RE600 maybe

ดีสุดไม่รู้ แต่ขอนำเสนอ JVC HA-FX800 หาซื้อยากหน่อย มาแนวๆนั้นนั่นแหละครับ งบไม่พอ Dita มาตัวนี้ได้เลย อาจจะไม่เหมือนซะทีเดียว แต่มาเทือกๆนั้น ฟังแล้วเหมือนฟังจากลำโพง หรือหูฟัง Full size อะไรประมาณนั้นเลย อิมเมจใหญ่ เสียงร้องไม่พุ่ง แต่ก็ไม่ถอย พอดีๆ แหลมดี เบสเยี่ยม ตอนไปเทียบกับ Dita ยังไม่พ้นเบิร์นทั้งคู่น่ะครับ แต่ Dita เสียงร้องดีกว่า ลอยออกมามากกว่า เสียงพวกสแนร์ hihat เจ้า dita จะแยก layer ได้ดีกว่า Soundstage เยี่ยมทั้งคู่ โอบล้อมเป็นสามมิติทั้งคู่ โปร่ง โล่ง ฟังสบาย ตอบโจทย์เพลงได้หลายแนว แต่เรื่องการสวมใส่ และกันเสียง dita กินขาด เจ้า FX800 มันกันเสียงรบกวนไม่ดีเท่าไหร่(ดูจากรูปทรงก็น่าจะนึกออก) ไม่รู้ว่าถ้าพ้นเบิร์น เจ้า dita จะทิ้ง FX800 ขนาดไหน แต่ก็ถือว่าเจ้า FX800 นี่เสียงเกินคาดหมายของผมเลยล่ะครับ ตอนแรกมองข้ามไปข้ามมา ไม่คิดว่ามันจะเยี่ยมขนาดนี้ ราคาก็ 12,xxx แต่ผมได้มาในราคาลด 50% เหลือ 6500

หรือไม่ลองตัวอื่นๆ ร้านเฮียเพียบ ไปนั่งลองฟังเลยครับ RE600 ก็เยี่ยม

อ่ออีกเรื่อง Dita มันไม่ได้ท้าชนกับ BA ที่ Driver เยอะๆได้น่ะครับ เพราะมันเก่งกันคนล่ะอย่าง ถ้าชอบรายละเอียดสูงๆ ระยิบระยับ Detail อลัง แบบ BA ที่ Driver เยอะๆ นั้น อาจจะไม่ชอบเจ้า Dita น่ะครับ ไม่อยากให้คาดหวังไปแบบนั้น แต่ถ้าชอบเสียงแนวหูฟัง Full Size หรือฟังเพลงจากลำโพง ที่อิมเมจของเสียงค่อนข้างใหญ่ อิ่ม แน่น อิมแพคดี ไดนามิคของเสียงเยี่ยม ลื่นไหล สมูท น่าจะโดนล่ะครับ

JVC HA-FX800 สวยดีนะครับ

เคยลองตัว HA-FX1200 อิมแพคดีมาก ฟังพวกกระเดื่องกลองสะใจ แถมเปลี่ยนสายอัพเกรดได้ด้วย
แต่พอใส่แล้วมันเหมือนเอาบ้องข้าวหลามมาเสียบหูเลยยังไม่โดน

ผมไปลอง HA-FX1200 แล้ว อิมแพคดี แต่ออกทึบอะครับ แต่จะขอแนะนำนะว่าให้ลอง thinksound ms01 ครับผมใช้มาสองตัวแล้ว ถ้าจะซื้ออย่าลืมลองตัวนี้นะครับ Dita ยังไม่เคยไปลองแต่ราคามันโหดมากซื้อไม่ไหว แต่เอาเป็นว่า ผมลอง HA-FX1200 แล้วรัก thinksound ms01 มากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย ราคา 3990 จ่ายแบบไม่ต้องสืบ

1

แต่ถ้าเกิดจะอ้างอิงเสียงเจ้า Dita ผมว่า RE400 กับ RE600 ยังไม่ใช่ครับ คนล่ะแนว ถ้าเทียบเป็นลำโพงพอจะให้นึกออก เทียบกับ Swans ล่ะกัน คือ RE400 กับ 600 คือ swans รุ่น X3 กับ X4 ตามลำดับ ส่วน Dita คือ M200MKIII แล้วกัน ประมาณนี้ คือ Dynamic Driver เหมือนกัน แต่เสียงคนล่ะทาง Monitor กับ Music Lover

