ผู้พลิกโฉมประวัติศาสตร์:

จากความรู้ในไฟ นำพามนุษย์ไปสู่ความเข้าใจในการใช้ความร้อนละลายธาตุวัตถุ ความซับซ้อนทางความคิดนี้กระตุ้นเร้าให้มนุษย์รู้การพัฒนาคุณภาพและทำลายข้อจำกัดขีดความสามารถด้วยการใช้แร่ธาตุเป็นปัจจัย และปฐมธาตุนั้นก็คือ “ทองแดง” ซึ่งมนุษย์ผู้กุมความลับแห่งการแปรก้อนธาตุให้กลายเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ อาวุธ ฯลฯ ก็คือผู้ทรงอำนาจอย่างแท้จริงจนสามารถก่อบังเกิดอารยธรรมยิ่งใหญ่ขึ้นมาในโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เพียงเพราะแร่ธาตุทองแดงที่พลิกเทคโนโลยีของมนุษย์ให้เจริญรุดหน้าจวบกาลปัจจุบัน

ทำไมต้องเป็นทองแดง? :

ไม่จำเป็นต้องมีความรู้เชิงโลหะวิทยาอะไรมากมาย เด็กตัวเล็กตัวน้อยก็รู้มาแต่อ้อนแต่ออกว่าสายไฟทำมาจากทองแดง แต่เมื่อศึกษาจนเข้าใจก็จะรู้ว่าลำดับของความสามารถในการเหนี่ยวนำไฟฟ้าของแร่ธาตุต่างๆมีดังนี้
1. เงิน
2. ทองแดง
3. ทองคำ
4. อลูมิเนียม
5. ทังสเตน
6. สังกะสี
7. นิเกิล
8. เหล็ก
9. ทองคำขาว
10. ดีบุก
11. ตะกั่ว

นอกเหนือจากคุณสมบัติที่ดีในการนำไฟฟ้า ทองแดงยังมีส่วนเกี่ยวพันกับคุณภาพเสียงของเครื่องดนตรีหลายชนิดในวงซิมโฟนี โดยมักเป็นส่วนประกอบเพื่อสร้างพลังเสียงที่หนักแน่น และลงลึก เช่นในส่วนท่อต่างๆของเครื่องเป่า
ดังนั้นก้อนทองแดงบริสุทธิ์ทึบตันขนาดน้ำหนักก้อนละ 1.7 กิโลกรัม จึงเป็นตัวเลือกที่ถูกนำมาเป็นตัวถังของที่สุดแห่งเครื่องเล่นเพลงแบบพกพาในโลกใบนี้ ด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสมทั้งการนำไฟฟ้าและราคาที่ไม่ต้องไปจินตนาการถึงเครื่องเล่นที่ทำจากก้อนเงินบริสุทธิ์ !

จากน้ำหนัก 1,700 กรัมของก้อนทองแดงจะถูกนำมาสกัด สลักเสลาจนได้ตัวถังที่มีน้ำหนักเหลือเพียง 175 กรัม เท่านั้น!

กระบวนการ:

การสร้างตัวถังของ AK380 Copper นั้นมีขั้นตอนมากมายนับแต่การการสกัดก้อนทองแดงเพื่อเป็นโครงสร้างหลักของตัวถังที่กินเวลาถึง 4 ชั่วโมงต่อ 1 ก้อน ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ทักษะฝีมือในเชิงช่างและต้องใส่ใจในรายละเอียดเป็นอย่างมาก ในการควบคุมเส้นสายของรูปทรงซึ่งมีความผิดพลาดได้ง่ายแตกต่างจากการสกัดก้อนดูราลูมีนของ AK380 standard ซึ่งเป็นกระบวนการเชิงอุตสาหกรรมที่ง่ายกว่า

หลังโครงสร้างหลักถูกสกัดเสร็จสิ้น กระบวนการที่ยุ่งยากต่อมาคือการขัดแต่งผิวตัวถังด้วยการใช้แปรงขัด ซึ่งต้องใช้ช่างชำนาญการทำงานขัดแต่งไม่น้อยกว่า 30 นาทีต่อ 1 ชิ้นงาน

ตัวถัง

ธรรมชาติของทองแดงก็เฉกเช่นเดียวกับโลหะชนิดอื่นคือ มีปฏิกิริยากับอากาศหรือที่เรียกว่า oxidation เมื่อโลหะสัมผัสกับอากาศจะส่งผลให้ผิวของโลหะเกิดคราบหมองหรือ Patina ดังนั้นกระบวนการชะลอปฏิกิริยาดังกล่าวจึงมีความยุ่งยากถึง 4 ขั้นตอน
1. การขจัดคราบไข น้ำมัน เศษฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นในกระบวนการที่ผ่านมาด้วยไฟฟ้า
2. การกัดกรด เพื่อทำความสะอาดคราบอ๊อกไซด์บนพื้นผิว และทำให้รอยมาร์กเลเซอร์มีความชัดเจนขึ้น
3. การเคลือบฟิล์มรักษาพื้นผิว
4. การอบแห้ง

เคสหนัง:

