คุณ Yuth ครับ อย่าว่าตัวเองแบบนั้นเลยครับ ไม่รู้ไม่ได้แปลว่าโง่นะครับ

อันนี้ต้องรีบออกตัวก่อนครับ เพราะไม่รู้เหมือนกัน อิอิ ^ ^

คิดว่าพอรู้นะครับแต่กลัวปล่อยไก่เหมือนกัน รอเซียนหรือเฮียมั่นมาแจงเองดีกว่าครับ

ในบางคนจะคิดว่า \"เสียงที่ออกแนวเรียบๆ เด่นสูง เบสลึก ออกแนวจืดๆ\"
ในอีกกลุ่มจะคิดว่า \"เสียงที่คล้ายเสียงจริงๆที่ได้\"

ในความคิดผม มันก็ทั้งคู่นั้นหละ อุอุ

คล้ายๆแนว ขี้ฟ้อง ป่าวเอ่ย

อิอิ เหมือนจะรู้ แต่ไม่รู้เหมือนกัน....

ผมว่าน่าจะหมายถึงเสียงที่ไม่ได้ปรุ่งแต่งหรือเปล่าครับ
แต่ก็ไม่ชัวร์เพราะ iPod มีเลือก No EQ และ Flat ทั้งคู่เลย แต่เสียงเหมือนกันหนิ

จากที่เข้าใจ(เอาเอง) ในด้านของการปรับ EQ คือไม่เพิ่มไม่ลดเสียงย่านไหนเลย เรียบๆไปอย่างนั้น

ถ้าเป็นทางดนตรี จะหมายถึงเสียงโน๊ตที่ต่ำลงมาครึ่งเสียงครับ

อย่าไปคิดว่าโง่อะไรครับ เพราะว่ากันตามจริง ทุกวันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน เรียกว่าถ้าจะโง่ ก็น่าจะโง่ได้เหมือนๆๆกันล่ะ 555

คำว่า Flat นั้น ถ้าแปลตรงๆๆ แปลว่า ราบ หรือเรียบ หรือแบนๆๆ ซึ่งถ้าเอ่ยถึงเกี่ยวกับทางเครื่องเสียงก็คือเสียงที่แบนๆๆ ราบๆๆ ใช่หรือเปล่า

ตอบว่าไม่ใช่ครับ เสียง Flat นั้น ในที่นี้หมายถึง ย่านเสียงที่ไม่ได้รับการปรุงแต่งใดๆๆ ทั้งสิ้นจากต้นฉบับ คือต้นฉบับมาเป็นอย่างไร การเล่นแบบ Flat ก็คือการไม่แต่งเสียงอะไรเลยนั่นเอง

เสียงจะมีย่านเสียงตั้ง 20 - 20,000 เฮิกซ์ ซึ่งทางซ้ายสุดของกราฟ (ดูรูปตัวอย่าง) จะเป็นย่านเสียงทุ้มเสมอ และทางขวาสุดจะเป็นย่านเสียงแหลมเสมอ อันนี้เป็นสากลครับ ถ้ามีอันไหนแหกคอกมา ถือว่านอกตำราแล้วล่ะ 555

สมัยก่อน เมื่อ 20-30 ปีก่อนนั้น เราจะมีเครื่องชนิดหนึ่งเรียกกันว่า Equalizer หรือตัวปรับแต่งเสียง แต่พอกาลเวลาผ่านไป เราย่อมันเหลือแค่เป็นซอฟแวร์โปรแกรมในเครื่อง


ถ้าสังเกตุจากรูป จะเห็นว่า มันราบเรียบ และถูกเซ็ทไว้ที่ตำแหน่ง 0 คือไม่มีการปรับแต่งใดๆๆ ในทุกๆๆ ย่านเสียง แบบนี้เราเรียกว่า Flat ครับ และหากถามว่า การปิด EQ ด้วยตำแหน่ง OFF หรือ Flat เหมือนกันไม๊

ถ้าเอาจริงๆ ไม่เหมือน เพราะการ OFF ถือว่าปิด ไม่ใช้ EQ กันเลย แต่ถ้าเปิด Flat ยังถือว่าเป็นการใช้ EQ แต่เป็น EQ ที่ไม่มีการปรับแต่งเสียง เรียกว่าถ้าเปิด Flat ก้หมายถึงสัญญาณต้องผ่าน EQ อีกที แต่ถ้า OFF ก็คือการ Bypass ไม่ได้ใช้เลยน่ะครับ


แนะนำให้เปิด Flat หรือ OFF ก็ได้ครับ เพราะการฟังเพลงจริงๆๆ เรามักจะเน้นคุณภาพจากการบันทึกเสียง การฟังเพลงทีผ่านการปรุงแต่งปรับทุ้มแหลม เราถือว่ามันไม่เที่ยงตรง และมีความเพี้ยนอยุ่ในสัญญาณครับ


เอ้า พิมพืไปพิมพ์มา ไม่รู้เล่าถูกหรือเปล่า แต่ถ้าจะผิดก็คงนิดเดียวล่ะเน้อ 555

ชัดเจนครับเฮีย
ขอบคุณทุกท่านสำหรับความรู้ดีๆครับ
งั้นปกติผมเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่เสแสร้ง แสดงว่าผม flat ป่าวครับ อิอิล้อเล่นครับ (จริงๆ น่าจะ fat มากกว่าครับ)

ยุค 30-40 ปีก่อน เรายังไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้กัน ยุคนั้นใครอยากจะปรับแต่งเสียงให้เบสตื๊บๆๆ หรือแหลมเชี๊ยะๆๆ ก็ต้องพึ่งเจ้า Equalizer กัน ยุคก่อนนู้น ใครใช้ EQ แบบนี้เท่มาก ถือว่าปรับเสียงได้เยอะละเอียด

