Guest
หมวดหมู่ > ขายของมือสอง

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

ขายน้ำหอมใช้เองคะ **มีของใหม่เพิ่มนะคะ**

tamamajung

16/07/2016 16:56:48
0
IP : 171.101.166.30
น้ำหอมทุกตัวเป็นของแท้100% (นัดเจอที่ห้างเพื่อตรวจเช็คได้คะ ไม่แท้คืนเงิน10เท่าคะ)

**น้ำหอมที่หนูลงขายหรือแบ่งใส่ขวดสเปรย์ขาย รับประกันว่าทุกตัวคัดมาจากน้ำหอมที่ติดอันดับTop จากทุกผลโหวตมาแล้วนะคะ รับประกันว่าหอมทุกตัว อยู่ที่ว่าลูกค้าชื่นชอบกลิ่นแนวไหนหรือนำไปใช้ในสถานการณ์ไหนๆคะ**

โทร 080-6295928
Line ID >> kusuma_kk













Creed น้ำหอมแบรนด์ที่เรียกได้ว่าแพงมากแต่คุณภาพก็สมกับความแพงทั้งในเรื่องของกลิ่นที่หรูหรา ดูผู้ดีสุดๆ สามารถใช้ได้ทุกโอกาส และแถมติดทนนานมาก
(ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่านะคะ สมมุติน้ำหอมดีไซเนอร์ตามห้างบางตัวกลิ่นเบาหรือติดไม่ทน ทำให้อาจต้องฉีดทีครั้งละหลายสเปรย์ และอาจต้องฉีดเพิ่มในระหว่างวันเนื่องจากกลิ่นจางหายไป แต่สำหรับ Creed ฉีดครั้งเดียวสามารถอยู่ได้ 8ชม.ขึ้นไป หลายๆตัวก็12ชม.ขึ้น ทำให้น้ำหอมปริมาณเท่ากันแต่ Creed สามารถใช้ได้ยาวนานกว่าคะ แถมกลิ่นก็หรูหรา ไฮโซ แต่ใช้ง่าย ได้ทุกโอกาสเลย)

ขายดีมากจนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาพึ่งขึ้นราคาอีก 400฿ ทุกรุ่น โดยขวด 75ml ราคา 7,700฿ และ ไลน์ที่แพงที่สุด(Royal Exclusives line) ราคาขวดละ 25,700฿

ขายแบบทดลองและพกพา ขนาด 2.5 ml (พร้อมใบกระดาษแข็งการันตรีของ Creed) (ซื้อ30ขวด จะได้75ml ทั้งหมด 5,070 ซึ่งจะประหยัดไป 2,630 กว่าซื้อขวดใหญ่75ml 7,700฿ )

(Royal Exclusives line ไลน์ที่แพงสุด ราคาในshopไทยขวดละ 25,700) ขายขวดละ 219฿
1.Spice and Wood
2.Sublime Vanille

ขายหลอดละ 179฿
3.Silver mountain water
4.Aventus


ขายหลอดละ 169฿
5.Millesime imperial
6.himalaya
7.Green irish tweed
8.Virgin island water


1 Spice and Wood








http://www.fragrantica.com/perfume/Creed/Spice-and-Wood-10101.html

อยู่ในไลน์ที่แพงที่สุดของ Creed (Royal Exclusives line) วัตถุดิบที่ใช้สกัดเป็นน้ำหอมใช้วัตุดิบที่หายากและแพงมากๆคะ กลิ่นหอมแนววูดดี้จากไม้ cedar Patchouli Oakmoss(หญ้ามอส)ที่ให้กลิ่นที่สากแต่ชุมชื้น เลเยอร์ด้วยกลิ่นสโมกกี้จาก ต้น Birch ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำชาติรัสเซีย และผสมกลิ่นหอมด้วยความสไปซี่ของ Pepper และ Lemon apple bergamot(มะกรูด) ที่ให้ความหอมที่เย็นสดชื่น เติมเสน่ห์ที่แสนดึงดูดด้วยความหอมจาก musk ถ่ายทอดเป็นแนวกลิ่นที่น่าตื่นตาติ่นใจ และหรูหรา เป็นน้ำหอมที่ฝรั่งรีวิวว่าไม่สามารถได้กลิ่นนี้จากน้ำหอมราคาต่ำกว่า 10,000






------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

2.Sublime Vanille

http://www.fragrantica.com/perfume/Creed/Sublime-Vanille-7024.html

อยู่ในไลน์ที่แพงที่สุดของ Creed (Royal Exclusives line) วัตถุดิบที่ใช้สกัดเป็นน้ำหอมใช้วัตุดิบที่หายากและแพงมากๆคะ กลิ่นตัวนี้หอมวนิลากลั้วกับมะนาว(Lemon)จางๆให้ความรู้สดชื่นแบบธรรมชาติ มีกลิ่นหอมหวานติด smoky จาก Tonka bean มี musk(สกัดได้จากต่อมเพศบริเวณเหนือยเครื่องเพศของกวางเพศผู้) ทำให้กลิ่นหอมสว่างไสวขึ้น อ่อนโยนขึ้น เซ็กซี่ขึ้น และกระตุ้นอารมณ์ได้มากขึ้น หอมหรูหรามาก ดูแพงสุดๆคะ เป็นน้ำหอมที่ฝรั่งรีวิวว่าไม่สามารถได้กลิ่นนี้จากน้ำหอมราคาต่ำกว่า 10,000 หอมมากๆคะ






------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

3.Silver Mountain Water

http://www.fragrantica.com/perfume/Creed/Silver-Mountain-Water-472.html

รีวิวคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/10/review-creed-silver-mountain-water.html

ได้เวลาเล่นของสูงและแพง เพราะน้ำหอมแบรนด์นี้ราคาแบบว่าถ้าซื้อในไทยหรือเมืองนอกก็ใจหายไปอยู่ตาตุ่มกันเลยทีเดียว แค่ในไทยปัจจุบันมีเคาน์เตอร์ที่พารากอนแล้วขวด 120 ml ก็ล่อไป 8,500 หรือ 9,000 บาท (ไม่แน่ใจราคา) แล้วล่ะครับ แต่เห็นของแพงแบบนี้ คุณภาพสมกับความแพงที่สุดในเรื่องของกลิ่นจริงๆ

Silver Mountain Water: SMW มาพร้อมกับกลิ่นแนวคุณชายผู้ดีที่สุภาพ อ่อนโยน มาดดี ยิ้มง่าย เป็นผู้นำที่ดี มีคลาส และดูมีการศึกษาสุดๆ ถ้าเทียบกับ Series เรื่องสุภาพบุรุษจุฑาเทพ กลิ่นนี้อธิบายได้ถึงความเป็นคุณชายปวรรุจ (ที่โป๊ปเล่น) ได้ดีมากมาย เพราะกลิ่นจะเริ่มต้นกับความสดใสแบบ Citrus แต่หอมนุ่มนวลมาก แถมต่อเนื่องด้วยชาเขียวกลั้วกลิ่น Blackcurrant ที่สดชื่นเรียกรอยยิ้มได้ทันที และกลิ่นชาเขียวนี่แหละที่จะอยู่ยาวนานไปจนถึงช่วงเบส ที่จะหอมสะอาด เย็นๆ ด้วย Musk และพิมเสน กลิ่นนุ่มนวล ชวนฝัน สะอาดสะอ้าน ใส่ยังไงออร่าความเป็นผู้ดีออกทันที แถมกลิ่นที่ออกมาทั้งหมดนั้นธรรมชาติมาก เพราะแบรนด์นี้เน้นความเป็นธรรมชาติของกลิ่น โดยเน้นสกัดจริง พึ่งการสังเคราะห์กลิ่นค่อนข้างน้อย เช่นนั้น ทุกอณูของกลิ่นเลยทำให้คนใส่ดูดี ยกระดับ ออร่าบรรเจิด และดูอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ ครับ

เหมาะสำหรับ - ชายหนุ่มทุกผู้ทุกนาม ที่มีตังค์ซื้อ 55555 เพราะตัวนี้ใส่ได้ทุกสถานการณ์เลยทีเดียว แต่อาจจะไม่เหมาะนักกับการใส่ไปเตะบอล หรือใส่ผ้าขาวม้ากระโจนลงคลองว่ายน้ำเล่น ยิ่งใส่ไปทำงาน หรือไปงานทางการ รวมถึงไปเดินเล่นพักผ่อน ยังไงก็ชนะเลิศน้ำหอมแทบจะทุกกลิ่นของคนที่ใส่เดินสวนไปมาเลยทีเดียว

ความทน - มากกกกกกกกกกก เพราะเป็น EDP ของผู้ชาย เกิน 8 ชม. ขึ้นไปจนอาบน้ำนอนเลยล่ะครับ

การกระจาย - กระจายดีทุกช่วงเลย แต่โทนกลิ่นจะให้ไม่หนักหน่วงมาก จะดูมีคลาสตลอดศกที่ใส่ตัวนี้จริงๆ

ป.ล. อย่าคิดว่าผมซื้อขวดเต็มมา เพราะไม่ได้รวยขนาดนั้น ซื้อแบบแบ่งขายมาใช้เองครับ และเป็นอีกตัวของ Creed ที่ปลื้มมากเลยทีเดียว แพ้แค่ Aventus ลูกรัก ที่ผมหลงสุดๆ จนต้องซื้อขวดเต็ม ทุ่มไม่อั้นเลยทีเดียว







------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


AL Rehab - silver


http://www.fragrantica.com/perfume/Al-Rehab/Silver-1176.html

ตัวนี้เป็น1ในตัวที่ทำกลิ่นได้เหมือนน้ำหอมสุดหรูและสุดแพงอย่าง Creed - Silver Mountain Water มากที่สุดคะ (ฝรั่งทุกคนยกให้เป็นตัว Clone creed SMW เลยคะ)

- ขวดใหญ่ 35 ml เป็น EDP นะคะ ขาย 900 (Creed - Silver Mountain Water ขวด75ml ก็ 7,700 แล้วคะ)

- มีแบบ Oil perfume (เป็นลูกกลิ้งทาผิวจะทนกว่าแบบสเปรย์นะคะและไม่มีแอลกอฮอลด้วยคะ) ขนาด 3ml ขวดละ 200 บาท เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ







------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


4.Creed - Aventus








แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 10 ml เหลือ1ขวด ขวดละ 800 บาทคะ เผื่อใครอยากลองกลิ่น / หลอดทดลองขนาด 2.5ml หลอดละ 179 บาทคะ












รีวิวของพี่เข็มขัดสั้น

http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/review-creed-aventus.html

ได้เวลาของลูกรักที่สุดและแพงที่สุดจริงๆ เท่าที่เคยได้ซื้อน้ำหอมใช้มา ซึ่งคุ้มค่าเลยทีเดียวที่น้ำหอมตัวนี้จะเป็นหนึ่งในน้ำหอมที่ตัดสินใจไม่ผิดที่ทุ่มทุนมากขนาดนี้ เพราะหอมจริงอะไรจริง รวมถึงความหรูหราจัดเต็มมากมายกับ Creed Aventus ครับ

กลิ่นนี้นอกจากที่จะหอมแบบขาดใจ ยังใช้ง่ายมาก เป็นน้ำหอมที่ใครได้กลิ่นก็จะได้รับคำชมไม่ยาก ซึ่งส่วนตัวผมใส่ทุกครั้งได้รับคำชมทุกครั้งทั้งคนไม่รู้จักและคนที่รู้จักทั้งหลายเลยทีเดียว ให้อารมณ์แบบคุณชายที่สุภาพ ยิ้มง่าย ดูมีฐานะอย่างบอกไม่ถูก (ทั้งๆ ที่จริงๆ คนใส่น่ะจน 5555) ประมาณว่าถ้าเทียบกับ Series สุภาพบุรุษจุฑาเทพ กลิ่นนี้สามารถบอกตัวตนของ ?คุณชายหมอพุฒิภัทร? ได้เลยทีเดียว เพราะความนุ่มนวล สุภาพ เสน่ห์จัดเต็มแบบไม่ต้องทำอะไรมากนิ่งๆ แต่เวลาตัดสินใจมีความเป็นผู้นำสูง รวมถึงทันสมัยสุดๆ ได้เลย

Top Notes มากับโทนกลิ่นที่ขาดลอยมากในด้านความหอมจรุงจมูก เพราะโทนสับปะรดเด่นมาก มีกลิ่นแบลคเคอเรนท์จางๆ กลั้วกับโทนซิตรัสเสริมทำให้ออกมากลิ่นหอมสดชื่นนุ่มนวลแทนที่ความสดชื่นแบบคมๆ ถึงขั้นฟินได้เลยเพราะกลิ่นผสมกันออกมาได้หอมแบบ Fruity ที่ไม่สาว แต่แมนและหรูหราได้ดีจริงๆ เพราะถ้าเป็นซิตรัสคมๆ อาจจะทำให้คนไม่ชอบเบือนหน้าหนีเพราะเสียดจมูกได้ นี่แหละที่ให้ความรู้สึกแบบเวลาหมอพุฒิภัทรยิ้ม มันสดใส และแฝงไปด้วยความนุ่มนวลมากจริงๆ ซึ่งโทนกลิ่นผลไม้จะตามมาที่ช่วง Middle Notes โดยเป็นฉากหลังให้กลิ่นของ Birch จัดเต็มในเรื่องของความหอมแบบเขียว นุ่ม และสดชื่น กลั้วไปกับพิมเสนที่ให้อารมณ์นิ่งๆ เย็นๆ และโทน Floral เบาๆ ที่ทำให้กลิ่นเข้าถึงง่าย หอมนวล มีคลาส เหมือนเวลาที่หมอพุฒิภัทรที่นิ่งมาดขรึม แต่จริงๆ เข้าถึงง่าย Nice และใจเย็น กลิ่นหล่อจริงจังเลยทีเดียวขอบอกกกกก! ยังไม่พอในช่วง Base Notes ได้เวลาจัดเต็มในเรื่องของกลิ่นที่สะอาดสะอ้าน มาดแมน อบอุ่น และจริงจัง เพราะการผสานกันของ Musk (สะอาด) Oak moss (มาดแมน) วานิลลา (อบอุ่น) หนัง (จริงจัง) เสริมด้วยอำพันทองที่ทำให้กลิ่นนุ่มนวล ทนและกระจายได้ดีมาก ทำให้ช่วงนี้บอกถึงความเป็นสุภาพบุรุษชัดเจน มีความเป็นผู้นำ แต่ยังคงความนุ่มนวลอยู่เสมอ กลิ่นโค-ตะ-ระชายในฝันมากน่ะครับ แบบที่หมอพุฒิภัทรแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ ความอบอุ่น ความจริงจังของตัวเองเอาชนะใจนางสาวศรีสยามอย่างกรองแก้ว ข้ามกำแพงแห่งชนชั้นและฐานะได้นั่นเอง

เหมาะสำหรับ ? ผู้ชายทุกเพศตั้งแต่วัยเรียนมหาลัยขึ้นไปครับ เป็นกลิ่นที่ใส่ไปแล้ว % การได้รับคำชมสูงมาก สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์และทุกช่วงเวลาเลยไม่ว่าจะใส่ทำงาน เดินห้าง พบปะผู้ใหญ่ ออกงานสำคัญอะไรก็ตาม กลิ่นเข้ากับชุดสูทมากเลยทีเดียว แต่ถ้าจะใส่กลิ่นนี้ออกกำลังกายก็พอได้แต่รอช่วงเบสก่อนจะดีกว่า ส่วนใส่เที่ยวกลางคืนก็ได้อยู่ครับ เพียงแต่กลิ่นดูไม่ค่อยเข้ากับสถานที่ดึ๋งดึง On the Floor เต้นแรงๆ อะไรเท่าไหร่นัก เน้นออกงานสังคมเต้นรำชวนฝันมากกว่าจะเต้นชะชะช่าตีลังกา 3 ตลบครับ

ความทน ? มากกกกกกครับ 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ ส่วนตัวผมถึง 12 ชม. มาแล้วด้วยซ้ำไป

การกระจาย ? กระจายดีมากในทุกๆ ช่วงเลย ถึงขั้นบางทีกลิ่นมาก่อนเป็นเมตรๆ เลยทีเดียว แถมค้างทิ้งไว้ยามคนที่ใช้เดินผ่านไปแล้วเสียด้วยซ้ำ และคง Concept สุภาพบุรุษนุ่มนวลได้ไม่มีผิดเพี้ยนตลอดตั้งแต่ต้นยันจบ มีช่วง Base ที่กลิ่นเบามาหน่อย แต่ก็ยังปล่อยของเต็มที่สบายๆ

ทิ้งท้าย ? น้ำหอมตัวนี้ราคาไม่ใช่เล่นๆ แถมขึ้นราคาบ๊อยบ่อย จะแพงไปไหนเนี่ย ตอนนี้แพงกว่าแบรนด์ของสุลต่านประเทศโอมานที่ราคาสูงมหาโหดอย่าง Amouage ไปแล้วนะนั่น -_-? แต่ของดีจริงครับ ถ้าใครเจอราคาที่ Paragon แล้วถอย แนะนำแบบแบ่งขายเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะได้ใช้ตัวนี้ เพราะผมก็ใช้แบบแบ่งขายมาก่อนที่จะทุ่มทุนสร้างกับขวดเต็มครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Lattafa - Al Dur Al Maknoon Silver

ตัวนี้เป็นตัวใหม่ล่าสุดและฝรั่งชื่นชอบมากคะ เป็น1ในตัวที่ทำกลิ่นได้เหมือนน้ำหอมสุดหรูและสุดแพงอย่าง Creed Aventus ที่สุดคะ (Creed Aventus แต่ละ Batch จะให้กลิ่นต่างกันคะ ซึ่ง Lattafa ตัวนี้จะเหมือน Aventus ตัวที่กลิ่น Fruity เด่น และกลิ่นจะมีความธรรมชาติกว่า Afnan คะ)

- ขวด 100 ml ของใหม่ยังไม่ได้ใช้คะ จะขายตัวกล่องซีลที่ยังไม่แกะให้คะ ขาย 2,050 (Creed - Aventus ขวด75ml ก็ 9,200 แล้วคะ)








------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Afnan - Supremacy Silver (EDP)














ตัวนี้เป็น1ในตัวที่ทำกลิ่นได้เหมือนน้ำหอมสุดหรูและสุดแพงอย่าง Creed Aventus ที่สุดคะ (Creed Aventus แต่ละ Batch จะให้กลิ่นต่างกันคะ ซึ่ง Afnan ตัวนี้จะเหมือน Aventus ตัวที่กลิ่น Fruity เด่นคะ)

- ขวด 100 ml ของใหม่ยังไม่ได้ใช้คะ จะขายตัวกล่องซีลที่ยังไม่แกะให้คะ ขาย 2,200 (Creed - Aventus ขวด75ml ก็ 9,200 แล้วคะ)

--> มีแบ่งขาย 10ml 2ขวด ขวดละ 250 บาท เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

**มีของลูกค้าฝากขาย 1 ขวดนะคะ ลองฉีดไป 3-4 สเปรย์ ขาย 1800 คะ**

ขออนุญาติยกรีวิวพี่เข็มขัดสั้นมาให้อ่านนะคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/12/review-afnan-supremacy-silver.html

ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยแม้แต่นิดเดียวว่า Afnan คืออะไร จนเมื่อวันหนึ่งมีคนบอกว่า Afnan รุ่น Supremacy Silver นี้แหละ คือตัวที่คล้าย Creed Aventus มากที่สุดเลยตัวนึง อ้าวงานนี้ก็สนสิจ้ะ เลยไปค้นหาข้อมูลไม่พอก็ขอสอยมาบ้างไรบ้างว่าแบรนด์จาก UAE แบรนด์นี้จะทำน้ำหอมออกมาเป็นยังไง

อุ๊ต่ะ! เปิดมานี่มัน Aventus จริงๆ ด้วยแหละแกร๊~ เพราะกลิ่นมาเลยจ้ากับความเป็นสับปะรด แอปเปิ้ลเขียว กับแบล็คเคอร์แรนท์ ล้อมด้วยกลิ่นโทนซิตรัส มันใช่เลย แต่! มันไม่ใช่ทั้งหมด เพราะกลิ่นเปิดนี่มีความเป็นผลไม้ชัดกว่า Aventus ที่จะมีกลิ่นของจูนิเปอร์เบอร์รี่และพิมเสนเด้งขึ้นมาล้อมตั้งแต่ช่วงนี้ ซึ่งตัวนี้ไม่ได้มีแบบนั้นเท่าไหร่ มันจึงกลายเป็นกลิ่นอายแบบสดชื่นของผลไม้เสียมากนั่นเอง แถมตามไปจนถึงช่วงท้ายๆ ของน้ำหอมเสียด้วย มันเลยมีความต่างจาก Aventus ออกมาบ้าง โดยในช่วงกลางกลิ่นอายของเปลือกเบิร์ธจะเด่นนำขึ้นมาให้โทนเขียวหอมนุ่มๆ และพิมเสนเริ่มมาบ้างแล้วแต่มาแบบกลางๆ กำลังดี ไม่ได้เด่นออกมามากนัก โทนกลิ่นดอกไม้อ่อนๆ ในช่วงนี้ก็มาแบบบางๆ เรียกว่าเป็นตัวสนับสนุนที่ดีของกลิ่นโทนผลไม้เสียมาก โดยกลิ่นจะมาแบบสดชื่นเย้าๆ กำลังดี มีความสดใสและขี้เล่นแฝงอยู่ในแบบที่ Aventus ไม่ได้มาในความรู้สึกแบบนี้ ในลักษณะโทนกลิ่นที่เหมือนกัน เพียงแต่ความเด่นของกลิ่นที่เป็นโทนหลักจะแตกต่างกัน เอาล่ะสิ งั้นมาดมต่อที่ช่วงท้าย ซึ่งใช่เลย เรารู้แล้วว่าอะไรคืออะไร กลิ่นเด่นนำขึ้นมาในช่วงนี้จะเป็นกลิ่นอายนุ่มๆ ติดเขียวกลั้วกลิ่นผลไม้จางๆ ที่ตามมาตั้งแต่ตอนต้น โดย Musk กับ Oak Moss จะคุมโทนหลัก และมีกลิ่นอายหอมนวลๆ ติดกลิ่นผิวกายนวลๆ อบอุ่นเบาๆ ซึ่งมาจาก Ambergris ตรึงไว้ให้มีความหรูหรากำลังดีเลย แต่สิ่งหนึ่งคือ กลิ่นที่ได้รับจะมีความใสสดชื่นเบาๆ แฝงอยู่ให้รู้สึกได้ไปตลอด จึงเป็นความเหมือนในรูปแบบที่เบาลงนั่นเอง

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป ก็สามารถใช้ตัวนี้ได้สบายๆ กลิ่นเรียกว่าหอมแบบสดชื่น ตามด้วยนวลๆ ปิดท้ายด้วยอบอุ่นโดยมีความสดใสในเนื้อกลิ่นแฝงไปด้วยตลอด ซึ่งสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ทั้งงานทางการที่ไม่ได้ถึงขั้นรับแขกบ้านแขกเมืองและไม่ทางการทั่วๆ ไปก็สามารถ เรียกว่ากลิ่นครอบจักรวาลได้เลยทีเดียว รวมไปถึงกลางคืนที่จัดได้สบายๆ เพราะเนื้อกลิ่นมันมีความขี้เล่นนี่แหละ

ความทน - อันนี้ต้องยกให้เขา เพราะเป็น EDP ที่กลิ่นทนถึง 8 ชม. สบายๆ และมากกว่านั้นเสียด้วยถ้าจำนวนสเปรย์ลงตัว

การกระจาย - เรียกว่ามีความดีงาม มาในลักษณะ Sillage Scent เช่นเดียวกับ Aventus เลยที่กลิ่นจะมาถึงก่อนคน คนไปแล้วกลิ่นยังอยู่ ต่อให้โต้ลมแค่ไหน กลิ่นก็ยังอยู่กับเรา เพียงแต่คนใส่จะไม่ค่อยได้กลิ่นจากตัวเองเท่าไหร่นักในช่วงต้นและช่วงกลาง หรืออาจจะได้กลิ่นชัดตามสภาพผิว มีช่วงท้ายๆ ที่จะลดระดับการกระจายมาแบบกลางๆ ที่จะเริ่มตีขึ้นให้รับรู้ จนค่อยๆ ลงไปเป็นออร่ารอบๆ ตัวจนหายไปจากผิว

สรุป - ใช่เลย มันคือ Aventus แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าจะให้มาอยู่ใต้ร่มไม้ชายคาด้วยการให้ตัวเทพเป็นตัวพ่อก็จะบอกว่านี้คือ Aventus ในรูปแบบที่วัยรุ่นขึ้น สดใสขึ้น ไม่ได้ออกทาง Smoky ติดกลิ่นอายคุณชายนุ่มนวลหรือทางการ และกลิ่นนวลเนียนเนี้ยบแบบที่ Aventus ทำได้นั่นเอง ที่สำคัญถ้าสั่งมาได้จาก ตปท. ราคาถูกกว่า Aventus เรียกว่าเกินครึ่งนะจ้ะ ขอบอกกกกกก!