นับเป็นปราการหน้าในการป้องกันการ oxidation โดยเฉพาะจากมือของเรา แต่ AK380 Copper ไม่ได้คิดเพียงแค่นั้น
เพราะวัสดุที่นำมาใช้ตัดเย็บนั้นคือหนังธรรมชาติที่เรียกกันว่า “V1” โดยมีกระบวนการผลิตทั้งหมดจากโรงงานในประทศตุรกีที่รับจ้างทำงานหนังให้กับสินค้าแบรนด์หรูหรามากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Louis Vuitton !!!
ที่บรรจงเลือกใส่หนังคุณภาพสูงสุดนี้ลงไปในส่วนหูหิ้วของกระเป๋าทุกใบที่ประทับโคตรแบรนด์นี้

ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับคุณภาพหนังจากตุรกีที่มีประวัติการทำงานยาวนานตั้งแต่ปี 1930 จนเป็นที่ยอมรับของชนชั้นสูงทั่วโลกในเรื่องคุณภาพและความสวยงามของงานหนังละเมียดละไมจากตุรกีนี้

และมันได้ปรากฏเพื่อห่อหุ้ม AK380 Copper ในมือของเรา !!!

380 VS 380 Cu

คงไม่ต้องเสียเวลาไปประหมัดกับใครให้เปลืองแรงเปลืองเวลา คู่เปรียบของ 380 Cu ก็คงมีแค่ 380 ขุนศึกในค่ายเดียวกันนั่นเอง 55
ก่อนฟังเสียงของ 380 Cu ผมฟัง 380 มาร่วมปีและเห็นพัฒนาการด้านเสียงของมันที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จากทุกครั้งที่อัพเฟิร์มแวร์และเชื่อว่านี่คือขีดสุดของคุณภาพเสียงเท่าที่เครื่องเล่นพกพาจะมีให้ได้แล้ว
จนเมื่อ 380 Cu ถูกนำเสนอต่อสาธารณชนและนำเสนอว่ามีการเปลี่ยนแปลงเพียงแค่ตัวถังจากดูราลูมีนไปเป็นทองแดงเพียงเท่านั้น ! ไส้ในทุกอย่างคงเดิมของ 380 ไม่มีเปลี่ยนแปลงใดๆเลย นี่โลกการค้ามันหลอกกินตังค์เราอีกแล้วหรือนี่?

แต่ผมคิดผิดครับ ! เมื่อได้ฟัง AK380 Copper

อ่านเพลินเลยครับ

ได้ความรู้ และ เพลินมากครับ ^_^

จะติดก็อย่างเดียว ........... อยากได้ครับ 555+

แรกสัมผัสเสียงของ 380 Cu คือความใสครับ เป็นความใสที่สะอาดสะอ้าน กระจ่างชัดแทบทุกอณูเสียง
สัมผัสต่อมาคือมวลเบสมี่มีพลังและลงได้ลึกกว่า 380 อย่างชัดจน
ส่วนในเรื่องมิติและรายละเอียดผมขอใช้คำว่า " ลึกล้ำสุดพิสดาร " เหมือนวรยุทธในหนังจีนกำลังภายในกันทีเดียว

ผมเปิดฟังเพลง " Shepherd of Fire " ในช่วง intro ผมได้ยินเสียงกองไฟแตกปะทุใน 380
แต่ใน 380 Cu มันกลายเป็นไฟลามทุ่ง ที่ลุกลามแผ่กว้าง กำลังลุกกระพือโหมด้วยลมร้อนแรง ลามเลียแผดเผาสิ่งต่างๆรอบตัวให้มอดไหม้
พอถึงจังหวะลงกลอง ใน 380 จะเป็นมวลแน่นมีลักษณะเป็นลูกกลมวิ่งเข้าปะทะ
แต่ 380 Cu จะมาแบบคลื่นลูกโตที่ซ้อนจังหวะเป็นชั้นๆอย่างน่าแปลกประหลาด ชนิดที่ต้องร้องว้าว! ในใจครับ

บทนำเยี่ยมเลย

ปูเสื่อรอครับ

แต่อยากบอกด้วยคนครับว่า คิดไม่ผิดครับที่มาลง copper...

แนะนำว่าการหุ้มใสรนไฟทั้งตัว ช่วยยืดระยะเวลาเกิดออกไซด์นะครับ

ยินดีต้อนรับสู่ชมรมคนทองแดงครับ ^__^

สิ่งที่น่าจะเป็นหมัดน็อคของ 380 Cu คือเสียงร้องที่เหนือกว่า 380 แบบชัดเจน
อิมเมจของเสียงทำให้สามารถสัมผัสตัวตนของนักร้องแบบสุดๆ แม้เสียงร้องจะเขยิบเข้ามาใกล้มากกว่า 380 แต่กลับไม่รู้สึกว่าลอย หากแต่เป็นระยะสมดุลย์ที่สุดระหว่างเสียงร้องกับเสียงดนตรีเท่าที่เคยได้ยินมาครับ

กระทะทองแดง!!!!! แน่ถ้าโดน ผบ. ตรวจพบบิล 555

@ lek_ultra คงรีวิวเรื่อยๆแบบ Pandora ครับ 55
ตามฉบับคนบ้าเห่อ คือยังเพิ่งเบิร์นแต่อยากนำเสนอแล้วครับ 555