สังเกตุจากรูปครับ จะเห็นว่าปรับแยกได้ทั้งแชนแนลซ้ายและขวา อิสระจากกัน เรียกว่าใครอยากเค้นเบสเยอะๆๆ หรือแหลมจัดๆๆ ก็ใช้เจ้านี่ล่ะตกแต่งเสียงเอา เรียกว่าเสกได้ดังกับแก้วสารพัดนึก

แต่พอเวลาผ่านไป นักเล่นทั้งหลายก็ชักระแวงว่าการใช้ EQ ชักจะไม่เข้าท่า เพราะยิ่งเปิด หรือยิ่งแต่งเสียงมาก ยิ่งสร้างความเพี้ยนมาก ซึ่งทำอันตรายกับชุดเครื่องเสียงได้มาก คือทำอันตรายตั้งแต่แอมป์ ยันลำโพง และยันไปถึงกระเป๋าสตางค์

เจ้า เครื่องเล่นอย่าง Equalizer ก็เลยไม่ได้รับความนิยมในที่สุด ซึ่งแต่ก่อนนั้นผมชอบมาก เพราะรู้สึกว่าถ้าได้ปรับแต่งเสียงเองแบบนี้ มันแลดูเก๋า ดูเป็นผู้ชำนาญการ แต่พอเล่นเครื่องเสียงไปนานๆๆ เข้า เจ้านี่คือศัตรูหมายเลขหนึ่งของคนเล่นเครื่องเสียงเลยเชียวล่ะ

พอโลกเจริญขึ้น แต่ก่อนต้องจ่ายเงินเป็นหมื่นๆๆ เพื่อซื้อเครื่อง EQ มันก็กลายเป็นว่า เจ้า EQ ถูกเพิ่มเข้าในเครื่องเสียงพกพาอย่างพวก Walkman หรือชุด Combo เล้กๆๆ ประเภทแต่งได้ 5-7 แบนด์นั่นเอง แต่ท้ายสุด การผลิต EQ ก็เลิกราไป


จนปัจจุบัน เหลือให้เราเห็นกันในโปรแกรมเพลงในคอม หรือเห็นกันเฉพาะใน Portable ต่างๆๆ ซึ่งถือว่าย่นย่อเหลือมาเป็นแค่ software ตัวหนึ่งแล้วเท่านั้นครับ

555

ตามความเข้าใจของผมนะ....จากที่ได้ลองแอมป์มาหลายๆ ตัว จนกระทั่งมาเจอ iQube

ผมเข้าใจว่าอย่างนี้ Flat ก็คล้ายๆ กับที่เฮียอธิบายเรื่อง Equalizer คือ อุปกรณ์ตัวนั้นจะถ่ายทอดเสียงในลักษณะที่ตรงไปตรงมา ไม่ได้ปรุงแต่งอะไร ให้เสียงที่ตรงกับการบันทึกมาหรือเสียงในธรรมชาติหรือเสียงในสถานที่บันทึกมากที่สุด

กล่าวคือ แอมป์หรือหูฟัง แต่ละตัว มักจะมีบุคลิก หรือลักษณะพิเศษบางประการที่ทำให้เสียงที่ถ่ายทอดออกมา เป็นลักษณะเฉพาะของอุปกรณ์ตัวนั้น ตามที่ผู้ผลิตอุปกรณ์ได้ออกแบบวงจร หรือออกแบบเสียงที่ต้องการไว้

ดังนั้นเมื่อสัญญาณวิ่งผ่านอุปกรณ์นั้นๆ ก็จะมีการปรุงแต่ง ในลักษณะต่างๆ เช่น ได้เบสที่ชัดเจนขึ้น เสียงกลางเด่นออกมา หรือเสียงสูงทอดยาวออกไป อย่างที่เราๆ ได้อ่านในรีวิว

เดิมผมก็ไม่ค่อยเข้าใจว่า Flat หมายถึงอะไร ก็ได้แต่เดาๆเอา จนมาใช้ iQube ผมกำลังคิดว่า แนวเสียงอย่างที่ iQube ให้นี่หรือเปล่า ที่เรียกว่า Flat

ซึ่งถ้าไม่ใช่ ก็ต้องขออภัย ผู้รู้ด้วยนะครับ

เพราะว่าผมชอบความ Flat ของมันเสียเหลือเกิน ซึงผมคิดว่าหลายๆ คนอาจจะไม่ชอบก็ได้ครับ เพราะเมื่อได้ฟังครั้งแรก มันช่างจืดชืด ไร้รสชาด ไม่สนุก มันส์เหมือนกันการฟังเพลงผ่านแอมป์ยี่ห้ออื่นๆ

แต่ในความ Flat นั้นสำหรับผมซึ่งชอบบริโภคความ สมจริง ความตรงไปตรงมา เบสอาจไม่ตุ้บตั้บ มีอิมเพ็คมากๆ กระทุ้งให้เกิดความสนุกสนาน แต่เป็นเบสที่เหมือนเสียงต่ำในธรรมชาติ ไม่หนัก ไม่เบาจนเกินไป มาแบบพอดีๆ เสียงร้องก็ออกหวาน มีเสียงสากเสี้ยนของเสียงบ้าง ไม่บางจนกลายเป็น Digital เสียงสูงก็กลมมน สะอาดใส

ผมเรียกมันว่า มันสมจริง มากๆ ครับ


เอ๊ะ!! ผมชักงงๆ ว่าผมตอบกระทู้เรื่อง Flat......


