนึงครับ... ^ ^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

ManPlayEar

07/11/2010 11:35:10
21
หลุ่งสนใจEndoscopeรึเปล่า 5 5
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

Elvis

07/11/2010 11:57:14
1
อยากรู้ว่ารับรักษากระต่ายไหมครับ? เพราะว่าที่บ้านมีอยู่สองตัว =w=" อยู่ที่ชลบุรีซะด้วยสิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

petch_a_vet

07/11/2010 13:55:54
0
กระต่ายก็รับรักษาครับ กระต่ายเป็นอะไรเหรอครับ ลองพามาดูก่อนก็ได้ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

leenawat_sri

07/11/2010 13:57:10

พี่ หมอเพชร ครับ


ถ้านกเขาไม่ขันนี่ ปรึกษาพี่ได้ไหมครับ 5555+

(หน้าม้ามาแหล่ว)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

petch_a_vet

07/11/2010 14:06:40
0
^
^
^
นกเขาไม่ขันนี่ผมไม่รู้จะช่วยยังไงเลยครับ คงต้องลองปั่นดูก่อนมั๊งครับ เผื่อจะช่วยได้ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

pigeon

07/11/2010 14:26:09
0
แล้วถ้าของผมมันขันไม่ยอมหยุดล่ะพี่ 5555555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

llSilveRll

07/11/2010 14:36:56
0
งั้นแสดงว่าของผมปกติเพราะขันเป็นพักๆ 555+
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

Elvis

07/11/2010 20:51:30
1
ไม่ได้เป็นไรครับคุณหมอ ^_^ แต่ว่าลองถามดู เผื่อเกิดอะไรขึ้นจะได้ให้ทางบ้านพาไปหาคุณหมอครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

The แพะ

07/11/2010 21:40:41
39
งานนี้มาคอนเฟิร์มว่า พี่หมอเพชรดูแลสัตว์เลี้ยงแบบถึงลูกถึงคนจริงๆๆๆ....แบะๆๆๆๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

นายมั่นคง

07/11/2010 22:03:49
4,282
จ๊ากๆๆๆๆๆ เข้าใจกันผิดหมดทุกคนเลยๆๆๆๆ


นกเขาไม่ใช่สัตว์เลี้ยงครับ แต่นกเขาเป็นสัตว์สงวนต่างหาก เราไม่เรียกว่าการรักษาครับ แต่เราต้องเรียกว่าการประคบประหงม 555



เจ้าแพะมาคอนเฟิมอีกคนหนึ่ง เพราะเจ้าแพะนี่ก็เคยปรึษากับหมอเพชร และมีเรื่องทุกข์ใจเรื่องนกเขา เอ๊ย เรื่องสุนัขที่เลี้ยงไว้ 555 ผมจำได้ว่าตอนนั้นหมอเพชรก็คือผุ้ให้คำแนะนำดีๆๆ ทุกขั้นตอนเลยล่ะครับ



หมอ petch ถ้ามีข้อมูล หรือมีข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์กับคนรักสัตว์เลี้ยง ก็เอามาลงตรงนี้ได้เน้อ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 16

Collagen

08/11/2010 21:01:49
4
ดันให้พี่หมอเพชรอีกรอบครับ... ^ ^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 17

มนุษย์แฮม

08/11/2010 21:04:31
0
เข้ามาเพราะ นกเขา อะครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 18

petch_a_vet

09/11/2010 20:14:27
0
ขออนุญาติดันขึ้นมาหน่อยนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 19

ทัตเทพ บุณอำนวยสุข

10/11/2010 08:35:54
113
ดัน ดัน และดันครับ.....
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 20

นายมั่นคง

10/11/2010 10:18:16
4,282
นี่ผมก็เพิ่งได้ความรู้ใหม่ๆๆ จากเฮียสุกฤษฏ์เรื่องหานมแพะไปให้ลูกสุนัขกินนี่ล่ะครับ เอ้า ถือว่าเป็นเกร็ดความรู้ใหม่ๆๆๆ

ท่านใดมีปัญหาเรื่องสัตว์เลี้ยง ปรึกษาได้ที่กระทู้นี้ได้เลยเน้อ 55
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 21

เบียส

10/11/2010 13:44:17
11
55 หมอ ครับ ไดโนเสาร์ ที่บ้าน ไม่ยอมทานข้าว อ่ะ ครับ ทำไงดี อ่ะจ๊าก !!!! .............อิ อิ อิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 22

basictoday

10/11/2010 23:49:30
0
ดันแรงๆครับ ว่าแต่ประชากรในเวปนี้ ส่วนใหญ่จะปรึกษาแต่ปัญหาเกี่ยวกับนกนะครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 23

the sun ho

11/11/2010 07:08:58
0
ของผมหมูนะครับพี่ๆ เด๋วแอด link ต่อนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 24

เต้_พ่อน้องแพงครับ

11/11/2010 09:39:46
3
นกเขาขันตอนที่ไม่ควรขันล่ะครับหมอทำไงดีเดี๋ยวเอาไปให้ดูนะครับ 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 25

Noize

11/11/2010 11:30:02
2
^
^

เอ่อ.. เต้แน่ใจนะ ว่าหมอจะยอมดูให้

แบบนี้อันตรายมาก ขึ้นฝั่งเมื่อไหร่ต้องพานกเขาไปทำกายภาพบำบัดด่วน 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 26

petch_a_vet

11/11/2010 13:11:43
0
เต้ครับ ผมว่านกเขาเต้ไม่น่าจะรักษาหายนะครับ ต้องลองวินิจฉัยดูก่อน แต่ว่า ขั้นตอนการวินิจฉัยจะต้องตัดหัวนกเขาไปตรวจนี่สิครับ เต้ยอมไหมครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 27

Noize

11/11/2010 17:56:16
2
^
^

กรั๊กๆๆๆ.. แบบนี้เรียกว่าเสี่ยงเป็นโรคพิษนกเขาบ้าสิครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 28

petch_a_vet

13/11/2010 19:50:20
0
หลายๆวันดันสัก 1 ทีครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 29

นายมั่นคง

13/11/2010 23:42:45
4,282
ถ้าหมอเพชรมีพวกรูปภาพประกอบ หรือพวกบทความ เอามาลงได้เลยเน้อ แฟนๆๆ ที่รักสัตว์เลี้ยงจะได้ความรู้หรือเคล็ดลับเพิ่มขึ้นด้วยไปในตัวล่ะครับ 555

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 30

petch_a_vet

15/11/2010 18:43:05



ไหนๆ เฮียก็ให้โอกาสในการหาบทความมาลง ผมก็ขอเอาบทความนี้มาลงแล้วกันนะครับ เป็นบทความที่ผมเขียนไว้ตั้งแต่สมัยหนุ่มๆครับ

ทำอย่างไรดีเมื่อได้เจ้าสุนัขตัวน้อยน่ารักมาใหม่

โดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อเรานึกอยากจะได้ลูกสุนัขมาเลี้ยงสักตัว ถ้าเป็นคนในเมืองฟ้าอมรหรือกรุงเทพมหานครก็คงจะนึกถึงสวนจตุจักร หรือ ตลาด อตก.กันเป็นส่วนใหญ๋ใช่ไหมครับ ดังนั้นเมื่อเราได้เจ้าตัวน้อยๆมาแล้วเราจะทำอย่างไรดีล่ะ จะอาบน้ำให้เลยได้รึเปล่าเพราะรู้สึกว่าตัวเหม็นจัง เจ้าตัวน้อยจะกินอะไรล่ะให้กินนมกล่องดีหรือเปล่านะ หรือว่าจะให้กินข้าวกับหมูทอดกระเทียมพริกไทยดี หรือว่าจะให้กินอาหารสำเร็จรูปกันล่ะ แล้วเรื่องอึกับฉี่จะทำอย่างไรดี ถึงจะฝึกให้อึฉี่เป็นที่เป็นทางได้หรือเปล่า ซึ่งคำถามเหล่านี้คงจะเป็นคำถามที่เกิดขึ้นมาในหัวของเรราเมื่อเราได้ลูกสุนัขมา ดังนั้นเมื่อได้ลูกสุนัขมาใหม่แล้วอะไรเป็นสิ่งที่ควรทำ อะไรเป็นส่งที่ไม่ควรทำ ผมได้สรุปให้เป็นข้อๆดังนี้ครับ

1. หลังจากได้รับลูกสุนัขตัวใหม่มายังไม่ควรจะอาบน้ำให้ เพราะว่า อาจจะทำให้ไม่สบายได้ เนื่องจากว่าลูกสุนัขมักจะมีความเครียดซึ่งเกิดจากหลายๆเหตุผล เช่น ถูกแยกจากแม่สุนัขมา การอยู่ในร้านขายสุนัขโดยที่มีคนมากหน้าหลายตาผ่านไปผ่านมาบ้าง มีสุนัขแปลกหน้าเยอะแยะไปหมดบ้าง หรือแม้กระทั่งการพาเดินทางกลับบ้านของคุณตาลและเจ้าตัวน้อย ก็เป็นสาเหตุให้เกิดความเครียดได้ ซึ่งไอ้เจ้าความเครียดนี่ล่ะครับ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันถูกกดเนื่องจากร่างกายจะมีการหลั่งสารบางอย่างออกมาเมื่อเกิดภาวะเครียดซึ่งทำให้ภูมิคุ้มกันต่างๆลดลงจึงป่วยได้ง่ายกว่าปกติ ซึ่งถ้าหากเราอาบน้ำให้อาจทำให้ป่วยทันทีเลยล่ะครับ

2. หลังจากสุนัขมาถึงบ้านควรให้สุนัขได้เดินสำรวจทำความคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่เพื่อให้สุนัขหายเครียดเร็วที่สุด จากเหตุผลเดียวกับข้อที่กล่าวมา และที่สำคัญควรปล่อยให้เจ้าตัวน้อยได้พักผ่อนอย่างเต็มที่หลังจากต้องฝ่าฟันเดินทางพร้อมกับเจ้านายใหม่เพื่อกลับบ้าน

3. ขอให้คิดไว้เสมอว่า ลูกสุนัขตัวน้อยๆก็เทียบได้กับเด็กทารกอายุไม่กี่เดือนซึ่งต้องการการเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นแล้วถ้าหากเราจะพาเจ้าตัวน้อยไปไหนมาไหนก็ควรจะคิดไว้เสมอๆว่า คือการพาเค้าออกไปรับเชื้อโรคมานั่นเองครับ

4. ลูกสุนัขควรจะได้รับอาหารวันละ 4-5 มื้อ จนอายุ 4-5 เดือนแล้วจึงอาจจะลดลงเหลือเพียงวันละ 3 มื้อ และเหลือ 2 มื้อเมื่อสุนัขอายุได้ประมาณ 10-12 เดือน ซึ่งผลพลอยได้จากการให้อาหารเป็นมื้อก็คือ เราสามารถที่จะฝึกให้เจ้าตัวน้อยของเราได้หัดที่จะขับถ่ายเป็นที่เป็นทางได้ไปในตัว เนื่องจากเมื่อลูกสุนัขกินอาหารเป็นมื้อตรงเวลาแล้ว ก็จะถ่ายเป็นเวลาด้วยเช่นกัน คือถ่ายหลังจากการกินอาหาร และเมื่อเราทราบแล้วว่า สุนัขจะถ่ายตอนไหน เราก็สามารถที่จะฝึกได้โดยเมื่อเจ้าตัวน้อยกินอาหารเสร็จ เราก็จัดการพาเค้าไปเดินเล่นอยู่ในที่ที่เราต้องการให้เค้าขับถ่าย ซึ่งเราก็จะสังเกตเห็นได้ว่าเมื่อเค้ากำลังจะถ่ายเค้าจะเดินวนไปวนมาทำท่าดมๆ ซึ่งเมื่อเราเห็นอย่างนี้แล้วก็แสดงว่า อีกไม่นานต้องถ่ายแน่ๆ ที่สำคัญก็คือ ถ้าหากเค้าสามารถถ่ายในที่ที่เราจัดไว้ ก็ควรจะแสดงความชื่นชมในความสามารถเค้าด้วยนะครับ เช่น กล่าวชมบ้างหรืออาจให้ขนมเล็กๆน้อยๆ เพื่อเป็นรางวัล สิ่งเหล่านี้ก็ค่อนข้างสำคัญนะครับในการที่จะฝึกสุนัข และในทางตรงข้าม ถ้าหากเค้าถ่ายไม่เป็นที่ เราก็ควรจะดุเค้าเช่นกัน ซึ่งสุนัขเค้าฟังจากน้ำเสียงของเรา เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อเราดุเค้าเราก็ควรที่จะใช้น้ำเสียงที่เฉียบขาด และในทางตรงกันข้ามเมื่อเราจะกล่าวชมเค้าเราก็ควรที่จะใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนด้วยเช่นกัน

5. ถ้าอยากให้สุนัขสุขภาพสมบูรณ์และแข็งแรงก็ควรจะให้อาหารสำเร็จรูปไม่ว่าจะเม็ดหรือกระป๋องก็ได้แต่ควรเลือกยี่ห้อที่ดีสักนิดครับ โดยเราไม่ควรจะคิดว่า ถ้าเค้ากินแต่อาหารเม็ดแล้วจะเบื่อเพราะความจริงแล้วถ้าหากในชีวิตของเค้าไม่เคยได้กินอาหารอย่างอื่นเลย เค้าก็จะไม่รู้ว่าในโลกนี้ยังมีของอย่างอื่นที่กินได้ เค้าก็จะไม่รู้สึกว่าเบื่อหรือไม่อยากกินอาหารเม็ดเลย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นเจ้าของมากกว่าค่ะที่คิดว่าสุนัขจะเบื่ออาหารสำเร็จรูป

6. ถ้าหากเราจะฝึกให้เค้าไม่นอนกับคนหรือให้นอนในกรง เราก็ควรที่จะให้เค้านอนในที่ๆเราต้องการตั้งแต่วันแรกที่ได้มาถึงแม้ว่าเมื่อถึงเวลาแล้วเค้าจะร้องโหยหวนขอนอนด้วย เราก็ควรจะทำใจแข็งปล่อยให้เจ้าตัวน้อยร้องอยู่ต่อไปไม่เกิน 2-3 วันเค้าก็จะชินไปเอง ซึ่งถ้าหากเราใจอ่อน ต่อไปเค้าก็จะไม่ยอมนอนที่ไหนทั้งสิ้น ซึ่งบางครั้งกลับกลายเป็นว่า สุนัขได้นอนบนเตียง ส่วนเจ้าของต้องลงไปปูเสื่อนอนข้างเตียงก็มี

7. ควรพามาพบสัตวแพทย์เพื่อถ่ายพยาธิและตรวจสุขภาพเบื้องต้นก่อน และเมื่ออยู่บ้านใหม่ได้ครบ 2 อาทิตย์ โดยที่เจ้าตัวน้อยไม่ป่วยเสียก่อนก็ให้พามาทำวัคซีนได้เลย แต่ถ้าหากว่าเค้ามีอาการป่วยในช่วง 2 อาทิตย์นั้นก็ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน ซึ่งเราจะทราบได้อย่างไรว่าเค้าป่วยน่ะหรือครับ คำตอบก็คือ เจ้าตัวน้อยมักจะมีกิจกรรมอยู่เพียงแค่ 3 อย่างครับ คือ กิน นอน และ เล่นค่ะ ซึ่งถ้าหากว่าเจ้าตัวน้อยมีอาการอย่างอื่นหรือขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปล่ะก็คงจะเริ่มป่วยแน่นอนครับ


อันนี้เป็นบทความที่ผมเคยเขียนไว้ทำเป็นจุลสารแจกในคลินิคครับ ก็มาดัดแปลงประโยคบ้างน้ิดหน่อยเพื่อให้เหมาะสมขึ้นครับ

ขอบคุณที่สละเวลาอ่านนะครับ หวังว่า คงได้รับประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 31

นายมั่นคง

15/11/2010 20:46:48
4,282
เยี่ยมเลยครับหมอเพชร 555 ผมยังสงสัยอยู่ข้อเดียว ที่ว่าเขียนตั้งแต่ยังหนุ่ม แสดงว่าตอนนี้แก่แล้วเหรอนั่น 555 จ๊ากๆๆๆๆ ยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลยนะครับคุณหมอเพชร

ผมใส่รูปลูกสุนัขให้อีกหน่อย จะได้สวยขึ้นไปอีกครับ

ถ้าหากมีบทความอะไรที่เป็นประโยชน์ สาระ เอามาแนะนำกันเลยเน้อ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 32

petch_a_vet

16/11/2010 07:35:08
0
ขอบคุณเฮียครับที่ช่วยเอารูปน่ารักๆมา add ให้ครับ เดี๋ยวมีโอกาสจะเอาบทความอื่นๆมาลงไว้อีกครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 33

petch_a_vet

18/11/2010 11:09:14
0
ขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 34

petch_a_vet

22/11/2010 11:27:41
0
ขอดัน 1 ทีครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 35

นายมั่นคง

22/11/2010 11:36:29
4,282
หมอเพชรมีแผนที่ก็มาลงได้นะครับ ผมมองไปมองมา อ้าว ไม่มีแผนที่ 555