ผมไม่กังวลเรื่อง Patina หรือคราบด่างดำเลยครับ ธรรมชาติมันเป็นยังไงก็ปล่อยมันไปตามวิถีมัน

นี่ยังคิดทาน้ำยาเพื่อเปลี่ยนผิวเป็นสีน้ำเงินเลยครับ 55555

ป.ล. สีผิวของทองแดงสามารถใช้เคมีต่างๆทำได้เป็นร้อยเฉดสีเลยนะครับ ถ้าเบื่อก็ล้างออก

อ่านแล้วรู้สึกร้อน เหมือนดิ้นแด่วๆๆๆๆๆ ในกระทะทองแดงยังไงก็ไม่รู้ครับ อาจารย์

380copper + pandora + k10 นี่มันที่สุดของเสียงแล้วนะครัช อิจฉาอาจารย์ahuraจริงๆ

ลักษณะการเปลี่ยนแปลงสีผิวของ AK380 Copper ถ้าปล่อยเป็นไปตามธรรมชาติ

แต่เราสามารถเร่งกระบวนการได้ด้วยเคมีครับ

เป็นสีนี้ทั้งตัวยังได้เลยครับ
แค่ใช้เคมีหลายตัวพรมลงไป

อูยยยยยยยยย ร้อนๆๆๆๆ

ล๊อตหน้าอีกแป๊ปเดียวมาครับน้าอ่าง! ดับร้อนได้เลย 555

File แจ่ม source ยอด Speaker ใช่

....ใช้เวลาฟังเพลงทั้งที อย่าให้อะไรมาเป็นข้อจำกัดครับ มีความสุขกับสิ่งที่ชอบ ถ้าใช่ จัดได้จัดครับ....

สุดยอดแล้วครับ

ขอถือป้ายไฟหน่อยนะครับจารย์ 555

ผมชอบลีลาพรรณาโวหารของอาจารย์มาก อ่านแล้วคล้ายนิทานจักรๆวงศ์ๆของฝรั่งผสมกับอ่านบทความของนักเคมีเลยครับ 555

มาตามเสพผลงานรีวิวที่เป็นดั่งงานศิลปะของอาจารย์ Ahura ครับ

บรรยายได้สุดยอดอีกแล้วครับจาร์ย
แต่เจ้าทองแดงมันยังไม่แดงเท่าตัวของผมครับ 555 ^^

สุดยอดเลยครับอาจารย์ ผมชอบอ่านเวลาอาจารย์พรรณาไปถึงอดีต บรรยายได้สุดยอดมากครับ

อ่านเพลินแถมได้ความรู้ด้วย สุดยอดครับอาจารย์

อยากเห็น 380 คอปเปอร์มี patina แนวอาร์ทของ อ. มากเลยครับ. 55

ถ้าเอาแนวประหลาดพิสดารมันต้องมีความร้อนช่วยโดยใช้ไฟเป่า แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าคงไม่กล้าแกะเครื่องอะครับ 555

ปล่อยเอาไว้ให้มันขึ้นคราบมอมเต็มที่ก่อนผมจะเปลี่ยนสีมันเป็นสีน้ำเงินครับ โพสต์ในเฮดไฟรับรองตะลึงตาแตก 55

ถ้ามีเวลาจะค้นงานหล่อทองแดงของผมที่ทำสีเหมือนดินให้ดูสวยมากๆครับ ^ ^

ทำเป็นสีแมงทับทองเลยซิครับจารย์ เท่ห์ระเบิดแน่ๆ 555

รอว่าเมื่อไหร่จะมีปุ่มกดไลค์นะครับเนี่ย ^ ^

พวกสีเหลือบๆ รุ้งๆ นี่แหละครับน้าชาที่ต้องใช้ไฟเป่า ผมไม่เสี่ยงแน่ๆครับ @_@

ขอบคุณเหล่ามิตรรักแฟนรีวิวทุกท่านครับ

คืนนี้ผมคงไม่ได้หลับไม่ได้นอน นั่งฟังไฟล์เพลง DSD ของ Dead Can Dance มา 5 - 6 อัลบั้มแล้วตื่นตะลึง

ไม่นงไม่นอนมันแล้วครับ 555555

รออ่านอีกคนคับ

แต่ตอนเช้าอย่างนี้ สงสัยอาจารย์จะเครื่องดับไปแร้ว ว ว ^ ^

หักโหมมากระวัง overheatนะคับ เป็นห่วง

ผมชอบรีวิวของอาจารย์ตรงที่ ทิ้งชื่อเพลงไว้ให้ตามไปลองฟังนี่ล่ะครับ
คือบางทีอ่านๆ นึกคิดตามอย่างเดียวมันไม่เห็นภาพ พอได้ลองฟังเพลงที่กล่าวมาแล้วจินตนาการตามไปด้วย ทำให้เห็นภาพชัดขึ้นมากๆเลยครับ

สุดยอดครับอาจารย์ Ahura

อ. Ahura คือศิลปินในศิลปะของการฟังเพลง อย่างแท้จริงครับ สุขุมนุ่มลึก ประหนึ่งเรากำลังวิจารณ์รูปวาด โมนาลิซา กันเลยทีเดียว

