เจ๋งมากๆครับฉากแอคชั่นของเรื่องนี้

เรทเวปวิจารย์ของต่างประเทศให้คะแนนสูงมากครับ

ส่วนตัวผมชอบการดีไซน์ตัวละคร อุปกรณ์และอีกหลายๆอย่างมากครับ

แนะนำให้ไปดูเหมือนกัน 10/10

รอเกมครับ

ทีแรกที่เห็นคิดว่า คงสู้ของป๋าเมลไม่ได้ครับ อันนั้นคลาสสิคขนาด หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ การ์ตูนดังสมัยนั้น ยังเอาคาแรคเตอร์ไปใส่เลย แต่ฟังจากเสียงทุกคนที่ไปดูมา นี่คือหนังแอ๊กชั่นที่ไม่ควรพลาด ในรอบ 365 วันเลยครับ

ทั้งเรื่องชอบมือกีต้าร์มากสุดครับ ยึดมั่นในหน้าที่ตราบจนลมหายใจสุดท้าย 555

Ver.นี้สู้ป๋าVer.เมลล์ ได้สบายครับ กลิ่นอายเดิมมาครบ แค่เปลี่ยนดาราตามสังขารเท่านั้น(ฮา)

หนังมันอลังการขึ้นตามยุคสมัยและต้นทุนครับ
ผมว่าถ้าย้อนไปสักสี่สิบปีที่แล้วถ้า ผกก.แกมีทุน+เทคโนโลยีสมัยนี้ คงจะออกมามันส์แหลกแบบนี้เหมือนกันครับ

ส่วนใครยังไม่ดูภาคเก่าๆก็ไม่ต้องกังวลว่าจะดูไม่รู้เรื่องครับ
ตัวหนังมันเป็นภาคต่อคล้ายๆกับหนัง007
คือแต่ล่ะภาคเนื้อเรื่องแบ่งแยกจากกันชัดเจนครับ เสพย์เนื้อหาจบเป็นภาคๆไป

ตราบใดที่ ผกก.แกยังไม่ตาย ผมว่าคลอดเฟรนด์ไชส์ออกมาเพียบแน่ครับ
เพราะหนังสไตล์นี้มันเหมือนกับการปลุกชีพแนวหนังที่ตายแล้วให้กลับมาฟื้นใหม่ และเรื่องนี้ได้ฟื้นมาแบบทรงพลังชาวไซย่าเลยครับ
ผมว่ามันทรงพลังกว่าที่ The Expendable ปลุกชีพหนังบู้ สตันแมน ซ่ะอีก

และจากแนวหนังในปัจจุบัน ผมว่าไม่มีใครมาแทน ผกก.คนนี้ในเรื่องนี้ได้แน่นอน
ถ้าให้ไกล้เคียงสุดคือต้องให้ J.J. Abrams รวมร่างกับ Quentin Tarantino แล้วล่ะครับ

ภาพ แสง สี เสียง สุดยอดดด ตัวละคร-ฉากก็มีเอกลักษณ์ มีฉากให้น่าจำเอาไป 10/10 เลยจ้าา(ดูมา2 รอบแบบ 2-3d)

นั่นไง ต้องรีบไปดูเหมือนกันซะแล้วๆๆๆๆ 555

ดูสนุกกว่าหนังรวมซุปเปอร์ฮีโร่ที่เข้าฉายก่อนหน้านี้อีก
ฉากซิ่งรถมันส์กว่าFF
เป็นหนังที่ผมไม่คิดจะดู แต่ดูแล้วโคตรคุ้ม
นักแสดงแต่ละคน ลงทุนมาก ไม่ต้องห่วงสวยห่วงหล่อกันเลย
ภาพสวยสีสด ไม่น่าเชื่อว่าทะเลทรายแห้งๆ สีจะสวยสดได้ขนาดนี้
ดนตรีประกอบจี๊ดมาก แล้วไอมือกีตาร์นี่โผล่มาทีแย่งซีนทุกคนเลย ฮามาก

ใครยังไม่ดูรีบจัดครับ หนังสมัยนี้เอะอะก็CG เรื่องนี้ดิบๆเลย เห็นว่าใช้CGน้อยมาก รถราแต่ละคันก็สร้างขึ้นมาเองจริงๆ ถ่ายในทะเลทรายจริงๆ ฟุตเทจยาวกว่า400ชม.ตัดมาให้เราดู110นาที

