น้ำหอมทุกตัวเป็นของแท้100% ซื้อจากเคาน์เตอร์ห้างทั้งหมดนะคะ (นัดเจอที่ห้างเพื่อตรวจเช็คได้คะ ไม่แท้คืนเงิน10เท่าคะ)
**หนูเปลี่ยนเบอร์กับไลน์ใหม่นะคะ เนื่องจากโทรศัพท์หาย ลูกค้าเก่ารบกวนแอดใหม่ทีนะคะ**
โทร 080-6295928
Line ID >> kusuma_kk
Creed น้ำหอมแบรนด์ที่เรียกได้ว่าแพงมากแต่คุณภาพก็สมกับความแพงทั้งในเรื่องของกลิ่นที่หรูหรา ดูผู้ดีสุดๆ สามารถใช้ได้ทุกโอกาส และแถมติดทนนานมาก
(ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่านะคะ สมมุติน้ำหอมดีไซเนอร์ตามห้างบางตัวกลิ่นเบาหรือติดไม่ทน ทำให้อาจต้องฉีดทีครั้งละหลายสเปรย์ และอาจต้องฉีดเพิ่มในระหว่างวันเนื่องจากกลิ่นจางหายไป แต่สำหรับ Creed ฉีดครั้งเดียวสามารถอยู่ได้ 8ชม.ขึ้นไป หลายๆตัวก็12ชม.ขึ้น ทำให้น้ำหอมปริมาณเท่ากันแต่ Creed สามารถใช้ได้ยาวนานกว่าคะ แถมกลิ่นก็หรูหรา ไฮโซ แต่ใช้ง่าย ได้ทุกโอกาสเลย)
ขายดีมากจนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาพึ่งขึ้นราคาอีก 400฿ ทุกรุ่น T T โดยขวด 75ml ราคา 7,700฿ และ ไลน์ที่แพงที่สุด(Royal Exclusives line) ราคาขวดละ 25,700฿
ขายแบบทดลองและพกพา ขนาด 2.5 ml (พร้อมใบกระดาษแข็งการันตรีของ Creed) กลิ่นเบอร์ 3-10 หลอดละ 169฿ (ซื้อ30ขวด จะได้75ml ทั้งหมด 5,070 ซึ่งจะประหยัดไป 2,630 กว่าซื้อขวดใหญ่75ml 7,700฿ ) และ กลิ่นเบอร์ 1-2 ซึ่งเป็นไลน์ที่แพงที่สุด(Royal Exclusives line) หลอดละ 219฿
1.Spice and Wood (Royal Exclusives line ไลน์ที่แพงสุด) ราคาในshopไทยขวดละ 25,700
2.Sublime Vanille (Royal Exclusives line ไลน์แพงสุด) ราคาในshopไทยขวดละ 25,700
3.Silver Mountain Water
4.himalaya
6.aberdeen Lavander "เหลือ1"
9.Vetiver Geranium "เหลือ2"
1 Spice and Wood
หนูซื้อมา 25,700 นะคะ เหลือประมาณ 85%
http://www.fragrantica.com/perfume/Creed/Spice-and-Wood-10101.html
อยู่ในไลน์ที่แพงที่สุดของ Creed (Royal Exclusives line) วัตถุดิบที่ใช้สกัดเป็นน้ำหอมใช้วัตุดิบที่หายากและแพงมากๆคะ กลิ่นหอมแนววูดดี้จากไม้ cedar Patchouli Oakmoss(หญ้ามอส)ที่ให้กลิ่นที่สากแต่ชุมชื้น เลเยอร์ด้วยกลิ่นสโมกกี้จาก ต้น Birch ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำชาติรัสเซีย และผสมกลิ่นหอมด้วยความสไปซี่ของ Pepper และ Lemon apple bergamot(มะกรูด) ที่ให้ความหอมที่เย็นสดชื่น เติมเสน่ห์ที่แสนดึงดูดด้วยความหอมจาก musk ถ่ายทอดเป็นแนวกลิ่นที่น่าตื่นตาติ่นใจ และหรูหรา เป็นน้ำหอมที่ฝรั่งรีวิวว่าไม่สามารถได้กลิ่นนี้จากน้ำหอมราคาต่ำกว่า 10,000
2.Sublime Vanille
http://www.fragrantica.com/perfume/Creed/Sublime-Vanille-7024.html
อยู่ในไลน์ที่แพงที่สุดของ Creed (Royal Exclusives line) วัตถุดิบที่ใช้สกัดเป็นน้ำหอมใช้วัตุดิบที่หายากและแพงมากๆคะ กลิ่นตัวนี้หอมวนิลากลั้วกับมะนาว(Lemon)จางๆให้ความรู้สดชื่นแบบธรรมชาติ มีกลิ่นหอมหวานติด smoky จาก Tonka bean มี musk(สกัดได้จากต่อมเพศบริเวณเหนือยเครื่องเพศของกวางเพศผู้) ทำให้กลิ่นหอมสว่างไสวขึ้น อ่อนโยนขึ้น เซ็กซี่ขึ้น และกระตุ้นอารมณ์ได้มากขึ้น หอมหรูหรามาก ดูแพงสุดๆคะ เป็นน้ำหอมที่ฝรั่งรีวิวว่าไม่สามารถได้กลิ่นนี้จากน้ำหอมราคาต่ำกว่า 10,000 หอมมากๆคะ
3.Silver Mountain Water
http://www.fragrantica.com/perfume/Creed/Silver-Mountain-Water-472.html
รีวิวคะ http://kemkudson.blogspot.com/2014/10/review-creed-silver-mountain-water.html
ได้เวลาเล่นของสูงและแพง เพราะน้ำหอมแบรนด์นี้ราคาแบบว่าถ้าซื้อในไทยหรือเมืองนอกก็ใจหายไปอยู่ตาตุ่มกันเลยทีเดียว แค่ในไทยปัจจุบันมีเคาน์เตอร์ที่พารากอนแล้วขวด 120 ml ก็ล่อไป 8,500 หรือ 9,000 บาท (ไม่แน่ใจราคา) แล้วล่ะครับ แต่เห็นของแพงแบบนี้ คุณภาพสมกับความแพงที่สุดในเรื่องของกลิ่นจริงๆ
