มาถึงเรื่องตัว headphone ครับ ในเรื่อง build quality ก็ตามแนวทางของ Sennheiser นั่นแหละครับ ทำได้ดีมาก ๆ งานประกอบเนียบสวยงามครับ วัสดุต่าง ๆ ก็ดีมาก ๆ ครับ โดยรวมคือสวยงามและแข็งแรงมากเลยล่ะครับ ก้านด้านข้างเป็นโลหะครับ กระดุมตรงกลางก็เช่นกันครับ ส่วน housing น่าจะเป็นพลาสติกครับ ซึ่งคงเป็นพลาสติกคุณภาพดีครับ

ในส่วนของการออกแบบ . . . ตัวที่ผมถ่ายรูปมานี้เป็นสีงาช้างนะครับ (รุ่นนี้มีให้เลือก 3 สี ครับ ถ้าจำไม่ผิด) ซึ่งถือว่าดูดีมากครับ หากอุปมาเป็นคน Sennheiser Momentum OverEar 2 ตัวนี้ก็คงเป็นสุภาพบุรุษวัยทำงาน ซึ่งเมื่อดูจากรูปนี้แล้ว Sony MDR 1R NC 2 ของผมที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ นั่นก็คงเป็นวัยรุ่น 20 ต้น ๆ ล่ะครับ (จะได้เห็นภาพชัดขึ้น 555555)
ขนาดของหูฟังนั้นผมคิดว่าเป็น full size ที่ขนาดเหมาะแก่การพกพามาก ๆ ครับ เนื่องจากมีขนาดที่ไม่ใหญ่มาก และที่สำคัญคือสามารถพับได้ครับ

มาเกาะขอบครับ ^^
กำลัง burn in อยู่เหมือนกัน

^ ขอบคุณมากครับ 5555

____________________________________________________

// การสวมใส่ //

เรื่องการสวมใส่ทำได้ประทับใจมากเลยครับ เป็นหูฟังที่สวมสบาย แพดนุ่ม กระชับ ครอบใบหูสนิท ใบหูไม่แตะต้องอุปกรณ์ข้างในเลยครับ ซึ่งถือว่าทำได้ดีมาก ๆ แต่เนื่องจากผมใช้ MDR 1R เป็นประจำ เลยรู้สึกว่าแพดยังไม่นุ่มเท่า และสวมใส่ไม่สบายเท่า 1R แต่ก็ถือว่าไม่แตกต่างมากนักครับ ไม่มีอุปสรรคต่อการสวมใส่เลยครับ








// Sound Quality //

จากที่ผมใช้ MX985 ซึ่งแนวเสียงออกมาทาง dark หน่อย ซึ่งทีแรกผมก็คิด(ไปเอง)ว่าเจ้า Momentum 2 ตัวนี้ก็คงออกแนวเดียวกันเพราะไม่เคยฟัง Senn ตัวอื่นเลยนอกจาก 985 แต่ไม่ครับ มาแบบใส ๆ เลย แนวเสียงออก bright พอสมควร แหลมเปิดไปได้ไกล
Deep Bass ยอดเยี่ยมครับ ลงได้ลึกน่าพอใจเลย หากเทียบกับ Sony MDR 1R NC II ที่ผมใช้อยู่นั้น Senn ตัวนี้ให้เบสที่ลึกกว่าพอสมควรเลยครับ อิมแพ็คกระแทกแบบสัมผัสได้ชัดเจนครับ เบสลูกไม่ใหญ่นัก และเบสไม่กวนย่านอื่นครับ ในเรื่อง sound stage ทำได้ดีพอสมควรเลยครับ ค่อนข้างกว้างไม่อึดอัดครับ สัมผัสเหมือนชิ้นดนตรีต่าง ๆ ล่องลอยอยู่รอบ ๆ หัว ได้ฟังทีอย่างกับตัวลอย ตรงนี้ฟินดีมากครับ555555 และการจัดตำแหน่งชิ้นดนตรีแม่นยำดีเลยครับ ส่วนเสียงกลางจะออกหนานิด ๆ ครับผม