หรือว่าผมกำลังรีวิวเรื่อง iQube อยู่เนี้ย..55555

(มาโชว์โง่บ้าง ^^)

ที่ผมเข้าใจเนี่ย Flat มันคือไม่ได้ปรับเสียง เสียงจะออกมาตามคุณภาพของอุปกรณ์นั้นๆ เพราะฉะนั้น Flat ของแต่ละเครื่องมือ ก็จะให้เสียงไม่เหมือนกันอีก อย่างเช่น เครื่อง A ให้เสียง Flat บางๆ ขาดเบสโดยธรรมชาติ ถ้าไปเพิ่มเบสใน EQ อาจจะให้เสียงคล้ายกับเสียง Flat ของเครื่อง B ก็ได้

ส่วนเรื่องของคุณภาพของการบันทึกเสียงของเพลงนั้นๆ ก็เป็นอีกเรื่องนึงนะครับ

แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ รสนิยมคนฟังนี่แหละ (ผมหาเครื่องที่จะมาแทน H10 มานานแล้ว ยังไม่เจอสักที ไอ้ที่เล็งอยู่ราคาก็แรงเกิน)

EQ แบบที่เฮียโชว์ บ้านผมยังใช้อยู่เมื่อปีที่แล้วครับ
ล่าสุดเลิกใช้ เพราะฟ้าผ่า เจ๊งทั้งชุด เลยทิ้งไปเลย

ไม่แน่ใจว่าปิดโวลลุ่มสุดๆนี่จะ Flat ที่สุดครับ ถ้ากว่านั้นจะต้องปิดเครื่องไปเลยจ้า ฟิ้ว.............

ไม่โง่ หรอกครับ ทุกวันนี้ ผมก็ยังไม่รู้

ได้ฟามรู้อีกบานเลย แหะๆ

เพิ่งรู้เหมือนกานแหะ
อิอิ

คือคนเล่นเครื่องเสียง ไม่ว่าจะเป็นชุดบ้าน หรือหูฟัง ส่วนหนึ่งที่เหมือนกัน คือมักจะเล่นกันตรงอุปกรณ์ครับ คือถ้าลำโพงเบสมันบาง เราก็มักจะไปหาวิธีเซ็ทลำโพงก่อนให้ได้เบสดีๆๆ แต่ถ้าทำไปทำมา แล้วไม่ได้ ก็มักจะเปลี่ยนไปใช้ลำโพงที่เบสดีๆๆ แทน

แต่คนเล่นเครื่องเสียง มักจะไม่เอา Equalizer มาแต่งเสียงเพื่อเพิ่มเบสเหมือนยุคก่อนแล้วล่ะครับ เรียกว่าพอใจที่จะใช้อุปกรณ์ที่มี ด้วยการปรับแต่ง หรือเติมแต่ง (เติมแต่งด้วยสายสัญญาณหรือสายไฟ)

เพราะเวลาฟังซีดีชุดเดียวกัน มันสามารถอ้างอิงได้ครับ ว่าอะไรมันเป็นอะไร คือใช้เงื่อนไขเดียวกัน คือ Flat และถ้าไปแต่งเสียงเมื่อไหร่ ถือว่ามันคือความเพี้ยนล่ะครับ 555


เอ้า มาฟังเพลงด้วยการปิด EQ กันเถอะครับ แรกๆๆ จืดหน่อย แต่ระยะยาวๆๆ แล้วสนุกกว่าจ้า 555

Flat ในด้านเสียง มันแปลได้หลายความหมายครับ

แบบแรกจะหมายถึงเรื่อง Graphic Equalizer ครับ (ตัวที่เอาไว้ปรับเสียงความถี่ย่านต่างๆนั่นแหละ)
ถ้ามีคนมาพูดว่า \"ชอบฟังเพลงแบบ Flat\" มันก็จะหมายถึงเรื่องนี้แหละครับ
อธิบายก็คือ เปิด EQ เอาไว้ แต่ปรับค่าทุกอย่างให้มันอยู่ที่ 0 dB หมด
หรือไม่ได้เปิดใช้งาน EQ เลย ก็ให้ผลที่ Flat เหมือนกันครับ เพราะไม่ได้ปรับแต่งอะไรเลย

(เดิมที EQ เขาสร้างมาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องเสียง มากกว่าที่จะดัดแปลงเสียงเล่นตามใจชอบครับ
ถ้าใช้งาน EQ ไม่เป็น ก็ไม่จำเป็นต้องสนใจมันครับ ปิดมันซะ)

แบบที่สองจะหมายถึงเรื่อง Frequency response ครับ (การตอบสนองความถี่)
ส่วนมากคำนี้จะใช้กับลำโพง อย่างเช่น \"ลำโพงคู่นี้มันเสียง Flat ดีนะ\" หรือ \"ลำโพงคู่นี้เสียงไม่ Flat เลย เสียงเบสบวมมาก\"
อธิบายก็คือ สามารถตอบสนองเสียงได้ทุกย่านความถี่ และ ให้เสียงที่(แทบจะ)ไม่เพี้ยนเลยสักความถี่ ครับ

Flat แปลว่า ราบ แบนราบ

น้องสาวคนนั้น Flat จังแฮะ....



....หมายถึงจมูก น่ะครับ

\"Flat แปลว่า ราบ แบนราบ

น้องสาวคนนั้น Flat จังแฮะ....\"

----------------------------

อ้าว! แปลว่า ลาบ เฮ้ย! ราบ แบนราบ เหรอ...