เอาแผนที่มาโพสเลยครับ เดี๋ยวผมจะอัพขึ้นบนกระทู้แรกสุดให้ร่วมไปเลย หรือจะเอาภาพโรงพยาบาลมาโพสให้เห็น คนจะได้ทราบน่ะครับ 555

จัดมาโลดเลยหมอเพชร 55
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 36

armaniex99

22/11/2010 13:44:36
ไม่ได้แปรงฟันให้หมาเลยอ่ะ ต้องทำไงบ้างอ่าครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 37

นายมั่นคง

22/11/2010 14:28:03
4,282
เอ้า เดี๋ยวหมอเพชรมาจัดการแนะนำให้ครับ 555

ผมเองยังนึกไม่ออกว่าเค้าทำกันยังไง แ่ต่เห็นคนเค้าเล่ากันอยู่เหมือนกันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 38

AscoGenetic5

22/11/2010 21:53:33
175
ช่วยดันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 39

petch_a_vet

23/11/2010 08:47:05
0



เรื่องแปรงฟันนี่ไม่ยากครับถ้าหากเอาแปรงมาเริ่มถูๆไถๆให้เค้าตั้งแต่เค้ายังเป็นหมาเด็กอยู่ครับ
ถ้าสะดวกหน่อยมันก็จะมีแปรงสิฟันสำหรับสุนัขขายครับโดยตัวแปรงเองจะมี 2 ด้าน ด้านหนึ่งเล็ก
หัวเรียวสำหรับสุนัขเด็กหรือพันธุ์เล็ก อีกด้านจะหัวใหญ่หน่อยครับสำหรับสุนัขโตหรือพันธุ์ใหญ่ครับ
แล้วก็อีกอย่างที่มีมาในชุดคือมีแปรงปลอกนิ้วมือครับ อันนี้ผมว่าใช้ง่ายดีครับ ส่วนตัวยาสีฟันนี้
ก็จะไม่เหมือนกับยาสีฟันที่คนใช้นะครับ เพราะว่า ของสุนัขมักจะเป็นยาสีฟันที่กินได้ครับ แล้วก็
มีรสชาติต่างๆค่อนข้างเยอะครับ

เริ่มแรกเลยเราก็อาจจะด้วยการเอายาสีฟัน(สำหรับสุนัข)ป้ายกับนิ้วแล้วเอานิ้วเราไปถูๆฟันเค้าสัก
3-4 ซี่ก่อนก็ได้ครับ ค่อยๆทำไป ทำบ่อยๆให้เค้าค่อยๆคุ้นเคยกับรสชาติของยาสีฟันแล้วก็คุ้นเคย
กับการถูกเอานิ้วเข้าไปถูๆปากครับ หลังจากนั้นพอเค้าเริ่มคุ้นเคยแล้วก็เริ่มเอายาสีฟันป้ายกับแปรง
สีฟันขนาดที่เราต้องการจะใช้มาแปรงเบาๆที่่ฟันเค้าสัก 3-4 ซี่ก่อนเพื่อให้เค้าคุ้นเคยเช่นกันครับ
แล้วก็ค่อยๆเพิ่มจำนวนซี่มากขึ้นเรื่อยๆจนทั่วทั้งช่องปากครับ

สุนัขบางตัว(เช่นของผม)ชอบยาสีฟันมากๆ เห็นปุ๊บวิ่งใส่ปั๊บเลย ยังไม่ทันได้แปรงก็เลียกินไปหมดแล้ว 555

การแปรงฟันมีข้อดีหลายอย่างครับ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ทำการขูดหินปูนให้สุนัขแล้ว เพราะว่า
การแปรงฟันจะช่วยให้การก่อตัวของหินปูนช้าลงครับ มีข้อสงสัยอะไรก็ตั้งคำถามทิ้งไว้หรือโทรมาที่
038 284231 หรือ 084 9242002 ครับ ยินดีให้คำปรึกษาโดยไม่คิดสตางค์ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 40

petch_a_vet

23/11/2010 08:56:45
0



เฮียครับ แผนที่นี่ผมทำไม่เป็นครับ เพราะว่าส่วนมาผมใช้มือวาดเอาครับ 555 แต่ว่า ผมมีพิกัดจาก google map ให้ครับ ถ้าเฮียจะกรุณาก็รบกวนช่วยทำเป็นแผนที่ หรือ link แผนที่บน google
map ให้ผมก็ได้นะครับ พิกัดก็เป็น 13.344914 N แล้วก็ 100.967209 E ครับ

ส่วนรูปนี้เป็นรูปภาพหน้าโรงพยาบาลสัตว์ของผมครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 41

Oud

23/11/2010 09:12:13
กระทู้ดีมากเลยครับเฮีย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 42

Musicogenic51

23/11/2010 10:04:27
4
มาช่วยดันครับ หมอเพชร นิสัยดีครับ

ใครอยู่ชลบุรี มีปัญหา หมาแมว ไปหาหมอเพชรได้จ้า

อุดหนุนแกเยอะๆ จะได้มีตังไปขอแต่งแฟน อิ อิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 43

นายมั่นคง

23/11/2010 10:53:58
4,282



เอ้า ลองดูอันนี้ก่อนว่าใช่เปล่าครับหมอเพชร ผมเองก็ไม่ค่อยเป็นเรื่องแผนที่เหมือนกัน 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 44

petch_a_vet

23/11/2010 21:39:05
0
เอา link แผนที่จาก google map มาอัพเดตเพิ่มนิดหน่อยครับ ที่นี่เลยครับ
http://maps.google.co.th/maps?q=13.344924,100.967206&num=1&t=h&sll=13.34503,100.967315&sspn=0.002033,0.004128&hl=th&ie=UTF8&ll=13.34503,100.967315&spn=0.002033,0.004128&z=19
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 45

AscoGenetic5

23/11/2010 22:08:44
175
ผมจำร้านหมอเพชรไม่ได้เลยครับ

แต่ถ้าเป็นร้านที่ใกล้ๆกัน....จำแม่นมาก โซฟากี่ตัววางตรงไหนยังจำได้ 555 เอิ๊กๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 46

นายมั่นคง

23/11/2010 22:13:14
4,282
อ้าว แบบนี้ผมต้องหาเรื่องซื้อสุนัขซักตัว เพื่อจะได้มีข้ออ้างไปรักษาที่ ร.พ.หมอเพชรน่ะซิครับคุณหลุ่ง 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 47

AscoGenetic5

23/11/2010 22:17:07
175
^
^
รหัสลับ Good Times ครับเฮีย

ส่วนลับกว่านั้นต้องหลังไมค์ครับ เว็ปเฮีย เด็กๆเยอะ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 48

petch_a_vet

27/11/2010 11:28:36
0
เดี๋ยวหลังวันจันทร์จะเอาบทความมาลงอีกสักเรื่องครับ ตอนนี้ยุ่งๆก็เลยยังไม่มีเวลา ขอดันไปก่อนแล้วกันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 49

lexibeat

01/12/2010 00:16:45
0
เพิ่งจะมาเห็น หลังจากหายไม่ได้เข้าบอร์ดเฮียซะนาน


ดันไปดอกนึง 5555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 50

te

01/12/2010 09:20:00
8
แวะมาหาข้อมูลครับคุณหมอ ดีจริงๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 51

นายมั่นคง

01/12/2010 10:24:01
4,282
ว่างๆ อย่าลืมเอาบทความมาฝากกันเน้อ 55
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 52

petch_a_vet

06/12/2010 18:50:33
0
โรคที่สำคัญในสุนัข

โรคต่างๆในสุนัขโดยปกติแล้วจะมีเยอะมากมาย แต่ว่าโรคที่สำคัญๆและมักจะทำให้สุนัขเสียชีวิตก็มักจะเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส และที่สำคัญโรคบางโรคสามารถติดต่อมาถึงคนอย่างเราๆได้ด้วยครับ ก่อนอื่นเราคงต้องรู้กันก่อนว่า ไวรัส คืออะไร เจ้าไวรัส(วายร้าย)มันเป็นอย่างไร

ไวรัส ก็คือ เชื้อโรคชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กมาก ซึ่งถ้าอยากจะเห็นเจ้าตัวไวรัสเราก็จะต้องใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า กล้องจุลทรรศน์อิเล็คตรอนที่มีกำลังขยายสูงมากเป็นหมื่นๆเท่ามาส่องดูจึงจะเห็นได้ ไวรัสเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีองค์ประกอบของเซลล์ไม่ครบถ้วน แต่ว่าความสำคัญของไวรัสก็คือว่า ไม่มียาใดๆในโลกนี้ที่จะไปฆ่าเชื้อไวรัสเหล่านี้เมื่ออยู่ในร่างกายได้ เหมือนเช่นโรคหวัดในคนซึ่งไม่มียารักษาที่ไปฆ่าเชื้อหวัดได้โดยตรง มีแต่ยาที่ช่วยบรรเทาอาการจากหวัดที่เป็นอยู่แล้วก็รอให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต่อต้านโรคเอง ดังนั้นโรคไวรัสต่างๆในสุนัขจึงมักจะเป็นโรคที่มีความร้ายแรงมาก ไม่มียารักษาโดยตรงและส่วนมากมักทำให้สุนัขถึงตายได้เลยครับ

โรคลำไส้อักเสบติดต่อในสุนัข เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า พาโวไวรัส สุนัขมักจะได้รับเชื้อผ่านทางการกินหรือปนเปื้อนโดยอุจจาระจากสุนัขตัวอื่นๆที่ป่วยมาก่อน นอกจ่ากนี้ยังอาจติดเชื้อโดยการเลียหน้าเลียตาหรือเนื้อตัวของสุนัขตัวที่ป่วยหรือการเลียไม้เลียมือของคนที่ไปสัมผัสสุนัขที่ป่วยเป็นโรคนี้

เมื่อสุนัขได้รับเชื้อเข้าไปแล้วสุนัขจะยังไม่ป่วยทันทีหรอกเพราะว่า เชื้อเหล่านี้จะต้องผ่านระยะฟักตัวเพื่อเพิ่มจำนวนเชื้อในร่างกายสุนัขก่อนซึ่งจะกินเวลา 3-5 วัน ดังนั้นในระยะฟักตัวนี้สุนัขก็จะยังคงมีอาการเป็นปกติดีทุกอย่างเลย แต่เมื่อพ้นจากระยะฟักตัวแล้วสุนัขก็จะเริ่มป่วยให้เห็น ซึ่งอาการก็จะมีตั้งแต่ ซึม เบื่ออาหาร อาเจียน ถ่ายเป็นมูกเลือด ถ้ามีอาการหนักมากและสุนัขไม่สามารถทนต่ออาการป่วยเหล่านี้ได้ก็อาจทำให้เสียชีวิต โดยเฉพาะในลูกสุนัข และถ้าหากว่าเป็นลูกสุนัขที่อายุน้อยมากๆลูกสุนัขอาจตายจากอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลันก่อนที่จะแสดงอาการท้องเสียก็ได้ครับ สาเหตุที่ลูกสุนัขเล็กมากตายด้วยอาการของกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบเฉียบพลันก็เนื่องมาจากว่า โดยธรรมชาติของเชื้อไวรัสชนิดนี้มักจะชอบโจมตีเซลล์ที่มีอัตราการแบ่งตัวสูงๆ (อย่างเช่นเซลล์ของทางเดินอาหาร) และในลูกสุนัขอายุน้อยมากๆส่วนของหัวใจจะมีการแบ่งเซลล์ในอัตราที่สูงมากจึงทำให้เชื้อนี้เข้าทำการโจมตีเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจแทนที่จะเป็นส่วนของทางเดินอาหารครับ

แต่ว่าในสุนัขโตก็สามารถป่วยและตายได้เช่นกันครับ เพียงแต่ว่าอัตราการตายในสุนัขโตอาจจะน้อยกว่าในลูกสุนัขเล็กน้อย เนื่องจากว่าสุนัขโตมักจะมีความแข็งแรงและทนต่ออาการป่วยได้มากกว่าลูกสุนัข ถ้าหากว่าเค้าสามารถทนต่อความเจ็บป่วยเหล่านั้นได้ประมาณสัก 7-10 วันเค้าก็จะหายจากโรคนี้ได้

โรคไข้หัดสุนัข เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่สำคัญอีกโรคหนึ่ง โดยสุนัขสามารถติดโรคนี้ได้โดยการหายใจเอาเชื้อเข้าไปเป็นทางหลัก แต่ว่าก็สามารถติดต่อผ่านทางอื่นๆได้เช่นกัน ซึ่งก็จะคล้ายๆกับการติดโรคลำไส้อักเสบคือสามารถติดต่อผ่านทางมือไม้ของคนที่มาสัมผัสเค้าได้เช่นกัน ระยะฟักตัวของโรคนี้จะใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน ดังนั้นสุนัขของเราก็จะยังไม่แสดงอาการป่วยในทันทีที่ได้รับเชื้อ แต่จะแสดงอาการป่วยเมื่อผ่านระยะฟักตัวไปแล้ว โดยอาการของโรคนี้ก็จะค่อนข้างหลากหลาย เพราะว่าเชื้อไวรัสตัวนี้จะเข้าไปสู่ระบบต่างๆในร่างกายหลายระบบ อาการหลักๆที่มักพบได้บ่อยๆได้แก่ ซึม เบื่ออาหาร มีอาการคล้ายหวัด ไอ จาม ในบางตัวอาจมีตุ่มใสๆหรือตุ่มแดงๆใต้ท้องได้ แต่ส่วนมากจะมีน้ำมูกเขียว ท้องเสีย อาเจียน ฝ่าเท้าและสันจมูกหนาแข็ง และสุดท้ายอาจมีอาการทางประสาทเช่น เคี้ยวปากคล้ายกับเคี้ยวหมากฝรั่ง หนังศีรษะกระตุก และ ชัก ซึ่งสุนัขป่วยอาจจะมีการทั้งหมดเลยหรือมีอาการแค่บางอย่างก็ได้ครับ สุนัขที่ป่วยมากส่วนใหญ่มักจะเสียชีวิต ส่วนสุนัขที่มีอาการทางระบบประสาทเช่น มีอาการชักแล้วนั้นเมื่อหายจากโรคนี้ ก็จะยังคงแสดงอาการของระบบประสาทอยู่ เนื่องจากว่า ระบบประสาทส่วนที่ได้รับความเสียหายแล้วก็จะเกิดความเสียหายอยู่อย่างถาวร ระยะเวลาของการรักษาโรคนี้ก็ไม่แน่นอน จะขึ้นอยู่กับอาการว่ามีอยู่ที่ระบบใดบ้างและมีการติดเชื้ออย่างอื่นแทรกซ้อนด้วยหรือไม่ และการรักษาส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นการรักษาตามอาการเพื่อประคองให้สุนัขมีความแข็งแรงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ เพื่อรอให้สุนัขสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคขึ้นมาต่อต้านเชื้อเอง

โรคพิษสุนัขบ้าเป็นอีกโรคที่สำคัญในสุนัขและที่สำคัญเป็นโรคที่ติดต่อถึงคนได้ ซึ่งถ้าหากคนติดโรคนี้แล้วไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหรือภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปอย่างทันท่วงทีสามารถทำให้คนคนนั้นเสียชีวิตได้เนื่องจากว่า โรคนี้เมื่อแสดงอาการแล้วจะไม่มีทางรักษานั่นเองครับ โรคนี้ถึงแม้ว่าจะได้ชื่อว่า "โรคพิษสุนัขบ้า" แต่จริงๆแล้วสามารถเป็นได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นแมว กระต่าย หรือ หนู การติดต่อของโรคนี้ก็เริ่มจากการที่ถูกสัตว์ที่เป็นโรคนี้กัด เพราะว่าเชื้อโรคนี้จะพบอยู่มากในน้ำลายของสัตว์ที่ป่วยเป็นโรคนี้อยู่ โดยอาการของโรคนี้จะมี 2 แบบคือ แบบซึมเศร้าและแบบดุร้าย ซึ่งแบบซึมเศร้าเราจะสังเกตุได้ยากกว่าเพราะสัตว์มักจะเก็บตัวเงียบไม่ค่อยออกมาสุงสิง ดังนั้นเมื่อเราสงสัยว่า สุนัขที่เราเลี้ยงอยู่อาจจะเป็นโรคนี้ก็ให้เราขังสุนัขไว้สังเกตุอาการและถ้าหากว่าสุนัขนั้นตายลงก็ให้รีบนำไปตรวจยังสถานเสาวภาได้เพียงแห่งเดียวเท่านั้นครับ