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



ARMAF - CLUB DE NUIT INTENSE


ตัวนี้เป็น1ในตัวที่ทำกลิ่นได้เหมือนน้ำหอมสุดหรูและสุดแพงอย่าง Creed Aventus ที่สุดอีกตัวคะ (Creed Aventus แต่ละ Batch จะให้กลิ่นต่างกันคะ ซึ่ง ARMAF ตัวนี้จะเหมือน Aventus ตัวที่กลิ่น Smoky เด่นคะ ซึ่งจะต่างจาก Afnan นะคะ)

ขวด 105 ml เป็นความเข้มข้นระดับ EDPด้วยคะ ทนแน่ๆ ของใหม่ยังไม่ได้ใช้คะ จะขายตัวกล่องซีลที่ยังไม่แกะให้คะ ขาย 2,300 (Creed - Aventus ขวด75ml ก็ 9,200 แล้วคะ)

ลองอ่านรีวิวของพี่เข็มขัดสั้นดูนะคะ

เมื่อได้อ่านข้อมูลมาจากหลายๆ ทางไม่ว่าจะเป็นทั้งเวบไซต์เกี่ยวกับน้ำหอม หรือเพจต่างๆ ที่เหล่าคนรักน้ำหอมเขาไปชุมนุมกันของ ตปท. มักจะพูดกันว่า Armaf รุ่น Club de Nuit Intense for Men เป็นอีกหนึ่งตัวที่คล้าย Creed Aventus มากโดยเทียบกับ Batch การผลิตในรุ่นที่มีกลิ่นอาย Smoky จัดๆ (ต้องเข้าใจกันก่อนว่า Creed เป็นแบรนด์ที่วัดกลิ่นเหมือนกันในทุกรอบการผลิตได้ยาก เพราะอิงกับคุณภาพวัตถุดิบในช่วงนั้นๆ เลยทำให้จะมีบาง Batch ที่กลิ่นนี้เด่นกว่ากลิ่นนั้น กลิ่นนั้นโดยกลบไปเยอะบ้าง) เช่นนั้นเราต้องพิสูจน์ด้วยการเสียเงินสอยมาแล้วผลที่ออก คือ

Top Notes กลิ่นมีความเข้มข้นของโทน Smoky จากเปลือก Birch ชัดเจนมากกลิ่นมาติดโทนหนังหน่อยๆ เสียด้วย แต่เพราะว่ามีกลิ่นอายของโทนสดชื่นอย่างซิตรัสและผลไม้ที่ไม่ยอมให้มาแย่งซีนแน่ๆ เลยทำให้กลิ่นของเลมอนและโทนผลไม้ยังทำหน้าที่เด่นเด้งออกมาอยู่ แน่นอนว่ากลิ่นสับปะรดนั้นแทบไม่รู้สึกเพราะออกแนวจะไปทางโทนผลไม้อย่างแบล็คเคอแรนท์และแอปเปิ้ลเขียวเสียมากกว่า โดยกลิ่น Smoky ก็ขอตีคู่กันไปตั้งแต่ต้น จนเมื่อเข้า Middle Notes งานมาเต็มของโทน Smoky จึงได้มาและเป็นตัวที่จะเด่นไปจนถึงช่วงท้ายๆ เลยนั่นคือ เปลือกไม้ Birch ที่จะให้กลิ่นอายหนังติดโทน Smoky แมนๆ มาเลยก็จริง แต่จะมีกลิ่นโทนดอกไม้อย่างมะลิติดกุหลาบจางๆ เคล้าวานิลลาหน่อยๆ มาทำให้กลิ่นนุ่มขึ้น ไม่มามะรุมมะตุ้มผลัดกันเด่นแบบช่วงต้นแล้ว ซึ่งส่งต่อไปยังช่วง Base Notes ที่ความ Smoky ยังคงอยู่ไม่หนีไปไหน แต่จะมีความอบอุ่นติดนุ่มนวลของ Musk และกลิ่นตรึงที่ออกทางผิวกายสะอาดติดเค็มจางๆ ของอำพันปลาวาฬ (Ambergris) ที่จะมาตรึงให้เกิดความนุ่ม วานิลลาจะมาให้ความอบอุ่นเพิ่มมีกลิ่นอายของพิมเสนมาแบบเบาๆ เคล้าไปตลอด ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วกับตัวเทพอย่าง Aventus คงต้องบอกว่า กลิ่นช่วงต้นแตกต่างเพราะยังอยู่ในช่วงชิงดีชิงเด่นกันอยู่ ก่อนที่จะเริ่มมีความคล้ายมากขึ้นในช่วงกลางแต่มีความแมนเข้มกว่า และใกล้เคียงมากในช่วงท้าย ซึ่ง Batch ของ Aventus ที่มีความเป็น Smoky จัดๆ กลิ่นจะใกล้เคียงตัวนี้มากจริงๆ แต่ Armaf ก็ยังไม่ได้มีกลิ่นอายที่นุ่มนวลจมูกกว่า Aventus ที่มีคุณภาพกลิ่นและตัวเกลาให้กลิ่นมีความหรูหรามีระดับแบบสัมผัสได้มากกว่ารวมถึงมีความนวลเนียนกว่าก็เท่านั้นเอง ซึ่งถ้าไม่มายด์เพราะลงรายละเอียดมากไป ตัวนี้ทดแทนกันได้เลยล่ะ

เหมาะสำหรับ ? ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว กลิ่นอาจจะอยู่ระหว่างกลางๆ ที่ไม่ได้เข้าถึงได้ง่ายมากขนาดนั้น แต่ถ้าใครต้องการตัวแทนของ Aventus ในแบบที่ Smoky จัดๆ ตัวนี้ไปได้ค่อนข้างดีและมีความแมนเข้มเพิ่มเข้ามาเสียด้วย โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ถ้าจะออกกำลังกายให้รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืน กลับกลายเป็นว่าตัวนี้เข้าทางกว่าในแง่ของการใส่ไปเรียกเรตติ้งและไม่ได้ดูออกทางคุณชายมากเกินไป แบบที่ Aventus ทำได้ เพราะความเข้มของโทน Smoky ที่สร้างความแมนเท่ห์นั่นเอง

ความทน ? EDP มาเต็มเช่นนั้นจัดไปที่ 8 ชม. สบายๆ แถมลากยาวไปได้มากกว่านั้นอีกด้วยซ้ำถ้าจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเอื้อมากพอ ส่วนตัวเจอที่ 12 ชม. แบบฟินๆ เลย

การกระจาย ? กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายแบบดีค่อนไปปานกลาง และปิดท้ายที่การเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย แล้วลดลงเรื่อยๆ ตามลำดับ








------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


5.Creed - Millesime Imperial








รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/05/review-creed-millesime-imperial.html


ขึ้นชื่อว่า ?King of Citrus? ของน้ำหอม ชื่อนี้คงไม่ได้แต่ใดมา ถ้าไม่ดีจริงๆ ซึ่งแน่นอนว่าเป็น Creed จะมาหมูหมากาไก่ที่ไหนก็คงไม่ได้ ต้องมาเต็ม มาหรู มาไฮโซ และมาแบบมีคลาสมีระดับจัดเต็มแน่นอน ที่สำคัญถึงขั้นเป็นแรงบันดาลใจให้กับ Sean John Unforgivable และหลายๆ รุ่นเสียอีกด้วย เช่นนั้นมาเจอตัวพ่อกันหน่อยอย่าง Millesime Imperial ครับ

เพียงแค่ Top Notes ก็ต้องยกให้เขาล่ะครับ เพราะกลิ่นโทนผลไม้สดชื่นติดเปรี้ยวอมหวานมาเต็มมาก มีความฉ่ำๆ ของเมล่อนและมีโทนเหล้ารัมแบบใสๆ บวกกับกลิ่นอายเกลือสะอาดๆ กำลังดี กลิ่นช่วงนี้สดชื่นแบบหรูหราติดกรุ้มกริ่มแนวๆ คุณชายได้ดีมาก และพอเข้าสู่ช่วง Middle Notes งานนี้โทนซิตรัสของมะกรูด ส้ม เลมอนจะมาแบบใสสว่าง สดชื่นมากมาย โดยมีฐานรองพื้นด้านหลังคือกลิ่นโทนแป้งของดอกไอริสมาเสริม ทำให้กลายเป็นกลิ่นโทนสดชื่นที่ติดความเซ็กซี่กรุ้มกริ่มจางๆ โดยไม่เสียลุคผู้ดีคุณชายเจ้าเสน่ห์ไปตลอด ก่อนจะปิดท้ายที่ Base Notes งานสะอาดนุ่มต้องมา เพราะ Musk แบบนุ่มนวลเย้าเป็นระยะจะมากลั้วกับโทนวู้ดดี้อ่อนๆ ติดอบอุ่นกำลังดี ที่สำคัญกลิ่นโทนผลไม้กลั้วซิตรัสยังคงตามมาอยู่ เรียกว่ามาเรียกแขกให้ตลอด ส่งเสริมให้คนใส่ดูรวย มีรสนิยม ขี้เล่นก็ได้ สดชื่นติดทางการหรูหราก็ดี ชิลล์ๆ ก็เหมาะ คือ ยังไงก็มาเต็มแบบมีระดับเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ

เหมาะสำหรับ ? จริงๆ น้ำหอมตัวนี้เป็น Unisex ครับ ใช้ได้ทั้งหญิงทั้งชาย แต่หลังจากใช้ผมเอนเอียงมาทางผู้ชายมากหน่อย เพราะกลิ่นมันดูสดใสและขี้เล่นติดหรูหรา อารมณ์ดีไม่น้อย แต่เอาเข้าจริงสาวๆ ใช้ได้สบายๆ แถมเพิ่มความหรูหรากับคนใส่ได้มากโขเลย ซึ่งสามารถใส่ได้ทั้งงานทางการและไม่ทางการ ได้ทุกสถานการณ์ทั้งกลางวันและกลางคืน บอกเลยว่าครอบจักรวาลมาก เพียงแต่มันจะเปลืองไปนะถ้าใส่ไปออกกำลังกาย เพราะมันแพงงงงง 5555

ความทน ? อยู่ที่ 8 ชั่วโมง อาจจะมีบวกลบบ้างตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด ซึ่งส่วนตัวผมเจอ 10 ชั่วโมงเป็นเรื่องปกติของตัวพ่อตัวนี้ประจำ ฟินไปเลยยยยยย

การกระจาย ? กระจายดีมากในช่วงต้น และจะลดมากระจายกลางๆ แบบหรูหรา ใครอยู่ใกล้ๆ ก็ฟินกับกลิ่นที่เข้าถึงได้ง่ายแบบมีระดับแบบนี้ไม่ยาก จนเป็นออร่ารอบๆ ตัวที่ยังตีขึ้นให้คนใส่รับรู้เสมอครับ

ทิ้งท้าย ? สมกับฉายา King of Citrus ไม่มีผิดเพี้ยน แถมเป็นตัวพ่อที่เรียกว่างดงามเลยทีเดียวในความมีระดับและหรูหราในเนื้อกลิ่นที่เน้นสดชื่น แม้ว่าจะมีกลิ่นที่เอาไปเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งถ้าเทียบจริงๆ ก็ไม่ได้ออกทางเจ้าชู้จัดๆ แบบ Unforgivable และไม่ได้ออกทางวัยรุ่นใสๆ แบบ Love & Luck for Men แต่เป็นกลิ่นผู้ดีที่อารมณ์ดี กรุ้มกริ่ม สดชื่น และมีระดับหรูหราคาบเกี่ยวทุกอารมณ์แทน ซึ่งถ้ามีตังค์ก็จัดไป อย่าให้เสียนะคร้าบ

ป.ล. ทำไม Creed จะขึ้นราคาอีกแล้ว จะแพงไปไหนเนี่ย 5555555


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


6.Himalaya


http://www.fragrantica.com/perfume/Creed/Himalaya-465.html

ถือเป็นน้ำหอมที่ขายดีมากอีกกลิ่นของ Creed มาในขวดสีเงินทึบ บ่งบอกถึงความเย็น และมาในกลิ่นโทนสดชื่นแบบหรูหรา และแน่นด้วย ambergris สารหลั่งจากวาฬที่มีราคาสูง

Himalaya เป็นน้ำหอมโืืทน citrus woody ให้กลิ่นต้นของมะกรูด มะนาว ส้ม และเกรฟฟรุ๊ต โดยเนื้อกลิ่นนั้นออกทาง woody ตั้งแต่เริ่มแรกกันเลยทีเดียว มันไม่ youthful หรือใสเท่า Silver Mountain Water หากแต่มีความเป็นผู้ใหญ่นิดนึง ลองนึกภาพนักธุรกิจอายุราว ๆ 35 ใส่สูท หน้าตาดีใช้กลิ่นนี้ ในขณะที่ลูกน้องของเขา อายุ 30 ใช้ Silver Mountain Water โดยเนื้อกลิ่นของ Himalaya อาจจะบอกถึงตำแหน่งของคน 2 คนนี้ได้ ในความเห็นผมมันเป็นแบบนั้น Himalaya กลิ่นหรูหรากว่า

แม้ช่วงต้นจะเห็นกลิ่นอย่างมะกรูด มะนาว ส้ม แต่อย่าโยงไปถึงน้ำหอม citrus แรง ๆ อย่าง Eau d'Hadrien หรือ Eau de Sud ของ Annick Goutal เพราะ Himalaya มีโทนกลิ่นอากาศเย็น ๆ บนยอดเขาปนอยู่ ไม่ได้ออกมะนาว ส้ม และมะกรูดแบบนั้น

ช่วงกลางกลิ่น spicy ขึ้น แต่ยังคงความใสเย็นอยู่ เย็น ๆ เชิง metallic นิด ๆ

ช่วงเบสเข้าทาง house note อันโด่งดังของ Creed กลิ่นนั้นเนียน แน่น อบอุ่นหน่อย ๆ ไปกับ ambergris หรือที่รู้จักกันในนาม อำพันทอง ซึ่งมากับมัสก์และ tonka beans

Himalaya เป็นน้ำหอม unisex ที่เข้าถึงง่ายมาก ให้กลิ่นประเภทที่เรียกคำชมได้ไม่ยากพอ ๆ กับกลิ่นอื่น ๆ จาก Creed ที่กล่าวถึงด้านบนไปแล้ว

ใช้ได้กับหลายสถานการณ์ ทำงาน เข้าประชุม ออกงานหรู งานแต่ง เดินเที่ยวเล่น และออกเดท เป็นน้ำหอมที่เข้าถึงทุกโอกาส








------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


7.Creed - Green Irish Tweed




















- ขวดใหญ่สุด 120ml เหลือปริมาณตามยางรัด(ประมาณ35% = 42ml) ราคาห้าง 8,700 ขอขาย 2,900 คะ

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/07/revire-creed-green-irish-tweed.html

บอกเลย! นี่คือตัวพ่อของ Davidoff Cool Water ที่ฮอตฮิตเหลือแสนเพราะเมื่ออยู่ในที่สาธารณะอย่างน้อยต้องได้กลิ่นไม่ต่ำกว่า 3 คนเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่หรูหว่า มีระดับกว่า และกลิ่นให้คุณภาพและความสุดยอดมากกว่า และเกิดขึ้นมาก่อน Cool Water คงต้องยกให้ตัวพ่ออย่าง Creed ที่เกิดขึ้นมาก่อนและราคาสูงมากเลยทีเดียวกับรุ่นนี้ครับ Green Irish Tweed

อย่างที่บอกข้างต้นว่าเป็นตัวพ่อของ Cool Water โดยเป็นน้ำหอมที่กลิ่นใกล้เคียงกันมากก็จริง แต่มาในลักษณะที่ไม่ได้ออกทางน้ำทะเลแบบตัวฮิตของ Davidoff แต่มาในแบบ Woody Floral Musk ที่มีชั้นเชิงและกลิ่นนุ่มนวลเนียนมีระดับสุดๆ เพราะ Top Notes จะมาในโทนของซิตรัสให้ความสดชื่นติดเขียวอย่างชัดเจนอย่างใบเวอร์บีน่าที่กลิ่นคล้ายมะนาวกับเลมอน ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้จะหอมสดชื่นอย่างมีระดับเพราะมีโทนไม้หอมรองพื้นด้านหลัง กลิ่นมีความซ่าออกทางเขียวๆ แบบสมุนไพรกำลังดีและหรูหรากันตั้งแต่ตอนต้น โดยไม่มีโทนน้ำทะเลแบบ Cool Water มาให้ลำบากใจในการแยกกลิ่นเพราะในความเหมือนมันมีความแตกต่างชัดเจนก็ตรงนี้ จนเมื่อเข้า Middle Notes กลิ่นสดชื่นของซิตรัสติดเขียว ยังคงอยู่แต่จะมาผสานกับโทนแป้งดอกไม้ ที่ยกให้ดอกไอริสและใบไวโอเล็ตที่มาทำให้เป็นโทนแป้งหอมสดชื่นติดเขียวรับช่วงต่อได้อย่างกลมกลืน กลิ่นมีระดับไล่เรียงแบบนวลเนียนมาก และให้ความสดชื่นแบบหรูหราคาบเกี่ยวความเป็นทางการได้อย่างลงตัว ก่อนจะปิดท้ายที่ Base Notes ซึ่ง Signature ของ Creed จะมากันในช่วงนี้กับกลิ่นของอำพันทอง (Ambergris) ที่จะให้ความรู้สึกแบบผิวกายติดกลิ่นเค็มหน่อยๆ กลั้วกับ Musk ที่มาให้ความสะอาดนุ่ม โดยโทนไม้หอมที่รองพื้นมาตั้งแต่ตอนต้นจะชัดเจนแบบกำลังดีในช่วงนี้ไปด้วย กลิ่นผสานกันจะเป็นโทนสดชื่นและสะอาดแบบนุ่มนวล มีความบางเบาแต่ไม่หายต๋อม ซึ่งภาพรวมทั้งหมดบ่งบอกถึงความเป็นสุภาพบุรุษที่สดชื่นและหรูหรามีระดับสูงมาก โดยไม่ละทิ้งความเป็นธรรมชาติของกลิ่นที่นวลเนียนเลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้่นไป ซึ่งกลิ่นใช้ง่าย เข้าถึงง่ายแน่นอน สามารถใส่ได้ในทุกๆ สถานการณ์ยามกลางวันทั้งทางการและไม่ทางการ กลิ่นให้ทั้งความสดชื่นและน่าเชื่อถือ เพราะเนื้อกลิ่นมันมีระดับสูงมาก ส่วนใส่กลางคืนกับอากาศบ้านเราก็เข้าทีไม่น้อย แต่ถ้าใส่ไปเที่ยวเคล้าแอลกอฮอล์ก็ได้อยู่ครับ แต่มันไม่ได้ออกทางยั่วยวนก็เท่านั้นเอง

ความทน - บอกเลยมาเต็ม 10 ชม. กลิ่นยังตีขึ้นให้รับรู้ ยิ่งถ้าร่างกายทำความร้อนกลิ่นจะตีขึ้นแบบที่ปลื้มไปเลยล่ะครับ

การกระจาย - นี่คือ Sillage Scent เพราะเน้นกระจายออกรอบตัวสร้างความหอมและรื่นรมย์ให้ผู้อื่นได้มาก ดมที่ผิวอาจจะ แต่กลิ่นออกเข้ม กลิ่นที่กระจายออกไปคือสดชื่นเขียวๆ นุ่มนวลแบบมีระดับ เรียกว่ากระจายดีทั้ง 3 ช่วง มีช่วงท้ายที่ลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวเป็นหลัก

ทิ้งท้าย - พูดง่ายๆ Cool Water เด็กไปเลยถ้าเจอตัวพ่อตัวนี้ เพราะมาเต็มด้านการมีดีเต็มเหนี่ยวกว่าเยอะ รวมถึงราคาที่ต้องขอยาหอม ยาดม ยาลม และยาหม่องไปด้วยเลยล่ะครับ เพราะแพงจริงอะไรจริง 5555555


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


8.Virgin Island Water







http://www.fragrantica.com/perfume/Creed/Virgin-Island-Water-899.html

รีวิวคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/review-creed-virgin-island-water.html

ได้เวลาของความเรียบหรูดูผู้ดีกับน้ำหอมแบรนด์ที่เรียกได้ว่าแพงแต่คุณภาพก็สมราคาอย่าง Creed อีกครั้ง ซึ่งคราวนี้จะมาไฮโซกลับกลิ่นที่ออกทางการท่องเที่ยวเกาะแบบหรูหราพักผ่อนแบบชิลล์ๆ ท่ามกลางอากาศอบอุ่นสุดๆ อย่าง Virgin Island Water กันครับ ว่าจะออกมาในรูปแบบไหน

ต้องบอกกันเลยว่าใครที่ชอบมะพร้าว น้ำหอมตัวนี้จะให้อารมณ์มะพร้าวที่หรูหรากำจายมาก เพราะเปิดต้นกลิ่นกันด้วยกลิ่นของจาวมะพร้าวที่ทั้งหอมหวานและฉ่ำน้ำเลี้ยงสุดๆ โดยจะมีกลิ่นซิตรัสมาตัดให้ออกทางสดชื่นใสๆ มากขึ้น ได้อารมณ์วันฟ้าใสบนรีสอร์ทหรูหราขาดใจริมทะเลมากๆ ซึ่งกลิ่นมะพร้าวจะยังคงอยู่ไปจนถึงช่วงท้ายๆ เลยทีเดียว โดยในช่วงหัวใจหลักของน้ำหอมกลิ่นเชิงดอกไม้อ่อนๆ จะเริ่มมาเสริม แถมด้วยความสดชื่นจากขิงเข้าไปอีกดอกทำให้ช่วงนี้เป็นช่วงเบาสบายและหรูหราแบบใส่ชุดขาวใส่แว่นดำเดินเล่นพร้อมจิบน้ำมะพร้าวดูวิวทิวทัศน์ของทะเลชัดเจน และเมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายที่จะติดผิวไปตลอดมะพร้าวจะเริ่มจางลงเป็นฉากหลังให้กับกลิ่นน้ำตาลหอมหวานเบาๆ บวกกับเหล้ารัมเย้ายวนกำลังงามและ Musk ที่สะอาดสะอ้านนุ่มนวล ราวกับจิบค็อกเทลรัมมะพร้าวเบาๆ ท่ามกลางอากาศอบอุ่นบนเกาะ ซึ่งเป็นกลิ่นที่ฟินมากบนพื้นฐานที่หรูหราตามสไตล์ของ Creed แต่เข้าถึงง่าย ได้อารมณ์สีขาวตัดกับสีฟ้าตลอดเวลาที่ได้กลิ่นเลยครับ

เหมาะสำหรับ - ทุกเพศทุกวัยเลยครับ เพราะน้ำหอมตัวนี้เป็น Unisex ที่เข้าถึงได้ง่ายแบบชิลล์ๆ หรูๆ ริมทะเล (ที่ไม่มีกลิ่นคาวทะเลมารบกวนใจ) สามารถใ
ความคิดเห็นที่ : 1

tamamajung

16/07/2016 16:58:54
0
IP : 171.101.166.30
Thierry Mugler - Mugler Cologne













ฝรั่งและนักรีวิวทุกคนต่างบอกว่าตัวนี้คือโคลนนิ่ง Creed - Original Vetiver ซึ่งลองใช้แล้วก็ใกล้เคียงกันจริงๆคะ ในราคาที่ต่างกันหลายเท่า และเป็น1ในน้ำหอมที่ถูกโหวตให้เป็น "best of green scent" ซึ่งเหมาะกับอากาศร้อนๆมากๆ ฉีดปุ๊บรู้สึกสดชื่น สะอาดปั๊บเลยคะ **แต่ที่พิเศษสุดคือตัวนี้สามารถฉีดผสม(หรือที่เรียกกันว่า Layer)กับน้ำหอมกลิ่นอื่น โดยเฉพาะตัวที่กลิ่นเข้ม หวาน หรืออบอุ่น ทำให้ออกมาเป็นกลิ่นใหม่ที่หอมขึ้นได้ด้วยคะ วิธีการคือฉีดน้ำหอมตัวหลักก่อนแล้วก็ฉีดตัวนี้ทับลงไปคะ**

- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 150฿ และ 10ml 290฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Thierry-Mugler/Mugler-Cologne-708.html

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2015/03/review-thierry-mugler-mugler-cologne.html

เปิดต้น Top Notes กันได้แบบว่ากระจ่างใส สดชื่น สะอาดได้ใจมากกับกับกลิ่นโทนซิตรัสติดเขียวๆ ของใบส้ม ดอกส้ม และมะกรูด แบบว่ามาเต็มในแบบที่กลิ่นคมกำลังดี ไม่ได้แหลมเฟี้ยวมากเกินไป กับอิทธิฤทธิ์ของดอกส้มที่จะมาทำให้กลิ่นนุ่มลงมา เหมือนกลิ่นสดชื่นขณะอาบน้ำท่ามกลางธรรมชาติสุดๆ และเมื่อเข้า Middle Notes งานนี้ดอกส้มมาเต็มมากกกกก โดยจะมีกลิ่นโทนสบู่หอมสะอาดรองพื้นอยู่ตลอดเวลาทำให้กลิ่นนี้ออกแนวสะอาดนุ่มๆ แต่เซ็กซี่อ่ะ คือ เหมือนคนอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ เดินตัวเปียกๆ ออกมาจากห้องน้ำกลิ่นสดชื่นแบบนุ่มๆ ของสบู่ติดผิวกาย แล้วทำตาเชื่อมๆ เซ็กซี่เอียงอายราวกับบอกว่า ?#อยากเห็นคนแก้ผ้าไหม? อย่างไงอย่างงั้น ซึ่งกลิ่นโทนนี้จะเด่นไปจนสุดท้ายเลยทีเดียว โดย Base Notes จะเพิ่มความนุ่มของ White Musk เข้าไปอีก ทำให้กลิ่นจะนุ่มนวลสะอาดอยู่ตลอด แบบใส่เสื้อผ้านั่งชิลล์ๆ สบายๆ ให้อีกฝ่ายมาดมชื่นชมความสะอาดหรือพาไปร่อนนอกบ้านอย่างรื่นรมย์เลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - Unisex ขาดใจ เพราะเป็นกลิ่นหอมสดชื่นอย่างเป็นธรรมชาติที่เข้าได้กับทุกเพศ สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ในยามกลางวัน เพราะถือว่าเป็น Safe Scent ที่แฝงด้วยความเซ็กซี่กำลังดีงาม และใครได้กลิ่นก็สบายๆ ชิลล์ๆ สดชื่นไปด้วย ส่วนกลางคืนถ้าอากาศร้อนๆ อยู่กลางแจ้ง หรือสถานการณ์ทั่วๆ ไปก็ใส่ได้สบายๆ ครับ

ความทน - แม้จะเป็น Cologne แต่ก็ทนดีเลย ประมาณ 6 - 8 ชั่วโมง อยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น และจะลดระดับมากระจายกลางๆ จนถึงการเป็น Skin Scent ในช่วงท้ายๆ ที่ถ้าร่างกายทำความร้อน จะมีกลิ่นสบู่ดอกส้มสดชื่นตีขึ้นให้รับรู้ได้ไม่ยาก

ทิ้งท้าย - เอาไปเลยดีกว่ากับคำว่า #ของดีเทคนิคไม่ต้อง ของเขาดีจริงๆ และเหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อนมากๆ ของบ้านเราเลยล่ะครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------









Chanel - Allure Homme Sport Eau Extreme EDP "ขายแล้วคะ"










------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Chanel - Bleu De Chanel (EDT) และตัว Parfum (EDP)














ขวด 100 ml ตีต่ำๆเหลือประมาณ 75% "ขายแล้วคะ"

- ตัวEDT แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 180฿ และ 10ml 360 ฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

- ตัวEDP แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 200฿ และ 10ml 390 ฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/01/review-chanel-bleu-de-chanel.html

คนที่ใช้น้ำหอมหรือเล่นน้ำหอมกันมานักต่อนัก ต้องรู้จักตัวนี้เป็นแน่แท้ เผลอๆ ใน 1 สัปดาห์ ต้องได้กลิ่นน้ำหอมรุ่นนี้ของ Chanel อย่างน้อย 1 ครั้งจากบุคคลอื่นที่ใส่น้ำหอมตัวนี้ เพราะเป็นที่นิยมไม่น้อยเลยทีเดียวในความเป็นกลิ่นคนเมือง ที่มีความเมโทรทันสมัยในตัวเองสูง เผลอๆ คนชอบกลิ่นนี้พอๆ กับรุ่น Allure Homme Sport เลยเสียด้วยซ้ำไป เช่นนั้นมาคุยถึงรุ่นนี้กันครับ Bleu De Chanel

เปิดต้นกลิ่นก็ปล่อยของกันเลยทีเดียวกับโทนซิตรัสเย็นๆ กับความเป็นเกรฟฟรุตและเลม่อนกลั้วกับมิ้นท์ให้ความสดชื่นแบบมีชั้นเชิงเพราะแอบเข้มเท่ห์ Modern โดยไม่ได้คล้ายกับกลิ่นสดชื่นทั่วไปในตลาดเลย ซึ่งถ้าคนดมแล้วไม่ชอบช่วงต้น อาจจะพลาดโอกาสบางอย่างไปพอสมควร เพราะกลิ่นที่เหลือนี่แหละมันทำให้ตัวนี้เป็น Top Class ตัวนึงในน้ำหอมแบบ Mass Market ที่มีระดับมาก เพราะช่วงกลางความสดชื่นเย็นๆ กลั้วความหวานจางๆ ของขิงจันทน์เทศและพริกไทยสีชมพู จะมาผสานกับกลิ่นมะลิที่ทำให้ดูอ่อนโยน แต่แมนขรึมด้วยโทนวู้ดดี้รองพื้น ทำให้กลิ่นมีมิติมากเลยทีเดียวและสื่อชัดเจนถึงผู้ชายทันสมัยได้ชัดเจน จนเมื่อถึงช่วงท้ายคราวนี้ได้เวลาของความเย้ายวนแบบเมโทรที่ไม่ได้มาชวนกันโต้งๆ มาแบบเงียบๆ แต่โดดเด่นด้วยกลิ่นเชิงธูปหอมผสานกับพิมเสนที่ไม่หนักหน่วง โดยแอบจับได้ว่ามีหญ้าแฝกมาตัดลดความหนักหน่วงของทำให้กลิ่นนี้ไม่กลายเป็นกลิ่นที่ออกหลอน แต่มาเป็นกลิ่นที่เย้ายวนแบบทันสมัย มีความแมนในเนื้อกลิ่นแบบผู้ชายมั่นใจในตัวเอง นี่แหละผมจึงไม่แปลกใจว่าทำไมคนถึงชื่นชอบน้ำหอมรุ่นนี้ของ Chanel กันมาก เพราะมันสื่อถึง Lifestyle ในแบบผู้ชายปัจจุบันที่หันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้นนั่นเอง

เหมาะสำหรับ ? ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป กลิ่นใช้ได้ในทุกสถานการณ์ทั้งยามกลางวันและกลางคืน ครอบจักรวาลเลยทีเดียว แถมสร้างลุคแบบผู้ชายดูแลตัวเองได้ดีมากเลยล่ะครับ

ความทน ? ประมาณ 8 ชม. เป็นเรื่องปกติ ซึ่งอยู่ที่จำนวนสเปรย์ และจุดที่ฉีดด้วยเป็นสำคัญ

การกระจาย ? กลิ่นกระจายได้ดีเลยทีเดียวในช่วงต้นและกลาง ให้คนอื่นรอบตัวรับรู้ถึงเสน่ห์และความ Modern ที่คนฉีดเป็นได้ดีมาก พอมาในช่วงท้ายๆ กลิ่นจะลดการกระจายลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวหอมกำลังดี


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Chanel - Allure Homme Edition Blanche EDP







- ขวด 100 ml เหลือประมาณ 95% ขาย 2,900 คะ (ตัวนี้เป็น EDP ความทนและความแน่นของกลิ่นจะมากกว่ารุ่น EDT นะคะ)

- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 200฿ และ 10ml 390 ฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

ได้รับการพูดถึงมากทีเดียวสำหรับ Allure Homme Edition Blanche กลิ่นเด่นที่สุดในช่วง 2 ช.ม. แรกน่าจะเป็นมะนาวครับ ไม่ใช่มะนาวแบบบ้านเรานะครับ อันนั้นเรียกว่า lime แต่นี่คือ Lemon หรือมะนาวเมืองนอกนั่นล่ะครับ แต่กลิ่นไม่ได้ใส ๆ แบบน้ำหอมที่เด่นด้วยกลิ่นโทน citrus เนื่องจากรุ่นนี้มีพื้นเพมาจาก Allure Homme กลิ่นจึงออกทาง oriental หน่อย ๆ

กลิ่น citrus มาแบบ creamy นุ่มนวลต่อจมูก ส่วนผสมได้รับการคัดสรรแล้ว เชื่อใจ Jacques Polge ได้เลยครับ เขาไม่ทำให้ Chanel เสียชื่อแน่นอน ผ่านช่วงต้นมาแล้ว กลิ่นก็ยังมีโทน citrus ให้จับได้อยู่ เมื่อรวมตัวกับกลิ่นแน่น ๆ ของพวกเครื่องเทศและกลิ่นโทนอบอุ่นอย่างวานิลลาและแอมเบอร์ น่าจะเห็นได้ถึงความซับซ้อนนะครับ หนึ่งคือสดชื่น สองคือ sophisticated ไปกับ spicy notes และสาม อบอุ่นกำลังดีกับวานิลลา แอมเบอร์และไม้ซีดาร์