Silver Mountain Water: SMW มาพร้อมกับกลิ่นแนวคุณชายผู้ดีที่สุภาพ อ่อนโยน มาดดี ยิ้มง่าย เป็นผู้นำที่ดี มีคลาส และดูมีการศึกษาสุดๆ ถ้าเทียบกับ Series เรื่องสุภาพบุรุษจุฑาเทพ กลิ่นนี้อธิบายได้ถึงความเป็นคุณชายปวรรุจ (ที่โป๊ปเล่น) ได้ดีมากมาย เพราะกลิ่นจะเริ่มต้นกับความสดใสแบบ Citrus แต่หอมนุ่มนวลมาก แถมต่อเนื่องด้วยชาเขียวกลั้วกลิ่น Blackcurrant ที่สดชื่นเรียกรอยยิ้มได้ทันที และกลิ่นชาเขียวนี่แหละที่จะอยู่ยาวนานไปจนถึงช่วงเบส ที่จะหอมสะอาด เย็นๆ ด้วย Musk และพิมเสน กลิ่นนุ่มนวล ชวนฝัน สะอาดสะอ้าน ใส่ยังไงออร่าความเป็นผู้ดีออกทันที แถมกลิ่นที่ออกมาทั้งหมดนั้นธรรมชาติมาก เพราะแบรนด์นี้เน้นความเป็นธรรมชาติของกลิ่น โดยเน้นสกัดจริง พึ่งการสังเคราะห์กลิ่นค่อนข้างน้อย เช่นนั้น ทุกอณูของกลิ่นเลยทำให้คนใส่ดูดี ยกระดับ ออร่าบรรเจิด และดูอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ ครับ
เหมาะสำหรับ - ชายหนุ่มทุกผู้ทุกนาม ที่มีตังค์ซื้อ 55555 เพราะตัวนี้ใส่ได้ทุกสถานการณ์เลยทีเดียว แต่อาจจะไม่เหมาะนักกับการใส่ไปเตะบอล หรือใส่ผ้าขาวม้ากระโจนลงคลองว่ายน้ำเล่น ยิ่งใส่ไปทำงาน หรือไปงานทางการ รวมถึงไปเดินเล่นพักผ่อน ยังไงก็ชนะเลิศน้ำหอมแทบจะทุกกลิ่นของคนที่ใส่เดินสวนไปมาเลยทีเดียว
ความทน - มากกกกกกกกกกก เพราะเป็น EDP ของผู้ชาย เกิน 8 ชม. ขึ้นไปจนอาบน้ำนอนเลยล่ะครับ
การกระจาย - กระจายดีทุกช่วงเลย แต่โทนกลิ่นจะให้ไม่หนักหน่วงมาก จะดูมีคลาสตลอดศกที่ใส่ตัวนี้จริงๆ
ป.ล. อย่าคิดว่าผมซื้อขวดเต็มมา เพราะไม่ได้รวยขนาดนั้น ซื้อแบบแบ่งขายมาใช้เองครับ และเป็นอีกตัวของ Creed ที่ปลื้มมากเลยทีเดียว แพ้แค่ Aventus ลูกรัก ที่ผมหลงสุดๆ จนต้องซื้อขวดเต็ม ทุ่มไม่อั้นเลยทีเดียว
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
AL Rehab - silver
http://www.fragrantica.com/perfume/Al-Rehab/Silver-1176.html
ตัวนี้เป็น1ในตัวที่ทำกลิ่นได้เหมือนน้ำหอมสุดหรูและสุดแพงอย่าง Creed - Silver Mountain Water มากที่สุดคะ (ฝรั่งทุกคนยกให้เป็นตัว Clone creed SMW เลยคะ)
ขวดใหญ่ 35 ml เป็น EDP นะคะ ขาย 1,400 (Creed - Silver Mountain Water ขวด75ml ก็ 7,700 แล้วคะ)
มีแบบ Oil perfume (เป็นลูกกลิ้งทาผิวจะทนกว่าแบบสเปรย์นะคะและไม่มีแอลกอฮอลด้วยคะ) ขนาด 3ml ขวดละ 270 บาท เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4.Himalaya
http://www.fragrantica.com/perfume/Creed/Himalaya-465.html
ถือเป็นน้ำหอมที่ขายดีมากอีกกลิ่นของ Creed มาในขวดสีเงินทึบ บ่งบอกถึงความเย็น และมาในกลิ่นโทนสดชื่นแบบหรูหรา และแน่นด้วย ambergris สารหลั่งจากวาฬที่มีราคาสูง
Himalaya เป็นน้ำหอมโืืทน citrus woody ให้กลิ่นต้นของมะกรูด มะนาว ส้ม และเกรฟฟรุ๊ต โดยเนื้อกลิ่นนั้นออกทาง woody ตั้งแต่เริ่มแรกกันเลยทีเดียว มันไม่ youthful หรือใสเท่า Silver Mountain Water หากแต่มีความเป็นผู้ใหญ่นิดนึง ลองนึกภาพนักธุรกิจอายุราว ๆ 35 ใส่สูท หน้าตาดีใช้กลิ่นนี้ ในขณะที่ลูกน้องของเขา อายุ 30 ใช้ Silver Mountain Water โดยเนื้อกลิ่นของ Himalaya อาจจะบอกถึงตำแหน่งของคน 2 คนนี้ได้ ในความเห็นผมมันเป็นแบบนั้น Himalaya กลิ่นหรูหรากว่า
แม้ช่วงต้นจะเห็นกลิ่นอย่างมะกรูด มะนาว ส้ม แต่อย่าโยงไปถึงน้ำหอม citrus แรง ๆ อย่าง Eau d'Hadrien หรือ Eau de Sud ของ Annick Goutal เพราะ Himalaya มีโทนกลิ่นอากาศเย็น ๆ บนยอดเขาปนอยู่ ไม่ได้ออกมะนาว ส้ม และมะกรูดแบบนั้น
ช่วงกลางกลิ่น spicy ขึ้น แต่ยังคงความใสเย็นอยู่ เย็น ๆ เชิง metallic นิด ๆ
ช่วงเบสเข้าทาง house note อันโด่งดังของ Creed กลิ่นนั้นเนียน แน่น อบอุ่นหน่อย ๆ ไปกับ ambergris หรือที่รู้จักกันในนาม อำพันทอง ซึ่งมากับมัสก์และ tonka beans
Himalaya เป็นน้ำหอม unisex ที่เข้าถึงง่ายมาก ให้กลิ่นประเภทที่เรียกคำชมได้ไม่ยากพอ ๆ กับกลิ่นอื่น ๆ จาก Creed ที่กล่าวถึงด้านบนไปแล้ว
ใช้ได้กับหลายสถานการณ์ ทำงาน เข้าประชุม ออกงานหรู งานแต่ง เดินเที่ยวเล่น และออกเดท เป็นน้ำหอมที่เข้าถึงทุกโอกาส
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Creed - Aventus
แบ่งใส่ขวดขนาด 10 ml 2ขวด ขวดละ 800 บาทคะ เผื่อใครอยากลองกลิ่น
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Afnan - Supremacy Silver (EDP)