โรคพยาธิหนอนหัวใจ เป็นโรคที่มีสิ่งมีชีวิตที่เราเรียกว่า ปรสิต หรือ พยาธิเข้าไปอาศัยอยู่ที่หัวใจและหลอดเลือดปอดของสุนัข(และในบางครั้งอาจติดต่อไปถึงแมวได้เช่นกันครับ) โดยสุนัขจะได้รับปรสิตนี้ซึ่งมียุงเป็นพาหะนำโรคนี้มาให้สุนัข โดยวงจรการติดโรคจะเริ่มจากการที่สุนัขของเราถูกยุงที่มีตัวอ่อนของพยาธินี้อยู่มากัด เมื่อยุงที่มีตัวอ่อนของพยาธิอยู่นี้มากัดสุนัขของเรา ยุงก็จะส่งผ่านตัวอ่อนนี้มาให้สุนัข เมื่อตัวอ่อนนี้เข้ามาอยู่ในร่างกายสุนัขแล้ว ก็จะเริ่มพัฒนาเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นพยาธิตัวเต็มวัยและไปอาศัยอยู่ในหลอดเลือดของปอดและในหัวใจห้องล่างขวาของสุนัข เมื่อสุนัขได้รับพยาธิจำนวนมากขึ้น สุนัขก็จะเริ่มแสดงอาการของโรคพยาธิหนอนหัวใจโดยอาจมีอาการตั้งแต่ ไอแห้งๆ เหนื่อยง่าย หอบหายใจเกือบตลอดเวลา เมื่อมีอาการมากขึ้นไปอีก สุนัขก็จะแสดงอาการของโรคหัวใจซีกขวาล้ำเหลว โดยอาจมีอาการท้องมานมีน้ำในช่องท้อง บวมน้ำตามส่วนต่างๆของร่างกาย เหนื่อยหอบมากขึ้น บางครั้งถึงขั้นที่สุนัขไม่สามารถล้มตัวลงนอนได้เนื่องจากหายใจไม่ออก การที่สุนัขมีอาการของโรคหัวใจก็เนื่องมาจากการที่ พยาธิหนอนหัวใจเข้าไปอาศัยอยู่ในหัวใจเป็นจำนวนมาก ทำ
ให้หัวใจทำงานได้ไม่เต็มที่ เมื่อหัวใจไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ร่างกายจะมีการปรับเปลี่ยนตัวเองโดยการให้หัวใจทำงานเร็วขึ้นเพื่อชดเชยส่วนที่ขาดไป ดังนั้นเมื่อหัวใจทำงานเร็วขึ้น หนักขึ้น หัวใจก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวขึ้น แต่ห้องหัวใจกลับมีขนาดยิ่งเล็กลง และหากหัวใจยิ่งมีขนาดใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำงานได้ลดลงเท่านั้น ก็จะเหมือนกันคนเราเวลาเล่นกล้ามเมื่ออยากให้กล้ามโตก็ต้องออกกำลังคือให้กล้ามเนื้อได้ทำงานมากขึ้นนั่นเอง และที่สำคัญคือ พยาธิหนอนหัวใจมีช่วงชีวิตในร่างกายสุนัข 7-10 ปี ซึ่งช่วงชีวิตเกือบเท่ากับสุนัขของเราเลยครับ

แม้ว่าโรคต่างๆเหล่านี้จะดูหน้ากลัวแต่ว่าเราก็สามารถที่จะป้องกันโรคต่างๆเหล่านี้ได้ด้วยการทำวัคซีนและฉีดยา, กินยา หรือ หยอดยาป้องกันโรคพยาธิหนอนหัวใจให้แก่สุนัขของเราตามโปรแกรมที่สัตวแพทย์ได้กำหนดไว้ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 53

loliconman

06/12/2010 19:36:40
1



ถามคุณหมอเพชรนิดนึงครับ พอดีผมเป็นคนชอบเลี้ยงไก่
ตอนนี้ก็เลี้ยงไก่แจ้ ไก่ยักษ์บราม่า และไก่ปักิ่งอยู่
ผมเป็นห่วงเรื่อง โรคหลอดลมอักเสบและหวัดลงคออ่ะครับ เคยเลี้ยงไก่เก้าชั่งก็ตายยกคอกเลย
เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงนิดนึงนี่เป็นกันเลยอ่ะครับ ไม่ทราบว่าต้องหาทางป้องกันยังไงบ้างครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 54

loliconman

06/12/2010 19:37:21
1



ในรูปนี่เป็นเจ้าบราม่าน้อย ไล่ที่หมาอยู่ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 55

petch_a_vet

06/12/2010 20:05:22
0
เรื่องไก่นี่ออกตัวก่อนเลยครับว่า ไม่ค่อยถนัดครับ แต่ก็พอจำได้เราๆครับ ต้องถามก่อนว่า เลี้ยงเค้าในสภาพแบบไหนครับ เลี้ยงปล่อยเกาะคอน หรือว่า กลางวันเลี้ยงปล่อยแล้วกลางคืนเข้าเล้าครับ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นสิ่งแรกเลยคือ ลมครับ ว่า ลมโกรกไหม ถ้าลมโกรกมากต้องมีที่บังลมครับ ถ้าเลี้ยงเล้านี่อาจจะง่ายหน่อยครับ แต่ไม่ว่า จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ถ้ารู้สึกว่า ไก่เริ่มมีความเครียดต้องให้วิตามินผสมน้ำเลยนะครับเพราะว่า มันจะช่วยลดความเครียดของไก่ได้บ้างครับ ช่วงอากาศเปลี่ยนไก่จะเครียดและป่วยง่ายครับ ต้องมีวิตามินแบบละลายน้ำติดบ้านไว้เลยครับ ส่วนเรื่องอื่นๆเดี๋ยวผมโทรถามเพื่อนที่เป็นหมอตามฟาร์มไก่ดูก่อนนะครับ แล้วจะตามมาตอบให้อีกทีนะครับเสธฯ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 56

loliconman

06/12/2010 20:13:33
1
ขอบคุณครับ มีวิตามินอยู่ ที่ละลายน้ำสีออกแดงๆ
ส่วนการเลี้ยงก็กลางวันปล่อย กลางคืนเข้ากรงหมาครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 57

นายมั่นคง

06/12/2010 21:26:17
4,282
โอววว บทความใหม่ๆๆ มาแล้วววว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 58

petch_a_vet

09/12/2010 16:04:34
0
มาตอบเสธฯ แล้วครับ หมอสัตว์ปีกบอกว่า ควรระวังไม่ให้โดนฝนอย่าปล่อยไก่ออกมาถูกฝน, คอยให้วิตามินเรื่อยๆ ขนาดประมาณ 1-2 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตร, ทำวัคซีนรวมของไก่ที่มีโรค newcastle ทำเป็น strain lasota ร่วมด้วย รวมกับ โรคหวัดและหลอดลมอักเสบติดต่อ โดยให้ทำทุกๆประมาณ 5-6 สัปดาห์ ตลอดชีวิตไก่ ส่วนวัคซีน ปัองกันกัมโบโร (อาจเป็นวัคซีนประเภท intermediate plus ที่เป็นวัคซีนป้องกันหลายๆโรคในลูกไก่) ในช่วงระยะเป็นลูกไก่จนถึง 2 เดือนครับ ถ้าอายุเกินกว่านี้ก็ไม่ต้องทำโรคกัมโบโรแล้วครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 59

petch_a_vet

09/12/2010 16:31:06
อีกนิดนึงครับ ถ้าไก่มีอาการซึม หงอย ปีกตก ขนยุ่ง หน้าบวม ตาบวม อาจจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วยได้ครับ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาปฎิชีวนะด้วยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 60

petch_a_vet

09/12/2010 19:18:15
0
ดันไว้ให้เสธฯมาอ่านก่อนครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 61

นายมั่นคง

09/12/2010 20:32:55
4,282
ท่านใดมีสัตว์เลี้ยง และมีปัญหาในการเลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กหรือใหญ่ หมอเพชรให้คำแนะนำได้เน้อ

โพสถามได้เลยนะครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 62

loliconman

10/12/2010 02:07:55
1
ขอบคุณมากเลยครับ
รบกวนถามข้อสุดท้ายละกันครับ
"ถ้าไก่มีอาการซึม หงอย ปีกตก ขนยุ่ง หน้าบวม ตาบวม อาจจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วยได้ครับ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาปฎิชีวนะด้วยครับ"
ไม่ทราบว่าต้องใช้ยาปฏิชีวนะตัวไหนครับ (เป็นบ่อยเหมือนกัน)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 63

เต้_พ่อน้องแพงครับ

10/12/2010 02:32:47
3
- ส่องตรวจอวัยวะต่างๆเช่น โพรงจมูก หลอดลม หลอดอาหาร ทางเดินปัสสาวะ ลำใส้ใหญ่ ด้วย Endoscope (กล้องส่องตรวจภายในร่างกาย)
---------------------------------------------------------------------
Endoscope ตัวนี้เคยใช้สาย Coax Black Cat เป็นสายภาพด้วยนะครับ ระดับ Hi-end ล่ะครับขอบอก ตอนนี้หมูหวานทำสายใหม่มาให้แล้ว แมวดำเลยกลับมาร้องเพลงต่อแล้วครับ อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 64

petch_a_vet

10/12/2010 08:28:35
0
ปฏิชีวนะมีหลายตัวเลยครับ ทีทั้งละลายน้ำ มีทั้งฉีดครับ แต่ถ้าเอาสะดวกก็เป็นละลายน้ำก็ได้ครับ พวกละลายน้ำก็อาจจะเป็น Amoxy ก็ได้ครับ ส่วนขนาดยาก็ 20 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมครับ ทีนนี้ขั้นตอนยุ่งยากก็คือว่า ต้องคำนานน้ำหนักต่อตัวของไก่แต่ละตัวครับ สมมุติว่า มีไก่ 10 ตัว ตัวละ 2 กิโลกรัม ก็เท่ากับว่า ไก่แต่ละตัวต้องได้ยาเท่ากับ 20 คูณ 2 เท่ากับ 40 มิลิกรัมต่อตัว (เพราะใช้ 20 มิลลิกรัมของยาต่อ 1 กิโลกรัมของสัตว์) ไก่มี 10 ตัว ก็เท่ากับใช้ยา 40 คูณ 10 เท่ากับ 400 มิลลิกรัมของยาทั้งหมดที่ต้องละลายน้ำ

หลังจากขั้นตอนคำนวนยาเสร็จก็มาถึงขั้นเตรียมยาครับ เราต้องรู้ก่อนว่า ยาที่เราซื้อมามันมีตัวยาเท่าไหร่ในส่วนผสมของยา ซึ่งตรงนี้มันจะเขียนเป็นเปอร์เซนต์ครับ เช่น Amoxy 10% ก็คือว่า มียา Amoxy อยู่ 10 กรัม (กรัมนะครับไม่ใช่มิลลิกรัม) ในน้ำหนักยาทั้งหมดในซอง 100 กรัม ซึ่งเราก็ต้องมาแปลงกรัมเป็นมิลลิกรัมครับ ซึ่ง มิลลิกรัม ห่างกับกรัมอยู่ 10 ยกกำลัง 3 ครับ ดังนั้น 1 กรัมก็คือ 1000 มิลลิกรัมครับ เพราะฉะนั้นแล้ว Amoxy 10% ก็เท่ากับมีตัวยา Amoxy อยู่ 1000 มิลลิกรัม ในยาทั้งหมดที่บรรจุอยู่ในซอง 100 กรัมครับ

ดังนั้นหากเราย้อนไปดูในตอนต้น ถ้าเราต้องการใช้ยาก 400 มิลลิกรัม เราก็ต้องเทยาออกมา (โดยเทียบบัญญัติไตรยางค์)ได้เป็น

หากต้องการ 1000 มิลลิกรัม ก็ใช้ยาเทจากซองทั้งหมด 100 กรัม
หากต้องการ 400 มิลลิกรัม ก็ใช้ยาเทจากซองทั้งหมด 400 คูณ 100 หารด้ย 1000 จะเท่ากับ 40 กรัมครับ

เราก็เทยาออกมา 40 กรัมเอาไปผสมน้ำให้ไก่กินต่อ 2 ชั่วโมง (ผสมแล้วให้ไก่กินให้หมดในเวลา 2 ชั่วโมงครับ) ซึ่งจะใช้น้ำเท่าไหร่นี่ขึ้นอยู๋กับเสธฯครับ ว่า ไก่เสธฯกินน้ำต่อตัวต่อ 2 ชั่วโมงเยอะไหม แต่ถ้าไก่ไม่กินน้ำเลย เราก็ต้องจับกรอกเอาครับโดยกรอกตามอันตรส่วนที่เราคำนวนได้นี่แหละครับ สมมุติ(อีกแล้ว)ว่า ถ้าเสธฯผสมยา 40 กรัมในน้ำ 100 ซี.ซี. (ซี.ซี. ก็คือ มิลลิลิตร) ก็แปลว่า ไก่ 10 ตัว ก็ต้องป้อนน้ำตัวละ 10 ซี่.ซี. นั่นเองครับ

เสธฯค่อยๆอ่านทวนหลายๆรอบนะครับ แล้วอาจจะลองทดใส่กระดาษด้วยก็จะดีครับ เพราะว่า อ่านอย่างเดียวอาจจะงงได้ครับ ค่อยๆอ่านทำความเข้าใจไปเรื่อยๆครับ ถ้าติดตรงไหนลองถามมาดูครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 65

petch_a_vet

10/12/2010 08:32:57
0
กันงงครับ ตรงย่อหน้าที่ 2 "เช่น Amoxy 10% ก็คือว่า มียา Amoxy อยู่ 10 กรัม (กรัมนะครับไม่ใช่มิลลิกรัม) ในน้ำหนักยาทั้งหมดในซอง 100 กรัม " ตรงนี้เวลาเราซื้อยามาเป็นซอง มันอาจจะเป็นซองที่มียาทั้งหมดอยู่ กี่กรัมก็ได้นะครับ อาจจะเป็น 200 กรัม, 50 กรัม, 500 กรัม อะไรแบบนี้ครับ แต่ว่า เวลาเราดูเปอร์เซนต์ยามันก็จะมีความหมายเดียวก็คือว่า เป็นตัวยาเทียบกับยาทั้งหมด 100 กรัมครับ(ไม่ได้แปลว่า ยา 1 ซอง ต้องมี 100 กรัมเสมอไปครับ)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 66

petch_a_vet

10/12/2010 19:27:10
ดันไว้รอเสธฯมาอ่านครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 67

loliconman

10/12/2010 19:51:37
1
ขอบคุณมากครับ วันนี้ก็ไปซื้อวัคซีนป้องกันเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจบ้างแล้ว

ว่างๆจะตั้งกระทู้สัตว์เลี้ยงแสนรักบ้างดีกว่า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 68

petch_a_vet

13/12/2010 08:26:22
0
ขอดัน 1 ทีครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 69

พระเจ้าจอร์จ

13/12/2010 12:18:36
0
ร่วมช่วยดันครับ.... ได้ความรู้เยอะจริง ๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 70

petch_a_vet

16/12/2010 12:52:40
0
ขออนุญาตดัน 1 ทีครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 71

petch_a_vet

19/12/2010 12:15:34
0
ดัน 1 จึ๊กครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 72

nuke

19/12/2010 21:17:35
0
หมอครับ ผมมีคำถามครับ
สุนัขบ้านผม เวลามันเห่า สักพักมันทำท่าเมหือนสำลักอะไรสักอย่าง มันจะสูดลมหายใจเข้าไป คล้ายกับคนที่กินข้าว แล้วข้าวขึ้นไปตรงจมูก หมาผมเป้นโรคอะไรรึเปล่าคัรบ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 73

petch_a_vet

20/12/2010 18:23:28
0
ขออภัยที่ตอบช้านะครับ พอดีเพิ่งมาเห็น

ต้องถามก่อนว่าเป็นมานานหรือยังครับ แล้วน้องหมาอายุเท่าไหร่แล้วครับ อาการที่ว่านี่ผมนึกภาพไม่ออก แต่ถ้าให้เดา คาดว่า จะเป็นอาการเหมือนจะขากๆใช่ไหมครับ ถ้าใช่นี่ มีน้ำอะไรออกมาด้วยหรือเปล่าครับ ถ้ามีก็อาจจะเป็นอาการของหลอดลมอักเสบได้ครับ แต่ก็บอกยากเหมือนกัน เพราะว่า มีข้อมูลให้น้อยมากๆเลยครับ ถ้าให้ดีอาจจะนำสุนัขไปตรวจดูน่าจะดีกว่านะครับ เพราะว่า มันสามารถเป็นอาการของโรคได้หลายอย่างน่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 74

nuke

20/12/2010 20:40:09
0
อาการเหมือนสำลักน้ำลายอ่ะครับ เป็นเวลาเห่า ไม่ทุกครั้งนะ คุณหมอลองทานข้าว แล้วพอจะกลืนก็ให้ข้าวมันขึ้นไปทางจมูกดูสิครับ เหมือนจะทำให้ข้าว เข้าทางปากออกทางจมูก แล้วเราก็พยายามทำให้ข้าวกลับลงหลอดอาหารเหมือนเดิม มันจะคล้ายๆขากแต่ไม่ได้ขากนะครับ มันเหมือนเราเอาลมไปดันให้ข้าวลงมา เดี่ยวผมจะลองอัดคลิปตอนน้องหมาเป็น ลงให้ดูครับ น้องหมาเป็นมาตั้งแต่อายุประมาณ 3 ปี ตอนนี้ประมาณ 7 ปี
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 75

nuke

20/12/2010 20:40:38
0
อ่อ เสียงที่ว่า มันจะเหมือนเสียงหมูร้องอ่ะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 76

petch_a_vet

22/12/2010 08:10:54
0
ลองเอาคลิปมาดูก็ได้ครับคุณ nuke จะได้มีข้อมูลเพิ่มขึ้นครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 77

petch_a_vet

24/12/2010 18:53:10
0
ขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 78

นายมั่นคง

24/12/2010 20:54:37
4,282
ใครมีคำถามอะไรเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง สอบถามเข้ามาได้เลยนะครับ หมอเพชรยินดีให้คำแนะนำทุกๆๆ เรื่องเลยจ้า 55
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 79

petch_a_vet

26/12/2010 11:49:43
0
2-3 วัน ขอดัน 1 ทีนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 80

small

26/12/2010 12:07:59
0
หมอเพชรครับ ขอความรู้เรื่อง พยาธิในเลือดกับพยาธิหัวใจหน่อยซิครับ..

