ใจนึงคิดว่าคงต้องปรับตัว แต่อีกใจนึงก็ยังขอยึดติดรูปแบบเดิมๆ อย่างน้อย vivo กับ meizu ก็ยังไม่จากเราไป ผมรอดูสเปค meizu pro6 plus ครับ

แต่ยังไงสักวันเราก็คงต้องก้าวถึงครับ เหมือนเมื่อก่อน ผมเองก็ไม่คิดว่าวันนี้มันจะมี app streaming music กันแบบหลากหลายขนาดนี้ เจ้าใจอารมณ์คนที่เล่นแผ่นเสียง แล้ววันนึงอยู่ๆเปลี่ยนมาเป็น digital file ซะงั้นเลยครับ

แต่ผมว่าคนที่ใช้ DAP ฟังเป็นนิจคงไม่มีผลกระทบอะไรมาก จะมีแต่พวกที่ติดตามข่าวมือถืออย่างใกล้ชิดนี่แหละ ผมเองยังปวดหัวตึ้บเลย 5555

มองในแง่ดีก็รู้สึกดีที่เริ่มมันการเปลี่ยนแปลงครับ

เมื่อเทคโนโลยีใหม่ๆมา ของเก่าก็เริ่มหายไป

หลังจากนี้อาจจะมีหูฟังใหม่ๆที่ออกมาเป็น usb-c lightning แทน 3.5mm เดิมออกมาเรื่อยๆ

ตอนโมโตออกตัวมาไม่กี่วัน มีคนเขียนสับแหลกไปแล้ว

ส่วนตัวมองว่าไม่เวิร์คมากถ้าต้องเล่นผ่านอแดปเตอร์ ส่วนหูฟังสำหรับคนที่ใช้ประจำอยู่แล้ว การใช้โทรศัพท์เสียงดีๆเป็นความสะดวกในการพกพาอ่ะ ถ้าต้องเปลี่ยนไปใช้หูฟังเฉพาะคงไม่สะดวกเท่าไหร่ เพราะจริงๆสำหรับเราหูฟังที่ใช้กับ dap กับโทรศัพท์เราก็ใช้อันเดียวกันแหละ (แต่พก 3 คู่เป็นประจำ)

นี่ยังไม่รวมถึงหูฟังที่จะออกมารองรับที่ราคาจะสูงกว่าและคุณภาพต่ำกว่า ยังมีข้อปลีกย่อยอื่นอีกเช่นการใช้พอร์ตเดียวทำให้ทำงานพร้อมกับอย่างอื่นไม่ได้ (ชาร์จไฟ otg หรือต่อสายออกไปทำอย่างอื่นกลายเป็นต้องใช้ลำโพงซึ่งอาจจะรบกวนคนอื่น)

ถ้าจะใช้มือถือทำอะไรหลายอย่างพร้อมกัน รวมทั้งใช้หูฟังด้วยแล้วต้องต่อ usb-c hub คงมันพิลึก เพราะอุปกรณ์อื่นที่เป็น wireless ก็ใช่ว่าจะพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้า

ไม่ง้อ ไม่ซื้อ ไม่จำเป็น

ก็ดีครับ ถ้ามันมาตราฐานทั่วโลกก็คงต้องปรับตาม มันจะทำให้การออกแบบไม่ต้องมีพอร์ตมากมายให้วุ่นวาย ผมชอบความเรียบง่ายอยู่แล้วด้วย

แต่ปัญหาคือ ผมว่าฝั่ง apple[อุปกรณ์พกพา] คงใช้ สาย Lightning ซึ่งจะเป็นปัญหาถ้าผมใช้หูฟังตัวเดิมแต่จะเปลี่ยนไปใช้เครื่องอื่นที่เป็น type c

แค่ Apple คิดจะทำอะไรหรือนำอะไรใหม่มาใส่ในอุปกรณ์ พวกก็เล่นทำกันเป็นว่าเล่น

ออกก่อน Apple ก็มี ขอให้รู้ข่าวเถอะทำก่อนเลยชิงตัดหน้าเลยดีกว่า 555

ได้ข่าวว่า MacBook Pro จะใส่จอควบคุมบนแผงควบคุมด้านบน เชื่อสิว่าพวกจะทำออกมาก่อนหรือทำตาม