ตัวนี้เป็น1ในตัวที่ทำกลิ่นได้เหมือนน้ำหอมสุดหรูและสุดแพงอย่าง Creed Aventus ที่สุดคะ (Creed Aventus แต่ละ Batch จะให้กลิ่นต่างกันคะ ซึ่ง Afnan ตัวนี้จะเหมือน Aventus ตัวที่กลิ่น Fruity เด่นคะ)
ขวด 100 ml ของใหม่ยังไม่ได้ใช้คะ จะขายตัวกล่องซีลที่ยังไม่แกะให้คะ ขาย 2,300 (Creed - Aventus ขวด75ml ก็ 9,200 แล้วคะ)
--> มีแบ่งขาย 10ml 2ขวด ขวดละ 250 บาท เผื่อใครอยากลองกลิ่นคะ
**มีของลูกค้าฝากขาย 1 ขวดนะคะ ลองฉีดไป 3-4 สเปรย์ ขาย 1800 คะ**
ขออนุญาติยกรีวิวพี่เข็มขัดสั้นมาให้อ่านนะคะ
http://kemkudson.blogspot.com/2015/12/review-afnan-supremacy-silver.html
ไม่เคยรู้จักมาก่อนเลยแม้แต่นิดเดียวว่า Afnan คืออะไร จนเมื่อวันหนึ่งมีคนบอกว่า Afnan รุ่น Supremacy Silver นี้แหละ คือตัวที่คล้าย Creed Aventus มากที่สุดเลยตัวนึง อ้าวงานนี้ก็สนสิจ้ะ เลยไปค้นหาข้อมูลไม่พอก็ขอสอยมาบ้างไรบ้างว่าแบรนด์จาก UAE แบรนด์นี้จะทำน้ำหอมออกมาเป็นยังไง
อุ๊ต่ะ! เปิดมานี่มัน Aventus จริงๆ ด้วยแหละแกร๊~ เพราะกลิ่นมาเลยจ้ากับความเป็นสับปะรด แอปเปิ้ลเขียว กับแบล็คเคอร์แรนท์ ล้อมด้วยกลิ่นโทนซิตรัส มันใช่เลย แต่! มันไม่ใช่ทั้งหมด เพราะกลิ่นเปิดนี่มีความเป็นผลไม้ชัดกว่า Aventus ที่จะมีกลิ่นของจูนิเปอร์เบอร์รี่และพิมเสนเด้งขึ้นมาล้อมตั้งแต่ช่วงนี้ ซึ่งตัวนี้ไม่ได้มีแบบนั้นเท่าไหร่ มันจึงกลายเป็นกลิ่นอายแบบสดชื่นของผลไม้เสียมากนั่นเอง แถมตามไปจนถึงช่วงท้ายๆ ของน้ำหอมเสียด้วย มันเลยมีความต่างจาก Aventus ออกมาบ้าง โดยในช่วงกลางกลิ่นอายของเปลือกเบิร์ธจะเด่นนำขึ้นมาให้โทนเขียวหอมนุ่มๆ และพิมเสนเริ่มมาบ้างแล้วแต่มาแบบกลางๆ กำลังดี ไม่ได้เด่นออกมามากนัก โทนกลิ่นดอกไม้อ่อนๆ ในช่วงนี้ก็มาแบบบางๆ เรียกว่าเป็นตัวสนับสนุนที่ดีของกลิ่นโทนผลไม้เสียมาก โดยกลิ่นจะมาแบบสดชื่นเย้าๆ กำลังดี มีความสดใสและขี้เล่นแฝงอยู่ในแบบที่ Aventus ไม่ได้มาในความรู้สึกแบบนี้ ในลักษณะโทนกลิ่นที่เหมือนกัน เพียงแต่ความเด่นของกลิ่นที่เป็นโทนหลักจะแตกต่างกัน เอาล่ะสิ งั้นมาดมต่อที่ช่วงท้าย ซึ่งใช่เลย เรารู้แล้วว่าอะไรคืออะไร กลิ่นเด่นนำขึ้นมาในช่วงนี้จะเป็นกลิ่นอายนุ่มๆ ติดเขียวกลั้วกลิ่นผลไม้จางๆ ที่ตามมาตั้งแต่ตอนต้น โดย Musk กับ Oak Moss จะคุมโทนหลัก และมีกลิ่นอายหอมนวลๆ ติดกลิ่นผิวกายนวลๆ อบอุ่นเบาๆ ซึ่งมาจาก Ambergris ตรึงไว้ให้มีความหรูหรากำลังดีเลย แต่สิ่งหนึ่งคือ กลิ่นที่ได้รับจะมีความใสสดชื่นเบาๆ แฝงอยู่ให้รู้สึกได้ไปตลอด จึงเป็นความเหมือนในรูปแบบที่เบาลงนั่นเอง
เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป ก็สามารถใช้ตัวนี้ได้สบายๆ กลิ่นเรียกว่าหอมแบบสดชื่น ตามด้วยนวลๆ ปิดท้ายด้วยอบอุ่นโดยมีความสดใสในเนื้อกลิ่นแฝงไปด้วยตลอด ซึ่งสามารถใส่ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ทั้งงานทางการที่ไม่ได้ถึงขั้นรับแขกบ้านแขกเมืองและไม่ทางการทั่วๆ ไปก็สามารถ เรียกว่ากลิ่นครอบจักรวาลได้เลยทีเดียว รวมไปถึงกลางคืนที่จัดได้สบายๆ เพราะเนื้อกลิ่นมันมีความขี้เล่นนี่แหละ
ความทน - อันนี้ต้องยกให้เขา เพราะเป็น EDP ที่กลิ่นทนถึง 8 ชม. สบายๆ และมากกว่านั้นเสียด้วยถ้าจำนวนสเปรย์ลงตัว
การกระจาย - เรียกว่ามีความดีงาม มาในลักษณะ Sillage Scent เช่นเดียวกับ Aventus เลยที่กลิ่นจะมาถึงก่อนคน คนไปแล้วกลิ่นยังอยู่ ต่อให้โต้ลมแค่ไหน กลิ่นก็ยังอยู่กับเรา เพียงแต่คนใส่จะไม่ค่อยได้กลิ่นจากตัวเองเท่าไหร่นักในช่วงต้นและช่วงกลาง หรืออาจจะได้กลิ่นชัดตามสภาพผิว มีช่วงท้ายๆ ที่จะลดระดับการกระจายมาแบบกลางๆ ที่จะเริ่มตีขึ้นให้รับรู้ จนค่อยๆ ลงไปเป็นออร่ารอบๆ ตัวจนหายไปจากผิว
สรุป - ใช่เลย มันคือ Aventus แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าจะให้มาอยู่ใต้ร่มไม้ชายคาด้วยการให้ตัวเทพเป็นตัวพ่อก็จะบอกว่านี้คือ Aventus ในรูปแบบที่วัยรุ่นขึ้น สดใสขึ้น ไม่ได้ออกทาง Smoky ติดกลิ่นอายคุณชายนุ่มนวลหรือทางการ และกลิ่นนวลเนียนเนี้ยบแบบที่ Aventus ทำได้นั่นเอง ที่สำคัญถ้าสั่งมาได้จาก ตปท. ราคาถูกกว่า Aventus เรียกว่าเกินครึ่งนะจ้ะ ขอบอกกกกกก!