แบบไหนอันตรายกับน้องหมามากกว่ากัน มีวิธีป้องกันอย่างไรได้บ้างครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 81

petch_a_vet

26/12/2010 14:03:01
อันตรายทั้งคู่ครับพี่ small พยาธิหนอนหัวใจนี่เป็นมหันตภัยเงียบครับ มียุงเป็นพาหะนำโรค เมื่อสุนัขติดพยาธิหนอนหัวใจแล้ว
กว่าจะแสดงอาการของโรคหัวใจก็ต้องใช้เวลาหลายปีครับ เพราะว่า จะก่อโรคได้ต้องมีพยธิหลายๆตัวก่อนครับ
โดยที่ๆพยาธิหนอนหัวใจชอบไปอยู่เป็นที่แรกๆเลยคือหลอดเลือดของปอดขาออกจากหัวใจครับ เมื่อมีพยาธิสะสมเยอะขึ้นเรื่อยๆมันก็จะเริ่ม
มาสะสมอยู่ที่หัวใจห้องล่างขวาของสุนัข ซื้อการที่มีพยาธิหนอนหัวใจมาอยู่ที่หัวใจห้องล่างขวามากๆเข้าตัวพยาธิแต่ละตัวก็จะเคลื่อนไหวกันดุ๊กดิ๊ก
อยู่ในหัวใจทำให้ไปรบกวนลิ้นหัวใจ ทำให้เกิดลิ้นหัวใจอักเสบ และในที่สุดลิ้นหัวใจก็จะหงิกงอ และทำให้รั่วได้ครับ เมื่อลิ้นหัวใจรั่วแล้วสิ่งที่ตามมาก็คือ
การบีบตัวของหัวใจเพื่อส่งเลือดไปเลี้ยงร่างกายก็จะไม่ดี เมื่อไม่ดีร่างกายก็พยายามปรับตัวเองเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้มากขึ้น
ซื่งการปรับตัวนี้ก็จะทำได้โดยการให้หัวใจพยายามทำงานเร็วขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อหัวใจทำงานมากขึ้นก็จะหนาตัวขึ้น(นึกถึงคนเวลาใช้งานกล้ามเนื้อหนักๆ
ก็จะทำให้มีกล้ามขึ้นเหมือนคนเล่นกล้ามน่ะครับ) เมื่อหัวใจมีผนังหนาขึ้นก็จะทำให้หัวใจโตขึ้นซึ่งดูเหมือนจะดีนะครับ แต่ว่า มันไม่ได้ดีอย่างที่คิดครับ
เพราะว่า การที่หัวใจหนาตัวและใหญ่ขึ้นนั้นมันไม่ได้เกิดการขยายออกไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งแต่มันไปในทุกทิศทาง ดังนั้นแล้ว
ห้องภายในของหัวใจก็จะเล็กลงอันเนื่องมาจากกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวขึ้นนั่นเอง เมื่อหนาตัวขึ้นแล้ว ห้องเล็กลงแล้ว เลือดก็จะสูบฉีดออกไปเลี้ยง
ร่างกายได้แย่ลง หัวใจก็จะเกิดการปรับตัวเองอีก ทำให้เป็นวงจรอุบาทย์ขึ้นครับ เมื่อถึงที่สุดแล้วสิ่งที่ตามมาก็คือ
เกิดภาวะหัวใจซีกขวาล้มเหลวครับ ซึ่งการล้มเหลวหมายถึงการที่หัวใจทำงานตามหน้าที่ของตัวเองได้ไม่ดีหรือทำไม่ได้ ดังนั้นสุนัขที่มีภาวะหัวใจ
ล้มเหลวจึงไม่จำเป็นต้องเสียชีวิตทันทีครับ แต่จะมีอาการของโรคหัวใจอันเนื่องมาจากภาวะนี้ ซึ่งอาการต่างๆที่เกิดขึ้นก็ได้แก่
- ท้องมาน(มีน้ำในช่องท้อง) ท้องมากเกิดได้จากการที่หัวใจทำงานไม่ดีสูบฉีดเลือดไปไม่ได้ครบ 100 เปอร์เซนต์ก็จะทำให้เกิดการคั่งของเลือดสะสม
อยู่ที่หลอดเลือดก่อนเข้าหัวใจ เมื่อเกิดการคั่งของเลือดแล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือ แรงดันเลือดของหลอดเลือดที่มีเลือดคั่งก็จะสูงขึ้น
เมื่อแรงดันเลือดสูงขึ้นก็จะทำให้เลือดซึ่งมีองค์ประกอบคือ น้ำเลือดและตัวเม็ดเลือด โดยน้ำเลือดจะถูดดันให้ซึมผ่านผนังของหลอดเลือด
ออกไปอยู่ในช่องว่างรอบๆหลอดเลือด ซื้งช่องว่างรอบๆหลอดเลือดก่อนเข้าหัวใจที่ใหญ่ที่สุดก็คือ ช่องท้องครับ ดังนั้นจึงเกิดน้ำคั่งอยู่ในช่องท้อง
เป็นจำนวนมากกว่าที่อื่นๆจึงเกิดภาวะท้องมาสขึ้นครับ
- ไอแห้งๆ การไอนี้ก็เนื่องมาจากบริเวณปอดในส่วนของหลอดลมฝอยต่างๆจะมีศูนย์รับรู้การไอ ซึ่งถ้าหากศูนย์นี้ถูกกระตุ้นจะทำให้สุนัขไอขึ้นมา
ซื้อการที่ศูนย์นี้จะถูกกระตุ้นในภาวะของโรคพยาธิหนอนหัวใจนั้นก็เนื่องมาจากการซึมผ่านของน้ำเลือด(คล้ายๆกับ process ของการเกิดท้องมาน
แต่ไปเกิดคนละทีกันโดยไปเกิดที่บริเวณปอดครับ) เข้าไปแทรกอยู่ในเนื้อเยื่อของปอด เมื่อมีน้ำแทรกอยู่ตามเนื้อเยื่อปอด ก็จะเกิดการบวมน้ำ
ของเนื้อเยื่อปอด(เพราะ เนื่้อเยื่อปอดไม่ได้เป็นช่องขนาดใหญ๋่เหมือนในช่องท้องครับ) ซึ่งการบวมน้ำนี้ก็จะไปกดถูกศูนย์ดังกล่าวทำให้เกิดการไอได้ครับ
เมื่อกระบวนการต่างๆถึงที่สุดแล้ว สุนัขก็จะเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลว(สุดๆ)ครับ ผมอยากจะบอกว่า พยาธิหนอนหัวใจแต่ละตัวจะมีอายุขัยอยู่ระหว่าง 7 - 10 ปีครับ ซึ่งยาวนานพอๆกับช่วงชีวิตของสุนัขเลยครับ
อุบัติการการติดพยาธิหนอนหัวใจในเขตกรุงเทพที่อาจารย์ผมเคยทำไว้ในเขตกรุงเทพ (ประมาณปี 2525 หรือเปล่าผมไม่แน่ใจนะครับ)
คือประมาณ 75 เปอร์เซนต์ครับ ซึ่งถือว่า เยอะมากทีเดียวครับ การป้องกันก็คือการให้ยาสำหรับไปฆ่าตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจ
ในระยะที่เพิ่งติดต่อมาจากยุงหรือกำลังพัฒนาตัวไปเป็นตัวแก่ก่อนเข้าสุ่หลอดเลือดหัวใจครับ ซื้งการให้ยามีได้หลายแบบครับ
ทั้งยากิน(กินทุกเดือน) ยาฉีด(ฉีดทุก 2 เดือน) ยาหยอดหลัง(หยอดทุกเดือน) ตลอดชีวิตของสุนัขครับ
การตรวจว่า สุนัขมีพยาธิหนอนหัวใจ(ตัวแก่ ซึ่งเป็นระยะที่จะก่อโรคพยาธิหนอนหัวใจ) ก็คือการเจาะเลือดตรวจโดยใช้ชุดตรวจสำเร็จรูปครับ
โดยจะรู้ผลภายในระยะเวลา 5-10 นาทีขึ้นอยู่กับยี่ห้อของชุดตรวจครับ
ทีนี้ถ้าสุนัขของเราตรวจพบตัวแก่ของพยาธิหนอนหัวใจแล้ว ถ้าต่ำกว่า 2+ ก็จะใช้ยาฉีดสำหรับฆ่าพยาธิหนอนหัวใจตัวแก่ (คนละตัวยากับยาฆ่าพยาธิ
หนอนหัวใจตัวอ่อน เนื่องจากยาฆ่าตัวอ่อนจะฆ่าตัวแก่ไม่ได้ และ ยาฆ่าตัวแก่ก็ฆ่าตัวอ่อนไม่ได้เช่นกันครับ) โดยจะฉีดยา 2 ครั้งห่างกัน 24 ชั่วโมง
แต่ถ้าสุนัขเราตรวจพบ 3+ จะต้องฉีดยา 1 ครั้งแล้วเว้นไปอีก 1 เดือน แล้วจึงฉีดอีก 2 ครั้งห่างกัน 24 ชั่วโมงครับ
แต่ถ้าพบ 4+ ก็คงไม่ต้องทำอะไรครับ เพราะว่า 4+ สุนัขก็มักจะอาการเพียบแล้วเตรียมจะไปแล้ว ดังนั้นฆ่ากับไม่ฆ่าก็ไม่มีผลแตกต่างกันครับ
สุนัขที่ทำการฆ่าพยาธิหนอนหัวใจตัวแก่แล้วไม่ใช่ว่า จะทำให้หัวใจกลับมาเล็กลงเหมือนเดิมนะครับ แต่ที่เราต้องฆ่ามันก็เพราะว่า เราไม่ต้องการ
ให้พยาธิทำอันตรายให้แก่หัวใจเพิ่มขึ้นไปอีกครับ ส่วนอาการของโรคหัวใจก็ให้รักษาไปตามกระบวนการครับ


ถัดมาคือพยาธิเม็ดเลือดหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ไข้เห็บครับ ซึ่งพยาธิเม็ดเลือดมีภาหะในการนำโรคเป็นเห็บครับ โดยพยาธิเม็ดเลือดมีอยู่
หลายเผ่าพันธุ์ครับ แต่ทุกเผ่าพันธู์มีเห็บเป็นพาหะทั้งหมดครับ โดยคนทั่วๆไปมักจะสับสนกันระหว่างพยาธิเม็ดเลือด และ พยาธิหนอนหัวใจครับ
พยาธิเม็ดเลือดเป็นโรคที่เป็นแล้วรักษาไม่หายขาดครับ เมื่อสุนัขป่วยแล้วเราทำการให้ยารักษาไป พยาธิในเม็ดเลือดส่วนมากก็จะตายไป
แต่มีบางส่วนไม่ได้ตายไปแล้วเข้าไปหลบอยู่ในที่ๆยาเข้าไม่ถึงเพื่อรอที่จะกลับมาแบ่งตัวในกระแสเลือดใหม่แล้วก่อโรคใหม่ได้ครับ
อาการของพยาธิเม็ดเลือดมีได้หลายอย่างขึ้นอยู่กับเผ่าพันธุ์ของพยาธิเม็ดเลือดที่ติดไปครับ โดยอาการมีได้ตั้งแต่ ซึมเฉยๆ อาเจียน
มีจ้ำเลือดตามตัวทั่วไปหมด เลือดกำเดาออก ปัสสาวะเป็นเลือด(เป็นสีเหมือนโค๊ก) กล้ามเนื้ออักเสบทั่วตัว โดยพยาธิเม็ดเลือดแต่ละเผ่าพันธุ์จะใช้
ยาในการรักษาแตกต่างกันครับ ดังนั้นก่อนทำการรักษา หมอจะต้องเจาะเลือดตรวจดูก่อนครับว่า เป็นพยาธิเม็ดเลือดตัวไหนครับ
แล้วจึงจะให้ยารักษาครับ โรคพยาธิเม็ดเลือดถ้าเป็นในสุนัขที่ไม่ค่อยมีความต้านทานต่อโรคนี้ก็อาจจะตายอย่างรวดเร็วได้ภายใน 1-2 วันครับ
แต่บางตัวก็ป่วยเป็นอาทิตย์ได้ถ้าสุนัขพอจะมีความต้านทานต่อโรคบ้างครับ การระบาดของโรคนี้พบได้ในทุกๆพื้นที่ของประเทศไทยครับ
ซึ่งการที่มันระบาดได้อย่างเป็นวงกว้างก็เนื่องมาจากว่า เห็บตัวเมียที่มีเชื้อเหล่านี้อยู่สามารถถ่ายทอดเอาเชื้อพวกนี้ผ่านไปยังไข่ที่มัน
วางเอาไว้ได้ ดังนั้นเมื่อไข่ฟักออกมา ลูกเห็บที่เพิ่งฟักออกมาก็จะเป็นพาหะทันทีครับ เห็บตัวเมีย 1 ตัวสามารถวางไข่ได้ 4000-5000 ใบต่อการวางไข่ 1 ครั้งครับ
ดังนั้นลองคิดดูครับว่า ถ้ามีเห็บตัวเมีย 10 ตัว และแต่ละตัววางไว้ 400 ใบ ถ้าอัตราการฟักออกเป็นตัวอยู่แค่ 10 เปอร์เซนต์ ก็หมายความว่า จาก 10 พาหะ
ก็จะให้พาหะออกมาอีก 400 คูณ 10 เท่ากับ 4000 พาหะ และ 4000 พาหะนี้ ถ้าเป็นตัวผู้ครึ่งหนึ่ง ตัวเมียครึ่งหนื่งซึ่งจะวางไข่ในอนาคตอันใกล้นี้
ก็จะเท่ากับว่า มีตัวเมีย 2000 ตัวซึ่งจะวางไข่อีก 4000 คูณ 2000 คิดดูแล้วกันครับว่า ถ้าผ่านไปแค่ 3-4 generation จะได้พาหะเท่าไหร่ครับ
การป้องกันไข้เห็บหรือพยาธิเม็ดเลือดโดยตรงไม่มีครับ มีแค่ป้องกันไม่ให้สุนัขมีเห็บหรือมีเห็บให้น้อยที่สุดเท่านั้นครับ

ขอบคุณพี่ small ที่ตั้งคำถามนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 82

petch_a_vet

26/12/2010 14:17:51
0
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 83

small

26/12/2010 14:41:46
0
ขอบคุณมากครับหมอเพชร..
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 84

petch_a_vet

29/12/2010 09:59:42
0
ขออนุญาตดันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 85

Jakkaphan

31/12/2010 11:19:34
คือ...สุนัขที่บ้านโดนรถเหยียบ ขาหักจะพาไปรักษาได้ไหมอะครับ
แล้วเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่หรอครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 86

petch_a_vet

31/12/2010 23:33:20
0
รักษาได้ครับ ส่วนค่ารักษามันมีปัจจัยผันแปรค่อนข้างเยอะครับ ทั้งลักษณะการหัก น้ำหนักของสุนัข วัสดุที่ใช้ในการผ่าตัดแก้ไขกระดูกหัก ยังไงอาจจะต้อง x ray ก่อนนะครับ ถึงจะพอประเมินความเสียหาจและค่าใช้จ่ายได้ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 87

petch_a_vet

01/01/2011 08:13:33
0
สวัสดีปีใหม่ทุกๆท่านครับ มีความสุขกันถ้วนหน้านะครับ

ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 88

petch_a_vet

04/01/2011 08:10:20
0
ขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 89

Collagen

05/01/2011 20:25:06
4
ดันครับ ^ ^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 90

นายมั่นคง

05/01/2011 21:31:23
4,282
สวัสดีปีใหม่นะครับหมอเพ็ชร มีความสุขมากๆๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัวเลยจ้า
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 91

petch_a_vet

06/01/2011 12:20:42
0
สวัสดีปีใหม่เฮียด้วยเช่นกันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 92

petch_a_vet

09/01/2011 13:58:47
0
ขอดัน 1 ทีครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 93

petch_a_vet

13/01/2011 22:19:00
0
ขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 94

เบียส

13/01/2011 23:20:01
11
ดัน มั่ง ครับ ..........อิ อิ อิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 95

Collagen

16/01/2011 22:15:54
4
ดันให้ครับ ^ ^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 96

petch_a_vet

20/01/2011 09:40:04
0
นานๆขอดันสักทีแล้วกันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 97

ittichai k.