นึกว่าหมายถึง \"แฟลต\" ที่เห็นเยอะๆ แถวดินแดง.....อิอิ

พี่วิเชียรเอาอย่างั้นเลยเหรอครับ อิอิ สำหรับแฟลตของผมตรงข้ามกับ ชาร์ป 555

เอ แฟรต กะ คอนโดมันต่างกันป่าว.. อิอิ พาออกทะเล

กางใบ แล้วไปกันเลย ฮ่าๆๆ ใครจะเป็นกับตันยกมือขึ้น

ผมเข้าใจว่ามัน มาแบนๆ ไม่มีย่านไหนโดนเด่น

ฟังแล้วเบื่อๆ

ปกติไม่หยาบคาย แต่เห็นแสดงความโง่กัน
เกินรับได้ต้องขอติง
Tanan และคนอื่นๆ โคตรโง่อ่ะ
ไม่ว่าเจ้าของกระทู้นะ
แต่คนรู้ไม่จริงมาตอบเนี่ย
มันโง่อวดฉลาดไม่ใช่เหรอ

ถ้า Flat ในด้านดนตรีมันคือเครื่องหมาย
ที่ลดระดับเสียงโน๊ตลงมาครึ่งเสียง
เครื่องหมายเหมือนตัว b แบบนี้
ถ้าเพิ่มครึ่งเสียงใช้ # เรียก ชาป

ถ้าอธิบายให้ชัดไปเลยคือ
ฝรั่งเขาไม่มาไล่
โด เร มี ฟา ซอล แบบเรา
แต่เขาไล่
c d e f g a b c
ซึ่งก็คือ
โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด(สูง)
เรียงตามตัวไปเลย
ถ้าเพิ่มครึ่งเสียงก็คือ
จาก c ไป d หรือ โด ไป เร เนี่ย
จะมีครึ่งเสียงระหว่างกันอยู่
เหมือน 1 ไป 2 ก็จะมี 1.5 คั่นอยู่ ใช่มะ
นั่นคือ c เพิ่มอีกครึ่งคือ ติดชาปเป็น c#
(ซีชาป)ก่อนจะไป d ...งงมั้ยเนี่ย
ในทางกลับกัน ถ้าลดลงหรือติดแฟลต(b)
ก็จะเป็นแบบ c - db - d คือ d ลดลงมาครึ่งเสียงไง
หมายความว่า c# กับ db คือเสียงเดียวกัน
แต่ยังมียกเว้นไว้ 2 ตำแหน่งคือระหว่าง b-c และ e-f
ที่ทั้ง 2 คู่นี้ มันเป็นครึ่งเสียงกันและกันอยู่แล้ว
นั่นคือ b# ก็คือ c และ cb ก็คือ b
เคยได้ยินมั้ย โน๊ตตัวนี้ ติดชาป ติดแฟลต
ก็ประมาณนี้แหละ
ไม่ใช่เพลงราบๆ เรียบๆ เพิ่มเบสอะไรนั่นหรอกนะ

เจ้าของกระทู้เข้าใจหรือยัง?
รู้ให้จริงแล้วมาตอบนะคนอื่นๆ น่ะ
เห็นแบบนี้ รับไม่ได้
ใครข้องใจแย้งมาเลย
จะดูว่าโง่แล้วยังมาเถียงเป็นไง

พี่ลอดช่องครับ ที่พี่ว่ามาก็ไม่ผิดครับ มันมี 2 ความหมายนะครับ ดังที่มีคนอธิบายไปก่อนพี่แล้ว

แต่สำหรับแวดวงเครื่องเสียง ความหมายของเสียงที่ไม่ปรุงแต่งโดย EQ น่าจะตรงกว่าครับ

ปีใหม่แล้วใจเย็นๆครับพี่ โชคดีครับ

เอ๊ะ คุณ ลอดช่อง แรงไปรึเปล่าครับ

ถ้า Flat ใน EQ เพิ่มขึ้นอีก ครึ่งเสียง ก็จะ ข้ามไปอีกโน๊ตเหรอครับ เช่น Cb > C > C# > B

งั้นคีย์ มันก็จะสูงขึ้นสิครับ เสียงมันจะไม่เพี้ยนไปเลยหรืออย่างไร ??

แล้วก็หน่วยใน EQ มันให้มาเป็น ความถี่ ( Hz ) นะครับ ไม่ได้ให้มาเป็น ตัวโน๊ต

มันคนละเรื่องกันเลยนะหนิ

แ้ล้วก็ขออภัย ถ้าคิดว่าผมโง่แล้วมาเถียง

ด้วยความเคารพครับ

555 มาหัวเราะในความโง่ของตัวเอง...


มีอะไรที่เกี่ยวกับ Flat, แฟลต หรือ b อีกเปล่าครับ..


จะได้รู้กันไปว่า อะไรมันจะ Flat กว่ากัน...555

คุณวิเชียรพูดให้้คิด....

มีแต่แบบครึ่งเสียง มันไม่มีแบบ 0.25 เสียงมั่งเหรอ(สงสัยอีกแล้วเรา)ในโน๊ตตนตรีมันมีเสียงแบบนี้ไหม๊หนอ

สนับสนุนคุณ xp ครับ คำว่า flat ในทางดนตรีน่าจะเป็นแบบที่คุณลอดช่องว่า แต่ในวงการนักเล่นเครื่องเสียงที่ผมไปได้ความรู้แบบครูพักลักจำมานิดหน่อยน่าจะเป็นแบบที่เฮียว่านะครับ คือต้นฉบับมาอย่างไรก็ปล่อยเสียงไปแบบนั้น เหมือนเวลาที่มีการวิจารณ์เครื่องเสียงว่า \"บุคลิก Integrated Amp เครื่องนี้ ค่อนข้าง flat\" ก็คงไม่ได้หมายความว่าเจ้าเครื่องนี้ให้เสียงที่ลดลงมาครึ่งโน้ตใช่ไหมครับ

ผมไปปรึกษาพจนานุกรมของ Webster เลยได้เข้าใจว่าคำว่า flat นี่มีหลายความหมายมากครับ (เกิน 30 ความหมาย)มีอยู่ความหมายนึงแปลว่าไม่มีตังค์ด้วยซ้ำ

555+ อย่างนี้นี่เองมันคือ flat ในด้านเสียงเพลงกัีบในด้านความถื่เสียงซึ้งตามความคิดของผมมันก็ถูกทั้ง 2 อย่างเลยครับ แต่คำถามของเจ้าของกระทู้คือ >>>คำว่า \"Flat\" ในด้านเสียงเพลง หมายว่าไรครับ