สำหรับ FX1200 ผมเคยคิดจะไปตัวนี้เหมือนกันหลังจากได้ FX800 มา แต่พอไปลองฟัง ผมว่าที่คุณ raymee_4 ว่ามันทึบอาจจะเป็นเพราะว่าเบสมันล้นไปน่ะครับ ผมรู้สึกประมาณนี้ เคยเปลี่ยนใจไม่ไปดีกว่า FX800 ฟังดูแล้วโปร่งกว่า แค่นี้เบสก็ถือว่าเยอะสำหรับผมแล้ว แถม Housing ใหญ่กว่า หนักกว่าด้วย

แต่ Thinksound นี่ หาฟังได้ที่ไหนบ้างอ่ะ

พึ่งเปลี่ยนจาก re400 มาเป็น 600 รู้สึกดีมากทีเดียวครับแต่มันออกไปทาง audiophile หรือ monitor มากกว่าอะนะ มัความใกล้เคียงกับพวก ba driver อยู่ด้วย แต่ความสมูธและการใต่ระดับเสียงที่ดีกว่า แต่ท่าจะเบิร์นนานเอาเรื่องครับ แต่ก็คงกลายเป็นหูฟังคู่ใจอีกตัวหนึ่งแทนที่เจ้า re400 ล่ะครับ

Dynamic driver เดียวในงบนี้
ผมชอบ ex800st ไม่ก็ ex1000 (แถว 2 นะ) อีกตัวก็ fx850

ขอบคุณทุกความเห็นครับ จะหาโอกาสไปฟังทุกตัวที่แนะนำ แต่ Thinksound นี่น่าจะหาฟังยากกว่า JVC อีกนะครับ

ส่วน RE400 ผมเคยลองฟังแล้วรู้สึกว่ามัน Flat จนจืดไปสำหรับผม เลยไม่รู้ว่า RE600 จะใช่แนวที่ผมชอบรึเปล่า ผมฟังเพลงหลายแนวครับ ตั้งแต่ audiophile jazz pop dance rockบ้าง ยกเว้นพวก heavy metal หนักๆ ครับยังเข้าไม่ถึง.. (อย่างนี้เรียกว่า music lover รึเปล่าครับ..)

เคยเห็นหลายท่านพูดถึง RHA MA750 ครับ น่าสนใจดี แต่ตอนนี้ของขาดตลาด เลยหาฟังไม่ได้

และก็มีคนเอา MA750 ไปเทียบกับ Zero Audio Duoza ตัวนี้ก็น่าสนใจครับ ผมจะไปลองฟังว่าแนวเสียงใช่แนวที่ผมชอบมั้ย (แต่เป็น Dynamic Driver 2 ตัว ผิดกติกากระทู้นี้ 555)

ใครมีหูฟังตัวไหนจะแนะนำเพิ่มเติมอีกได้นะครับ ถือว่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเพลินๆ นะครับ

ถ้าไม่ชอบ RE400 ก็เลี่ยง RE600 ได้เลย อย่างที่ผมเทียบให้ ถ้า RE400 คือลำโพง X3 แล้วนั้น RE600 ก็คือ X4 นั่นเอง ( Swans X3 กับ X4 เป็นลำโพงแนว มอนิเตอร์ ซึ่งผมมองว่า RE400 กับ 600 มันออกแนวๆนั้น)

ผมไม่อยากให้คุณไหลไปตามกระแสเจ้า Dita มากนัก ผมเดาเอาว่าคุณยังหา Sound Signature ที่ชอบยังไม่เจอ หาเวลาว่างๆไปลองฟังเลย ร้านเฮียก็ได้ ฟังมันให้หลายๆแบบ หลายๆทาง หลายๆรุ่น อย่าไปกะเกณฑ์ตัวเองว่าต้องลอง Dynamic Driver ตัวเดียว คุณอาจจะชอบ BA Driver หรือไม่ก็ Sound Signature ของยี่ห้ออื่นๆมากกว่าเจ้า Dita ก็เป็นได้