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ARMAF - CLUB DE NUIT INTENSE
ตัวนี้เป็น1ในตัวที่ทำกลิ่นได้เหมือนน้ำหอมสุดหรูและสุดแพงอย่าง Creed Aventus ที่สุดอีกตัวคะ (Creed Aventus แต่ละ Batch จะให้กลิ่นต่างกันคะ ซึ่ง ARMAF ตัวนี้จะเหมือน Aventus ตัวที่กลิ่น Smoky เด่นคะ ซึ่งจะต่างจาก Afnan นะคะ)
ขวด 105 ml เป็นความเข้มข้นระดับ EDPด้วยคะ ทนแน่ๆ ของใหม่ยังไม่ได้ใช้คะ จะขายตัวกล่องซีลที่ยังไม่แกะให้คะ ขาย 2,500 (Creed - Aventus ขวด75ml ก็ 9,200 แล้วคะ)
ลองอ่านรีวิวของพี่เข็มขัดสั้นดูนะคะ
เมื่อได้อ่านข้อมูลมาจากหลายๆ ทางไม่ว่าจะเป็นทั้งเวบไซต์เกี่ยวกับน้ำหอม หรือเพจต่างๆ ที่เหล่าคนรักน้ำหอมเขาไปชุมนุมกันของ ตปท. มักจะพูดกันว่า Armaf รุ่น Club de Nuit Intense for Men เป็นอีกหนึ่งตัวที่คล้าย Creed Aventus มากโดยเทียบกับ Batch การผลิตในรุ่นที่มีกลิ่นอาย Smoky จัดๆ (ต้องเข้าใจกันก่อนว่า Creed เป็นแบรนด์ที่วัดกลิ่นเหมือนกันในทุกรอบการผลิตได้ยาก เพราะอิงกับคุณภาพวัตถุดิบในช่วงนั้นๆ เลยทำให้จะมีบาง Batch ที่กลิ่นนี้เด่นกว่ากลิ่นนั้น กลิ่นนั้นโดยกลบไปเยอะบ้าง) เช่นนั้นเราต้องพิสูจน์ด้วยการเสียเงินสอยมาแล้วผลที่ออก คือ
Top Notes กลิ่นมีความเข้มข้นของโทน Smoky จากเปลือก Birch ชัดเจนมากกลิ่นมาติดโทนหนังหน่อยๆ เสียด้วย แต่เพราะว่ามีกลิ่นอายของโทนสดชื่นอย่างซิตรัสและผลไม้ที่ไม่ยอมให้มาแย่งซีนแน่ๆ เลยทำให้กลิ่นของเลมอนและโทนผลไม้ยังทำหน้าที่เด่นเด้งออกมาอยู่ แน่นอนว่ากลิ่นสับปะรดนั้นแทบไม่รู้สึกเพราะออกแนวจะไปทางโทนผลไม้อย่างแบล็คเคอแรนท์และแอปเปิ้ลเขียวเสียมากกว่า โดยกลิ่น Smoky ก็ขอตีคู่กันไปตั้งแต่ต้น จนเมื่อเข้า Middle Notes งานมาเต็มของโทน Smoky จึงได้มาและเป็นตัวที่จะเด่นไปจนถึงช่วงท้ายๆ เลยนั่นคือ เปลือกไม้ Birch ที่จะให้กลิ่นอายหนังติดโทน Smoky แมนๆ มาเลยก็จริง แต่จะมีกลิ่นโทนดอกไม้อย่างมะลิติดกุหลาบจางๆ เคล้าวานิลลาหน่อยๆ มาทำให้กลิ่นนุ่มขึ้น ไม่มามะรุมมะตุ้มผลัดกันเด่นแบบช่วงต้นแล้ว ซึ่งส่งต่อไปยังช่วง Base Notes ที่ความ Smoky ยังคงอยู่ไม่หนีไปไหน แต่จะมีความอบอุ่นติดนุ่มนวลของ Musk และกลิ่นตรึงที่ออกทางผิวกายสะอาดติดเค็มจางๆ ของอำพันปลาวาฬ (Ambergris) ที่จะมาตรึงให้เกิดความนุ่ม วานิลลาจะมาให้ความอบอุ่นเพิ่มมีกลิ่นอายของพิมเสนมาแบบเบาๆ เคล้าไปตลอด ซึ่งถ้าเทียบกันแล้วกับตัวเทพอย่าง Aventus คงต้องบอกว่า กลิ่นช่วงต้นแตกต่างเพราะยังอยู่ในช่วงชิงดีชิงเด่นกันอยู่ ก่อนที่จะเริ่มมีความคล้ายมากขึ้นในช่วงกลางแต่มีความแมนเข้มกว่า และใกล้เคียงมากในช่วงท้าย ซึ่ง Batch ของ Aventus ที่มีความเป็น Smoky จัดๆ กลิ่นจะใกล้เคียงตัวนี้มากจริงๆ แต่ Armaf ก็ยังไม่ได้มีกลิ่นอายที่นุ่มนวลจมูกกว่า Aventus ที่มีคุณภาพกลิ่นและตัวเกลาให้กลิ่นมีความหรูหรามีระดับแบบสัมผัสได้มากกว่ารวมถึงมีความนวลเนียนกว่าก็เท่านั้นเอง ซึ่งถ้าไม่มายด์เพราะลงรายละเอียดมากไป ตัวนี้ทดแทนกันได้เลยล่ะ
เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้ได้แล้ว กลิ่นอาจจะอยู่ระหว่างกลางๆ ที่ไม่ได้เข้าถึงได้ง่ายมากขนาดนั้น แต่ถ้าใครต้องการตัวแทนของ Aventus ในแบบที่ Smoky จัดๆ ตัวนี้ไปได้ค่อนข้างดีและมีความแมนเข้มเพิ่มเข้ามาเสียด้วย โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ถ้าจะออกกำลังกายให้รอช่วงท้ายๆ จะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืน กลับกลายเป็นว่าตัวนี้เข้าทางกว่าในแง่ของการใส่ไปเรียกเรตติ้งและไม่ได้ดูออกทางคุณชายมากเกินไป แบบที่ Aventus ทำได้ เพราะความเข้มของโทน Smoky ที่สร้างความแมนเท่ห์นั่นเอง