กลิ่นทนมาก กระจายดี ให้ความรู้สึกทันสมัย ดูหรูหรามีการศึกษา

ใส่ไปทำงานจะดีมากครับ ยิ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้ายิ่งเหมาะครับ ถือเป็นกลิ่นผู้นำเทรนด์ความทันสมัยของสังคมเมืองอย่างแท้จริง


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------








Thierry Mugler - A*Men








- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 170฿ และ 10ml 330฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Thierry-Mugler/A-Men-705.html

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/review-thierry-mugler-amen.html

เรียกได้ว่าเป็นตำนานในฐานะน้ำหอมที่ถือว่าเป็นตัวเรียกแขกอันดับต้นๆ ของโลกให้เข้ามากินตับให้หนำใจได้เลยทีเดียว กับความเป็นน้ำหอมเชิง Gourmand ที่ออกแนวขนมหวานหรือของกินหวานๆ แถมยังร้ายกาจอย่างมากในแง่ของการกระจายตัวที่เรียกร้องความสนใจอย่างแรงจริงๆ กับ A*Men ตัวนี้เลยครับ

แม้ว่า A*Men จะเป็นหนึ่งในน้ำหอมที่ถ้าไม่ชอบก็จะเกลียดไปเลย แถมเลือกผู้ใส่พอสมควรก็ตามที แต่อย่างน้อยมันก็ยังให้โอกาสในการให้คนที่จะใช้ได้ทำความเข้าใจและเรียนรู้กับมันอยู่พอสมควร เพราะเนื้อกลิ่นแค่ช่วง Top Notes หลายๆ คนเบือนหน้าหนีกันได้เลยทีเดียว เพราะกลิ่นเปิดแรงบาดจมูกแอบไม่น่าพิสมัยมาก เพราะกลิ่นของลาเวนเดอร์ มิ้นท์ เม็ดผักชี โทนเขียวๆ และโทนผลไม้จะมาตีกันนัวเลย ออกแนวเหมือนไม้เหม็นหืนมาผสมกลิ่นเต่าแขกนิดหน่อย เพราะนอกจากโทนข้างบนจะยกพวกมาตีกันแล้ว กลิ่นคาราเมลจะดันขึ้นมาเร็วมากมาร่วมตีกับเขาด้วย ซึ่งต้องอาศัยเวลาที่จะทำความเข้าใจกับช่วงนี้และยอมรับมันพอสมควร ซึ่งพอชินแล้วก็จะ OK ไปเองแหละครับ และเมื่อถึงเวลาคาราเมลพระเอกของเราก็ตีทุกทัพแตกกระเจิงก็จะเข้าสู่ Middle Notes ที่จัดเต็มความหวานหอมน่ากินเย้ายวนดึงดูดเยือกเย็นแบบไม่แคร์สื่อ เพราะพระเอกของเราจะมารวมตัวเป็นพันธมิตรกับน้ำผึ้ง นม กลิ่นวู้ดดี้ติดมะลิจางๆ โดยมีพิมเสนเป็นกุนซือตัวสำคัญที่ทำให้กลิ่นเข้าครอบครองพื้นที่รอบกายแผ่กระจายไปรอบอาณาเขตของผิวกายเรา ยิ่งถ้าเคมีเข้ากันได้ แถมร่างกายมีการขยับเนื้อตัวเกิดความร้อน และอากาศในแบบบ้านเรากลิ่นจะขยายอาณาเขตแบบเต็มเหนี่ยวแบบขจรไกล เรียกร้องความสนใจทุกผู้ทุกนามว่า "หันมามองผมสิ แล้วกินให้หมดทั้งตัวก็ได้นะผมไม่ว่า (พลางทำหน้าแบบ #ก็ไม่รู้สินะ)" อิทธิพลของกลิ่นในช่วงนี้ถ้าใส่ถูกช่วงเวลา คือ เที่ยวกลางคืน บอกได้เลยว่ายั่ว Sex ขาดใจ ทำให้คนอยากเข้าใกล้มาสีเกินความจำเป็น หรือพยายามมานัวเนียสารพัด ช่วยทำให้คนใส่บริหารเสน่ห์ได้แบบจัดเต็มจริงๆ จนถึงขั้นไปรบกัน 2 ต่อ 2 ได้ แต่ต้องรวมถึงบุคลิกและการ Present ตัวเองด้วยนะครับ ไม่ใช่ใส่แล้วนั่งทื่อเป็นเสา ดูแห้งแล้ง เคมีไม่เข้า หรือทำหน้าเป็นตรูด ใครมันจะอยากเข้าหากันล่ะนั่น ยังไม่พอเมื่อเข้าสู่ช่วง Base Notes คราวนี้กุนซือและพระเอกของเราก็มาร่วมทีมกับกับโทนวู้ดดี้ ครีมมี่ อบอุ่น เย้ายวน เซ็กซี่ หวาน น่ากิน เข้มข้น ซึ่งกลิ่นช่วงนี้คือขนมชั้นดีกลั้วกาแฟแบบคาราเมลแมคคิอาโต้ที่จะออกนุ่มเย็น กลิ่นเริ่มดึงเข้าสู่ทางจัดหนักทางด้านกระจายดึงดูดทุกกรณีแบบไม่มีข้อแม้ ไม่มีคำว่าสดชื่น สะอาด หรือโลกสวยแต่ประการใด จัดเต็มกันแบบไม่แคร์รับช่วงต่อในเรื่องการดึงดูดจัดหนักยั่วขาดใจ โดยเฉพาะขุนศึกในโทนกาแฟ วานิลลา ถั่วตองก้า กำยาน ไม้หอม และอำพันที่จะมาทำหน้าที่หลัก โดยยังมีกุนซืออย่างพิมเสนที่ยังคงเต็มที่ในการสั่งการ แต่พระเอกของเราตอนนี้นั่งพักผ่อนเป็นฉากหลังแทน ยังกับนั่งดูสามก๊กเน้นฝั่งจ๊กก๊กทางด้านกลิ่นที่ออกทางยั่ว Sex ยังไงยังงั้น ใครเป็นเล่าปี ใครเป็นขงเบ้ง ใครเป็นอะไรอันนี้น่าจะเดากันได้ไม่อยากนะครับ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศตั้งแต่วัยมหาลัยขึ้นไป เน้นใส่เที่ยวกลางคืน หาเหยื่อ หรือขับเสน่ห์จะดีที่สุดครับ ที่สำคัญ#เรียกแขกได้ทุกเพศ แต่ถ้าลดระดับจำนวนสเปรย์ในระดับที่เหมาะสมก็สามารถใส่ยามกลางวันไปเรียน ไปทำงาน ใส่ไปเที่ยวกับแฟน ใส่ไปหากิ้ก หรือใส่ชิลล์ๆ ก็ยังได้อยู่ครับ แต่อย่าได้ใส่ออกกำลังกายหรือในช่วงอากาศร้อนจัดๆ เพราะคนรอบข้างอาจจะด่าตรงๆ หรือด่าในใจ หลบลี้หนี้หายหมด เพราะกลิ่นเวลากระจายช่วงนี้สามารถทำให้คนเวียนหัวได้ไม่น้อยจริงๆ ส่วนคุณผู้หญิงสามารถใช้น้ำหอมตัวนี้ได้สบายๆ ครับ เพราะโทนกลิ่นออกทางหวานเข้าทางอยู่ไม่ใช่น้อยถ้าจะลอง

ความทน - มากกกกกกกกกกจนไม่รู้จะบอกว่ามากยังไง 12 ชม. ขึ้นไปครับ กลิ่นติดเสื้อซักแล้วกลิ่นก็ยังไม่จางเลย เอากับมันสิ

การกระจาย - กระจายดีมันทุกช่วงเลย แต่จะเริ่มเรียกร้องความสนใจได้เต็มๆ ตั้งแต่ Middle เป็นต้นไปครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Thierry Mugler - A*Men Pure Malt








http://www.fragrantica.com/perfume/Thierry-Mugler/A-Men-Pure-Malt-6103.html

แบรนด์และตระกูลสุดรักของพี่เข็มขัดสั้นเลยคะ ตัวนี้เป็นลิมิเต็ททำออกมาในปี 2009 นะคะ ปีต่อไปก็ไม่ทำแล้วคะ หายากมากๆคะ เป็นตัวที่ถูกโหวตให้เป็นอันดับต้นๆของน้ำหอมผู้ชายที่ทำออกมาได้ดีที่สุดเลยคะตัวนี้ รีวิวในYoutube และในอินเตอร์เน็ตชื่นชมตัวนี้ทุกคนเลยคะ

- ขวด 100 ml ของใหม่ ยังไม่แกะกล่องนะคะ (ในรูปเป็นตัวของหนูเองคะ) ขาย 3,500฿
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 220฿ และ 10ml 400฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2014/10/review-thierry-mugler-amen-pure-malt.html

หนึ่งในน้ำหอมขั้นเทพ ที่เป็น Flanker ของตัวเทพสุดอย่าง A*Men ปกติ ที่กลิ่นจะพร้อมเรียกแขกยามค่ำคืนได้ไม่ยาก ใช้ง่ายกว่าต้นฉบับ แถมดูมีคลาส Chic เซ็กซี่ และคาสโนว่าสุดๆ ต้องเป็นตัวนี้เลย A*Men Pure Malt

เพราะเปิดต้นกลิ่นมาก็เป็นกลิ่นแนวผลไม้รวมที่ให้อารมณ์ Fruity สุดๆ มีกลิ่นอายสดชื่นก็จริง และมันดูขี้เล่นกรุ้มกริ่มไม่หยอก พอเข้าช่วง Middle เท่านั้นแหละ ได้เวลาของ Malt กันแล้ว เพราะกลิ่นที่ได้คือกลิ่นวิสกี้ ที่ผสานกับกลิ่นแนวๆ Woody ได้หอมเซ็กซี่ ดูมีสกุลรุนชาติขึ้นมาทันที ซึ่งกลิ่นนี้แหละบ่งบอกถึงอารมณ์แห่งการเป็นคาสโนว่าที่หล่อเลือกได้ แค่เพียงกลิ่นลอยไปปะทะจมูกใครซักคน โดยจะมีกลิ่นผลไม้บางเบาเป็นฉากหลังเสริมทำให้เกิดอารมณ์ Chic กำลังดีแถมให้อารมณ์ผู้ชายคนนี้มันหล่อจังเลย และกลิ่นวิสกี้นี่แหละที่จะมารวมตัวกันกับช่วงเบสอย่างกลิ่นแนวๆ Oriental เครื่องเทศที่ไม่หนักหน่วงนัก มีโทนวานิลลาอยู่พอประมาณ แต่ที่เด็ดดวงที่ทำให้เกิดอาการผู้ชายคนนี้มาดแมน เซ็กซี่ เร้าใจอย่างบอกไม่ถูก โดยไม่ต้องถอดเสื้อผ้าก็ถือกลิ่นถ่านหินที่สะอาดๆ นี่แหละ ความเก๋มันอยู่ตรงนี้

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายวัยทำงานครับ เป็นน้ำหอมที่ใส่ยามกลางคืนไปเที่ยวก็ได้ หรือออกงานกลางคืนก็เสริมออร่าเซ็กซี่ได้ไม่หยอก จริงๆ ก็ใส่ยามกลางวันได้ครับ เช่นเที่ยวห้างเดินเล่นแบบหรูๆ หน่อย แต่ถ้าใส่ไปทำงานอย่าฉีดเยอะ เดี๋ยวจะดูออกแนวเซ็กซี่เกินไปนักครับ

ความทน - มากกกกกกกกกกกก เกิน 8 ชั่วโมงขึ้นไป กลิ่นวิสกี้ตีขึ้นให้ฟินตลอด

การกระจาย - กระจายดีมากในช่วง Top และ Middle กลิ่นจะเย้ายวนกำลังดี และหรูหรา แต่ช่วงเบสจะออกแนวกลิ่นออร่ารอบๆ ตัวแบบเท่ห์ๆ มากกว่า

เป็นอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจในโซนของน้ำหอมโทนกลิ่นเหล้าที่ไม่ได้ทำให้ดูเป็นคนขี้เมาแต่อย่างใด แต่ทำให้ดูว่าคนๆ นี้ช่างมีรสนิยมดี๊ ดี ดูรวย ใส่แล้วระวังงานเข้าต้องออกกำลังกายยามค่ำตคืนหน่อยนะครับ คุณผู้ชาย ฮี่ฮี่


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Thierry Mugler - A*Men Pure Havane








http://www.fragrantica.com/perfume/Thierry-Mugler/A-Men-Pure-Havane-11444.html

แบรนด์และตระกูลสุดรักของพี่เข็มขัดสั้นเลยคะ ตัวนี้เป็นลิมิเต็ททำออกมาในปี 2011 นะคะ ปีต่อไปก็ไม่ทำแล้วคะ หายากมากคะ เป็นตัวที่ถูกโหวตให้เป็นอันดับต้นๆของน้ำหอมผู้ชายที่ทำออกมาได้ดีที่สุดตัวนึงเลยคะ รีวิวในYoutube และในอินเตอร์เน็ตชื่นชมตัวนี้ทุกคนเลยคะ

- ขวด 100 ml ของใหม่ ยังไม่แกะกล่องนะคะ (ในรูปเป็นตัวของหนูเองคะ) ขาย 3,000
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 170฿ และ 10ml 330 ฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2014/12/review-thierry-mugler-amen-pure-havane.html

นี่คือหนึ่งในตัวที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดตัวนึงเลยทีเดียวกับในการเป็น Flanker ของโซน A*Men ที่จัดเต็มกับการบอกถึงต้นตำรับที่ยังคงความเซ็กซี่เย้ายวนอยู่เบื้องหลัง แต่โดดเด่นเป็นสง่าในแง่ของการเป็นตัวเองอย่างชัดเจน ซึ่งถือว่าเป็นรุ่น Limited Edition ที่คนรักน้ำหอมแบรนด์ Thierry Mugler ไม่ควรจะพลาดกับรุ่นนี้ครับ A*Men Pure Havane

เปิดตัวด้วยความเป็นยาสูบหอมๆ ราดด้วยน้ำผึ้งชุ่มๆ กลิ่นมีเสน่ห์แบบภูมิฐานมากมายกันตั้งแต่เริ่มต้น ให้ความรู้สึกเย้ายวนในแบบสุภาพบุรุษที่ซ่อนคมและหวานลึกลับกันเลทีเดียว ซึ่งกลิ่นของยาสูบและน้ำผึ้งนี้จะตามติดไปจนถึงช่วงท้ายๆ ของน้ำหอมเลย โดยเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางก็ได้เวลาของความเป็น A*Men ที่เข้ามาทำหน้าที่แทน โดยกลิ่นของต้นจะกลายเป็นคนเบื้องหลังที่ปล่อยกลิ่นให้รู้สึกบางๆ ตลอด ให้กลิ่นของวานิลลา โกโก้ และพิมเสน ทำหน้าที่อย่างโดดเด่น มาก กลิ่นช่วงนี้จะหอมเซ็กซี่เย้ายวนแบบมีระดับขาดใจ แถมกลิ่นอบอุ่นน่าเชื่อถือมาก ยิ่งมีกลิ่นยาสูบกลั้วน้ำผึ้งจางๆ มาผสานยิ่งทำให้เซ็กซี่แบบไม่ต้องถอดเสื้อผ้าก็เชิญมากินทั้งตัวเลยน่าจะง่ายกว่า และได้เวลาของการปิดท้ายด้วยกำยานและแอมเบอร์ที่จะให้ความรู้สึกอบอุ่น น่าเข้าใกล้ แบบยังคงความมีภูมิเต็มเปี่ยม ลึกลับกำลังดี โดยมีกลิ่นในช่วงต้นและกลางตามมาเป็นพื้นหลังทำให้ได้ความเย้ายวน ความหวาน และความเซ็กซี่แบบสุภาพบุรุษหน้านิ่งๆ เพิ่มเข้ามาดึงดูดอีกต่อ แค่นี้ก็เพียงพอที่น้ำหอมตัวนี้จะทำให้คนใส่และคนได้กลิ่นฟิน และพร้อมฟินต่อกันได้ไม่ยากครับ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศเน้นวัยทำงานขึ้นไป เพราะกลิ่นค่อนข้างให้อารมณ์ความเป็นผู้ใหญ่ในเนื้อกลิ่นจากโทนน้ำผึ้งราดใบยาสูบนี่แหละ สามารถใส่ทำงาน (แบบสเปรย์เหมาะสม) ใส่ออกงานหรู หรือออกงานทั่วไป รวมถึงการเที่ยวกลางคืนแบบมีระดับนิดนึง ไม่ใช่ใส่ไปเต้นรากแตก ร้องกี๊ซซซซ ร้องแอร๊ยยยย มันไม่ใช่อ่ะ แต่ไม่เหมาะกับการใส่ไปออกกำลังกายเลย กลิ่นจะกระจายดีจนทำให้คนอื่นเวียนหัวเอาได้ครับ

ความทน - มากกกกกกกกกกกกก จะมากไปไหน เกิน 8 ชม. แน่ๆ เพราะใส่ทุกครั้งตั้งแต่ 6 โมงเช้า เที่ยงคืนกลิ่นยังลอยให้รู้สึกตลอดเลย

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้น และจะลดมากระจายดีไปตลอดจนกว่าจะหายไปจากผิว สมกับการเป็น A*Men ที่ไม่เคยลดราวาศอกให้ใคร

ทิ้งท้าย - เป็นอีหหนึ่งใน Flanker ของ A*Men ที่ผมปลื้มมากๆ เลยทีเดียวครับ ของเขาดีจริงๆ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Thierry Mugler - A*Men Ultra Zest






http://www.fragrantica.com/perfume/Thierry-Mugler/A-Men-Ultra-Zest-29589.html

แบรนด์และตระกูลสุดรักของพี่เข็มขัดสั้นเลยคะ ตัวนี้เป็นลิมิเต็ททำออกมาในปี 2015 นะคะ เพิ่งออกมาเมื่อปีที่แล้ว เป็นตัวที่ถูกโหวตให้เป็นน้ำหอมผู้ชายที่ทำออกมาได้ดีที่สุดเป็นอันดับ1ในเว็บน้ำหอม Fragrantica ในปี2015 (Best men's Perfumes in 2015) เลยคะ

- ขวด 100 ml ของใหม่ ยังไม่แกะกล่องนะคะ (ในรูปเป็นตัวของหนูเองคะ) ขาย 3,300
- ขวด 100 ml เหลือประมาณ 50% ขาย 1,700 คะ
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 200฿ และ 10ml 370฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/11/review-thierry-mugler-amen-ultra-zest.html

บอกกันตรงนี้ว่า "นี่คือหนึ่งในลูกรักของผมเลย" ที่กลิ่นแบบว่าถูกจริตขั้นสุดในแง่ของการผสมผสานน้ำหอมโทนสดชื่นและเย้ายวนเข้าด้วยกันได้อย่างมีชั้นเชิงมาก โดยยังมีกลิ่นอายของต้นตระกูลอย่าง A*Men ที่ X แตกอยู่อย่างไม่มีผิดเพี้ยน นั่นก็คือ ตัวส้มสีแสบจี๊ดที่พึ่งวางตลาดอย่างรุ่นนี้เลยครับ A*Men Ultra Zest

เปิดต้นกลิ่นด้วย Top Notes กับกลิ่นส้มสีเลือดที่จะออกหวานฉ่ำติดเปรี้ยว มาผสมผสานกับส้มเขียวหวานทีมาในโทนเปรี้ยวอมหวานเดียวกันกลายเป็นกลิ่นอายหอมสดชื่นที่ฉ่ำมากไม่หวานไปไม่เปรี้ยวไป โดยจะมีกลิ่นซ่าๆ ของกลิ่นขิงกับเลมอน และมีมินท์มาให้ความสดชื่นแบบเย็นๆ อีก กลายเป็นกลิ่นแบบน้ำส้มแฟนต้าซ่าๆ มากันเต็มๆ แน่นๆ เลย นี่แหละครับคนรักกลิ่นส้มจะแบบว่าฟินจัดกับตัวนี้มากเลย เพราะมันลั่นล้ากันตั้งแต่ต้นและยาวนานไปจนถึงช่วงท้ายๆ เลย เพียงแต่จะมีสิ่งที่หลบๆ ซ่อนๆ ในช่วงนี้คือโทนแบบ A*Men ต้นตระกูลและตัวเอกของไลน์อย่างพิมเสนที่มาแบบเบาๆ อยู่ ซึ่งจะมาชัดเจนกันในช่วง Middle โดยที่กลิ่นส้มซ่าๆ จะตามมาเด่นอยู่ แต่สิ่งที่เสริมขึ้นมาคือ กลิ่นของกาแฟกลั้วเครื่องเทศ มีกลิ่นอายแบบคาราเมลติดพิมเสนให้รู้สึกได้ ช่วงนี้เลยกลายเป็นกาแฟรสส้มแบบเย้ายวน เท่ห์ ลั่นล้า และสดชื่นในเวลาเดียวกัน เรียกว่าคือไฮไลท์กันเลยกับการเอาความเป็น A*Men มาผสมกับส้มจนได้กลิ่นที่ลงตัวมาก กลิ่นแบบยั่วยวนชวน X ก็จริง แต่มีความสดชื่นมาเบรกไม่ให้หวานเกินไป และใช้ง่ายกว่า ซึ่งกลิ่นกาแฟผสมส้มซ่าๆ ในตอนนี้จะลากยาวไปเรื่อยๆ จนจะมีกลิ่นอายของวานิลลาและครีมมี่แบบนุ่มนวลดันขึ้นมาเรื่อยๆ จนเข้า Base Notes ที่จะหลายเป็นกลิ่นกาแฟกลั้วส้มจางๆ มีกลิ่นวานิลลาแบบไลท์เวอร์ชั่นแบบนุ่มๆ ติดครีมมี่มากลั้ว ที่สำคัญจะพลาดไปได้อย่างไรกับพิมเสนที่เปิดตัวกันเต็มๆ ในช่วงนี้ กลิ่นอายจะหอมแบบชวนคลุกวงในแบบ A*Men แบบที่ไม่ชวนกันโต้งๆ ชัดเจนแบบต้นตระกูล มาแบบเฮฮา สดชื่น แต่หันไปหลิ่วตาใส่เป็นระยะยังไงยังงั้นเลยอ่ะ ฮิ้วววววว เรียกว่าคือไฮไลท์กันเลยกับการเอาความเป็น A*Men มาผสมกับส้มจนได้กลิ่นที่ลงตัว และใช้ง่ายกว่าต้นกระกูลมาก ไม่รักและหลงกลิ่นนี้ได้อย่างไรกัน

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไป กลิ่นสดลื่นลั่นล้าอย่างมีชั้นเชิงมาก แถมมีความเจ้าชู้ชวนกินแบบต้นตระกูลที่ไม่ได้ออกตัวแรงยั่วให้มากินให้หมดทั้งตัวขนาดนั้น แต่เน้นยั่วเรื่อยๆ จนสุดท้ายฟินนนนนนนนน ซึ่งใส่ได้กับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ซึ่งงานทางการจัดๆ อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่ ถ้าใส่แบบทำงาน Office นี่ได้อยู่ หรือใส่แบบชิลล์ๆ เที่ยวลั่นล้าก็ได้นะครับ แต่งดใส่ออกกำลังกายได้เลย เพราะกลิ่นแม้จะสดชื่นแต่แน่นมาก ฆ่าชาวบ้านหรือไม่ก็ยั่วให้มาฟัดนัวกันคาลู่วิ่งในสถานที่ออกกำลังกายเสียก่อน ส่วนยามค่ำคืน จัดไป ใส่ได้สบายมากกับอากาศบ้านเรา เรียกว่าเรียกแขกได้ดีมากตามสไตล์ตัวต้นตระกูลเลยครับ

ความทน - 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ ซึ่งอยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดด้วยส่วนหนึ่ง ส่วนตัวผมเจอที่ 12 ชม. ครับ กลิ่นตีขึ้นตลอดด้วย

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากกกกกกกกกกในช่วงต้นสดชื่นซาบซ่ามากมาย แล้วจะลดลงมากระจายดีในช่วงกลาง ก่อนจะกระจายกลางๆ ค่อนไปทางออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย - รักมาก หวงมาก และดีใจมากที่มีไว้ครอบครอง พูดได้ว่ามีโอกาสจะซื้อตุนไว้ครับ เพราะมันเป็น Limited Edition ด้วยยยยย และคงไม่ปล่อยให้จากไปไหนง่ายๆ แน่นอนกับน้ำหอมรุ่นนี้ ที่เข้า Top 20 น้ำหอมสุดรักผมทันทีไม่มีเงื่อนไขใดๆ ^^
ความคิดเห็นที่ : 2

tamamajung

16/07/2016 16:59:51
0
IP : 171.101.166.30

Carolina Herrera - CH Men Prive









http://www.fragrantica.com/perfume/Carolina-Herrera/CH-Men-Prive-31508.html

ตัวใหม่ล่าสุดจาก Carolina Herrera พึ่งออกมาปลายปี2015ที่แล้ว กลิ่นแนวอโรมาติค อบอุ่น เซ็กซี่สุดๆ แบบชายหนุ่มที่ยั่วสุดๆๆ เด่นที่กลิ่นวิสกี้กรุ่นๆ หนัง กับความหวานของทองก้าบีน ตัวนี้ฝรั่งเลิฟมากๆค่ะ **โดยรีวิวจากสาวๆในยูทูป ต่างบอกว่า SEX ALL DAY การันตรีด้วยการติดอันดับ1 ปี2016 น้ำหอมที่ใส่ออกเดทกับเที่ยวกลางคืนจากผลโหวตของสาวๆด้วยนะคะ**

- ขวด 100 ml ของใหม่ ซื้อมา 3,900 ขาย 2,500 คะ
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 150฿ และ 10ml 280฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Hermes - Terre d'Hermes (EDT) และ ตัว Parfum (EDP)














- ขวดนี้เป็นขวด Limited เป็นขวด Metal หรูหรา ไฮโซมากคะ ขนาดใหญ่ที่สุด 150ml ยังไม่ได้แกะใช้คะ ซื้อจาก PARAGON 7,800บาท ขอขาย 3,700 คะ

- ตัว EDT แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 175฿ และ 10ml 255 ฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ
- ตัว Parfum (EDP) แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 240฿ และ 10ml 470 ฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ
รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/review-hermes-terre-dhermes.html

หนึ่งในน้ำหอมที่เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดตัวนึงในแบรนด์นี้สำหรับผู้ชายเลยทีเดียว นั่นคือ Terre d'Hermes

แน่นอนว่าถ้าใครชอบน้ำหอมโทนสุภาพ Safe Scent นี่คือหนึ่งในตัวที่จะสมควรได้มีโอกาสใช้และทดสอบกับผิวครับว่าเข้ากับตัวเองหรือไม่ เพราะ Top Notes จะให้ความรู้สึกสดชื่นสุดๆ ไปเลยในกลิ่นโทนซิตรัสที่มีส้มนำมาเลยทีเดียว เป็นกลิ่นส้มที่ออกติดเขียวๆ หน่อย ซึ่งกลิ่นโทนเขียวนี่แหละครับคือลายเซ็นของ Hermes เลยที่จะมีในน้ำหอมแทบจะทุกตัว ซึ่งนอกจากจะทำให้สดชื่นแล้วมันยังทำให้แอบหรูมากๆ พอกลิ่นเปลี่ยนโทนมาที่ Middle Notes จะมาในรูปแบบที่สะอาดๆ ของพริกไทยซึ่งเด่นมากจริงๆ โดยมีพิมเสนเป็นฉากหลังบางๆให้อารมณ์นุ่มนวลเย็นๆ ได้ดีเลย ซึ่งพิมเสนนี่ยังตามมาต่อที่ช่วง Base Notes ที่คราวนี้จัดเต็มกันด้วยกับโทนกลิ่นที่ให้อารมณ์ดินอุ่นหอมๆ (ไม่ใช่โคลนเลนโดนแดดนะครับ เสียหมดถ้าเป็นกลิ่นแบบนั้น) ด้วยความเป็นหญ้าแฝก พิมเสน กลิ่นเชิงวู้ดดี้แมกไม้ ให้อารมณ์ติดดินแบบสะอาดสะอ้าน สุภาพ และมีคลาส โดยมีกำยานเป็นตัวตบให้เข้าที่เข้าทางให้กลิ่นออกทางหรูหราอีกด้วย

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศทุกวัย กลิ่นนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่สดชื่นและสุภาพมากเลยทีเดียว สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทำงาน ไปเรียน เดินเล่น ไปเที่ยวกับแฟน เที่ยวธรรมชาติ รวมถึงใส่ไปพบปะผู้คนทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ หรือทั่วๆ ไป ตลอดจนใส่ไปออกกำลังกายยังได้แบบสบายๆ เลย ที่สำคัญน้ำหอมกลิ่นนี้เป็น Safe Scent ที่ไม่กระจายมาก เน้นกลิ่นอ่อนๆ ในโทนที่อบอุ่นสร้างความไว้วางใจได้ดีมากจึงเหมาะกับแพทย์ และคนทำงานในสาขาสาธารณสุขที่ต้องบริการผู้ป่วย โดยที่กลิ่นต้องสุภาพ อบอุ่น และไม่ทำให้ผู้ป่วยตกใจ ที่สำคัญผู้หญิงใช้ได้สบายๆ กลิ่นแม้ไม่ออกทาง Unisex จ๋าๆ มาก แต่ก็สามารถใส่เพื่อสร้างความกระฉับกระเฉงและดูสุภาพไปด้วยได้ดีไม่น้อยครับ