20/01/2011 11:51:21
0
เรียน ถามคุณหมอครับ สุนัขที่บ้าน มีสองตัวเเละเป็นพี่น้องกันเเต่ทำใมตอนนี้เขากัดกันทุกวันเลยครับ พันธุ์ เเจ็ค รัชเซลล์ครับ เมื่อก่อนเขารักกันดีเเต่ตอนนี้เขาเหมือนเป็นศัตรูกันเลยครับ ไม่ทราบจะเเก้ปัญหาอย่างไรดีครับ(ตัวผู้ทั้งคู่ครับ)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 98

petch_a_vet

20/01/2011 13:46:10
0
สุนัขแปลกอยู่อย่างครับ คือเค้าสามารถมีอารมย์เหม็นขี้หน้าขึ้นมาได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเรื่องบาดหมางกันก็ได้ (เหมือนคนที่เพิ่งเจอหน้ากันแล้วรู้สึกเหม็นขี้หน้าขึ้นมาเฉยๆ) และสุนัขตัวผู้อยู่ร่วมกันบางครั้งมันก็อาจจะไม่ชอบขี้หน้ากันขึ้นมาเพราะแรงขับทางเพศก็ได้ครับ เนื่องจากตอนเป็นลูกสุนัขซึ่งยังไม่มีอิทธิพลจากฮอร์โมนเพศมาเกี่ยวข้อง เค้าเจออะไรเค้าก็จะเล่นกันหมด แต่เมื่อมีเรื่องของฮอร์โมนเพศมาเกี่ยวข้องในตอนที่เค้าเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น เค้าก็จะเริ่มมีอาการเหม็นขี้หน้ากันขึ้นมาได้ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 99

ittichai k.

20/01/2011 19:26:42
0
ขออคุณครับ คุณหมอ ตอนนี้จัดการส่งทั้งสองไปทำหมันเรียบร้อยเเล้วครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 100

petch_a_vet

20/01/2011 20:37:40
0
ทำหมันแล้วก็อาจจะไม่หายนะครับ เพราะว่า มันได้เหม็นขี้หน้ากันขึ้นมาแล้วครับ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 101

นายมั่นคง

20/01/2011 21:21:10
4,282



เอารูปมาฝากทุกๆ ท่านครับ 555

ดูที่บ้านผมเค้าเลี้ยงสุนัขกันครับ เจ้าตัวนี้เป็นชิสุ อายุ 14-15 ขวบ ถ้าเป็นคนก็ร้อยกว่า หนังเหนียวที่สุด คือผ่าตัดจนทั่วตัว แต่ก็ยังเลี้ยงรอดกันมาทุกวันนี้

ตอนนี้นอนแบบเด็กเลยครับ กางมุ้งครอบอย่างดีเลยจ้า 55
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 102

petch_a_vet

20/01/2011 22:01:07
0
เยี่ยมเลยครับเฮ๊ย ผมเคยเจอ shihtzu อายุ 23 ปี ท้องอืดอาหารไม่ย่อยตลอดเลยครับ ต้องคอยมาสวนกระเพาะระบายแก็สออกอยู่เรื่อยๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 103

petch_a_vet

24/01/2011 11:26:11
0
ขอดัน 1 จึ๊กนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 104

ittichai k.

24/01/2011 12:19:06
0
จริงตามที่คุณหมอ พูดเลยครับ เมื่อวานเพิ่งไปรับเจ้าตัวพี่กลับมาจากโรงพยาบาล มาถึงบ้านพยามให้ทั้งคู่กลับมาเล่นกันเหมือนเดิมเเต่ไม่เวิร์คครับเห็นหน้ากันจะฟัดกันทุกทีครับ คงต้องยกตัวพีให้เพื่อนบ้านไปครับ เศร้ามากครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 105

petch_a_vet

24/01/2011 13:34:49
0
รอดูสัก 3-4 เดือนก่อนก็ได้ครับ เพราะว่า กว่าอิทธิพลของฮอร์โมนเพศจะหมดไปคงต้องใช้เวลา 3-4 เดือนครับ ถ้าถึงตอนนั้นแล้วยังกัดกันค่อยยกให้เพื่อนไปก็ยังไม่สายครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 106

ittichai k.

24/01/2011 14:02:31
0
ขอบคุณสำหรับคำเเนะนำดีๆครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 107

petch_a_vet

27/01/2011 08:50:12
0
ขอดัน 1 ทีนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 108

เต้_พ่อน้องแพงครับ

27/01/2011 09:00:34
3
หมอเพชรครับ ว่าจะเอาหูฟังไปฝาก Burn ให้หน่อยครับ อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 109

petch_a_vet

27/01/2011 09:35:33
0
แล้ว mini3 มันขับออกไหมอะครับ เพราะว่า มีแค่ mini3 เองครับ ถ้าขับออกก็เอามาได้เลยครับ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 110

petch_a_vet

30/01/2011 09:23:59
0
ขอดัน 1 ทีครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 111

petch_a_vet

01/02/2011 12:02:22
0
ขอดันหน่อยนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 112

petch_a_vet

02/02/2011 13:10:49
0
สุขสันต์วันตรุษจีน เฮง เฮง เฮง รวยๆกันทุกท่านนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 113

petch_a_vet

09/02/2011 18:34:24
0
ขอดันหน่อยนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 114

แมว

09/02/2011 21:20:57
ที่บ้านมีปอมสองตัวค่ะ....ตัวนึงแก่แล้วเป็นลูกสาวคนโตชื่อ แป้ง....ได้สายพันธ์ดีๆมามีใบเพ็ด ตอนเค้า ๖ เดือน ตกลงมาจากโต๊ะของม้าหินอ่อน ชักแหง็กๆ ตาเหลือก...ก็เอามาโอ๋ๆซักพักก็หาย.....เลี้ยงไปเลี้ยงมาอยู่ๆก็ชักอีก มีอาการตัวเกร็ง ตาแข็งค้าง นอนแบบกับที่ไม่มีแรงยืน น้ำลายไหลยืด พาไปหาหมอ หมอว่ามีไรในหู ก็ฉีดยาฆ่าไรทุกเดือน...ไม่เห็นจะหายเลยค่ะ....ตอนนี้เค้าอายุ ๑๒๑ ขวบแล้ว ยังชักอยู่เวลาอากาศร้อนๆ เครียด หรือดีใจมากเกิน....ต้องให้นอนห้องแอร์ไม่งั้นชักบ่อย.....ตกลงว่าเป็นอะไรกันแน่คะ

ป่าป๊ามันเป็น neurologist เฉพาะทาง epilepsy รักษาคนไข้โรคลมชักหายดีทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ลูกตัวเองยังชัก...ตกลง...หมาเป็นโรคลมชักได้มั้ยคะเนี่ย

อีกตัวได้มาจากคอกปอมชื่อดังที่สุดในเมืองไทย บอกพ่อมันว่าเพื่อนให้แต่ได้มาแพง เพราะเป็นลูกแชมป์( BIS) ส่งมาใต้ท้องเครื่องบิน มาได้ ๔ วัน ท้องเสียคาวๆเหมือนมีเลือดปน แน่นอนว่าติดเชื้อ พาโว ไวรัส เกือบได้ขึ้นโรงขึ้นศาลกับเจ้าของฟาร์มแล้วตอนนั้น เค้าปัดความรับผิดชอบทุกอย่าง จนต้องให้ที่ปรึกษากฎหมายโทรไปคุยเรื่อง พรบ.คุ้มครองผู้บริโภคเรื่องการซื้อขายสัตว์....เค้าถึงจะยอมจ่ายค่ารักษาเกือบสองหมื่น....ตอนนั้นฉีด IVIG สามวัน ดูแล้วไม่น่ารอด แต่รอดมาได้ นอนเฝ้าเค้าสองเดือนกว่า..เข้า รพ.บ่อยมากๆๆๆ ตอนนี้ซ่าส์มาก ชื่อปอเปี๊ยะ ขวบกว่า ตัวเล็กๆ หนัก ๑.๔ กก.

ขอบคุณมากค่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 115

yingpram

09/02/2011 22:36:06
0
สวัสดีครับ รบกวนถามหน่อยนะครับ

เอาปอมไปผสมมา 1 เดือนแล้ว
ดูเองได้รึป่าวว่าท้องหรือไม่
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 116

petch_a_vet

10/02/2011 11:07:22
0
หมอแมวครับ สุนัขเป็นโรคลมชักได้ครับ ในที่นี้ก็อาจจะได้รับผลมาจากตอนที่ตกโต๊ะก็ได้ครับ การรักษาส่วนใหญ่ก็เหมือนในคนเลยครับ สามารถใช้ยาระงับชักจำพวก phenobarb ได้ครับ Dose ก็ 1-4 mg/kg อาจให้ได้ถึง 16 mg/kg วันละ 2 ครั้ง เลยครับ ถ้ามี KBr ใช้ร่วมด้วยยิ่งดีใหญ่เลยครับ ส่วนเรื่องไรในหูนี่อยากจะบอกว่า คงต้องรบกวนหมอโทรมาคุยดีกว่าครับ เพราะว่า ถ้าตอบในนี้มันอาจจะไม่งามในแง่ของจรรยาบรรณระหว่างหมอด้วยกันครับ

ส่วนตัวที่เป็น parvovirus นี่รอดได้ถือว่า ปาฏิหาริย์นะครับ เพราะว่า mortality rate อยู่ที่ 80-90% เลยครับ ผมว่าไม่ว่าฟาร์มที่ไหน ถ้าลองเห็นสุนัขเป็นสินค้าชนิดหนึ่ง ไม่เห็นสุนัขเป็นสิ่งมีชีวิต แล้วก็มีชีวิตหนึ่งเหมือนกับเรา เค้าก็จะทำกับเราแบบนี้แหละครับ เค้าเห็นแต่เงินที่เค้าจะได้ครับ เพราะอย่างนี้ไงครับโรคหลายๆอย่างที่ไม่เป็นโรคประจำสายพันธุ์ อย่างเช่น Hip Dysplasia ในสุนัข German Sheperd มันถึงได้ข้ามมาพบเจอะได้ในสุนัขพันธุ์อื่นๆอย่าง Larbrador retriever หรือ Rottweiler ไงครับ แล้วก็ยังโรคหลายๆโรคที่ไม่เคยมีในเมืองไทยอย่าง Lyme disease หรือ Brucellosis(แท้งติดต่อ ซึ่งติดตนแล้วทำให้คนท้องแท้งได้เช่นกันครับ) ซึ่งเป็น Zoonosis มันก็เริ่มเข้ามามีในเมื่องไทย เพราะว่า คนพวกนี้มักไปซื้อสุนัขจากเมืองนอกเข้ามาโดยไม่สนใจว่า จะเป็นโรคอะไรหรือเปล่า ขอแค่สวยและราคาถูกไว้ก่อน (บางตัวเป็น champ มาจากบ้านเมื่องเค้า ถ้าใช้สมองที่มีอยู่ประมาณ 1 กิโลกรัมคิดสักนิดน่าจะรู้ได้ว่า ตัวเป็น champ ทำไมเค้าไม่เอาไว้ทำพันธุ์เอง และ ทำไมเค้ายอมขายให้ในราคาถูกเหมือนได้เปล่า) โรคพวกนี้มันถึงได้มาระบาดในประเทศเรานี่ล่ะครับ เล่ามาเสียยาว(เพราะว่า ผมไม่ชอบคนเห็นแก่ตัวพวกนี้มากๆเลยครับ) ดีใจด้วยนะครับ ที่้น้องปอเปี๊ยะของหมอแมวหายดีได้ และยังทำให้คนพวกนี้ได้รู้สึกเสียบ้างครับว่า เค้าสมควรเป็นผู้รับผิดชอบบ้าง เพราะว่า คนพวกนี้ก็ได้ช่องทางต่างๆที่จะเอาเปรียบคนไทยด้วยก้นก็เพราะว่า คนไทยเป็นคนที่ชอบพูดและคิดว่า ไม่เป็นไร นี่ล่ะครับ

ขอบคุณที่ีมาแชร์นะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 117

petch_a_vet

10/02/2011 11:10:24
0
ตอบคุณ Yingpram นะครับ

สุนัขท้องประมาณ 2 สัปดาห์ก็สามารถคลำพบได้บ้างแล้วครับว่า ท้องไหม (แต่ไม่ค่อยชัวร์นะครับ) ถ้าคนคลำมีความชำนาญพอครับ แต่ถ้าผสมได้ 1 เดือนนี่พาไป ultrasound ดีกว่าครับ เพราะถ้าหากเราคลำเองแล้วคลำไม่เป็นบางครั้งคลำแรงไปอาจทำให้แท้งได้ครับ โดยถ้าแท้งในช่วงระยะแรกของการตั้งท้องบางทีเราอาจไม่ทราบเลย เพราะว่า ร่างกายเค้าอาจจะดูดซึมกลับไปหมดได้ครับ

ขอบคุณที่ถามนะครับ และ ยินดีที่ได้ตอบครับ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 118

petch_a_vet

10/02/2011 18:47:59
0
ดันรอคุณหมอแมว กับ คุณ Yingpram มาอ่านครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 119

petch_a_vet

11/02/2011 12:10:06
0
ขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 120

petch_a_vet

12/02/2011 13:16:11
0
ขอดันนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 121

lexibeat

12/02/2011 15:26:43
0



ดัน ๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 122

petch_a_vet

13/02/2011 18:53:37
0
ดันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 123

แมว

14/02/2011 12:22:18
ขอบคุณมากค่ะหมอเพชร....คิดอยู่เหมือนกันว่าหมาก็น่าจะเป็นโรคคล้ายๆในคนได้เพราะเค้ามีสมอง มีสารสื่อประสาท...ปล่อยให้ลูกเป็นโรคลมชักมาตั้งสิบกว่าปีแล้ว...อยากให้ยาเหมือนกันค่ะ...แต่หมอแถวๆนี้ก็จะมีแบบฉีดยาฆ่าไรหูอย่างเดียวเลย...ถ้าจะรักษาจริงๆต้องพาเข้ากรุง ไปหาหมอที่รู้จริงอย่างหมอเพชรจะดีกว่าค่ะ ตอนนี้นานๆจะเป็นที่ ป่าป๊าเค้าเลยยังไม่อยากเริ่มยาเพราะเจ้าแป้งเค้ามีโรคหัวใจอยู่ด้วย แรกๆหมอให้ lasix กับ enalapril (มีช่วงนึงน้ำท่วมปอดค่ะ) ตอนหลังหมอให้คุมอาหารจะได้ไม่ต้องกินยาค่ะ แบบนี้จะดีเหรอคะ เพราะถ้าคนเป็นโรคหัวใจก็ต้องกินยาตลอดชีวิตคะ...