ส่วนผมขอจบ ที่ AK240 + Chord Hugo + HPA-01M โดยใช้หูฟังหลักๆคือ K10u ครับ

ตอนนี้กลับไปหลงใหลการฟังเพลงจากแผ่นเสียงครับ ได้อารมณ์ คนละแบบไปเลย

เพลงนี้ของ Dead Can Dance ผมเอาไว้เทสเสียง Space Ambience กับ deep bass ครับ ^^



https://www.youtube.com/watch?v=2ZpXPwmbQvc

อ.ครับ patina มายังครับ ผมรอดูอยู่ครับ 55

Patina 25-30 Years นี่สีสวยดีนะครับ 555

สงสัยช่วงเช้าอาจารย์จะสลบเหมือด ฮ่ะฮ่ะ..
รออ่านครับ เพราะถ้าวันนี้ไม่มีรีวิวต่อ สุดสัปดาห์อาจารย์น่าจะต้องไปปฏิบัติภาระกิจ..ราหุชาโต พันธนัง...สกุโณชาโต ทวิพันธนังชาตัง = =* ต้องรอเย็นวันอาทิตย์

หรือมิฉะนั้นก็ตบะแตกแอบพิมพ์รีวิวตอนเสาร์อาทิตย์เลย 5555
ผมกำลังเดาว่าจะเป็นแบบหลัง ^ ^

เดี๋ยวขอเบิร์นแบบ non stop สัก 3 วัน 3 คืน แล้ววันจันทร์จะเก็บรายละเอียดมาเล่าสู่กันฟังนะครับ

ส่วน Patina รอให้เครื่องมันมอมเต็มที่ก่อนครับหลุยส์ถึงจะเล่นสีเอามันส์ 555

ลองใช้แอมโมเนียกับทองแดง patina สีน้ำเงินมันยังขึ้นไม่ค่อยสวย คงต้องหาน้ำยาของต่างประเทศ

กะให้ออกมาเข้มสวยเป็น AK380 Blue Note ครับ 55555

น้าชาครับก่อนจะนอนผมมักจะปิดไฟมืดๆ เร่งแอร์เย็นๆ ใส่หูฟังแล้วเปิด Dead Can Dance อัลบั้มไหนก็ได้

เสมือนได้อยู่ในวิหารที่ด้านหน้าเป็นสุสาน เหมาะแก่สุขคตินิทรารมย์ครับ 555

แต่ AK380 Cu + Pandora มันทำให้เราเสมือนอยู่ในมหาวิหารอลังการแบบโกธิคที่พระเจ้าสถิตย์ครับ !

ป.ล. เพลงแนวนี้ Era ก็เหมาะครับ แต่วิหารมันลอยออกอวกาศไปหน่อย 555

โอ้ว รีวิวได้เยี่ยมยุทธไปเลยครับอาจารย์

อ่านแล้วอยากเห็น patina ไวๆเลยละครับ 555+

ตอนนี้ให้อาจารย์ไปพักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์ก่อน แล้ววันจันทร์มารออ่านพร้อมๆๆกันนะครับ 555

สถานการณ์เบิร์น ณ. 60 ชั่วโมง ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่างใส ซึ่งดูเหมือนจะดีครับ

แต่มันขัดใจตรงมวลเบสมันด้นกระจ่างใสเกินไป (หรือเพราะยังไม่ชิน?) ปริมาตรมันไม่แน่นไม่ตึ่บเหมือน 380 แม้จะลงได้ลึกก็ตาม

รอครบ 100 ชั่วโมงก็น่าจะสรุปอะไรชัดเจนได้มากขึ้นครับ ^ ^

เอารูปการขึ้นคราบของ User ใน Head-fi มาให้ดูกันครับ

ซึ่งกว่าจะขึ้นคราบแค่นี้คงต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆเพราะฟิล์มที่เคลือบผิวยังปกป้องอยู่

อ่านดูแล้วรู้สึกว่าฝรั่งจะเดือดร้อนกับเรื่องปัญหาความเงางามของตัวเครื่องกันมาก เพราะมันเปลี่ยนสภาพได้

แต่ผมไม่มีปัญหากับมันครับ! 555

แกะลายแบบนี้ก็น่าสนนิ!

ของหมอนี่ใช้วิธีเอาไปอังกับไอของไข่ต้ม !! เพื่อให้ได้สี Dark Copper แบบสม่ำเสมอจากการระเหยของซัลเฟอร์ในเปลือกไข่ 555

หมอคงไม่รู้ว่าถ้าใช้ซัลฟูริกกับน้ำในสัดส่วนที่เหมาะสมมันจะกลายเป็นสีเขียว ^ ^

ผมเริ่มนึกถึงการใช้ส้มมะขามเปียกขัดพระพุทธรุปเข้าไปแล้วครับ 'จารย์ = =*

นอกจากเสพสุขทางเสียงแล้ว ยังเสพศิลป์ทางตาได้อีกด้วย เป็นกระทู้ที่อ่านแล้วได้อะไรมากกว่าที่คิดเยอะเลยครับ

ปูเสื่อรอชมความงามของพาทิน่าชั้นครูเลยครับ 555+

ถ้าผิวพรรณของ AK ดูเสมือนถูกบรรจงปั้นแต่งด้วยดินก็ดูน่าสนใจนะครับ ^ ^

หูเก่าๆ ไม่ต้องหลายไดรเวอร์ ก็ไปได้ "น่าฟังมากขึ้นด้วย" กับ 380 Copper นะครับ

กับ KSC35 อายุร่วม 10 ปี เบสมีมวลและดีเทลที่น่าฟัง ไดนามิกที่เร็ว แฉ ฉาบ เส้นสแนร์ที่กระพือ เสียงแซ็ก แหมมันช่างสดน่าฟังครับ

ของคุณเล็กใช้เฟิร์มแวร์ตัวไหนอยู่ และเสียงเป็นอย่างไรครับ?