ความทน - แม้จะเป็น Safe Scent กลิ่นสดชื่นก่อนค่อยมาเป็นกลิ่นอ่อนๆ แบบไอดินหอมๆ แต่ทนเกิน 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ

การกระจาย - กลิ่นกระจายในระดับดีที่ช่วง Top และจะลดระดับมาเรื่อยๆ แบบอบอุ่น สะอาด หรูหรา มีคลาส เป็นออกแนวติดผิวครับ แต่ถ้าขยับเนื้อขยับตัววอร์มร่างกายอะไรแบบนี้ก็จะมีกลิ่นหอมสะอาดสดชื่น ตีให้ได้กลิ่นอยู่ครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Burberry - Mr. Burberry








- ขวด 100ml ซื้อมา 4,200 ขาย 2,300 ฿

- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 160฿ และ 10ml 310฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Burberry/Mr-Burberry-32565.html

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2016/06/review-burberry-mr-burberry.html

หนึ่งในน้ำหอมชายออกใหม่ล่าสุดในปี 2016 และดูเหมือนว่า Burberry จะทำให้ตัวนี้เป็นหนึ่งในน้ำหอมชายที่เด่นที่สุดของแบรนด์ไปหลังจากนี้อีกเสียด้วย ซึ่งงานนี้กลิ่นจะออกมาในรูปแบบไหน สื่อสารถึงการเป็นชายหนุ่มในแบบ Burberry ได้อย่างไง มาพิสูจน์กันกับ Mr. Burberry ตัวนี้เลย

ต้องบอกก่อนทุกสิ่งในเรื่องกลิ่นเลย คือ ขวดสวยหรูหราและดูดีมาก ยิ่งมีเหมือนหูกระต่ายตรงคอขวดยิ่งทำให้ดูงามตั้งโชว์ได้สบายแฮจริงๆ และพอได้ลงมือฉีด Top Notes ที่ให้ความรู้สึกมาก่อนเลยคือ โทนซิตรัสจากเกรฟฟรุตที่มาแบบนุ่มๆ ไม่คมบาดจมูก โดยจะมีกลิ่นของเม็ดกระวานมาให้ความเป็นเครื่องเทศติดหวานแบบนวลๆ ไม่แปร่ง และยังกลิ่นอายเขียวออกหวานนวลแนวๆ สมุนไพรที่ติด Spice จางๆ เสริมเข้ามาด้วย เลยผสมผสานกันออกมาเป็นลักษณะของกลิ่นอายโทนสมุนไพรอมหวานที่ติดซิตรัสที่นวลจมูก ดูแบบสะอาดสะอ้าน จนเมื่อเข้าสู่ Middle Notes ความเป็นสมุนไพรนวลๆ เริ่มจะมีกลิ่นของไม้หอมเข้ามาผสมผสานซึ่งกลิ่นของไม้ซีดาร์จะมาให้ความขรึมน่าค้นหา โดยมีความสะอาดนวลๆ เป็นพื้นฐาน กลั้วไปด้วยกลิ่นออกทางเมทัลลิคติดเย็นๆ จางๆ และมีความหอมหวานติดเขียวของใบเบิร์ธที่จะแฝงความเซ็กซี่เย้ายวนแบบไม่โจ่งแจ้ง ซึ่งกลิ่นสมุนไพรนวลๆ ติดสดชื่นที่มาตั้งแต่ตอนต้นยังคงอยู่ให้รู้สึกได้ตีคู่ไปตลอดกับโทนไม้หอม ก่อนจะส่งต่อให้ Base Notes ที่ความเป็นสมุนไพรนวลๆ เริ่มเบาบางลงไป แต่จะยังมีความสดชื่นอ่อนๆ ให้รู้สึกได้อยู่ โดยที่กลิ่นไม้หอมจะเป็นตัวเด่นแทน โดยที่ซีดาร์ยังคงอยู่ และจะมีลูกคู่อย่างหญ้าแฝกที่มาให้ความ Smoky แบบเบาๆ และไม้จันทน์หอมที่มาแบบนุ่มๆ ให้ความนวลจมูก ทุกอย่างในช่วงนี้เลยจะกลายเป็นไม้หอมสะอาดนุ่มๆ หอมนวลๆ ออกทางสุภาพบุรุษแบบ Modern ออกขรึมๆ หน้านิ่งๆ แต่แฝงด้วยความน่าสนใจ บอกชัดเจนถึงลักษณะแบบหนุ่มอังกฤษได้เลยล่ะ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเลย เรียกว่าเป็นกลิ่นที่เข้าถึงง่าย คนไม่ยี้ และกลิ่นมีความนุ่มสะอาดแบบแฝงเซ็กซี่ขรึมๆ ได้กำลังดี สามารถใส่ได้ในทุกๆ สถานการณ์ยามกลางวันเลย ไม่ว่าจะทางการหรือชิลล์ๆ ส่วนออกกำลังกายก็ใส่ได้ ส่วนยามค่ำคืน เอาจริงๆ กลิ่นไม่ได้มาทางสายนี้นักแต่ใส่ได้ถ้าอิงกับอากาศบ้านเรา เพียงแต่ถ้าต้องไปแข่งกับสายเย้ายวนหวานๆ ใส่อยู่บ้านให้แฟนซุกจะดีกว่า

ความทน - อยู่ที่ราวๆ 6 ชม. บวกลบประมาณ 2 ชม. อิงกับจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ มีเคมีบ้างเล็กน้อย ที่สำคัญกลิ่นติดเสื้อค่อนข้างดีแบบสะอาดๆ นวลๆ เสียด้วย

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมากระจายแบบออร่ารอบๆ ตัวแบบลากยาวไปตลอด จนเป็น Skin Scent ในช่วงท้าย เรียกว่ามาในแนวไม่เน้นเรียกร้องความสนใจอะไรมาก แต่ถ้ามาใกล้ๆ จะรู้สึกได้ถึงความน่าค้นหานั่นเอง


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Armani - Code








- ขวดซ้าย ลิมิเต็ท 125ml ซื้อมาเกือบ6พัน เหลือประมาณ 75-80% ขาย 3,000 / ขวดขวา 75ml ไซส์ปกติตามเคาน์เตอร์ ซื้อมา 3,900 เหลือประมาณ 50%+ ขาย 1,300

- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 170฿ และ 10ml 320฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Giorgio-Armani/Armani-Code-412.html

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/10/review-giorgio-armani-code-for-men.html

ขึ้นชื่อว่า Armani น้ำหอมที่ทำออกมาส่วนใหญ่ ตอบโจทย์ความถูกใจมหาชนแน่ๆ อยู่แล้ว แทบไม่ต้องปฏิเสธเลยว่า Code คือตัวหนึ่ง ที่มหาชนชายไทยใช้แล้วยังไงก็ทำเอาคนได้กลินแทบจะทุกเพศระทวยเอาได้ เพราะสิ่งที่ Code มี คือ ความสดชื่นแบบคมๆ แรกเริ่มกับกลิ่นแนวๆ เลมอนและมะกรูดก็จริง แต่มันแกล้มความหวานแบบหวานอมเปรี้ยวได้ดีมาก พอพ้นช่วงต้นเท่านั้นแหละ ได้เวลาของการจัดเต็มเรื่องความหวาน เย้ายวน ชวนระทวยหัวใจคนได้กลิ่นสุดๆ เพราะกลิ่นของดอกโอลีฟ และโป๊ยกั๊ก กลั้วความเป็นวู้ดดี้เบาๆ นั้น ผสมผสานกันเป็นอย่างดี ทำให้ได้อารมณ์ประมาณผู้ชายสะอาดสะอ้านที่ให้กลิ่นเซ็กซี่น่าซบในรูปแบบสบู่ชั้นดี ได้กลิ่นเมื่อไหร่ต้องหันไปมองตามว่า อูยยยย หอมจัง ไม่พอถ้าเผลอตัว อาจจะเดินตามได้ และที่น่ายกนิ้วให้คือ ช่วงเบสที่จะกลายเป็นกลิ่นออกแนวสะอาดละมุนละไมแบบผู้ชายทาแป้งหอมๆ ดูเป็นคนดูแลตัวเอง กลิ่นทำให้ดูหล่อขึ้นได้เลย 50% ยิ่งทำให้คนได้กลิ่น ถ้าถูกใจทุกอย่าง อาจจะทำให้เกิดอาการชั้นจะเอา ชั้นจะเอาได้ ซึ่งถือว่าเป็นการทำน้ำหอมออกมาแล้วสร้างเสน่ห์ให้ผู้ใส่ได้เป็นอย่างดีในด้านความสดชื่น หวาน เย้ายวน เซ็กซี่ และสะอาด ละมุนละไม ครบเครื่องที่สุด จนทำให้ต้องมีรุ่น Flanker อื่นๆ ตามมาอีกเพียบ #ของดีเทคนิคไม่ต้อง อีกตัวครับ

เหมาะสำหรับ - ชายหนุ่มตั้งแต่วัยเรียนมหาลัยขึ้นไป ใส่ได้ทุกสถานการณ์ เหมาะกับอากาศบ้านเรา เป็นกลิ่นที่สร้างเสน่ห์ได้ในทุกๆ เสื้อผ้า (ขอยกเว้นใส่ผ้าขาวม้า เสื้อกล้าม เสื้อ+กางเกงเล่นบอลแล้วกัน)กลิ่นต้นๆ อาจจะหวานคมหน่อยๆ แต่ไม่ต้องห่วงที่เหลือจะทำให้คนใส่มีเสน่ห์มากขึ้นทุกๆ ช่วงเวลา และโอกาสจริงๆ

ความทน - 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ

การกระจาย - ดีมากในทุกๆ ช่วง เดินผ่านใครก็ทำให้อีกฝ่ายถ้าไม่หันหน้าตาม ก็จะรำพึงในใจว่าหอมจัง กลิ่นจะหอมรอบตัวตลอดเวลา เสน่ห์มันมาจากตรงนี้แหละ ขอบอกกกกก


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Armani - Code Profumo














- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 200฿ และ 10ml 390฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Giorgio-Armani/Armani-Code-Profumo-34761.html

ตัวใหม่ล่าสุดจาก Armani เพิ่งเปิดตัวในปี2016 Armani Code Profumo จัดอยู่ในกลุ่ม oriental spicy ให้กลิ่นอบอุ่น น่ากอด น่าค้นหามาก ๆ กลิ่นนึงเมื่อเทียบกับน้ำหอมแบรนด์ดีไซเนอร์ด้วยกัน มาในความเข้มข้นระดับ edp กลิ่นจะเข้มแและทนกว่าArmani code รุ่นปกติ ช่วงต้นกลิ่นจะมีกลิ่นอายของ 1 Miilion by Paco Rabanne อยู่บ้าง แต่ไม่นานนัก น่าจะได้กลิ่นอยู่ไม่เกิน 15 นาที ส่วนกลิ่นอายของ Armani Code ดั้งเดิมก็มีอยู่บาง ๆ ซึ่งสัมผ่านโทนสะอาดที่ห้อมด้วยเครื่องเทศที่สามารถพบได้จาก Code

ส่วนพระเอกคงหนีไม่พ้น tonka bean ที่หวานอบอุ่นและได้ความแห้งน่าค้นหาจากแอมเบอร์เพิ่มเข้ามา ทิ้งให้ช่วงท้ายกลิ่นให้ภาพของน้ำหอมสีดำ ดูลึกลับ และมีเสน่ห์ เหมาะกับใส่ช่วงเย็นมากที่สุด ใส่ออกเดท ออกงานสำคัญ หากใส่ทำงานเริ่มที่สเปรย์น้อย ๆ ก่อน


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Yves Saint Laurent - La Nuit de l’Homme














- ตัววินเทจ แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 220฿ และ 10ml 420฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

-ตัวปัจจุบัน แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 165฿ และ 10ml 320฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ


รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Yves-Saint-Laurent/La-Nuit-de-l-Homme-5521.html

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2015/05/review-yves-saint-laurent-la-nuit-de.html


น้ำหอมของ YSL นี่ทุกตัวเรียกว่าจะมีโทนของความเย้ายวนในรูปแบบต่างๆ ให้รู้สึกได้กันมาตลอด และพอมาที่รุ่นที่เรียกว่าพร้อมแล้วที่จะยั่วยวนอย่าง La Nuit de l’Homme ก็มาเต็มสิครับงานนี้ เพราะ

เรียกได้ว่าเปิด Top Notes กันได้แบบหวานเย้ายวนกันตั้งแต่ต้น โดยไม่แคร์ใคร อ่ะ! ก็มีเสน่ห์อ่ะนะ ประมาณนี้เลย เพราะกลิ่นของกระวานจะมากลั้วกับกลิ่นของลาเวนเดอร์ โดยมีมะกรูดมาเสริม ประมาณว่าบอกกันตั้งแต่ช่วงต้นว่าคนใส่คือผู้ชายที่เซ็กซี่มีประสบการณ์ ปล่อยเสน่ห์พลางยักคิ้วหลิ่วตาเป็นพิธี คือกลิ่นเม็ดกระวานมาแบบหวานนุ่มเย้ามาก เพราะมาแบบมีชั้นเชิงและมีระดับพอในเรื่องของความเซ็กซี่ชวนซบไม่น้อย จนเมื่อเข้าช่วง Middle Notes กลิ่นหวานเย้ายังไม่หยุดเพราะจะมีโทนหวานเย้าอย่างยี่หร่ามาเสริมทัพเพิ่ม และมีโทนแมนๆ ขรึมๆ ของซีดาร์ เลยทำให้กลิ่นช่วงนี้ตัดกันไปมาอย่างน่าดูชมจนกลายเป็นกลิ่นหวานเย้ายวนนุ่มจมูก คือ เรียกแขกกันเต็มๆ ช่วงนี้คือช่วงไฮไลท์ได้เลยทีเดียว แต่เรียกแบบมีชั้นเชิง ไม่ได้แบบว่า บอกใครไปทั่วว่า “มากินผม มากินผม” แต่จะบอกว่า “ผมมีประสบการณ์และชั้นเชิงมากเลยนะครับ” อารมณ์มันได้และใช่ จนปิดท้ายที่ Base Notes งานนุ่มต้องมา กลิ่นโทนหวานในช่วงกลางๆ จะกลมกล่อมมากขึ้นด้วยกลิ่นโทนครีมมี่นุ่มๆ โดยมีกลิ่นอาย Smoky ซึ่งน่าจะเป็นหญ้าแฝกเป็นตัวเสริมให้กลิ่นออกทางแมนและเซ็กซี่แบบมีของ ภาพรวมน่ะใช่เลย หนุ่มเมโทรเจ้าเสน่ห์ที่น่าค้นหา แบบว่ามาเต็มเลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานเป็นต้นไป ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ไม่ว่าจะเป็นงานทางการหรือไม่ทางการ ในจำนวนสเปรย์ที่เหมาะสม ออกงานทางการใช้สเปรย์ดีๆ กลิ่นเซ็กซี่ อบอุ่น หวานเท่ห์ได้เลย ยิ่งถ้าใส่ไปเที่ยวกลางคืน หรืออยู่กับแฟน งานคลุกวงในอาจจะมาถี่หน่อยก็เท่านั้นเองครับ

ความทน – 8 ชั่วโมงกลิ่นยังอยู่สบายๆ ซึ่งถ้าจำนวนสเปรย์ดีๆ ยาวไปถึง 12 ชั่วโมงก็สามารถครับ

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากกันตั้งแต่ต้น แล้วจะลดลงมากระจายกลางๆ ไปตลอด จนกลางๆ ช่วงท้ายจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวดึงให้คลุกวงในได้ไม่ยาก ถ้าเข้ามาใกล้ๆ น่ะครับ

ทิ้งท้าย – ใครชอบน้ำหอมที่บอกความเซ็กซี่ในตัวคุณ ตัวนี้เข้าทางมากครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Carolina Herrera - CH Men








- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 170฿ และ 10ml 320฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Carolina-Herrera/CH-Men-6759.html

**ตัวนี้หนูขอแนะนำอีกตัวเลยคะ ชอบเป็นการส่วนตัวมากๆ** น้ำหอมที่ติดอันดับท็อป 1ใน3 มาหลายปีของน้ำหอมที่เหมาะกับการเดท หรือใส่พบปะคนรู้ใจมากที่สุดจากหลายผลโหวตในตปท. "ไม่มีขายในไทยแล้วนะคะ" ลองอ่านรีวิวพี่เกียรติดูนะคะ CH Men เปิดด้วยโทนผลไม้ของเกรฟฟรุ๊ต กลิ่นแน่นพอสมควรไปกับ violet ที่ให้กลิ่น sensual และ sexyมากๆ รวมถึงความทันสมัย กลิ่นกลาง aromaticไปกับหญ้าฝรั่น ซึ่งให้โทนเขียวคู่กับหญ้าแฝก ในส่วนนี้เติมความสดชื่นให้กลิ่น และถูกล้อมด้วยกลิ่นมะลิอ่อน ๆ ในขณะที่จันทน์เทศนั้นให้ความแน่นที่เนื้อกลิ่น


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Carolina Herrera - 212 Men








- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 165฿ และ 10ml 320฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Carolina-Herrera/212-Men-297.html

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/10/review-carolina-herrera-212-men.html

หนึ่งในพระเอกสุดๆ ของแบรนด์ Carolina Herrera ที่เป็นน้ำหอมยอดฮิตมากมาย แตก Flanker ออกเพียบและหลายรุ่นสุดๆ แต่รุ่นออริจินี่สิ เป็นรุ่นที่ไม่ว่าใครๆ ได้กลิ่นก็ติดใจ ไม่อยากจากไปไหน สาวๆ ได้กลิ่นแถมจะเคลิ้มอีกต่างหาก กับ 212 Men ตัวนี้นี่เอง

แค่กลิ่นเปิดก็เย้ายวนกันสุดๆ ส่วนตัวเป็นกลิ่นเปิดที่ Oh my God มาก เพราะกลิ่นมันดูเขียวโซนสะอาดก็จริง แต่มันหวานติดเครื่องเทศบางๆ ทำให้กลิ่นเย้ายวนกันตั้งแต่แรกเริ่มแบบ "ก็ไม่รู้สินะ" ได้เป็นอย่างดี ถือเป็นกลิ่น Top ที่เพียงแค่ได้กลิ่นสามารถเสียตังค์ซื้อเจ้าตัวนี้ไปครองได้ทันทีเพราะหอมจริง อะไรจริง ยังไม่พอตามมาต่อด้วยช่วง Middle ที่ Floral Spicy เพราะกลิ่นดอกไวโอเล็ตกับพริกไทยมันผสมผสานเคล้ากันได้นัวมาก เพิ่มความเซ็กซี่แบบสะอาดสะอ้านเข้าไปอีก แถมออกหวานสดชื่นกำลังดีจากขิงอีกด้วย คือ มาครบไม่ต้องให้ทวงในเรื่องความสดชื่นเลย ของเขาเก๋นะนั่น และสุดท้ายได้เวลาเผยโฉมของ Base ที่นุ่มนวล กลิ่นสะอาดสะอ้านแบบ Musk กลั้ววู้ดดี้ผสมกับพวกยางไม้ที่ยังมีกลิ่นอายเซ็กซี่เย้ายวนไม่จาง ออกแนวหอมแบบมีคลาส หรูกำลังดี ให้คนได้กลิ่นเขาฟินกันได้แบบ "ก็ไม่รู้สินะ" ได้เลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - กลิ่นนี้จริงๆ ชื่อเป็นของผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็ใช้ได้สบายๆ ครับ เพราะกลิ่นออกโทนหวานนั่นเอง อย่าได้แคร์ เพราะสาวๆ ใส่ผู้ชายก็เคลิ้มได้ แน่นอนว่าใส่ได้ทุกสถานการณ์ ทำงาน เดินเล่น ไปอี๋อ๋อกับกิ้ก ออกกำลังกายก็ยังได้แต่กลิ่นอาจจะตีขึ้นเยอะไปนิดถ้าบึ้ดจ้ำบึ้ดหนักไปหน่อย ที่สำคัญใส่เที่ยวกลางคืน หรือออกงานหรูต่างๆ ได้สบายๆ เลยทีเดียว กลิ่นเขาเก๋

ความทน - 8 ชม. ขึ้นไปครับ จริงๆ กลิ่นทนกว่านั้นมาก อยู่ที่ผิวแต่ละคนด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย - ดีมากกกกกกก ทั้ง 3 ช่วง ปล่อยเสน่ห์เซ็กซี่ได้ทุกช่วงตัว มีช่วงเบสที่ลดระดับมาเป็นอยู่ใกล้ๆ หน่อย ออกแนวยั่วเบาๆ ว่า เข้ามาสิจ้ะ แล้วจะได้กลิ่นเต็มๆ มากกว่านี้ คริค


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Dolce & Gabbana - The One








- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 170฿ และ 10ml 320฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

น้ำหอมที่ฝรั่งทั้งผู้หญิง ผู้ชายและรีวิวแทบทุกรีวิวใน Youtube ชอบมากๆ เป็นกลิ่นน้ำหอมที่มีความอบอุ่นและดึงดูดทุกเพศมากคะ ตัวนี้หนูแนะนำเลยจริงๆ ถ้าไม่หอมยินดีคืนเงินเลยคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Dolce-Gabbana/The-One-for-Men-2056.html

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/review-dolce-gabbana-one-for-men.html

ต้องบอกว่า The One เป็นน้ำหอมที่ดึงดูดมากเลยทีเดียวนะครับ เพราะภาพรวมของความเป็นน้ำหอมแบบ Oriental Spicy ที่จะปล่อยกรุ่นกลิ่นของความหวานและความยวนใจได้มากอยู่แล้ว และมีพระเอกที่โดดเด่นชัดเจนที่ทำให้คนใส่จะมีกลิ่นที่ดูมาดแมน มีคลาส และโรแมนติคได้ไม่น้อย ซึ่งตัวนี้เปิด Top Notes กันด้วยความ Spicy ชัดเจน แต่เบรกความหวานด้วยความสดชื่นของเกรฟฟรุ๊ต (ส้มเช้งชนิดนึง) ทำให้กลิ่นจะเป็นโทนหอมหวานนุ่มนวลกำลังดี โดยยังมีความสดชื่นนัวไปด้วยตลอด ซึ่งเป็นกลิ่นเปิดที่เป็นเอกลักษณ์เลยตัวนึง พอผ่านไปได้ซักไม่เกิน 15 นาที Middle Notes ปล่อยของเต็มตัวกับโทนอบอุ่นและเย้ายวนของเม็ดกระวาน มีสร้างความสดชื่นติดหวานของขิง และเรียกแขกด้วยดอกส้ม มีกลิ่นของช่วงต้นมาผสมผสานให้กลิ่นออกหวานแมนดึงดูดมากพอสมควรเลยทีเดียว และก็ได้เวลาของพระเอกคือ Base Notes ที่ใบยาสูบจัดเต็มจริงๆ ให้อารมณ์หวาน เย้ายวน สะอาด และเซ็กซี่ในคราวเดียว เสริมทัพความแมนด้วยกลิ่นโทนวู้ดดี้ที่ยังให้ความอบอุ่นในเนื้อกลิ่นได้มาก แค่นี้ก็กินขาดแล้ว แถมเสริมบุคลิภาพผู้ใส่ได้ดีมากตัวนึงเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - ชายหนุ่มทุกเพศวัยทำงานขึ้นไปครับ กลิ่นเนี้ยบนิดนึง แต่ใส่ได้ทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะใส่ไปทำงาน ออกงาน พบลูกค้า ใส่ไปงานเลี้ยง งานแต่ง เพราะให้อารมณ์อบอุ่นน่าเชื่อถือได้กำลังดี เข้ากับสูททุกประเภทได้ดีมาก ที่สำคัญใส่ไปอี๋อ๋อกับแฟนนี่ก็เหมาะกับกลิ่นยั่วแบบแมนๆ ไม่ได้แสดงออกได้ดีมาก ใส่เที่ยวกลางคืนก็ได้ครับ แต่กลิ่นอาจจะไม่ได้กระจายมากนัก เพราะเน้นคลุกวงในมากกว่า ส่วนผู้หญิงไม่ค่อยแนะนำครับ กลิ่นใบยาสูบมันจะออกแมนเกินไปนิดนึง ยกเว้นปลอมตัวเป็นทัดดาว บุษยา "เจ้าฮ่ะ ผมอยากฟัดเจ้าอะฮ่ะ" นั่นก็อีกเรื่องครับ

ความทน - อยู่ที่ 6 - 8 ชม. ครับ อาจจะมากหรือน้อยกว่านั้นอยู่ที่เคมีและการฉีดด้วยส่วนหนึ่ง เพราะส่วนตัวบางครั้งผมเองไม่ได้ทนถึง 8 ชม. แต่บางครั้งล่อไป 12 ชม. ก็เจอมาแล้ว และฉีดใส่เสื้อผ้าด้วยก็ได้นะครับ กลิ่นก็ติดเสื้อผ้าได้ดีในระดับหนึ่งเลย

การกระจาย - The One จะกระจายดีที่สุดคือ Top แล้วจะค่อยๆ ลดลงมาเป็นกลิ่นแนวๆ คลุกวงในมากกว่าครับ อย่างน้อยก็ยังดี เพราะมันไม่ได้กระจายเพื่อยั่วชาวบ้านไปทั่วเกินไปนัก


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


CoSTUME NATIONAL - Scent Intense








**ตัวนี้แนะนำเลยคะ เป็นน้ำหอมตัวเดียวที่ได้รับเกียรตินำไปตั้งโชว์ในพิพิธพันฑ์sex**

- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 200฿ และ 10ml 390฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/CoSTUME-NATIONAL/Scent-Intense-2305.html

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2015/10/review-costume-national-scent-intense.html

เปิดตัวมาแบบมีความเป็น Spicy แบบเข้มๆ แฝงอยู่ด้วยตลอด และยังมีกลิ่นโทนอบอุ่นติด Smoky รองพื้นหลบอยู่ด้านหลังทำหน้าที่ดันกลิ่นชาให้เด่นขึ้นมาเต็มๆ ลักษณะออกแนวคล้ายๆ Chai Tea ที่เป็นชาผสมเครื่องเทศแบบอุ่นๆ กลิ่นจะมาเต็มแน่นกันเลยทีเดียว เรียกว่าไม่ได้มีความสดชื่นเข้ามาแจมอะไรมาก ซึ่งกลิ่นตอนนี้ถ้าคนที่ชอบน้ำหอมโทนสดชืิ่นเป็นหลักอาจจะผงะไปได้ 3 ตลบเลย เพราะมันแน่นจริงอะไรจริง จนเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางกลิ่นอายของชาติดเครื่องเทศจะเริ่มจางลง มาเป็นโทนชาเบาๆ กลั้วกับดอกชบาและมะลิ กลิ่นชบาที่เด่นสุดๆ มาแบบโปร่งๆ ใน Scent รุ่นปกติ จะเปลี่ยนโทนเป็นชบาแบบเข้มๆ ติดออกทางดาร์ก กลิ่นมีความซับซ้อนและลึกลับจนรู้สึกได้ โดยมีกลิ่นของมะลิแบบจางๆ และโทนอบอุ่นรองพื้นด้านหลังให้กลิ่นยังคงโทนอุ่นแบบมีระดับอยู่เช่นเดิม และปิดท้ายกันด้วยกับกลิ่นอบอุ่นที่หลบอยู่เบื้องหลังมานาน ก็โผล่มาเบื้องหน้าเสียทีกับ แอมเบอร์ ที่แบรนด์นี้เขาเก่งไม่น้อยกับ Note ตัวนี้ เพราะกลิ่นจะไม่ได้มาแบบ Smoky จัดๆ หรือออกสาปไม้แน่นๆ แต่ประการใด เพราะจะมาแบบกึ่งดาร์กกึ่งโปร่งหอมอบอุ่นนวลๆ มีความนุ่มเย้าของพิมเสน และมีความเป็นไม้หอมสะอาดสะอ้านอยู่ แต่ภาพรวมคุมโทนความดาร์กเข้มของกลิ่นได้ลงตัวมาก เรียกว่าเป็นน้ำหอมโทนอบอุ่นติดดอกไม้ที่เซ็กซี่ และเย้ายวนแบบมีระดับได้เลยทีเดียว ไม่แปลกใจนักที่รุ่นนี้จะติดหนึ่งในน้ำหอมที่ยั่วให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายน้ำเดินแบบไม่รู้ตัวได้ไม่ยาก ฮิ้ววววววว