ยังไงในเรื่องเสียงผมจะมาเพิ่มเติมอีกทีนะครับ เนื่องจากอยากจะรอให้ burn ครบ ๆ ก่อน เผื่อว่าจะได้พรรณนาได้สวยงามกว่านี้ครับ 5555 ต้องขออภัยที่ทำให้เกิดความไม่ต่อเนื่องของรีวิวไปบ้าง แต่เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมค่อนข้างจะว่างล่ะครับ 55555







(กล่อง M2 เทียบกับ MX985 ครับ)


...เดี๋ยวมาต่อนะครับ

ปูเสื่อรอครับ

ผมเคยมีเจ้า MDR1r เห็นด้วยครับเป็นอะไรที่ใส่แล้วนุ่มจริงๆ เจ้า sen momentum 2 ตัวนี้อยู่ใน wish list ของผมเหมือนกันเพราะดูแล้วจะพกง่าย มีรีวิวดีๆมาพอดี ขอบคุณครับ

ขอบคุณที่ติดตามเช่นกันครับ

ยังไงเดี๋ยวอีกสองสามวันผมจะมา update ข้อมูลต่าง ๆ นะครับ ขออภัยจริง ๆ ครับที่ต้องทำให้รอ

ใครอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเจ้านี่ทิ้งคำถามไว้ได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมขอเวลาไปฟังอีกทีก่อน จะได้ชัวร์ ๆ ครับ (ไม่กล้าเขียนรีวิวโดยที่ไม่ได้ใส่หูฟังพร้อมกับพิมพ์ข้อมูล 555555)

ขอบคุณครับ

แวะมาปาดข้อคิดเห็นนิดๆหน่อยๆครับ
จุดที่น่าสังเกตคือ GEN2 ดูจะกั๊กๆของแถมในกล่อง(แถมแต่สายมีไมค์ ไม่มีตัวแปลง6.3)
กับเรื่องการพกพา ถึงแม้มันจะพับได้ แต่เคสใส่มันไม่มีโครงสร้างแข็ง ทำให้ต้องระมัดระวังโดนกดทับเหมือนกัน
ส่วนเรื่องสายเปลี่ยนที่หายาก เป็นปกติทั้งgen1 gen2 ส่วนตัวผมจับfiio RCHD1 มาตะไบขั้วเปลี่ยนเรียบร้อย
เรื่องเสียง ยังไม่ขอพูดถึงครับ

อ้อ โอเคครับผม เดี๋ยวผมจะสรุปในส่วนข้อเสียอีกทีนะครับ
ผมลืมสังเกตไป ขอสอบถามคุณลูกตาลครับ มันเซื้อสายมาปลี่ยนแบบ 1r ไม่ได้ใช่ไหมครับ

จุดสังเกตอีกอย่างคือโดยส่วนตัวผมว่าสายมันเล็ก ๆ ยังไงไม่รู้ แล้วเป็นสายออกจะแข็ง ๆ ถ้างอแล้วน่าจะคืนรูปยากหน่อยครับ

อ่านเพิ่มเติมเรื่องสายเปลี่ยนได้ที่กระทู้ สายoyaide เปลี่ยนmomentum (ไม่มีล็อคอินแปะลิ้งไม่ได้ครับ)
คือ ไม่มีสายเปลี่ยนที่ทำมาตรงรุ่นน่ะครับ ใกล้เคียงสุดคือสายที่ใช้กับ HD598
แต่ตรงขั้วพลาสติกจะใหญ่ไป ต้องมาขัดแต่งให้เล็กลง
กะเรื่องสายอีกเรื่องคือ มันมีสองแบบ iOS กับAndroidเวอชั่น ปลาย3.5จะต่างกันนิดนึง ถ้าต้องการจะใช้ไมค์กะรีโมทนะครับ ต้องเลือกตั้งแต่ตอนซื้อเลย
แต่ของผมก็มาเปลี่ยนสายใส่ HD-RC1 เอาหน่ะครับ เลยไม่ซีเรียส

ไม่เกี่ยวกับเนื้อหานะครับ ขอโทษที 555 ที่แขวนหูฟังสวยจังเลยครับ ซื้อได้ที่ไหน ราคาเท่าไรครับ