ที่ผมรู้ตัวเองว่าชอบ Dynamic Driver ก็มาจากสั่งสมประสบการณ์มาพอสมควร ผมไม่ได้เก่ง เทพ หูทองอะไรหรอกครับ บางอย่างที่ทางร้านรีวิว ว่าเป็นแบบนั้นแบบนี้ บางทีผมยังไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร เพียงแต่จากการที่เล่นที่ยาวนาน พอสังเกตุหูฟังประจำกายตัวเก่งแต่ล่ะช่วง มักจะเป็น Dynamic Driver ตัวเดียวแทบทั้งนั้น เคยใช้ Dynamic Driver 2 ตัวอยู่พักนึง แต่ตกเป็นลูกเมียน้อยไป เพราะการมาของ B&W C5

ลองไปหาฟังดูหลายๆรุ่น หลายๆแบบ อย่างผมเอง ไม่ใช่ว่าชอบ Dynamic แล้วจะไม่ฟัง BA เลย ผมก็ยังไปไล่ฟัง BA ที่ผมสนใจอยู่เสมอๆ บางตัวชอบไม่แพั Dynamic ด้วยซ้ำ แต่ด้วยข้อจำกัดบางอย่าง ทำให้ไม่เลือก เช่น ผมชอบเจ้าตัว Earsonic SM64 เคยฟังที่ Jaben เมื่อนานมาแล้ว ชอบเลยตัวนี้ แต่เนื่องด้วยผมเป็นคนไม่พกแอมป์ จึงไม่เลือก เพราะมันขับยากพอสมควร อะไรประมาณนี้

ก็ไม่ได้จะมาสั่งสอนอะไร เพราะผมก็ไม่ใช่หูเทพหูทองอะไร แต่ไม่อยากให้ไปเกาะกระแสเจ้า Dita มากจนเกินไป เพราะอาจจะพลาดอะไรที่เราชอบจริงๆ ก็ได้

อีกนิด MA750 นี่ถึงของขาด(ของกำลังจะเข้า ข่าวจากผู้นำเข้า) แต่หาฟังได้น่ะครับ ผมไปลองมาที่ Jaben

ขอบคุณคุณเอกมากครับ ผมถือว่าเป็นคำแนะนำจากรุ่นพี่ในวงการหูฟังครับ

หูฟัง Dita นั้น ผมชื่นชมมันตรงที่ผู้ผลิตเค้าสามารถทำหูฟังอินเอียตัวเล็กๆ ที่ให้เสียงดีในทุกๆด้าน ทุ้มกลางแหลม รายละอียดครบ มิติกว้างลึก สเกลใหญ่เหมือนฟังจากลำโพง อยู่ในอันดับแนวหน้าของวงการได้ โดยใช้ dynamic driver แค่ตัวเดียว ไม่ต้องใช้หลายตัว ไม่ต้องมีวงจร cross over ไม่ต้อง BA ไม่ต้อง hybrid ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เหมือนกับการทำลำโพงสักตัว โดยใช้ดอกลำโพงดอกเดียว full range แต่ให้เสียงได้ครบทุกย่าน 15-22,000 Hz เลย เปิดได้ดังกระหึ่มคับห้อง มันคงยากมาก แต่เมื่อเค้าทำได้ผมเลยชื่นชมเป็นพิเศษ

แล้วผมก็เลยสงสัยต่อว่า แล้วถ้าเป็นหูฟังที่ระดับราคาต่ำลงมา สัก 1 หมื่นบาท แต่ใช้หลักการเดียวกันคือ dynamic driver เดี่ยวๆ จะสามารถทำให้เสียงดีได้ขนาดไหนหนอ.. ก็เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ครับ

ส่วนตัวผมนั้นก็จะพยายามหาฟังหูฟังให้มากขึ้นเพื่อสะสมประสบการณ์ อย่างน้อยตอนนี้ก็มี JVC FX800 กับ FX850 เพิ่มมาในลิสต์แล้วครับ