แฟลตแบบที่ ลอดช่อง ว่า บอกตรงๆว่าอ่านแล้วไม่เข้าใจครับ

การยกตัวอย่างน่าจะทำให้ดีกว่านี้ เพราะต้องเข้าใจว่าคนที่บอร์ดนี้ส่วนใหญ่เป็น \\\"คนฟังเพลง\\\" ครับ ไม่ใช่ \\\"นักดนตรี\\\" เพราะฉะนั้นเรื่องที่เกี่ยวกับทฤษฎีดนตรีเนี่ยขอช่วยเขียนให้อ่านง่ายนิดนึงครับ

แล้วอีกอย่างนึง การที่จู่ๆมาว่าคนอื่นว่า\\\"โคตรโง่\\\"เนี่ย ผมว่ามันดูเป็นเด็กมัธยมผมสั้นไปหน่อยนะครับ แค่คุยกันดีๆว่า \\\"เข้าใจกันผิด\\\" ก็ได้ แล้วก็อธิบายให้คนอื่นเข้าใจกันง่ายๆดีกว่าครับ มันดีกว่ากันเยอะเลย

เท่าที่ผมเข้าใจนะครับ คุณk อธิบายง่ายๆ เคยเห็นแผ่นโน๊ตเพลงของนักดนตรีไหม๊ครับ ที่มีบรรทัดห้าเส้นแล้วมีรูปกุญแจซอลอยู่ข้างหน้า และจะมีสัญลักษณ์ตัวโน๊ตต่างๆ เช่นตัวดำหรือขาวมากมายอยู่บนบรรทัดห้าเส้นนั้น ตัวโน๊ตแต่ละตัวอยู่ตำแหน่งใดจะเป็นตัวบอกระดับเสียงนั้นๆ เช่นดำแหน่งเสียงโด หรือเร หรือฟา ฯลฯ แต่ถ้ามีสัญลักษณ์ตัวแฟลต b มาประกบอยู่กับโน๊ตตัวใด โน๊ตตัวนั้นเวลาเล่นจะต้องลดระดับเสียงลงมาครึ่งนึง แต่ผมก็ยังงงๆว่า เจ้าของกระทู้ถามเรื่องแฟลตในความหมายไหนกันแน่ ตอบได้หลายอย่าง (คำว่าโคตรโง่นี่แรงเหมือนกันนะครับ)

อ่านที่คุณ pirarucu แล้วเข้าใจแล้วครับว่า ลอดช่อง ต้องการจะสื่ออะไร

แต่มันก็ไม่ใช่ประเด็นของคำถามของ จขกท อยู่ดีนิ่ครับ

ปล สำหรับ Flat-Condo ในแง่ที่อยู่อาศัยนั้น เข้าใจว่ามีความหมายเหมือนกันแต่ต่างกันที่
Flat เป็นคำอังกฤษ-อังกฤษ (ฺBritish)
Condo เป็นคำอังกฤษ-อเมริกัน (American) ครับ

Flat ในความหมายของผม ซึ่งบอกไว้ก่อนว่าไม่เหมือนของคนอื่นแน่ๆ

Flat ของผมไม่ได้หมายความถึง เสียงที่ฟังได้จริงๆ ในสถานที่บันทึก แต่Flat ของผมคล้ายกับ ความบาลานซ์ tonal balance ไม่มีย่านไหนเด่นเกินย่านไหน

สมมติว่า เสียงที่ฟังได้จริงๆ ในสถานที่บันทึก มันมีเบสน้อยเกินย่านอื่น คือตั้งใจอัดมาให้เป็นอย่างนั้น หรืออัดไม่ดี

ผมก็จะปรับลด Eq ให้เบสเพิ่มขึ้น ให้หูผมฟังแล้วไม่มีย่านไหนเด่นเกินย่านไหน

หูฟังที่เรียกตัวเองว่า Flat อย่าง AKG 701 จะมี frequency response ด้านเสียงเบส ถึงกลางต่ำ ยกขึ้นมาให้เด่นกว่าย่านอื่นๆเล็กน้อย เพื่อหูคนฟังฟังแล้ว ไม่มีย่านไหนเด่นเกินย่านไหน เพราะปกติแล้วหูคนเราตอบสนองต่อเสียงย่านต่ำได้น้อยกว่า หมายความว่า เสียงที่มี ค่า dB เท่ากันสองย่านความถี่ (ต่ำกับสูง) เราจะรับรู้ว่าเสียงย่านความถี่ต่ำมีความดังน้อยกว่า

ดังนั้นอุปกรณ์ที่ให้เสียง Flat คือ อุปกรณ์ที่ผลิตเสียงออกมาให้ผมฟังแล้วรู้สึกว่าไม่มีย่านไหนเด่นเกินย่านไหน 5555

เราเป็นนักดนตรีครับ เข้าใจทั้ง สองฝ่าย แต่คุณลอดช่องน่ะ เปิดตาให้กว้างกว่านี้ มองโลกหลายๆมุม จะดีกับตัวเองนะ

หง่ะ ผมไ่ม่แวะมาในกระทู้ผมสองวัน ได้ความรู้ขึ้นเยอะ
ขอโทษจริงๆ ที่ทำให้เข้าใจผิดกันครับ จริงๆ ผมอยากทราบในความหมายของด้านเครื่องเสียงนั่นแหละครับ
คือ ได้ยินพูดกันว่า หูฟังตัวนี้เสียง แฟลต เลยไม่เข้าใจ แล้วตกลงมันดีหรือไม่ดี
ตอนนี้เข้าใจละครับ ขอบคุณทุกความรู้นะครับ

ปล. การไม่รู้ก็ไม่ถึงกับ โค ตร โง่ นะครับ คุณลอดช่องก็แรงไปนิดนึงนะครับ แต่ขอบคุณสำหรับความรู้เพิ่มเติมครับ

การว่าคนอื่นโง่ แสดงถึงระดับความฉลาดของเจ้าตัวจ้า(เมื่อก่อนผมทำบ่อย เวลาส่องกระจกเลยมองเห็นเขาตัวเองง่ะ.....)