ต้องขอโทษครับ ผมเป็นมือใหม่ครับ ต้องรบกวนถามท่านอาจารย์ผู้รู้ครับ เนื่องจากAK380ทั้งสองรุ่นมีวงจรรวมถึงchipและชนิดของวัสดุเหมือนกันหมดยกเว้นแต่ตัวbodyที่มีวัสดุต่างกัน แต่ทำไมเสียงของสองตัวนี้เสียงถึงไม่เหมือนกันครับ

ของยังงี้ต้องลองด้วยหูตัวเองครับ จะได้รู้ว่าแตกต่างกันจริงหรือเปล่า ไปเรือธงเลยครับ

พอดีตอนนี้มีปัญหากับการประเมินเสียงของ Cu ครับ

เพราะเมื่อแกะกล่องจะลงเฟิร์มแวร์ 1.19 (ล๊อตแรกจะเป็น 1.18)

เสียงเมื่อเทียบกับ 380 แล้วพบว่ามันไม่ใช่การพัฒนาแต่เป็นความแตกต่างอย่างชัดเจนครับ (380 เฟิร์มแวร์ 1.24)

คือมันใสเคลียร์ในทุกย่านเสียง มิติแพรวพราว เสียงร้องสด อิ่ม ฉ่ำมากๆ ซึ่งมันค่อนข้างขัดกับบุคลิกเดิมๆของ AK ที่ออกนุ่มแน่น สมูธ

แต่วันก่อนผมอัพเป็น 1.24 ปรากฏว่าลักษณะดังกล่าวหายไป กลับไปเป็นลักษณะเสียงเดียวกับ 380 FW1.24

เพียงแต่ใสเคลียร์ ฉ่ำกว่า รายละเอียดสูงกว่า เบสลึกกว่า 380 ครับ


ซึ่งผมคิดว่าทีมงานพัฒนา FW ต้องการคอนโทลบุคลิกของ siries 300 ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันครับ

ตอนนี้ยังไม่มีเดโม Cu ที่ร้านครับ

แต่เมื่อวานเพิ่งอัพ 380 ตัวเดโมที่เรือธง จาก FW 1.19 เป็น FW 1.24 ทำให้เสียงร้องและมิติดีขึ้นมาก

ถ้ารอเดโม Cu ไม่ไหวก็ให้ฟังเดโม 380 FW1.24 แต่ให้จินตนาการถึงความใสและฉ่ำบวกเข้าไปในเสียงกลางกับแหลมครับ ^ ^

@ blackhole

เนื่องจากการดีไซด์ออกแบบของเพลเยอร์ AK ได้ใช้เคสแชสซีเป็นแท่นกราวด์ของเครื่อง
ดังนั้นการไหลเวียนของกระแสไฟฟ้าก็จะต้องวิ่งผ่านเคสแชสซีอยู่ตลอดเวลาของการทำงาน
เพราะฉนั้นวัสดุที่นำมาใช้เป็นเคสแชสซีก็จะมีผลต่อการไหลเวียนของกระแสไฟในเครื่อง
ซึ่งก็แน่นอนว่ามันย่อมส่งผลให้กับเสียงที่ได้ออกมาด้วยครับ

fw ติดเครื่องครับ 1.19

คุณเล็กถ้าจะอัพ CU เป็น 1.24 มวลเบสจะหนาขึ้นเยอะเลยนะครับ ความสมูธมากขึ้น มิติด้านลึกมากขึ้น

AK มีข้อดีคือ FW อัพง่าย เร็ว และบ่อย
ข้อเสียคือเสียงเปลี่ยนชัดเจนในแต่ละ FW และการดาวน์เกรดกลับไปเป็นเรื่องยากมากครับ

ขอบคุณมากครับคุณRockDragon เป็นเหตุผลที่ดีและเข้าใจได้ครับ ผมว่าถ้าผมเป็นฝ่ายการตลาดของAK ผมจะลองวัสดุอื่นๆเช่นเงินหรือทองK แล้วทดลองเสียง ถ้าเสียงดีกว่าเชื่อว่าก็มีคนซื้อ ทำเป็น Limited Edition

ถ้าใช้เงินหรือทองเค ราคาคงโดดไป 2-3 แสนบาท ซื้อบิ๊กไบค์ได้เลยครับ

ผมเชื่อว่ามีคนซื้อครับ ตอนนี้ตัวธรรมดาก็แสนกว่าบาทแล้ว ตัวทองแดงก็แสนแก่ๆ ถ้าออกตัวเงินหรือตัวทอง (ไม่ใช่ตัวตัวเงินตัวทองนะ) ที่เป็น Limited Edition จะอัพราคาอีกผมเชื่อว่าก็มีคนซื้อครับ

อากาศครึ้มๆ เย็นๆ ว่างๆ นั่งฟังเพลงตามประสาคนไม่มีอะไรจะทำที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต
ก็ผุดไอเดียหยิบ copper ที่ยังมีสภาพเอี่ยมอ่องออกมาขัดเงาเล่นสะงั้น !