ถ้าตัวเดียวต่ำกว่า 10000 ต้องเจ้า Tenore ครับ ตัวนี้อยู่กับผมมานานจนคิดว่ามันต้องขึ้นหิ้งไปแล้ว

ปล.มันกินกำลังเหมือนกันนะไอตัวนี้

sennheiser​ ie800​ หามือสองได้ประมาณ 16-17k ครับ
อาจจะผิดกติกาไปหน่อย แต่คุ้มเลยทีเดียว

ผมมันยุคเก่า แต่วันนี้จะ4ปีละ ยังติดใจ turbine อยู่เลย ใครว่าสายเบส แต่ปลายแหลมมันก็มา เสียงร้องยังฟ้องเลยถ้าอัดมาพร่า ถ้าเสีย ผมจะย้งหาซื้อตัวนี้เลย

พอคุณลองมองกลางๆพูดถึง Turbine นี่ ถึงนึกขึ้นได้ ทำไมถึงลืมตัวนี้ไปได้น่ะ ตัวนี้เบสเยี่ยมแต่ไม่ขาดแหลมกับกลาง เป็นอีกตัวที่ผมว่าคุ้มราคาสุดๆ

วันนี้ แวะผ่านไปลอง fx1200 ที่ร้านเฮียเล่นๆ
ถ้าเทียบกับ 850 เดิมๆ ไม่เปลี่ยนสาย
คหสต. นะ
1) ลายไม้ 1200 สวยกว่า 850 เยอะ (ชอบตรงนี้มาก)
2) เบส 1200 คุมดีกว่า 850 (850 สายเดิมๆ นี่เบสล้นกว่านะ)
3) กลาง 1200 ดีกว่า ออกแนวกังวาลกว่านะ
4) สูงติดคัลเลอร์ อารมณ์เสียงสูงมันพุ่งๆ
โดยรวม soundsig ก็ตามสไตล์ของ jvc แหละ

ส่วน dita truth กับ answer ร้านเฺฮียเท่าที่ลองน่าจะยังไม่พ้นเบิร์น (เพราะเสียงต่างจากตัวเดโมของอีกร้านนึงที่มีขายมา ก่อนหน้านั้น ตั้งแต่ไตรมาสแรกเยอะพอควร ตัวนั้นไม่แน่ใจว่าพ้นเบิร์นยังนะ แต่เร็วๆนี้ ที่ไปลอง ก็ยังมี เสียง ส ซ อยู่)

ปล. @ จขกท. ตามที่คุณเอกว่าเลยครับ ถ้าฟัง re400 แล้วรู้สึกว่าจืด คงไม่น่าชอบ re600 แน่ๆ

โห คุณโจ๊ะ FX1200 ผมก็ว่าล้นแล้วน่ะ เจ้า 850 ล้นกว่าอีกเหรอครับ แต่เห็นด้วยเรื่องกลางของ 1200 มันจะกังวาลๆ

@เอกเรื่องมาก
ใช่ครับ ถ้าเป็นสายเดิมๆ ของ 850 นะ
(แต่เห็นใน headfi เขาจะมีวิธีลดเบสของ 850 โดยเอาเทปไปแปะตรงช่องเบสนะ http://www.head-fi.org/t/703874/jvc-ha-fx850-iem-woody/105#post_10347472 ซึ่งจะทำให้ balance ดีขึ้นมากๆ เห็นว่าถ้าใช้่ ทั้ง 850 กับ 1200 นี่เสียงจะดีขึ้นทั้งคู่ ผมยังไม่เคยลองทำนะ)

เอาจริงๆ ผมว่าข้อเสียของทั้ง 850 กับ 1200 คือ ตัว jvc ไม่ได้มีทำสาย stock ขายนี่แหละ อย่าง 1200 จุดขายที่เขาชูคือ wood dome ดีขึ้นกับ สายอัพเกรดขึ้นจาก 850 ใช้สายเกรดดีขึ้น แต่ถ้าคนที่ใช้ 1200 ไปแล้ว ท้ายสุด สายมันขาดใน จะหาซื้อสายมาเปลี่ยนได้ยังไงนี่สิ