กันอีกเช่นเคย ( เกี่ยวกันกับหัวข้อไหมนี่ 555)

ผมเชื่อว่าอะไรที่ทำให้คนใช้ยากขึ้นยอดขายจะเป็นตัวตัดสินครับ และถ้าขายไม่ดี คนก็ไปซื้อยี่ห้ออื่นๆกันหมด เพราะมันไม่ได้มีอยู่ยี่ห้อเดียวนี่นา

มันทำให้เกิดอุปกรณ์ต่อพ่วงใหม่ๆขึ้นมาด้วยนะครับ เช่น external dac ที่ใช้โทรศัพท์เป็นแค่ source เก็บเพลงและตัวเล่น ส่วนเสียงออกมาอยู่ข้างนอก

ผมเองได้ตัว external dac ที่ใช้กับทั้ง lighting (iOS) และ MHT (Android) ของยี่ห้อ Elecom ซึ่งเสียงที่ออกมาดีใช้ได้และให้แรงขับที่สามารถขับหูฟังแบบ 3.5mm ได้หลากหลาย

iOS ก็มี หน้าตาเหมือนกัน

ส่วนหูฟังที่เป็น port lightning ก็มีออกมาแล้ว โดยในหูฟังจะมีตัว dac/amp อยู่ในตัวเลย อย่างของ philips Fidelio ML2

แสดงว่า apple ก็เล็งตลาดexternal DAC ไว้ด้วย และต้องการรวบยอดบริษัทหูฟัง ในการขายผ่านapp store แต่ที่apple ต้องการจิงๆ คงเป็นโทรศัพท์ที่บางที่สุดในโลก แต่ moto มาเห็นไอเดียก็เลยชิงตัดหน้า ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อapple ด้วยเพราะเหมือนเป็นการลองตลาดของ project apple ไปในตัว และตอนนี้ทั้งหูฟังและลำโพงก็มาในทิศทาง blue tools ด้วย

ผมพึ่งเข้าวงการหูฟังไม่นานนี้ครับ แต่รู้เรื่องโทรศัพท์เยอะพอควรเลย ค่อนข้างมั่นใจได้เลยว่า
ถ้าแอปเปิลทำไร แบรนด์อื่นทำตามแน่นอนครับ 5555 สมมติเราจะซื้อหูฟังใหม่แบบงบสูงๆ
ช่วงที่โทรศัพท์เปลี่ยนไปฟังผ่านไลท์นิ่งพอร์ท เราคงลำบากใจแย่

ปล่อยหน่วยกล้าตายเขาลองไปก่อนครับ

แทบไม่กระทบกะคนเล่นหูฟังอะนะผมว่า โดยทั่วๆไปนักเล่นจะมี DAP อยู่แล้ว อย่างเช่นผม

ที่ตอนนี้ผมแทบไม่ฟังเพลงจากมือถือ

แต่ถ้าคนอื่นๆที่ฟังเพลงกับมือถือ กระทบแน่ๆเพราะชาจไปฟังเพลงไปไม่ได้แล้ว แต่แน่นอนว่าจะปรับตัวกันได้แน่ๆ มีอแดปเตอร์มาขายแน่ๆ และตอนนี้หูฟัง BT ราคาถูกลงมามากๆ

ผมรู้สึกว่าทางฝั่งแอนดรอยด์ เช่น LeEco เป็นการมัดมือชกซื้อโทรศัพท์มาแล้วถูกบีบบังคับให้ใช้หูฟังได้ไม่กี่รุ่น แต่ทางฝั่งที่ซัพพอร์ทiosนั้นดูเป็นทางเลือกใหม่ๆ และเพิ่มลูกเล่นดีรรับ

ไม่ต้องกังวลจ้า หูฟังรุ่นใหม่ๆต้องพัฒนามาให้เราเลือกกันอย่างจุใจแน่นอน เก่าไป ใหม่มา เป็นเรื่องธรรมดาครับ