อุปกรณ์ก็มีแค่หัวลูกผ้า, เครื่องกรอ hi-speed, ผ้าชาร์มัวร์เทียม, ครีม Wenol (คุณภาพดีกว่า Brasso)
ความตั้งใจคือกะจะให้ AK380 Cu ขึ้นเงาถึงระดับกลายเป็นกระจกเงา (mirror shine)

ปฏิบัติการไร้สาระของคนว่างจัดเริ่มขึ้นแล้ววว !!!! 5555

อยากสร้างประโยชน์มั้ยละจารย์ เผื่อแผ่มาซักสองเดือนเดี๋ยวจะเอาให้วิ๊งๆเลย ฮี่ฮี่ฮี่

อ้าว!! อาจารย์ครับ ขัดซะเงาแว้บขนาดนี้ แฟนๆที่รอดูผลงาน patina ของอาจารย์ก็ต้องรออีกนานสิครับ

จารย์เอาไปขัดด้วยครีม Wenol แล้วพื้นผิวที่ทางโรงงานได้ทำการเคลือบฟิล์มรักษาพร้อมอบแห้งมาให้มันก็หมดไปซิครับ

เพิ่งขัดเสร็จครับ

ผลออกมายังไม่เป็นที่น่าพึงพอใจเพราะต้องการความเงาสะท้อนระดับส่องหัวสิว 555

ปัญหาน่าจะมาจากการใช้ Wenol แทนการใช้ยาขัดชนิดอัดแท่งที่มีความแรงพอจะปิด gain ของผิวทองแดงจนสามารถสะท้อนเงาได้
ซึ้งยาชนิดนี้ถ้าปั่นขัดจะแทรกซึมไปทั่วทุกรูทุกร่อง และอาจเข้าไปก่อความเสียหายในตัวเครื่องได้

ผลของ Wenol แม้ใช้เครื่องขัดก็เงาได้เต็มที่เท่านี้ครับ (ภาพไม่ชัดเพราะผมนิยมใช้แต่กล้องกาก ของจริงเงาและสวยกว่าในภาพครับ ^ ^)


ข่าดีก็คือตอนนี้น้ำยาที่ทาง AK ใช่ coat กันการ oxidation ได้ถูกขัดออกไปจนหมดสิ้นแล้ว !!

ตอนนี้อย่าว่าแต่จับ แค่ลมปากเป่าก็ขึ้นคราบแล้วครับ 555

จุดประสงค์ที่ขัดเพื่อเป็นการเปิดผิวด้วยครับน้าชา

เพราถึงทาแอมโมเนียเพื่อให้เป็นสีน้ำเงินมันจะด่างๆดวงๆเพราะมีน้ำยาเคลือบอยู่ครับ

ส่วน Patina รอให้มันหมองเต็มที่ค่อยทำครับ ตอนนี้ขอชื่นชมความเงางามไปก่อนครับ 55

อ๋อ.. พอจะเข้าใจวัตถุประสงค์ของอาจารย์แล้วครับ
อาจารย์ขัด เพราะอยากให้มันไม่เงานี่เอง 555

555 หลังขัดออกมาได้หน้าผิวทองแดงเพียวๆตามที่จารย์ต้องการเลย ^^

มันเป็นวันที่ 16 วันความหวังแห่งชาติพอดี เป็นกาละอันเหมาะสม
'จารย์ขัดได้เลขอะไร รีบบอกกันหน่อยนะครับ เผื่อมีลุ้น ^ ^

สองตัวบนออก 16 ครับ...

ตอนแรกก็ยังคิดว่า อ.Ahura ล้อเล่นนะครับนี่

พอเห็นขัดเอาที่เคลือบออกแล้วต้องบอกว่าใจเด็ดจริงๆ คงเตรียมลุยแน่นอน ชักอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงว่าตอนนี้กลายเป็นสีน้ำเงินหรือยังเงาอยู่ครับอาจารย์

สิ่งที่ user ของ 380 Cu กังวลและบ่นกันก็คือเรื่องคราบหมองของผิวทองแดง

ซึ่งแม้จะชุบเคลือบมาใก้แล้วก็ตาม แต่เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งมันก็จะหมองอยู่ดี

ผมเลยคิดว่าไหนๆมันต้องขึ้นคราบ เราก็ทำคราบมันให้สวยเสียเลย 55

ทีนี้การทำคราบมันมีวิธีทั้งแบบร้อนและเย็น ซึ่งแน่นอนว่าวิธีเย็นปลอดภัยกับเครื่องมากที่สุด