เปรียบเทียบ - รุ่นปกติกลิ่นแน่นแต่ก็มีความใสในเนื้อกลิ่น มีความเป็นผู้ดีหรูหรามีระดับมาก แถมมีความแอบยั่วยวนอยู่โดยไม่โจ่งแจ้ง เน้นมาเงียบๆ ฟาดเรียบนะจ้ะ แต่ Intense จะเข้มข้น ดาร์ก น่าค้นหาแบบชัดเจน ยั่วยวนกันแบบมีชั้นเชิง บอกถึงความมีของภายในว่า "ชั้นมีดีที่คุณจะหลง" แบบนี้เลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ - น้ำหอมรุ่นนี้ตราเอาไว้ว่าของผู้หญิง แต่จริงๆ กลิ่น Unisex มากครับ ผู้ชายก็ใช้ได้สบายๆ เลย โดยสามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันแบบจำกัดจำนวนสเปรย์ กลิ่นจะให้ความดีงามมากเลยทีเดียว โดยใช้ได้ทั้งงานทางการและไม่ทางการ ยิ่งเวลาโรแมนติคมันจะปลุกเร้าเอาได้ง่ายๆ เลยนะ แต่ถ้าอัดมากไป จะฆ่าตายหมู่เสียก่อน งดใส่ออกกำลังกาย และกลางแจ้งร้อนๆ ทุกกรณีกลิ่นกระจายดีมากจนอาจจะแน่นไปได้ ส่วนยามค่ำคืนเน้นไปเที่ยว จัดได้ กลิ่นมีระดับ ไม่โหล และดึงดูดแบบจัดเต็มเลยล่ะครับ

ความทน - เรียกขุ่นแม่กันเลยดีกว่า เพราะ 15 ชม. กลิ่นยังตีขึ้่นอยู่เลย เช่นนั้นเชื่อใจได้ว่าเกิน 8 ชม. แน่ๆ ครับ

การกระจาย - จะกระจายดีมากในช่วงต้นเพราะกลิ่นเปิดมันแน่นและติด Spice แบบที่คนไม่ชอบอาจจะอึดอัดเอาได้ และจะลดลงมากระจายดีสม่ำเสมอไปจนถึงช่วงกลางของตอนท้ายๆ ก่อนที่จะกระจายกลางๆ กึ่งออร่ารอบๆ ตัวไปเรื่อยๆ ครับ

ทิ้งท้าย - เรียกว่ากลิ่นดีงามเลยทีเดียว เพราะมีความซับซ้อน มีระดับ หรูหรา ดึงดูด และเย้ายวนแบบที่ไม่ได้เกร่อโหลเลย มาแบบมีชั้นเชิงมาก และถ้าใครชอบน้ำหอมโทนแอมเบอร์เด่นๆ ตัวนี้จะได้แอมเบอร์ติดโทนดอกไม้ที่นวลจมูกแบบลึกลับเลยล่ะครับ แถมบางทีอาจจะได้ทั้งคำชมและได้คนที่น่าสนใจกลับบ้านด้วยนะครับ ฮิ้ววววววววววว
ความคิดเห็นที่ : 3

tamamajung

16/07/2016 17:00:26
0
IP : 171.101.166.30
Guerlain - L'Instant de Guerlain pour Homme (EDT) & L'Instant de Guerlain pour Homme Extreme (EDP)














- Guerlain L'Instant de Guerlain pour Homme (EDT) แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 130฿ และ 10ml 270฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ


- Guerlain L'Instant de Guerlain pour Homme Extreme (EDP) แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 250฿ และ 10ml 470฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ


รีวิวต่างประเทศตัว EDT http://www.fragrantica.com/perfume/Guerlain/L-Instant-de-Guerlain-pour-Homme-52.html

รีวิวต่างประเทศตัว EDP http://www.fragrantica.com/perfume/Guerlain/L-Instant-de-Guerlain-pour-Homme-Eau-Extreme-11570.html

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2015/06/review-guerlain-linstant-de-guerlain.html

เป็นหนึ่งในตัวยอดนิยมฝั่งน้ำหอมชายเลยทีเดียวสำหรับรุ่น L'Instant de Guerlain pour Homme ยิ่งเมื่อเจอคำโปรยว่ากลิ่นนี้ที่จะสื่อถึง "Passion & Peace, Recognition of Feelings & Power of Reason" งานนี้เลยอยากรู้แล้วว่ากลิ่นจะสื่อออกมาอย่างไงตามคำโปรยนี้เลยทีเดียว

Top Notes เปิดขึ้นมากกับกลิ่นโทนซิตรัสกลั้วเครื่องเทศ กลิ่นเด่นอย่างเลม่อนและมะกรูดทำให้เกิดความสดชื่นสบายๆ โดยจะมีกลิ่นของเครื่องเทศติดโทนหวานอย่างเม็ดเทียนสัตตบุษย์ มาตัดทำให้โทนซิตรัสไม่คมเกินไป มีกลิ่นโทนดอกไม้อ่อนๆ นุ่มๆ มาแกล้ม กลิ่นนุ่มจมูกสบายๆ เรียกว่าเข้าทางคำว่า Peace เลย ก่อนจะส่งต่อให้ Middle Notes ที่จะค่อยๆ เปลี่ยนจากโทนสดชื่นนุ่มๆ มาเป็นกลิ่นโทนอบอุ่นด้วยโกโก้ โดยกลิ่นจะไม่ได้หนักเกินไปเพราะมีลาเวนเดอร์มาตัด มีกลิ่นชาเข้มๆ กับพิมเสนให้เกิดความรู้สึกเย้ายวนกำลังดี จนถึงกลางๆ ช่วงนี้จะมีกลิ่นไม้หอมค่อยๆ ดันขึ้นมาผสานนั่นอย่างจันทน์หอมและซีดาร์ ทำให้เป็นกลิ่นที่ภูมิฐานเลยทีเดียวในช่วงนี้ และมีทั้งความเย้ายวนและอบอุ่นน่าเชื่อถือในเวลาเดียวกัน มากับความ Passion และ Power of Reason มากขึ้น และเมื่อเข้าสู่ Base Notes กลิ่นไม้หอมยังคงอยู่ โดยมาผสานกับ Musk และเมล็ดชบา (ที่กลิ่นใกล้เคียง Musk แต่จะติดเขียวมาหน่อยๆ) กลิ่นในช่วงนี้จะหอมสะอาดติดอบอุ่นนิ่งๆ มีความนุ่มนวล ออกแนว Recognition of Feelings ได้อยู่ เพราะกลิ่นในช่วงนี้จะหอมเข้าถึงง่ายไม่ค่อยรบกวนใคร ต้องมาดมใกล้ๆ แล้วจะอยากซุก ไรงี้

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป จริงๆ น้องๆ มหาลัยก็ใช้ได้เวลาออกงานทางการหรือดินเนอร์กับแฟน ซึ่งกลิ่นจะเข้าทางกับความเป็นทางการมากเลย เพราะเสริมความภูมิฐานในให้ผู้ใส่มีออร่าอบอุ่นน่าเชื่อถือได้ไม่ยาก ซึ่งในส่วนของสถานการณ์ที่ไม่ทางการ ก็ใส่ได้ครับเพราะกลิ่นคาบเกี่ยวความสบายๆ ได้อย่างลงตัวอยู่ เพียงแต่ไม่เหมาะกับการออกกำลังกาย ส่วนยามกลางคืนจัดไปครับ เพียงแต่อาจจะไม่ได้เน้นยั่วก็เท่านั้นเอง

ความทน - 8 ชั่วโมงขึ้นไปโดยประมาณ อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น และจะลดมากระจายกลางๆ ไปตลอดจนเป็น Skin Scent ในช่วงท้ายๆ

ทิ้งท้าย - ถือว่า Guerlain ทำน้ำหอมรุ่นนี้ออกมาได้ดีงามเลยนะครับ ซึ่งส่วนตัวคิดว่ากลิ่นนี้อบอุ่นมีระดับแบบไม่หนักหน่วงและใช้ง่ายเลยล่ะ ซึ่งตอนนี้ก็ตาวาวที่จะไปหารุ่น Extreme ของตัวนี้มาลองต่อแล้วล่ะครับ ^^"


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Christian Dior – Dior Homme








- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 165฿ และ 10ml 320฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Christian-Dior/Dior-Homme-13015.html

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2015/11/review-christian-dior-dior-homme.html

สำหรับคนเล่นน้ำหอมชาย คงไม่ต้องบอกสรรพคุณของตัวยอดฮิตตัวนี้แน่ๆ ครับ เพราะต่างรู้จักกันดีในแง่ของน้ำหอมโซนเมโทร ที่หอมเท่ห์นิ่งและมีระดับมาก ซึ่งบอกแค่นี้คงไม่พอ คงต้องมาจาระไนกันซะหน่อยกับ Dior Homme ครับ ว่าทำไมถึงฮิตเหลือเกิน

Dior Homme ที่จะเด่นที่โทนกลิ่นกระเป๋าเครื่องสำอางผู้หญิงกับลิปสติก เหมือนมีคนมาฝากรอยจูบเอาไว้ตรงแผ่นอกแล้วลิปสติกตีขึ้น ซึ่งเริ่มจาก Top Notes กันก่อนที่จะมากันแบบนุ่มจมูกกับกลิ่นของลาเวนเดอร์แบบติดโทนซ่าๆ นิดๆ สดชื่นหน่อยๆ ก็จริง แต่มาในโทนที่เรียกว่ารองพื้นด้านหลังด้วยกลิ่นโทนแป้งกันเต็มๆ จนเมื่อเข้า Middle Notes จนกลายเป็นกลิ่นอายแบบกระเป๋าเครื่องสำอางที่เมโทรสุดๆ เพราะกลิ่นโทนแป้งจะเริ่มดันขึ้นมาเรื่อยๆ จนรู้ได้เลยว่านี่คือ ดอกไอริส มาเต็มมาก ที่สำคัญพาโกโก้มาด้วย เลยกลายเป็นกลิ่นแป้งหอมไอริสกลั้วโกโก้โดยมีกลิ่นอายอบอุ่นกำลังดีของแอมเบอร์ รวมตัวกันกับกลิ่นลาเวนเดอร์ซ่าๆ ในช่วงต้น เลยออกมาเป็นเหมือนเวลาเราเปิดกระเป๋าเครื่องสำอางผู้หญิงกับกลิ่นลิปสติกจะลอยโชยขึ้นมา ซึ่งช่วงนี้แหละที่เป็นไฮไลท์มาก หอมมากจริงๆ เรียกว่าเป็นกลิ่นที่สามารถทำให้คนเหลียวตามได้ เพราะมันทั้งเท่ห์ เซ็กซี่ และ Metrosexsual ในเวลาเดียวกัน โดยกลิ่นจะปูทางไปที่ Base Notes โดยไม่ทิ้งกลิ่นอายไฮไลท์เลย เพราะจะมาผสานกับกลิ่นโทนหนังนุ่มๆ มีหญ้าแฝกแห้งๆ ให้รู้สึกมาดแมน จนกลายเป็นกลิ่นอายอบอุ่นแบบนุ่มนวลติดโทนแป้งเครื่องสำอางไปตลอดจนกว่าจะหายไปจากผิว จึงไม่แปลกใจเลยที่ไลน์นี้ถือเป็นไลน์ที่ดังมาก และได้รับความนิยมมาตลอดแบบแรงดีไม่มีตกเลยล่ะ กลิ่นมันบ่งบอกถึงผู้ชายที่รสนิยมดี มีระดับ เท่ห์ เซ็กซี่แบบกำลังดี และรู้จักดูแลตัวเองอย่างชัดเจน

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไปก็ตัวนี้ได้แล้วล่ะครับ กลิ่นเข้าถึงง่ายและหอมแบบที่คนได้กลิ่นมักชอบได้ไม่ยาก ยิ่งผู้หญิงจะคุ้นชินกับกลิ่นแบบนี้เลยล่ะ และจะชอบมากๆ กันเสียด้วย โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะงานทางการหรือทั่วๆ ไป แบบที่ต้องการยกระดับตัวเองด้วยกลิ่นหอมเมโทร แต่ขอยกเว้นใส่เพื่อออกกำลังกายไม่ควร ออกกลางแจ้งพอไหวบ้าง แต่ก็ไม่ได้เข้าทางเท่าไหร่นัก ส่วนยามค่ำคืนจัดไป ใส่ได้สบายๆ อบอุ่นและเท่ห์อีกด้วย เพียงแต่ว่าถ้าจะเน้นเรียกแขกแบบเมโทรเท่ห์ๆ เรียกร้องความสนใจมากๆ ควรจะเลือกตัว Intense เพราะเข้มแน่นกว่า

ความทน – 8 ชม. โดยประมาณ แล้วจะค่อยๆ จางหายไปจากผิว ซึ่งก็อยู่ที่จำนวนสเปรย์ด้วยส่วนหนึ่ง ถ้าจำนวนสเปรย์ถึงก็จนได้มากกว่า 8 ชม.

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น และคงความกระจายดีไปเรื่อยๆ จนถึงปลายๆ ช่วงกลาง ที่จะลดลงมากระจายกลางๆ ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยออร่ารอบๆ ตัว พอพ้น 8 ชม. โดยประมาณจึงค่อยๆ จางลงไปตามลำดับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Christian Dior – Dior Homme INTENSE








- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 200฿ และ 10ml 380฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Christian-Dior/Dior-Homme-Intense-13016.html

ตัวขายดีและฮิตสุดของ Dior เลยคะ เนื่องด้วยความเต็มแน่น นวลเนียนของเนื้อกลิ่นที่สัมผัสได้ กลิ่นเปิดของรุ่น Intense ยังมีกลิ่น make up และลิปสติกของผู้หญิงอยู่นะครับ และยังจับกลิ่นมะนาวอ่อน ๆ ได้อีกด้วย แต่ที่เด่นที่สุด คือโทน gourmand ที่เด่นขึ้นมามากทีเดียวเมื่อเทียบกับรุ่นแรก กลิ่นลาเวนเดอร์ชัดในช่วงกลางท่ามกลาง creamy accord ที่ได้จากวานิลลาและแอมเบอร์ ส่วน iris มาในแบบหวาน เย็น และคมนิด ๆ ตัดกับความครีมมี่ได้ดี ให้กลิ่นที่ sexy และ sensual แบบน่าค้นหาอย่างมาก ซึ่งความ sensual น่าค้นหานี้ ได้จากโทน gourmand ของโกโก้ นอกจากโกโก้แล้ว ในช่วงเบสยังมีกลิ่นของอำพันทอง (ambergris) อีกด้วย แม้จะไม่มีใน list ด้านบนก็ตาม จะว่าไป โทน gourmand ในช่วงเบสอ่อนลง และได้ความเป็น oriental ขึ้นมาแบบชัดเจนกว่า แต่ไม่ถึงกับเปลี่ยนโทนกลิ่นแบบหาของเดิมไม่เจอนะครับ ส่วนความทนกับการกระจายดีมากๆครับ

ใส่ในวันอากาศเย็น ห้องแอร์ แล้วกลิ่นจะดีมากครับ ใส่ทำงานก็เบามือหน่อยนะครับ เพราะกลิ่นกระจายดีและทนมาก ใส่ออกเดทเหมาะที่สุดคะ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Christian Dior - Fahrenheit








- ขายขวด 100ml เหลือ90%+ ขอขาย 2,100฿ คะ ( ในรูปเป็นขวด Limited 200mlหนูเอาไว้ใช้เองคะ ตัวที่จะขายอยู่อีกบ้านนึง เลยขอใช้รูปนี้แทนก่อนนะคะ )

- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 165฿ และ 10ml 320฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Christian-Dior/Fahrenheit-228.html

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/review-christian-dior-fahrenheit.html

ภาพรวมของน้ำหอมตัวนี้บอกได้เลยว่ามาดแมนเหลือทนจริงๆ คนที่ใส่แล้วเข้ากับมันกลิ่นจะทำให้คุณเป็นหนุ่มล่ำบึ้กมาดแมนที่แสนจะขาดใจ แถมอบอุ่นมากมายชวนให้ผู้หญิงหลายๆ คน (รวมถึงผู้ชายบางคน) วิ่งเข้าหาเพื่อขอซบกันได้ไม่ยาก ที่แมนได้มากขาดใจขนาดนี้เพราะ Top Notes เปิดขึ้นมาก็เล่นเอากระจายหมื่นลี้กันได้ เพราะการผสมกันของคาโมมายด์ลาเวนเดอร์ วู้ดดี้ จันทน์เทศ และโทนซิตรัส ที่มีกลิ่นหนังเข้มดันขึ้นมาด้วยทำให้กลิ่นที่ได้ออกไปทางน้ำมันเตายางมะตอย หรือบางคนอาจจะได้กลิ่นออกแนวปั้มน้ำมันที่กลิ่นเบนซินฟุ้งกระจายกันเลยทีเดียว เป็นไงล่ะ อย่างแมน แค่กลิ่นต้นก็บอกกันได้ถึงหนุ่มล่ำมาดแมนใส่เสื้อกล้ามขาวขนรักแร้แพลมๆ เฝ้าปั้มและเปิดอู่ซ่อมรถอยู่ ตัวมอมแมมหน่อยแต่แมนสุดใจขาดดิ้น หรือไม่จริง นึกภาพแบบพี่ติ้กเจษ (หรือคนอื่นที่ชอบ) เป็นแบบที่บรรยาย แล้วอยากจะวิ่งเข้าไปซบไหมครับ? 55555 ซึ่งแน่นอนกลิ่นโทนน้ำมันแมนๆ แบบนี้จะตามมาเป็นฉากหลังให้ช่วง Middle Notes ที่จะเริ่มออกทางแป้งด้วยกลิ่นของดอกสายน้ำผึ้ง และโทนวู้ดดี้ต่างๆ ผสมออกมาเป็นแป้งอุ่นๆ ติดกลิ่นน้ำมันหน่อยๆ กลิ่นแมนเย้ายวนกันชัดเจนกระจายตัวได้ดีมากจริงๆ และพอถึงช่วง Base Notes โทนกลิ่นเริ่มเปลี่ยนไปในทางอบอุ่นกันเต็มเหนี่ยวประมาณไออุ่นจากกล้ามน่ะนะ มีโทนกลิ่นหนังเด่นกำลังดีไม่โดดนำออกมามากและยังออกทางแป้งอยู่แต่ดูสะอาดสะอ้านมากขึ้น มีกลิ่นแบบอู่ซ่อมรถเท่ห์ๆ แบบไม่หนักอยู่ เหมือนหนุ่มล่ำซ่อมรถเสร็จอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่เสื้อยืดสีขาวนมพุ่งชี้หน้านั่งชิลล์ๆ หน้าอู่ยักคิ้วหลิ่วตาให้สาวๆ เลย คง Concept แบบ Fahrenheit เห็นแล้วร้อนเนื้อตัวใจลอยไปที่กล้ามด้วยความแมนกันอย่างชัดเจน ต้องเอามือพัดลดอุณหภูมิตัวเองกันสุดฤทธิ์และโจ่งแจ้งเลยทีเดียว

ความทน - โคตรรรรรรทน จะทนไปไหน 8 - 12 ชม. สบายๆ ครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Christian Dior - Fahrenheit 32








- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 165฿ และ 10ml 320฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Christian-Dior/Fahrenheit-32-987.html

รีวิวพี่เกียรติคะ

ชื่อน้ำหอม Fahrenheit 32 นั้นต้องการสื่อถึงสภาพภูมิอากาศที่น้ำแข็งตัว เพราะ 32 ฟาเรนไฮต์นั้นเท่ากับ 0 องศาเซลเซียส

Fahrenheit 32 นั้นจริง ๆ แล้วน่าจะเปลี่ยนชื่อไปเลย เพราะไม่เห็นว่ามีความคล้ายกับ Fahrenheit ดั้งเดิมตรงไหน นอกจากเบสที่อบอุ่นเหมือนกัน

กลิ่นอยู่ในกลุ่ม floral oriental เปิดด้วยความสดชื่นของ aldehydes และไม่นานจะได้กลิ่น orange blossom ที่นุ่มและสไปซี่อ่อน ๆ กลิ่นนั้น powdery นิด ๆ ให้โทนสำอางดีมากครับ ใครใส่เสื้อสีขาวหรือดำจะเหมาะมาก

แม้ Fahrenheit 32 จะสื่อถึงจุดเยือกแข็ง ทว่า จริง ๆ แล้วนั้น กลิ่นนี้เป็นการผสานของกลิ่นโทนอุ่นและเย็นตลอดควบคู่กันไปจนเกิดความสมดุลอย่างน่าประหลาด ประมาณหยินหยางเลยก็ว่าได้

กลิ่นหญ้าแฝกของขวดนี้ไม่ออกทาง earthy นะครับ ไม่ได้มาแนว Guerlain Vetiver หรือ Encre Noir เขาปรับให้มันสดชื่นแบบเข้าถึงง่าย ในเบส เป็นการตัดกันของโน้ตที่อบอุ่น หวานอ่อน ๆ ของวานิลลา และโน้ตที่เย็นของ Solar note

กลิ่นนี้ผู้หญิงก็ใช้ได้ครับ กลิ่นไม่ได้แมน ออกสำอางมากกว่า ชวนนึกถึงคนทำงานออฟฟิศในตึกใหญ่ ๆ ทันสมัย ใส่เสื้อสีขาว กางเกงสีอ่อน ๆ เช่นสีครีม หรือเทาอ่อน เพราะเนื้อกลิ่นชวนนึกถึงสีขาวจริง ๆ ครับ

ใส่ออกเดทได้ ทำงานก็ไม่น่าเกลียด ออกงานก็พอไหว ถือเป็นกลิ่นที่ versatile มาก ๆ กลิ่นนึง และยังโดดเด่นอีกด้วย เรื่องความทน ให้ 5 ครับ เพราะผ่านไป 12 ช.ม. กลิ่นยังตีอยู่ ส่วน sillage ดี ไม่ถึงกับดีมากนะครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Paco Rabanne – Black XS for Men








- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 130฿ และ 10ml 250฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Paco-Rabanne/Black-XS-514.html

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2015/02/review-paco-rabanne-black-xs-for-men.html

นี่คือหนึ่งในน้ำหอมที่บอกถึงความเจ้าสำราญที่ดึงดูดอย่างสุดๆ แถมเป็นตัวที่ผสมกันได้อย่างลงตัวระหว่างความสดชื่นและความเซ็กซี่แบบพร้อมออกศึกมากเลยทีเดียว ที่สำคัญเรียกแขกได้ทุกเพศเลยนะครับ ไม่เสียชื่อแบรนด์ Paco Rabanne เลยแม้แต่นิดเดียวกับรุ่นนี้เลย Black XS

เพียงแค่เปิดต้นกลิ่นแบบว่าฟินนนนนนมากกกกกก เพราะกลิ่นสตรอเบอร์รี่กลั้วกับส้มจี๊ดและเลม่อนมันหอมสดใสสดชื่นมาก แต่ไม่ได้เบาโหวงมากเพราะมีโทนเขียวๆ สะอาดมาเสริม ทำให้เกิดความรู้สึกหอมชื่นใจสดชื่นสุดๆ แฝงไปด้วยความดึงดูดในรูปแบบที่เป็น Unisex ได้อย่างดีมากเลยทีเดียว จนเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางกลิ่นของสตรอเบอร์รี่กลั้วเลม่อนยังคงตามมาเด่นนำอยู่ แต่จะมาผสมผสานกับกลิ่นของพราลีน (ชอคโกแลตสอดไส้) กับกลิ่นโทนหวานเย้ายวนและเซ็กซี่ของอบเชยและเม็ดกระวาน ให้ความรู้สึกดาร์กแบบอบอุ่นเร้าใจมากมาย บอกเลย! ว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เรียกแขกที่สุดแล้ว เพราะกลิ่นมันบอกถึงความมั่นใจ เจ้าสำราญ เซ็กซี่ เปิดกว้าง และพร้อมให้กินถ้าสนใจแบบชัดเจนเลยทีเดียว ที่สำคัญความรู้สึกแบบ Metrosexual จะมาเต็มมาก (จริงๆ มันมีความรู้สึกแบบ Bisexual ผสมด้วยแหละนะ 555555) เลยไม่แปลกใจว่าจะยั่วทุกเพศขนาดนี้ และจะเริ่มเปลี่ยนถ่ายเข้ามาสู่ช่วงท้ายๆ กับโทนเย้ายวนนุ่มนวลจมูกอย่างพิมเสนกลั้วกับโทนวู้ดดี้ที่ให้ความรู้สึกสะอาดๆ เซ็กซี่และอบอุ่นแบบน่าค้นหา ตอกย้ำความเป็น Metro เข้าไปอีกแบบไม่เกรงใจใครและมั่นใจเต็มร้อยมาก นี่แหละครับ Paco Rabanne

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป เพราะกลิ่นสดชื่นเย้ายวนและเซ็กซี่แบบเข้าถึงได้ง่าย เหมาะกับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ยกเว้นงานทางการเพราะกลิ่นมันเจ้าสำราญมากเกินไป ใส่ทำงานก็ยังได้อยู่แบบไม่ต้องจัดหนักมาก ส่วนยามกลางคืนที่เน้นเที่ยว และหาเหยื่อจัดไปครับ รับรองจะมีคนเข้าหามาหมดทุกเพศ งานนี้สับหน้าหลังกันตามสะดวกนะครับ 55555

ความทน – 8 ชั่วโมงได้สบายๆ อยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย – เรียกแขกกันตั้งแต่ต้น ก่อนที่จะลดระดับมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้ายๆ

ทิ้งท้าย – แม้ว้ากลิ่นนี้อาจจะไม่ได้มาเต็มแน่นแบบน้ำหอมโทนเครื่องเทศหนักๆ ที่เน้นชวนกันโต้งๆ มากขนาดนั้น แต่สู้พวกนั้นได้แน่นอน เพราะความแตกต่างอย่างมั่นใจที่น้ำหอมตัวนี้สื่อออกมาผ่านกลิ่นนี่แหละครับ ที่สำคัญผมใช้ตัวนี้ใส่ไปทำงานหรือไปเที่ยวทั้งกลางวันและกลางคืน จะได้รับคำชมทุกครั้งไปตามแต่สถานการณ์ด้วย



------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Carolina Herrera – 212 VIP Men








- ขวดลิมิเต็ท ใหญ่สุด 200ml ซื้อมา5พันกว่า ไม่มีขายในไทยแล้ว เหลือ50% ขาย 1,900 ฿

- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 130฿ และ 10ml 250฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Carolina-Herrera/212-VIP-Men-12865.html

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2015/09/review-carolina-herrera-212-vip-men.html

ต้องบอกเลยว่า นี่คือหนึ่งในรุ่นที่รับช่วงต่อความเย้ายวนที่แตกต่างมาอีกรูปแบบหนึ่งของโซน 212 ของแบรนด์ Carolina Herrera เลยทีเดียว แถมมีคอนเซปท์ที่น่าสนใจคือ “งานปาร์ตี้ยามค่ำคืนที่คุณเป็นหนึ่งใน List ที่ได้รับเชิญ” เลยทำให้กลิ่นที่ได้มันต้องออกทางเจ้าชู้ประตูดินแน่ๆ ซึ่งกลิ่นที่ออกมาเป็นเช่นนี้เลยครับ

212 VIP จะเปิด Top Notes ด้วยกลิ่นโทนกรุ้มกริ่มและเจ้าสราญกันก่อนเลยกับกลิ่นของเหล้าจินโทนิคที่ผสมผสานกับกลิ่นของเสาวรสเปรี้ยวๆ แบบไม่มีกลิ่นติดเอียน กลิ่นจะสดชื่นติดหวานแบบเจ้าชู้กำลังดี โดยมีกลิ่นอายสะอาดๆ ของพริกไทยกับโทนเย็นติดเขียวของมิ้นท์แกล้มไปตลอด เรียกว่ากลิ่นเปิดนี่หนุ่มเมโทรปล่อยเสน่ห์กันเลยล่ะครับ เพียงไม่นานก็เข้าสู่ช่วง Middle Notes งานนี้กลิ่นจะเริ่มทวีความเป็นเจ้าสำราญมากขึ้น โทนสดชื่นแบบค็อกเทลที่เด่นด้วย Vodka จะมาเต็ม โดยจะมีมะนาวกับเสาวรสที่เสริมให้กลิ่นยังคงสดชื่นอยู่ แต่มันจะกรุ้มกริ่มติดหวานขึ้นมาด้วย เรียกว่ากลิ่นเจ้าสำราญก็จริง แต่ยังมีชั้นเชิงมากพอที่ออกทาง Nice Guy มากกว่าจะออกทางขี้หลี เหมือนหนุ่มเท่ห์ๆ ที่สาวๆ เห็นแล้วอยากเข้าไปชนแก้วด้วย ไรงี้ แล้วกลิ่นโทนนุ่มอบอุ่นจะเริ่มดันขึ้นมาจนเข้าสู่ช่วง Base Notes โดยกลิ่นหนังแบบนุ่มๆ ลงตัวจะผสานกับโทนวู้ดดี้เป็นดลิ่นอายที่ดึงดูดกลิ่นโทนเหล้าได้ลงตัวมาก มีกลิ่นอายอบอุ่นรุมๆ จาก Amber ที่ให้ความรู้สึกแบบแอลกอฮอล์เข้าเลือดแล้วร่างกายอบอุ่นติดเย้ายวนเรียกว่ากลิ่นช่วงนี้ถ้าคลุกวงใน มีฟินนนนแล้วคลุกต่อได้นะครับ กลิ่นเรียกว่ามาแนวเจ้าชู้ เจ้าสำราญแบบมีระดับ เฉกเช่นเดียวกันกับชอลิ้วเฮียงที่สาวๆ หรือหนุ่มๆ หลายๆ คนเห็นแล้วแล้วอยากเป็นเมียเอกกันได้เลยล่ะนะ