ความทน – EDP มาเต็มเช่นนั้นจัดไปที่ 8 ชม. สบายๆ แถมลากยาวไปได้มากกว่านั้นอีกด้วยซ้ำถ้าจำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีดเอื้อมากพอ ส่วนตัวเจอที่ 12 ชม. แบบฟินๆ เลย
การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายแบบดีค่อนไปปานกลาง และปิดท้ายที่การเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย แล้วลดลงเรื่อยๆ ตามลำดับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Creed - Green Irish Tweed
ที่สุดของความสดชื่นและหรูหราเลยคะ ขวดใหญ่สุด 120ml เหลือปริมาณตามยางรัด(ประมาณ35%) ราคาห้าง 8,700 ขอขาย 3,000 คะ
รีวิวพี่เข็มขัดสั้นคะ
http://kemkudson.blogspot.com/2015/07/revire-creed-green-irish-tweed.html
บอกเลย! นี่คือตัวพ่อของ Davidoff Cool Water ที่ฮอตฮิตเหลือแสนเพราะเมื่ออยู่ในที่สาธารณะอย่างน้อยต้องได้กลิ่นไม่ต่ำกว่า 3 คนเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่หรูหว่า มีระดับกว่า และกลิ่นให้คุณภาพและความสุดยอดมากกว่า และเกิดขึ้นมาก่อน Cool Water คงต้องยกให้ตัวพ่ออย่าง Creed ที่เกิดขึ้นมาก่อนและราคาสูงมากเลยทีเดียวกับรุ่นนี้ครับ Green Irish Tweed
อย่างที่บอกข้างต้นว่าเป็นตัวพ่อของ Cool Water โดยเป็นน้ำหอมที่กลิ่นใกล้เคียงกันมากก็จริง แต่มาในลักษณะที่ไม่ได้ออกทางน้ำทะเลแบบตัวฮิตของ Davidoff แต่มาในแบบ Woody Floral Musk ที่มีชั้นเชิงและกลิ่นนุ่มนวลเนียนมีระดับสุดๆ เพราะ Top Notes จะมาในโทนของซิตรัสให้ความสดชื่นติดเขียวอย่างชัดเจนอย่างใบเวอร์บีน่าที่กลิ่นคล้ายมะนาวกับเลมอน ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้จะหอมสดชื่นอย่างมีระดับเพราะมีโทนไม้หอมรองพื้นด้านหลัง กลิ่นมีความซ่าออกทางเขียวๆ แบบสมุนไพรกำลังดีและหรูหรากันตั้งแต่ตอนต้น โดยไม่มีโทนน้ำทะเลแบบ Cool Water มาให้ลำบากใจในการแยกกลิ่นเพราะในความเหมือนมันมีความแตกต่างชัดเจนก็ตรงนี้ จนเมื่อเข้า Middle Notes กลิ่นสดชื่นของซิตรัสติดเขียว ยังคงอยู่แต่จะมาผสานกับโทนแป้งดอกไม้ ที่ยกให้ดอกไอริสและใบไวโอเล็ตที่มาทำให้เป็นโทนแป้งหอมสดชื่นติดเขียวรับช่วงต่อได้อย่างกลมกลืน กลิ่นมีระดับไล่เรียงแบบนวลเนียนมาก และให้ความสดชื่นแบบหรูหราคาบเกี่ยวความเป็นทางการได้อย่างลงตัว ก่อนจะปิดท้ายที่ Base Notes ซึ่ง Signature ของ Creed จะมากันในช่วงนี้กับกลิ่นของอำพันทอง (Ambergris) ที่จะให้ความรู้สึกแบบผิวกายติดกลิ่นเค็มหน่อยๆ กลั้วกับ Musk ที่มาให้ความสะอาดนุ่ม โดยโทนไม้หอมที่รองพื้นมาตั้งแต่ตอนต้นจะชัดเจนแบบกำลังดีในช่วงนี้ไปด้วย กลิ่นผสานกันจะเป็นโทนสดชื่นและสะอาดแบบนุ่มนวล มีความบางเบาแต่ไม่หายต๋อม ซึ่งภาพรวมทั้งหมดบ่งบอกถึงความเป็นสุภาพบุรุษที่สดชื่นและหรูหรามีระดับสูงมาก โดยไม่ละทิ้งความเป็นธรรมชาติของกลิ่นที่นวลเนียนเลยล่ะครับ
เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้่นไป ซึ่งกลิ่นใช้ง่าย เข้าถึงง่ายแน่นอน สามารถใส่ได้ในทุกๆ สถานการณ์ยามกลางวันทั้งทางการและไม่ทางการ กลิ่นให้ทั้งความสดชื่นและน่าเชื่อถือ เพราะเนื้อกลิ่นมันมีระดับสูงมาก ส่วนใส่กลางคืนกับอากาศบ้านเราก็เข้าทีไม่น้อย แต่ถ้าใส่ไปเที่ยวเคล้าแอลกอฮอล์ก็ได้อยู่ครับ แต่มันไม่ได้ออกทางยั่วยวนก็เท่านั้นเอง
ความทน - บอกเลยมาเต็ม 10 ชม. กลิ่นยังตีขึ้นให้รับรู้ ยิ่งถ้าร่างกายทำความร้อนกลิ่นจะตีขึ้นแบบที่ปลื้มไปเลยล่ะครับ