แต่ปัญหาอยู่ที่วิธีเย็นจะได้สีแบบธรรมดาๆ เช่น น้ำตาล, ดำ, เขียว

ถ้าต้องการสีพิเศษเช่น แดง, น้ำเงิน, ม่วง ต้องทำให้ผิวมีอุณหภูมิถึง 100 องศาเสียก่อนถึงจะเกิดปฏิกิริยา

ตอนนี้ผมลองผสมเคมี 4 ตัวด้วยวิธีเย็นยังได้แค่เขียวอมฟ้าครับ

ยังหาวิธีปรับให้ได้น้ำเงินอยู่ ถ้าสำเร็จอาจคว้่าโนเบลสาขาโลหะวิทยาปีนี้ครับ 55555

จารย์อย่าลืมจำเสียงก่อนที่จะลงมือทำการเปลี่ยนสีไว้ให้แม่นๆด้วยนะ
ผมเอะใจว่าหลังจากเปลี่ยนสีผิวแล้วเสียงของมันก็คงจะมีเปลี่ยนตามไปด้วยครับ

ขอบคุณครับน้าชาข้อนี้ผมก็คิดอยู่เหมือนกันครับ

เพราะคราบ patina มี 2 ชนิดคือ แบบโปร่งแสง กับแบบทึบแสง

ลักษณะ patina แบบโปร่งมันเป็นแบบเดียวกับคราบนิ้วมือบนผิว ซึ่งผมเลยไม่ค่อยกังวลถึงผลกระทบกับเสียง

เคมีที่ใช้ทดลองผมก็ใช้กลุ่มไนเตรต ซึ่งโปร่งบางกว่ากลุ่มซัลเฟตที่ทึบหนา

เช่นตัวสร้างสีเขียวในทองแดงคือ คิวพิก ซึ่งมันมีทั้ง คิวพิกไนเตรต และ คิวพิกซัลเฟตครับ ^ ^

ยังมีเคมีอีกตัวที่น่าสนใจแต่ผมยังไม่รู้สูตร คือเมื่อทาตัวนี้ลงไปบนเนื้อทองแดง

จะเปลี่ยนสีผิวทองแดงให้กลายเป็นเงินครับ

กลายเป็น AK380 Silver ก็น่าสนใจนะครับ 555

อาจารย์ทำให้ผมนึกถึงนักเล่นแร่แปรธาตุสมัยก่อนเลยครับ

ทำไปทำมา เดี๋ยว 380 Cu จะกลายเป็น 380 Au (ทองคำ) ก็ได้นะครับ 555

ถ้ารู้จักคำว่าเล่นแร่แปรธาตุ น่าจะอายุราวๆผมเลยนะครับ 555

อ่อนกว่าเฮีย 10 ปีมั้งครับ 555

ตายจริง.. โดนเฮียเช็คอายุเลย 555
ผมยังไม่อาวุโสเท่าเฮียหรอกครับ
แต่เกิดทันได้ดูทีวีขาวดำตู้ไม้(จอตู้)อยู่ครับ ฮิฮิ

ผมกลับนึกถึงการ์ตูนเรื่อง Fullmetal Alchemist
ที่ผูกเรื่องศาสตร์การแปรธาตุ กับ ความรู้ขั้นสูงที่ทำให้มีพลังพิเศษและชีวิตอมตะได้สนุกดีครับ :D

มาแจ้งข่าวครับ AK Copper มีของเข้ามาเพิ่มแล้วนะคร้าบบ 555

555 มาเรื่อยๆเลย

ใครชอบเล่นแร่แปรธาตุก็อย่ารอช้า ไม่งั้นจะหมดอีกรอบนะครับ 555

สุดยอดครับอาจารย์
อยากได้เลยครับ 380 ทองแดง

รอบนี้สั่งมาเพียง 6 ตัวครับ 555 สั่งเยอะกว่านี้ไม่ไหว ไม่รู้ใครจะซื้อเหมือนกัน 555

ตลาดเมืองไทยนี่จำกัดมาก เทียบกับตลาดหูฟังในญี่ปุ่นนี้ยังฟ้ากะเหวเลยครับ 555

วันนี้มีผลงานคุณรัช ช่างหนังรู้ใจ งานฝีมือ ราคาย่อมเยาว์มาแบ่งปันข้อมูบครับ

ผมเข้าใจว่า พวกเราคนเล่นหูและเครื่องเล่น รุ่นก่อนๆ น่าจะรู้จักคุณรัชอยู่แล้ว

ด้วยเพราะผมชอบแบบที่เหน็บเข็มขัดได้ เพื่อความสะดวกในการถอดเข้าออก โดยไม่ต้องปลดเข็มขัด

ครั้นเสาะหาเคสตรงรุ่น 380+amp ก็ไม่มีชิ้นงานไหนที่ตอบโจทย์ได้ตรงทุกข้อ แถมแต่ละชิ้นราคาสูงๆทั้งนั้น

ผมทำมา 2 ใบ เป็นกระเป๋าเหน็บเข็มขัด หนังน้ำตาลเดินด้ายส้ม มีแถบหนังสอดหลังเข็มขัดมายึดกระดุมสเตนเลสได้แน่นหนา รับน้ำหนักได้สบายๆ ไม่หลุด หน้าเครื่องแนบเอว ไม่ตก ไม่ห้อย