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป สามารถใส่ได้ในบางสถานการณ์ยามกลางวัน ซึ่งถ้าใส่ทำงานก็พอได้ แต่จำกัดจำนวนสเปรย์หน่อย ไม่งั้นอาจจะดูเมาอะไรแต่เช้ามานั่น หรือใส่แบบชิลล์ๆ ออกเดทแบบกรุ้มกริ่มก็เข้าที ที่สำคัญใส่เที่ยวกลางคืนได้เลย กลิ่นเย้ายวนกรุ้มกริ่มแบบหนุ่มเท่ห์เมโทรกันชัดๆ ตัดการใส่ออกงานทางการแบบที่ต้องอาศัยความน่าเชื่อถือออกไปได้เลย กลิ่นไม่เหมาะนัก สุดท้ายเอาจริงๆ น้องๆ มหาลัยก็ใส่ได้ครับ แต่จะเหมาะกับงานปาร์ตี้กลางคืนเสียมากกว่า

ความทน – ยกนิ้วให้เลย กลิ่นทนมากเลยทีเดียวกับ 8 ชม. ขึ้นไป ซึ่งส่วนตัวเจอมาที่ 12 ชม. กลิ่นยังตีขึ้นเต็มๆ อยู่เลย

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้น บอกเลยจะมาแบบค็อกเทลผลไม้กันเลย แล้วลดระดับลงมากระจายดีไปตลอดบ่งบอกความเป็นหนุ่มนักปาร์ตี้เท่ห์ๆ และปิดท้ายที่กระจายกลางๆ กึ่งออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย

ทิ้งท้าย – ตรงๆ ผมเคยรู้จักพี่คนนึงที่ใช้น้ำหอมกลิ่นนี้เป็น Signature ซึ่งกลิ่นขับเสน่ห์มากมาย เรียกว่าพี่เขาหัวกระไดแทบไม่แห้งเลย แถมเข้ามาหมดทุกเพศเสียด้วยนะเออ เก๋ไหมล่ะครับ 55555


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Givenchy - Play Intense








- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 130฿ และ 10ml 260฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Givenchy/Givenchy-Play-Intense-3907.html

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/10/review-givenchy-play-intense.html

ได้เวลาของการเป็นหนุ่มเมโทรกันก็คราวนี้ เพราะแค่โฆษณาก็บอกชัดเจนแล้วว่า น้ำหอมตัวนี้มากับความเท่ห์ในแบบที่ทำให้คุณดูดีได้แบบ Presenter ^^

จริงๆ ขวดทรง MP3 Player นั้นเรียกได้ว่าเข้าทางกับ Presenter อย่างบักหยอยมากกว่า เพราะเนื้อกลิ่นจริงๆ ไม่ได้สื่อถึงดนตรีแต่ประการใดเลย เพราะกลิ่นต้นแม้จะออกแนวสดชื่นแบบ Citrus แต่อยู่ไม่ถึง 2 นาที กลิ่นที่ทะลุพุ่งพรวดขึ้นมาดันเป็นกาแฟที่เด่นมากมาย ให้อารมณ์กาแฟดำแบบอเมริกาโน่ แม้จะมีกลิ่นอายความหวาน Spicy หน่อยๆ ของพริกไทยสีชมพูก็เถอะ แต่กาแฟนั้นอบอวลจริงจัง หอมแบบเข้มเท่ห์มากมาย และกลิ่นกาแฟนี่แหละที่ยาวนานไปจนช่วงเบสที่จะผสานไปด้วยกลิ่นของหญ้าแฝก พิมเสน ตองก้าบีน ที่ให้อารมณ์เข้มได้อยู่ แต่ชิลล์ๆ เย็นบางๆ นุ่มๆ น่าค้นหา น่าเข้าฟัด หอมกระจายมากมาย สร้างความแมนได้ชัดเจน และความเป็นหนุ่เมโทรแต่งตัวดี มาดดี กลิ่นเร้าใจชวนให้เพ้อ ถือว่าเป็นการยกระดับตัวดั้งเดิมอย่าง Play ปกติที่เน้นกาแฟ Citrus มาเป็นกาแฟเข้มและเร้าใจ แถมมีระดับอย่างมากเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - หนุ่มๆ ตั้งแต่วัยเรียนมหาลัยขึ้นไปยันแก่เฒ่า ใส่ได้ทุกสถานการณ์ แม้ว่าจริงๆ ตัวนี้จะเหมาะกับการไปอี๋อ๋อกับคนรักหรือเที่ยวกลางคืนมากหน่อยก็ตาม เพราะโทนกาแฟกลิ่นมันทำให้เกิดความสดชื่นและตื่นตัวได้ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว เพียงแต่อย่าใส่มากไปในยามกลางวันที่อากาศร้อนๆ เป็นพอ เพราะคุณอาจจะเป็นอเมริกาโน่เดินได้มากกว่าจะหอมชวนให้หลงใหลนะคร้าบ

ความทน - เกิน 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ กลิ่นติดทนมากจริงๆ

การกระจาย - กลิ่นกระจายได้ดีมากในทุกๆ ช่วงเลยทีเดียว เป็นอีกตัวของ Givenchy ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีในกับสภาพอากาศบ้านเรามากมาย



------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



Yves Saint Laurent - L'Homme


ไม่ว่าจะเปิดดูรีวิวของใครต้องมีตัวนี้อยู่ในลิสต์อันดับต้นๆแน่นอนคะ หลายๆคนให้เป็นอันดับ1น้ำหอมประจำ Summer หรืออากาศยามเช้าในทุกสภาพอากาศเลยคะ เพราะมันหอมมากคะ เพราะกลิ่นมาแบบสบายๆ ใครๆก็ชอบ แถมกลิ่นไม่เหมือนใคร ไม่เหมือนกับน้ำหอมดีไซเนอร์ทั่วไป กลิ่นหอมแบบมีระดับ ฉีดแล้วรู้เลยว่าเป็นYSL กลิ่นสดชื่น ฟลอรัล สไปซี่ ติดผิวดี ที่สำคัญเหมาะกับอากาศเมืองไทยมากๆคะ

- ขวด100ml เหลือปริมาณตามรูป (ประมาณ45%) ซื้อมา 3,800 ขาย 1,400 คะ

- ขวด 100ml ของใหม่ มีกล่อง ซื้อมา 3,800 ขาย 2,400 คะ












-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Sean John - Unforgivable








- ขวดใหญ่สุด 125ml ของใหม่ ยังไม่แกะกล่องนะคะ (ในรูปเป็นตัวของหนูเองคะ) ขาย 2,200฿ คะ
- ขวด 125 ml เหลือ 50% ขาย 1,200฿ / เหลือ 70% 1,400฿
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 150฿ และ 10ml 270 ฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/search/label/Sean%20John

เป็นหนึ่งในตัวยอดนิยมที่ชายไทยหลายคนชอบและเป็น Signature ประจำตัว (รวมถึงตัวผมเองอยู่ช่วงนึง) จนเมื่อถึงเวลาที่ตัวนี้เลิกผลิตต่างก็เสียดายกันสุดๆ จะไปหาตัวที่ใช้แทนได้ที่เป็นต้นฉบับอย่าง Creed - Millesime Imperial ก็แพงมากหรือ Ed Hardy Love & Luck ก็หาไม่ได้ง่ายๆ จนปัจจุบันนี้ประกาศออกมาผลิตอีกรอบแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องดีมากเลยทีเดียว เช่นนั้นฉลองการกลับมาอีกครั้งกับตัวนี้เลยครับ Unforgivable

แม้ว่ารุ่นนี้จะโดนค่อนขอดมานักต่อนักในกรณีที่กลิ่นใกล้เคียง Creed - Millesime Imperial แบบว่าก็อบมาชัดๆ แต่จริงๆ แล้วมันมีความดีงามในตัวเองและอารมณ์ในอีกรูปแบบนึงที่รุ่นต้นฉบับไม่ได้สื่อถึงตรงนี้ คือ ความเจ้าชู้ลั่นล้าอย่างโจ่งแจ้งนี่แหละ เพราะ Top Notes ทำออกมาได้ดีมากกับกลิ่นโทนผลไม้กลั้วซิตรัสที่หอมสดชื่น แต่จะมีกลิ่นของโหระพาและเปลือกเบิร์ชมาตัดทำให้กลิ่นออกทางหอมนุ่ม ได้อารมณ์กรุ้มกริ่มมากมาย จนเมื่อเข้าสู่ Middle Notes กลิ่นของลาเวนเดอร์จะเริ่มค่อยๆ ดันขึ้นมาเด่นมากขึ้น โดยมีกลิ่นของดอกไอริสมาทำให้เกิดความรู้สึกเซ็กซี่เย้ายวน ที่สำคัญแอบจับได้ถึงกลิ่นของเหล้ารัมกับกลิ่นโทนผลไม้ตอนต้นที่เป็นฉากหลังอยู่ เลยทำให้กลิ่นบอกอารมณ์แบบน่านัวน่ากอดกันได้เลย และ Base Notes ก็ดันขึ้นมาทำให้กลิ่นเหล้ารัมที่เป็นฉากหลังในช่วงกลางกลายเป็นตัวละครนำขึ้นมาแบบชัดเจน โดยจะมีโทนวู้ดดี้ครีมมี่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นตัวรองอยู่ด้านหลัง กลิ่นจะคง Concept ในการเป็นผู้ชายลั่นล้าตั้งแต่ต้นยันจบ สมกับชื่อว่า Unforgivable ที่สื่อตรงตัวว่า ผู้ชายแบบนื้ให้อภัยไม่ได้ เพราะเล่นเอาชั้นยอมไปแล้ว มันต้องเป็นของชั้นคนเดียว ฮึ่ม! แบบนี้เลย

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไป เพราะกลิ่นเย้ายวนเข้าถึงง่าย บ่งบอกถึงความลั่นล้าและ Playboy ในตัวคุณเลยทีเดียว สามารถใส่ทำงาน เรียน หรือออกกำลังกายได้ในจำนวนสเปรย์ที่เหมาะผม นอกเหนือจากนั้นจัดไปครับ กลิ่นเรียกแขก ดึงดูด และน่ากอดเลยทีเดียว

ความทน - ความทนอยู่ระหว่าง 6 - 8 ชม. ตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดครับ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้นและจะค่อยๆ ลดลงมาเรื่อยๆ จนกลายเป็น Skin Scent ที่คนฉีดยังได้กลิ่นอยู่ และเน้นคนที่มายืนใกล้ๆ มาสีเกินความจำเป็นไปประมาณนี้เลย


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Narciso Rodriguez For Him Eau de Parfum








- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 180฿ และ 10ml 355฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Narciso-Rodriguez/Narciso-Rodriguez-For-Him-Eau-de-Parfum-Intense-14741.html

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2015/04/review-narciso-rodriguez-for-him-edp.html

เปิดตัวกันต้นกลิ่นก็มี Musk ขึ้นมากันเลย กลิ่นนุ่มเย้ายวนชัดเจนมาแบบแน่นๆ มา แต่จะมาในรูปแบบที่ผสมผสานกับกลิ่นโทนเบอร์รี่ ติดออกทางแป้งหอมคลุ้งกระจายแบบมีชั้นเชิง ซึ่งช่วงนี้อาจจะออกทางผู้หญิงนิดหน่อย แต่เป็นกลิ่นที่อย่างน้อยผ่านน้ำหอมอะไรมาพอสมควรหรืออาจจะผ่านรุ่น EDT ปกติมาก่อน เพราะไม่งั้นจะถือว่าหนักและทำให้แน่นกับกลิ่นเอามากจริงๆ จนมึนไปเลย เพราะความเข้มข้นมันสูงมาก จนเมื่อเข้ามาสู่ช่วงกลางๆ คราวจะมาในโทนของดอกไม้แน่นๆ แบบแมนๆ ความเป็นหญิงในช่วงต้นหายไปหมด ที่สำคัญ Musk ที่รองพื้นในช่วงต้น มาในช่วงนี้จะเริ่มเด่นแน่นเข้มขึ้น ซึ่งมันเซ็กซี่มากกกกกกกกก เพราะมันให้หมดเลยทั้งความเย้ายวนแบบมีคลาส หรูหรา แอบลึกลับ และมีความเป็นผู้ดีในเนื้อกลิ่นสุดๆ ช่างเด็ดดวงเหลือทนจริงๆ จนปิดท้ายด้วยความเป็น Musk กลั้วกลิ่นหนัง มีโทนเย้ายวนแบบมีระดับกลั้วไปกับความนุ่มสะอาด ที่สำคัญความเซ็กซี่นั้นไม่มีคำว่าจางหายไปไหน มากขึ้นกว่าเดิมเข้าไปอีกเสียด้วยซ้ำไป แบบว่านี่แหละเขาเรียกว่า “เช็กซี่จัดๆ แบบไม่ต้องถอดเสื้อผ้า”

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป และบอกได้เลยว่ากลิ่นหนักแน่นมาก ซึ่งจะเหมาะกับใส่ยามกลางวันในสภาพอากาศเย็นๆ หรือทำงานห้องแอร์มันจะลดความหนักของกลิ่นลงไปได้มากโขอยู่ แต่ถ้าเจออากาศร้อนๆ หรือออกกำลังกายจะอึดอัดได้ง่ายๆ เลยต้องลดจำนวนสเปรย์ให้เหมาะสมเพราะกลิ่นหนักจริงอะไรจริง ส่วนใส่เที่ยวกลางคืนนี่สบายๆ เลยครับ แต่วางมาดนิดนึงนะครับ ไม่ใช่เมาหยำเปลุคทางด้านกลิ่นมันจะเสียหายหลายแสนเลยนา

ความทน – คือ ดีงามมมมมมมมมมม ผมใส่ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ยาวไปถึงเที่ยงคืน กลิ่นยังตีขึ้น ยิ่งตอนอาบน้ำแล้วผิวโดยน้ำกลิ่นจะฟุ้งกระจายเหมือนระเหยออกมาจากผิวเลยทีเดียว ฟินนนนนนน สรุปง่ายๆ คือ เกิน 12 ชม. สบายๆ ครับ

การกระจาย – กลิ่นมันแน่นหนักอยู่แล้วการกระจายเลยไม่ลดราวาศอกเลยแม้แต่น้อย แน่ๆ เลยคือคนใส่จะได้กลิ่นตีขึ้นตลอด แต่คนรอบข้างอาจจะได้กลิ่นเย้ายวน เซ็กซี่ หรูหราและสะอาดมีคลาสหนักบ้างเบาบ้าง หรืออาจจะทิ้งกลิ่นไว้ตรงที่คนใส่เดินผ่านก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ เพราะอิงกับยามร่างกายทำความร้อนด้วยในการกระจายของกลิ่น

ทิ้งท้าย – นี่คือหนึ่งในตัวเทพด้าน Musk เลยล่ะครับ อาจจะไม่ได้เป็น Musk ที่เต็มเหนี่ยว มีผสมผสานบ้าง แต่ยังไงมันก็ยังเทพอยู่ดีแหละ ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Gucci pour Homme II








- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 160฿ และ 10ml 320฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Gucci/Gucci-Pour-Homme-II-1119.html

รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2015/04/review-gucci-pour-homme-ii.html

หนึ่งในน้ำหอมที่สามารถทำให้คนที่ดมผ่านๆ สามารถทำให้ตัดสินใจซื้อได้ในทันทีเลยทีเดียวของแบรด์ Gucci กับความเข้าถึงได้ง่าย มีระดับและชั้นเชิงในเนื้อกลิ่นที่ทำให้มหาชนชอบได้ไม่ยาก นี่คือ Gucci pour Homme II ครับ

เปิดตัวกันเต็มๆ กับ Top Notes ที่จะมาแบบสดชืิ่นติดเขียวนุ่ม โดยจะมีโทนหวานโปร่งๆ จางๆ มาให้รู้สึกได้จากใบไวโอเล็ต ซึ่งแน่นอนต้องมีโทนซิตรัสเข้ามาเสริมกลิ่นในช่วงนี้จะดึงดูดกันเลย เพราะใบไวโอเล็ตจะมีกลิ่นออกออกทางเย้ายวนเซ็กซี่อยู่ในตัวอยู่แล้ว และเมื่อเข้าสู่ช่วง Middle Notes กลิ่นชาดำจะค่อยๆ ปล่อยของออกมาจนเต็มที่ โดยมีอบเชยผสานทำให้ติดเครื่องเทศในเนื้อกลิ่นแบบคมๆ เลยทำให้หวานกำลังดี ติด Spicy ที่ออกทางสดชืิ่นพอสมควร ซึ่งกลิ่นชาจะยังอยู่ยาวนานไปถึงช่วงท้ายๆ ซึ่งใน Base Notes จะไปผสมผสานกับใบยาสูบที่จะให้ความหวานเย้ายวนแบบแมนๆ และมี Musk ให้ความนุ่มเย้าสะอาด ซึ่งจะมีโทนวู้ดดี้บางๆ ติดเขียว และมีโทน Smoky หน่อยๆ ให้รู้สึกได้ แบบว่ากลิ่นผสมผสานกันออกมาได้อย่างหมดจดจริงๆ ทุกอย่างสื่ออกมาถึงผู้ชายดูแลตัวเอง เท่ห์ๆ จะชิลล์ก็ได้ จะเมโทรก็ดี จะนิ่งๆ มีภูมิก็เหมาะ มาครบกันเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไปครับ กลิ่นเข้าถึงง่ายแบบแฝงไปด้วยความเย้ายวนกำลังดี กลิ่นมีภูมิพอสมควร ทำให้คนใส่มีเสน่ห์ที่คาบเกี่ยวไปได้ทั้งความเนี้ยบและทั่วๆ ไปสบายๆ ซึ่งตัวนี้ครอบจักรวาลได้เลยในการใช้งานทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะทางการหรือไม่ทางการ ยิ่งใส่ทำงานหรือออกงานยิ่งเหมาะมาก ใส่เที่ยวกลางคืนแบบอากาศบ้านเราก็สามารถครับ

ความทน - 8 ชั่วโมงสบายๆ อาจจะบวกลบไม่มาก ขึ้นอยู่กับจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญ

การกระจาย - เป็นหนึ่งในน้ำหอมที่กระจายกลางๆ ไม่ได้เน้นกระจายแบบเอาเป็นเอาตาย ซึ่งในช่วงท้ายๆ จะเป็นออร่ารอบๆ ตัวคนที่เข้ามาอยู่ใกล้ๆ จะได้กลิ่น

ทิ้งท้าย - ได้ข่าวว่าตัวนี้จะเลิกผลิต ซึ่ง Gucci นี่ก็แปลก ตัวดีๆ นี่หยุดผลิตกันอยู่เรื่อย ทั้งๆ ที่ของมันดีงามมากเลยทีเดียว อ้อ ที่สำคัญกลิ่นนี้คนที่สูบบุหรี่ใช้แล้วจะช่วยทำให้กลิ่นบุหรี่ที่ติดตามตัว มีความหอมเฉพาะบุคคลด้วยนะครับ จากอิทธิพลของใบยาสูบในน้ำหอมตัวนี้เน้นๆ เลย
ความคิดเห็นที่ : 4

tamamajung

16/07/2016 17:01:21
0
IP : 171.101.166.30
Ralph Lauren - Polo Red








- ขวดใหญ่สุด 125mlเหลือประมาณ50%(63ml) ซื้อมา 3,900 ขอขาย 1,250 คะ

- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 130฿ และ 10ml 250฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Ralph-Lauren/Polo-Red-18598.html

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2015/03/review-ralph-lauren-polo-red.html

Top Notes ปล่อยของเต็มๆ เลยกับกลิ่นแครนเบอร์รี่ มาแบบสีแดงเต็มๆ ตั้งแต่เริ่มต้น โดยมีกลิ่นโทนซิตรัสอย่างเกรฟฟรุตและเลม่อนรองพื้นดันให้โทนผลไม้เปรี้ยวๆ ให้อารมณ์สีแดงได้อย่างชัดเจนเลย กลิ่นหอมสดชื่นแบบกรุ้มกริ่มมากจริงๆ และเมื่อเข้า Middle Notes ที่กลิ่นแครนเบอร์รี่ยังตามมาเด่นนำอยู่ โดยมีกลิ่นโทนสมุนไพรติดกลิ่นหนังอมหวานจางๆ ของหญ้าฝรั่น และกลิ่นโทนสะอาดผ่อนคลายของเซจรองพื้นอยู่ด้านหลัง กลิ่นช่วงนี้จะให้ความรู้สึกมาดแมนแบบกรุ้มกริ่มขี้เล่น ได้ความรู้สึกของสีแดงชัดขึ้นแบบหนุ่มเพลย์บอยที่น่าเซ็กซี่เร้าใจแบบกำลังดี ส่งต่อให้ Base Notes ได้ฤกษ์ปล่อยความอบอุ่นเท่ห์ๆ ขึ้นมาแทนความสดชื่นแล้วโดยกลิ่นของแอมเบอร์และกาแฟจะตีคู่กันมาเลย มีโทนไม้หอมที่มาแบบสะอาดๆ รองพื้นอยู่ด้านหลัง ซึ่งยังคงความแดงอยู่ แต่มาแบบอบอุ่นแทน ซึ่งภาพรวมตัวนี้บอกชัดเลยถึงน้ำหอมที่ดึงดูดด้วยอารมณ์ของความแดงแรงฤทธิ์ โดยไล่เรียงกันมาในแบบสดชื่น เซ็กซี่ และอบอุ่น ครบ Concept เลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยเป็นต้นไป กลิ่นใช้ง่ายครับ เข้าถึงก็ง่ายอยู่ไม่น้อย เหมาะสำหรับการใช้แบบสถานการณ์ทั่วๆ ไปยามกลางวัน เช่น ทำงาน เรียน ชิลล์ๆ เกี้ยวพาราสีโน่นนี่ ส่วนงานทางการพอได้ แต่กลิ่นอาจจะกรุ้มกริ่มเกินไปนัก แนะนำให้ดูตาความเหมาะสมครับ ส่วนกลางคืนจัดไป ลุยได้เลยยยยยยล่ะครับกับน้ำหอมตัวนี้

ความทน - 8 ชั่วโมงโดยประมาณ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้นและช่วงกลางครับ ประมาณ 1 - 2 เมตร จากตัวคนฉีด กลิ่นให้ความสดชื่นแบบเพลย์บอยได้ดีเลย มีช่วงท้ายที่จะเป็น Skin Scent มาคลุกวงในกับผมสิจะได้ความแดงแรงฤทธิ์แน่ๆ ประมาณนี้


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Ralph Lauren - Polo Double Black








- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 160฿ และ 10ml 320฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Ralph-Lauren/Polo-Double-Black-1199.html

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2015/02/review-ralph-lauren-polo-double-black.html

จริงๆ ก่อนจะมาเป็นรุ่นนี้จะมี Polo Black มาก่อนซึ่งไว้จะมาบอกเล่ากันในอนาคตครับเพราะไม่เคยได้ใช้เลย แต่ขอมาจับที่รุ่นคูณ 2 เข้มขึ้นอย่าง Double Black แทนก่อน ซึ่งเมื่อแรกฉีด Top Notes ที่มาเลยกับกลิ่นมะม่วงดิบแบบมะม่วงมันโรยด้วยพริกไทยผง ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้จะออกแนวสดชื่นก็จริง แต่ติดไปทางหอมเข้มกำลังดี เพราะมีกลิ่นโทนกาแฟคั่วบดจางๆ มาเสริม และเมื่อเข้าสู่ช่วง Middle Notes งานนี้ได้เวลาของลูกจันทน์เทศที่จะมาให้ความเย็นซ่าๆ โดยที่กาแฟยังไม่ไปไหนรองพื้นให้ความเข้มของกลิ่นยังคงอยู่ ทำหน้าที่แบบเกือบจะปิดทองหลังพระได้เป็นอย่างดีจนถึงเวลาปิดท้ายของกลิ่นอย่าง Base Notes ที่เม็ดกระวานกับโทนวู้ดดี้จะมาเต็มเลยทีเดียว ให้ความเย้ายวนแบบหวานกำลังดี เข้มเท่ห์กำลังงาม มีความเป็นไอเย็นในเนื้อกลิ่นหน่อยๆ เสียด้วย เลยทำให้ภาพรวมของ Polo Double Black จะเป็นน้ำหอมที่ให้อารมณ์สีดำแต่มีความสดชื่นอยู่ในเนื้อกลิ่น แบบผู้ชายเข้มเท่ห์ก็จริง แต่ดูสดชื่นไม่ได้ดาร์กจัดๆ เกินเหตุนั่นเอง

เหมาะสำหรับ - เนื้อกลิ่นมีความภูมิฐานคาบเกี่ยวกับความสดชื่นจางๆ เบสอบอุ่นเต็มแน่น น่าค้นหา และชวนงานเข้าด้วย cardamom สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ทั้งยามกลางวัน ใส่ไปทำงานก็ได้ครับ ใส่ไปเที่ยวกลางคืนก็เหมาะดีเลยครับ

ทิ้งท้าย - หลายๆ คนบอกว่าตัวนี้ทำหน้าที่แทน Armani Attitude ได้อยู่ แต่เอาเข้าจริงต่างโทนกันอยู่ไม่น้อยเลยนะครับ ซึ่ีงทดแทนกันได้บ้างก็เรื่องเดียวคือกลิ่นกาแฟติดไอเย็นสดชื่นจางๆ นี่แหละครับ นอกนั้นตัวนี้เป็นเอกเทศชัดเจนของตัวเองเลยทีเดียว


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Ralph Lauren – Polo Black







- ขวดใหญ่สุด 125ml เหลือ80% ซื้อมา 3,900฿ ขอขาย 1,700฿ คะ
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 130฿ และ 10ml 250฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Ralph-Lauren/Polo-Black-1197.html

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2015/02/review-ralph-lauren-polo-black.html

เข้าใจว่าหลาย ๆ ท่านรอน้ำหอมกลิ่นนี้อยู่นะครับ ซึ่งเด่นด้วยมะม่วงสุกในช่วงเปิด และมาในแบบเย็น ๆ หน่อย สร้างความสดชื่น และเซ็กซ์ซี่ตั้งแต่ฉีดออกมาเลย ถือเป็นกลิ่นที่เจาะตลาด mass market อย่างตรงไปตรงมา กลิ่นเข้าถึงง่ายตามสไตล์ของโปโล
จริงๆ ชื่อ Black ดูไม่ค่อยเหมาะนะครับ เพราะในความเข้าใจผม กลิ่นที่ออก Black น่าจะสร้างความลึกลับ น่าค้นหาแบบถึงที่สุด และออกทาง sophisticated หากแต่ Polo Black มาในแบบ citrus อ่อน ๆ และโอนเอนไปทาง aromatic ที่ไม่ได้มาในรูปแบบสมุนไพร
จริงๆ แล้วอยากให้ชื่อ Polo Red มากกว่าครับ เพราะกลิ่น sexy มากกว่าลึกลับ

นอกจากมะม่วงแล้ว กลิ่นที่เด่นในขั้นต่อมาคือ Patchouli และ Tonka bean ให้ความอบอุ่นจนกลิ่นจางหายไปในเวลาประมาณ 7 ช.ม. กลิ่นติดผิวแนบแน่น กระจายพอควร เหมาะกับบรรยากาศโรแมนติคครับ ผู้หญิงใช้ได้สบาย ๆ ครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Ralph Lauren – Polo Blue








- ขวดใหญ่สุด 125ml เหลือ37% (ประมาณ46ml) ซื้อมา 3,900฿ ขอขาย 920฿ คะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Ralph-Lauren/Polo-Blue-1198.html

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/review-ralph-lauren-polo-blue.html

เป็นอีกหนึ่งในรุ่นยอดฮิตและขายดีที่สุดของโซน Polo ซึ่งถ้าเอามาวางเรียงๆ กันแล้วให้เลือกว่านอกจาก Polo Sport แล้วอยากใช้ตัวไหน Polo Blue นี่จะโดนเป็นลำดับแรกไม่ยากเลยล่ะครับ เพราะว่า

มันเป็นตัวที่ให้ความสดชื่นเข้าถึงง่ายสุดๆ เผลอๆ เข้าถึงง่ายกว่า Polo Sport ด้วยซ้ำไป กับ Top Notes ที่หอมสดชื่นมากกับกลิ่นแตงกวากลั้วกับเมล่อน มีโทนซิตรัสจากส้มแฝงมาทำให้เกิดความกระปรี้กระเปร่ายามฉีดหรือได้กลิ่นได้ดีมากจริง ซึ่งบอกเลยว่าเพียงแค่กลิ่นในช่วงนี้ ถ้าชอบเสียตังค์ได้เลยแบบไม่ต้องรอช่วงอื่น เพราะมันให้อารมณ์ได้ครบถ้วนกับความเป็นน้ำหอมที่เข้าถึงง่ายของผู้ชายจริงๆ และถึงแม้จะเข้าช่วงอื่นๆ ของน้ำหอมก็ยังเสียตังค์ซื้อได้ง่ายๆ อยู่ดี เพราะไม่ว่าจะเป็น Middle Notes ที่จะมีกลิ่นของโหระพากลั้วกลิ่นโซนสะอาดๆ แบบอากาศสดชื่ดได้ดีมากเข้าถึงง่ายตามเคย และ Base Notes ที่จะให้อารมณ์กลิ่นทางวู้ดดี้เบาๆ กลั้วกับ Musk สะอาดๆ และกลิ่นหนังนุ่มๆ บางๆ ที่ให้อารมณ์แมนๆ สะอาดๆ สบายๆ แบบผู้ชายได้ดีมาก เช่นนั้นไม่แปลกใจว่าทำไมถึงเป็นที่นิยมและเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่คนรักน้ำหอมโซน Polo มักจะเลือกใช้