เคยรู้มาว่าแมวห้ามกินยาพารา เพราะเค้าไม่มี enzyme cytochrome p450 งั้นถ้ามีไข้ จะกินยาอะไรคะ พวก Nsaids เหรอคะ

ส่วนหมาถ้ามีไข้ให้กินพาราได้มั้ยคะ.....วัดอุณหภูมิทางก้นเท่าไหร่ถือว่ามีไข้คะ.....รบกวนขอ dose ยาพาราด้วยค่ะ

ปกติปอมเค้ามีขนเยอะอยู่แล้ว ถ้านอนห้องแอร์ จำเป็นต้องใส่เสื้อทับอีกครั้งมั้ยคะ...ขอบคุณมากค่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 124

petch_a_vet

14/02/2011 13:36:53
หายดีแล้วเหรอครับพี่เหมื่ยว ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะครับ

ปรกติแล้วในสุนัขถ้ามีอาการชักมากกว่า 1 ครั้งต่อเดือนก็มีความจำเป็นต้องให้ยาระงับชักครับ ส่วนเรื่องโรคหัวใจนั้น ตอนช่วงที่เค้ากิน lasix อยู่แล้วอาการดีขึ้นเยอะไหมครับ ประกอบกับช่วงนี้เค้ามีอาการทางโรคหัวใจหรือเปล่าครับ criteria ก็คือ Syncope, Arrhythmia, Exercise intolerance, abnormal heart sound, ascites หรือ lung edema, coughing ครับ ถ้ามีอาการเหล่านี้(อาจจะแค่อย่างเดียวหรือหลายอย่าง) ก็อาจจะลอง chest x-ray ดูก่อนครับว่า heart size ปรกติไหม แล้วลองให้ lasix ดูครับ ส่วนมากถ้ามีอาการของ heart disease ก็มักจะตอบสนองกับการให้ lasix ครับ ส่วนการทำ EKG อาจจะทำหรือไม่ทำก็ได้ขึ้นอยู่กับว่า มี arrhythmia หรือเปล่าครับ ถ้ามีก็จำเป็นต้องทำ EKG ครับ ถ้าไม่มีก็อาจจะไม่ต้องก็ได้ครับ ส่วนถ้ากิน lasix แล้วดีขึ้นก็ควรจะกิน 3 ทหารเสือครับ คือ ACEi ถ้าเป็น Enalapril ก็กิน 0.25 mg/kg bid ครับ แต่ถ้าอยากใช้ตัวอื่นๆก็มีครับ เดี๋ยวผมจะดู dose ให้อีกทีครับ ต่อมาก็คือ lasix หรือ furosemide กินที่ 1-2 mg/kg bid ก็พอครับ อันสุดท้ายก็คือ digoxin 0.005 - 0.01 mg/kg bid แต่โดยส่วนตัวใช้แค่ 0.005 mg/kg ครับ พอให digixin ได้สัก 2 สัปดาห์ ก็ให้เจาะเลือดตรวจ serum digoxin ดูครับ ว่าอยู่ในช่วงที่ออกฤทธิ์ไหม (normal serum digixin คือ 0.9-2.0 ng/ml) ถ้าตรวจแล้วอยู่ในช่วง ก็ให้ตรวจซ้ำทุกๆ 6 เดือนครับ

ส่วน para ในแมวเป็นไปตามที่พี่ว่าครับคือ แมวกินไม่ได้ครับ ถ้ากินจะมีภาวะ methemoglobinemia ครับ แล้วก็ตับวายได้ ดังนั้น ถ้าแมวมีไข้ก็อาจให้ aspirin 10 mg/kg q 48 hr ได้ครับ

ส่วนในสุนัข dose ของ para คือ 15-30 mg/kg bid ถึง tid ครับ แต่ว่า ส่วนตัวผมใช้แค่ 15 mg/kg ครับ ส่วนเรื่องนอนห้องแอร์แล้วต้องใส่เสื้อไหมต้องดูอาการเค้าเป็นหลักครับ ว่าเค้ามีอาการหายใจลำบากหรือไอมากหรือเปล่า ถ้ามีก็ควรจะใส่ครับ เพราะว่า ถ้าสุนัขมีอาการของโรคหัวใจจริงก็มักจะมีอาการไอขากได้มากในช่วงกลางคืนโดยเฉพาะถ้ามีอากาศเย็นๆด้วยก็จะยิ่งเป็นมากขึ้นครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 125

petch_a_vet

15/02/2011 08:10:37
0
ขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 126

แมว

15/02/2011 08:32:43
0
ขอบคุณค่ะ หมอเพชร...อาการดีขึ้นแล้วค่ะ...ตอนวันเกิด คิดถึงห้องไอซียู เลยกลับไปนอนอีกรอบ 555 ใครไม่เคยไปใช้บริการ ลองดู แล้วจะติดใจ เค้าบริการดี๊ดีจริงจ้า...( ต้องที่ มอ.ห้อง ICU MED )

แม่แป้ง film แล้วหัวใจโตนิดหน่อยค่ะ...แล้วเค้าไม่กินอาหารหมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นแบบเม็ดหรือแบบกระป๋อง ตอนแรกก็กินดีอยู่ แต่คุณย่าคลุกข้าวให้กิน หลังจากนั้นไม่ยอมกินอาหารเม็ดอีกเลย เคยใจแข็งวางอาหารเม็ดให้ ไม่กินก็เก็บ...ทนได้ ๒ อาทิตย์ ไม่ไหวจริงๆสงสารเค้า....ตอนนี้ก็ให้กินอาหารคนแต่งดเค็ม งดมันอยู่ค่ะ ส่วนยา คุณหมองดไปแล้วค่ะ

ขอบคุณมากๆค่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 127

petch_a_vet

15/02/2011 09:53:22
0
พี่เหมียวครับ ผมลืมแจ้งไปว่า เรื่องหัวใจโตหรือไม่โตนี่ ต้องดูจาก vertrebral heart score หรือ VHS นะครับ VHS ปรกติอยู่ที่ 9.5-10.5 ครับ โดย VHS คำนวนจาก ความยาวของหัวใจ โดยเริ่มวัดจาก จุดที่เป็น bifercation ของหลอดลมครับ ในฟิล์มเราก็จะเห็นเป็นวงกลมๆสีดำครับ ไปสุดที่ apex บวกกับ ความกว้างของหัวใจโดยวัดจากจุดที่กว้างที่สุดและต้องตั้งฉากกับเส้นที่เราใช้วัดความยาวหัวใจครับ แล้วเอาความยาวทั้งหมดไปเที่ยบกับกระดูกสันหลัง T4 ของตัวสุนัขเองครับแล้วดูว่า ความยาวทั้งหมดเมื่อเทียบกับ T4 เป็นทั้งหมดกี่เท่าก็จะได้ score ของ VHS ออกมาครับ เพื่อความเข้าใจ เดี๋ยวไว้ผมจะเอาภาพมาให้ดูนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 128

petch_a_vet

15/02/2011 15:10:06



รูปครับ อย่างตัวอย่างในรูปนี้ VHS ก็ประมาณ 10.8 ครับ ถือว่า โตเล็กน้อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 129

petch_a_vet

16/02/2011 09:50:20
0
ขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 130

petch_a_vet

16/02/2011 15:36:31
0
ขอดันรอพี่เหมียวมาอ่านครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 131

แมว

17/02/2011 12:04:58
0
ขอบคุณมากค่ะ...

ช่วงนี้บอเปี๊ยะมัน ฮัดเช้ย ฮัดเช้ย บ่อยจังค่ะ.....แอบๆดูแล้วว่าไม่เป็นทั้งวันแต่เป็นทุกวัน

น่าจะเกิดจากกินน้ำแบบรีบๆๆๆจะได้ไปเล่นต่อ....อีกอย่างคือเค้าจะชอบเล่นน้ำในอ่างน้ำกินทุกวัน

ไม่ซึมนะคะ แต่เป็นทุกวันเลย แบบนี้คงไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ

ขอบคุณค่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 132

petch_a_vet

17/02/2011 12:36:34
0
ปอเปี๊ยะเค้าอายุเท่าไหร่แล้วเหรอครับ อาจจะเริ่มมีภาวะ uri (uper respiratory infection) ก็ได้ครับ ให้ลองกิน amoxy 125 syrup ดูก็ได้ครับ 22 mg/kg ถ้าอายุมากแล้ว และถ้าไม่ดีขึ้นอาจต้องเช็คเรื่อง heart disease ครับ ล่าสุดเพิ่งเจอมาตัวหนึ่งเจ้าของเป็นต่างชาติและเป็นสัตวแพทย์ด้วยครับ ลูกเค้ามีอาการไอ ฟังเสียงปอด เสียงหัวใจก็ดี จังหวะก็ดี ไม่มีลิ้นหัวใจรั่วเลย ก็ให้ abo ให้ bronchodilator ให้ mucolytic ไป 1 อาทิตย์ไม่ดีขึ้น แล้วเค้าก็พาไปที่อื่นมาอีก่ 1 อาทิตย์ ไม่ดึขึ้น เค้าก็เลยพากลับมาที่ผม เลยลองให้ steroid ดู ก็ไม่ดึขึ้น ลอง chest xray ดู VHS ก็ปรกติ มีแต่หลอดลมฝอยอักเสบเล็กน้อย ก็ให้มา nebulized อยู่ 3-4 วัน ก็ไม่ดีขึ้นอีก เจ้าของเค้าก็งง ผมเองก็งง น้องหมาเป็นอะไรหว่า ไม่เคยเจอแบบนี้เลย(ทั้ง 2 คน) คือไม่ตอบสนองกับอะไรเลย ก็เลยลองจ่าย furosemide ดูเผื่อเริ่มมีอาการ heart disease ฉีดไป แล้วก็ให้ไปกินต่ออีก 2 วัน หยุดยาอย่างอื่นทั้งหมด ดีขึ้นเฉยเลยตั้งแต่ฉีดไปครั้งแรก ก็เลยต่างคนต่างหัวเราะแล้วก็ฟันธงได้เลยว่า น้องเค้าเริ่มเป็น heart disease แล้ว เพียงแต่ว่า ไม่เคยเจอแบบนี้ที่แบบว่า อยู่ดีๆไม่เคยไอ ก็ไอขึ้นมาเฉยๆตอนช่วงอากาศเปลี่ยน แล้วก็ไม่ต้องสนองต่อการรักษา เค้าบอกว่า เค้า mystery มากๆ ในชีวิตการเป็นสัตวแพทย์เค้า 30 ปี ไม่เคยเจอน้องหมาที่มีการอาการของ heart disease แปลกๆแบบนี้มาก่อนเลย เพราะว่า โดยปรกติก็มักจะต้องมีอาการแบบค่อยเป็นค่อยไปนำมาก่อน ตัวนี้ก็เล่นเอาทั้งหมอไทย หมอฝรั่งงงกันเป็นแถวๆไปเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 133

petch_a_vet

17/02/2011 12:37:17
0
อ่า upper ตกตัว p ไปหนึ่งตัวครับ ขออภัยด้วยครับ อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 134

petch_a_vet

17/02/2011 19:46:22
0
ขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 135

นายมั่นคง

17/02/2011 21:21:51
4,282
เย้ๆๆๆ คุณแมวเหมียวนี่ก็รักสัตว์เลี้ยงเหมือนกันเลยนะเนี่ย 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 136

แมว

17/02/2011 22:55:18
0
เจ้าเปี๊ยะมันขวบกว่าเองค่ะ ราว ๑๕ เดือน...แต่กระหม่อมยังไม่ปิดเลย..

ปกติเค้าจะหายใจแรงดัง แฮ่กๆๆๆๆ ไม่รู้ตัวอื่นเป็นกันมั้ย...แต่ดูไม่เหนื่อยไม่หอบ ร่าเริง เล่นกับพี่มันทุกวัน..พี่มันคือลูกสาวคนเดียว เป็นคน มันชื่อ น้องปอม (อีนังแม่มันชอบหมา เลยตั้งชื่อลูกตามพันธุ์หมา) ๘ ขวบ...เค้าไม่ค่อยเล่นกับเจ้าแป้ง คงเพราะคนละวัยกัน รายนี้ ๑๑ ขวบ หนวดหงอกแล้วแต่หน้ายังเด็กอยู่เลย ก่อนนี่พาไปหาหมอเค้าว่าเป็นภูมิแพ้บ้าง ติดเชื้อ URI บ้าง กินยามาหลายเดือนแล้วทั้งยาแก้แพ้ ยาฆ่าเชื้อ.........เว้นไปตอนช่วงน้ำท่วมหาดใหญ่ ไม่ไดไปหาหมอเป็นเดือน ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นอะไรมาก อาการคงที่...เลยไม่ได้รักษาอีก...มาสังเกตุพฤติกรรมเค้าว่าจะกินแบบรีบๆๆๆ เค้ามาจากฟาร์ม คงติดนิสัยกลัวตัวอื่นแย่งเลยสำลักน้ำและอาหารบ่อย....เคย film แล้วหัวใจปกติ....เจ้านี่ซนมาก เคี้ยว ACS T1 ของแม่มัน อดฟังเลยค่ะ....ตกลงว่าน่าจะเป็นอะไรคะ



เฮียมั่นคะ...หนูรักสัตว์ค่ะ ทั้งสัตว์เลี้ยงและสัตว์ไม่เลี้ยงหล่ะค่ะ ตัวเห้ที่ทำเนียบก็น่าร๊ากก( อันนี้หมายความว่าสัตว์เลื้อยคลานชนิดหนึ่งที่มีชื่อไพเราะว่า วรนุช นะคะ มิได้พาดพิงผู้หนึ่งผู้ใด).....เด็กยิ่งรักมากๆๆๆ...เข้าแก็ปนางงามมั้ยล่าา...555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 137

petch_a_vet

17/02/2011 23:05:20
0
พันธุ์ปอมจะมีโรคประจำสายพันธุ์คือ tracheal collapse ครับ ถ้าทำ head and neck x ray แล้ว ไม่พบอะไร แล้วยังคงเป็นต่อเนื่องอาจต้องทำ endoscopy ครับ เพราะว่าบางกรณีหลอดลมมันจะยุบเข้าพองออกได้ตามการหายใจครับ เวลา xray มันก็เลยอาจจะไม่เจอได้ครับ ถ้าเป็น tracheal collapse นี่ก็ลำบากครับ เพราะว่า พยากรณ์โรคไม่ดีครับ (poor) โรคนี้ยังไม่มีวิธีรักษาที่ได้ผลทั้งในต่างประเทศและประเทศไทยครับ แต่ก็มีหมอบางคนผ่าตัดเอาขดลวดเหมือนขดลวดสำหรับขยายหลอดเลือดหัวใจเข้าไปไว้ที่หลอดลมเพื่อขยายมันเอาไว้ด้วยครับ แต่ว่า ปัญหาที่ตามมาก็คือ มันมีปฏิกิริยาการอักเสบแบบเรื้อรังครับ ก็ทำให้มีเสมหะปนหนองออกมาอยู่เรื่อย ต้องคอยกิน steroid ไว้ตลอดครับ ก็เลยถือว่า ไม่ได้ผลเท่าไหร่ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 138

แมว

18/02/2011 07:13:02
0
ขอบคุณค่ะ

แสดงว่าปล่อยไว้เฉยๆแบบนี้ก็ไม่น่าจะเป็นไรนะคะ

ต้องคอยดูเค้าใกล้ๆ...รายนี้อึดมาก เป็นนักสู้ รอดจากการติดเชื้อพาโวไวรัสมาได้ก็ถือว่าเค้าเก่งค่ะ...(แม่มันต้องไปแก้บนตั้งหลายที่ แฮ่ แฮ่...)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 139

petch_a_vet

18/02/2011 07:50:02
0
ก็ถ้ามีอาการไม่มากก็คงไม่เป็นอะไรครับ แต่ถ้าเป็นมากๆก็อาจถึงชีวิตได้ครับ เพราะว่า จะมีอาการหายใจลำบากมากครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 140

แมว

18/02/2011 08:39:19
0
หมอเพชรตื่นเช้าจังค่ะ

ปอเปี๊ยะนี่ก็ต้องดูกันใกล้ชิดล่ะค่ะ...บ้านนี้ให้หมานอนด้วย..ตอนนอนคุณแป้งเค้าจะจองไหล่ขวา คุณเปี๊ยะจองไหล่ซ้าย แม่มันต้องนอนนิ่งๆกลัวหมาตื่น

ส่วนลูกที่เป็นคน ให้ป่าป๊ามันดูแล...555 ไม่ใช่ว่ารักหมามากกว่าลูกเน้อ แต่อยากให้พ่อลูกใกล้ชิดกันมากๆเป็นเพื่อนกัน โตขึ้นจะได้ไม่มีปัญหา(มาก)ค่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 141

petch_a_vet

18/02/2011 11:51:27
0
^
^
^
พี่เหมียวน่ารักที่ซู๊ด ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 142

petch_a_vet

20/02/2011 12:30:56
0
ขอดัน 1 ทีครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 143

petch_a_vet

22/02/2011 08:16:35
0
ดัน 1 จึ๊กครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 144

petch_a_vet

24/02/2011 16:46:07
0
ขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 145

petch_a_vet

25/02/2011 09:35:23
0
ตอนนี้มี facebook ของโรงพยาบาลสัตว์แล้วครับ ลองแวะไปดูได้นะครับ http://www.facebook.com/pages/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87-Pet-Residency-Hospital/203144949695919?sk=wall#!/pages/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87-Pet-Residency-Hospital/203144949695919?sk=wall
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 146

petch_a_vet

26/02/2011 17:59:47
0
ขอดันหน่อยนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 147

SkaKeep

04/03/2011 13:22:56
0
ดัน ดัน คะคุณหมอ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 148

bigkung

05/03/2011 00:19:10
0
หมอ น้องชายผมชื่อ Magnum สายพันธุ์ Fila Brasiliero

อายุ3เดือน แต่บางทีเวลาเค้าวิ่งๆขาเค้าอ่อนแล้วก็ล้มไป เค้ามีปัญหาอะไรควรเสริมวิตามินอะไรรึเปล่าครับ