สาย fx1200 นี้มันขั้ว mmcx แบบ shure นี้ครับ เสียขึ้นมา อัพสายใหม่เลย แต่จะติดปัญหาตรงสายโม ส่วนมากจะเป็นพวกดัดแบบคล้องหู

@russo20
เพราะเปลี่ยนสาย character มันเปลี่ยนไงครับ มันเลยจะเป็นปัญหาสำหรับคนที่ชอบ character เดิมๆ ของ fx850, fx1200
ปล เรื่องดัดหูคล้อง อันนี้ ก็ทำให้หาสายเปลี่ยนยากเหมือนกัน

อืม ถ้างั้นผมว่าคงต้องติดต่อส่งเครมสายกับทางร้านดีกว่าครับถ้าเกิดขาดในขึ้นมา จริงๆผมชอบสายแบบนิ่มๆ มากกว่า พวกสายผ้านะ ใช้ไปนานๆ ผมกลัวสายยุ่ยมากกว่าสายขาดในอีกนะ

FX1200 ที่พึ่งซื้อมานี้ ตอนฟังแรกๆ แทบขายทิ้งเลย เสียงแสบหูมาก ผ่านไป 100 ชม. ถึงจะเวิร์ค เสียงพวดลอดไรฟัน ซ ส หายไปเยอะ

โอ้ เห็นด้วยกับคุณเอกเรื่องมากเช่นกันนะครับ

ในความเห็นว่าการหา Sound Signature ที่ชอบให้ได้ก่อน ผมเองก็เรียกว่าเล่นหูฟังมาซักพักน่ะนะครับ ผ่านมาก็หลายตัวเหมือนกัน ทั้งที่เป็น Dynamic Driver และ BA Driver จนมาถึงตอนนี้ ก็มีตัวประจำเหมือนกันซึ่งก็เป็น BA 1 ตัว Dynamic Driver 1 ตัวครับ

อย่างเช่นตัว BA ผมเองมาจบที่ Audio Technica IM04 ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ผ่านมาหลายตัวครับทั้ง Final Audio Heaven 6, Shure 535 ซึ่งก็ชอบโทนเสียงนะครับ จนกระทั่งมาเจอ Series ของ IM นี่แหละ ส่วน Dynamic Driver ก็ใช้ Fx1200 อยู่ครับ โดยเปลี่ยนสายเป็นสายเงินให้เสียงโปร่งมากขึ้น (สายเดิมของหูฟังไปนานๆมันรู้สึกล้าเร็วไปหน่อยครับ โทนเสียงออกหนักๆ)

อย่างที่คุณเอกเรื่องมากบอก ผมเองก็ไม่คิดว่า Driver แบบนี้จะดีกว่าแบบนี้ หรือแม้แต่ที่ว่าหูฟังที่ Driver ยิ่งเยอะยิ่งดี ทุกรูปแบบมีทั้งสามารถมีทั้งข้อดี และข้อเสีย สำหรับแต่ละคนอยู่แล้วครับ บางคนอาจจะจบที่ 1 Driver หรือบางคนจบที่ 5 Driver มันก็ไม่ได้ผิดอะไรครับ

ขอยกตัวอย่างเล็กน้อยละกันครับ IM04 ที่ใช้อยู่ตอนนี้อัพสาย NocturnaL Audio ACRUX ซึ่งก็จบเลยสำหรับผม (ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ปรับเปลี่ยนสายอยู่หลายอันนะครับ หมดไปพอสมควรเหมือนกัน) ตัวนี้โทนเสียงจะให้ลักษณะที่กลมกล่อม คือหมายถึง Sound Stage การแยกชิ้นดนตรีชัดเจนมากครับ แต่ทุกอย่างเก็บตัวเร็ว โดยเฉพาะเบสของ IM04 จะเก็บเร็วมาก แต่ลงชัด สุดนะครับ ดังนั้นไม่เหมาะสมกับคนชอบฟัง Impact เบสแน่นอน การอัพสายนี้ช่วยให้โทนที่ติด Dark ของ IM04 โปร่งขึ้นมาก ขอใช้ Wording ของเฮียมั่นนิดครับ เหมือนหมอกที่มันบังอยู่เล็กน้อย หายไป ทุกอย่างจะเคลียร์ และชัดขึ้นมาก ซึ่งผมโอเคกับมันมาก