เทียบกับ Momentum ตัวเก่าเป็นยังไงบ้างครับ

@ลูกตาล reus glas ขอบคุณมาก ๆ ครับผมสำหรับข้อมูลครับ

@Think พอดีคุณพ่อผมรู้จักกับช่างเฟอร์นิเจอร์น่ะครับ เลยให้เค้าทำให้ โดยใช้ขาตั้ง Fiio HS1 เป็นต้นแบบครับ เอามาทำให้สูงขึ้น กว้างขึ้น ใหญ่ขึ้นครับ ที่เห็นในรูปได้มาเป็นไม้สักเลยครับ เดี๋ยวถ้ามีโอกาสคราวหลังจะสั่งทำเผื่อมาขายให้นะครับ 55555

@tanatoey ตรงนี้ขออภัยจริง ๆ ครับผม ผมไม่เคยฟังตัวแรกเลยครับ ยังไงรบกวนลองหาเพิ่มเติมในบอร์ดดูนะครับ (หรือท่านใดเคยฟังเทียบ ช่วยมาตอบด้วยนะครับ ขอบคุณครับ)

เคยฟังตัวGEN1แค่ครั้งเดียว แถมไม่ได้ฟังเทียบกัน(ตอนนั้นเดโม่GEN2ยังไม่เข้า)ครับ
เอาภายนอกคือpadใหญ่ขึ้นใส่สบายมากขึ้น ตัวแรกจะแอบรู้สึกคับใบหู
ก้านพับได้แล้ว พกง่ายขึ้น

ในเรื่องเสียงไม่คอมเม้นเพราะไม่ได้เทียบกันจะๆ แต่ฟีลลิ่งที่จำได้คือเหมือนๆกันครับ
แต่ในบอร์ดนอกบอกว่า GEN2 จะไบรท์ขึ้นนิดนึง แต่ไม่ต่างกันอย่างชัดเจน อันนี้ไม่ชัวร์ครับ

ตัวเก่า มือ 1 ร้านเฮียไม่มีแล้วนะครับ

ขอบคุณคุณลูกตาลมาก ๆ ครับ

______________________________________________________________

มาเพิ่มเติมส่วนอื่น ๆ ในเรื่องเสียงนะครับ ในเรื่องเสียงกลางครับ M2 ให้เสียงร้องที่ค่อนข้างหวาน พุ่งมาข้างหน้าเล็กน้อย ลื่นไหล และหนาใช้ได้ครับ ถือว่าลงตัวมาก ๆ ครับ โดยเฉพาะหากฟังเพลงแนว vocal นี่ฟินมาก ๆ เลยล่ะครับ
และขอย้อนกลับมาเรื่องเบส หลังจากเบิร์นไปอีกหน่อย พบว่าเบสลูกโตพอสมควรเลยล่ะครับ (ขออภัยครับที่ด้านบนผิดพลาดไปหน่อย 5555) แต่ก็ไม่กวนย่านอื่นครับ โดยส่วนตัวผมชอบเบสของตัวนี้มาก ๆ ครับ มันเยี่ยมจริง ๆ 5555 ฟังเพลง pop ก็เพราะ R&B ก็ได้อารมณ์ rock ก็ใช้ได้ classic ก็ฟิน dubstep ก็มันส์ครับ ถือว่าเป็นหูฟังที่ฟังสนุก และ overall พอสมควรเลยล่ะครับ








// Noise Isolation //

สำหรับเรื่องการป้องกันเสียงจากภายนอกของ M2 ผมว่าทำได้ดีมากครับ แม้ว่าจะไม่ใช่หูฟังที่มีระบบ Noise Cancelling ก็ตาม เมื่อนำมาฟังในที่สาธารณะที่มีเสียงคนพูดคุยกันดัง ๆ เราก็ยังสามารถฟังเพลงได้ดีครับ เพียงแต่อาจต้องเพิ่ม volume มากกว่าปกตินิดหน่อยครับ แต่คิดว่าหากนำไปฟังบนรถที่เครื่องยนต์เสียงดัง หรือเมื่อไปเผชิญกับเสียงรบกวนลักษณะอื่น ๆ คงจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ครับ