การกระจาย - นี่คือ Sillage Scent เพราะเน้นกระจายออกรอบตัวสร้างความหอมและรื่นรมย์ให้ผู้อื่นได้มาก ดมที่ผิวอาจจะ แต่กลิ่นออกเข้ม กลิ่นที่กระจายออกไปคือสดชื่นเขียวๆ นุ่มนวลแบบมีระดับ เรียกว่ากระจายดีทั้ง 3 ช่วง มีช่วงท้ายที่ลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวเป็นหลัก
ทิ้งท้าย - พูดง่ายๆ Cool Water เด็กไปเลยถ้าเจอตัวพ่อตัวนี้ เพราะมาเต็มด้านการมีดีเต็มเหนี่ยวกว่าเยอะ รวมถึงราคาที่ต้องขอยาหอม ยาดม ยาลม และยาหม่องไปด้วยเลยล่ะครับ เพราะแพงจริงอะไรจริง 5555555
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Thierry Mugler - Mugler Cologne
ฝรั่งและนักรีวิวทุกคนต่างบอกว่าตัวนี้คือโคลนนิ่ง Creed - Original Vetiver ซึ่งลองใช้แล้วก็ใกล้เคียงกันจริงๆคะ ในราคาที่ต่างกันถึง4เท่า และเป็น1ในน้ำหอมที่ถูกโหวตให้เป็น "ฺbest of green scent" ซึ่งเหมาะกับอากาศร้อนๆมากๆ ฉีดปุ๊บรู้สึกสดชื่น สะอาดปั๊บเลยคะ **แต่ที่พิเศษสุดคือตัวนี้สามารถฉีดผสม(หรือที่เรียกกันว่า Layer)กับน้ำหอมกลิ่นอื่น โดยเฉพาะกลิ่นตัวที่กลิ่นเข้ม หวาน หรืออบอุ่น ทำให้ออกมาเป็นกลิ่นใหม่ที่หอมขึ้นได้ด้วยคะ วิธีการคือฉีดน้ำหอมตัวหลักก่อนแล้วก็ฉีดตัวนี้ทับลงไปคะ**
มี 2 ขวดนะคะ 1) ขวดใหม่ 100ml ยังไม่เคยใช้ ขาย 2,300
2) ขวด 75ml เหลือปริมาณตามรูป(ประมาณ35%) ขาย 500 คะ
รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ
http://kemkudson.blogspot.com/2015/03/review-thierry-mugler-mugler-cologne.html
เปิดต้น Top Notes กันได้แบบว่ากระจ่างใส สดชื่น สะอาดได้ใจมากกับกับกลิ่นโทนซิตรัสติดเขียวๆ ของใบส้ม ดอกส้ม และมะกรูด แบบว่ามาเต็มในแบบที่กลิ่นคมกำลังดี ไม่ได้แหลมเฟี้ยวมากเกินไป กับอิทธิฤทธิ์ของดอกส้มที่จะมาทำให้กลิ่นนุ่มลงมา เหมือนกลิ่นสดชื่นขณะอาบน้ำท่ามกลางธรรมชาติสุดๆ และเมื่อเข้า Middle Notes งานนี้ดอกส้มมาเต็มมากกกกก โดยจะมีกลิ่นโทนสบู่หอมสะอาดรองพื้นอยู่ตลอดเวลาทำให้กลิ่นนี้ออกแนวสะอาดนุ่มๆ แต่เซ็กซี่อ่ะ คือ เหมือนคนอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ เดินตัวเปียกๆ ออกมาจากห้องน้ำกลิ่นสดชื่นแบบนุ่มๆ ของสบู่ติดผิวกาย แล้วทำตาเชื่อมๆ เซ็กซี่เอียงอายราวกับบอกว่า ?#อยากเห็นคนแก้ผ้าไหม? อย่างไงอย่างงั้น ซึ่งกลิ่นโทนนี้จะเด่นไปจนสุดท้ายเลยทีเดียว โดย Base Notes จะเพิ่มความนุ่มของ White Musk เข้าไปอีก ทำให้กลิ่นจะนุ่มนวลสะอาดอยู่ตลอด แบบใส่เสื้อผ้านั่งชิลล์ๆ สบายๆ ให้อีกฝ่ายมาดมชื่นชมความสะอาดหรือพาไปร่อนนอกบ้านอย่างรื่นรมย์เลยทีเดียว
เหมาะสำหรับ ? Unisex ขาดใจ เพราะเป็นกลิ่นหอมสดชื่นอย่างเป็นธรรมชาติที่เข้าได้กับทุกเพศ สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ในยามกลางวัน เพราะถือว่าเป็น Safe Scent ที่แฝงด้วยความเซ็กซี่กำลังดีงาม และใครได้กลิ่นก็สบายๆ ชิลล์ๆ สดชื่นไปด้วย ส่วนกลางคืนถ้าอากาศร้อนๆ อยู่กลางแจ้ง หรือสถานการณ์ทั่วๆ ไปก็ใส่ได้สบายๆ ครับ
ความทน ? แม้จะเป็น Cologne แต่ก็ทนดีเลย ประมาณ 6 - 8 ชั่วโมง อยู่ที่จำนวนสเปรย์และจุดที่ฉีด
การกระจาย ? กลิ่นกระจายดีในตอนต้น และจะลดระดับมากระจายกลางๆ จนถึงการเป็น Skin Scent ในช่วงท้ายๆ ที่ถ้าร่างกายทำความร้อน จะมีกลิ่นสบู่ดอกส้มสดชื่นตีขึ้นให้รับรู้ได้ไม่ยาก
ทิ้งท้าย ? เอาไปเลยดีกว่ากับคำว่า #ของดีเทคนิคไม่ต้อง ของเขาดีจริงๆ และเหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อนมากๆ ของบ้านเราเลยล่ะครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Thierry Mugler - A*Men Pure Malt
http://www.fragrantica.com/perfume/Thierry-Mugler/A-Men-Pure-Malt-6103.html