ในส่วน JVC FX1200 เองผมก็ปรับเปลี่ยนสายเช่นกันครับ ใช้ Silver Dragon ซึ่งทำให้ต้องปรับรูปแบบการฟังมาเป็นคล้องหลังหูแทน จากเดิมที่ใส่ตรงๆแบบหูฟังปกติน่ะครับ ซึ่งก็ไมส่งผลให้เสียงในการฟังผิดแผกไปแต่อย่างได้ครับ ทำให้เสียงที่ได้เคลียร์มากขึ้น รายละเอียดเสียงทุกอย่างชัดขึ้น โดยเฉพาะเบสจะกระชับมากขึ้นเยอะ แต่ยังได้อิมแพคในปริมาณที่มากอยู่ครับ (สายเดิมของหูนี้เจอลูกเบสทีนี่สำหรับผมแก้วหูสั่นเลยครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ) โดยรวมแล้วทุกอย่างกระชับขึ้นนั่นเองครับ สำหรับ JVC ตัวนี้ จุดเด่นของมันเลยนะครับ คือมีความเป็น Musical มาก และเสียงเครื่องดนตรีสายนี่ถึงมากครับ ต้องบอกเลย ผมเอามาฟัง Depapepe นี่เหมือนเค้ามานั่งเล่นให้ฟังอยูข้างๆเลย อ๊ะคนนี้ดี อ๊ะตรงนี้อีกคนดีด (อ่ออออ ชักจะเวอร์นะ) และเอามาฟังคุณ Olivia Ong นี่ใช้ได้เลยครับ เสียงนักร้องฟังแล้วเคลิ้มตามเลยทีเดียว

ก็อธิบายมายาวเลย ความเห็นส่วนตัวของผมที่เห็นชัดๆคือ BA จะมีความแม่นยำกับการให้เสียงของชิ้นดนตรีชัดเจนครับ ในส่วน Dynamic Driver นั้นจะให้อารมณ์ของความเป็นดนตรีที่มากกว่าครับ

ปล. ตัว Dita เองผมก็ได้ไปลองมาแล้วเช่นกันครับ ทั้ง The Answer และ The Truth (ไปลองทั้งที่เรือธง และที่พารากอนครับ ซึ่งผมเข้าใจว่าตัวที่เรือธงนี่น่าจะเบิร์นมาเยอะกว่าของที่พารากอนพอสมควรเลย) ก็ต้องบอกว่าเสียงดีมากจริงๆครับ Balance ดีกว่า Fx1200 ไปอีกระดับเลยครับ และฟังได้ Overall ทุกแนวเพลงอย่างไม่น่าเชื่อจริงๆ วันที่ไปลองนี่ผมลองทุกแนว ถึงกับเหวอไปเลย

สุดท้ายนี้เล่นหูฟังเอาที่สบายใจ และสบายตัวเราน่ะครับ ลองหลายๆตัวดูครับแล้วค่อยตัดสินใจ ค่อยๆหาค่อยๆพัฒนาการฟังเราดูครับ

คิดออก ex1000. กับex800st แค่เนี่ย

อ่านมาหลายๆ ความเห็นแล้ว ผมคงต้องไปลองฟัง FX1200 บ้างซะแล้วครับ

อ่าน ปล. คุณ Machindize แล้วทำให้ยิ่งอยากไปลองฟัง DITA ดูจัง แต่อีกใจก็ไม่อยากกลัว 55

ผมก็กลัวครับ.. กลัวใจตัวเอง จะข้ามจุดพักครึ่งทาง ไปสุดทางที่ DITA ซะเลยดีมั้ย 555

ถ้าแน่ใจว่าสุด ก็เอาเลย อิอิ แต่กลัวจะไม่สุดน่ะสิ อิอิอิ

Dynamic driver ผมเองก็ยังแอบคิดถึง Monster turbine pro copper (MTPC) เหมือนกันนะครับ มีโอกาศลอง Dita The Truth เหมือนกันเสียงดีครับยอมรับเลย แต่ยังไม่โดนใจทั้งหมด โดยเฉพาะเสียงร้องนี่ผมยังชอบเสียงของ MTPC มากกว่าละครับ