แนะนำให้ดูเป็นโรง Dolby Atmos ด้วยนะครับ รับรองว่ากระหึ่มสะใจสุดๆๆ

ผมว่าถ้าเฮียดูเสร็จ

ออกมาเฮียมีสิทธิ์โมรถแบบสารพัดลำโพงแบบภาพแรกแน่ๆ


รถแต่ละคันเหมือนจะโมแค่เอาเท่น่ะครับ แต่หนังเจ๋งดันสร้างหน้าที่มาให้แต่ละคันได้ทำหน้าที่ของมันด้วย และองค์ประกอบฉากอื่นๆก็เจ๋งไม่แพ้กันครับ เอาของที่เราเห็นๆอยู่ทุกวันมาดัดแปลงเป็นอุปกรณ์ได้สารพัด
ดูไปอึ้งไปว่ามันเอามาทำแบบนี้ได้ด้วยเรอะ จินตนาการคนออกแบบเนี่ย ไม่เก๋าจริงผมว่าทำไม่ได้

และนักแสดงหลักๆก็มีแค่3คน ซึ่งถือว่าใช้งานได้โคตรคุ้ม ไม่ต้องยกมาเป็นกองทัพดารา ก็สยบ หนังกองทัพดาราได้

ส่วนโลเคชั่น ผมว่ามันปราบเซียนมาก ทะเลทราย ๆ ๆ ๆ ( ต้นทุนค่าโลเคชั่นผมว่าต่ำมากๆอ่ะ555+)

แต่ดูแล้วไม่เบื่อเลยครับ

เคืองอย่านึงคือ รถ v8 ของพระเอกโฟล่มาไม่ถึง 5 นาทีเลยครับ ส่วนพระเอกขับจริงๆแค่ 10 กว่าวิเองครับ เซงสุดๆ ตั้งแต่ภาคสองละครั

ปล.พอๆกับ Dodge charger ของ พี่ดอมใน ff อ่ะครับ โพล่ได้แปปๆ พังอีกละ

เห็นรถลำโพงแล้วนึกถึงรถลำโพงตามงานวัดบ้านเรา

เรื่องนี้ลืมดูไปสนิทเลยครับ 555 เห็นโฆษณาแล้ว ว่าจะไปดู แต่ดันลืมซะงั้น 555

ผมยังไม่ดูครับ
แต่คนแสดงที่เล่นกีตาร์นี่เทพมากๆ
เห็นเขาบอกมามาอยู่ทะเลทรายที่ออสเตรเลียเป็นเดือนเพื่อปรับตัว พอถ่ายทำก็ปิดหน้าปิดปากเล่นกีตาร์อีก ลงทุนมาก ตัวประกอบบนรถก็อ้าปากกินทรายกันไป 55555555

ผมชอบ "ทอม ฮาร์ดี้" มากอยู่แล้ว
เรื่องนี้ไม่พลาดแน่ครับ

เพลงมันมาก ผมหามาฟังเลย

ขนาด อ.กฤษดา เกิดดี(นักวิจารณ์ที่ผมชอบ) ยังให้ถึงสามดาวครึ่ง ซึ่ง หนังแนวแอกชั่นน้อยเรื่องมาก ที่จะได้ดาวขนาดนี้ ฉะนั้นไม่พลาดแน่นอนครับ

เรื่องนี้แอคชั่นถึง(จนเกิน55+)และไอเดียค่อนข้างสดใหม่(ในยุคนี้)
ดราม่าเข้ม ดราม่าทั้งๆอยู่ในฉากแอคชั่นนั่นแหละครับ
แอบแฝงปรัชญาเชิงสัญลักษณ์และคำพูดด้วยในหลายๆฉาก(แอคชั่นไปด้วยปรัชญาไปด้วย เอากับมันสิ)

นักวิจารณ์เว็บมะเขือเน่ายังให้สดที่ 98%(สด252/เน่า5) อยู่เลยครับ
ซึ่งหนังแอคชั่นฟอร์มยักษ์98%เนี่ยผมไม่ได้เห็นมานานมาก

ผมยังแอบเชียร์ให้ได้ออสการ์สักสาขาเลย(ผมเชียร์สาขา ผกก.ยอดเยี่ยม)
ให้มันรู้ไปเลยว่าแอคชั่นก็คว้ารางวัลใหญ่ๆได้55+

