ถ้าเป็นตั้งโต๊ะอย่างเดียวเลย รบกวนรอท่านอื่นมาตอบนะครับ

ถ้าใช้พกพากับ player ด้วย เน้นเสียงร้อง รายละเอียดเสียงดี สูงมีประกาย ราคาเป็นมิตรผมแนะนำให้ลอง O2 ครับ

...ความจริงถ้าเน้นเสียงร้องลองตัว Aune B1 ด้วยก็ดีครับ ส่วนตัวผมคิดว่าทำได้ดีกว่า แต่เสียงจะเป็นคนละแนวกันและประกายเสียงสูงอาจไม่เด่นเท่าตัว O2 ครับ ส่วนด้านรายละเอียดเปิดเผยพอกันครับ (ผมไม่แน่ใจว่าจขกท.อยากได้เสียงกรุ๊งกริ๊งระดับไหน รูปแบบไหน น่ะครับ)

Grado เสียบกับเ DAp เพียวๆดีกว่านะครับในความรู้สึกผม

แต่ถ้าเอาแนะนำ ผมแนะนำ
Aune B1
JDS O2
Schiit Magni 2 Ubi
Schiit Vali
Aune T1

แนวที่ต้องการผมว่าไม่จำเป็นต้องต่อแอมป์เพิ่มหรอกครับ
ใช้ให้พ้น 200-300ชม. ค่อยตัดสินใจดูครับเรื่องย่านแหลมกรุ๊งกริ๊ง
Grado ยิ่งใช้เสียงยิ่งมาในแนวดีขึ้นครับ 55555

ถ้าใช้งานสองเเบบทั้งกับคอมเเละเครื่องเล่นเเนะนำเป้นพวก DAC/Amp จะคุ้มตังกว่ามากๆครับ
อย่าง GRADO 325e ลองดู JDS C5D ครับแบรนดืนี้จับคู่กับกราโด้ได้ดีมากๆครับ ให้ซาวด์ที่ออกคัลเลอร์ เวทีกว้าง เบสกระเเทกกระทั้น ฟังพวกป็อบ ป้อบร็อคได้ดีมากๆครับ

O2

ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ....
ตอบคุณ Melonpan ประมาณว่า อยากฟังที่สามารถแยกเครื่องดนตรี ชิ้นเล็ก ชิ้นน้อย ได้หน่ะครับ

ผมว่ารอเบิร์นสักหห้าร้อยชมก่อนฮะ ตอนนั้นรายละเอียดมาเต็มจนต้องหาวิธีลดก็ได้ฮะ หา dap ดีๆมารอดีกว่า

เห็น NFB11 มีคนมาปล่อยอยู่ก็น่าลองนะครับ

ผมใช้กับ O2 อยู่ผมชอบนะเน้นฟังแนว metal blue ลูกทุ่งเก่าๆ
ลองเปิด unplug ของ eric clapton แล้วเครื่องดนตรีมันเด้งมากกว่าเดิมเยอะเลย

ของแบบนี้สุดท้ายต้องลองครับ :-) มีเวลาคิด 400-500 ชั่วโมงยาวๆกันไป

ขอบคุณครับ คุุณ .aum. ฟังเพลงแนวเดียวกัน...ไว้จะลองหา O2 มาลองดูบ้าง

ขออนุญาติขุดกระทู้หน่อยครับ

sony a25 จับคู่กับ grado 325e เป็นยังไงบ้างครับ แนว pop rock dance แล้วจะขับไหวรึป่าวครับ

ถ้าฟังแนวนี้ก็ไปกันดีทีเดียวครับ ต่อตรงก็ใช้ได้แล้ว