____________________________________________________

// ส่วนเพิ่มเติม //

M2 มาพร้อมกับสายหนึ่งเส้นครับเป็นสายเล็กครับ มีปุ่ม control และ volume แบบ digital ครับ ซึ่งสามารถควบคุม iPod iPhone iPad ได้เลยครับ ซึ่งโดยส่วนตัวนะครับ ผมไม่ค่อยชอบสายลักษณะที่มากับตัวนี้เท่าไหร่เพราะมันงอได้ครับ คือว่ามันคืนรูปไม่ง่ายนักน่ะครับ(ลักษณะสายคล้าย ๆ PK2 แต่แข็งน้อยกว่า) แต่อย่างไรก็ตามมันก็ยังสามารถใช้งานได้โอเคครับ แต่อาจทำให้คนที่ชินกับฟูลไซส์สายใหญ่ ๆ เห็นแล้วรู้สึกไม่แข็งแรงปลอดภัยครับ 555 แต่ก็คงมีดีที่ไม่ทำให้เกะกะและน้ำหนักไม่มากด้วยครับ







// Conclusion //

ข้อดี

- แนวเสียง overall ครับ ฟังได้หลากหลายแนวเพลง ให้เสียงที่ลงตัวมาก ๆ ฟังแล้วประทับใจครับ
- สวนใส่สบาย ครอบมิดทั้งใบหู หูไม่แตะต้องกับชิ้นส่วนภายในของหูฟังเลยครับ ทำได้ดีครับ
- ดีไซน์สวย งานประกอบและการเก็บรายละเอียดทำได้ดีมาก ๆ ครับ แข็งแรงด้วยครับ



ข้อเสีย

- สายเล็กและเมื่อสายมันงอแล้วทำให้ตรงยากไปหน่อยครับ โดยส่วนตัวรู้สึกไม่ถูกใจในส่วนนี้นัก
- การเปลี่ยนสายอาจทำได้ไม่ง่ายนัก (อ้างอิงจาก ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณข้อมูลจากคุณ ลูกตาล reus glass ครับ)
- กระเป๋าหูฟังนั้นไม่มีโครงสร้างที่ให้ความแข็งแรงเท่าใดนัก ซึ่งก็ต้องระวังกันหน่อยครับถ้าเก็บใส่กระเป๋า
- (เป็นปัญหาเล็ก ๆ สำหรับผมครับ บางคนอาจชอบไม่เหมือนกัน) ตรงที่ปรับระดับก้านหูฟังให้ยืดออกนั้นไม่เป็น step และไม่มีตัวเลขหรือขีดอะไรระบุไว้ ซึ่งอาจจะเสียเวลามาปรับใหม่กันสักหน่อยทั้งสองข้างครับหลังจากเอาออกมาจากกระเป๋าหูฟัง(เพราะเมื่อต้องการเก็บเข้ากระเป๋าหูฟัง เราต้องหดก้านให้สั้นที่สุดครับ แต่ถ้าใครวางไว้ที่บ้านก็คงไม่เป็นปัญหาอะไรครับ)






^อันนี้เจ้าของหูฟังครับ 55555

----------------------------------------------------

โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นหูฟังที่น่าโดนตัวนึงเลยล่ะครับ เพราะถ้ามองในเรื่องเสียงแล้วมันเยี่ยมครับ แต่อย่างไรก็ตามก็ควรลองฟังด้วยตัวเองอีกนะครับ เพราะเราอาจชอบไม่เหมือนกันก็เป็นได้

ในการรีวิวครั้งนี้หากมีข้อมูลผิดพลาดประการใดผมต้องขออภัย รวมถึงต้องขออภัยที่การรีวิวขาดช่วงไป 4 วันครับ และหากท่านใดมีข้อมูลดี ๆ แนะนำเพิ่มเติมสามารถคอมเม้นท์ได้เลยนะครับ และท่านใดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับหูฟังตัวนี้ก็คอมเม้นท์ไว้ได้เช่นกันครับ ผมจะพยายามหาคำตอบมาให้ครับ หรือท่านใดทราบคำตอบของคำถามก็ช่วยตอบหน่อยนะครับ 55555
ผมขอจบการรีวิวไว้เพียงเท่านี้ ขอขอบคุณเจ้าของหูฟัง และขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่เข้ามาอ่านกัน รวมถึงขอขอบคุณเว็บมั่นคงมา ณ โอกาสนี้ย์