หนังเรื่องนี้ ฝ่ายออกแบบเค้าทำได้ดี มีจินตนาการไกลดี คือเข้าใจดีไซน์รถให้มันวิลิศมาหราสมกับทะเลทรายจริงๆๆ หนังแนวไล่ล่าแบบนี้ถ้าไม่ได้ฉากจินตนาการล้ำๆมาช่วยอาจจะกร่อยได้ แต่โดยรวมโอเคมากครับ 555

ผมรีบเผ่นไปดูก่อนที่มันจะออกจากโรงเลยครับ 555

ไปดูมาแล้ว ชอบมือกีต้าร์สุดๆครับ
เนื้อเรื่องทำให้นึกถึงหนังสือการ์ตูนเรื่องหมัดเทพเจ้าดาวเหนือที่เคยอ่านสมัยหนุ่มๆเลย ^^

ต้องพูดว่าการ์ตูน หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ ได้แรงบันดาลใจจากหนังเรื่องนี้เลยครับ

สมัยพระเอกยังเป็น เมล กิบสัน อยู่

Mad Max โดยเฉพาะภาค2 Road Warrior นี่ส่งอิทธิพลไม่ใช่แค่การ์ตูน
แต่หนังแนว post WW3 แทบทุกเรื่องล้วนใช้แมดแมกซ์เป็นแนวทางทั้งสิ้น เช่น Water World, Book of Eli ฯลฯ
งาน production ตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงยานพาหนะนี่ถือเป็นงานครู โดยเฉพาะฉากการไล่ล่า
แต่เหนืออื่นใดคืองานดนตรีประกอบ โดย Byan May แห่งวง Queen ครับ

Mad Max : The Road Warrior จึงเป็นหนังขึ้นหิ้งไปโดยปริยาย
ส่วน Fury Road จึงน่าจะเป็นภาค upgrade มากกว่าตั้งแต่ฉากเปิดตัว ฉากไล่ล่า ไปจนถึงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่สื่อถึงภาค 2
แต่ผมว่ายังไงพระเอกก็ยังหล่อไม่เท่าคนเก่า 555

ภาค fury road ถือเป็นหนังภาคต่อจริงๆนะครับ เพราะมีการนำ ตัวละคร หรือ detail จากภาคก่อนๆมาใช้หลายอย่างเลย

เดี๋ยวจะไปหาของเก่ามาดูซะหน่อยแล้วล่ะครับ 555

ภาคแรก ดูแค่10นาทีแรก + 10นาทีท้ายพอน่ะครับเฮีย เพราะที่เหลือเนี่ยเนือยมาก แต่ฉากขับรถไล่ล่าเนี่ยขึ้นหิ้งในสมัยนั้นเลยครับ จนเป็นกระแสปากต่อปากให้มีทุนสร้างภาคหลังๆ

ภาค2 แจ่มทั้งเรื่อง ฉากขับรถไล่ล่าภาคนี้ถือว่ายาวสะใจมากๆในบรรดาไตรภาคครับ ภาคนี้ขึ้นหิ้งคลาสสิคไปแล้วครับ

ภาค3 โปรดักชั่น ฉาก เครื่องแต่งกายดูสมเป็นหนังใหญ่เต็มตัว แต่มีกลิ่นทะเลหน่อยๆ แต่ยังค่อนข้างรักษามาตรฐานไว้ดีอยู่ครับ

ผมเกิดไม่ทันทั้งสามภาคแต่ได้ดูทางเคเบิ้ลอบมากๆเลย มันดูคล้ายๆขบวนการเรนเจอร์ดี แต่งตัวกันประหลาดๆดี555+
พอช่อง7เอามาฉายเลยได้ดูแบบจริงจังหน่อย จนถึงกับทึ่งว่าสมัยนั้นทำหนังขับรถล่ากันได้ขนาดนี้เลยเหรอ เลยฝังหัวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
จนมาภาคล่าสุดเนี่ยผมว่า ผกก.แกคงปล่อยผีเต็มที่ เพราะมีทุนให้ผลาญเยอะขึ้น แต่กระนั้นก็ยังใช้ทุนสร้างเพียง 150 ล้านเหรียญ เท่านั้นเองซึ่งถือว่าน้อยมากในอุตสาหกรรมหนังHollywoodครับ (เทียบให้เห็นภาพก็Fast7 ทุนสร้าง250ล้านเหรียญ)