แบรนด์และตระกูลสุดรักของพี่เข็มขัดสั้นเลยคะ ตัวนี้เป็นลิมิเต็ททำออกมาในปี 2009 นะคะ ปีต่อไปก็ไม่ทำแล้วคะ หายากมากๆคะ เป็นตัวที่ถูกโหวตให้เป็นอันดับต้นๆของน้ำหอมผู้ชายที่ทำออกมาได้ดีที่สุดเลยคะตัวนี้ ลองหารีวิวตามYoutube หรือ Google ได้นะคะ
ขวด 100 ml ของใหม่ ยังไม่แกะกล่องนะคะ (ในรูปเป็นตัวของหนูเองคะ) ขาย 3,900
รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ
http://kemkudson.blogspot.com/2014/10/review-thierry-mugler-amen-pure-malt.html
หนึ่งในน้ำหอมขั้นเทพ ที่เป็น Flanker ของตัวเทพสุดอย่าง A*Men ปกติ ที่กลิ่นจะพร้อมเรียกแขกยามค่ำคืนได้ไม่ยาก ใช้ง่ายกว่าต้นฉบับ แถมดูมีคลาส Chic เซ็กซี่ และคาสโนว่าสุดๆ ต้องเป็นตัวนี้เลย A*Men Pure Malt
เพราะเปิดต้นกลิ่นมาก็เป็นกลิ่นแนวผลไม้รวมที่ให้อารมณ์ Fruity สุดๆ มีกลิ่นอายสดชื่นก็จริง และมันดูขี้เล่นกรุ้มกริ่มไม่หยอก พอเข้าช่วง Middle เท่านั้นแหละ ได้เวลาของ Malt กันแล้ว เพราะกลิ่นที่ได้คือกลิ่นวิสกี้ ที่ผสานกับกลิ่นแนวๆ Woody ได้หอมเซ็กซี่ ดูมีสกุลรุนชาติขึ้นมาทันที ซึ่งกลิ่นนี้แหละบ่งบอกถึงอารมณ์แห่งการเป็นคาสโนว่าที่หล่อเลือกได้ แค่เพียงกลิ่นลอยไปปะทะจมูกใครซักคน โดยจะมีกลิ่นผลไม้บางเบาเป็นฉากหลังเสริมทำให้เกิดอารมณ์ Chic กำลังดีแถมให้อารมณ์ผู้ชายคนนี้มันหล่อจังเลย และกลิ่นวิสกี้นี่แหละที่จะมารวมตัวกันกับช่วงเบสอย่างกลิ่นแนวๆ Oriental เครื่องเทศที่ไม่หนักหน่วงนัก มีโทนวานิลลาอยู่พอประมาณ แต่ที่เด็ดดวงที่ทำให้เกิดอาการผู้ชายคนนี้มาดแมน เซ็กซี่ เร้าใจอย่างบอกไม่ถูก โดยไม่ต้องถอดเสื้อผ้าก็ถือกลิ่นถ่านหินที่สะอาดๆ นี่แหละ ความเก๋มันอยู่ตรงนี้
เหมาะสำหรับ - ผู้ชายวัยทำงานครับ เป็นน้ำหอมที่ใส่ยามกลางคืนไปเที่ยวก็ได้ หรือออกงานกลางคืนก็เสริมออร่าเซ็กซี่ได้ไม่หยอก จริงๆ ก็ใส่ยามกลางวันได้ครับ เช่นเที่ยวห้างเดินเล่นแบบหรูๆ หน่อย แต่ถ้าใส่ไปทำงานอย่าฉีดเยอะ เดี๋ยวจะดูออกแนวเซ็กซี่เกินไปนักครับ
ความทน - มากกกกกกกกกกกก เกิน 8 ชั่วโมงขึ้นไป กลิ่นวิสกี้ตีขึ้นให้ฟินตลอด
การกระจาย - กระจายดีมากในช่วง Top และ Middle กลิ่นจะเย้ายวนกำลังดี และหรูหรา แต่ช่วงเบสจะออกแนวกลิ่นออร่ารอบๆ ตัวแบบเท่ห์ๆ มากกว่า
เป็นอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจในโซนของน้ำหอมโทนกลิ่นเหล้าที่ไม่ได้ทำให้ดูเป็นคนขี้เมาแต่อย่างใด แต่ทำให้ดูว่าคนๆ นี้ช่างมีรสนิยมดี๊ ดี ดูรวย ใส่แล้วระวังงานเข้าต้องออกกำลังกายยามค่ำตคืนหน่อยนะครับ คุณผู้ชาย ฮี่ฮี่
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Thierry Mugler - A*Men Pure Havane
http://www.fragrantica.com/perfume/Thierry-Mugler/A-Men-Pure-Havane-11444.html
แบรนด์และตระกูลสุดรักของพี่เข็มขัดสั้นเลยคะ ตัวนี้เป็นลิมิเต็ททำออกมาในปี 2011 นะคะ ปีต่อไปก็ไม่ทำแล้วคะ หายากมากคะ เป็นตัวที่ถูกโหวตให้เป็นอันดับต้นๆของน้ำหอมผู้ชายvที่ทำออกมาได้ดีที่สุดเลยคะตัวนี้ ลองหารีวิวตามYoutube หรือ Google ได้นะคะ
ขวด 100 ml ของใหม่ ยังไม่แกะกล่องนะคะ (ในรูปเป็นตัวของหนูเองคะ) ขาย 3,700
รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ
http://kemkudson.blogspot.com/2014/12/review-thierry-mugler-amen-pure-havane.html
นี่คือหนึ่งในตัวที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดตัวนึงเลยทีเดียวกับในการเป็น Flanker ของโซน A*Men ที่จัดเต็มกับการบอกถึงต้นตำรับที่ยังคงความเซ็กซี่เย้ายวนอยู่เบื้องหลัง แต่โดดเด่นเป็นสง่าในแง่ของการเป็นตัวเองอย่างชัดเจน ซึ่งถือว่าเป็นรุ่น Limited Edition ที่คนรักน้ำหอมแบรนด์ Thierry Mugler ไม่ควรจะพลาดกับรุ่นนี้ครับ A*Men Pure Havane