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศทุกวัยเลยครับ ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะไปเรียน ไปทำงาน ไปเที่ยว อยู่บ้าน แก้ผ้าเดินรอบบ้าน หรือออกกำลังกาย ออกงานหรูก็พอไหวในระดับหนึ่ง แต่ไม่เหมาะกับยามกลางคืนนักครับเพราะกลิ่นเบาไป แต่ถ้าจะใส่เพื่อเน้นความสะอาดสดชื่นทำได้อยู่ ที่สำคัญคุณผู้หญิงทั้งหลายสามารถใช้น้ำหอมตัวนี้ได้สบายๆ ครับ เพราะจะได้ความรู้สึกสปอร์ตกำลังดี โดยไม่ได้ออกทางแมนจัดๆ แต่ประการใด

ความทน – 6 ถึง 8 ชม. ขึ้นไป อยู่ที่เคมีด้วยส่วนหนึ่งครับ ซึ่งถ้าฉีดเสื้อด้วยกลิ่นจะทนมากขึ้น เพราะเสื้อที่ผมฉีดแล้วเวลาจะเอาไปซัก กลิ่นยังลอยหอมอ่อนๆ ขึ้นมาอยู่เลย

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากช่วง Top และต้นๆ ของ Middle นอกนั้นจะลดระดับลงมาเรื่อยๆ และเป็น Skin Scent ยาม Base ครับ

ทิ้งท้าย - ถือว่าเป็นหนึ่งใน #ของดีเทคนิคไม่ต้อง ได้สบายๆ เลยล่ะครับ ^^


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Versace Man Eau Fraiche








- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 120฿ และ 10ml 230฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Versace/Versace-Man-Eau-Fraiche-644.html

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2015/05/review-versace-man-eau-fraiche.html

รุ่นนี้ของ Versace เด่นแซงหน้ารุ่นต้นตำรับไปหลายสโตรกเลย แถมได้รับความนิยมมาอย่างนานยาว เพราะมีความเข้าใจถึงและใช้ง่าย กลิ่นถูกใจมหาชนกันสุดๆ นั่นคือ Versace Man Eau Fraiche ครับ

Top Notes เปิดมาได้แบบสดชื่นวันฟ้าใสไม่น้อยเลยทีเดียวกับกลิ่นโทนซิตรัสผสมผลไม้ แบบที่เลมอนนำก็จริง แต่สิ่งที่ผมประทับใจมากคือกลิ่นของมะเฟืองที่เด่นขึ้นมาทำให้กลิ่นซิตรัสช่วงนี้ไม่คมเกินไปสดใสกำลังดีให้ความรู้สึกฉ่ำๆ กันเลยทีเดียว โดยที่จะมีกลิ่นโทนวู้ดดี้ติดกุหลาบจางๆ รองพื้นอยู่ให้กลิ่นไม่เบาโหวงเกินไป เพียงไม่นาน Middle Notes โผล่มาทักทายกับกลิ่นของไม้ซีดาร์ที่จะทำให้กลิ่นออกทางนิ่งๆ เสริมด้วยพริกไทยจางๆ และกลิ่นโทนสมุนไพรติดหวานโดยที่ยังมีกลิ่นช่วงต้นตามมาอยู่เลยทำให้กลิ่นยังความสดชื่นแบบออกทางฉ่ำน้ำอยู่สมชื่อ Eau Fraiche กันเต็มๆ จนถึง Base Notes ที่โทนวู้ดดี้จะเริ่มชัดมากขึ้น โดยมี Musk มาทำให้เกิดความนุ่มเย้าไปเรื่อยๆ ซึ่งมีกลิ่นออกทางเมทัลลิคนิดๆ กับโทนหวานบางๆ มาเสริม เลยทำให้ยังมีความสดชื่นตามมาตลอด ซึ่งใช่เลยครับ กลิ่นใช้ง่ายมาก เข้าถึงได้ง่าย แถมมีระดับในเนื้อกลิ่นที่ทำให้คนใส่ดูดีไม่ใช่น้อย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมฮิตจนถึงปัจจุบันนี้ และคงไปต่ออีกยาวนาน

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียน ม.ต้น ขึ้นไปก็ใช้ตัวนี้ได้สบายๆ ครับ กลิ่นเข้าถึงง่ายจริงอะไรจริง ดึงดูดให้เสียตังค์ตั้งแต่เพียงแค่ช่วงต้น แถมที่เหลือที่ดีงามใช้ง่ายไปจนถึงช่วงท้าย สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลยทีเดียวไม่ว่าจะทางการหรือไม่ทางการ จนถึงนอนแก้ผ้าแผ่หราตากพักลมที่บ้านเฉยๆ ก็สามารถ ส่วนยามกลางคืนกลิ่นอาจจะได้ในลักษณะทั่วๆ ไป แต่ถ้าใส่กินเหล้าจบกันครับ กลิ่นโดยกลบหมด ส่วนคุณผู้หญิงก็ใช้ตัวนี้ได้อยู่นะครับ ให้ความสดชื่นทะมัดทะแมงไม่น้อยเลย

ความทน - กลิ่นทนประมาณ 8 ชั่วโมง บวกลบ 1 - 2 ชั่วโมง ตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นสำคัญครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Bvlgari - au the Blanc








- เหลือ 80% ขาย 1,400 ฿ คะ

- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 130฿ และ 10ml 260฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Bvlgari/Eau-Parfumee-au-The-Blanc-145.html

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/10/review-bvlgari-au-blanc.html

น้ำหอมตัวนี้จะบอกอารมณ์ของความเบาบาง สดใสกำลังดี เรียบร้อย ผู้ดี เซ็กซี่เบาๆ และตรงตาม Conceptสีขาว ของชาขาว เป็นน้ำหอมที่เข้าถึงได้ง่ายมากในด้านของกลิ่นที่สดชื่นและนุ่มจมูกไปในคราวเดียวกัน เปิดกันซึ่งๆ ด้วยกลิ่นแนวๆ ชาขาวกลั้ว Citrus กลิ่นจะกระจายดีมาก บอกความรู้สึกที่สดชื่นกำลังดี และจะตามมาด้วยกลิ่นแนวๆ ชาขาว Spicy อ่อนๆ สุภาพมาก กลิ่นเรียบร้อยก็จริงแต่แฝงไปด้วยความสดชื่นแบบอากาศสะอาดๆ ที่มีกลิ่นชาขาวเบาบางรอบๆ ตัวลอยมาให้ได้กลิ่นเป็นระยะ และจะปิดท้ายติดตัวยาวนานไปตลอดวัยด้วยกลิ่นชาขาวบางๆ กลั้วกับ Musk สะอาดๆ มีกลิ่นอายอบอุ่นที่หรูหรา เย้ายวนแบาๆ มากเลยทีเดียว ถ้า au the Rogue สื่อถึงความเป็นสีแดงเต็มแน่นและหรูหรา au the Blanc จะสื่อถึง "สีขาวสะอาดและนุ่มนวลชวนฝัน" นั่นเองครับ

เหมาะสำหรับ - ทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่ชอบน้ำหอมแนว Safe Scent สุภาพ กลิ่นไม่ทำร้ายคนอื่นและตัวเอง ใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวันและกลางคืน ยกเว้นไปเที่ยวผับ กินเหล้าเพราะกลิ่นมันสุภาพเกินไป เดี๋ยวเสียลุคหมด 5555 และที่สำคัญน้ำหอมกลิ่นนี้ถ้าใส่ไปพบปะผู้คนหรือสัมภาษณ์งานกลิ่นจะนุ่มนวลชวนวางใจได้ดีเลยทีเดียวครับ (ลองมากับตัวแล้ววววว)

ความทน - 6 ชม. กำลังดีครับ อาจจะได้มากกว่าแต่ไม่เกิน 8 ชม. เพราะน้ำหอมกลิ่นค่อนข้างเบา

การกระจาย - กระจายดีช่วง Top ที่เหลือจะลดระดับมากระจายแบบเบาๆ ช่วง Middle จนกระจายแบบบางๆ ในช่วงเบส และหายจากผิวไปในที่สุด

ทิ้งท้าย - เป็นน้ำหอมที่สุภาพมากจริงๆ ครับ แอบติดหรู ดูผู้ดี และไม่รบกวนคนที่เกลียดน้ำหอมแต่ประการใดจริงๆ ^^


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Tea Rose by Perfumer`s Workshop








- ขนาด 56ml ลองฉีดไป 2สเปรย์ ขอขาย 590฿ คะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Perfumer-s-Workshop/Tea-Rose-5512.html

นึกถึงสวนกุหลาบสีแดง ยามเช้าที่มีน้ำค้างเกาะ เข้าไปนั่งใกล้ๆ ได้กลิ่นทั้ง ก้าน ใบ ดอก มาหมดเลยคะ กลิ่นไม่ฉุนนะคะ ออกแนวเย็นๆ บางครั้งเกิดเบื่อๆ ฉีดผสมกับตัวอื่นก็ได้ค่ะ แนะนำให้ฉีดกับตัวที่เป็น Floral ตัวอื่นๆ หรือ Woody ก็ได้ ยิ่ง Floralจะหวานหอมมากเลย กลิ่นเกินราคามาก ทนเกิน 6-8 ชั่วโมง กับจำนวนสเปรย์ 2-3 เสปรย์ **คนรักกุหลาบไม่ควรพลาดคะ**


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


DSQUARED2 - Rocky Mountain Wood








- ขนาด 100ml ลองฉีดไป 1สเปรย์ ซื้อจากสยามพารากอน 3,000 ขอขาย 990฿ คะ

เป็นน้ำหอมกลิ่น Woody ที่หอมเป็นเอกลักษณ์ และคนรักน้ำหอมแนววู๊ดดี้ชื่นชอบ ดูได้จากผลโหวคในเว็บต่างผระเทศทะลุ1,000 เลยคะ ทางแบรนด์ต้องการสื่อถึงกลิ่น ป่าไม้ในเทิอกเขา Rocky สะอาดๆคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/DSQUARED-/He-Wood-Rocky-Mountain-Wood-5862.html


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Kenzo - L'Eau Kenzo Intense pour Homme








- ขนาด 100 ml เหลือ 10ml ซื้อมา 3,600 ขอขาย 250฿ คะ

กลิ่นแทบจะเหมือน Paco Invictus มาเด๊ะๆเลยคะ พราะกลิ่นเปิดขนมาเต็มทั้งส้มและเลมอนกลั้วไปกับกลิ่นน้ำทะเล กลิ่นจะมาในโทนที่สดชื่น เขียว แน่น หวาน เย้ายวนกันตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง Base Notes ลิ่นโทนสดชื่นแน่นๆ จะหายไป แต่ยังมีกลิ่นของใบกระวานที่หวานเย้ายวนมาสานต่อผสมกับกลิ่นเชิงแมนๆ เย้ายวนนุ่มๆ ที่จะมีกลิ่นอายพิมเสนลอยล่องให้จับต้องได้ ที่สำคัญกลิ่นของอำพันทองที่เป็นตัวเสริมให้กลิ่นแน่นขึ้นนั้นกลายเป็นค่อนข้างเด่นเลยทีเดียวกับกลิ่นโทนอบอุ่นออกเค็มๆ หน่อยๆ กลิ่นออกทางเซ็กซี่เลยทีเดียว ซึ่งโดยรวมให้อารมณ์ผู้ชายที่ออกทางสปอร์ตเชิงกีฬาทางน้ำทะเลแต่แฝงไปด้วยความแน่น กลิ่นนี้ทนมากๆเลยคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Kenzo/L-Eau-Kenzo-Intense-pour-Homme-29989.html


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Lalique - Encre Noire








- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 160฿ และ 10ml 320฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Lalique/Encre-Noire-1834.html

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/12/review-lalique-encre-noire.html

หนึ่งในเทพทางด้านน้ำหอมกลิ่นหญ้าแฝกที่ดีที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้กับความหอมแบบลึกลับ สุขุม และมีภูมิอย่างขีดสุดบ่งบอกถึงความเป็นสุภาพบุรุษได้ชัดเจน และเป็นรุ่นที่ขายดีมากมายก่ายกองเลยทีเดียวของแบรนด์ Lalique เช่นนั้นมารู้จักกับตัวนี้กันครับ Encre Noire

น้ำหอมรุ่นนี้จะมากันเต็มๆ แบบอารมณ์ที่ Mix & Match อย่างคลาสสิคสุดๆ ด้วยการผสมผสานกลิ่นออกมาได้มีชั้นเชิงมากมาย โดยที่ไม่ต้องซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไรมาก เปิดตัวกันที่กลิ่นของสนไซเปรสที่จะมาในแบบเขียวหอมนุ่มๆ ที่จะได้อารมณ์ทั้งวู้ดดี้และเขียวๆ ไปในตัว แต่ที่เด่นกว่านั้นคือ กลิ่นของหญ้าแฝกจะเสริมขึ้นมาเร็วมากในช่วงนี้ทำให้จะได้อารมณ์ของความสะอาด Smoky และสุภาพบุรุษขรึมๆ กันตั้งแต่ต้นเลยทีเดียว และจะค่อยๆ เด่นชัดเต็มตื้นมากๆ ในช่วงกลางกับความรู้สึกแบบสีดำของขวดหมึก ซึ่งกลิ่นแอบคล้ายหมึกเล็กๆด้วยนะครับ แต่ไม่ได้หนักหน่วง เพราะมีความเป็น Rich Tone ที่หรูหราให้รู้สึกได้ตลอด ใครที่ชอบกลิ่นหญ้าแฝกบอกเลยว่าตอนนี้คุณจะฟินถึงขีดสุดมาก เพราะจะมาหมดในทุกๆ ความรู้สึกที่หญ้าแฝกสามารถให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นสุภาพบุรุษ สุขุม นิ่ง ลึกลับ ดาร์ก น่าค้นหา และอบอุ่น และไม่ได้ออกทางหญ้าแฝกฉ่ำๆ ด้วยมาแบบแห้งๆ แบบมีชั้นเชิง และไม่พอกลิ่นของหญ้าแฝกจะตามไปที่ช่วงท้ายที่จะไปผสมผสานกับความสะอาดของ Musk และกลิ่นโทนวู้ดดี้ที่ออกทางใกล้เคียงกระดาษ ซึ่งอารมณ์แบบมีภูมิจะจัดเต็มก็คราวนี้ ได้ความรู้สึกที่คลาสสิคแบบข้อความอักษรเขียนด้วยลายมือจากน้ำหมึกบนกระดาษสีขาวชัดเจน แบบที่มันทั้งขลัง สวยงาม และนิ่งเนี้ยบอย่างมีระดับเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นเสริมบุคลิกให้ดูเป็นผู้ใหญ่ สุภาพบุรุษมีภูมิที่น่าเชื่อถือมาก สามารถใส่ทำงาน พบปะผู้คนทางด้านธุรกิจ หรือออกงานหรูจะเหมาะมาก กลิ่นบอกถึงความมีคลาสของคนใส่ไม่น้อยนะครับ แม้ว่าจะพอใส่แบบทั่วๆ ไปได้ แต่อาจจต้องเลือกสถานการณ์นิดนึงครับ ไม่ใช่ใส่ไปเตะบอลหรือไปตลาดนัดกลิ่นไม่เข้าเท่าไหร่ รวมถึงใส่เที่ยวกลางคืินด้วย ที่ไม่ควรไปใส่เต้นเพลงขอใจเธอแลกเบอร์โทร หรือเต้น Cover เพลงเกาหลีเลย เหมาะกับใส่ไปจิบตามบาร์หรือเลาจ์หรูๆ แบบมีระดับมากกว่า

ความทน - มากกกกกกกกกกกก 12 ชม. กลิ่นยังตีขึ้นให้รับรู้อยู่เลย

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากเลยทีเดียวในช่วง Top และจะลดลงมากระจายดีเสมอต้นเสมอปลาย ที่สำคัญกลิ่นตีขึ้นให้รับรู้ตลอดครับ

ทิ้งท้าย - เป็นน้ำหอมที่ผมยิ่งใช้แล้วยิ่งหลงกับกลิ่นน้ำหอมของตัวนี้ คาดว่าอีกไม่นานคงจะเป็นหนึ่งใน Top 20 ของตัวเองได้ไม่ยากครับ อ้อ สำหรับหนุ่มคนไหนที่สูบบุหรี่ น้ำหอมตัวนี้จะช่วยให้กลิ่นบุหรี่ที่ติดตามตัวหอมขึ้นอย่างมีเสน่ห์เฉพาะตัวแบบที่คนอื่นไม่ยี้นะครับ เพราะหญ้าแฝกที่จะเสริมให้กลิ่นยาสูบหอมมากขึ้นนั่นเอง ^^



------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Lalique – Encre Noire Sport








- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 170฿ และ 10ml 330฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Lalique/Encre-Noire-Sport-21369.html

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2016/03/review-lalique-encre-noire-sport.html

เรียกว่าขึ้นหิ้งที่สุดไปแล้วกับรุ่น Encre Noire ของ Lalique ที่บ่งบอกถึงความสุขุม ภูมิฐาน ลึกลับน่าค้นหาราวกับหมึกดำที่ดาร์กและขลัง ซึ่งแน่นอนรุ่นนี้มีการต่อยอดเพราะได้รับความนิยมมาก แต่เป็นเพราะบางคนอาจจะไม่ชอบความดาร์กที่มันมากเกินไป มันเลยมีรุ่นนี้มาตอบสนองความต้องการซึ่งนั่นก็คือ Encre Noire Sport

สิ่งแรกที่ประทับใจเลยคือ Top Notes ไม่ได้มาแบบดาร์กตั้งแต่ต้นเลย มันมีความสดชื่นของโทนซิตรัสมานำทาง มีกลิ่นลูกจันทน์เทศจางๆ ให้รู้สึกได้ แต่แน่นอนเพราะกลิ่นนี้สิ่งที่ต้องเป็นพระเอกตลอดงานคือ หญ้าแฝก ก็ต้องมาสิ ไม่มีพลาด แต่มาเป็นรองพื้นด้านหลังให้รู้สึกได้ก่อนแบบไม่ได้เด่นอะไรมากนัก เพราะเน้นความสดชื่นมาเต็มให้แตะคำว่า Sport ได้ระดับกำลังดีก่อน เพียงไม่นานกลิ่นอายของไม้หอมก็ได้เริ่มแทรกเข้ามาจนเข้าช่วง Middle Notes โดยจะมีกลิ่นโทนน้ำสะอาดแบบสดชื่นกลั้วไปมาผสมผสานกับซิตรัสจางๆ โดยที่สนไซเปรสจะมาให้ความสดชื่นติดนุ่มเขียว และแน่นอนหญ้าแฝกจะเริ่มเด่นมาด้วยในช่วงนี้ แต่มาแบบแห้งๆ ตัดกับโทนน้ำสะอาด ราวกับจะดูดน้ำกลับไปเรื่อยๆ จนพาเข้าสู่ช่วง Base Notes งานนี้ได้มาสู่ความเป็น Encre Noire ที่มีความดาร์กแบบต้นฉบับแล้ว ที่คงความดีงามคือ กลิ่นอาย Smoky แบบเท่ห์ๆ ของหญ้าแฝกที่เด่นนำลอยขึ้นมาแบบชัดเจนมาก โดยมีกลิ่นอาย กลิ่นแบบหมึกดำผสมผสานกับกลิ่นโทนไม้หอมกลั้ว Musk ที่รองพื้นด้านหลังที่ให้อารมณ์กลิ่นอายกระดาษหอม ซึ่งกลิ่นจะได้อารมณ์แบบกระดาษที่มีการเขียนด้วยน้ำหมึกสวยงามติดแนบแน่น มีความขรึม ขลัง น่าค้นหา นิ่ง เนี้ยบแบบต้นฉบับชัดเจนทุกประการไม่หนีไปไหน เพียงแต่ความอบอุ่นปรับโทนเบาลงมาเป็นอ่อนๆ ไม่ได้เด่นมากก็เท่านั้นเอง

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใช้ตัวนี้ได้สบายๆ กลิ่นคาบเกี่ยวความเป็น Sport อยู่ในระดับกำลังดี แถมแตะความนิ่งขรึมมีระดับสมาร์ทกลั้วน่าค้นหาก็สามารถ จึงครอบคลุมการใส่ในทุกๆ สถานการณ์ยามกลางวันได้หมด ส่วนยามค่ำคืนอาจจะไม่ได้เด่นเท่าต้นตระกูล แต่ก็ถือว่าใส่ได้แบบทั่วๆ ไปได้สบายๆ ที่สำคัญใครที่คิดว่าตัวต้นตระกูลนั้นเข้มหนักไป ตัวนี้ช่วยได้เพราะเอาซิตรัสมาตัดให้สดชื่นขึ้นไม่ดาร์กจัดๆ กันตั้งแต่เริ่ม เพราะมีเวลาเตรียมใจและรับความงามของกลิ่นอายเท่ห์ๆ ตอนท้ายนั่นเอง

ความทน – ประมาณ 8 ชม. เลย ซึ่งอาจจะน้อยกว่าต้นตระกูลบ้าง แต่ยังดีงามอยู่ ซึ่งถ้าจำนวนสเปรย์พอเหมาะและจุดที่ฉีดที่เอื้อมากพอ กลิ่นจะลากยาวไปที่ 12 ชม. ได้เลยทีเดียว

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น แล้วจะลดลงมากระจายดีในช่วงกลาง ลดเพดานลงมาเรื่อยๆ จนในช่วงท้ายเป็นการกระจายกลางๆ กึ่งออร่ารอบๆ ตัว

ทิ้งท้าย – ผมใช้ตัวนี้มีคนแปลกหน้าชมถึง 3 คนว่าน้ำหอมหอมเท่ห์ดูดีมากจนต้องถามยี่ห้อและรุ่นไปเผื่อซื้อใช้ตาม เป็นผู้ชาย 2 หญิง 1 เรียกว่าภูมิใจที่เราเลือกตัวหญ้าแฝกงามๆ มาใช้แล้วมีคนชม แบบว่าฟินน่ะครับ ฟินมากกกกก


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Dolce & Gabbana - The One for Men Limited 2014 "ขายแล้วคะ"









------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Ralph Lauren – Polo Blue Limited 200ml "ขายแล้วคะ"








------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Antonio Banderas – Blue Seduction "ขายแล้วคะ"








-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Lacoste – Eau de Lacoste L.12.12 White







- ขวด 100 ml เหลือ 87%+ ซื้อมา 3,700 ขาย 1,600฿
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 120฿ และ 10ml 200 ฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/12/review-lacoste-eau-de-lacoste-l1212.html


เป็นหนึ่งในไลน์ L.12.12 ที่ออกมาตอบโจทย์น้ำหอมด้านSport แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เฉพาะยามออกกำลังกายก็ได้ ซึ่งน้ำหอมรุ่นนี้อิงมาจากเสื้อโปโลของ Lacoste สีขาวเลย ซึ่งเป็นอย่างไร มาลองดมผ่านตัวหนังสือกันอย่าง Eau de Lacoste L.12.12 White

Top Notes เปิดขึ้นมาได้หอมสดชื่นติดนวลๆ มาก กลิ่นเกรฟฟรุตจะมาแบบซิตรัสก็จริงแต่จะมีกลิ่นอายของเครื่องเทศติดหวานของเม็ดกระวานดันมาด้วย เลยทำให้ซิตรัสออกทางนวลสว่างสดชื่นก็”ด้หวานหน่อยๆ ก็มี แอบมีกลิ่นเขียวๆ สมุนไพรให้รู้สึกได้จางๆ จนเมื่อเข้าสู่ช่วง Middle Notes งวานดอกไม้ต้องมา ซึ่งผมทึ่งเล็กน้อยเพราะกลิ่นดอกกระดังงาจะมากลั้วกบโทนซิตรัสติดหวานนุ่มที่ตามมาในตอนต้น โดยมีความครีมมี่ออกโทนขาวสว่างนวลของดอกซ่อนกลิ่นแซมไปตลอด เรียกว่าช่วงนี้เป็นโทนดอกไม้ที่แมนแบบไม่น่าเชื่อ ซึ่งแอบจับได้ถึงกลิ่นหนังติดโทนไม้หอมที่รองพื้นด้านหลัง เรียกว่าเบลนด์กลิ่นออกมาได้ดีมากเลยทีเดียวกับการเอาดอกไม้ 2 ตัวนี้มาเด่นในน้ำหอมชาย และปิดท้ายที่กลิ่นอายดอกไม้สว่างๆ ครีมมี่นุ่มๆ ติดหวานสดชื่นจะเบาลงไปบ้าง ให้กลิ่นโทนไม้หอมผสมกับหนังที่เคยหลบๆ ซ่อนๆ นั้นได้เด่นขึ้นมา กลิ่นอายจะออกทางสะอาดๆ ติดแมนนุ่มๆ กลิ่นหนังไม่มีโทนสาปมารบกวนเลย มีแต่กลิ่นออกหนังนุ่มขาวคล้ายผิวกายหอมสะอาดติดนุ่ม มีความอบอุ่นกำลังดี หอมแบบนวลๆ ไปตลอด ซึ่งเรียกว่าผสมผสานกลิ่นออกมาได้ดีเลยทีเดียว โดยยังคงเป็นผู้ชายแบบสุภาพสะอาด อบอุ่น ออกโทนสว่างขาวอย่างชัดเจนไม่มีผิดเพี้ยนเลย

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัย ม.ปลาย ขึ้นไปก็มช้งานตัวนี้ได้แล้วครับ กลิ่นเรียกว่าอยู่ในโซนใช้ง่าย เข้าถึงง่าย และหอมสดชื่นติดนุ่มนวลได้ลงตัว สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ทั้งทางการและไม่ทางการ ส่วนยามค่ำคืนก็ใส่ได้แบบทั่วๆ ไป แต่ถ้าไปเที่ยวแล้วยั่ว ไม่เข้าทางเลยจ้าบอกเลย

ความทน – อยู่ระหว่าง 6 – 8 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเป็นหลัก

การกระจาย – กลิ่นกระจายกำลังดีในช่วงต้น แล้วคงตัวกระจายกลางๆ ไปตลอด จนช่วงท้ายจะเป็นออร่ากึ่ง Skin Scent ครับ

ทิ้งท้าย – ครั้งแรกที่ผมได้กลิ่นจากคนที่ใส่น้ำหอมกลิ่นนี้สวนกับผม บอกเลยว่าหันขวับ แล้วเดินตามไปถามเลยว่าใส่น้ำหอมกลิ่นอะไรหอมนวลๆ มาก เจอมองด้วยสายตาที่งงๆ แต่ก็ได้รับคำตอบมา และก็หามาครอบครองจนได้ เป็นกลิ่นแรกประทับใจของผมเลยล่ะครับ


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Lalique - Hommage a L'Homme "ขายแล้วคะ"








------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------








Baldessarini - Secret Mission


ตัวนี้คือโคลนนิ่ง Armani Attitude (ซึ่งเลิกผลิตแล้วและหายากมากคะ เป็นน้ำหอมในตำนานที่คนใน Pantip โดยเฉพาะสาวๆกล่าวถึงเลยคะ สาวๆแบบหนูชอบมากกก) เว็บ fragrantica ต่างยกให้ตัวนี้กลิ่นใกล้เคียงที่สุดคะ

- ขวดใหญ่สุด 90 ml ซื้อจากSephora 3,500฿ เหลือปริมาณตามยางรัด(ประมาณ85%) ขาย 1,800 คะ
- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 130฿ และ 10ml 250 ฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

เนื่องจากกลิ่นก็อปกันมาเลย จึงขอใช้รีวิวแทนกันนะคะเพื่อให้พอเห็นภาพ

http://kemkudson.blogspot.com/2015/02/review-giorgio-armani-attitude.html

เพราะว่า Armani เลิกผลิตน้ำหอมรุ่นนี้เท่านั้นแหละ ฮิตขึ้นมาทันตาเห็น เลยทำให้บุคคลที่รักน้ำหอมโทนกลิ่นแบบนี้ต่างก็ต้องเอาเข้ามาเก็บไว้ให้จงได้ ซึ่งตอนนี้จากที่ราคาไม่เท่าไหร่ กลายเป็นราคาสูงขึ้นแบบจัดเต็มเลยทีเดียว ในเมื่อกำลังฮิตกว้านหากันเช่นนั้น ก็เลยมาขอตอกย้ำว่ามันมีความดีงามมากมายเลยทีเดียวนะนั่นกับ Armani Attitude ครับ

ส่วนตัวจะมองน้ำหอมตัวนี้เหมือนนิยาย/ละครเรื่อง #อย่าลืมฉัน เพราะในแต่ละช่วงอย่างกับบอกเล่าอารมณ์และความรู้สึกทางจิตใจระหว่างสุริยาวดีและเขมชาติ กลิ่นจะเปิดตัวด้วยกาแฟกับเลม่อนซึ่งจะได้อารมณ์แบบกาแฟดำใส่มะนาวฝานแบบที่คู่นี้เขาโปรดปรานและเป็นหนึ่งในตัวเชื่อมความรู้สึกระหว่างกันตั้งแต่แรกเริ่มรู้จัก กลิ่นจะให้ความสดชื่นความเป็นหนูเล็กกลั้วความเข้มของเขมชาติได้เป็นอย่างดี