อ้อ ช่วงนี้มะม่วงสุก - - เค้าไปดื้อมาบางเลยติดเต็มตัวเลย ไม่รู้จะใช้อะไรล้างดีครับ TT
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 149

petch_a_vet

05/03/2011 08:31:29
0
fila เป็นสุนัขพันธุ์ยักษ์ สิ่งที่ต้องระวังคือ เค้าจะโตค่อนข้างเร็ว ฉะนั้นอาหารจะเป็นเรื่องสำคัญครับ ควรให้กินอาหารที่มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วน ถ้าเป็นอาหารสำเร็จควรจะยอมจ่ายสำหรับอาหาร premium grade ทั้งหลายครับ ซื่งในท้องตลาดค่อนข้างจะมีหลายยี่ห้อ ก็ควรจะเลือกให้ดีครับ บางครั้งก็อย่าไปเชื่อคนขายสุนัขมากนักควรถามเอาจากหมอมากกว่าครับ (แตในที่นี้ผมคงบอกออกมาไม่ได้ว่า มียี่ห้ออะไรบ้างนะครับที่เป็น premium grade) สุนัขพันธุ์ใหญ่ หรือ พันธุ์ยักษ์ทั้งหลายไม่เหมือนสุนัขจำพวก poodle หรือ พันธุ์เล็กๆที่กินแค่ข้าวกับตับก็โตได้(ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้โตแบบสมบูรณ์ก็ตาม) เมื่อให้อาหารสุนัขที่ดีมากจำพวก premium grade แล้วก็ต้องมาดูเรื่องความถี่ในการให้อาหารครับ ลูกสุนัขทุกสายพันธุ์ควรให้เค้าได้กินอาหารวันละ 4-5 มื้อนะครับ เพราะว่า ลูกสุนัขจะมีอัตราการใช้พลังงานที่ค่อนข้างสูง ถ้าเราให้แค่ 2 มื้อเช้าเย็นอาจจะไม่พอได้ครับ ซึ่งเมื่อไม่พอแล้วสุนัขก็จะมีการดึงเอาพลังงาน(หรือ กลูโคส)ที่เก็บสะสมไว้มาใช้ ทีนี้ถ้าดึงเอามาใช้มากๆแล้วร่างกายมีไม่พอก็จะเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ สุนัขก็จะเริ่มมีอาการคอตก ยกคอไม่ขึ้น เดินเป๋ จนถึงขั้นชักได้ครับ เคยเจอลูกสุนัขอยู่ตัวหนึ่งเจ้าของเก็บมาเลี้ยง เจ้าของเห็นลูกสุนัขชอบกินขนมมาก กินจากคนนู้นคนนี้เรื่อยๆก็เลยคิดว่า น่าจะเพียงพอแล้วเลยไม่ค่อยได้ให้อาหารแต่ให้ขนมกินทั้งวันแทน ปรากฏว่า ไม่นานสุนัขก็มีอาการเดินไม่มีแรง ไปคลินิคมาหลายที่ก็ไม่หาย หมอจ่ายแต่แคลเซียมมากิน พอมาที่ผม ผมจับตรวจน้ำตาลในเลือดปรากฏว่า ต่ำก็เลยแนะนำให้ให้อาหารเป็นมื้อๆให้ขนมให้น้อยลงเพื่อบังคับให้ลูกสุนัขกินอาหารเม็ดที่ตั้งให้ ก็ค่อยๆดีขึ้นจนหายเป็นปรกติในเวลาแค่ 2-3 วันครับ ยังไงก็ลองพาไปพบสัตว์แพทย์ดูครับ เพราะว่า สุนัขพันธุ์ยักษ์นี่เอะอะอะไรคนขายสุนัขก็จะให้เสริมแคลเซียมอยู่เรื่อย การเสริมแคลเซียมดีครับแต่ถ้ามากเกินไปจะเจอภาวะแคลเซียมเกาะตามอวัยวะนู่นนี่นั่นไปหมด เช่น พอกไต พอกกล้ามเนื้อ เป็นต้นครับ

อีกอย่างที่มักจะทำให้สุนัขมีอาการเดินขาอ่อนแรงก็คือ การที่ให้สุนัขอยู่พื้นที่ลื่น เนื่องจากกล้ามเนื้อพับในของลูกสุนัขยังไม่แข็งแรงพอ เมื่ออยู่พื้นลื่นก็จะมีอาการไถลยืนไม่อยู่ ถ้าเป็นมากๆสิ่งที่ตามมาก็คือ โครงสร้างของกระดูกจะเปลี่ยนไปแบบถาวรเนื่องจากสุนัขอยู่ในช่วงเจริญเติบโต กระดูกที่โตก็เลยโตแบบไม่ปรกติ ดังนั้นลูกสุนัขไม่ควรอยู่พื้นที่มีลักษณะลื่นเด็ดขาด เช่น กระเบื้อง ปูนขัด เป็นต้น ซึ่งถ้าหากโครงสร้างผิดรูปไปแล้วต้องบอกว่า ทำใจครับ เพราะว่า ไม่มีทางแก้ไขให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ ได้แต่ระวังไม่ให้เป็นมากไปกว่าเดิมครับ บางตัวถ้าเป็นมากๆนี่จะเกิดภาวะ spray leg ได้ครับ ซึ่งขาจะมีลักษณะเหยียดเกร็งงอไม่ได้เนื่องจากโครงสร้างได้เปลี่ยนแปลงไปแบบสุดๆแล้วครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 150

petch_a_vet

05/03/2011 08:32:17
0
"อ้อ ช่วงนี้มะม่วงสุก - - เค้าไปดื้อมาบางเลยติดเต็มตัวเลย ไม่รู้จะใช้อะไรล้างดีครับ TT" อันนี้ผมอ่านไม่เข้าใจครับ ช่วยเขียนรายละเอียดมาอีกทีครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 151

bigkung

05/03/2011 12:26:59
อ๋ออ เค้าไปเล่นมาแล้วโดนยางมะม่วง เลอะติดตามขนอ่าครับ

แล้วทีนี้มันล้างไม่ออก เลยไม่รู้ว่าจะใช้อะไรล้างได้บ้าง :)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 152

petch_a_vet

05/03/2011 22:18:12
0
ทางที่ดีตัดขนส่วนที่ติดยางออกเลยจะดีกว่าครับ แต่ถ้าไม่อยากตัดก็ลองพวกน้ำมันสนดูครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 153

bigkung

05/03/2011 23:29:53
น้ำมันสนไม่เป็นอันตรายใช่มั้ยครับ ผมกลัวน้องเค้าจะแพ้ไง เพราะน้องเค้าเคยเป็นผิวหนังอักเสบแต่ตอนนี้รักษาหายแล้ว

อ้อแล้วเรื้องดัดหูสุนัขนี่ ทำยังไงมั่งอ่าครับ เพราะหูข้างนึงของเค้าพับมากเกินกว่าปกติ

ทำให้ใบหูน้องเค้าดูไม่เท่ากัน ขอคำแนะนำด้วยนะครับคุณหมอ :)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 154

petch_a_vet

06/03/2011 11:25:38
0
ตัดหูนี่ผมไม่เคยทำครับ เพราะว่า สมัยนี้ animal welfare เริ่มดีขึ้น ถ้าสุนัขไม่ใช่สุนัขประกวดเค้าก็จะไม่ค่อยตัดกันแล้วครับ และการที่หูปรก 1 ข้างไม่จำเป็นต้องตัดหูนะครับ มันปรกก็เพราะว่า กระดูกอ่อนที่ใบหูอาจจะไม่แข็งหรือมีการหักก็ได้ครับ ถ้าจะตั้งมันจะตั้งเอง ถ้า 4-5 เดือนไปแล้วไม่ตั้งก็คือไม่ตั้งแล้ว ส่วนการดามหูคงช่วยได้แค่ดามใจเจ้าของครับ เพราะมันมีงานวิจัยบอกแล้วว่า มันช่วยไม่ได้ครับ

เรื่องน้ำมันสนผมยังไม่เคยเห็นใครแพ้นะครับ แต่ถ้ากลัวแพ้ก็คงต้องใช้มีดโกนโกนขนออกเอาครับค่อยๆโกนไป ถ้าติดทั้งตัวคงใช้เวลาโกนสัก 1 วันเต็มน่าจะเสร็จ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 155

bigkung

06/03/2011 23:50:05
0



ขอบคุณครับพี่หมอ :)

เด่วว่างๆผมจะส่งรูปไปให้ดูทาง mail นะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 156

petch_a_vet

08/03/2011 18:36:56
0
ขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 157

petch_a_vet

10/03/2011 14:59:26
0
ขอดัน 1 ทีครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 158

petch_a_vet

13/03/2011 22:14:40
ขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 159

petch_a_vet

17/03/2011 16:01:52
0
ขอดันครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 160

petch_a_vet

21/03/2011 08:38:47
0
ขอดันสักหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 161

petch_a_vet

24/03/2011 10:04:51
0
ดันหน่อยครับ ^ ^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 162

petch_a_vet

28/03/2011 12:41:42
0
ดันๆครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 163

ขั้นเทพ

29/03/2011 21:49:37
คุณหมอ petch มีเรื่องปรึกษา

หมาที่บ้าน พันธุ์ยอคเชียร์ อายุประมาณ 7 เดือนกว่า ๆ โดนหมากัด

เรื่องยาวมาก ไว้พรุ่งนี้ผมโทรไปหาดีกว่า อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 164

petch_a_vet

30/03/2011 15:07:48
0
โทรมาได้เลยครับ ผมเองเพิ่งจะเห็นกระทู้เองครับ ต้องขอโทษด้วยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 165

petch_a_vet

02/04/2011 14:36:05
0
ขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 166

petch_a_vet

04/04/2011 12:46:42
0



ขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 167

petch_a_vet

05/04/2011 09:06:47
0



ดันนิดหนึ่งครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 168

petch_a_vet

08/04/2011 16:03:33
0
ขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 169

baboon

11/04/2011 14:00:12
0
สวัสดีครับ ท่าน
เรียนคุณหมอ / ผู้ทราบข้อมูล
สุนักของผม พันธุ์ ร็อตไวเลอร์
อายุประมาณ 10 ปีครับ
พฤหัสที่ 7 เมษายน สุนัขของผมได้ชักครับเกิดขึ้นครั้งที่2 ครั้งแรกเกิดเมื่อ คืนวันที่3 เมษายน
กระผมได้พาไปตรวจเลือด และทานยา ระงับชักหรือบรรเทาแล้วครับ
และได้รับผลเลือดออกมา ว่าทุกอย่างปกติดี ครับ
กระผมกังวลจนทุกวันนี้เสมอมาครับว่าจะรักษาน้องหมานี้อย่างไรดี และ จะต้องกระทำอย่างไรบ้างและขั้นตอนอย่างไรบ้างครับ
กระผมรักหมาตัวนี้มากมากเค้าชื่อ โบนัสครับเป็นเพศเมีย ไม่เคยป่วยใดๆเลย ดูแลอย่างดีมากๆ ทั้งกระผมและคุณพ่อครับ อยากช่วยทุกวิถีทางจนไม่มีหนทางจะทำอะไรอย่างไรได้ จนต้องยอม ครับ ไม่ว่าจะผ่าตัด สแกนต่างๆ และใช้ทุกวิธีครับ รบกวนใครก็ได้ที่ทราบวิธีรักษาและสถานที่ ช่วยแจ้งให้ด้วยนะครับ ทุกวันนี้ผมไม่เปฺนอันกิน อันนอน ช่วยด้วยนะครับ ติดต่อมาที่อีเมล์หรือโทรศัพท์กระผมก็ได้ครับ baboonmax@hotmail.com และ 087-0770010 เกอเต้ ครับ ฝากด้วยนะครับ
ขอบคุณอย่างสูง
เกอเต้.
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 170

อำนาจ

15/04/2011 23:08:35
แมวผมมีพังผืดที่ตา บังลูกตา เป็นมาประมาณ 4-5วัน แล้ว เขาป่วยเป็นอะไรครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 171

อำนาจ

15/04/2011 23:11:12
แล้วถ้าเขาป่วย ค่ารักษาจะประมาณเท่าไหร่ ครับ แพงหรือเปล่า เพราะช่วงนี้มีปัญหาเรื่องเงินพอดี กลุ้มใจมากครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 172

petch_a_vet

16/04/2011 10:21:33
0
เป็นลูกแมวหรือเปล่าครับ ส่วนมากมักเกิดจากการติดเชื้ออย่างรุนแรง หรือ มีแผลที่กระจกตา แล้วมีเนื้อเยื่อมาแปะอยู่ (ถ้าที่ผมเข้าใจไม่ผิดนะครับ เพราะว่า เรื่องตานี่ต้องได้ตรวจครับ ถึงจะบอกได้) ทีนี้พอแปะอยู่นานๆเข้ามันก็เลยยึดติดไปเลย การแก้ไขก็ต้องวางยาแล้วค่อยๆเลาะออกครับ แต่จะเลาะออกได้มากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่า มันยึดติดมากและนานแค่ไหน ถ้าติดมากและนานก็คงได้แค่เล็มออกให้มันบางที่สุดครับ ถ้าเล็มออกมากเกินไปอาจจะทำให้กระจกตาทะลุได้ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 173

petch_a_vet

19/04/2011 08:52:30
0
ขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 174

petch_a_vet

22/04/2011 18:24:50
0
ดัน 1 ทีครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 176

petch_a_vet

03/05/2011 17:28:04
0
ขอดันหน่อยครับ ใครมีคำถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเชิญถามได้เลยนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 177

ota_hay

04/05/2011 10:32:12
พี่หมอครับ แมวที่ผมเลี้ยงไว้ มันมีอาการไม่กินอาหารและน้ำ มาสองวันแล้ว
จับดูรู้สึกว่ามันซูบลงไปมาก และก็มีอาการแปลก ๆ คือชอบไปนั่งหมอบอยู่ในห้องน้ำ
เหงือกมีสีเหลืองซีด ๆ ครับ แล้วก็หายใจเร็ว
เมื่อเช้าไปหาสัตว์แพทย์ ท่านตรวจดู ก็ฉีดยาให้สองเข็ม แต่ไม่ได้บอกผมว่ายาอะไร
และบอกผมว่า อาการเหมือนเจ้าเหมียวมันทานของมีพิษมาน่ะครับ
และบอกอีกว่า ถ้าสองวันแล้วไม่ดีขึ้นให้พาเข้า โรงพยาบาลสัตว์เลย

คือก็อยากปรึกษาน่ะครับว่า อาการอย่างนี้มันน่าจะรอดไหมครับ
เมื่อคืนก็เอามานอนที่บ้านผม(ปรกติอยู่บ้านแฟน)มันก็ไม่หลับนะครับ
ผมตื่นมาดูมันเป็นระยะ ๆ ก็เห็นมันนอนนิ่ง ๆ ตอนแรกนึกว่าตายซะอีก
เป็นห่วงมากครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 178

petch_a_vet

04/05/2011 11:41:32
0
แมวอายุเท่าไหร่แล้วเหรอครับ อาการเยื่อเมือกเหลืองเราเรียกว่า ดีซ่านครับ ซึ่งมันก็เกิดจากสาเหตุได้หลากหลายอย่างครับ อย่างแรกเลยก็คือ โลหิตจางมาก และ จางมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งสาเหตุของโลหิตจางก็มีได้หลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่พบได้บ่อยคือ พยาธิในเม็ดเลือดครับ

สาเหตุถัดมาของดีซ่านก็คือ ตับวาย ซึ่งตับวายก็มีได้หลายสาเหตุอีกเช่นกันครับ สาเหตุอีกอันก็คือ ระบบน้ำดีมีปัญหาครับ

ซึ่งอาการที่เห็นนี่ก็ต้องบอกว่า พยากรณ์โรคไม่ค่อยดีนะครับ ควรรีบพาแมวไปตรวจที่โรงพยาบาลสัตว์ดีกว่าครับ คงต้องเจาะเลือดตรวจดูอย่างละเอียดว่า เกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งการรักษาในกรณีต่างกันก็จะมีการรักษาที่่ต่างกันครับ รีบพาไปจะดีกว่าครับ ส่วนที่ถามว่า จะตายไหมนี่ก็มีสิทธิเป็นไปได้ครับ ดังนั้นไม่ต้องรออีก 2 วันหรอกครับไปหาเลยดีที่สุดครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 179

ota_hay

04/05/2011 13:58:38
3
ขอบคุณครับพี่หมอ
แล้วผมต้องไปถามสัตวแพทย์ที่ไปหาเมื่อเช้าไหมครับ
ว่าเขาฉีดยาอะไรให้น้องเหมียว
เผื่อไปที่ ร.พ.สัตว์แล้วเขาจะถามประกอบการรักษาหรือเปล่าครับ
จะได้ตอบถูก
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 180

petch_a_vet

04/05/2011 15:02:05
0
ถ้าไปถามได้ก็ดีครับ จะได้รู้ และ ที่สำคัญคือ ไม่ให้ซ้ำ (ถ้าให้ซ้ำยาจะเกินได้) โชคดีครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 181

ota_hay

04/05/2011 19:32:10
3
สวัสดีรอบค่ำครับพี่หมอ เมื่อตอนเย็นผมพาเจ้าเหมียวไป รพ.สัตว์มาแล้วครับ
คุณหมอก็วินิจฉัยตามที่พี่หมอบอกเด๊ะ ๆ เลยครับ
เบื้องต้นคุณหมอก็ฉีดยาไปอีกสองเข็ม(ผมไม่ได้ถามอีกแล้วว่ายาอะไร)
แล้วก็ให้น้ำเกลือครับ จากนั้นก็ให้ยาเม็ดมารับประทาน เช้า-เย็น
ตอนแรกจะเจาะเลือดครับ แต่แมวมันดิ้นสุดแรงเกิด ก็เลยยังไม่เจาะ
ผมก็ถามคุณหมอนะครับว่ามันมีแนวโน้มว่าจะตายไหม
เขาก็บอกว่ามีครับ และบอกว่าบางตัวเป็นน้อยกว่านี้ ก็ตาย
บางตัวเป็นหนักกว่านี้ก็รอด ต้องรอดูไป และถ้าเป็นไปได้ให้ผมพามาให้น้ำเกลือ
เรื่อย ๆ ครับ และคุณหมอก็บอกว่าตัวเย็นอุณหภูมิต่ำ ต้องให้ความอบอุ่นเยอะ ๆ
ผมก็เลยเปิดโคมไฟที่เป็นหลอดไส้ ให้มันนอนครับ ตอนนี้ก็ยังหลับอยู่
ผมก็เดินไปดูเรื่อย ๆ ครับ กลัวมันไม่หายใจอ่ะ
ยังไงก็ขอขอบคุณพี่หมอเพชรด้วยนะครับ ไม่งั้นผมคงวางใจไม่ได้พามันไปให้น้ำเกลือ
และมันอาจจะเป็นหนักกว่านี้ก็ได้ ยังไงก็จะช่วยมันสุดความสามารถครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 182

petch_a_vet

04/05/2011 20:18:42
0
ดีใจด้วยครับ เรื่องส่องไฟนี่ต้องระวังเหมือนกันนะครับ เพราะว่าถ้าใกล้เกินไปอาจเผาแมวเป็นแมวย่างได้ครับ ฉะนั้นต้องเอามืออังดูที่ระยะเดียวกับแมวสัก 5 นาทีดูว่า ร้อนไป หรือ เย็นไปไหม ถ้าร้อนไปก็ถอยออก ถ้าเย็นไปก็เอาเข้า แล้วก็ให้ส่องจากทางด้านท้ายตัวนะครับ ถ้าส่องด้านหน้าอาจเผากระจกตาแมวได้ ถ้ากระจกตาถูกเผา อีกไม่กี่วันก็จะกลายเป็นแผลหลุม ถ้าซวยหนักอาจจะเผาไปถึงจอประสาทตา คราวนี้ก็คงจะบอดแน่ครับ ก็พาไปหาหมอเรื่อยๆนะครับ มีอะไรโทรมาได้นะครับ หรือถามในนี้ก็ได้ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 183