หลังพ้น ร้อยกว่าชม.ไป ทำไปทำมารู้สึกเบสมันลดความตูมตามลงนะครับ
ดีเทลเสียงแหลมดีขึ้นเยอะ รวมๆแล้วให้เสียงกลางๆไม่ได้มีย่านไหนเด่นเป็นพิเศษมั้งครับ

โอ้ งั้นเหรอครับ งั้นยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ 55555 พอดีว่าไม่ได้ฟังนาน ๆ อย่างไรก็ขออภัยจริง ๆ ครับหากผิดพลาดตรงนี้
เสียงโดยรวมก็กลาง ๆ อย่างที่คุณลูกตาลว่านั่นแหละครับ แต่ฟังแล้วมีความสุขจริง ๆ ครับ 555

555 ไม่มีอะไรผิดจากกันนะครับ
คือช่วงแกะกล่องฟัง เบิรนๆไปซัก50 60 ชม รู้สึกว่าเบสมันลูกโตๆ อิมแพคดีๆ อย่างที่รีวิวไว้ครับ
พอพ้นๆ 100 ชมไป ฟังๆดูเหมือนมันลดอิมแพคลงนิดหน่อย(แต่เบสก็ยังเด่นอยู่ดี) รวมๆคือสมดุลเสียงดีขึ้นนะครับ

เสียงกลางนี่พูดยากอะครับ ฟังเพลงร็อคหลายๆเพลงเหมือนเสียงร้องมันจะถอยนิดนึง
พอไปฟัง vocal พวก taylor เออ มันก็ไม่ถอยนี่นา ออกจะล้ำหน้าด้วยซ้ำ
รวมๆคือ overall ที่เสียงดีละครับ อิอิ

ปูลู จะว่าไปรุ่นนี้คนไม่ค่อยพูดถึงเลยนะครับ เงียบๆ

นั่นสิครับ ไม่ค่อยมีคนพูดถึงกันเท่าไหร่เลย

งามจริงๆ... Sennheiser รุ่นหลังๆนี่รู้สึกทำดีขึ้น ไม่ใช่หุฟังเนิร์ดๆเหมือนตอนพวก HD202 ไรงี้แล้ว 555555

ที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง ส่วนนึงเพราะเฮียยังไม่มีรีวิวออก(ถ้าเป็นคลิปผมไม่ทราบนะ)อีกอย่างคือ ส่วนใหญ่พอเห็นราคาก็ถอยกรูดไปเล่น M50X/Grado แล้วล่ะครับ .___.

แต่ของแบบนี้ผมบอกตรงๆว่ามันแล้วแต่คนจริงๆ

นั่นสิครับ สัปดาห์ก่อนผมได้ MS1 retro มา ฟินมาก เวลาฟังเพลงร้องนี่แทบจะไม่อยากหยิบตัวอื่นมาฟังเลย 5555

หลังจากฟังๆไป หยิบ 225i มาฟังเทียบไปด้วย พอจะจับแนวได้ละครับ
โมเมนตัม เก่งรายละเอียดใกล้ไกล ตื้นลึก เสียงถอยนิดนึง ตามแบบหูclosed ไดนามิกไม่ค่อยเร็วด้วย
น่าจะเหมาะกับเพลงรายละเอียดเยอะๆ ไม่เร็ว ไม่โฉ่งฉ่างครับ พวกเพลงบรรเลง คลาสสิค น่าจะของถนัด

เอาไปฟังร็อคเทียบกับกราโด้ยังไงสู้ไม่ได้แหงๆ
เจ้านั้น เร็ว กระแทกกระทั้นทุกย่าน ดีเทลที่เคยได้ยินจากโมเมนตัมหายหมด ถถถ
คหสต นะครับ

อยากลองสัมผัส grado จริง ๆ เลยครับ ได้ยินชื่อเสียงมานาน ไม่เคยฟังจริง ๆ สักที 555

ทาง หมั่นคงไม่มีทำคลิปรีวิว หรอครับผมเคยถามไปเค้าบอกกำลังทำตั้ง แต่ ต้นปีละ