อีกใบ ก็เป็นซองง่ายๆ พลาสติกใสหลบเซ็นเซอร์ขอบจอเพื่อให้สัมผัสหน้าจอได้ด้วย

สรุปคุณรัช ตอบโจทย์...แจ่ม ใช้งานได้จริง ราคาย่อมเยาว์ ส่งเสริม OTOP ไทย

ยกนิ้วโป้งให้ 5 โป้ง ครับ

ขออนุญาติเฮีย ใช้พื้นที่แนะนำร้านให้คุณรัชนะครับ

http://iruach.blogspot.com/

https://www.facebook.com/iruach/info?tab=page_info

ยังมีกระเป๋าหนัง ด้านหลังมีคลิ๊ปเหล็ก อีกชิ้นงานอยู่ระหว่างทำ โดยเพื่อนรู้ใจอีกท่านนึง เล่นหูฟังมานาน แต่ฝีมืองานหนังเนียนเนี๊ยบบบบบ กำลังช่วยทำให้ เสร็จเมื่อไรจะนำมาให้ชมกันครับ

มีเรื่องขอรบกวนชาวทองแดงที่เพิ่งอัพ firmware 1.24 เป็น 1.25

ว่ามีการเปลี่ยนแปลงของเสียงมากน้อยแค่ไหนครับ? นอกจากการเพิ่ม function การใช้งาน

เนื่องจากผมกำลังใช้เครื่องเบิร์น Layla II และมีการจดบันทึกการเปลี่ยนแปลงของเสียงในทุกรอบการเบิร์น

ซึ่งอันที่จริงเบิร์นมา 280 ชั่วโมงแล้วไม่รู้ว่ามันจะนิ่งหรือยัง? และก็อยากอัพเฟิร์มแวร์เต็มที่แล้วครับ 555


ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ ^ ^

เท่าที่ฟังเสียงน่าจะดีขึ้นอีกนะครับ แต่ไม่ได้จับพัฒนาการของเสียงมาตั้งแต่แรก

แต่ที่แน่ๆ วันนี้ไปเจอตัวนี้มา ไม่แน่ใจว่าใครอยากลองขัดก่อนหรือเปล่า 555

หลังจากประกอบกับแอมป์ก็ใส่เคสไม่ได้ สงสัยต้องปล่อยให้มี patina แล้วค่อยขัดด้วยน้ำยาข้างบนอีกครั้ง อิอิ

สั่งเคส Dignis เลยครับ :)

ขอบคุณครับคุณหลุ่ง

380Cu ช้าเร็วก็ต้องหมองครับ แม้จะผ่านการเคลือบน้ำยามาแล้วก็ตาม

แต่เมื่อตัดสินใจขัดเปิดผิวแล้วมันจะหมองเร็วมาก นอกจากใช้น้ำยากันหมองทาเคลือบใหม่ซึ่งน่าจะอยู่ได้ราวหนึ่งเดือนในจุดที่สัมผัสบ่อยๆ

ถ้าไม่อยากลงทุนมากก็ใช้น้ำยาทาเล็บก็ได้ครับ แต่ควรเจือจางด้วยอาซิโทนเสียหน่อยผิวเคลือบจะได้เรียบตึง เพราะพื้นที่ใหญ่ๆทาน้ำยาข้นๆรับรองดูไม่จืดครับ 555

ขอบคุณครับอาจารย์ 555

ผมรู้สึกแบบนั้นเลยครับ ลองฟัง copper แล้ว ไม่ถูกใจตรงมวลเบสนี่ละครับ ทำไมเบสมันใสมากๆ ไม่แน่นไม่ตึ๊บ เหมือน380 มันจะดีขึ้นกว่านี้ไหมครับท่าน Ahura ช่วยตอบด้วยครับ หลังจากเบรินเข้าที่แล้ว

555 เฮียพูดซะเห็นภาพเลย ตลาดเมืองไทยนี่ก็ต้องยอมรับครับ ยังไม่ค่อยกว้างเท่าไหร่ โดยเฉพาะพวก Hi-end ส่วนหนึ่งก็มาจากราคาอุปกรณ์เครื่องเล่นนี่ล่ะครับ แต่ผมว่าอุปกรณ์ระดับราคาเริ่มต้นหรือราคากลางๆนี่ก็ไปได้ดีนะครับ แต่ถ้าเป็นระดับเกินแสนนี่ผมเองยังต้องคิดแล้วคิดอีกเลยครับ คือมีปัญญาซื้อและอยากจะซื้อครับแต่ประเมินความพอเพียงแล้วคิดว่าตัวเราเองคงไม่ได้ถึงกับจำเป็นต้องฟังเสียงระดับเทพหรือมหาเทพขนาดนั้น 

เสียงเบสของ AK ส่วนหนึ่งมาจาก firmware ครับ

ขณะรีวิวที่ 60 ชม. ยังเป็นตัว 1.19 ต่อมาเมื่ออัพเป็น 1.24 เบสหนาและลึกขึ้นอีกเยอะครับ
ยืนยันว่าเมื่ออัพเฟิร์มแวร์ใกล้เคียงกัน 380Cu คุณภาพเบสเหนือกว่า 380 ครับ ^ ^