Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

ถ้ามีงบ 10,000+/- แล้ว in ear VS full-size จะให้เสียงต่างกันอย่างไรครับ ถ้างบเท่าๆ กัน

ขอบคุณครับ

22/05/2016 16:31:16
แบบไหนจะฟังได้ประทับใจกว่ากันครับ และต่างกันแค่ไหนครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

ขอบคุณครับ

22/05/2016 16:52:54
ตอนนี้มี in-ear รุ่น oriveti primacy อยู่ครับ
ใช้ฟังเพลง rock , pop, vocal

ปล. oriveti นั้นดีมากแล้วสำหรับผม
แต่อยากได้ full-size ที่เบสหนักแน่น เสียงร้องอิ่ม แหลมทอดเสียงไกลมีน้ำหนัก มาเสริมอีกตัว ให้ได้แนวเสียงที่แตกต่างจาก oriveti ออกไป ไว้ฟังเปลี่ยนอารมณ์เพลงครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

alone36

22/05/2016 17:08:56
8
full size เกิน 10000 แน่ๆถ้าเอาเสียงใกล้ๆกัน ที่เหลือก็ความชอบส่วนตัว
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

Tum Munkonggadget

22/05/2016 18:31:08
447
จะเด่นกันคนละแบบครับ Full - size ได้เปรียเรื่องบรรยากาศในการฟังที่โปร่ง โล่ง อิมเมจชิ้นดนตรีใหญ่ สมจริงกว่า

In - ear จะฟังได้ยินรายละเอียดเล็กๆน้อยๆได้ชัดกว่าครับ

Full size แนะนำลองฟัง Sennheiser Momentum 2 , Philips Fidelio X2 , Hifiman HE400S ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

Tum Munkonggadget

22/05/2016 18:32:02
447
*แกไขเป็น Full size ได้เปรียบเรื่องบรรยากาศในการฟังครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

นายมั่นคง

22/05/2016 21:25:04
4,282
ว่าจะตอบแบบเจ้าตั้มอยู่พอดี 555

พวก inear ให้เรื่องรายละเอียดหยุมหยิมได้ดีครับ แต่พวก Fullsize ให้เรื่องขอบเขตของซาวด์เสตทที่ดีกว่าครับ แต่ปัจจุบัน งบ 10000 บาทเท่าๆๆกัน พวกหูฟังตัวเล็กๆทำเสียงได้ดีกว่าฟูลไซส์แล้วครับ (บางยี่ห้ออีกอยู่ดี) ฟูลไซส์จะดีต้องเพิ่มงบให้สูงไปกว่านี้อีกหน่อย

ซึ่งถึงตรงนั้นจะมีเรื่องความสบายในการสวมใส่มาเกี่ยวกับอีกด้วยครับ 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

EvIsTeR

23/05/2016 00:18:43
1
ถ้าฟังเพลงวันละหลายชั่วโมงแล้วอยากใช้ Full Size แนะนำให้ไปเล่นกล้ามคอครับเพราะถึงหูฟังจะเบาแค่ไหนพอใส่ไปนานๆ วันละหลายชั่วโมงก้เมื่อยคออยู่ดีครับ (ผมใส่วันละ 8 ชั่วโมงเพราะทั้งใช้ทำงานและฟังเพลงหลังเลิกงาน)
ยิ่งเป็นหูฟัง (โดยเฉพาะ FS) Bluetooth หรือ Wireless อะไรพวกนี้เสียงดีก็จริงแต่ก็รับไม่ไหวกับความเมื่อยเหมือนกัน แถมพวก Bluetooth 4.0 ไรพวกนี้ก็เสียงกระตุกอีก แก้ได้โดยใช้พวกหูฟังกับ Player ที่รองรับ APTX และ APTX-LL แต่ถ้าตัวไหนไม่รองรับจะลองใช้พวก Saturn Pro มาทำ APTX ก็ได้ จะได้เสียงที่ดีขึ้นเหมือนต่อตรงแต่มี Noise มากวนใจตอนที่ตั้งใจฟัง
แต่พอจะเล่นหูฟัง In Ear ที่ต่อสายตรงก็จะมีปัญหาเรื่องสายสะบัดตอนที่เดินเท้ามาเป็น Noise แทนเสียงซ่าๆจากพวก Bluetooth หรือ Wireless แถมถ้าเกิดมีอะไรไปกระชากหูฟัง In Ear ให้หลุดจากหูรับรองมีปวดหูแน่ๆครับ จากประสบการณ์ของผมเคยปวดหูข้างที่โดนกระชากนานสุด 1 เดือน (นึกว่าจะเป็นถาวรซะแล้ว) แล้วก็พวกหูฟัง In Ear จากเท่าที่ฟังมาจะรู้สึกไม่ค่อยโล่งสบายเท่ากับหูฟัง FS แต่จะได้ความแน่นของเสียงที่มากกว่าในราคาเท่ากัน
ปัญหาเรื่องโดนกระชากหูฟังออกจากหูแก้ง่ายๆคือไปใช้จุกโฟม(เน่าทุก 1-3 เดือน) หรือไปใช้หูฟัง Ear Bud (ใส่สบายกว่าแต่เสียงข้างนอกรบกวนได้) หรือ CIEM (โดนกระชากแล้วมันยังเกี่ยวหูอยู่และหูฟังพวกนี้ไม่ค่อยดูดหูเท่าพวกพลาสติก) โดยทั้ง Earbud และ CIEM ถ้าจะเอาให้เสียงดีด้วยรับรองว่ากระเป๋าตังแห้งแน่ ว่าแล้วก็หยิบ CIEM ขึ้นมาฟังพร้อมกับซดมาม่าต่อไป
ปล.ถ้ารู้ว่ากระเป๋าตังจะแห้งแบบนี้ยอมใช้หูฟัง Small talk ฟังเพลงต่อไปดีกว่าไม่น่ามาลอง Demo ให้หูเสียเบย
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

EvIsTeR

23/05/2016 00:21:57
1
ลืมสรุปให้ฟัง
1.ถ้าจะเน้นใส่ฟังตอนที่กำลังเดินทาง แนะนำให้ใช้หูฟัง Bluetooth ดีกว่าครับ เสียงดีใช้ได้ เสียงโล่งสบาย แถมตอนที่เดินทางไม่รู้สึกถึง Noise ของ Bluetooth หรอกครับ
2.ถ้าจะใส่ฟังอยู่กับที่ แนะนำหาซื้อ DAP หรือ Player ต่อ DAC/AMP ดีๆ เข้ากับหูฟัง In Ear หรือ CIEM ดีกว่าครับ ฟินกว่าเยอะ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"ถ้ามีงบ 10,000+/- แล้ว in ear VS full-size จะให้เสียงต่างกันอย่างไรครับ ถ้างบเท่าๆ กัน"