สุดท้ายนี่เอาดนตรีประกอบมาฝากครับ ใครดูมาแล้วผมเชื่อว่าติดหูแน่ๆ
https://www.youtube.com/watch?v=MgYnKu8RYAU
https://www.youtube.com/watch?v=tQBnlWAMq_Q

ผมเห็น madmax แล้วนึกถึง godfather ตรงที่เป็นหนังที่สร้างภาคสองออกมาแล้ว ไม่ดรอปไปจากภาคแรก ส่วนใหญ่หนังที่ประสบความสำเร็จ จากภาคแรกพอมาภาคสอง มักจะทำไม่ถึงทั้งนั้น ส่วนภาคสามที่ป้าทีน่ามาเล่น ผมว่าสู้สองภาคแรกไม่ได้ เหมือนกับ godfather มันพีคสุดๆแค่สองภาคเท่านั้น ภาคสามเหมือน ออกมาสานต่อความสำเร็จเท่านั้น
*ผมใช้นึกจากภาพจำ ที่เคยดูเมื่อครั้งแรก ถ้าให้ย้อนกลับไปดูตอนนี้ ความประทับใจคงไม่เท่าตอนนั้น*

คห.23
@Ahura

คนทำเพลงประกอบ MAD MAX ภาค 1 กับภาค 2 นั้น เป็นคนละคนกับ Byan May ของวง Queen ครับ เพียงแต่ชื่อดันมาเหมือนกัน Byan May ที่มาทำเพลงประกอบใน MAD MAX ภาค 1-2 นั้น เป็นคนออสเตรเลียครับ ภาพยนตร์ MAD MAX จะเป็นทีมงานสร้างจากประเทศออสเตรเลีย หรือเรียกว่าเป็นภาพยนตร์จากประเทศออสเตรเลียก็ว่าได้ครับ Byan May แต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ไว้มากมายหลายเรื่อง เป็นนักแต่งเพลงที่มีชื่อมากมายในวงการภาพยนต์ของออสเตรเลีย และก็ได้เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 1997 อ่านประวัติเพิ่มเติมคลิกที่ด้านล่างครับ

http://en.wikipedia.org/wiki/Brian_May_(composer)

ขออภัยด้วยครับ พิมพ์ชื่อผิด

ขอแก้ไขจาก Byan เป็น Brain

ขอบคุณ @ pyroj นะครับสำหรับข้อมูล ที่เข้าใจผิดมาร่วมยี่สิบปี 555

สงสัยตรง ทั้งเรื่อง ขับรถกันแบบระห่ำทั้งวันทั้งคืน ไม่ค่อยเห็นฉากเติมน้ำมัน แสดงว่ารถเขาประหยัดน้ำมันเป็นเลิศมากๆเลยครับ 555+

มันส์มาก !!!

ตอนนี้เหลือแต่รอเกม Mad Max ครับ น่าเล่นมักๆ

HAWK & ANIMAL ก็ได้รับอิทธิพล

เคนชิโร่ตอนต้นๆเรื่อง ได้รับเต็มๆทั้งการแต่งกาย การขับรถไล่ล่า สมัยก่อนถ้าหาเกราะบนบ่าได้ ผมเป็นเคนชิโร่ไปแล้ว555

คุณ lek_chiangrai

**สปอย**

ผมว่ามันเติมแบบใช้น้ำมันพ่นทางปากเอาครับ สังเกตจากตอนแข่งกันเร่งเครื่อง มันยังกล้าทำซ่ะขนาดนั้น
หรือไม่งั้นก็เติมแบบในเรื่องNeed for Speed
ส่วนปริมาณน้ำมันคงไม่มีปัญหา รถพระเอกก็มีถังบรรจุขนาดมหึมาขนาดนั้น และพวกตัวร้ายก็มีเจ้าพ่อแก๊ส ทาวน์(ไอ้เท้าช้าง) มาด้วย พร้อมบรรทุกน้ำมันมามหาศาล(รถที่มันระเบิดซ่ะไฟท่วมจอตอนท้ายอ่ะครับ)

แต่ที่เซ็งมากๆคือ ไฟล์มาสเตอร์มาเร็วเกิ้น ในบิทปล่อยกันพรึ๊บเลย

ผมชอบ คนให้เลือด 555555555555555555555555555555555555555555555+

มันส์มากๆ เสียดายไม่ได้ไปดูในโรง