อยากบอกว่าในทางดนตรีจริงๆแล้ว C# กับ Db เสียงคนละความถี่กันนะครับ
ถ้าคุณลอดช่องมี relative pitch จะบอกได้ว่า แม้แต่ C ของ เสกล E major กับ G major มันไม่ตรงกันซะทีเดียวครับ แต่ในปัจจุบันคนเอาเปียโนมากดฟังเสียงกันซะส่วนใหญ่ ซึ่งเปียโนนั้นเสียงที่ออกมาไม่ได้ตรง pitch เลย เพราะเป็นการเฉลี่ยๆเอาจากสาย 3 สายที่ตั้งทำให้ฟังดูเหมือนจะตรง แต่ถ้าคุณเล่นเครื่องสายจะรู้ครับ

คุณ YUTH ครับ มีครับ แต่ไม่มีในโน๊ตสากล พวกเพลงอาหรับมีใช้อยู่ครับ

ผมว่าพี่ลอดช่อง แกเล่นตลกร้ายรึเป่าครับ


ไม่น่าจะตั้งใจบอกแบบนั้น แต่เอาฮา


อ่านๆไปก็หน้าโดดเตะ

โห ดีนะผมไม่ได้เรียนด้่านดนตรี ดูแล้วรายละเอียดเยอะมากมาย
เล่นกีต้าเป็นงูๆปลาๆ พออ่านแท๊บกีต้าเป็น ก็ว่ายากแล้ว

สรุปคือเป็นผู้ฟังอ่ะแหละ ดีแระ

เครื่องเล่นเพลงเดี๋ยวนี้ ปรับ pitch มะได้หรอกนะครับ ผมหมายถึงเครื่องเล่น CD อ่ะนะ แต่ถ้าเป็นเทปเพลงมีบางเครื่องปรับได้เช่น เครื่องแกะเพลงของ ไอบาเนส หรือเครื่องเล่นแผ่นเสียง ผมเคยใช้แกะเพลงมาบ้างตอนหนุ่มๆ กว่านี้ครับ ลอดช่องคงพยายามพาออกทะเลล่ะครับ อิอิ

สรุปว่าได้กัปตันไปทะเลแล้วครับ

ปล.เข้ามาหาความรู้ครับ

อืม... ได้ความรู้...
(หน้าอก Flat) น่าจาใช้ได้ ๆ อืม...

พึ่งเห็นกระทู้เมื่อปลายปี

"ฝรั่งเขาไม่มาไล่
โด เร มี ฟา ซอล แบบเรา
แต่เขาไล่
c d e f g a b c
ซึ่งก็คือ
โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด(สูง)
เรียงตามตัวไปเลย"

แล้วมันต่างกันยังไงครับคุณลอดช่อง อ่านแล้วอย่างฮาเลย

ปล.หน้าอก Flat แถวบ้านผมเรียกจอแบนครับ

แสดงความเขาบนหัวโดยไม่รู้ตัวนะคุณลอดช่อง

[youtube=850,465]http://www.youtube.com/watch?v=SFdtu6bcvDA[/youtube]

55555+ ฮาแฟลต ชาร์ป

+1 Like >> Flat - Sharp

ฝรั่งเขามาไล่
โด เร มี ฟา ซอล นะคับ เค้าเรียกว่าระบบ so-fa system ใว้ใช้ในการออกเสียงร้อง เช่น a=ลา b=ที c=โด d=เร ส่วนระบบที่เป้น a b c d เนี่ยเรียก letter system เพิ่งเกิดขึ้นมาทีหลังแต่นิยมกว่า คือ a b c d นั่นแหละ (.ในระบบอังกฤษ)และในระบบของเยอรมัน aกับb ก็มีเสียงติดกันคับ เพราะbในระบบเยอรมัน=bเฟล็ตส่วน ตัวที=h

และที่พี่ tananพูดถูกแล้วคับ flat .ในศัพทั่วใปหมายความว่าราบ เรียบ บาง หรือใม่ปรุงแต่งนั้นเองคับ คับ เหตุผลอาจเป็นเพราะระบบบันท฿กเสียงในสมัยก่อนใม่สู้ดีนัก เสียงที่ใด้เลยขาดๆหายๆ เลยต้องชดเชย โดยการปรับเสียงเพิ่ม และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือนักดนตรีอยากใด้ซาวด์ในแบบของตัวเอง จึงใช้อีคิวเพื่อปรับคับ(อีคิวเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักดนตรีคับ) เสียงกีตาร์ ของลุง อีริก เคลปตัน กับลุง สตีป วายเนี่ย ใม่เหมือนกัน ส่วนหนึ่งมาจากอีคิวครับ เพราะฉะนั้น ในปัจจุปันเทคโนโลยีการบันทึกเสียงมีคุนภาพสูง นักฟังจึงใม่นิยม การใช่อีคิว เพราะเราจะใด้ฟังเสียงใดๆที่เป็นใปตามเจตนารมของนักแต่งเพลง และผู้บรรเลง คับ

"คำถามควรเป็นใปเพื่อ ร่วมการหาคำตอบที่ดีที่สุด
ใม่ใช่เอาใว้เถียงกัน ว่าใครจะชนะ เพราะแต่ละคน
ย่อมมีอัตตาของตนใม่มากก็น้อย "

ชอบรูปของพี่ บรัส ขอยืมนะคับ

เห็นรูปEQที่เฮียโพสแล้วนึกถึงสมัยเด็กๆนะ ที่บ้านก็มีตัวนึงแต่จำไม่ได้แล้วว่ายี่ห้ออะไร
แถมสมัยเด็กๆนี่ปรับเล่นมั่วเลย ตอนนี้มันหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้