เปิดตัวด้วยความเป็นยาสูบหอมๆ ราดด้วยน้ำผึ้งชุ่มๆ กลิ่นมีเสน่ห์แบบภูมิฐานมากมายกันตั้งแต่เริ่มต้น ให้ความรู้สึกเย้ายวนในแบบสุภาพบุรุษที่ซ่อนคมและหวานลึกลับกันเลทีเดียว ซึ่งกลิ่นของยาสูบและน้ำผึ้งนี้จะตามติดไปจนถึงช่วงท้ายๆ ของน้ำหอมเลย โดยเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางก็ได้เวลาของความเป็น A*Men ที่เข้ามาทำหน้าที่แทน โดยกลิ่นของต้นจะกลายเป็นคนเบื้องหลังที่ปล่อยกลิ่นให้รู้สึกบางๆ ตลอด ให้กลิ่นของวานิลลา โกโก้ และพิมเสน ทำหน้าที่อย่างโดดเด่น มาก กลิ่นช่วงนี้จะหอมเซ็กซี่เย้ายวนแบบมีระดับขาดใจ แถมกลิ่นอบอุ่นน่าเชื่อถือมาก ยิ่งมีกลิ่นยาสูบกลั้วน้ำผึ้งจางๆ มาผสานยิ่งทำให้เซ็กซี่แบบไม่ต้องถอดเสื้อผ้าก็เชิญมากินทั้งตัวเลยน่าจะง่ายกว่า และได้เวลาของการปิดท้ายด้วยกำยานและแอมเบอร์ที่จะให้ความรู้สึกอบอุ่น น่าเข้าใกล้ แบบยังคงความมีภูมิเต็มเปี่ยม ลึกลับกำลังดี โดยมีกลิ่นในช่วงต้นและกลางตามมาเป็นพื้นหลังทำให้ได้ความเย้ายวน ความหวาน และความเซ็กซี่แบบสุภาพบุรุษหน้านิ่งๆ เพิ่มเข้ามาดึงดูดอีกต่อ แค่นี้ก็เพียงพอที่น้ำหอมตัวนี้จะทำให้คนใส่และคนได้กลิ่นฟิน และพร้อมฟินต่อกันได้ไม่ยากครับ
เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศเน้นวัยทำงานขึ้นไป เพราะกลิ่นค่อนข้างให้อารมณ์ความเป็นผู้ใหญ่ในเนื้อกลิ่นจากโทนน้ำผึ้งราดใบยาสูบนี่แหละ สามารถใส่ทำงาน (แบบสเปรย์เหมาะสม) ใส่ออกงานหรู หรือออกงานทั่วไป รวมถึงการเที่ยวกลางคืนแบบมีระดับนิดนึง ไม่ใช่ใส่ไปเต้นรากแตก ร้องกี๊ซซซซ ร้องแอร๊ยยยย มันไม่ใช่อ่ะ แต่ไม่เหมาะกับการใส่ไปออกกำลังกายเลย กลิ่นจะกระจายดีจนทำให้คนอื่นเวียนหัวเอาได้ครับ
ความทน - มากกกกกกกกกกกกก จะมากไปไหน เกิน 8 ชม. แน่ๆ เพราะใส่ทุกครั้งตั้งแต่ 6 โมงเช้า เที่ยงคืนกลิ่นยังลอยให้รู้สึกตลอดเลย
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในช่วงต้น และจะลดมากระจายดีไปตลอดจนกว่าจะหายไปจากผิว สมกับการเป็น A*Men ที่ไม่เคยลดราวาศอกให้ใคร
ทิ้งท้าย - เป็นอีหหนึ่งใน Flanker ของ A*Men ที่ผมปลื้มมากๆ เลยทีเดียวครับ ของเขาดีจริงๆ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Thierry Mugler - A*Men Ultra Zest
http://www.fragrantica.com/perfume/Thierry-Mugler/A-Men-Ultra-Zest-29589.html
แบรนด์และตระกูลสุดรักของพี่เข็มขัดสั้นเลยคะ ตัวนี้เป็นลิมิเต็ททำออกมาในปี 2015 นะคะ เพิ่งออกมาเมื่อปีที่แล้ว เป็นตัวที่ถูกโหวตให้เป็นน้ำหอมผู้ชายที่ทำออกมาได้ดีที่สุดเป็นอันดับ1ในเว็บน้ำหอม Fragrantica ในปี2015 (Best men's Perfumes in 2015) เลยคะ ลองหารีวิวตามYoutube หรือ Google ได้นะคะ
ขวด 100 ml ของใหม่ ยังไม่แกะกล่องนะคะ (ในรูปเป็นตัวของหนูเองคะ) ขาย 3,500
รีวิวของพี่เข็มขัดสั้นคะ
http://kemkudson.blogspot.com/2015/11/review-thierry-mugler-amen-ultra-zest.html
บอกกันตรงนี้ว่า "นี่คือหนึ่งในลูกรักของผมเลย" ที่กลิ่นแบบว่าถูกจริตขั้นสุดในแง่ของการผสมผสานน้ำหอมโทนสดชื่นและเย้ายวนเข้าด้วยกันได้อย่างมีชั้นเชิงมาก โดยยังมีกลิ่นอายของต้นตระกูลอย่าง A*Men ที่ X แตกอยู่อย่างไม่มีผิดเพี้ยน นั่นก็คือ ตัวส้มสีแสบจี๊ดที่พึ่งวางตลาดอย่างรุ่นนี้เลยครับ A*Men Ultra Zest
เปิดต้นกลิ่นด้วย Top Notes กับกลิ่นส้มสีเลือดที่จะออกหวานฉ่ำติดเปรี้ยว มาผสมผสานกับส้มเขียวหวานทีมาในโทนเปรี้ยวอมหวานเดียวกันกลายเป็นกลิ่นอายหอมสดชื่นที่ฉ่ำมากไม่หวาน