ลองแบบนี้ครับ อย่าเพิ่งสนใจว่าอะไรเป็นอะไร แต่ลิสต์รายการตัวที่อยู่ในใจแล้วไปฟังก่อนครับ ไปที่เรือธงก็ได้ นั่งได้สบายๆๆยาวๆๆๆ ให้เริ่มที่ตัว RE400s ก่อนครับ แล้วอาจจะไปลองพวก Zero ก็ได้อีกหลายตัวในงบ

สำหรับผมถ้าให้คะแนนเรื่องเสียงเทียบกับเงินที่จ่ายไป แชมป์ในดวงใจแบบโคตรมวยตลอดกาลก็คือ Hifiman RE400 ครับ 555 สำหรับ Dita นั้น ยอมรับว่าเค้าทำมันออกมาได้ดีมากๆๆ คือฟังเพลงได้แบบครอบคลุม โดยเฉพาะท่านที่ฟังคลาสสิคและแจ๊สรับรองว่าสลบเหมือดคาคอกแน่ๆๆ แต่ราคาก็แรงไปจริงๆตามที่ว่ากันล่ะครับ 555

ขอให้เจอหูฟังที่ใช่ ที่เหมาะกับตัวเองนะครับ(ไม่ใช่ไปๆมาๆ ไปจบที่ dita นะครับ555)

พี่ๆคร้าบ.. เฮียคร้าบ.. ผมมาสารภาพว่า ผมเบรคแตกซะแล้ว เลยไปไกลเลย..

โดนซะแล้วครับ DITA Answer "The Fat" 555

มันมีเหตุครับว่า อยู่ดีๆ ผบทบ. ก็อนุมัติงบจัดซื้อโดยไม่คาดคิด!! โอกาสแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ ผมจึงรีบคว้า Player คู่ใจแล้วตรงไปร้านมั่นคงทันที ช้าไม่ได้ (กลัวผบ.เปลี่ยนใจ) ขอลองฟัง DITA Answer หน่อยครับ
หลังจากนั่งงมหาวิธีใส่หูฟังให้เข้าที่อยู่สักพัก โอย.. โดนครับ นำ้เสียงถูกใจ ทุ้มกลางแหลมมาครบๆ รายละเอียดระยิบระยับ แยกตำแหน่งเครื่องดนตรีชัดเป็นชิ้นๆ และหลุดลอยออกมาอยู่รอบๆ หัว เวทีกว้าง ลึก โปร่งโล่งสบาย สมคำร่ำลือจริงๆ และไม่ต้องใช้แอมป์ก็ขับได้ ฟังอยู่สักพัก ในที่สุดผมก็ต้องยอมเดินออกจากร้าน.. ไปกด ATM แล้วมารับ "ไอ้อ้วน" กลับบ้าน

แม้ว่าสุดท้ายผมจะไปได้หูฟังหลุดไปจากโจทย์ที่ตั้งไว้..ไกลเลย แต่ความเห็นของพี่ๆ ก็คงจะเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆที่กำลังหาหูฟังอยู่นะครับ และถ้ามีโอกาสผมก็จะไปลองฟังหูฟังที่พี่ๆ แนะนำกันมาครับ

แต่ตอนนี้ผมขอตัวไปเบิร์น Answer The Fat ก่อนนะครับ

เลยไม่ได้แวะพักกลางทางเลย 555

คิดซะว่า เจ็บแต่จบครับ อุอิ

ผมก็โดนanswerมาเหมือนกันครับ โดดมาเยอะเหมือนกัน(จากduoza)เจ็บแต่จบครับ(หวังว่า555)

ว่าแล้ว555 ดีนะยังไม่เคยฟัง555

ใจผมนึกออกแค่ EX800 กับ EX1000 แหะครับ

EX800 กับ EX1000 นี่คือสุดยอดหูฟัง inear แบบ Dynamic ของ Sony ใช่มั้ยครับ ผมยังไม่เคยเจอตัวเป็นๆเลยครับ

ส่วน Duoza ผมเคยลองแล้วครับ เสียงดี ฟังสนุกมาก แต่ผมรู้ตัวว่ายังไม่จบแน่ๆ..