เรียนเก่ง สมองดี เรียกว่ามี "IQ"

แต่ถ้ามนุษย์สัมพันธ์ดี เรียกว่ามี "EQ"

.....พยายามลากออกทะเลไปอีกเรื่อง 555

ููุุ^^

p'burst ครับ ผมไม่เข้าใจตัวโน้ตตัวสุดท้ายครับบบ เพ่งนานละ ห้าห้า

กระทู้ข้ามมา2ปีดีดัก 55+

อ่านเพลินเลย

เป็นสเน่ห์ของบอร์ดไปแล้วล่ะครับ การขุดทอง เอ๊ย! ขุดกระทู้เก่าเนี่ย 55555

กระทู้เก่าผมนี่เอง ฮ่าๆๆ login นี้ผมลืม password ไปแล้ว T_T

เเล้วจะฟังได้อย่างไรครับ ว่าต้นทางเขาบันทึกมายังไงอ่ะครับ พอมาเปิดผ่านหูฟังเสียงก็จะเปลี่ยนไปตามบุคลิกของเเต่ละหูฟังนั้นๆอ่ะครับ

▲
▲

เป็นคำถามที่ดีมากเลยครับ

ทุกวันนี้เราก็พยายามไขว่คว้าหาต้นฉบับเสียงหรือไฟล์ losless ที่ใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด
เพราะทุกค่ายเพลงไม่ว่าในหรือนอกประเทศ แทบไม่มีใครเค้าเอา master ออกมาขายกัน
นับตั้งแต่สมัยยังบันทึกแบบ Analog เทปรีล มาถึงยุค DAT 4 Track ไล่มาจนลง Harddisk

ดังนั้นจึงมีผู้ฟังหลายกลุ่ม หลายรสนิยมที่พยายาม "ฟังเสียงเพลง" ให้เพราะด้วยวิธีต่างกัน

การเปิดเพลงหนึ่งเพลงจากไฟล์ที่ใกล้เคียงต้นฉบับนั้น หากจะนับว่า FLAT ที่สุด
ก็คงต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมือซึ่งใกล้เคียงกับ Studio บันทึกเสียงใช้นั่นเองครับ
แต่ถามว่าในความเป็นจริงทำได้มั้ย? ----> ไม่มีทางเลยครับ
แล้วเกิดเค้า Re-Master มาอีกล่ะ ยิ่งผิดเพี้ยนไปกันใหญ่

แต่เราก็พยายามอยากให้มันใกล้เคียงต้นฉบับอยู่ดีครับ
จึงเห็นคนบางกลุ่มเอา Player จำพวกเครื่องบันทึกเสียงคุณภาพสูงของวงการดนตรีมาใช้
หรือไม่ก็พยายามหา DAC ที่มี Bitrate สูงที่สุดเพื่อให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุดนั่นเอง

อันนี้เป็นทรรศนะของผมนะครับ เพราะผมทำงานควบๆ กันระหว่างงานด้าน sound
กับการเล่นเครื่องเสียงหรือ Gadget เลยคิดว่ามันน่าจะออกมารูปนี้

แฟลตของเครื่องหนึ่งเสียงก็ไม่เหมือนแฟลตของอีกเครื่อง
แล้วเครื่องไหนมันแฟลตแท้แฟลตเทียมล่ะเนี่ย
นี่ยังไม่นับหูฟัง,ลำโพงหรือพวกสายอีกนะ
ถ้าจะฟังเพลงให้เพราะ..ใช้คำว่าชอบกับไม่ชอบดีกว่าครับ

ขอเสริมให้ชัดเจนมากขึ้นครับ ถ้าข้อมูลผิดพลาดหรือผมโชว์โง่ต้องขออภัยไว้ก่อนนะครับ

เสียงแฟลตถูกต้องแล้วครับคือเสียงที่ tonal balance ไม่มีย่านใดเด่นทุกย่านเท่ากันหมด

อธิบายง่ายๆนะครับว่า (เอ้ะ หรือยาก ฮ่าๆ) ระบบเครื่องเสียงที่แฟลต คือเมื่อเปิดเสียง white noise (เสียงที่มีความถี่ทุกย่านความถี่ดังเท่ากันหมด) ออกมาจากระบบ แล้วใช้ RTA หรือ spectrum analyzer (อุปกรณ์ที่ใช้วัดความถี่) มาวัด จะได้รูปกราฟ ที่แฟลต ที่ค่อนข้างแบบราบเลยครับ ก็คือเสียงทุกย่านออกมาดังเท่ากันเหมือนกับต้นกำเนิดครับ เวลาซื้อลำโพงหรือหูฟัง ถ้าลองหาข้อมูลดูหลายๆรุ่นจะมี กราฟ นี้มาให้ครับ เรียกว่า กราฟ frequency response ครับ

ถ้าในแง่ของการปรับเสียง player Flat คือไม่ปรับ EQ ครับ เป็น 1 ใน digital filter ที่มีให้ปรับใน player อย่าไปนิยามคำว่า flat ให้มาก เดี๋ยวจะฉี่เหลืองเปล่าๆครับ

แต่ถ้าใครอยากลองก็อ่านนี่เล่นๆดูได้ครับ

http://hifiduino.blogspot.com/2009/05/wm8741-digital-filters.html

้เรื่มต้นเบๆกับ phase linearity, time response, impulse response, aliasing distortion

กระทู้น้านนาน ขอแสดงความเห็นหน่อย พอดีไม่เห็นใครตอบได้ตรงใจที่ผมจะตอบ

คือคำว่า Flat นิ มันอาจแปลได้หลายอย่างแต่ในความหมายของผม มันน่าจะหมายความว่า ทำยังไงก็ได้ให้เสียงมันออกมาเหมือนต้นฉบับที่สุด ซึ่งเป็นเสียง Flat ที่เป็นมาตรฐานในห้องอัดเสียง โดยทุกย่านความถี่มีความดังเท่ากันหมดเมื่อวัดด้วยไมโครโฟนสำหรับวัดเสียงโดยเฉพาะ ณ ตำแหน่งฟัง ด้วยเสียง pink noise