นายมั่นคง

04/05/2011 20:43:57
4,282
โอวว มีความรู้ใหม่ๆมาเพียบเลยๆๆ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 184

ota_hay

05/05/2011 14:09:59
3
มารายงานผลครับ เมื่อช่วงเที่ยง ผมพาแมวไปรับน้ำเกลือ ตามที่คุณหมอแนะนำครับ
ตอนแรกว่าจะไปตอนเย็น แต่คาดว่าช่วงเย็นวันนี้จะวุ่น ๆ หลายอย่าง เลยไปตอนพักกลางวันนี่ล่ะ
อ้อ เมื่อช่วงเช้า ป้อนน้ำ ป้อนอาหารสัตว์ป่วยทานสลิงฉีดยา แล้วก็ทานยาบำรุงเรียบร้อยครับ
แล้วก็จับมันป้อนน้ำ เรื่อย ๆ
เมื่อตอนไปให้น้ำเกลือ วันนี้ผมก็ให้คุณหมอเขาตรวจเลือดแล้วครับ เนื่องจากมันดิ้นน้อยกว่าเมื่อวาน
คุณหมอใช้อุปกรณ์ snap ตรวจโรคแมว ผลออกมาเป็นขีดเดียวครับ
ทั้งเอดส์แมว และไวรัส(อะไรสักอย่าง)จำได้ว่า ตกลงไม่ได้เป็นจากเชื้อโรค
แต่น่าจะเป็นจากพยาธิเม็ดเลือดครับ

ผมเจอเรื่องแปลก ๆ ครับ คือตอนที่เราให้น้ำเกลือเสร็จเมื่อวานตอนเย็นแล้วเอากลับมาบ้าน
ผ่านไปสอง-สาม ช.ม.ตรงบริเวณนั้นก็ยังชุ่นเปียกอยู่ครับ จนตอนเช้าก็ยังมีเปียกอยู่นิด ๆ
และเมื่อกี้ตอนที่ไปให้น้ำเกลือ ก็ปรากฎว่า น้ำเกลือมันหยดออกมาจากรูเมื่อวานน่ะครับ
คุณหมอ ก็งงเหมือนกัน บอกผมว่าไม่เคยเจอ
ผมก็เกรงว่า ที่ให้น้ำเกลือไปมันจะไม่ได้ซึมเข้าไปมีประโยชน์น่ะครับ
เดี๋ยวจะลองสังเกตุว่า คราวนี้เป็นอีกหรือเปล่า คิดเอาไว้ว่าถ้าเป็นอีก
จะขอให้หมอเขาโกนขนแล้วปิดพาสเตอร์ยาไว้ ดีไหมครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 185

petch_a_vet

05/05/2011 15:01:35
0
ร่างกายแมวอาจจะขาดน้ำค่อนข้างมากก็ได้ครับ เมื่อขาดน้ำมากจะทำให้หลอดเลือดบริเวณอวัยวะที่สำคัญน้อยมันหดตัว เพราะฉะนั้นถ้าเส้นเลือดที่ผิวหนังหดตัวอย่างมากก็อาจจะทำให้น้ำเกลือที่ให้ทางใต้ผิวหนังไม่ดูดซึมหรือดูดซึมน้อยก็ได้ครับ อาจจะต้องลองเปลี่ยนไปให้เข้าหลอดเลือดดูแทนน่ะครับ การปิดพลาสเตอร์คงช่วยอะไรไม่ได้มากครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 186

ปอง

05/05/2011 18:51:19
สวัสดีครับ คุณหมอ ผมเป็น คนที่เฝ้าดูเวปนี้อยู่ห่างๆมานานแสนนาน แล้วก้เข้าใจว่ายังมีเวปดีๆที่เป็นเหมือนครอบครัวที่อบอุ่นเหลืออยู่ 555

ผมมีเรื่องอยากจะปรึกษาครับ ผมเลี้ยงกระต่ายตัวหนึ่งครับ มันพิการมาตั้งแต่เล็กๆ เดินไม่ได้ พ่อแม่มัน ก็ให้เค้าไปหมดแล้ว เลี้ยงไว้เพราะความสงสาร ตอนนี้ขาหลังด้านขวา ตรงข้อพับ มันเป็นป่องๆบวมๆ สีชมพูน่ะคับ(ตรงข้อพับพอดีเลยครับ) อาการนี้เป็นมาประมาณ 2อาทิตย์ละครับ เท่าที่สังเกตุไม่มีอาการบวมขึ้นแต่อย่างใด ผมลองเอามือไปจับๆดู มัน นิ่มๆเหมือนมีน้ำข้างในครับ แต่ทุกครั้งที่จับเหมือนมันจะเจ็บครับผม สงสารมันจัง ><
คือการเลี้ยงดูของผมนั้น จะให้มันนอนอยู่กับที่คับ และบางทีมันจะลากตัวเองขยับไปในระแวกใกล้ๆได้ โดยตรงข้อพับนั้นอาจจะถูกับพื้นในขณะที่มันลากตัวไป ...



ผมควรจะต้องทำอย่างไรบ้างครับ


ขอบคุณมากครับ

ปอง
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 187

petch_a_vet

05/05/2011 19:02:30
0
อาจจะต้องลองถ่ายรูปมาโพสต์ดูมังครับ เพราะผมนึกภาพไม่ออกน่ะครับ ลองดูนะครับ ถ้าเห็นภาพอาจจะตอบอะไรได้น่ะครับ ขอบคุณที่ถามครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 188

[-mu-]pong-

05/05/2011 20:48:35
0
ครับ ผมถ่ายรูปมาแล้วครับ ยังไงขอบคุณมากๆนะครับ รบกวนจริงๆ






ขอบคุณมากๆนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 189

[-mu-]pong-

05/05/2011 21:06:07
0
แก้ไขรูปครับ


ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 190

ota_hay

05/05/2011 22:11:23
3
สวัสดีครับพี่หมอ
เจ้าเหมียวผมจากไปแล้วเมื่อตอนเย็นครับ
ขอบคุณมากนะครับที่ให้คำแนะนำดี ๆ ตลอดสองวันมานี้
เสียดายที่รู้เรื่องและพาเจ้าเหมียวไปหาสัตวแพทย์ช้าไป
อาจจะช่วยชีวิตมันได้

นั่งมองดูเบาะ ดูผ้าขนหนูที่มันนอนในช่วงสองวันนี้แล้วก็คิดถึงครับ
RIP นะลูกสาวของพ่อ.............
...........
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 191

petch_a_vet

06/05/2011 09:57:04
0
เสียใจด้วยนะครับโอ๊ต
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 192

petch_a_vet

06/05/2011 10:00:02
0
คุณปองครับ รูปมันใหญ่ยักษ์ไปน่ะครับ ผมดูไม่ออกจริงๆครับ ลองย่อรูปให้เหลือด้านยาวที่สุดไม่เกิน 700 pixel แล้วสมัครเวปเฮ๊ย แล้วก็ลงผ่านตัวแปะรูปในกระทู้ได้เลยครับขนาดมันจะได้พอดี ถ้าจะเอาไปฝากตามเวปฝากรูปก็รบกวนย่อขนาดเดียวกันนี่แหละครับ แล้วค่อยแปะแล้วกันครับ ลองทำดูอีกทีนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 193

[-mu-]pong-

06/05/2011 14:20:18
0
ครับคุณหมอ ผมย่อแล้วคับ ใน คห. ที่ 189

ขอบคุณคุณหมอมากครับ ยังไงรบกวนด้วยครับ ขอบคุณครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 194

petch_a_vet

06/05/2011 15:43:07
0
คห 189 มันไม่ขึ้นรูปน่ะครับ

ดูแล้วลักษณะมันน่าจะมีการอักเสบและการติดเชื้อนะครับ ผมว่า คงต้องพาไปพบสัตวแพทย์ใกล้บ้านดูนะครับ คงต้องกินยาด้วยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 195

petch_a_vet

17/05/2011 12:35:35
0
นานๆขอดันสัก 1 ทีครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 196

petch_a_vet

30/05/2011 09:02:50
0
ไม่ได้ดันมานานแล้วขอดันหน่อยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 197

Kai

17/08/2011 10:41:10
2
พี่หมอครับมีเรื่องรบกวนแล้วครับผม

พอดีหมาของเพื่อน (จริงๆก็ไม่ใช่เจ้าของซะทีเดียวหล่ะครับ) แต่เห็นมันชอบมาวนเวียนอยู่หน้าบ้าน ไม่มีเจ้าของ เพื่อนผมก็เลยให้ข้าวให้น้ำ

แล้วเมื่อไม่กี่วันมานี้ มันโดนรถชนครับ มันมีอาการเหมือนเป็นอัมพาต เดินไม่ได้ ไม่สามารถลุกขึ้นมากินข้าว กินน้ำได้ เพื่อนก็เลยช่วยพาไปคลีนิคใกล้บ้านเพราะเปิด 24 ชั่วโมง (อยู่แถวบางนาหน่ะครับ)

จากการเอ๊กซเรย์ คุณหมอบอกว่า ขาทั้งสี่ไม่หัก แต่ติดปัญหาตรงกระดูกบริเวณคอ ซึ่งมีส่วนทำให้ระบบประสาทสั่งการขาทั้งสี่มีปัญหา ทำให้เดินไม่ได้ อาการแบบนี้พอจะมีทางรักษาหรือแก้ไขได้ไหมครับ แล้วที่สำคัญตอนนี้ค่ารักษาค่อนข้างสูงครับ เกือบๆหมื่นเลยครับก็เลยอาจจะขอย้ายเปลี่ยนที่รักษาครับผม

เลยมาขอปรึกษาพี่หมอเพชรครับว่า พอจะรู้จักที่ไหนค่ารักษาไม่แพงมากบ้างไหมครับ และอาการนี้พอจะมีทางรักษาหายไหมครับ สงสารทั้งหมา และก็เห็นใจทั้งเพื่อนเลยครับตอนนี้ รบกวนพี่หมอเพชรหน่อยนะครับ

ขอบคุณพี่หมอเพชรมากๆๆๆๆล่วงหน้าเลยครับผม


ไก่ย์
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 198

นายมั่นคง

17/08/2011 10:54:27
4,282
เรื่องดูแลสุนัขนี่เล่นเอาที่บ้านเฮียเหนื่อยไปตามๆๆ กัน ตอนนี้หยอดข้าวหยอดน้ำอยู่ตัวหนึ่ง เล่นเอาไม่ต้องหลับไม่ต้องนอน เพราะมันร้องทั้งคืน ไปซื้อบ้านหมาติดแอร์มาให้อยู่ เสียงก็ร้องลอดออกมาอีก.....55
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 199

Kai

17/08/2011 11:12:44
2
เมื่อกี้โทรคุยกับพี่หมอเพชรแล้วครับ

ขอบคุณพี่หมอเพชรมากๆเลยนะครับผม ที่ช่วยแนะนำหลายๆเรื่องเลยครับ


ครับเฮียย์ ที่บ้านผมที่ต่างจังหวัดนี่ หมาที่แม่เลี้ยงไว้ โดนรถชนประจำครับ เพราะอยู่ติดถนนใหญ่ หมาโดนรถชนที แม่ก็เสียน้ำตาทีครับ ทำไงได้มันรักและผูกพันธ์หน่ะครับ ทุกเช้าเย็น มันจะกระโดดขึ้นหน้ารถมอเตอร์ไซด์ไปตลาดกับแม่ตลอด
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 200

tum

04/09/2011 15:35:38
กระต่าอายุ 1 เดือนครึ่ง ท้องเสียมีวิธีรักษาเบื้องต้นไหมคะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 201

petch_a_vet

04/09/2011 18:27:42
0
กระต่ายท้องเสียต้องรีบพาไปหาหมอเพื่อรักษาครับ เพราะว่า มีโอกาสตายสูงมากๆครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 202

นายมั่นคง

04/09/2011 21:32:48
4,282
หมอเพชรต้องเข้ามาให้ความรู้บ่อยๆๆ เลยนะคร้าบบบ เป็นที่พึ่งของคนรักสัตว์เลี้ยงล่ะจ้าๆๆๆๆ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 203

tum

05/09/2011 12:35:47
พาน้องต่ายไปหาหมอแล้วแต่น้องต่ายดิ้นไม่ยอมให้ป้อนยาทำยังไงดีคะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 204

AE

05/09/2011 14:53:41
กระต่ายอายุเท่าไหร่ถึงจะทำหมันได้คะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 205

AE

07/09/2011 09:31:17
กระต่ายท้องเสียพาไปหาหมอแล้วหมอให้ยามากินตอนกลางคืนก็หายเป็นปกติแต่พอสายๆก็กลับมาท้องเสียอีกเป็นแบบนี้มา 2 วันแล้ว กระต่ายอายุ 2 เดือนนะคะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 206

AscoGenetic5

19/11/2011 10:35:20
175
นานๆดันที
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 207

นายมั่นคง

19/11/2011 10:49:19
4,282
สัตว์เลี้ยงป่วยช่วงน้ำท่วมนี้ไม่ใช่น้อยๆๆ เลย ใครสงสัยโพสคำถามทิ้งไว้ได้เลยนะครับ 55
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 208

หญิง

07/07/2012 17:50:09
อยากได้แผนที่ของทางร้านอะค่ะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 209

นายมั่นคง

07/07/2012 22:01:55
4,282
นี่เลยครับ เมล์หาหรือโทรหาหมอเพชรได้เลยจ้าๆๆๆ

------------------------------------------------------------
"โรงพยาบาลสัตว์บ้านรักสัตว์เลี้ยง" อ.เมือง จ.ชลบุรี
โทร. 038 284231, 084 9242002
รักษาและดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรัก
โดย.....คุณหมอเพชร poramate_vet @ yahoo.com
-------------------------------------------------------------
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 210

pigjun

21/04/2014 09:21:10
พอดีสุนัขแถวบ้าน ท้องโตภายในอาทิตย์เห็นได้ชัด และโตขึ้นทุกวัน เกิดจากสาเหตุอะไรค่ะ เห็นแล้วสงสาร เป็นสุนัขแถวบ้าน
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 211

Nort

23/04/2014 22:56:08
0
อาจต้องขอข้อมูลให้คุณหมอเพิ่มเติมนิสนึงนะครั เช่น
สุนัขอายุเท่าไหร่ เป็นลักษณะบวมน้ำ(คือเตะๆแล้วเด้ง) หรือบวมเป็นก้อนครับ

สุนัขมีอาการไอแห้งๆร่วมด้วนรึเปล่า อะไรประมาณนี้ครับ

รายละเอียดคงต้องรบกวนคุณหมอมาตอบนะครับ ;-)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 212

กาน

20/09/2014 20:57:00
หมอแมวผมเป็นลมชักควรทำยังไงดีคับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 213

aina

11/05/2021 21:47:43
0
อ้างอิง : ความคิดเห็นที่ 1 - petch_a_vet

ขอบคุณเฮียมั่นมากนะครับที่ตั้งกระทู้ให้ครับ

ใครมีปัญหาสุขภาพสัตว์เลี้ยงอยากสอบถามก็เชิญเลยนะครับ หรือว่า ถ้าอยู่ในละแวกชลบุรีก็เรียนเชิญได้เลยนะครับ

หมอคะ ลูกแมวที่เก็บมามีอาการขาแบะค่ะหมอพอจะรักษาได้ไหมคะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"(แบนเนอร์การกุศล) รักษาและดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรักของท่าน โดย คุณหมอ Petch"