ตอนนี้ผมคงหายซ่าไปนาน คงได้ใช้เวลากับเจ้า Answer เยอะเลย เห็นพี่ๆบอกว่าใช้เวลาเบิร์นก็ 300-500 ชม. แล้ว -_-"

ผมเคยลองex1000stของพี่ท่านนึงมา ผมว่ามันดีมากเลยนะ แต่ไม่เด่นอะไรนัก(แฟลตมาก) เสียงออกแนว v6 หรือ cd900st เลย และด้วยความเปินiemเลยสงัดมาก แต่เสียงมันถึงจะออกแนวมอนิเตอร์มันก็ไม่ค่อยบาดหูนะครับ ยังพอมีความลื่นไหลอยู่กำลังดีเลย สำหรับคนชอบเสียงแบบแฟลตๆ มอร์นิเตอร์ ที่ฟังเพลงแจ่มครับ

Flare Audio R2

ตัวนี้น่าสนใจมากครับ มีท่านนึงใช้ร่วมกับ AK380 อยู่ครับ

มี 3 เวอร์ชั่น ลองหาข้อมูลดูเลยครับ

นี่เป็นรีวิวเบื้องต้นครับ

อันนี้ก็ไม่เลวครับ
CKR9LTD.

ผมชอบมากน่ะ EX1000 ข้อเสียมีอย่างเดียวคือบางย่านมันกัดดูไปหน่อย

แก้ไขคำผิดด้านบน กัดดูเป็นกัดหู

คุณ Hungryburg CKR9LTD สีแดง+ทอง สวยมากครับ เห็นแล้วนึกถึง IRONMAN เลย 555

จริงๆ แล้วผมได้ CKR9 สีดำมาตัวนึง เป็นมรดกจากพี่ชาย (น้าใจดีท่านนึงประจำบอร์ดเรานี่แหละครับ) ได้มาแค่ 1 วันก่อนไปโดน DITA เอามาฟังอยู่ 1 คืน 1 วัน รู้สึกว่าเสียงมันทะแม่งชอบกล พี่ชายบอกว่าต้องต่อแอมป์ แต่หลายๆ คนบอกว่าไม่ต้องต่อ ผมเข้าใจว่าคงยังเบิร์นไม่พอ เลยเก็บไว้ก่อน แล้วก็ไปโดน DITA มาครับ

เลยขอถามท่านที่เคยใช้ CKR9 หน่อยครับว่า ตัวนี้ต้องเบิร์นนานแค่ไหนกว่าเสียงจะเข้าที่ แล้วลักษณะเสียงจะเป็นแนวไหนครับ

จริงๆ CKR มัน driver x 2 (push-pull)
ผมไม่เคยฟัง CKR9 แต่เห็นมีคนเขียนว่า CKR9LTD เสียงอยู่ระหว่าง CKR9 กับ 10
หากตอนนี้ สนุกกับ Dita ก็เล่นไปก่อน เก็บ CKR ไว้ อย่าเพิ่งขาย ***

CKR9LTD ผมไม่รู้สึกว่า มันต้องการแอมป์นะ
เสียงที่ผมรู้สึก คือ
เบสดีมากๆ ไม่บวม ไม่ล้น (อาจจะดีกว่า dita นิดๆ ด้วย ดีกว่า UMPro50 มาก)
เสียงร้อง/แหลมดี ใส และ clear กว่า dita (ใกล้ๆ Heaven5) แต่ dita ฟังดูเป็นธรรมชาติกว่า (คนละแบบ)
มิติเวทีเสียงดี ไม่แคบ แต่ไม่มีทางสู้ dita ตรงนี้ได้
แยกชิ้นดนตรีที่เล่นพร้อมๆ กันได้ดี (คล้ายกับพวก BA) ให้รายละเอียดเสียงในบางเพลงได้จนผมแปลกใจ
ชอบกว่า IM02 มาก (ขายไปแล้ว)

ผมว่ามันเป็นหูฟังต่ำหมื่นที่เสียงดีมากๆ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ทำตลาดในไทย