เมื่อผันตัวเข้าสู่ช่วงกลางกับความนุ่มนวลของลาเวนเดอร์ที่แทรกขึ้นมาผสานกับเม็ดกระวานกลายเป็นกลิ่นนุ่มหวานกลั้วความขมสดชื่นที่ตามมาตั้งแต่ช่วงต้น เหมือนความรู้สึกที่สะท้อนในความทรงจำของทั้งคู่ยามที่หวนกลับมาพบกันอีกครั้ง ซึ่งมีทั้งความขม ความหวาน ความดึงดูดซึ่งกันและกันแบบไม่โจ่งแจ้ง ทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว จนเกิดเรื่องราวที่หอมหวานจางๆ นุ่มนวลละเมียดละไมปนความขมที่กระจายให้คนอ่านหรือดูรู้สึกได้

และการปิดท้ายด้วยกลิ่นโทนอบอุ่นนิ่งขรึมหนักแน่นด้วยแอมเบอร์และยางไม้โทนหวานอุ่น ล้อมรอบไปด้วยกลิ่นของพิมเสนอ้อยอิ่งที่นุ่มจมูกหอมอย่างมีระดับ บอกเล่าถึงอารมณ์ของความอบอุ่นของทั้ง 2 คน ที่ผ่านการให้อภัยซึ่งกันและกัน ความรักที่ยังคงอยู่ เข้าใจซึ่งกันและกันแบบผู้ใหญ่ที่ปิดฉากละครเรื่องนี้แบบซาบซึ้งนั่นเอง


เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป กลิ่นค่อนข้างมีความเป็นผู้ใหญ่ในระดับหนึ่ง สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทำงาน ออกงานทางการ พบปะผู้คน หรืออยู่ใกล้คนรัก ส่วนออกกำลังกายก็พอได้อยู่แต่ควรรอท้ายๆ จะดีที่สุด ใส่เที่ยวกลางคืนก็พอไหวครับ ไม่ได้น่าเกลียดอะไร แต่ไม่ได้ไปในทางเย้ายวนโจ่งแจ้งมากขนาดนั้น

ความทน - 8 ชั่วโมงโดยประมาณ อาจจะมีบวกลบไปบ้าง อยู่ที่เคมี จุดที่ฉีดและจำนวนสเปรย์ด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย - ถือว่ากลิ่นนี้เป็นหนึ่งใน Sillage Scent ได้เลยเพราะช่วงต้นและกลางกระจายดีมาก ดมที่ผิวอาจจะไม่ค่อยรู้ว่ามันมีกลิ่นติดอยู่ แต่มันกระจายตีขึ้นตลอดให้คนใส่และคนรอบข้างได้กลิ่นหมด มีช่วงท้ายๆ ที่ลดเป็นออร่ารอบๆ ตัวที่ยังคงความรู้สึกอบอุ่นให้รับรู้ได้ไปตลอด













------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Armani - Attitude Extreme "ขายแล้วคะ"








------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Baldessarini - Strictly Private


Baldessarini เป็นแบรนด์ที่แตกไลน์ออกมาจาก Hugo Boss ที่เน้นทำน้ำหอมด้วยสโลแกน ?SEPARATES THE MEN FROM THE BOYS คือ ไม่มีคำว่าหน่อมแน้ม ไม่มีคำว่าวัยกระเตาะ มีแต่"คำว่าผู้ชายที่เติบใหญ่ ภูมิฐาน และมีระดับเท่านั้น" หรือเป็นแบรนด์ไฮโซของ Hugo boss นั่นเอง

ตัวนี้กลิ่นจะดูมีระดับมาก เป็นผู้ใหญ่ที่ดูผู้ดีและภูมิฐาน กลิ่นไม่ซ้ำกับคนอื่นแน่นอนคะ (รูปโฆษณาก็บอกชัดเจนคล้ายผู้ชายภูมิฐาน ยืนให้สาวๆในชุดว่ายน้ำชำเลืองมอง) ฝรั่งบอกกลิ่นคล้าย Tom Ford - Noir Extreme ด้วยคะ

- ขวดใหญ่สุด 90 ml เหลือ 55 % ซื้อมา 3,500 ขาย 1,000฿ คะ

http://www.fragrantica.com/perfume/Baldessarini/Strictly-Private-5202.html














------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Midnight in Paris - Van Cleef & Arpels


















http://www.fragrantica.com/perfume/Van-Cleef-Arpels/Midnight-in-Paris-9685.html


- รุ่น EDT ขวดใหญ่สุด 125ml ของใหม่คะ ขาย 2,600 คะ (ขวด75ml ขวดทดลองที่เหลือขวดสุดท้ายที่ Paragonก็ 3,150บาทแล้วคะ)

- รุ่น EDP ขวดใหญ่สุด 75 ml ของใหม่คะ ขาย 2,600 คะ (รุ่นEDP ไม่มีขายในไทยนะคะ และก็เลิกผลิตแล้วเหมือนกันคะ)

- แบ่งใส่ขวดสเปรย์ขนาด 5ml 150฿ และ 10ml 270 ฿ เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ

**ตัว EDP กลิ่นจะทนและเข้มกว่า EDT นะคะ


รีวิวจากคุณแชมป์คะ **กลิ่นนี้เลิกผลิตแล้วนะค
ความคิดเห็นที่ : 5

tamamajung

16/07/2016 17:01:58
0
IP : 171.101.166.30
รีวิวจากคุณแชมป์คะ **กลิ่นนี้เลิกผลิตแล้วนะครับ ถ้าได้ลองแล้วติดใจ ก็รีบหาซื้อตุนได้เลยครับ ก่อนราคาจะสูงขึ้น**

เสปรย์แรกมา แล้วรู้สึกเลยครับว่าหอมมาก ให้อารมณ์เซกซี่ เขื่อมโยงใกล่เคียงในเรื่องแนวกลิ่น ก็คงเป็นarmani code men นะครับ แต่ในตัวนี้ ไม่หวาน ไม่แป้งจัดๆเท่ากับarmani code

ใครชอบกลิ่นที่เด่นด้วยหนังเป็นหลัก และอยากได้ความเซ็กซี่จากหนังที่ไม่ออกanimallic มากเกินไปแบบน้ำหอมniche. ผมก็แนะนำเลยครับ กลิ่นน่าสนใจมากๆ

เปิดมาก็ได้โทนหนัง แป้งเบาๆ กรุ่นๆควัน ติดหวานนิดๆ

แต่พอกลิ่นเริ่มเซ็ทตัว ความหวานจากถั่วทองก้าก็เริ่มหายไป กลิ่นเครื่องหนังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นและกลิ่นกำยานก็เข้ามามีบทบาท เหมือนกับได้กลิ่นกำยานที่ถูกจุด ให้ความรู้สึกอบอุ่นนน่ากอด

จุดเด่นของกลิ่นนี้ ผมว่าเป็นกลิ่นแนวหวานๆที่ไม่หวานมากจนเวียนหัวสามารถใส่ตอนแดดออกแรงๆได้สบาย และกลิ่นนั้นไม่กระจายรุนแรงจนน่าปวดหัว หากแต่กลิ่นที่กระจายออกมานั้นเป็นในรูปแบบควันๆ ลอยๆ และความทนก็อยู่ในระดับที่น่าเชื่อถือได้



รีวิวจากพี่เข็มขัดสั้นคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/reviewvan-cleef-arpels-midnight-in-paris.html

ท้องฟ้าอันประดับประดาไปด้วยหมู่ดาวยามย่ำค่ำไล่เรียงสีสันไปจนถึงยามดึกของยามฤดูหนาว ณ ใจกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่แสนจะสวยงามได้มาประดับประดาลงบนขวดทรงกลมที่ถือว่าเป็นขวดน้ำหอมที่สวยขาดใจจริงๆ และเป็นส่วนหนึ่งบอกเล่าเรื่องราวของความโรแมนติคสมกับชื่อ Midnight in Paris ได้เป็นเรื่องราวมากมายเลยทีเดียว

องก์ 1 - หญิงสาวได้พบชายหนุ่มที่หน้า Le Cinq Restaurant ณ Four Seasons Hotel, Paris ในยามเย็นตามที่ได้นัดหมายไว้ โดยกรุ่นกลิ่นกายชายหนุ่มยามเมื่อพบเจอ ที่เต็มไปด้วยความเข้มแข็ง น่าค้นหา สดชื่นและอบอุ่น ของกลิ่นแนวๆ เลมอน มะกรูด และโรสแมรี่ กลั้วกลิ่นหนังนุ่มๆ ที่โดดเด่น ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างพึงใจและยื่นมือให้ชายหนุ่มพาเข้าไปเพื่อลิ้มรสอาหารอันเลิศรสกับช่วงเวลาของความสุขที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

องก์ 2 - อากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้นมาแบบเป็นใจ เมื่อชายหนุ่มพาหญิงสาวขึ้นไปชมเมืองปารีสบนหอไอเฟล ท่ามกลางหมู่ดาวนับไม่ถ้วนแต่งแต้มท้องฟ้าอันสวยงาม เมื่อยามที่หญิงสาวยืนใกล้ชายหนุ่มกรุ่นกลิ่นกายที่น่าค้นหา อบอุ่น และวาบหวามซาบซ่า ด้วยกลิ่นหนังนุ่มๆ กลั้วกลิ่นชาเขียวมัทฉะ และมีกลิ่นอายหอมเย็นของดอก Lily of the Valley ทำให้เธอรู้สึกวางใจและมีความสุขที่ยืนใกล้ผู้ชายคนนี้ ยิ่งบทสนทนาเรื่องราวต่างๆ มากมายสร้างรอยยิ้มเหมือนชิมรสชาอุ่นๆ ชั้นดีท่ามกลางอากาศเย็นที่แสนจะเป็นใจให้ได้ใกล้ชิดกัน

องก์ 3 - ท้องฟ้ายิ่งมืดสนิทเท่าใด ดาวนับล้านดวงยิ่งสุกใสสวยงามมากขึ้นเท่านั้น เธอยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อชายหนุ่มพาเดินในสวนด้านล่างหอไอเฟลที่เป็นฉากหลังที่แสนจะโรแมนติค ยิ่งอากาศใกล้เที่ยงคืนเริ่มหนาวเย็นเท่าไหร่ชายหนุ่มยิ่งกระชับหญิงสาวแนบแน่นเพื่อมอบไออุ่นให้มากขึ้นพลางจุมพิตที่หน้าผาก หญิงสาวได้กรุ่นกลิ่นกายที่แสนเย้ายวน ดึงดูด และช่างอบอุ่นทั้งกายและใจจนทำให้ไม่อยากให้ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้สิ้นสุดลงไปเลยแม้แต่วินาทีเดียวหลังจากนี้

Comment - เห็นไหมครับ น้ำหอมตัวนี้สามารถมากๆ แค่ได้กลิ่น 3 ระดับที่บอกเล่าเรื่องราวได้เป็นฉากๆ เลย เก๋สุดๆ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายตั้งแต่วัยทำงานเป็นต้นไปที่ต้องการให้ลุคตัวเองโรแมนติคครับ เพราะน้ำหอมตัวนี้โทนกลิ่นหนังนุ่มๆ ชัดมาก มีอารมณ์เย็นๆ แบบ Lily of the Valley กลั้วโทนละมุนของชาเขียว และโทนเย้ายวนที่อบอุ่นสุดๆ ของกำยานและแอมเบอร์ แอบมีโทนครีมมี่น่ากินของถั่วตองก้าและอัลมอนด์ด้วย คือ ใส่ไปโรแมนติคกับแฟนน่ะทั้งได้และโดนที่สุดแล้ว ขอบอก! แต่จริงๆ ตัวนี้สามารถใส่ออกงานได้ทั้งกลางวันและกลางคืนครับ ทำงานก็ได้ (แบบพอดีๆ) เพราะโทนออกแนวทางการได้อยู่ครับ

ความทน - มากกกกก เกิน 8 ชม. แน่นอน เย้ายวนกันนานๆ ให้ฟินไปข้างเลย

การกระจาย - ดีมากเลยในทั้ง 3 ช่วงในอารมณ์ต่อเนื่องจากสดใส มาดแมน น่าค้นหา อบอุ่น และโรแมนติคได้เก๋มากมาย

ป.ล. เป็นอีกหนึ่งในตัวที่ผมไม่พลาดเด็ดขาดที่จะมีไว้ครอบครองครับ ตกหลุมรักกลิ่นนี้มาก ใส่แล้วดูโรแมนติคขึ้นไปอีก150%


------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Issey Miyake - L'Eau d'Issey Pour Homme


รีวิวต่างประเทศ http://www.fragrantica.com/perfume/Issey-Miyake/L-Eau-d-Issey-Pour-Homme-721.html

กลิ่นสามัญประจำบ้านของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั่วโลกเลยค่ะ คะแนนโหวตเยอะมาก เป็นอีกกลิ่นหอมใช้ง่ายที่มีความสดชื่น และหวานพอดีๆ หอมชื่นใจและติดทนดีด้วยค่ะ เหมาะกับอากาศในเมืองไทยมากๆ ใครที่ชอบกลิ่นหอมประมาณ Armani Gio น่าจะชอบนะคะ

- ขนาดใหญุสุด 125ml ซื้อมา 3,600 เหลือประมาณ 80% ขาย 1,200 คะ

กลิ่นนี้เป็นกลิ่นหอมที่แรงบรรดาลใจจากความอิสระและความสงบที่ไร้กาลเวลา เรียกได้ว่าเป็นกลิ่นหอมสดชื่นที่เหมาะสำหรับทุกโอกาส กลิ่นจะเปิดมาด้วยกลิ่นหอมเฟรชๆสะอาดๆของ ส้ม Yuzu เลมอน และเบอกาม็อต ตามด้วยกลิ่นหอมหวานจากพืชพรรณธรรมชาติ และดอกไม้กลิ่นหอมหวานสบายๆ เช่น vetiver ดอกบัว ใบLemon Verbena ดอกลิลลี่ป่า ดอกSaffron ดอกมิยะเนธ และมีกลิ่นหอมเครื่องหอมเจือสไปซี่หน่อยๆของ พวกใบยาสูบ ก่อนจะอมหวานเซกซี่นิดๆด้วยชินนามอน และมีไม้หอม+กับกลิ่นสดชื่นสังเคราะห์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Issey อย่าง Calone เย็นๆ ออกแป้งสะอาดๆ








------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


Bvlgari - Aqva pour Homme

http://www.fragrantica.com/perfume/Bvlgari/Aqva-Pour-Homme-153.html

เป็นน้ำหอมกลิ่นสดชื่นแนว Aquatic ที่โดดเด่นและเป็น 1 ในไม่กี่กลิ่นที่กลุ่มคนเล่นน้ำหอม niche จะมองหาในยามต้องการความสดชื่น โดยดูความนิยมได้จาก basenotes เป็นต้น จุดเด่นของน้ำหอมตัวนี้อยู่ที่โทน salty ของกลิ่น และโน็ตสาหร่าย ที่ผสมผสานกันจนเป็นเอกลักษณ์ ชวนให้นึกถึงสีน้ำทะเลยามเย็นจิงๆค่า

ขวด100ml ลองฉีดไป1สเปรย์ ขอขาย 1,500 คะ

รีวิวคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/11/review-bvlgari-aqva-pour-homme.html

ฮิตมาก ฮิตจริงๆ เพราะว่า กลิ่นมันหอมเข้าถึงง่ายและโดนใจอันนี้ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ครับกับ Bvlgari Aqva pour Homme เพราะว่า

Top Notes เปิดต้นด้วยความหอมนุ่มสดชื่นกันด้วยกลิ่นส้มแบบทันสมัยกลั้วความเขียวของใบส้มเข้าไป เพียงแค่นี้ไม่ต้องรอตรงอื่นก็เสียตังค์ได้ เพราะกลิ่นมันเข้าถึงง่าย หอมดึงดูดให้อยากใช้ไม่ยากจริงๆ และเพียงไม่นานกลิ่นลาเวนเดอร์จะยิ่งมาทำให้กลิ่นออกทางนุ่มนวล แล้วตามมาด้วยกลิ่นสาหร่ายแบบทะเลมาเลย มีความสดชื่นกำลังดีจากกลิ่นในช่วงต้นที่เป็นพื้นหลังกำลังดี แถมมีกลิ่นออกทางสะอาดๆ นุ่มๆ เข้ามาทำให้หอมนวลได้ใจในรูปแบบ Aquatic มากจริงๆ ซึ่งถ้าใครไม่ชอบกลิ่นสาหร่ายในช่วงนี้ อาจจะเวียนหัว มึนๆ ได้และอาจจะบายทันที แม้ว่ากลิ่นสาหร่ายจะไม่ได้ออกทางคาวทะเลมากนักก็ตาม แต่ถ้าดมภาพรวมของกลิ่นที่กระจายออกมาจะให้อารมณ์ออกมาทะเลนิ่งๆ น้ำลึก แบบดำน้ำชมปะการังชิลล์ๆ เพลินๆ มีความรู้สึกเย็นๆ ให้สัมผัสได้ตลอด ซึ่งถ้าคนชอบจะปลื้มมากมายก่ายกองเข้าไปอีก พร้อมเสียตังค์แน่ๆ เพราะมันหอมจริง และเมื่อ Base Notes เข้ามาทักทายจะมีความเย็นวาบๆ นุ่มนวลจากพิมเสนกลั้วไปกับโทนวู้ดดี้แบบเบาสบายไม่ออกทางอบอุ่นจัดๆ โดยที่ยังมีโทนออกทางน้ำทะเลลึกมาให้รู้สึกสดชื่นตามมาอยู่ โดยกลิ่นในช่วงนี้หอมนวลเย้ายวนกำลังดี ให้ความรู้สึกนุ่มเย็นสบายๆ เลยล่ะครับ

เหมาะสำหรับ - หนุ่มทุกเพศวันเรียน ม. ต้น ขึ้นไป เลยครับ กลิ่นเข้าถึงง่าย ให้อารมณ์ทะเลแบบดำน้ำลึก สะอาด นุ่มๆ เย็นๆ กลิ่นโดนใจมหาชนเลย สามารถใส่ไปเรียน ไปทำงาน ไปเที่ยวเล่นทั้งทะเล ป่าเขาลำเนาไพร จนถึงเดินห้าง เดิน JJ ได้หมด ออกกำลังกายก็ได้ แต่ใส่เที่ยวกลางคืนอาจจะเบาไปนะครับ ถ้าเจอกับเหล้า เรียกได้ว่าครอบจักรวาลเลยทีเดียวครับ

ความทน - ประมาณ 8 ชม. ครับ อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้แล้วแต่จำนวนสเปรย์ การฉีด และเคมีด้วยส่วนหนึ่ง

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากจริงๆ ในช่วง Top และ Middle ที่พร้อมจะทำให้มหาชนรอบตัวชอบได้ไม่ยาก ส่วน Base จะออกแนวหอมนุ่มเย็นๆ ขรึมๆ กำลังดีแบบเข้ามาใกล้ๆ จะได้กลิ่น





ความคิดเห็นที่ : 6

tamamajung

17/07/2016 18:10:07
0
IP : 171.101.166.30
ขอบคุณลูกค้าทุกท่านมากๆเลยนะคะ สนใจตัวไหนสอบถามน้ำมาได้เรื่อยๆเลยนะคะ



















ความคิดเห็นที่ : 7

tamamajung

18/07/2016 16:31:52
0
IP : 110.78.170.231
ขอบคุณลูกค้าทุกคนมากๆนะคร๊า












ความคิดเห็นที่ : 8

tamamajung

20/07/2016 16:41:01
0
IP : 171.101.166.30
ขอบคุณลูกค้าทุกท่านนะคะทั้งลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ที่อุดหนุนน้ำเรื่อยมา ^^


สั่งได้ตลอดนะคะ ส่งของจิงๆค่า :)



















ความคิดเห็นที่ : 9

tamamajung

23/07/2016 12:58:39
0
IP : 171.101.166.30
Kenzo - L'Eau Kenzo Intense pour Homme
Polo - Blue ขวด 125ml เหลือ 50%
"ขายแล้วคะ"
ความคิดเห็นที่ : 10

tamamajung

24/07/2016 13:36:38
0
IP : 171.101.166.77
น้ำหอมทุกตัวสามารถสั่งแบบขวดแบ่งได้นะคะ เผื่อคนที่อยากลองหลายๆกลิ่น หรือยากลองก่อนซื้อขวดใหญ่ หรือใช้สำหรับบางวัน บางโอกาส
ปล.ตัวที่ไม่มีในนี้ ก็ลองสอบถามมาได้นะคะ หนูมีอีกหลายตัวแต่ไม่ได้ลงไว่้คะ
ความคิดเห็นที่ : 11

tamamajung

27/07/2016 16:40:20
0
IP : 171.101.166.77
ไม่ค่อยมีเวลามาอัฟเยย☺️☺️ แม่ค้ายังขายน้ำหอมยุ่น๊า ส่งของจิงรีวิวจิง แท้ทุกตัวคา อยากได้น้ำหอมตัวไหนลองสอบถามกันเข้ามาเรยค่า ตอบตลอดเวลา55++
ความคิดเห็นที่ : 12

tamamajung

27/07/2016 16:41:54
0
IP : 171.101.166.77
ความคิดเห็นที่ : 13

tamamajung

28/07/2016 13:41:21
0
IP : 171.101.166.77
"ขายแล้วคะ"

Tea Rose by Perfumer`s Workshop

DSQUARED2 - Rocky Mountain Wood

Ellie Saab - Le Parfum EDT
ความคิดเห็นที่ : 14

tamamajung

29/07/2016 14:03:09
0
IP : 171.101.166.77
อัฟ อัฟ อัฟซะหน่อยยยย^^
น้ำหอมยังขายยุนะค่า ส่วนมากรอบนี้แม่ค้ามีเพิ่มแบบแบ่งขายมาด้วยคะ เพื่อใครอยากทดลองกลิ่น
ความคิดเห็นที่ : 15

tamamajung

30/07/2016 16:26:41
0
IP : 171.101.166.77
สอบุามมาได้เรื่อยๆเลยนะคะ ถามได้24ชม.เลย แม่ค้าใจดีสุดๆจ้า
ความคิดเห็นที่ : 16

tamamajung

01/08/2016 13:28:43
0
IP : 171.98.242.236
ขอบคุณลูกค้าหลายๆท่านมากๆเลยนะคะ สั่งหลายชิ้นเลย :))
ความคิดเห็นที่ : 17

tamamajung

02/08/2016 15:08:39
0
IP : 171.98.242.236
แม่ค้าคนเดิม เพิ่มเติมอยากขายของ555++ ตอนนี้แม่ค้าว่างแร้วตอบไลน์เร็วมาก
ความคิดเห็นที่ : 18

tamamajung

06/08/2016 13:11:20
0
IP : 171.98.29.53
เห็นเงียบๆแบบนี้ยังขายน้ำหอมยุ่นะคะ
ความคิดเห็นที่ : 19

tamamajung

06/08/2016 13:11:45
0
IP : 171.98.29.53
เห็นเงียบๆแบบนี้ยังขายน้ำหอมยุ่นะคะ
ความคิดเห็นที่ : 20

tamamajung

06/08/2016 13:12:03
0
IP : 171.98.29.53
ความคิดเห็นที่ : 21

tamamajung

07/08/2016 14:02:51
0
IP : 171.98.29.53
เห็นเงียบๆแบบนี้ยังขายน้ำหอมยุ่นะคะ ช่วงนี้แม่ค้าค่อนข้างว่างๆ55++ มาทำรีวิวน้ำหอมลงบ้างดีกว่า ขอบคุณลูกค้าเก่าที่กลับมาอุดหนุนน้ำนะค่า ลูกค้าใหม่ก็มาเรื่อยๆเช่นกานนนนน^^
สนใจน้ำหอมตัวไหนกานสอบถามสั่งซื้อได้น๊า แม่ค้าน่าร๊ากฝุดๆ
ความคิดเห็นที่ : 22

tamamajung

08/08/2016 13:15:33
0
IP : 171.98.29.53
:))
ความคิดเห็นที่ : 23

tamamajung

09/08/2016 13:44:06
0
IP : 171.98.29.53
ขอบคุณลูกค้าทุกท่านมากๆเลยนะคะ ที่อุดหนุนเรื่อยมา ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ หนูยินดีให้บริการนะคะ สอบถามกลิ่นมาได้เรื่อยๆเลยนะคร๊าาาา ^^
ความคิดเห็นที่ : 24

tamamajung

12/08/2016 14:58:16
0
IP : 171.98.29.53
ชะแว๊บบบบบบบ...แม่ค้าคนเดิมเพิ่มเติมคือรีวิว555++เห็นเงียบๆแบบนี้ออเดอร์เพียบทุกวันนะค่า สนใจน้ำหอมตัวไหนแบบไหน สั่งกันเข้ามาทางไลน์ได้เรยจ้า พร้อมรับออเดอร์ ตอบไว ส่งของชัวร์ๆ น้ำหอมแท้ทุกตัว รับประกัน..!!




















ความคิดเห็นที่ : 25

tamamajung

13/08/2016 13:25:13
0
IP : 171.98.29.53
ส่งของทุกวันนะคะ สั่งมาได้เรื่อยๆเยยน๊า :)
หรือว่าสนใจตัวไหนสอบถามก่อนก็ได้จ้า ^^
ความคิดเห็นที่ : 26

tamamajung

19/08/2016 12:51:53
0
IP : 171.98.29.53
มาอีกแว้ววววววว รีวิวมันมาอีกแว้ววววว :)) ขอบคุณลูกค้าทุกท่านนะค่ะที่เชื่อใจในร้านเรา ซื้อน้ำหอมกับร้านเรารับรองว่าแท้ทุกตัวแน่นอนจ้า ลูกค้าใหม่ก็มีมาเรื่อยๆ ลูกค้าเดิมก็กลับมาอุดหนุนตลอด แม่ค้านี่ปลื้มสุดๆ ^^

















ความคิดเห็นที่ : 27

tamamajung

20/08/2016 14:00:06
0
IP : 171.98.29.53
^-^
ความคิดเห็นที่ : 28

tamamajung

21/08/2016 13:28:06
0
IP : 171.98.29.53
ส่งของทุกวันนะคะ สั่งมาได้เรื่อยๆเยยน๊า :)
หรือว่าสนใจตัวไหนสอบถามก่อนก็ได้จ้า ^^
ความคิดเห็นที่ : 29

tamamajung

22/08/2016 11:57:29
0
IP : 171.98.29.53
ขอบคุณลูกค้าทุกท่านมากๆเลยนะคะ ที่อุดหนุนเรื่อยมา ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ หนูยินดีให้บริการนะคะ สอบถามกลิ่นมาได้เรื่อยๆเลยนะคร๊าาาา ^^
ความคิดเห็นที่ : 30

tamamajung

23/08/2016 12:34:00
0
IP : 171.98.29.53
:))
ความคิดเห็นที่ : 31

tamamajung

25/08/2016 13:09:23
0
IP : 171.98.29.53
ไม่ค่อยมีเวลามาอัฟเยย☺️☺️ แม่ค้ายังขายน้ำหอมยุ่น๊า ส่งของจิงรีวิวจิง แท้ทุกตัวคา อยากได้น้ำหอมตัวไหนลองสอบถามกันเข้ามาเรยค่า ตอบตลอดเวลา55++
ความคิดเห็นที่ : 32

tamamajung

27/08/2016 13:36:37
0
IP : 171.98.29.53
ส่งของทุกวันนะคะ สั่งมาได้เรื่อยๆเยยน๊า
หรือว่าสนใจตัวไหนสอบถามก่อนก็ได้จ้า ^^
ความคิดเห็นที่ : 33

tamamajung

29/08/2016 12:33:02
0
IP : 171.98.29.53
สอบุามมาได้เรื่อยๆเลยนะคะ ถามได้24ชม.เลย แม่ค้าใจดีสุดๆจ้า
ความคิดเห็นที่ : 34

tamamajung

30/08/2016 12:30:40
0
IP : 171.98.29.53
สอบุามมาได้เรื่อยๆเลยนะคะ ถามได้24ชม.เลย แม่ค้าใจดีสุดๆจ้า ^-^
ความคิดเห็นที่ : 35

tamamajung

31/08/2016 14:26:19
0
IP : 171.98.29.53
ขอบคุณลูกค้าทุกท่านมากๆเลยนะคะ ที่อุดหนุนเรื่อยมา ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ หนูยินดีให้บริการนะคะ สอบถามกลิ่นมาได้เรื่อยๆเลยนะคร๊าาาา ^^
ความคิดเห็นที่ : 36

tamamajung

01/09/2016 13:55:57
0
IP : 171.98.29.53
ขอบคุณลูกค้าหลายๆท่านมากๆเลยนะคะ สั่งหลายชิ้นเลย :))
ความคิดเห็นที่ : 37

tamamajung

02/09/2016 12:03:15
0
IP : 58.10.42.147
ส่งของทุกวันนะคะ สั่งมาได้เรื่อยๆเยยน๊า
หรือว่าสนใจตัวไหนสอบถามก่อนก็ได้จ้า ^.^
ความคิดเห็นที่ : 38

tamamajung

02/09/2016 20:28:13
0
IP : 58.10.42.147
นู๋ส่งของให้เมื่อตอนบ่ายแล้วนะคะคุณลูกค้าทุกท่าน
ความคิดเห็นที่ : 39

tamamajung

03/09/2016 15:12:15
0
IP : 58.10.42.147
^-^
"ขายน้ำหอมใช้เองคะ **มีของใหม่เพิ่มนะคะ**"