ทั้งนี้เสียงจะออกมาเหมือนกับต้นฉบับที่สุดได้ มันไม่ได้ขึ้นกับอุปกรณ์อย่างเดียว แต่รวมไปถึงตำแหน่งที่ฟังและสิ่งแวดล้อมด้วย นั้นจึงเป็นที่มาของการใช้ EQ เพื่อแก้ไขเสียงทุกย่านให้มีควม Flat ณ ตำแหน่งนั้งฟัง ซึ่งวิธีการทำให้เสียง ณ ตำแหน่งที่ฟังให้มัน Flat ก็มีหลายวิธี เราเรียกวิธีเหล่านี้ว่า acoustic treatment

แต่ละวิธีที่จะจัดการให้ตำแหน่งนั่งมีความเป็น Flat ของเสียง นั้น ไม่ได้หมายความว่าเราต้องปรับเสียงทุกย่านให้อยู่ในตำแหน่ง EQ เท่ากัน หากแต่หมายถึงว่าตำแหน่งที่เรานั่งฟังนั้น ต้องได้ยินคลื่นเสียงทุกความถีดังเท่ากันเมื่อเปิด pink noise แล้วจะทำยังไงละทีนี้ วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือ การนำเจ้า EQ มาปรับนั่นเอง ส่วนวิธีที่ยากอื่นๆก็คือ เอาพวกวัสดุสะท้อนเสียง ซับเสียง กระจายเสียง ไปวางตำแหน่งต่างๆในห้องเพื่อให้ได้ Flat ณ ตำแหน่งที่ฟัง หรือแม้กระทั้งเปลี่ยนอุปกรณ์กันเลยทีเดียว

ดังนั้น EQ ไม่ได้มีไว้เพิ่มหรือปรุงแต่ง หากแต่มีไว้แก้ไขในส่วนที่ขาด และเกิน แต่โดยหลักการแล้ว EQ มักใช้ลดส่วนที่เกินมากกว่าเพิ่มส่วนที่ขาด นี่ถึงจะเป็น ideal ของคนฟังเครื่องเสียง

ดังนั้นศัตรูของนักฟังอันดับแรกที่เราละเลยคือ Acoustic ของตำแหน่งที่ฟัง เราจะรีดศักยภาพเครื่องเสียงออกมามากที่สุดได้ก็ต่อเมือเราสามารถปรับตำแหน่งนั่งฟังของเราให้เป็นเสียง Flat นะครับ ไม่ใช่เปลี่ยนเป็นเครื่องเสียงราคาแพง นี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงมี EQ

สุดท้ายนี้ที่อยากจะแชร์ก็คือ เสียงที่ Flat ไม่ได้หมายถึง EQ ปรับเท่ากันทุกย่าน หากแต่หมายถึงตำแหน่งที่นั่งฟัง ความถี่เป็น Flat ตั้งหาก ดังนั้น EQ ของท่านควรจะยึกยือสูงๆต่ำๆ ดูมั่วไปหมด นะแหละครับ ถึงจะเป็นสิ่งที่คนทำเพลงอยากให้ท่านรับฟังเสียงที่ออกมาจากห้องอัดมากที่สุด

ไม่เห็นด้วยกับ ^
.....................^

เป็นอย่างยิ่งครับ

เกิดมาไม่เคยเห็นความถี่แฟลต ทำอินเวอชั่น ดีคอนเวอลู่ชั่น ยังไม่ได้แฟลต แต่ละเสียงความถี่มันเท่ากันเหรอครับ เป็นการจับแพะชนแกะที่มั่วมาก

ตอม คุณอย่ามามั่ว

เกิดมาผมก็ไม่เคยเห็นความถี่แฟลต
=> ผมก็ไม่เคยเหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจว่าความหมายความถี่แฟลตของคุณเป็นไงนะครับ ผมหมายถึงแต่ละย่านความถี่มีความดังที่ มนุษย์ให้นิยามว่าฟังแล้วดังเท่ากันทุกย่านซึ่งถ้าถามว่ามีกี่ย่าน ตอบว่าเป็นอนันต์ แต่ว่ามันมีเครื่อง eq ไหนปรับได้ทุกย่านบ้างครับในโลกนี้ ไม่มีครับ และไม่มีทางมี ดังนั้นเค้าก็พยายามวัดกันให้มันละเอียดที่สุดที่เป็นไปได้เลยมีเครื่องปรับหลายๆแบนด์มาให้เลือกใช้ไง แต่ปรับแล้วมันเท่ากันทุกย่านหรือเปล่า ตอบว่าไม่มีทาง

ทำอินเวอรชั่น ดีคอนเวอลูชั่น ยังไม่ได้แฟลต
=> ผมไม่เข้าใจ 2 คำนี้จริงๆครับ ช่วยอธิบายให้คนไม่รู้เรื่องเข้าใจเพิ่มเติมได้ไหมครับ จะเป็นประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ด้วย ผมชอบด้านนี้อยู่ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

แต่ละเสียงความถี่มันเท่ากันเหรอครับ
=> มันไม่เท่ากันครับความถี่นะ แต่ผมหมายถึงความดังที่มนุษย์ได้ยินแต่ละความถี่ต้องเท่ากัน นั้นหมายถึง Flat

เป็นการจับแพะชนแกะที่มั่วมาก
=> ผมไม่แน่ใจว่าว่าผมมั่วหรือเปล่า แต่ถ้าว่าผม ผมขอถามว่าตรงไหนมั่วบ้างครับ ช่วยระบุให้เป็นความรู้เพิ่มเติมหน่อยครับ